10 อันดับ ครีมหมักผม ยี่ห้อไหนดี มีเคราติน ฟื้นฟูให้ผมแข็งแรง ไร้สารเคมีอันตราย

COVER-464-Hair-Treatment

นอกจากแชมพูและครีมนวดผมที่เราคุ้นเคยกันแล้ว การใช้ตัวช่วยเสริมอย่างครีมหมักผม ก็มีความสำคัญอย่างมากในการบำรุงและฟื้นฟูเส้นผม เพราะแชมพูมีหน้าที่หลักในการทำความสะอาดสิ่งสกปรก, ความมัน, และสารตกค้างต่าง ๆ ออกจากเส้นผมและหนังศีรษะ ขณะที่ครีมนวดผมทำหน้าที่เติมความชุ่มชื้นและช่วยให้เส้นผมไม่พันกัน แต่การทำความสะอาดและการนวดเพียงอย่างเดียว อาจไม่เพียงพอสำหรับการดูแลเส้นผมอย่างล้ำลึก โดยเฉพาะเมื่อเส้นผมถูกทำร้ายจากความร้อน สารเคมี หรือมลภาวะในชีวิตประจำวัน

ครีมหมัก ผมมีคุณสมบัติที่โดดเด่นในการบำรุงเส้นผมอย่างล้ำลึกและช่วยฟื้นฟูความเสียหายที่เกิดขึ้น ในบทความนี้เราจะมากล่าวถึง 10 อันดับ ครีมหมักผม ยี่ห้อไหนดี มีเคราติน ฟื้นฟูให้ผมแข็งแรง ไร้สารเคมีอันตราย โดยส่วนมากผลิตภัณฑ์นี้ มักจะมีส่วนผสมที่เข้มข้นกว่าเมื่อเทียบกับครีมนวดผม เช่น เคราติน โปรตีน หรือวิตามิน ที่สามารถซึมซับเข้าสู่เส้นผมได้อย่างล้ำลึก เพื่อช่วยซ่อมแซมเส้นผมที่แห้งเสียจากการทำเคมี อย่างไรก็ตาม ในผลิตภัณฑ์ที่มีจำหน่ายทั่วไป มักมีสารเคมีอันตรายแฝงอยู่ เช่น ซิลิโคน พาราเบน และซัลเฟต ซึ่งอาจก่อให้เกิดผลเสียต่อเส้นผมและหนังศีรษะในระยะยาว เราจึงได้เลือกเฟ้นสิ่งที่ดีที่สุดโดยการจัดอันดับและเเบ่งปันความรู้ที่คุณห้ามพลาด ไปดูกันเถอะว่าจะมีแบรนด์ไหนบ้างที่ติดอันดับ


หลักเกณฑ์ที่ใช้ในการจัดอันดับสินค้า

  • มีมอยเจอร์ไรเซอร์เข้มข้นและเคราตินแท้ช่วยฟื้นฟูเส้นผม: ผลิตภัณฑ์ที่ดีควรมีมอยเจอร์ไรเซอร์เข้มข้น ที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้กับเส้นผมแห้งเสีย ช่วยให้ผมกลับมาเงางาม มีน้ำหนัก และเคราตินแท้ที่มีบทบาทในการซ่อมแซมเส้นผมที่ถูกทำร้ายจากสารเคมีหรือความร้อน ทำให้ผมแข็งแรงขึ้น ลดการชี้ฟูและการแตกปลาย
  • เน้นส่วนผสมจากธรรมชาติ: เราให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ เช่น น้ำมันสกัดจากพืชหรือสมุนไพร ที่ช่วยบำรุงเส้นผมโดยไม่ทำร้ายหนังศีรษะ พร้อมทั้งเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับเส้นผม อีกทั้งยังช่วยลดการสะสมของสารเคมีในระยะยาว ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เส้นผมเสียหาย
  • เคราตินแท้จากแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับ: การเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีเคราตินแท้จากแบรนด์ที่มีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับในเรื่องของคุณภาพเป็นสิ่งสำคัญ เพราะเคราตินเป็นโปรตีนที่จำเป็นต่อโครงสร้างของเส้นผม ช่วยเสริมความแข็งแรงและเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับเส้นผม ดังนั้นเราจึงคัดสรรเฉพาะแบรนด์ที่ใช้วัตถุดิบคุณภาพสูงเพื่อความมั่นใจในผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
  • ช่วยล็อกและปกป้องสีผมให้ติดทนนาน: สำหรับผู้ที่ทำสีผม ครีมหมักผมที่มีส่วนผสมช่วยล็อกสีผมให้ติดทนนานเป็นสิ่งจำเป็น ผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะช่วยให้สีผมไม่ซีดจางเร็ว พร้อมทั้งถนอมสีผมให้ดูสดใสและเงางามเป็นเวลานานขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคที่ทำสีผมมองหา
  • มีส่วนผสมที่ช่วยลดการหลุดร่วงของเส้นผม: การลดปัญหาผมขาดหลุดร่วง เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่เราให้ความสำคัญ ผลิตภัณฑ์ที่มีสารบำรุงจากธรรมชาติและสารสกัดที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้รากผม จะช่วยลดการขาดหลุดร่วงของเส้นผม ทำให้ผมดูหนาและแข็งแรงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
  • ปราศจากซิลิโคนและพาราเบน : เรามุ่งเน้นเลือกครีมหมักผมที่ปราศจากสารเคมีที่อาจเป็นอันตรายต่อเส้นผมและหนังศีรษะในระยะยาว เช่น ซิลิโคนและพาราเบน การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีส่วนผสมเหล่านี้จะช่วยลดความเสี่ยงของการระคายเคืองและปัญหาผมแห้งเสียสะสม

1. JOJI Secret Young Charcoal Keratin Treatment Mask

1 JOJI Secret Young Charcoal Keratin Treatment Mask

ฟื้นฟูผมเสียอย่างมีประสิทธิภาพด้วย JOJI Secret Young Charcoal Keratin Treatment Mask ที่ช่วยดูดซับสิ่งสกปรกและเพิ่มความเงางามให้ผมของคุณ

ปริมาณ300 กรัม
ส่วนผสมสำคัญผงชาโคล, เคราติน, สารสกัดจากเมล็ดมะรุม
ระยะเวลาในการหมักผม3-5 นาที
เหมาะสำหรับบำรุงเส้นผมทั่วไป

