ใครเคยลองแบรนด์เซรั่มแพง ๆ หรือโฟมล้างหน้าอย่างดี แต่ทำไมผิวก็ยังโทรอยู่ดี หรือว่าคุณลืมบำรุงผิวด้วย ครีมบำรุงผิวหน้า ? สาวๆ คะ~ รู้มั้ยว่าสกินแคร์ตัวนี้เป็นไอเท็มที่ขาดไม่ได้เลยนะคะในการดูแลผิว เพราะเค้าจะช่วยฟื้นฟูผิวให้เราสวยปิ๊ง ช่วยล็อคความชุ่มชื้น และที่สำคัญคือป้องกันริ้วรอยก่อนวัยได้ด้วยค่ะ ผิวจะดูอ่อนเยาว์ เปล่งประกาย ดูมีออร่าตลอดเวลา แต่ที่สำคัญเลยนะคะ คือต้องเลือกให้เหมาะกับผิวของเราด้วย เพราะแต่ละแบรนด์เค้าจะมีเนื้อสัมผัสที่ต่างกัน ส่วนผสมก็ไม่เหมือนกัน บางตัวใช้ได้ทั้งเช้า-เย็น แถมยังมีให้เลือกหลายขนาด หลายราคาเลยค่ะ
วันนี้เราได้รวบรวม 10 อันดับ ครีมบำรุงผิวหน้า หน้าขาว กระจ่างใส ดูอ่อนเยาว์ สุดพรีเมียม ที่เหล่าบิวตี้เลิฟเวอร์ต้องมีติดบ้านไว้ค่ะ แต่ละตัวที่เลือกมานี่คัดมาอย่างดีเลย พร้อมแนะนำวิธีเลือกให้เหมาะกับผิวของคุณด้วยนะคะ และที่พลาดไม่ได้เลยคือส่วนผสมเด็ดๆ อย่าง ไฮยาลูรอนที่ช่วยเติมน้ำให้ผิว วิตามินซีที่ช่วยให้ผิวกระจ่างใส และเรตินอลที่ช่วยลดเลือนริ้วรอย พร้อมเคล็ดลับการใช้ครีมให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดค่ะ บทความนี้จะช่วยให้สาวๆ มั่นใจในการเลือกครีมบำรุงผิวหน้าที่ใช่ที่สุดสำหรับคุณ เพื่อให้ผิวสวย สุขภาพดี เปล่งประกายออร่าในทุกๆ วัน
หลักเกณฑ์ที่ใช้ในการจัดอันดับสินค้า
- ครีมบำรุงสำหรับผิวแห้งกระหาย: เราให้ความสำคัญกับเนื้อครีมที่เข้มข้นพิเศษ เพราะเข้าใจดีว่าผิวแห้งต้องการการดูแลเป็นพิเศษ ครีมที่เราเลือกมาต้องไม่ใช่แค่ให้ความชุ่มชื้นธรรมดา แต่ต้องมีส่วนผสมที่ช่วยล็อคความชุ่มชื้นไว้ในผิวได้ตลอดวัน ทำให้ผิวรู้สึกสบาย ไม่ตึง ไม่แห้งกร้าน แถมยังซึมซาบเร็วไม่เหนอะหนะผิวด้วย
- ครีมสูตรบางเบาสำหรับผิวมันวาว: สำหรับเพื่อนๆ ที่มีผิวมัน เราคัดสรรครีมที่มีเนื้อสัมผัสเบาบางดุจน้ำ ซึมซาบไว ไม่ทิ้งความมันบนใบหน้า เพราะเราเข้าใจดีว่าผิวมันต้องการความชุ่มชื้นเช่นกัน แต่ต้องเป็นความชุ่มชื้นที่ไม่เพิ่มความมันให้ผิว ครีมที่เราเลือกจะช่วยให้ผิวชุ่มชื้น สดใส โดยไม่อุดตันรูขุมขน
- ครีมผลัดเซลล์ผิวสำหรับหนุ่มๆ: เราเข้าใจความต้องการของผู้ชายที่อยากดูแลผิวแบบครบสูตรในขั้นตอนเดียว ครีมที่เราคัดมาจึงมีคุณสมบัติ 2 in 1 ทั้งบำรุงและผลัดเซลล์ผิวในตัว ช่วยให้ผิวหน้าดูสดใส ไม่หมองคล้ำ ลดรอยหยาบกร้าน เผยผิวใหม่ที่เนียนกระชับ เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของผู้ชายยุคใหม่
- ครีมปรับสีผิวพร้อมผลัดเซลล์: เรารู้ดีว่าหลายคนกังวลเรื่องผิวหมองคล้ำไม่สม่ำเสมอ ครีมที่เราเลือกมาจึงมีส่วนผสมที่ช่วยทั้งเรื่องผิวกระจ่างใสและผลัดเซลล์ผิวไปพร้อมกัน ด้วยนวัตกรรมล่าสุดที่ช่วยให้ผิวดูสว่างกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมกับกำจัดเซลล์ผิวเก่าที่ทำให้หน้าดูหมองคล้ำ
- ครีมควบคุมสิวพร้อมผลัดเซลล์: เราใส่ใจเป็นพิเศษสำหรับผิวที่มีปัญหาสิว โดยคัดเลือกแบรนด์ที่มีส่วนผสมอ่อนโยน ช่วยจัดการกับสิวอย่างตรงจุด ลดการอักเสบ และผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน ครีมของเราจะช่วยให้ผิวสะอาด กระจ่างใส ไม่อุดตัน โดยไม่ทำให้ผิวแห้งหรือระคายเคือง
