ครีมกันแดดเป็นผลิตภัณฑ์สำคัญที่ช่วยปกป้องผิวจากรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ผิวถูกทำร้าย เช่น ผิวหมองคล้ำ เกิดฝ้า กระ จุดด่างดำ รวมถึงเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งผิวหนัง การใช้ครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอไม่เพียงแค่ช่วยป้องกันความเสียหายจากแสงแดด แต่ยังช่วยรักษาสุขภาพผิวในระยะยาว ทำให้ผิวยังคงความสดใสและดูอ่อนเยาว์ การเลือกครีมกันแดดเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการดูแลผิวในชีวิตประจำวัน บทความนี้จะแนะนำ 10 แบรนด์ครีมกันแดดที่ได้รับความนิยม โดยทุกแบรนด์จะถูกคัดเลือกจากเกณฑ์สำคัญ เช่น ประสิทธิภาพการป้องกันรังสียูวี ความเหมาะสมกับทุกสภาพผิว และความรู้สึกสบายเมื่อใช้
นอกจากการแนะนำแบรนด์แล้ว ยังมีเนื้อหาสำคัญเกี่ยวกับความสำคัญของการใช้ครีมกันแดดในชีวิตประจำวัน ประเภทของครีมกันแดดที่แตกต่างกันและวิธีการเลือกใช้ให้เหมาะสมกับสภาพผิวและกิจกรรม รวมถึงเคล็ดลับการทาครีมกันแดดอย่างถูกวิธี เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ช่วยในการรักษาผิวให้ดูดีและมีสุขภาพดี
หลักเกณฑ์ที่ใช้ในการจัดอันดับสินค้า
ในการเลือกและจัดอันดับแบรนด์ครีมกันแดดที่ดีที่สุด เราได้พิจารณาจากหลายปัจจัยสำคัญเพื่อให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ครบถ้วนและเป็นประโยชน์ต่อการเลือกซื้อ เราได้คัดเลือกแบรนด์ตามเกณฑ์ดังต่อไปนี้
- ประสิทธิภาพในการป้องกันรังสียูวี : เราเน้นที่ความสามารถของครีมกันแดดในการป้องกันรังสียูวีทั้ง UVA และ UVB โดยคำนึงถึงค่า SPF และ PA ของผลิตภัณฑ์ เราพิจารณาเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีค่า SPF ตั้งแต่ 30 ขึ้นไป และต้องป้องกันได้ทั้งรังสี UVA และ UVB อย่างมีประสิทธิภาพ
- ความเหมาะสมกับสภาพผิว : เราให้ความสำคัญกับการเลือกครีมกันแดดที่เหมาะกับทุกสภาพผิว ไม่ว่าจะเป็นผิวมัน ผิวแห้ง ผิวผสม หรือผิวแพ้ง่าย โดยเราจะพิจารณาว่าสูตรนั้นไม่มีส่วนผสมที่ทำให้เกิดการระคายเคือง
- ความรู้สึกเมื่อใช้ : ครีมกันแดดที่ดีต้องไม่เหนียวเหนอะหนะ และให้ความรู้สึกสบายเมื่อใช้ เราให้คะแนนผลิตภัณฑ์ที่ซึมซาบเร็ว ไม่ทำให้ผิวมัน หรือเป็นคราบระหว่างวัน
- ความทนทานต่อเหงื่อและน้ำ: ผลิตภัณฑ์ที่สามารถทนทานต่อเหงื่อและน้ำได้ดีจะมีประโยชน์สำหรับผู้ที่มีกิจกรรมกลางแจ้งหรือต้องการการปกป้องที่ต่อเนื่องตลอดวัน
- ส่วนผสมที่ปลอดภัย: เราคัดเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่ปลอดภัย ปราศจากสารที่อาจเป็นอันตราย เช่น พาราเบน น้ำหอม และสารเคมีที่ทำให้ผิวระคายเคือง
- ราคาและความคุ้มค่า: สุดท้าย เราประเมินจากราคาและความคุ้มค่าของผลิตภัณฑ์ โดยเปรียบเทียบกับปริมาณและคุณภาพ เพื่อให้ผู้อ่านสามารถเลือกซื้อได้ตามงบประมาณของตนเอง
1. La Roche-Posay Anthelios UVMune 400 Invisible Fluid
La Roche-Posay Anthelios UVMune 400 Invisible Fluid ครีมกันแดดเนื้อน้ำบางเบา ปราศจากน้ำหอม เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผิวบอบบางแพ้ง่าย มีค่า SPF50+/PA++++ และเทคโนโลยี Mexoryl 400 ที่ปกป้องผิวจากรังสี UVA/UVB อินฟราเรด ฝุ่นละออง และมลภาวะ
ปริมาณ | 50 มล. |
---|---|
ค่าSPF/PA | SPF50+/ PA++++ |
เหมาะสำหรับ | ทุกสภาพผิว ผิวบอบบางแพ้ง่าย |
ข้อดี
- การปกป้องสูง : มีค่า SPF50+/PA++++ ปกป้องผิวจากรังสี UVA/UVB ได้อย่างดี
- เทคโนโลยี Mexoryl 400 : ช่วยป้องกันรังสี Ultra-Long UVA ที่ทำร้ายผิวได้ลึก
- เหมาะสำหรับผิวบอบบาง : ไม่มีน้ำหอมและไม่อุดตันรูขุมขน
- กันน้ำและเหงื่อ : เหมาะสำหรับกิจกรรมกลางแจ้ง
- เนื้อบางเบา : ไม่เหนียวเหนอะหนะ ทาได้ง่าย
ข้อควรพิจารณา
- ราคาอาจสูง : ผลิตภัณฑ์มีราคาสูงกว่าครีมกันแดดทั่วไป
- ใช้งานได้ไม่นาน : บรรจุภัณฑ์อาจมีปริมาณน้อยเมื่อเทียบกับราคา
La Roche-Posay Anthelios UVMune 400 Invisible Fluid ครีมกันแดดที่ได้รับการแนะนำจากแพทย์ผิวหนังทั่วโลก ด้วยสูตรเนื้อน้ำที่บางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ สามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผิวบอบบางและแพ้ง่าย ผลิตภัณฑ์นี้มาพร้อมเทคโนโลยี Mexoryl 400 ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดของ La Roche-Posay ที่สามารถปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ครีมกันแดดตัวนี้มีค่า SPF50+ และ PA++++ ซึ่งสามารถปกป้องผิวจากรังสี Ultra-Long UVA ที่มีช่วงความยาวคลื่น 380-400 นาโนเมตร ซึ่งเป็นรังสีที่อันตรายและทำร้ายผิวหนังได้ลึก นอกจากนี้ยังช่วยปกป้องผิวจากรังสีอินฟราเรด ฝุ่นละออง และมลภาวะ
ผลิตภัณฑ์นี้สามารถกันน้ำและกันเหงื่อได้ดี ทาได้ง่ายและไม่ทำให้เกิดคราบ สามารถใช้ทาบริเวณรอบดวงตาได้โดยไม่ทำให้เกิดการอุดตันรูขุมขน นอกจากนี้ยังปราศจากน้ำหอม ซึ่งเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย ได้รับการทดสอบทางคลินิกภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง ซึ่งพิสูจน์แล้วว่าปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการปกป้องผิวจากรังสี UV และปัจจัยที่เป็นอันตรายอื่น ๆ
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?