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

JOJI Secret Young Charcoal Keratin Treatment Mask น้ำหนักสุทธิ 300 กรัม มาพร้อมกับเนื้อครีมที่เป็นเอกลักษณ์ในรูปแบบชาโคล เน้นการบำรุงและฟื้นฟูเส้นผมที่เสียหาย โดยมีส่วนผสมสำคัญจากธรรมชาติ ได้แก่ ผงชาโคล, เคราติน, และสารสกัดจากเม็ดมะรุม ที่ออกแบบมาเพื่อขจัดสิ่งสกปรกและสารเคมีตกค้างจากเส้นผม มีผงชาโคลมีคุณสมบัติในการดูดซับสิ่งสกปรก ทำให้หนังศีรษะสะอาดและลดความมันส่วนเกิน เคราตินช่วยฟื้นฟูผมที่เสียหายจากความร้อนและการใช้สารเคมี พร้อมทั้งลดอาการผมขาดหลุดร่วง ทำให้เส้นผมกลับมาแข็งแรงและเงางาม และสารสกัดจากเม็ดมะรุมจะช่วยบำรุงเส้นผมให้นุ่มลื่น ไม่แห้งกร้าน และเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับเส้นผมและหนังศีรษะ นอกจากนี้ ยังมีมีกลิ่นหอมที่ติดทนนานหลังการใช้ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการดีท็อกซ์เส้นผมจากสารเคมีตกค้างและเพิ่มความเงางามให้กับเส้นผม ด้วยคุณสมบัติที่ช่วยให้ผมมีน้ำหนัก จัดทรงง่าย และลดปัญหาผมขาดหลุดร่วงได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่มีการใช้สารเคมีที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาหนังศีรษะมันหรือเส้นผมที่เสียจากการทำสีหรือการใช้ความร้อน

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

ทรีทเมนต์ผมจากแบรนด์ JOJI Secret Young Charcoal Keratin เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลเส้นผมอย่างครบถ้วน เพราะมีส่วนผสมจากธรรมชาติ เช่น ผงชาโคลที่ช่วยดูดซับสิ่งสกปรกและความมันส่วนเกินจากเส้นผมและหนังศีรษะ พร้อมกับเคราตินที่ฟื้นฟูเส้นผมที่แห้งเสีย ช่วยลดการขาดหลุดร่วง นอกจากนี้ยังมีสารสกัดจากเม็ดมะรุมที่เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับเส้นผม ทำให้เส้นผมนุ่มลื่นและเงางาม อีกทั้งยังมีกลิ่นหอมติดทนนาน ทำให้ผมดูสุขภาพดีและง่ายต่อการจัดทรง อีกทั้งยังไม่มีส่วนผสมของสารเคมีที่อาจทำให้เกิดการระคายเคือง ทำให้เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายและผู้ที่ทำสีผมหรือใช้ความร้อนบ่อย ๆ

2. LOLANE Natura Hair Treatment For Color Care

2 LOLANE Natura Hair Treatment For Color Care

ปกป้องสีผมและฟื้นฟูเส้นผมให้นุ่มสลวยด้วย Lolane Natura Hair Treatment For Color Care ที่ช่วยล็อคสีสวยติดทนนาน ด้วยสารสกัดจากน้ำมันดอกทานตะวัน

ปริมาณ500 กรัม
ส่วนผสมสำคัญSun Flower Extracts, สารสกัดจากไบโอตินพลัส, น้ำผึ้ง, Pro Vitamin B5
ระยะเวลาในการหมักผม15 นาที
เหมาะสำหรับผมทำสี

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

Lolane Natura Hair Treatment For Color Care ขนาด 100, 250, และ 500 กรัม สามารถหาซื้อได้ในตลาดโดยมีหลายขนาดให้เลือกใช้ตามความสะดวก มีจุดเด่นอยู่ที่สารสกัดจากเมล็ดดอกทานตะวัน ซึ่งมีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระ ช่วยปกป้องสีผมจากรังสียูวีและแสงแดดโดยตรง ทำให้สีผมติดทนนาน ไม่ซีดเนื้อครีมมัความเข้มข้นแต่ใช้งานง่าย ไม่เหนียวเหนอะหนะ พร้อมด้วย Pro Vitamin B5 ที่ช่วยปกป้องเส้นผมจากความร้อนและแสงแดดได้ถึง 220 องศาเซลเซียส นอกจากนี้ ยังมีส่วนผสมจากไบโอตินพลัสและน้ำผึ้ง ที่ช่วยบำรุงเส้นผมให้แข็งแรง เงางาม และมีความชุ่มชื้นสูง ทำให้เส้นผมนุ่มลื่น ไม่พันกัน มีกลิ่นหอมอ่อนโยนที่ติดทนนาน และสามารถใช้ได้กับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย เหมาะสำหรับการใช้แทนครีมนวดผมทุกครั้งหลังการสระผม เพื่อบำรุงและฟื้นฟูเส้นผมอย่างต่อเนื่อง

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

Lolane Natura Hair Treatment For Color Care เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ทำสีผมและต้องการดูแลเส้นผมให้มีสีติดทนนานและเงางาม ด้วยส่วนผสมหลักจากสารสกัดเมล็ดดอกทานตะวันที่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ทำให้สามารถปกป้องสีผมจากรังสียูวีและแสงแดดได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังมี Pro Vitamin B5 ที่ช่วยปกป้องผมจากความร้อนและลดการซีดจางของสีผม พร้อมกับส่วนผสมจากไบโอตินพลัสและน้ำผึ้งที่ช่วยบำรุงเส้นผมให้แข็งแรง เงางาม และนุ่มลื่น ไม่พันกัน จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูเส้นผมหลังทำสีและดูแลผมอย่างต่อเนื่อง

3. BSC Hair Care Glossy Hair Treatment Wax

3 BSC Hair Care Glossy Hair Treatment Wax

ฟื้นฟูผมแห้งเสียให้เงางามและนุ่มลื่นอย่างรวดเร็วด้วย BSC Hair Care Glossy Hair Treatment Wax ที่คุณสามารถเห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้

ปริมาณ400 กรัม
ส่วนผสมสำคัญTsubaki Oil, BarleyProtein, Hya-Moist
ระยะเวลาในการหมักผม2 นาที
เหมาะสำหรับบำรุงเส้นผมทั่วไป