- ครีมสูตรอ่อนโยน ปราศจากสารระคายเคือง: เราพิถีพิถันในการเลือกครีมที่ปลอดภัยสำหรับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผิวบอบบางแพ้ง่าย แบรนด์ที่เราลงจัดอันดับ จึงปราศจากน้ำมันและสารที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง ผ่านการทดสอบโดยผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง ให้คุณมั่นใจได้ว่าปลอดภัยแม้กับผิวที่บอบบางที่สุด
- ครีมต้านอนุมูลอิสระเข้มข้น: เราให้ความสำคัญกับการปกป้องผิวจากมลภาวะและสิ่งแวดล้อม ครีมที่เราคัดสรรมาจึงอุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระคุณภาพสูง ช่วยปกป้องผิวจากความเสียหายที่เกิดจากแสงแดด มลภาวะ และความเครียดออกซิเดชัน ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอย ให้ผิวดูอ่อนเยาว์ยาวนาน
- ครีมแบบครบสูตร: เราเข้าใจชีวิตเร่งรีบของคนยุคใหม่ จึงคัดสรรครีมที่ตอบโจทย์การดูแลผิวแบบครบวงจรในขั้นตอนเดียว ทั้งบำรุง ปกป้อง และฟื้นฟู ช่วยประหยัดเวลาแต่ไม่ประหยัดคุณภาพ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการผลลัพธ์ดีๆ แต่มีเวลาจำกัด ครีมของเราจะช่วยให้การดูแลผิวเป็นเรื่องง่ายแต่ได้ผลลัพธ์เกินคาด
1. Cerave Facial Moisturising Lotion
Cerave Facial Moisturising Lotion เป็นโลชั่นบำรุงผิวหน้าที่มอบความชุ่มชื้นยาวนาน ด้วยเทคโนโลยี MVE และสารสำคัญอย่างเซราไมด์และกรดไฮยาลูโรนิกที่ช่วยฟื้นฟูและเสริมสร้างปราการผิว เหมาะสำหรับผิวบอบบางและเป็นสิวง่าย
เนื้อสัมผัส | เจล |
เหมาะสำหรับผิว | ผิวมัน、ผิวผสม、ผิวแพ้ง่าย |
สำหรับทาช่วงเวลา | เช้าและเย็น |
ปริมาณบรรจุ | 52 มล. |
ส่วนผสมหลัก | Niacinamide, Hyaluronic Acid, Ceramide |
ราคา | 635 บาท |
ข้อดี
- ให้ความชุ่มชื้นยาวนานตลอดวัน
- เหมาะสำหรับผิวบอบบางและเป็นสิวง่าย
- ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน
ข้อควรพิจารณา
- เนื้อสัมผัสอาจหนักสำหรับบางคน
- ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการโลชั่นที่ให้ผลลัพธ์เร็ว
Cerave Facial Moisturising Lotion เป็นโลชั่นบำรุงผิวหน้าที่มีสูตรเฉพาะจาก Cerave ซึ่งเน้นให้ความชุ่มชื้นและฟื้นบำรุงผิวหน้าอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยเทคโนโลยี MVE ที่เป็นนวัตกรรมสิทธิบัตรเฉพาะของแบรนด์ ทำให้สามารถมอบความชุ่มชื้นให้กับผิวได้นานตลอดวัน สารสำคัญที่อยู่ในสูตรนี้ เช่น เซราไมด์ ซึ่งเป็นส่วนผสมที่ช่วยเสริมสร้างปราการผิวให้แข็งแรง และกรดไฮยาลูโรนิกที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและคงความชุ่มชื้นให้กับผิว อีกทั้งยังมีไนอาซินาไมด์ที่ช่วยลดเลือนจุดด่างดำและรอยแดงจากสิว พร้อมปลอบประโลมผิวให้ดูเรียบเนียน โลชั่นนี้เป็นสูตรที่ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน (non-comedogenic) ทำให้เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวบอบบางและเป็นสิวง่าย ไม่มีส่วนผสมของน้ำมันและน้ำหอม จึงช่วยลดโอกาสในการเกิดการระคายเคืองหรืออาการแพ้ได้ดี อีกทั้งยังสามารถใช้ควบคู่กับยารักษาสิวได้อย่างปลอดภัย ผลลัพธ์ที่ได้คือผิวที่ชุ่มชื้น แข็งแรง และไม่มันเยิ้ม สามารถใช้ได้ทั้งเช้าและเย็นเพื่อให้ผิวหน้าและลำคอได้รับการบำรุงอย่างเต็มที่
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?