La Roche-Posay Anthelios UVMune 400 Invisible Fluid เป็นตัวเลือกที่ดีเนื่องจากมีเทคโนโลยี Mexoryl 400 ที่ช่วยปกป้องผิวจากรังสี UVA/UVB อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะรังสี Ultra-Long UVA ที่สามารถทำร้ายผิวได้ลึก ผลิตภัณฑ์นี้ยังมีค่า SPF50+/PA++++ ที่ให้การปกป้องสูงสุด เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว รวมถึงผิวบอบบางแพ้ง่าย นอกจากนี้ยังปราศจากน้ำหอม ไม่อุดตันรูขุมขน และสามารถกันน้ำและเหงื่อได้ดี จึงเหมาะสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน
2. Yves Rocher Elixir Botanique UV Shield
Yves Rocher Elixir Botanique UV Shield ครีมกันแดดเนื้อบางเบาที่มีค่า SPF50+ UVA PA++++ อุดมด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดและมลภาวะ พร้อมเสริมความแข็งแรงของปราการผิว
ปริมาณ | 30 มล. |
---|---|
ค่าSPF/PA | SPF50+/ PA++++ |
เหมาะสำหรับ | ทุกสภาพผิว ผิวบอบบางแพ้ง่าย |
ข้อดี
- ส่วนผสมจากธรรมชาติ : อุดมด้วยสารสกัดจาก Eart&Ocean Complex และแพลงตอน ช่วยบำรุงผิวและเสริมออกซิเจนให้ผิว
- เสริมปราการผิว : ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้ผิวถึง 5 เท่า ทำให้ผิวทนทานต่อมลภาวะและรังสี UV
- เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม : ผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ที่เน้นความปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม
- เนื้อครีมโกลว์ : เนื้อครีมสีขาวให้ผิวดูโกลว์เมื่อทา
ข้อควรพิจารณา
- ราคาสูง : บรรจุภัณฑ์มีเพียง 30 มิลลิลิตร และราคาค่อนข้างสูง
- ผลิตภัณฑ์อาจไม่เหมาะกับผิวมัน : เนื้อครีมที่ให้ผิวดูโกลว์อาจทำให้ผิวมันดูเงาเกินไป
Yves Rocher Elixir Botanique UV Shield ครีมกันแดดที่มาจากแบรนด์ Yves Rocher จากประเทศฝรั่งเศส มีจุดเด่นที่ใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ครีมกันแดดนี้มีค่า SPF50+ UVA PA++++ ซึ่งช่วยปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื้อครีมบางเบาและเป็นสีขาว ช่วยให้ผิวดูโกลว์เมื่อทา
นอกจากนี้ ครีมกันแดดยังอุดมด้วยสารสกัดจาก Eart&Ocean Complex ซึ่งประกอบด้วย แนสเทอร์เที่ยมและแพลงตอนลากาซิลี่ ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยเติมออกซิเจนให้กับผิว และช่วยเสริมความแข็งแรงของปราการผิวถึง 5 เท่า เพื่อปกป้องผิวจากแสงแดดและมลภาวะ ครีมนี้ยังเหมาะสำหรับการใช้ในชีวิตประจำวัน โดยเนื้อครีมมีความบางเบาและไม่เหนียวเหนอะหนะ ผลิตภัณฑ์มีปริมาณ 30 มิลลิลิตร และด้วยคุณสมบัติจากธรรมชาติและความปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?
Yves Rocher Elixir Botanique UV Shield เป็นตัวเลือกที่ดีเนื่องจากมีค่า SPF50+ UVA PA++++ ที่ให้การปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังมีสารสกัดจากธรรมชาติอย่าง Eart&Ocean Complex ที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและแพลงตอนที่ช่วยเติมออกซิเจนให้ผิวและเสริมความแข็งแรงของปราการผิว ทำให้ผิวมีความทนทานต่อมลภาวะมากขึ้น อีกทั้งผลิตภัณฑ์ยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เหมาะสำหรับผู้ที่มองหาครีมกันแดดที่ปลอดภัยและดูแลผิวได้ดี
3. PHYSIOGEL RED SOOTHING A.I. SENSITIVE UV SUNSCREEN SPF 50+/PA+++
PHYSIOGEL RED SOOTHING A.I. SENSITIVE UV SUNSCREEN ครีมกันแดดสูตรอ่อนโยนสำหรับผิวแพ้ง่าย ปราศจากน้ำหอมและพาราเบน มีค่า SPF 50+/PA+++ ปกป้องผิวจากรังสี UVA/UVB พร้อมเสริมความชุ่มชื้นและลดการระคายเคืองจากแสงแดด
ปริมาณ | 40 มล. |
---|---|
ค่าSPF/PA | SPF50+/ PA++++ |
เหมาะสำหรับ | ทุกสภาพผิว ผิวบอบบางแพ้ง่าย |
ข้อดี
- เหมาะสำหรับผิวแพ้ง่าย : ปราศจากน้ำหอม พาราเบน และสารแต่งสี ช่วยลดโอกาสการระคายเคือง
- การปกป้องผิวอย่างครอบคลุม : มีค่า SPF 50+/PA+++ ปกป้องผิวจากทั้งรังสี UVA และ UVB
- ช่วยฟื้นฟูผิว : มีสารบำรุงอย่าง Glycerin และ Ceramide NP ที่ช่วยเสริมความชุ่มชื้นและลดการอักเสบของผิว
- ผสมสารกันแดด Physical และ Chemical : ให้การปกป้องที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นด้วยการสะท้อนและดูดซับรังสี UV
- เนื้อครีมบางเบา : เกลี่ยง่าย ไม่เหนียวเหนอะหนะ และไม่ทิ้งคราบขาว
ข้อควรพิจารณา
- ประสิทธิภาพในการกันน้ำ : แม้ว่าผลิตภัณฑ์จะสามารถกันน้ำได้ แต่อาจต้องทาซ้ำบ่อยเมื่อทำกิจกรรมกลางแจ้ง
- ขนาดเล็ก : ปริมาณ 40 มิลลิลิตร อาจไม่เพียงพอสำหรับการใช้งานระยะยาว
PHYSIOGEL RED SOOTHING A.I. SENSITIVE UV SUNSCREEN ครีมกันแดดสูตรอ่อนโยนที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย ผลิตภัณฑ์นี้ผ่านการทดสอบภายใต้การดูแลของแพทย์ผิวหนัง และปราศจากน้ำหอม พาราเบน และสารแต่งสี มีค่า SPF 50+/PA+++ ที่ช่วยปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB อย่างมีประสิทธิภาพ เนื้อครีมบางเบา เกลี่ยง่าย และไม่ทิ้งคราบขาว ช่วยให้ผิวดูเนียนใสไม่เหนียวเหนอะหนะ
ส่วนประกอบสำคัญของผลิตภัณฑ์นี้คือ Tinosorb S ซึ่งใช้เทคโนโลยี Microfine Particle Technology ในการสะท้อนและกระจายรังสียูวี ทำให้ผิวได้รับการปกป้องจากรังสีได้ดี อีกทั้งยังมี Octisalate และ Uvinal A Plus ที่เสริมประสิทธิภาพในการป้องกันรังสี UVB และ UVA ตามลำดับ นอกจากนี้ยังมีสารบำรุงผิวอย่าง Glycerin และ Ceramide NP ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ป้องกันอาการผิวแห้ง และ Palmitamide MEA ที่ช่วยลดการอักเสบของผิว ลดอาการแดงและระคายเคืองจากแสงแดด
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?