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

BSC Hair Care Glossy Hair Treatment Wax น้ำหนักสุทธิ 400 กรัม ทรีทเมนท์สำหรับบำรุงผมแห้งเสียอย่างมาก เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูเส้นผมให้กลับมาชุ่มชื้นและเงางาม โดยสามารถใช้แทนครีมนวดผมได้เลย โดยใช้เวลาในการหมักเพียง 2 นาที มีส่วนผสมหลักจากน้ำมันดอกสึบากิ (Tsubaki Oil) ซึ่งเป็นน้ำมันที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ กรดไขมัน และวิตามินหลายชนิด ช่วยซ่อมแซมเกล็ดผมที่เสียหาย ทำให้ผมเงางามอย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมลดปัญหาผมพันกันและทำให้ผมนุ่มลื่น นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมของ Barley Protein และ Hya-Moist จากอนุพันธ์ Hyaluronic Acid ซึ่งมีคุณสมบัติในการช่วยเติมและกักเก็บความชุ่มชื้นให้กับเส้นผม ทำให้ผมไม่แห้งกร้านและหยาบกระด้าง พร้อมเพิ่มความนุ่มลื่นตั้งแต่การใช้ครั้งแรก เนื้อครีมยังมีกลิ่นหอมและไม่เหนียวเหนอะหนะ สามารถใช้ได้ทุกวันหรือใช้แทนครีมนวดผมประจำ เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น สามารถใช้อบไอน้ำร่วมด้วยได้ แนะนำให้ใช้ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ หรือใช้บ่อยขึ้นตามสภาพผมที่แห้งเสียมาก

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

BSC Hair Care Glossy Hair Treatment Wax เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีปัญหาเส้นผมแห้งเสียอย่างมาก ด้วยส่วนผสมจากน้ำมันดอกสึบากิที่มีสารต้านอนุมูลอิสระและวิตามินหลายชนิด ช่วยฟื้นฟูเส้นผมที่เสียหายให้กลับมาเงางาม ลดปัญหาผมพันกัน และทำให้เส้นผมนุ่มลื่นอย่างเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ยังมี Barley Protein และ Hya-Moist ที่ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้เส้นผมได้ยาวนาน ทำให้ผมไม่แห้งกร้านและสัมผัสได้ถึงความนุ่มลื่นตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ ผลิตภัณฑ์นี้ยังสะดวกในการใช้ เนื่องจากสามารถใช้แทนครีมนวดผมได้และเห็นผลลัพธ์ได้รวดเร็วหลังการหมักเพียง 2 นาที เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการการบำรุงผมอย่างล้ำลึกในเวลาที่จำกัด

สินค้าขนาด 400 กรัม อาจใหญ่เกินไปสำหรับการพกพาหรือใช้งานระยะสั้น

4 XEILTECH-EX Hair Gold Treatment

เร่งผมยาว 9 เท่า ด้วย XEILTECH-EX Hair Gold Treatment พร้อมบำรุงเส้นผมให้เงางามและแข็งแรง ด้วยส่วนผสมสุดพรีเมียมนำเข้าจากสหรัฐอเมริกา

ปริมาณ500 กรัม
ส่วนผสมสำคัญAmino Cell Rebuild
ระยะเวลาในการหมักผม5 นาที
เหมาะสำหรับบำรุงเส้นผมทั่วไป

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

XEILTECH-EX Hair Gold Treatment โดดเด่นในเรื่องการเร่งผมยาว โดยใช้ Amino Cell Rebuild ที่นำเข้าจากสหรัฐอเมริกา ซึ่งสามารถเร่งการยาวของผมได้ถึง 9 เท่า ผลิตภัณฑ์นี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มความยาวของเส้นผมพร้อมกับบำรุงรากผมให้แข็งแรง นอกจากนี้ยังช่วยลดการขาดหลุดร่วงของเส้นผม ทำให้เส้นผมดูหนาขึ้น และแก้ปัญหาผมแตกปลายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตัวเนื้อครีมเข้มข้น แต่ไม่เหนียวเหนอะหนะ ทำให้ล้างออกง่ายและสะดวกในการใช้งาน ใช้เวลาในการหมักผมเพียง 5 นาทีเท่านั้น ผลิตภัณฑ์นี้ยังช่วยให้เส้นผมนุ่มลื่น เงางาม และมีน้ำหนัก โดยให้ผลลัพธ์ที่ดีตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ หนึ่งกระปุกมีปริมาณ 500 กรัม ซึ่งเพียงพอสำหรับการใช้งานหลายครั้ง ราคาไม่แพง เหมาะสำหรับผู้ที่มองหาทรีทเม้นต์ที่ให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็วและช่วยบำรุงเส้นผมอย่างครบถ้วน ทั้งการเร่งผมยาว การบำรุงรากผม และการลดปัญหาผมเสีย

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

XEILTECH-EX Hair Gold Treatment เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเร่งความยาวของเส้นผมอย่างรวดเร็ว ด้วยส่วนผสม Amino Cell Rebuild จากสหรัฐอเมริกา ซึ่งช่วยเร่งผมยาวได้ถึง 9 เท่า นอกจากการเร่งผมยาวแล้ว ผลิตภัณฑ์ยังช่วยบำรุงรากผมให้แข็งแรง ลดการขาดหลุดร่วงของเส้นผม และแก้ปัญหาผมแตกปลายได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื้อครีมเข้มข้นแต่ไม่เหนียว ล้างออกง่าย ใช้เวลาหมักเพียง 5 นาที จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูเส้นผมในเวลาที่รวดเร็ว

5. Carebeau Treatment Keratin

5 Carebeau Treatment Keratin

Carebeau Treatment Keratin มีเคราตินคุณภาพสูงจากขนแกะช่วยฟื้นฟูผมแห้งเสียได้มากกว่า ให้เส้นผมนุ่มลื่น เงางาม และแข็งแรง

ปริมาณ500 กรัม
ส่วนผสมสำคัญKeratin, Vitamin B5, Jojoba Oil
ระยะเวลาในการหมักผม5-10 นาที
เหมาะสำหรับบำรุงเส้นผมทั่วไป

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

Carebeau Treatment Keratin มีส่วนผสมหลักจากเคราตินที่ได้จากขนแกะสหรัฐอเมริกา โดยผ่านกระบวนการ Hydrolyzed Alpha-Keratin Protein ทำให้มีความแข็งแรงและคุณภาพสูง ซึ่งช่วยซ่อมแซมและฟื้นฟูเส้นผมที่แห้งเสียได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ช่วยปกป้องเส้นผมจากสารเคมี และแก้ปัญหาผมแห้งเสีย พร้อมคืนความยืดหยุ่นให้กับเส้นผม ลดการแตกหักและขาดหลุดร่วง นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมของ Vitamin B5 และ Jojoba Oil ที่ช่วยบำรุงให้เส้นผมชุ่มชื้น เงางาม และช่วยบรรเทาอาการหนังศีรษะแห้งและรังแค สินค้าเนื้อครีมเข้มข้น ใช้เวลาในการหมักผมเพียง 5-10 นาที แต่หากใช้ร่วมกับการอบไอน้ำหรือหมวกคลุมผมสามารถทิ้งไว้ 30 นาที เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด เนื้อครีมมีกลิ่นหอมที่ติดทนนานหลังการใช้ ทำให้ผมดูนุ่มลื่นและเงางามตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