Cerave Facial Moisturising Lotion เป็นผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแห้งหรือผิวบอบบาง เนื่องจากมีสูตรที่เน้นความชุ่มชื้นยาวนานตลอดวันด้วยเทคโนโลยี MVE และเซราไมด์ที่ช่วยเสริมสร้างปราการผิว อีกทั้งยังมีกรดไฮยาลูโรนิกและไนอาซินาไมด์ที่ช่วยบำรุงผิวให้เรียบเนียน ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน เหมาะสำหรับผู้ที่มีสิวง่าย
2. La Roche Posay Effaclar K+
La Roche Posay Effaclar K+ เป็นครีมบำรุงผิวที่ออกแบบมาเพื่อลดความมันและสิวอุดตัน ด้วยส่วนผสมของ Vitamin E และ Salicylic Acid ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวและลดการอุดตันในรูขุมขน เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวมันและปัญหาสิว
เนื้อสัมผัส | เจล |
เหมาะสำหรับผิว | ผิวมัน、ผิวผสม |
สำหรับทาช่วงเวลา | เช้าและเย็น |
ปริมาณบรรจุ | 40 มล. |
ส่วนผสมหลัก | LHA, Salicylic Acid, Vitamin E, Carnosine, Airlicium |
ราคา | 980 บาท |
ข้อดี
- ควบคุมความมันได้ดี
- ลดการอุดตันของรูขุมขน
- ให้ความสดชื่นและชุ่มชื้นต่อเนื่อง
ข้อควรพิจารณา
- ผลลัพธ์อาจไม่เห็นชัดเจนในระยะสั้น
- ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ชอบผลิตภัณฑ์ที่มีกลิ่น
La Roche Posay Effaclar K+ เป็นครีมบำรุงผิวหน้าที่ออกแบบมาเพื่อจัดการกับปัญหาผิวมันและสิวอุดตัน ด้วยส่วนผสมหลักที่ทรงประสิทธิภาพอย่าง Vitamin E และ Carnosine ที่ช่วยลดการผลิตน้ำมันบนผิว พร้อมทั้งปกป้องผิวจากการสูญเสียความชุ่มชื้น นอกจากนี้ ยังมีส่วนผสมของ Airlicium ที่ช่วยควบคุมและดูดซับความมันส่วนเกิน ทำให้ผิวหน้าดูแมตต์และไม่มันเยิ้มตลอดวัน ในขณะเดียวกัน LHA และ Salicylic Acid ช่วยในการผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน ลดการอุดตันในรูขุมขนและป้องกันการเกิดซ้ำของสิว ครีมสูตรนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวมันและปัญหาสิวอุดตันอย่างต่อเนื่อง ด้วยเนื้อฟลูอิดที่ซึมซาบเข้าสู่ผิวได้รวดเร็ว ให้ความสดชื่นและความชุ่มชื้นอย่างต่อเนื่องยาวนาน ผลจากการทดสอบพบว่าหลังใช้เพียงครั้งแรก ผิวรู้สึกสะอาด สดชื่น เสมือนผิวได้รับการดีท็อกซ์ และหลังใช้ต่อเนื่องเป็นเวลา 1 เดือน รูขุมขนกระชับขึ้น สิวอุดตันลดลงอย่างเห็นได้ชัด และผิวแลดูเรียบเนียน สม่ำเสมอมากขึ้น ทั้งนี้ ควรหลีกเลี่ยงการใช้ในเด็กอายุต่ำกว่า 3 ปี สำหรับผู้ที่มีปัญหาสิวและผิวมัน ครีม La Roche Posay Effaclar K+ เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมในการดูแลผิวอย่างอ่อนโยนและมีประสิทธิภาพ
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?