PHYSIOGEL RED SOOTHING A.I. SENSITIVE UV SUNSCREEN เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย เนื่องจากปราศจากน้ำหอมและพาราเบน ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงในการระคายเคือง มีค่า SPF 50+/PA+++ ที่สามารถปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังมีส่วนประกอบที่ช่วยเสริมความชุ่มชื้นและลดการอักเสบของผิว เช่น Glycerin และ Ceramide NP ทำให้ผิวคงความชุ่มชื้นและลดปัญหาผิวแห้งหรือแดงจากแสงแดด
4. NATURE REPUBLIC CALIFORNIA ALOE DAILY SUN BLOCK SPF50+ PA++++
NATURE REPUBLIC CALIFORNIA ALOE DAILY SUN BLOCK ครีมกันแดดสำหรับผิวบอบบางแพ้ง่าย มีค่า SPF50+ PA++++ ผสมสารสกัดว่านหางจระเข้ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ปรับสีผิวให้กระจ่างใส และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมทางทะเล
ปริมาณ | 57 มล. |
---|---|
ค่าSPF/PA | SPF50+/ PA++++ |
เหมาะสำหรับ | ทุกสภาพผิว ผิวบอบบางแพ้ง่าย |
ข้อดี
- ปกป้องผิวอย่างครอบคลุม : มีค่า SPF50+ PA++++ ป้องกันรังสี UVA และ UVB ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ส่วนผสมจากว่านหางจระเข้ : ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและปลอบประโลมผิว เหมาะสำหรับผิวบอบบางแพ้ง่าย
- ปรับสีผิวทันที : เนื้อครีมโทนสีชมพูช่วยปรับสีผิวให้ดูกระจ่างใสหลังทา
- เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม : เป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมทางทะเลและปะการัง บรรจุภัณฑ์ได้รับการรับรองจาก FSC
- ใช้เป็นเบสแต่งหน้า : เนื้อครีมสามารถใช้เป็นเบสก่อนการแต่งหน้าได้
ข้อควรพิจารณา
- มีสีในเนื้อครีม : เนื้อครีมสีชมพูอาจไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลิตภัณฑ์ไร้สี
- อาจมีความมันวาว: เนื้อครีมที่มีส่วนผสมของว่านหางจระเข้และให้ความชุ่มชื้นสูงอาจทำให้ผิวหน้าดูมันวาวเกินไปสำหรับบางคน โดยเฉพาะผู้ที่มีผิวมัน
NATURE REPUBLIC CALIFORNIA ALOE DAILY SUN BLOCK เป็นครีมกันแดดสำหรับผิวบอบบางและแพ้ง่าย มาพร้อมกับค่า SPF50+ PA++++ ซึ่งช่วยปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ครีมกันแดดนี้เป็นสูตรแบบ Hybrid ที่ผสมผสานการปกป้องทั้งแบบ Chemical และ Physical ซึ่งช่วยป้องกันแสงแดดได้ดี
ผลิตภัณฑ์นี้มีสารสกัดจากว่านหางจระเข้ในปริมาณ 2.75 ppm ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว นอกจากนี้ยังมีสารต่อต้านริ้วรอยอย่างอะดีโนซีนที่ช่วยลดเลือนริ้วรอยและทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น อีกจุดเด่นหนึ่งคือ เนื้อครีมมีโทนสีชมพูที่ช่วยปรับสีผิวให้ดูกระจ่างใสขึ้นทันทีหลังการใช้ สามารถใช้เป็นเบสก่อนการแต่งหน้าได้
นอกจากประโยชน์ด้านการปกป้องผิวแล้ว ผลิตภัณฑ์นี้ยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมทางทะเลและปะการัง โดยบรรจุภัณฑ์ได้รับการรับรองจาก FSC ซึ่งแสดงถึงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ปริมาณบรรจุภัณฑ์อยู่ที่ 57 มิลลิลิตร จากส่วนผสมหลักที่ประกอบด้วย Glycerin, Titanium Dioxide, และสารสกัดจากธรรมชาติ เช่น Hibiscus Rosa Sinensis Flower Extract และ Morinda Citrifolia Fruit Extract ครีมกันแดดนี้ช่วยบำรุงและปลอบประโลมผิวได้ดี พร้อมทั้งปกป้องผิวจากมลภาวะและแสงแดด
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?
NATURE REPUBLIC CALIFORNIA ALOE DAILY SUN BLOCK เป็นตัวเลือกที่ดีเนื่องจากมีค่า SPF50+ PA++++ ที่ให้การปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับผิวบอบบางและแพ้ง่าย อีกทั้งยังมีสารสกัดจากว่านหางจระเข้ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและปลอบประโลมผิว เนื้อครีมสีชมพูช่วยปรับสีผิวให้ดูกระจ่างใส สามารถใช้เป็นเบสก่อนแต่งหน้าได้ นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์ยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมทางทะเล จึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ใส่ใจทั้งการปกป้องผิวและสิ่งแวดล้อม
5. MizuMi UV Water Active Sport
MizuMi UV Water Active Sport ครีมกันแดดเนื้อเซรั่ม SPF50+ PA++++ ที่เหมาะสำหรับกิจกรรมกลางแจ้งและกีฬาด้วยคุณสมบัติกันน้ำ 80 นาที พร้อมสารต้านอนุมูลอิสระ 11 ชนิด ช่วยปกป้องผิวและลดการเกิดริ้วรอยจากแสงแดด
ปริมาณ | 40 กรัม |
---|---|
ค่าSPF/PA | SPF50+/ PA++++ |
เหมาะสำหรับ | ทุกสภาพผิว ผิวบอบบางแพ้ง่าย |
ข้อดี
- ปกป้องผิวจากแสงแดดอย่างครอบคลุม : ด้วย SPF50+ PA++++ ป้องกันทั้งรังสี UVA และ UVB ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- กันน้ำและเหงื่อได้ยาวนาน : กันน้ำได้นานถึง 80 นาที เหมาะสำหรับการเล่นกีฬาและกิจกรรมกลางแจ้ง
- สูตร Hybrid Sunscreen : ผสมผสานสารกันแดดทั้งแบบกายภาพและเคมี ช่วยลดโอกาสการเกิดฝ้า จุดด่างดำ และริ้วรอยก่อนวัย
- มีสารต้านอนุมูลอิสระ 11 ชนิด : รวมถึงสารสกัดจากชาเขียวมัทฉะและ Butterfly Bush ช่วยปกป้องผิวจากการถูกทำร้ายโดยแสงแดด
- ปราศจากสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง : ไม่มีน้ำมัน น้ำหอม แอลกอฮอล์ พาราเบน และสารอันตรายต่อปะการัง
ข้อควรพิจารณา
- ต้องทาซ้ำบ่อยเมื่อทำกิจกรรมกลางแจ้ง : แม้จะกันน้ำได้ 80 นาที แต่หากมีเหงื่อมากหรืออยู่กลางแจ้งนาน ควรทาซ้ำเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด
- อาจไม่เหมาะกับทุกสภาพผิว : แม้จะเหมาะสำหรับผิวบอบบางแพ้ง่าย แต่อาจไม่เหมาะกับบางคนที่มีปัญหาผิวเฉพาะ ควรทดสอบก่อนใช้จริง
MizuMi UV Water Active Sport ครีมกันแดดเนื้อเซรั่มที่เหมาะสำหรับผู้ที่ทำกิจกรรมกลางแจ้งหรือนักกีฬาที่ต้องการการปกป้องผิวจากแสงแดด ด้วย SPF50+ PA++++ ซึ่งสามารถปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ครีมกันแดดนี้เป็นสูตรแบบ Hybrid Sunscreen ซึ่งผสมผสานการทำงานของสารกันแดดแบบกายภาพและเคมี ช่วยลดโอกาสการเกิดฝ้าแดด จุดด่างดำ ความหมองคล้ำ และริ้วรอยก่อนวัย
ครีมกันแดดนี้ยังมีส่วนผสมของ 11X Anti-Oxidants เช่น สารสกัดจาก Butterfly Bush ชาเขียวมัทฉะ วิตามินอี และสารต่อต้านอนุมูลอิสระจากญี่ปุ่น 8 ชนิด ช่วยลดการทำร้ายผิวจากแสงแดดซึ่งเป็นสาเหตุของริ้วรอยก่อนวัย เนื้อครีมบางเบา ซึมไว และไม่เหนียวเหนอะหนะ อีกทั้งยังไม่ทำให้ผิวขาววอกหรือเป็นคราบหลังทา
จุดเด่นของ MizuMi UV Water Active Sport คือคุณสมบัติกันน้ำและกันเหงื่อที่มีประสิทธิภาพสูงสุด สามารถกันน้ำได้นานถึง 80 นาที ทำให้เหมาะกับการเล่นกีฬาและกิจกรรมกลางแจ้ง ผลิตภัณฑ์นี้ยังปราศจากน้ำมัน น้ำหอม แอลกอฮอล์ พาราเบน และสีสังเคราะห์ นอกจากนี้ยังเป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อปะการัง (Coral Safe) เนื่องจากปราศจากเคมีที่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมทางทะเล
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?