แบรนด์ Carebeau Treatment Keratin ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูและบำรุงเส้นผมอย่างล้ำลึก โดยมีส่วนผสมหลักจากเคราตินที่ได้จากขนแกะผ่านกระบวนการ Hydrolyzed Alpha-Keratin Protein ซึ่งช่วยให้เส้นผมแข็งแรงและมีคุณภาพมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมของ Vitamin B5 และ Jojoba Oil ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและบำรุงเส้นผมให้เงางาม ป้องกันการแตกหักและขาดหลุดร่วง พร้อมช่วยซ่อมแซมเส้นผมที่เสียจากการทำเคมี จึงเหมาะกับการใช้งานอย่างต่อเนื่องเพื่อฟื้นฟูเส้นผมให้กลับมาสุขภาพดี

6. Biowoman Detox Treatment Mask

6 Biowoman Detox Treatment Mask

Biowoman Detox Treatment Mask ฟื้นฟูผมเสียจากการทำเคมี พร้อมมอบความชุ่มชื้นและความนุ่มลื่น ด้วยส่วนผสมหลักจากน้ำมันอาร์แกนบริสุทธ์

ปริมาณ250 กรัม
ส่วนผสมสำคัญKeratin, Argan Oil
ระยะเวลาในการหมักผม5-10 นาที
เหมาะสำหรับผมทำสี, ผมดัด, ผมยืด

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

Biowoman Detox Treatment Mask ปริมาณ 250 มล. รังสรรค์สูตรที่เหมาะสำหรับผมที่ผ่านการทำเคมี เช่น ยืด ดัด ทำสี โดยมีจุดเด่นในการดีท็อกซ์สารเคมีตกค้างจากเส้นผม พร้อมฟื้นฟูผมที่เสียจากการใช้สารเคมีอย่างรุนแรง สินค้าไม่มีพาราเบนและซิลิโคน ซึ่งเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่มีความกังวลเกี่ยวกับการใช้สารเคมีเพิ่มเติม มีส่วนผสมหลักประกอบด้วย Argan Oil ที่ช่วยให้เส้นผมเรียบลื่น ดูมีน้ำหนัก และช่วยปกป้องเส้นผมจากความร้อนและแสงแดด นอกจากนี้ยังมี Keratin ที่ช่วยเติมเต็มโปรตีนในเส้นผม ทำให้เส้นผมมีสุขภาพดีและช่วยปกป้องจากแสง UV Bamboo Extract และ Moringa Seed Extract ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงและความยืดหยุ่นของเส้นผม ทำให้เส้นผมที่แห้งเสียกลับมานุ่มลื่นและมีชีวิตชีวา การใช้งานก็แสนง่าย เพียงชโลมและนวดทรีทเมนท์ลงบนเส้นผมที่เปียก ทิ้งไว้ 5-10 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด ผลิตภัณฑ์นี้เหมาะสำหรับการฟื้นฟูผมที่เสียอย่างหนัก ให้กลับมาดูดีและสุขภาพดีอีกครั้ง

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

Biowoman Detox Treatment Mask ชำระล้างสารเคมีที่ตกค้างบนเส้นผมอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยส่วนผสมจาก Argan Oil ช่วยเพิ่มความเงางามและความนุ่มลื่นให้กับเส้นผม พร้อมทั้ง Keratin ที่ช่วยเติมเต็มโปรตีนในเส้นผม ทำให้เส้นผมกลับมามีสุขภาพดีและแข็งแรง นอกจากนี้ยังมี Bamboo Extract และ Moringa Seed Extract ที่ช่วยเสริมความแข็งแรงและความยืดหยุ่นให้กับเส้นผม ฟื้นฟูเส้นผมที่แห้งเสียให้กลับมาดูดีอีกครั้ง

7. CARISTA Goat Milk Premium Keratin Mask

7 CARISTA Goat Milk Premium Keratin Mask

CARISTA Goat Milk Premium Keratin Mask ช่วยฟื้นฟูผมเสียให้กลับมานุ่มลื่น เงางาม ด้วยเคราตินจากนมแพะธรรมชาตินำเข้าจากสวิตเซอร์แลนด์

ปริมาณ500 กรัม
ส่วนผสมสำคัญKeratin, Goat Milk, Argan Oil, Aloe Vera
ระยะเวลาในการหมักผม3-5 นาที
เหมาะสำหรับผมทำสี, ผมดัด, ผมยืด

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

CARISTA Goat Milk Premium Keratin Mask ปริมาณ 500 กรัม คิดค้นมาเพื่อฟื้นฟูเส้นผมที่แห้งเสีย ชี้ฟู โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ทำสีผม ผมดัด หรือยืด ผลิตภัณฑ์นี้ไม่มีส่วนผสมของซิลิโคน ทำให้เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาหนังศีรษะแพ้ง่าย จุดเด่นของผลิตภัณฑ์นี้ คือ เคราตินจากนมแพะนำเข้าจากสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งช่วยบำรุงเส้นผมให้ยาวเร็วขึ้นและช่วยแก้ปัญหาผมเสียอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากเคราตินแล้ว ผลิตภัณฑ์ยังมีส่วนผสมของนมแพะที่อุดมด้วยวิตามินเอ ซึ่งช่วยให้ผมมีน้ำหนัก ไม่ชี้ฟู นอกจากนี้ยังมีว่านหางจระเข้และ Argan Oil ที่ช่วยให้เส้นผมชุ่มชื้น นุ่มลื่น และเงางาม โดยไม่ทำให้หนังศีรษะมัน เนื้อครีมมีความเข้มข้น สามารถใช้เวลาในการหมักผมเพียง 3-5 นาที หลังจากใช้เส้นผมจะนุ่มลื่นและมีกลิ่นหอมติดทนนาน เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการบำรุงเส้นผมอย่างล้ำลึกและต้องการผลิตภัณฑ์ที่คุ้มค่าคุ้มราคา