La Roche Posay Effaclar K+ เป็นครีมที่ช่วยควบคุมความมันและลดสิวอุดตันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยส่วนผสมของ Airlicium ที่ควบคุมความมันและ LHA ที่ผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน ทำให้ผิวหน้าดูสะอาดและสดชื่น อีกทั้งยังช่วยลดการอุดตันของรูขุมขน เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวมันและปัญหาสิว
3. LANEIGE Radian-C Cream
LANEIGE Radian-C Cream เป็นครีมบำรุงผิวที่มีนวัตกรรมวิตามินซี ช่วยลดเลือนจุดด่างดำและรอยแดง พร้อมฟื้นฟูผิวให้กระจ่างใสและสม่ำเสมอ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปกป้องผิวจากมลภาวะและแสงแดด
เนื้อสัมผัส | ครีม |
เหมาะสำหรับผิว | ผิวแห้ง、ผิวแพ้ง่าย |
สำหรับทาช่วงเวลา | เช้าและเย็น |
ปริมาณบรรจุ | 30 มล. |
ส่วนผสมหลัก | Vitamin C, Vitamin E, Melasolv |
ราคา | 920 บาท |
ข้อดี
- ฟื้นฟูผิวหมองคล้ำจากแสงแดด
- ลดเลือนจุดด่างดำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- เนื้อครีมบางเบา ซึมซาบเร็ว
ข้อควรพิจารณา
- อาจไม่เหมาะกับผิวมันมาก
- ต้องใช้อย่างต่อเนื่องเพื่อเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน
LANEIGE Radian-C Cream เป็นครีมบำรุงผิวหน้าที่มีนวัตกรรมเฉพาะอย่าง Radian-C Super Blend™ ซึ่งประกอบด้วยอนุพันธ์ของวิตามินซี วิตามินอี และ Melasolv™ ช่วยในการลดเลือนรอยดำ รอยแดง และปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ ครีมสูตรนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวคล้ำเสียจากแสงแดดและมลภาวะ เนื้อครีมเข้มข้นแต่บางเบา ซึมลงสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและฟื้นฟูเกราะป้องกันผิว อีกทั้งยังมีประสิทธิภาพในการปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระ ด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่ทำงานร่วมกันระหว่างวิตามินซีและวิตามินอีเพื่อเพิ่มการปกป้องผิวจากปัจจัยภายนอก เช่น ฝุ่น รังสียูวี และแสงสีน้ำเงิน ครีมนี้ยังช่วยลดเลือนจุดด่างดำที่มองเห็นได้และไม่เห็นบนผิวหน้าอย่างมีประสิทธิภาพ ผิวจึงดูสว่างกระจ่างใสและเรียบเนียนมากยิ่งขึ้น สามารถใช้ได้ทั้งกลางวันและกลางคืนเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นและปกป้องผิวได้ตลอดวัน ครีม LANEIGE Radian-C ได้ผ่านการทดสอบทางผิวหนัง มีความอ่อนโยนและไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวบอบบางและแพ้ง่าย สำหรับผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น ควรใช้ร่วมกับ Radian-C Effector และเซรั่ม เพื่อผิวที่เปล่งปลั่งและกระจ่างใสยิ่งขึ้น
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?