MizuMi UV Water Active Sport เป็นตัวเลือกที่ดีเพราะมีค่า SPF50+ PA++++ ที่ให้การปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับผู้ที่ทำกิจกรรมกลางแจ้งหรือเล่นกีฬา เนื่องจากสามารถกันน้ำและเหงื่อได้นานถึง 80 นาที นอกจากนี้ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระถึง 11 ชนิด ช่วยลดความเสี่ยงจากการถูกทำร้ายโดยแสงแดดและริ้วรอยก่อนวัย อีกทั้งยังไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน น้ำหอม แอลกอฮอล์ และพาราเบน ทำให้ปลอดภัยสำหรับผิวแพ้ง่าย
6. Innisfree UV active poreless sunscreen SPF50+ PA+++
Innisfree UV Active Poreless Sunscreen ครีมกันแดด SPF50+ PA+++ ที่ช่วยปกป้องผิวจากรังสี UV พร้อมเบลอรูขุมขนและปรับผิวให้เรียบเนียนด้วยสารสกัดธรรมชาติจากเกาะเชจู
ปริมาณ | 50 มล. |
---|---|
ค่าSPF/PA | SPF50+/ PA++++ |
เหมาะสำหรับ | ทุกสภาพผิว ผิวบอบบางแพ้ง่าย |
ข้อดี
- เบลอรูขุมขนและทำให้ผิวเรียบเนียน : ทำหน้าที่คล้ายไพรเมอร์ ช่วยให้ผิวดูกระจ่างใสและเรียบเนียนขึ้นทันทีหลังทา
- ส่วนผสมจากธรรมชาติ : มีสารสกัดจากดอกบัว ไซเปรส ส้มเขียวหวาน และอะโรเนียจากเกาะเชจู ช่วยปลอบประโลมและบำรุงผิว
- โทนสีเบจ : เนื้อครีมสีเบจที่เข้ากับทุกสีผิว ช่วยปรับโทนสีผิวให้ดูกลมกลืนและเป็นธรรมชาติ
- เนื้อบางเบา : ซึมซาบเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ และไม่ทิ้งคราบขาว เหมาะสำหรับการใช้งานทุกวัน
- สูตรวีแกน : ไม่มีส่วนผสมที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง และอ่อนโยนต่อผิวแพ้ง่าย
ข้อควรพิจารณา
- ไม่ได้ระบุว่ากันน้ำได้ : ผลิตภัณฑ์ไม่ได้ระบุถึงคุณสมบัติในการกันน้ำ อาจไม่เหมาะสำหรับกิจกรรมที่มีเหงื่อหรือการว่ายน้ำ
- การปกป้อง UVA อาจไม่ครอบคลุม : เนื่องจากเป็น Chemical Sunscreen การปกป้องจากรังสี UVA อาจไม่ครบถ้วนเท่ากับสูตรอื่นที่เป็น Physical
Innisfree UV Active Poreless Sunscreen ครีมกันแดดที่มีค่า SPF50+ PA+++ ซึ่งช่วยปกป้องผิวจากรังสี UV ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผลิตภัณฑ์นี้เป็นสูตร Chemical Sunscreen ซึ่งช่วยดูดซับรังสี UV ไม่ให้ผ่านเข้าสู่ผิว เนื้อครีมบางเบา เกลี่ยง่าย ไม่เหนียวเหนอะหนะ และไม่ทิ้งคราบขาว
ครีมกันแดดนี้มีคุณสมบัติพิเศษในการเบลอรูขุมขนและทำให้ผิวเรียบเนียนเสมือนใช้ไพรเมอร์ นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมจากสารสกัดธรรมชาติจากเกาะเชจู เช่น ดอกบัว ไซเปรส ส้มเขียวหวาน ชิกวีด และอะโรเนีย ซึ่งช่วยปลอบประโลมผิวที่ถูกทำร้ายจากมลภาวะ
นอกจากการปกป้องผิวจากแสงแดดแล้ว เนื้อครีมยังให้เอฟเฟกต์การเบลอผิว ทำให้ผิวดูกลมกลืนและกระจ่างใสขึ้นด้วยโทนสีเบจที่สามารถเข้าได้กับทุกสีผิว ผลิตภัณฑ์นี้ยังเหมาะสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน เนื่องจากเนื้อครีมไม่สร้างการระคายเคือง และเหมาะสำหรับทุกสภาพผิว
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?
Innisfree UV Active Poreless Sunscreen เป็นตัวเลือกที่ดีเพราะนอกจากจะมีค่า SPF50+ PA+++ ที่ช่วยปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ยังมีคุณสมบัติในการเบลอรูขุมขน ทำให้ผิวดูเรียบเนียนเหมือนไพรเมอร์ นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยสารสกัดธรรมชาติจากเกาะเชจู เช่น ดอกบัว ไซเปรส และส้มเขียวหวาน ซึ่งช่วยบำรุงและปลอบประโลมผิวที่ถูกทำร้ายจากมลภาวะ เนื้อครีมบางเบา ซึมเร็ว ไม่ทิ้งคราบขาว และอ่อนโยนต่อผิวทุกประเภท
7. Biore UV Aqua Rich Watery Essence SPF50+PA++++
Biore UV Aqua Rich Watery Essence SPF50+ PA++++ ครีมกันแดดสูตรน้ำที่บางเบา ซึมเร็ว ปกป้องผิวจากรังสี UVA/UVB อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมบำรุงผิวด้วยกรดไฮยาลูโรนิกและสารสกัดจากรอยัลเยลลี
ปริมาณ | 50 กรัม |
---|---|
ค่าSPF/PA | SPF50+/ PA++++ |
เหมาะสำหรับ | ทุกสภาพผิว ผิวบอบบางแพ้ง่าย |
ข้อดี
- เนื้อบางเบา : ซึมซาบเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ และสามารถทาทับเมคอัพได้โดยไม่ทำให้เครื่องสำอางเปลี่ยนสี
- กันน้ำและกันเหงื่อ : เหมาะสำหรับกิจกรรมกลางแจ้งและการใช้งานที่ต้องการความติดทนนาน
- เทคโนโลยี UV Aqua Jelly Capsule : ช่วยให้การปกป้องผิวจากรังสี UVA/UVB มีประสิทธิภาพสูงด้วยอนุภาคขนาดเล็กที่กระจายตัวทั่วผิว
- บำรุงผิว : มีส่วนผสมของกรดไฮยาลูโรนิกและสารสกัดจากรอยัลเยลลี ช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิว
- เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว : ผ่านการทดสอบการระคายเคือง ทำให้เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวบอบบาง
ข้อควรพิจารณา
- มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ : อาจไม่เหมาะสำหรับผู้ที่แพ้หรือไม่ชอบผลิตภัณฑ์ที่มีกลิ่นน้ำหอม
- เป็นครีมกันแดดสูตร Chemical Sunscreen: อาจไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายหรือต้องการใช้ครีมกันแดดที่เป็น Physical Sunscreen
Biore UV Aqua Rich Watery Essence SPF50+ PA++++ ครีมกันแดดสูตรน้ำที่เนื้อบางเบา เกลี่ยง่าย และซึมซาบเร็ว โดยไม่ทำให้ผิวเหนอะหนะหรือทิ้งคราบ สามารถทาทับเมคอัพได้โดยไม่ทำให้เครื่องสำอางเปลี่ยนสี ผลิตภัณฑ์นี้มีเทคโนโลยี UV Aqua Jelly Capsule ที่ช่วยให้สารกันแดดแปรสภาพเป็นน้ำกระจายทั่วผิวหน้า ทำให้ปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ครีมกันแดดนี้มี SPF50+ ที่ช่วยป้องกันรังสี UVB ซึ่งเป็นสาเหตุของผิวหมองคล้ำและจุดด่างดำ นอกจากนี้ยังมีค่า PA++++ ที่ช่วยลดโอกาสการเกิดริ้วรอยจากรังสี UVA ที่ทำลายคอลลาเจนในชั้นผิว ผลิตภัณฑ์ยังมีคุณสมบัติกันน้ำและกันเหงื่อ ช่วยให้ติดทนนานตลอดวัน เหมาะสำหรับผู้ที่มีกิจกรรมกลางแจ้ง
ส่วนผสมสำคัญประกอบด้วย Hyaluronic acid และ Royal Jelly Extract ที่ช่วยให้ผิวนุ่มชุ่มชื่น นอกจากนี้ยังมีสารสกัดจากผลไม้ตระกูลซิตรัส เช่น เกรปฟรุต ส้ม และเลมอน ซึ่งช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวและป้องกันไม่ให้ผิวแห้งกร้าน
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?