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

CARISTA Goat Milk Premium Keratin Mask ช่วยบำรุงผมที่ชี้ฟู หรือผมทำสี ดัด และยืด ด้วยส่วนผสมหลักจากเคราตินที่ได้จากนมแพะนำเข้าจากสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งช่วยบำรุงและเร่งการเจริญเติบโตของเส้นผมได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังไม่มีซิลิโคน ทำให้เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย อีกทั้งยังมีสารสกัดจากว่านหางจระเข้และ Argan Oil ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับเส้นผม ทำให้ผมนุ่มลื่น เงางาม โดยไม่ทำให้หนังศีรษะมัน เนื้อครีมเข้มข้น ใช้งานง่าย

8. NIGAO Hair Treatment Guardian

8 NIGAO Hair Treatment Guardian

NIGAO Hair Treatment Guardian ช่วยปกป้องและฟื้นฟูเส้นผมจากการทำเคมี จากผมที่ทำสี, ดัด, ยืด ให้ผมกลับมาแข็งแรงและนุ่มลื่นอีกครั้ง

ปริมาณ500 มล.
ส่วนผสมสำคัญSoybean, Wheat, Corn, Hydroxyethyl Urea
ระยะเวลาในการหมักผม5-10 นาที
เหมาะสำหรับผมทำสี, ผมดัด, ผมยืด

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

NIGAO Hair Treatment Guardian ปริมาณสุทธิ 500 มล. เหมาะสำหรับผู้ที่ทำเคมีผม เช่น ทำสี ดัด หรือยืด โดยเน้นปกป้องและฟื้นฟูเส้นผมที่แห้งเสียจากการใช้สารเคมี ส่วนผสมหลักประกอบด้วย Hydrolyzed Vegetable Protein ซึ่งเป็นโปรตีนที่สกัดจากธัญพืชและถั่ว เช่น ถั่วเหลือง ข้าวสาลี และข้าวโพด ช่วยเพิ่มความแข็งแรงและเงางามให้เส้นผม พร้อมทั้งช่วยให้เส้นผมมีน้ำหนักและนุ่มลื่น นอกจากนี้ ยังมีส่วนผสมของ Hydroxyethyl Urea ซึ่งมีคุณสมบัติในการกักเก็บความชุ่มชื้น ทำให้เส้นผมไม่แห้งกรอบจากการทำเคมี ผลิตภัณฑ์นี้สามารถใช้ได้ทั้งก่อนและหลังการทำเคมี โดยใช้เป็นรองพื้นปกป้องเส้นผมก่อนทำสี ดัด หรือยืด โดยไม่ต้องล้างออก หรือใช้หลังสระผมเพื่อฟื้นฟูเส้นผม โดยหมักทิ้งไว้ 5-10 นาทีแล้วล้างออก

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

ทรีตเมนต์จากแบรนด์ NIGAO Hair Treatment Guardian เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ทำสีผม ดัด หรือยืดผมบ่อย ๆ ซึ่งเส้นผมอาจแห้งเสียจากการทำเคมี ด้วยส่วนผสมจาก Hydrolyzed Vegetable Protein ที่สกัดจากธัญพืช เช่น ถั่วเหลือง ข้าวสาลี และข้าวโพด ช่วยปกป้องเส้นผมจากการถูกทำลาย พร้อมเพิ่มความเงางามและน้ำหนักให้เส้นผม นอกจากนี้ Hydroxyethyl Urea ยังช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น ทำให้เส้นผมไม่แห้งกรอบ และฟื้นฟูผมให้กลับมานุ่มลื่น

9. Dove Serum Treatment Mask Hya + Biotin Strong

9 Dove Serum Treatment Mask Hya + Biotin Strong

Dove Serum Treatment Mask Hya + Biotin Strong ช่วยฟื้นฟูผมขาดหลุดร่วง เติมความชุ่มชื้น ให้ผมแข็งแรงมีสุขภาพดีตั้งแต่รากผมจรดปลาย

ปริมาณ220 มล.
ส่วนผสมสำคัญBiotin, Hyaluron
ระยะเวลาในการหมักผม3-5 นาที
เหมาะสำหรับบำรุงเส้นผมทั่วไป

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

Dove Serum Treatment Mask Hya + Biotin Strong ทรีทเม้นท์มาส์กที่เน้นการฟื้นฟูเส้นผมจากการขาดหลุดร่วง พร้อมบำรุงเส้นผมให้แข็งแรงจากรากจรดปลาย ด้วยส่วนผสมหลักอย่างไบโอตินและไฮยาลูรอน ซึ่งช่วยให้เส้นผมมีความชุ่มชื้นและดูสุขภาพดี นอกจากนี้ยังมีวิตามินบูสเตอร์ที่ช่วยเสริมการบำรุงให้ล้ำลึกยิ่งขึ้น เนื้อครีมของผลิตภัณฑ์เป็นเนื้อเซรั่มที่ล้างออกง่าย ทำให้สามารถใช้งานได้สะดวก และเหมาะสำหรับการใช้เป็นประจำเพื่อป้องกันผมขาดหลุดร่วง ด้วยเทคโนโลยีไบโอตินสตรองที่ผสานอยู่ในผลิตภัณฑ์นี้ ช่วยให้เส้นผมแข็งแรงมากขึ้นถึง 10 เท่า เมื่อเทียบกับการใช้แชมพูที่ไม่มีสารคอนดิชันเนอร์ ทำให้เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผมอ่อนแอและขาดหลุดร่วงง่าย ใช้เวลาในการหมักเพียง 3-5 นาที และควรใช้หลังสระผมทุกครั้งเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด หลังใช้เส้นผมจะรู้สึกนุ่มลื่น มีน้ำหนัก และมีกลิ่นหอมของดอกไม้ติดทนนาน

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

Dove Serum Treatment Mask Hya + Biotin Strong เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูเส้นผมจากการขาดหลุดร่วงและบำรุงให้เส้นผมแข็งแรง ด้วยส่วนผสมหลักอย่างไบโอตินที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับเส้นผม พร้อมด้วยไฮยาลูรอนที่ช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้น ทำให้ผมดูสุขภาพดีและมีน้ำหนัก เนื้อครีมเป็นเนื้อเซรั่มที่ล้างออกง่าย ทำให้การใช้งานสะดวกและรวดเร็ว เพียงหมักทิ้งไว้ 3-5 นาทีหลังสระผม นอกจากนี้ยังมีกลิ่นหอมของดอกไม้ติดทนนาน ช่วยเพิ่มความมั่นใจในทุกวัน