LANEIGE Radian-C Cream ช่วยฟื้นฟูผิวให้กระจ่างใสด้วยส่วนผสมของวิตามินซีและวิตามินอีที่ช่วยลดเลือนจุดด่างดำและรอยแดง อีกทั้งยังช่วยปรับสีผิวให้สม่ำเสมอและปกป้องผิวจากมลภาวะ เนื้อครีมบางเบาและซึมซาบเร็ว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มความกระจ่างใสและความชุ่มชื้นให้ผิว
4. Eucerin Ultrasensitive Aquaporin Nourishing Gel Cream
Eucerin Ultrasensitive Aquaporin Nourishing Gel Cream เป็นครีมเจลบำรุงผิวที่เติมเต็มความชุ่มชื้นอย่างล้ำลึก เหมาะสำหรับผิวมันและบอบบาง ด้วยส่วนผสมที่ช่วยปรับสมดุลความชุ่มชื้นในผิวได้ยาวนานโดยไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน
เนื้อสัมผัส | เจล |
เหมาะสำหรับผิว | ผิวมัน、ผิวผสม、ผิวแพ้ง่าย |
สำหรับทาช่วงเวลา | เช้าและเย็น |
ปริมาณบรรจุ | 50 มล. |
ส่วนผสมหลัก | Aquaporin, Glycerin, Vitamin E, Sodium Hyaluronate, Aminoacetic Acid |
ราคา | 765 บาท |
ข้อดี
- ให้ความชุ่มชื้นอย่างล้ำลึกและยาวนาน
- เนื้อเจลบางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ
- ปราศจากน้ำหอมและพาราเบน เหมาะสำหรับผิวบอบบาง
ข้อควรพิจารณา
- อาจไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลิตภัณฑ์ที่ให้ผลเร็ว
- ผิวมันอาจรู้สึกเหนียวเล็กน้อยหากใช้มากเกินไป
Eucerin Ultrasensitive Aquaporin Nourishing Gel Cream เป็นครีมบำรุงผิวหน้าที่ออกแบบมาเพื่อเติมความชุ่มชื้นอย่างล้ำลึกและยาวนาน ด้วยเทคโนโลยี GG Hydro Booster ที่มีส่วนผสมของ Glyceryl Glucoside ซึ่งช่วยเสริมประสิทธิภาพการทำงานของ Aquaporin ในการส่งผ่านน้ำเข้าสู่เซลล์ผิว ทำให้ผิวชุ่มชื้นได้อย่างทั่วถึงและยาวนาน นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมของ Vitamin E, Glycerin และ Sodium Hyaluronate ที่ช่วยบำรุงผิวและฟื้นฟูความชุ่มชื้น เนื้อครีมเป็นแบบเจลที่บางเบา เกลี่ยง่าย ไม่เหนียวเหนอะหนะ เหมาะสำหรับผู้ที่มีสภาพผิวมันแต่ขาดน้ำ หรือผู้ที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย เพราะปราศจากน้ำหอมและพาราเบน อีกทั้งยังไม่ก่อให้เกิดการอุดตันของรูขุมขน ครีมสูตรนี้ช่วยฟื้นฟูผิวแห้งให้เรียบเนียนและนุ่มขึ้น ลดริ้วรอยที่เกิดจากความแห้งกร้าน พร้อมให้ความชุ่มชื้นนานถึง 24 ชั่วโมง สามารถใช้ได้ทั้งเช้าและก่อนนอนเพื่อการบำรุงผิวที่สมบูรณ์แบบ ครีมนี้เป็นมอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่เหมาะกับทุกสภาพผิว และมีคุณสมบัติที่ช่วยทำให้ผิวหน้าดูสดใสและเนียนนุ่มตลอดวัน
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?
Eucerin Ultrasensitive Aquaporin Nourishing Gel Cream มอบความชุ่มชื้นยาวนานให้กับผิวด้วยเทคโนโลยี GG Hydro Booster ที่ช่วยเสริมการส่งผ่านน้ำเข้าสู่เซลล์ผิว เนื้อครีมบางเบาและไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแห้งแต่บอบบาง ช่วยให้ผิวดูชุ่มชื้นและเรียบเนียนขึ้น
5. innisfree Green Tea Seed Hyaluronic Cream
innisfree Green Tea Seed Hyaluronic Cream ช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นด้วยสารสกัดจากชาเขียว Beauty Green Tea และกรดไฮยาลูโรนิก ช่วยฟื้นฟูเกราะป้องกันผิวและมอบความชุ่มชื้นยาวนาน เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแห้งและขาดน้ำ
เนื้อสัมผัส | ครีม |
เหมาะสำหรับผิว | ผิวแห้ง、ผิวแพ้ง่าย |
สำหรับทาช่วงเวลา | เช้าและเย็น |
ปริมาณบรรจุ | 50 มล. |
ส่วนผสมหลัก | Green Tea, Panthenol, Hyaluronic Acid, Ceramide, Squalane |
ราคา | 729 บาท |
ข้อดี
- เติมความชุ่มชื้นยาวนานถึง 100 ชั่วโมง
- ช่วยฟื้นฟูเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรง
- เนื้อครีมบางเบา ซึมซาบเร็ว เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว
ข้อควรพิจารณา
- อาจไม่เหมาะกับผู้ที่มีผิวมันมาก
- ต้องใช้อย่างต่อเนื่องเพื่อเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน
Innisfree Green Tea Seed Hyaluronic Cream เป็นครีมบำรุงผิวที่มอบความชุ่มชื้นอย่างล้ำลึกด้วยส่วนผสมหลักจากชาเขียว Beauty Green Tea ที่อินนิสฟรีได้พัฒนาขึ้นโดยเฉพาะ ครีมนี้อุดมไปด้วยกรดอะมิโนสูงซึ่งเหมาะสำหรับผิวที่ขาดน้ำ ช่วยเติมเต็มและกักเก็บความชุ่มชื้นให้กับผิวยาวนานถึง 100 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังช่วยเสริมสร้างและซ่อมแซมเกราะป้องกันผิวที่ถูกทำลาย ทำให้ผิวดูแข็งแรงและสุขภาพดี เนื้อครีมบางเบาและซึมซาบเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแห้ง ผิวผสม หรือผิวที่ขาดน้ำ รวมถึงทุกสภาพผิวที่ต้องการเพิ่มความแข็งแรงและความชุ่มชื้น ครีมชาเขียวนี้ยังช่วยให้ผิวดูฉ่ำกระจ่างใส และปกป้องผิวจากสภาวะแวดล้อมที่อาจทำร้ายผิวได้ วิธีการใช้คือทาครีมหลังจากทำความสะอาดผิวหน้าและทาสกินแคร์ในขั้นตอนอื่น ๆ เช่น โทนเนอร์และเซรั่ม โดยทาครีมให้ทั่วทั้งใบหน้าและลำคออย่างสม่ำเสมอ สำหรับผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ควรใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ในไลน์ Green Tea Seed ของ Innisfree เช่นเซรั่มและมาส์กข้ามคืน
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?
innisfree Green Tea Seed Hyaluronic Cream มอบความชุ่มชื้นล้ำลึกให้กับผิวด้วยสารสกัดจากชาเขียวและกรดไฮยาลูโรนิก ช่วยเสริมสร้างเกราะป้องกันผิวและกักเก็บความชุ่มชื้นได้นานถึง 100 ชั่วโมง เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวขาดน้ำและต้องการฟื้นฟูให้ผิวดูสุขภาพดีและฉ่ำวาว
6. Her Hyness Power Glow Pore Refine Cream
Her Hyness Power Glow Pore Refine Cream เป็นครีมบำรุงผิวที่ช่วยลดเลือนจุดด่างดำ รอยสิว และกระชับรูขุมขน ด้วยส่วนผสม Whitening 16 ชนิด ทำให้ผิวดูกระจ่างใสและเรียบเนียน เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวมันและรูขุมขนกว้าง
เนื้อสัมผัส | เจล |
เหมาะสำหรับผิว | ผิวมัน、ผิวผสม、ผิวแพ้ง่าย |
สำหรับทาช่วงเวลา | เช้าและเย็น |
ปริมาณบรรจุ | 30 มล. |
ส่วนผสมหลัก | Citrus Sinensis Fruit, Salix Alba Bark, Glutathione, Niacinamide, Tranexamic Acid, Arbutin |
ราคา | 2,300 บาท |
ข้อดี
- ลดเลือนจุดด่างดำ รอยสิว และฝ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ช่วยกระชับรูขุมขนและลดความมันส่วนเกิน
- เหมาะสำหรับผิวมัน ผิวผสม และผิวแพ้ง่าย
ข้อควรพิจารณา
- ผลลัพธ์อาจไม่เห็นชัดเจนในระยะสั้น
- ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ชอบผลิตภัณฑ์ที่มีเนื้อครีมหนา
Her Hyness Power Glow Pore Refine Cream เป็นครีมบำรุงผิวที่ออกแบบมาเพื่อฟื้นฟูสภาพผิวให้กลับมาดูกระจ่างใส โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาจุดด่างดำ รอยสิว และรูขุมขนกว้าง ด้วยสูตรเฉพาะที่มีส่วนประกอบจาก Whitening ถึง 16 ชนิด ครีมนี้ช่วยลดเลือนจุดด่างดำ ฝ้า กระ และรอยสิวอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเน้นการยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานินและทำให้เม็ดสีอ่อนลง ส่งผลให้ผิวดูสม่ำเสมอและโกลว์ใสอย่างเป็นธรรมชาติ อีกทั้งยังช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดซึ่งเป็นสาเหตุหลักของความหมองคล้ำ นอกจากนี้ยังมีสาร Acnacidol ที่ช่วยกระชับรูขุมขน ลดความมันส่วนเกิน และยับยั้งการเติบโตของแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิว ครีมนี้ยังช่วยลดอาการระคายเคือง จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวมัน ผิวผสม และผิวแพ้ง่าย ด้วยการฟื้นฟู 8 กลไกที่เกี่ยวข้องกับการเกิดจุดด่างดำ ครีมกระปุกเหลืองจาก Her Hyness นี้จะช่วยปลดล็อกผิวให้เปล่งประกายถึง 4 มิติ โดยไม่ทำให้ผิวบาง และยังช่วยป้องกันการเกิดซ้ำของปัญหาผิวอย่างมีประสิทธิภาพ
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?