Biore UV Aqua Rich Watery Essence SPF50+ PA++++ เป็นตัวเลือกที่ดีเพราะมีเนื้อบางเบาและซึมซาบเร็ว ทำให้ทาได้ง่ายและไม่เหนียวเหนอะหนะ สามารถทาทับเมคอัพได้โดยไม่ทำให้เครื่องสำอางเปลี่ยนสี อีกทั้งยังมีคุณสมบัติกันน้ำและกันเหงื่อ เหมาะสำหรับการใช้งานในทุกกิจกรรม นอกจากนี้ยังมีสารบำรุงอย่างกรดไฮยาลูโรนิกและสารสกัดจากรอยัลเยลลีที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื่น พร้อมปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
8. Anessa Perfect UV Sunscreen Mild Milk N SPF50+ PA++++
Anessa Perfect UV Sunscreen Mild Milk N SPF50+ PA++++ ครีมกันแดดเนื้อน้ำนมสูตรอ่อนโยนสำหรับผิวแพ้ง่าย ปราศจากสารระคายเคือง กันน้ำและเหงื่อ พร้อมให้ความชุ่มชื้นและปกป้องผิวจากแสงแดดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ปริมาณ | 60 มล. |
---|---|
ค่าSPF/PA | SPF50+/ PA++++ |
เหมาะสำหรับ | ทุกสภาพผิว ผิวบอบบางแพ้ง่าย |
ข้อดี
- สูตรอ่อนโยน : ปราศจากสีสังเคราะห์ น้ำหอม แอลกอฮอล์ และสารเติมแต่งอื่น ๆ ทำให้เหมาะสำหรับผิวบอบบางและแพ้ง่าย
- กันน้ำและกันเหงื่อ : ด้วยเทคโนโลยี Aqua Booster EX ทำให้ครีมกันแดดนี้ติดทนยาวนานแม้ทำกิจกรรมกลางแจ้งหรือว่ายน้ำได้นานถึง 80 นาที
- บำรุงผิว : มีส่วนผสมจากสารสกัดธรรมชาติ เช่น รากดอกโบตั๋น ซุปเปอร์ไฮยาลูรอนิก แอซิด และชะเอมเทศ ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและปลอบประโลมผิว
- ใช้เป็นไพรเมอร์ : ครีมกันแดดนี้สามารถปรับสภาพผิวก่อนการแต่งหน้าได้ ทำให้ผิวเรียบเนียนและเตรียมพร้อมสำหรับการแต่งหน้า
- เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม : สูตร Ocean Friendly ที่ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อปะการัง
ข้อควรพิจารณา
- เนื้อครีมอาจหนักเกินไปสำหรับผิวมัน: แม้ว่าจะเหมาะสำหรับผิวบอบบาง แต่สำหรับคนที่มีผิวมันอาจรู้สึกหนักเกินไป
- อาจทำให้หน้าขาวเกินไป: เนื่องจากมีส่วนผสมที่ช่วยปรับสีผิว อาจทำให้ผิวหน้าดูขาวเกินธรรมชาติสำหรับบางคน
- ไม่เหมาะสำหรับการออกกำลังกายหนัก: แม้จะกันน้ำและเหงื่อได้ดี แต่อาจไม่เหมาะสำหรับการออกกำลังกายที่มีเหงื่อออกมาก
Anessa Perfect UV Sunscreen Mild Milk N SPF50+ PA++++ ครีมกันแดดเนื้อน้ำนมที่ออกแบบมาเพื่อผิวบอบบางและแพ้ง่าย ด้วยสูตรอ่อนโยนที่ปราศจากสีสังเคราะห์ น้ำหอม แอลกอฮอล์ และสารเติมแต่งอื่นๆ ไม่อุดตันรูขุมขน และซึมซาบได้ดีไม่ทิ้งคราบขาวหรือความเหนียวเหนอะหนะ เนื้อครีมบางเบา เกลี่ยง่าย ช่วยปรับสภาพผิวเสมือนเป็นไพรเมอร์ และเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวด้วยสารสกัดจากรากดอกโบตั๋น ซุปเปอร์ไฮยาลูรอนิก แอซิด กลีเซอรีน และสารสกัดจากชะเอมเทศ
ผลิตภัณฑ์นี้มีเทคโนโลยี Aqua Booster EX ที่ช่วยเสริมเกราะปกป้องผิวจากแสงแดด กันน้ำ กันเหงื่อ และความชื้น ติดทนนานถึง 80 นาที เหมาะสำหรับการว่ายน้ำหรือทำกิจกรรมกลางแจ้ง นอกจากนี้ ยังช่วยปกป้องผิวจากความแห้งกร้านและมลภาวะ พร้อมให้ความรู้สึกเบาสบายผิว
ด้วยสูตร Hypoallergenic ทำให้ผลิตภัณฑ์นี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายและผิวเด็ก นอกจากนี้ ยังเป็นมิตรต่อทะเลและไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อปะการัง ผลิตภัณฑ์สามารถล้างออกได้ง่ายด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวทั่วไป
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?