10. DCASH Defender Steaming Hair Treatment

10 DCASH Defender Steaming Hair Treatment

DCASH Defender Steaming Hair Treatment ฟื้นฟูผมเสียจากการทำเคมี พร้อมเร่งสีผมให้เด่นชัดและติดทนนาน

ปริมาณ500 มล.
ส่วนผสมสำคัญKeratin, Ceramide
ระยะเวลาในการหมักผม5-10 นาที
เหมาะสำหรับผมทำสี

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

DCASH Defender Steaming Hair Treatment สูตรเข้มข้นขนาด 500 มล. ที่ออกแบบมาเพื่อฟื้นฟูเส้นผมที่แห้งเสีย โดยเฉพาะผู้ที่ผ่านการทำสีผม ผลิตภัณฑ์นี้ผสมเคราติน วิตามิน และเซราไมด์ ซึ่งช่วยฟื้นฟูโครงสร้างเส้นผมที่เสียหายจากการทำเคมีให้กลับมาแข็งแรง เติมเต็มความชุ่มชื้นให้กับเส้นผมที่แห้งเสีย ทำให้ผมดูนุ่มลื่นและเงางามอย่างเป็นธรรมชาติ หนึ่งในจุดเด่นของสินค้า คือ ความสามารถในการช่วยเร่งมิติสีผมในทุกเฉดสีให้เด่นชัดและติดทนนานยิ่งขึ้น ผลิตภัณฑ์นี้เหมาะสำหรับผู้ที่ทำสีผมและต้องการการบำรุงอย่างล้ำลึก พร้อมทั้งการดูแลสีผมให้คงอยู่ยาวนาน ใช้งานง่ายเพียงชโลมบนเส้นผมที่เปียก นวดและหมักทิ้งไว้ 5-10 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด ควรใช้ต่อเนื่องเป็นประจำเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

  • ฟื้นฟูโครงสร้างเส้นผมที่เสียจากการทำเคมีให้กลับมาแข็งแรง
  • ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ทำให้ผมนุ่มลื่นและเงางาม
  • มีเซราไมด์และวิตามินที่ช่วยบำรุงผมอย่างล้ำลึก
  • เร่งสีผมให้เด่นชัดและติดทนนาน เหมาะสำหรับผู้ที่ทำสีผม
  • ขนาด 500 มล. คุ้มค่าต่อการใช้งานระยะยาว

เคราตินคืออะไร และทำไมเคราตินจึงสำคัญต่อการบำรุงเส้นผม

464-เคราตินคืออะไร-01

เคราติน (Keratin) คือ โปรตีนธรรมชาติที่เป็นส่วนประกอบหลักของเส้นผม ผิวหนัง และเล็บ โดยในเส้นผมของมนุษย์ เคราตินเป็นโครงสร้างหลักที่ช่วยให้เส้นผมมีความแข็งแรง ยืดหยุ่น และทนต่อความเสียหายจากปัจจัยภายนอก ไม่ว่าจะเป็นมลภาวะ ความร้อน หรือการทำเคมี เช่น การทำสีผม ดัด หรือยืดผม ซึ่งการดูแลเส้นผมด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีเคราตินจึงเป็นการเสริมสร้างโครงสร้างพื้นฐานของเส้นผมให้แข็งแรงขึ้น เคราตินยังช่วยเติมเต็มโปรตีนที่หายไปจากเส้นผมที่ผ่านการทำเคมีหรือใช้ความร้อนบ่อย ๆ ทำให้ผมดูนุ่มลื่นขึ้นและเงางามอย่างเป็นธรรมชาติ

ในเส้นผมที่เสียหาย เคราตินจะถูกทำลายหรือลดลง ส่งผลให้เส้นผมสูญเสียความแข็งแรงและยืดหยุ่น การเติมเคราตินจากภายนอกผ่านครีมหมักผมหรือผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมชนิดต่าง ๆ จะช่วยคืนโปรตีนที่หายไป และปรับสมดุลให้เส้นผมกลับมาดูสุขภาพดีมากขึ้น โดยเฉพาะในผลิตภัณฑ์ที่มีเคราตินสกัดบริสุทธิ์ หรือเคราตินที่มีการไฮโดรไลซ์ (Hydrolyzed Keratin) ซึ่งมีโมเลกุลขนาดเล็ก ทำให้สามารถซึมเข้าสู่เส้นผมได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีเคราตินเป็นประจำจะช่วยให้เส้นผมแข็งแรงขึ้นถึง 30-40% เมื่อเทียบกับเส้นผมที่ไม่ได้รับการบำรุงอย่างสม่ำเสมอ

สารอาหารผมนี้ช่วยซ่อมแซมเส้นผมได้อย่างไร

เส้นผมที่ผ่านการทำเคมี เช่น การทำสีผม ดัด หรือยืด จะมีโครงสร้างเคราตินที่เสียหาย ทำให้เส้นผมขาดความแข็งแรงและเปราะบาง เคราตินจึงมีบทบาทสำคัญในการซ่อมแซมเส้นผมที่ถูกทำลายนี้ โดยการเติมเต็มช่องว่างที่เกิดจากการสูญเสียโปรตีนภายในเส้นผม ทำให้ผมกลับมาเรียบลื่นและมีความยืดหยุ่นมากขึ้น

ในการบำรุงสุขภาพเส้นผม เคราตินจะทำงานโดยเข้าไปเสริมสร้างส่วนที่เสียหายของเส้นผม ไม่ว่าจะเป็นส่วนที่แตกปลาย ชี้ฟู หรือแห้งกรอบจากการใช้ความร้อนสูง ผลการวิจัยพบว่า เส้นผมที่ได้รับการบำรุงด้วยเคราตินอย่างสม่ำเสมอสามารถฟื้นฟูความเสียหายได้ถึง 50-70% โดยเฉพาะในกรณีของเส้นผมที่ผ่านการทำเคมี เคราตินช่วยปรับสมดุลความชุ่มชื้น ลดการขาดหลุดร่วง และป้องกันเส้นผมจากการสูญเสียความชุ่มชื้นอีกครั้ง ทำให้เส้นผมมีความยืดหยุ่นและดูมีน้ำหนักมากขึ้น สำหรับผู้ที่ใช้เครื่องหนีบผม ไดร์เป่าผม หรืออุปกรณ์จัดแต่งทรงผมที่ใช้ความร้อนเป็นประจำ การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีเคราตินจะช่วยสร้างเกราะป้องกันความร้อนบนเส้นผม ลดการแตกปลายและการแห้งเสียได้อย่างมีประสิทธิภาพ