Her Hyness Power Glow Pore Refine Cream เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวมันและรูขุมขนกว้าง ด้วยส่วนผสมของ Whitening 16 ชนิดที่ช่วยลดเลือนจุดด่างดำ ฝ้า กระ และรอยสิว อีกทั้งยังช่วยกระชับรูขุมขน ลดความมัน และฟื้นฟูผิวให้ดูกระจ่างใสเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวมันและผิวแพ้ง่าย
7. Kiehl's Super Multi-Corrective Cream
Kiehl's Super Multi-Corrective Cream ช่วยยกกระชับผิวและลดเลือนริ้วรอยด้วย Phytomimetic Vitamin A และ Proxylane GX ฟื้นฟูความยืดหยุ่นให้ผิวหน้า เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับสภาพผิวให้เรียบเนียนและกระชับขึ้น
เนื้อสัมผัส | ครีม |
เหมาะสำหรับผิว | ทุกสภาพผิว |
สำหรับทาช่วงเวลา | เช้าและเย็น |
ปริมาณบรรจุ | 50 มล. |
ส่วนผสมหลัก | Phytomimetic Vitamin A, Chaga Mushroom, Proxylane GX |
ราคา | 3,450 บาท |
ข้อดี
- ช่วยเพิ่มการผลิตคอลลาเจนและยกกระชับผิว
- ลดเลือนริ้วรอยและรอยแดงอย่างมีประสิทธิภาพ
- เพิ่มความชุ่มชื้นและฟื้นฟูผิวให้เรียบเนียน
ข้อควรพิจารณา
- ผลลัพธ์อาจใช้เวลานานในการเห็นความเปลี่ยนแปลง
- ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวมันมาก
Kiehl’s Super Multi-Corrective Cream เป็นครีมบำรุงผิวที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มการผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินในผิว ช่วยให้ผิวกระชับและมีความยืดหยุ่น ด้วยส่วนผสมทรงพลังอย่าง Phytomimetic Vitamin A ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน ลดเลือนริ้วรอยร่องตื้น พร้อมด้วย Proxylane GX ที่เป็นนวัตกรรมสิทธิบัตร ช่วยยกกระชับผิวและเพิ่มความอิ่มฟูให้แก่ผิวหน้า นอกจากนี้ยังมีสารสกัดจากเห็ด Chaga Mushroom ซึ่งมีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดรอยแดงและอาการอักเสบของผิว พร้อมปรับสภาพผิวหมองคล้ำให้ดูกระจ่างใสและสม่ำเสมอ ครีมสูตรนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อย ริ้วรอย และผิวแห้งกร้าน ช่วยให้ผิวหน้าเรียบเนียน กระชับขึ้น และดูเปล่งปลั่งมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ครีมนี้ตอบโจทย์การดูแลผิวทั้ง 7 ประการในขั้นตอนเดียว ไม่ว่าจะเป็นการยกกระชับ ลดเลือนริ้วรอย เพิ่มความยืดหยุ่น และฟื้นฟูสภาพผิวให้ดูอ่อนเยาว์
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?