Anessa Perfect UV Sunscreen Mild Milk N SPF50+ PA++++ เป็นตัวเลือกที่ดีเพราะเป็นครีมกันแดดสูตรอ่อนโยนที่เหมาะสำหรับผิวบอบบางและแพ้ง่าย ปราศจากสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง เช่น สีสังเคราะห์ น้ำหอม และแอลกอฮอล์ อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี Aqua Booster EX ที่ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังกันน้ำและเหงื่อได้ดี เหมาะสำหรับการทำกิจกรรมกลางแจ้งหรือว่ายน้ำ นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ
9. Banana Boat Ultra Protect Sunscreen Lotion SPF 50 PA+++
Banana Boat Ultra Protect Sunscreen Lotion SPF50 PA++++ ครีมกันแดดเนื้อบางเบา ซึมเร็ว ไม่เหนอะหนะ ปกป้องผิวจากรังสี UVA/UVB และบำรุงผิวด้วยว่านหางจระเข้ วิตามินซี และอี พร้อมคุณสมบัติกันน้ำและเป็นมิตรต่อปะการัง
ปริมาณ | 90 มล. |
---|---|
ค่าSPF/PA | SPF50 PA+++ |
เหมาะสำหรับ | ทุกสภาพผิว ผิวบอบบางแพ้ง่าย |
ข้อดี
- เนื้อครีมบางเบา : ซึมซาบเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ และไม่อุดตันรูขุมขน เหมาะสำหรับการใช้งานทุกวัน
- ส่วนผสมบำรุงผิว : มีว่านหางจระเข้ วิตามินซี และวิตามินอี ที่ช่วยบำรุงผิวให้ชุ่มชื่นและเสริมความเรียบเนียน
- ปกป้องผิวจากแสงแดดอย่างมีประสิทธิภาพ : ค่า SPF50 PA++++ ช่วยป้องกันรังสี UVA และ UVB ได้ดี
- กันน้ำและเหงื่อ : เหมาะสำหรับการทำกิจกรรมกลางแจ้งหรือการเล่นกีฬา
- Reef Friendly : ไม่มีสารที่ทำลายปะการัง ทำให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมทางทะเล
ข้อควรพิจารณา
- ใช้สำหรับผิวกาย : อาจไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการครีมกันแดดสำหรับผิวหน้า
- กลิ่นอาจไม่เหมาะกับทุกคน : มีกลิ่นโลชั่นเบา ๆ ซึ่งอาจไม่เหมาะสำหรับผู้ที่แพ้หรือไม่ชอบผลิตภัณฑ์ที่มีกลิ่น
Banana Boat Ultra Protect Sunscreen Lotion SPF50 PA++++ ครีมกันแดดเนื้อโลชั่นที่บางเบา ซึมซาบเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ และไม่อุดตันรูขุมขน ผลิตภัณฑ์นี้มีส่วนผสมของมอยเจอร์ไรเซอร์จากธรรมชาติ เช่น ว่านหางจระเข้ วิตามินซี และวิตามินอี ซึ่งช่วยบำรุงผิวให้ชุ่มชื่น เรียบเนียน และกระจ่างใส อีกทั้งยังช่วยเสริมคอลลาเจนให้ผิว
ครีมกันแดดนี้มีค่า SPF50 PA++++ ที่ช่วยปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังกันน้ำและกันเหงื่อได้ดี ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานประจำวันหรือกิจกรรมกลางแจ้ง ผลิตภัณฑ์นี้ได้รับการออกแบบมาให้ใช้ทาผิวกายโดยเฉพาะ เนื่องจากเนื้อโลชั่นบางเบาและปราศจากน้ำมันและน้ำหอม ทำให้ไม่ก่อให้เกิดการอุดตันของรูขุมขน
Banana Boat Ultra Protect Sunscreen Lotion ยังเป็นผลิตภัณฑ์ Reef Friendly ซึ่งไม่มีส่วนผสมที่เป็นอันตรายต่อแนวปะการัง อีกทั้งยังช่วยคงความชุ่มชื้นให้ผิว ฟื้นฟูให้ผิวแลดูสดใสและเรียบเนียน
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?
Banana Boat Ultra Protect Sunscreen Lotion SPF50 PA++++ เป็นตัวเลือกที่ดีเพราะมีเนื้อครีมบางเบา ซึมซาบเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ และไม่อุดตันรูขุมขน จึงเหมาะสำหรับการใช้งานทุกวัน อีกทั้งยังปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB ได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยค่า SPF50 PA++++ นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมจากธรรมชาติเช่น ว่านหางจระเข้ วิตามินซี และวิตามินอี ที่ช่วยบำรุงผิวให้ชุ่มชื่นและเรียบเนียน พร้อมคุณสมบัติกันน้ำและเหงื่อ เหมาะสำหรับกิจกรรมกลางแจ้ง
10. KA UV Protection BabyFace SPF 42 PA+++
KA UV Protection Baby Face SPF 42 PA+++ ครีมกันแดดเนื้อบางเบาที่สามารถใช้แทนรองพื้น ปกป้องผิวจากรังสี UVA/UVB และช่วยปรับผิวให้เรียบเนียน กระจ่างใส โดยไม่ทำให้ผิวมันหรืออุดตันรูขุมขน
ปริมาณ | 15 กรัม |
---|---|
ค่าSPF/PA | SPF42 PA+++ |
เหมาะสำหรับ | ทุกสภาพผิว ผิวบอบบางแพ้ง่าย |
ข้อดี
- เนื้อบางเบา : ไม่หนักหน้าและไม่ทำให้ผิวมัน เหมาะสำหรับการใช้งานทุกวัน
- ใช้แทนรองพื้นหรือบีบีครีมได้ : ช่วยปรับผิวให้เรียบเนียน ปกปิดริ้วรอยเล็ก ๆ โดยไม่ต้องใช้เครื่องสำอางหลายขั้นตอน
- ไม่มีแอลกอฮอล์ : ปราศจากส่วนผสมที่ทำให้ผิวแห้งหรือระคายเคือง เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย
- ไม่อุดตันรูขุมขน : เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหรือเป็นสิวง่าย
- ล้างออกง่าย : สะดวกในการทำความสะอาดผิวหลังใช้งาน
ข้อควรพิจารณา
- ค่า SPF อาจไม่สูงมาก : ด้วย SPF42 PA+++ อาจไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการการปกป้องสูงสุดจากแสงแดดจ้า
- ไม่กันน้ำ: อาจไม่เหมาะสำหรับกิจกรรมกลางแจ้งที่มีเหงื่อออกมากหรือการว่ายน้ำ
- อาจไม่เหมาะกับทุกสีผิว: เนื่องจากมีเนื้อสีเนื้อ อาจไม่เข้ากับทุกโทนสีผิว
KA UV Protection Baby Face SPF 42 PA+++ ครีมกันแดดเนื้อครีมเนียนที่ออกแบบมาเพื่อปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB ด้วยค่า SPF 42 PA+++ เนื้อครีมสีเนื้อสามารถใช้แทนรองพื้นหรือบีบีครีมได้ เหมาะสำหรับวันที่ไม่ต้องการแต่งหน้าเยอะ ผลิตภัณฑ์นี้ช่วยปรับสภาพผิวให้เรียบเนียน กระจ่างใส และยังสามารถปกปิดริ้วรอยเล็ก ๆ ได้โดยไม่ทำให้เกิดการอุดตันรูขุมขน
จุดเด่นของครีมกันแดดนี้คือ ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ ทำให้ไม่ทำให้ผิวแห้งหรือเป็นสิว เนื้อครีมบางเบา ไม่หนักหน้า ไม่ทำให้ผิวมัน และช่วยเสริมให้เครื่องสำอางติดทนนานขึ้น เหมาะสำหรับการใช้งานเป็นประจำทุกวัน
นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์นี้ยังง่ายต่อการล้างออกหลังการใช้งาน ทำให้สะดวกสบายและเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการครีมกันแดดที่ไม่หนักผิว
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?