สารเคมีอันตรายในผลิตภัณฑ์บำรุงผมที่ควรหลีกเลี่ยง

464-สารเคมีอันตรายที่ควรหลีกเลี่ยง-02
  • ซิลิโคน (Silicone) : สารที่มักพบในครีมนวดผมและผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผม เพื่อให้เส้นผมนุ่มลื่นและเงางามชั่วคราว อย่างไรก็ตาม ซิลิโคนจะเคลือบเส้นผมเป็นชั้นบาง ๆ ทำให้ผมดูมีน้ำหนัก แต่ในระยะยาวจะก่อให้เกิดการสะสม ส่งผลให้เส้นผมขาดความชุ่มชื้นที่แท้จริง และหนังศีรษะอาจระคายเคืองได้ ซิลิโคนบางประเภท เช่น Dimethicone หรือ Cyclomethicone ยังอาจทำให้ผมดูแบนและไม่มีชีวิตชีวา การใช้ซิลิโคนในระยะยาวสามารถทำให้เส้นผมแห้งกรอบและขาดหลุดร่วงง่าย
  • พาราเบน (Parabens) : เป็นสารกันเสียที่มักพบในผลิตภัณฑ์บำรุงผม เช่น แชมพูและครีมนวดผม สารนี้มีบทบาทในการยืดอายุการใช้งานของผลิตภัณฑ์ แต่พาราเบนมีผลกระทบต่อระบบฮอร์โมนในร่างกาย โดยเฉพาะในผู้หญิง มีการศึกษาพบว่า พาราเบนอาจเลียนแบบการทำงานของฮอร์โมนเอสโตรเจน และอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งเต้านม นอกจากนี้ยังอาจทำให้ผิวหนังเกิดอาการระคายเคือง สำหรับคนที่มีผิวบอบบางหรือแพ้ง่าย การหลีกเลี่ยงพาราเบนจึงเป็นเรื่องสำคัญ
  • ซัลเฟต (Sulfates) : สารลดแรงตึงผิวที่ช่วยทำให้แชมพูเกิดฟอง ช่วยขจัดน้ำมันและสิ่งสกปรกจากเส้นผม อย่างไรก็ตาม ซัลเฟต เช่น Sodium Lauryl Sulfate (SLS) และ Sodium Laureth Sulfate (SLES) สามารถทำให้ผมแห้งเสียได้ เนื่องจากซัลเฟตจะดึงเอาความชุ่มชื้นออกจากเส้นผมและหนังศีรษะ ทำให้ผมชี้ฟูและแตกปลาย นอกจากนี้ ซัลเฟตยังอาจทำให้หนังศีรษะระคายเคืองได้ โดยเฉพาะในคนที่มีผิวบอบบางหรือแพ้ง่าย

วิธีสังเกตส่วนผสมเหล่านี้ในผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม

  • อ่านฉลากผลิตภัณฑ์ : สิ่งสำคัญในการหลีกเลี่ยงสารเคมีอันตรายในผลิตภัณฑ์บำรุงผมคือการอ่านฉลากอย่างละเอียด โดยเฉพาะชื่อของสารประกอบ เช่น:
    • ซิลิโคน: มักมีชื่อที่ลงท้ายด้วย “-cone” หรือ “-siloxane” เช่น Dimethicone, Cyclopentasiloxane
    • พาราเบน: ชื่อที่ลงท้ายด้วย “-paraben” เช่น Methylparaben, Propylparaben
    • ซัลเฟต: มักลงท้ายด้วย “-sulfate” เช่น Sodium Lauryl Sulfate (SLS), Ammonium Laureth Sulfate (ALS)
  • เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีฉลาก “ปราศจาก” : ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์หลายชนิดที่ระบุบนฉลากว่า “ปราศจากซิลิโคน” “ปราศจากพาราเบน” และ “ปราศจากซัลเฟต” การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีการรับรองนี้จะช่วยให้คุณมั่นใจว่าผลิตภัณฑ์นั้นปลอดภัยและไม่ก่อให้เกิดผลเสียในระยะยาว
  • ใช้แอปพลิเคชันตรวจสอบส่วนผสม : ในยุคดิจิทัล แอปพลิเคชันที่สามารถสแกนบาร์โค้ดหรือตรวจสอบส่วนผสมของผลิตภัณฑ์เสริมความงามมีมากมาย ซึ่งจะช่วยคุณในการหลีกเลี่ยงสารเคมีอันตรายได้ง่ายขึ้น

เคล็ดลับการเลือกให้เหมาะกับสภาพผม

464-เคล็ดลับการเลือกให้เหมาะกับสภาพผม-03

การเลือกผลิตภัณฑ์ให้เหมาะกับสภาพผมของตนเอง เป็นสิ่งสำคัญในการดูแลและบำรุงเส้นผมอย่างมีประสิทธิภาพ เพราะแต่ละสภาพผมต้องการการดูแลที่แตกต่างกัน เรามีเคล็ดลับในการเลือกครีมหมักผมให้ตรงกับความต้องการของเส้นผมแต่ละประเภท ดังนี้:

  • ผมแห้งและผมแตกปลาย : สำหรับผู้ที่มีผมแห้งเสียหรือแตกปลาย ควรเลือกครีมหมักผมที่มีส่วนผสมจากน้ำมันธรรมชาติ เช่น น้ำมันอาร์แกน (Argan Oil) น้ำมันมะพร้าว หรือโจโจ้บาออยล์ (Jojoba Oil) สารสกัดเหล่านี้มีคุณสมบัติให้ความชุ่มชื้นและช่วยกักเก็บน้ำในเส้นผม ทำให้ผมกลับมานุ่มลื่นและดูมีน้ำหนัก นอกจากนี้ การเลือกครีมหมักที่มีส่วนผสมของเคราตินจะช่วยซ่อมแซมเส้นผมที่แห้งเสีย และเพิ่มความแข็งแรงให้กับเส้นผมอย่างมีประสิทธิภาพ
  • ผมมันและผมที่มีปัญหารังแค : สำหรับคนที่มีผมมันหรือมีปัญหารังแค ควรเลือกครีมหมักผมที่มีเนื้อบางเบา และเน้นส่วนผสมที่มีคุณสมบัติช่วยควบคุมความมัน เช่น ชาเขียว สารสกัดจากต้นไผ่ (Bamboo Extract) หรือสารสกัดจากดอกคาโมมายล์ (Chamomile Extract) ซึ่งจะช่วยทำความสะอาดเส้นผมและหนังศีรษะ ควบคุมความมันส่วนเกินและลดอาการระคายเคืองของหนังศีรษะ นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงครีมหมักผมที่มีส่วนผสมของซิลิโคนเพราะอาจทำให้ผมมันมากขึ้น
  • ผมทำสีและผมที่ผ่านการทำเคมี : ผมที่ผ่านการทำสีหรือการทำเคมี เช่น การดัดหรือยืดผม ต้องการการบำรุงเป็นพิเศษ ควรเลือกครีมหมักผมที่มีส่วนผสมของเคราตินและวิตามินอี ซึ่งจะช่วยฟื้นฟูโครงสร้างเส้นผมที่เสียหายและช่วยให้สีผมติดทนนาน นอกจากนี้ ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีสารช่วยปกป้องเส้นผมจากรังสียูวีและมลภาวะ เช่น วิตามินซี และสารสกัดจากเมล็ดทานตะวัน ซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้สีผมซีดจาง
  • ผมเสียจากความร้อน : สำหรับผู้ที่ใช้ความร้อนในการจัดแต่งทรงผมเป็นประจำ เช่น การใช้ไดร์เป่าผมหรือเครื่องหนีบผม ควรเลือกครีมหมักผมที่มีส่วนผสมของโปรตีนไหมหรือเคราติน เพราะจะช่วยซ่อมแซมเส้นผมที่ถูกทำลายจากความร้อน นอกจากนี้ การเลือกครีมหมักที่มีสารป้องกันความร้อน (Heat Protection) จะช่วยลดความเสียหายจากการจัดแต่งทรงผมด้วยความร้อนได้อย่างดี

ความแตกต่างระหว่างน้ำยายืดผมและน้ำยากัดสีผม

ทั้งสองสิ่งนี้เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้เปลี่ยนแปลงสภาพเส้นผม แต่มีการทำงานและผลลัพธ์ที่แตกต่างกันอย่างมาก โดยน้ำยายืดผมมีสารเคมีหลักอย่างไฮดรอกไซด์ที่ช่วยปรับโครงสร้างโปรตีนในเส้นผมให้เรียบตรงและจัดทรงง่าย ในขณะที่น้ำยากัดสีผมจะใช้ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ในการทำลายเม็ดสี ทำให้ผมสีอ่อนลงหรือฟอกสีจนขาว ผลิตภัณฑ์ทั้งสองนี้มีความรุนแรงต่อเส้นผม โดย 10 ยี่ห้อน้ำยายืดผม ที่มีคุณภาพอาจทำให้ผมสูญเสียความยืดหยุ่นและแห้งง่าย ในขณะที่น้ำยากัดสีผมที่ดีที่สุดทำให้ผมสูญเสียความชุ่มชื้นและเปราะบางมากขึ้น การดูแลหลังทำเคมีจึงสำคัญ โดยควรใช้ครีมหมักผมที่ให้ความชุ่มชื้นและฟื้นฟูเส้นผม เช่น ครีมที่มีส่วนผสมของน้ำมันธรรมชาติอย่างน้ำมันอาร์แกนหรือน้ำมันมะพร้าว ซึ่งจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและบำรุงเส้นผมที่แห้งเสียจากสารเคมี ควรหมักผมอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1-2 ครั้งและปล่อยไว้ 15-20 นาที เพื่อให้ผมได้รับการฟื้นฟูอย่างเพียงพอ

เมื่อคุณได้เลือกครีมหมักผมที่มีส่วนผสมของเคราตินและปราศจากสารเคมีอันตราย ก็ถือได้ว่าเป็นก้าวสำคัญในการใส่ใจสุขภาพเส้นผมให้แข็งแรง เพราะเราทราบแล้วว่าเคราติน เป็นสารอาหารผมที่ช่วยฟื้นฟูและเสริมสร้างโครงสร้างเส้นผม และการหลีกเลี่ยงสารเคมีอันตราย เช่น ซิลิโคน พาราเบน และซัลเฟต จะช่วยลดโอกาสในการสะสมของสารที่อาจทำให้เส้นผมและหนังศีรษะเกิดปัญหาตามมาในอนาคต ด้วยการเลือกใช้สินค้าที่มีคุณภาพดีและเหมาะกับเส้นผมของตนเอง ไม่เพียงช่วยให้เส้นผมนุ่มลื่น เงางาม และจัดทรงง่าย แต่ยังส่งเสริมสุขภาพของเส้นผมในระยะยาว การเลือกใช้ครีมหมักผมที่เหมาะสม จึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในการสร้างเส้นผมที่แข็งแรงและเงางามไปได้อีกยาวนาน

คำถามที่พบบ่อย

  1. เราต้องใช้ครีมหมักผมบ่อยแค่ไหนถึงจะเห็นผลลัพธ์ที่ดี?

    คุณควรใช้อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1-2 ครั้งเพื่อให้เส้นผมได้รับการบำรุงและฟื้นฟูจากการทำเคมีหรือความแห้งเสีย การใช้อย่างต่อเนื่องจะช่วยให้ผมดูมีสุขภาพดีขึ้นและนุ่มลื่นกว่าเดิม

  2. การยืดผมกับการกัดสีผมมีผลเสียต่อเส้นผมอย่างไร?

    การยืดผมทำให้เส้นผมสูญเสียความยืดหยุ่นและแห้งง่าย ส่วนการกัดสีผมทำให้ผมสูญเสียความชุ่มชื้นและเปราะบางมากขึ้น ดังนั้นควรมีการดูแลเส้นผมอย่างถูกต้องด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุง เช่น ครีมหมักผมที่มีส่วนผสมของน้ำมันธรรมชาติ

  3. หลังการกัดสีผม ควรใช้ครีมหมักผมแบบไหนเพื่อฟื้นฟูเส้นผม?

    ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำมันธรรมชาติ เช่น น้ำมันอาร์แกน หรือน้ำมันมะพร้าว เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นและฟื้นฟูเส้นผมที่แห้งเสียจากสารเคมี

  4. การใช้ครีมหมักผมสามารถช่วยลดผมแตกปลายได้หรือไม่?

    การใช้ครีมหมักผมที่ให้ความชุ่มชื้นสูงสามารถช่วยลดปัญหาผมแตกปลายได้ เนื่องจากการบำรุงเส้นผมให้ชุ่มชื้นและแข็งแรงจะช่วยลดการเปราะหักของเส้นผม

Scroll to Top