KA UV Protection Baby Face SPF 42 PA+++ เป็นตัวเลือกที่ดีเพราะมีเนื้อครีมบางเบา ไม่หนักหน้า และไม่ทำให้ผิวมัน เหมาะสำหรับการใช้งานทุกวัน อีกทั้งยังสามารถใช้แทนรองพื้นหรือบีบีครีมได้ ช่วยให้ผิวเรียบเนียนและปกปิดริ้วรอยเล็ก ๆ ได้ดีโดยไม่อุดตันรูขุมขน นอกจากนี้ยังไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ จึงไม่ทำให้ผิวแห้งหรือระคายเคือง เหมาะสำหรับผู้ที่มองหาครีมกันแดดที่ปกป้องผิวและบำรุงในขั้นตอนเดียว
ความสำคัญของการใช้ครีมกันแดดในชีวิตประจำวัน
การใช้ครีมกันแดดในชีวิตประจำวันมีความสำคัญมากต่อการปกป้องผิวจากรังสียูวี (UV) ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของปัญหาผิวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเกิดริ้วรอยก่อนวัย ฝ้า กระ จุดด่างดำ รวมถึงมะเร็งผิวหนัง
- ป้องกันการเกิดริ้วรอยและความเสียหายต่อผิว: การได้รับแสงแดดโดยไม่มีการป้องกันสามารถเร่งการเกิดริ้วรอยและความเสียหายที่ลึกในผิวหนัง ครีมกันแดดจะช่วยลดความเสี่ยงของการทำลายคอลลาเจนและเส้นใยยืดหยุ่นในผิวหนัง ทำให้ผิวยังคงความเรียบเนียนและยืดหยุ่นได้นานขึ้น
- ลดความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งผิวหนัง: การใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF ที่เหมาะสมจะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งผิวหนัง ซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดจากการได้รับแสงแดดมากเกินไป
- ป้องกันการเกิดฝ้า กระ และจุดด่างดำ: แสงแดดสามารถกระตุ้นให้เกิดเม็ดสีเมลานินมากขึ้น ทำให้เกิดฝ้าและจุดด่างดำบนผิวหน้า การใช้ครีมกันแดดจึงช่วยลดการเกิดปัญหาผิวเหล่านี้ได้
- ช่วยให้ผิวมีสุขภาพดี: การปกป้องผิวจากรังสียูวีช่วยให้ผิวแข็งแรง ป้องกันการสูญเสียน้ำและคงความชุ่มชื้นในผิวได้มากขึ้น
ดังนั้น การใช้ครีมกันแดดทุกวันจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม โดยควรเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF อย่างน้อย 30 และทาซ้ำทุก 2 ชั่วโมงเมื่ออยู่กลางแจ้งเพื่อประสิทธิภาพที่ดีที่สุดในการปกป้องผิว
ประเภทของครีมกันแดดอย่างไรเลือกให้เหมาะกับการใช้งาน
ครีมกันแดดมีหลายประเภทให้เลือกตามความต้องการและลักษณะการใช้งานของแต่ละคน การเลือกครีมกันแดดที่เหมาะสมจะช่วยให้การปกป้องผิวมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ประเภทของครีมกันแดด
ครีมกันแดดแบบเคมี (Chemical Sunscreen)
ครีมกันแดดประเภทนี้ทำงานโดยการดูดซับรังสียูวีแล้วเปลี่ยนเป็นความร้อนก่อนที่จะปล่อยออกจากผิว ซึ่งมีข้อดีคือสามารถกันรังสี UVA และ UVB ได้ดี มักมีเนื้อบางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ เหมาะสำหรับการใช้ในชีวิตประจำวันหรือการทำกิจกรรมทั่วไป
- ข้อดี: ซึมซาบเร็ว ไม่ทิ้งคราบขาว
- ข้อเสีย: อาจทำให้เกิดการระคายเคืองสำหรับผิวแพ้ง่าย
ครีมกันแดดแบบกายภาพ (Physical Sunscreen)
หรือเรียกอีกอย่างว่า Mineral Sunscreen ซึ่งใช้สารกันแดดอย่างเช่น ไทเทเนียมไดออกไซด์ (Titanium Dioxide) และซิงค์ออกไซด์ (Zinc Oxide) ที่ทำงานโดยการสะท้อนรังสียูวีออกจากผิวหนัง เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย เพราะสารเหล่านี้ไม่ทำปฏิกิริยากับผิวมากนัก
- ข้อดี: เหมาะกับผิวแพ้ง่าย ให้การปกป้องทันทีหลังทา
- ข้อเสีย: เนื้อครีมอาจหนาและทิ้งคราบขาวบนผิว
ครีมกันแดดสำหรับกิจกรรมกลางแจ้ง
สำหรับผู้ที่ต้องทำกิจกรรมกลางแจ้ง ควรเลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงกว่า 50 และมีความสามารถในการกันน้ำ (Water-Resistant) เพื่อป้องกันครีมกันแดดหลุดออกเมื่อมีเหงื่อหรือหลังการว่ายน้ำ
- ข้อดี: ป้องกันได้ยาวนานและทนต่อความชื้น
- ข้อเสีย: อาจล้างออกยากและต้องการการทำความสะอาดที่ล้ำลึก
ครีมกันแดดสำหรับผิวหน้า
ครีมกันแดดสำหรับผิวหน้ามักออกแบบให้มีเนื้อบางเบา ซึมซาบเร็ว และไม่อุดตันรูขุมขน บางประเภทอาจผสมสารบำรุงผิว เช่น วิตามินซี หรือสารต้านอนุมูลอิสระ เหมาะสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน
- ข้อดี: บางเบา ไม่อุดตัน เหมาะสำหรับผู้ที่ใช้เครื่องสำอางร่วมด้วย
- ข้อเสีย: มีราคาสูงกว่าเมื่อเทียบกับครีมกันแดดทั่วไป
ครีมกันแดดสำหรับเด็กและผิวแพ้ง่าย
ครีมกันแดดประเภทนี้มักมีส่วนผสมที่อ่อนโยน ปราศจากสารเคมีที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองหรือกลิ่นหอม เหมาะสำหรับเด็กและผู้ที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย
- ข้อดี: ปลอดภัยต่อผิว ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง
- ข้อเสีย: มักมีเนื้อครีมหนาและทิ้งคราบขาว
วิธีเลือกครีมกันแดดให้เหมาะกับการใช้งาน
- ค่า SPF และ PA: ควรเลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF อย่างน้อย 30 สำหรับการใช้ชีวิตประจำวัน และสูงกว่า 50 สำหรับกิจกรรมกลางแจ้ง พร้อมทั้งเลือกครีมที่มีค่า PA+++ เพื่อการป้องกันรังสี UVA อย่างมีประสิทธิภาพ
- ประเภทของผิว: ผิวแห้งควรเลือกครีมกันแดดที่ให้ความชุ่มชื้น ส่วนผิวมันควรเลือกสูตรที่ปราศจากน้ำมัน (Oil-Free) หรือคุมมัน
- กันน้ำหรือไม่: หากต้องทำกิจกรรมที่มีการเปียกน้ำหรือมีเหงื่อออกมาก ควรเลือกสูตรกันน้ำเพื่อให้การปกป้องต่อเนื่อง
การเลือกครีมกันแดดที่เหมาะสมกับลักษณะผิวและการใช้งานจะช่วยให้ผิวได้รับการปกป้องจากแสงแดดอย่างเต็มที่
วิธีเลือกครีมบำรุงผิวหน้าที่มีส่วนผสมของครีมกันแดด
การเลือกครีมบำรุงผิวหน้าที่มีส่วนผสมของครีมกันแดดเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการดูแลผิวในชีวิตประจำวัน ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีค่า SPF อย่างน้อย 30 ขึ้นไป เพื่อปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB ที่ทำให้เกิดริ้วรอยและจุดด่างดำ นอกจากการปกป้องจากแสงแดดแล้ว ควรพิจารณาส่วนผสมที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามินซี หรืออี ที่ช่วยบำรุงและฟื้นฟูสภาพผิว การเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับสภาพผิวก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ เช่น ผิวมันควรเลือกสูตรที่ไม่มีน้ำมัน ส่วนผิวแห้งควรเลือกสูตรที่ให้ความชุ่มชื้นเป็นพิเศษ สำหรับครีมบำรุงผิวหน้ายี่ห้อไหนดี ควรคำนึงถึงความปลอดภัยของส่วนผสม และเลือกยี่ห้อที่มีการรับรองมาตรฐานจากแพทย์ผิวหนัง
เคล็ดลับการทาครีมกันแดดที่ถูกต้อง เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด
การทาครีมกันแดดให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดเป็นสิ่งสำคัญที่หลายคนมักมองข้าม แม้จะใช้ครีมกันแดดที่มี SPF สูง แต่ถ้าไม่ทาอย่างถูกวิธีก็อาจไม่ได้รับการปกป้องผิวที่เพียงพอ นี่คือเคล็ดลับการทาครีมกันแดดที่ถูกต้องเพื่อให้ปกป้องผิวจากรังสียูวีได้ดีที่สุด
1. ทาครีมกันแดดก่อนออกแดดอย่างน้อย 15-30 นาที
ครีมกันแดดบางประเภท โดยเฉพาะครีมกันแดดแบบเคมี (Chemical Sunscreen) ต้องใช้เวลาในการซึมเข้าสู่ผิวเพื่อเริ่มทำงานป้องกันรังสียูวี การทาก่อนออกแดดจึงช่วยให้ครีมได้ผลเต็มประสิทธิภาพ
2. ใช้ปริมาณครีมที่เพียงพอ
การใช้ครีมกันแดดในปริมาณที่น้อยเกินไปอาจทำให้การป้องกันไม่เต็มประสิทธิภาพ ควรใช้ครีมกันแดดประมาณ 2 ข้อนิ้วสำหรับใบหน้า และประมาณ 1 ออนซ์ (หรือประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ) สำหรับร่างกายทั้งหมด
3. ทาซ้ำทุก 2 ชั่วโมง
ครีมกันแดดจะสูญเสียประสิทธิภาพเมื่อเวลาผ่านไป หรือเมื่อสัมผัสกับน้ำ เหงื่อ หรือการเช็ดหน้า ควรทาซ้ำทุก 2 ชั่วโมง โดยเฉพาะหากอยู่กลางแจ้งหรือทำกิจกรรมที่มีเหงื่อออกมาก
4. ทาครีมกันแดดให้ทั่วทุกส่วนของร่างกาย
บางครั้งเรามักมองข้ามการทาครีมกันแดดในบางจุด เช่น หลังคอ ใบหู หลังมือ และเท้า ซึ่งล้วนเป็นส่วนที่ได้รับแสงแดดเช่นกัน ควรให้ความสำคัญกับการทาทุกส่วนของร่างกายที่ต้องโดนแสงแดด
5. เลือกครีมกันแดดที่เหมาะกับสภาพผิว
- ผิวมัน: ควรเลือกครีมกันแดดสูตรควบคุมความมัน (Oil-Free) ที่ไม่ทำให้หน้ามันเยิ้มระหว่างวัน
- ผิวแห้ง: ควรเลือกสูตรที่มีสารให้ความชุ่มชื้น
- ผิวแพ้ง่าย: เลือกครีมกันแดดแบบกายภาพ (Physical Sunscreen) ที่มีส่วนผสมอ่อนโยนและปลอดภัยต่อผิว
6. อย่าลืมทาครีมกันแดดในวันที่ไม่มีแดดหรืออยู่ในร่ม
แม้ในวันที่ฟ้าครึ้ม เมฆบดบัง หรืออยู่ในร่ม รังสี UVA ยังสามารถทะลุผ่านได้ การทาครีมกันแดดทุกวันจึงเป็นสิ่งจำเป็นแม้ว่าคุณจะไม่เห็นแดดชัดเจน
7. ครีมกันแดดกับการแต่งหน้า
หากคุณแต่งหน้า ควรทาครีมกันแดดก่อนที่จะลงรองพื้นหรือเมคอัพ เพื่อให้ครีมกันแดดสามารถซึมเข้าสู่ผิวได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ยังสามารถเลือกใช้เมคอัพที่มีสารกันแดดเสริมได้ แต่ไม่ควรใช้แทนครีมกันแดดหลัก
8. ใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดเสริม
สำหรับกิจกรรมกลางแจ้ง การสวมหมวก แว่นกันแดด เสื้อแขนยาว หรือการใช้ร่มสามารถช่วยเพิ่มการปกป้องผิวจากแสงแดดร่วมกับการใช้ครีมกันแดดได้
การทาครีมกันแดดอย่างถูกต้องและสม่ำเสมอจะช่วยให้คุณได้รับการปกป้องจากรังสียูวีอย่างเต็มที่ และยังช่วยรักษาผิวให้มีสุขภาพดีในระยะยาว
วิธีป้องกันแสงแดดหลังการสครับผิว
หลังการสครับผิว ผิวจะบอบบางและไวต่อแสงแดดมากขึ้น ดังนั้นการป้องกันแสงแดดหลังการสครับเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก ควรทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงอย่างน้อย 30 และมีประสิทธิภาพในการปกป้องทั้งรังสี UVA และ UVB นอกจากนี้ควรทาในปริมาณที่เพียงพอและทาซ้ำทุก 2-3 ชั่วโมง หากต้องออกแดดนานเกิน 4 ชั่วโมง ควรหลีกเลี่ยงการออกแดดในช่วงเวลา 10 โมงเช้าถึงบ่าย 3 โมง เพราะเป็นช่วงที่แสงแดดแรงที่สุด สวมเสื้อผ้าที่ปกปิดมิดชิด และหากเป็นไปได้ใช้หมวกหรือร่มกันแดดร่วมด้วย สำหรับสครับผิวยี่ห้อไหนดี ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง และเหมาะสมกับสภาพผิวเพื่อให้การสครับผิวมีประสิทธิภาพสูงสุดและปลอดภัย
การเลือกครีมกันแดดที่เหมาะสมและการใช้ให้ถูกวิธีเป็นขั้นตอนสำคัญในการดูแลผิวของคุณ ครีมกันแดดไม่ได้มีเพียงเพื่อป้องกันผิวจากแสงแดดเท่านั้น แต่ยังช่วยลดความเสี่ยงจากปัญหาผิวต่าง ๆ ที่อาจเกิดจากการรับรังสียูวีมากเกินไป การเลือกใช้ครีมกันแดดที่เหมาะสมกับสภาพผิวและกิจกรรมของคุณ รวมถึงการทาอย่างถูกวิธี จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการปกป้องผิวให้ดียิ่งขึ้น ดังนั้น อย่าลืมที่จะทำให้การใช้ครีมกันแดดเป็นส่วนหนึ่งของกิจวัตรการดูแลผิวในทุกๆ วัน เพื่อสุขภาพผิวที่ดีและคงความอ่อนเยาว์อยู่เสมอ
คำถามที่พบบ่อย
1. ครีมกันแดดจำเป็นต้องใช้ทุกวันหรือไม่?
ใช่ การใช้ครีมกันแดดทุกวันเป็นสิ่งสำคัญ แม้ในวันที่ไม่มีแสงแดดแรง เพราะรังสียูวีสามารถทำลายผิวได้แม้อยู่ในร่ม หรือในวันที่มีเมฆมาก
2. ต้องทาครีมกันแดดซ้ำบ่อยแค่ไหน?
แนะนำให้ทาซ้ำทุก ๆ 2 ชั่วโมง หรือหลังจากว่ายน้ำหรือเหงื่อออกมาก หากคุณมีกิจกรรมกลางแจ้ง เพื่อให้การปกป้องผิวมีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง
3. ควรเลือกครีมกันแดดแบบไหนสำหรับผิวมัน?
สำหรับผิวมัน ควรเลือกครีมกันแดดสูตรที่ปราศจากน้ำมัน (oil-free) หรือสูตรที่ช่วยควบคุมความมัน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดสิวหรือความมันส่วนเกินบนผิวหน้า
4. เด็กสามารถใช้ครีมกันแดดของผู้ใหญ่ได้หรือไม่?
ครีมกันแดดสำหรับเด็กมักจะมีสูตรที่อ่อนโยนกว่า หากเป็นไปได้ ควรเลือกใช้ครีมกันแดดที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับเด็ก เพื่อปกป้องผิวที่บอบบาง