Kiehl’s Super Multi-Corrective Cream ช่วยยกกระชับผิว ลดเลือนริ้วรอย และเพิ่มความยืดหยุ่นให้แก่ผิว ด้วยส่วนผสมของ Phytomimetic Vitamin A และ Proxylane GX ช่วยฟื้นฟูผิวให้เรียบเนียนและดูกระชับขึ้น พร้อมปรับผิวหมองคล้ำให้ดูกระจ่างใส เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย
8. SOME BY MI AHA-BHA-PHA 30Days Miracle Cream
SOME BY MI AHA-BHA-PHA 30Days Miracle Cream เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาสิวและผิวมัน ด้วยส่วนผสมของ AHA, BHA และ PHA ช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ลดการอักเสบ และปรับสมดุลผิวให้ชุ่มชื้นและเรียบเนียนขึ้น
เนื้อสัมผัส | ครีม |
เหมาะสำหรับผิว | ผิวมัน、ผิวผสม |
สำหรับทาช่วงเวลา | เช้าและเย็น |
ปริมาณบรรจุ | 60 มล. |
ส่วนผสมหลัก | Ceramide, Witch Hazel, Salix Alba Bark Extract, Green Tea, Aloe Vera, Centella Asiatica, Niacinamide, Tea Tree |
ราคา | 703 บาท |
ข้อดี
- ผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยนและลดสิวอุดตัน
- ปรับสมดุลความมันและความชุ่มชื้นในผิว
- เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาสิวและผิวมัน
ข้อควรพิจารณา
- อาจทำให้ผิวแห้งได้หากใช้มากเกินไป
- ผลลัพธ์ต้องใช้เวลาต่อเนื่องถึง 30 วัน
SOME BY MI AHA-BHA-PHA 30Days Miracle Cream เป็นครีมบำรุงผิวที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ผู้ที่มีผิวมันและปัญหาสิว โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยนและลดการอักเสบของผิว ครีมสูตรนี้ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ จึงไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง พร้อมด้วยสาร Exfoliate เช่น AHA, BHA และ PHA ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว และสลายความมันที่อุดตันในรูขุมขน ช่วยให้ผิวได้รับการบำรุงอย่างทั่วถึง นอกจากนี้ ยังมีสารสกัดจากธรรมชาติต่างๆ เช่น สารสกัดจากชาเขียว ใบบัวบก และ Witch Hazel ที่ช่วยลดอาการอักเสบ ลดรอยสิว และกระชับรูขุมขน ทำให้ผิวหน้าดูเรียบเนียนและสุขภาพดี ครีมสูตรนี้เหมาะสำหรับการบำรุงผิวที่ต้องการความชุ่มชื้นและปรับสมดุลผิวไปในตัว ด้วยการใช้ต่อเนื่องเพียง 30 วัน ผิวจะดูเปล่งปลั่ง กระจ่างใสขึ้น ลดปัญหาสิวและริ้วรอยอย่างมีประสิทธิภาพ
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?
SOME BY MI AHA-BHA-PHA 30Days Miracle Cream ช่วยลดปัญหาสิวและปรับสมดุลผิว ด้วยส่วนผสมของ AHA, BHA และ PHA ที่ช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ลดการอักเสบ และกระชับรูขุมขน ทำให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น ครีมสูตรนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวมันและปัญหาสิวเรื้อรัง
9. Vichy Normaderm Phytosolution Daily Care
Vichy Normaderm Phytosolution Daily Care ช่วยลดสิวและควบคุมความมันส่วนเกิน ด้วย Salicylic Acid และน้ำแร่ธรรมชาติจาก Vichy ทำให้ผิวหน้าดูใสและปราศจากสิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวมันและเป็นสิวง่าย
เนื้อสัมผัส | น้ำ/โลชั่น |
เหมาะสำหรับผิว | ผิวมัน、ผิวผสม |
สำหรับทาช่วงเวลา | เช้าและเย็น |
ปริมาณบรรจุ | 50 มล. |
ส่วนผสมหลัก | Sarcosinic Acid, Hydrolyzed Algin, Salicylic Acid, Phycosaccharide |
ราคา | 1,070 บาท |
ข้อดี
- ลดสิวอุดตันและควบคุมความมันอย่างมีประสิทธิภาพ
- ปรับสมดุล pH ของผิวและเสริมปราการผิว
- เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวมันและเป็นสิวง่าย
ข้อควรพิจารณา
- ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแห้ง
- อาจต้องใช้ต่อเนื่องเพื่อเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน
Vichy Normaderm Phytosolution Daily Care เป็นครีมบำรุงผิวที่ออกแบบมาเพื่อลดปัญหาสิวและควบคุมความมันส่วนเกิน เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวมันและเป็นสิวง่าย ด้วยส่วนผสมสำคัญอย่าง Salicylic Acid ที่ช่วยขจัดสิ่งสกปรกและสิวอุดตันได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังมี Phycosaccharide ซึ่งช่วยเสริมการควบคุมน้ำมันบนผิวหน้าและลดการอักเสบ อีกทั้งยังผสานพลังน้ำแร่ธรรมชาติ Vichy Mineral Water ที่ช่วยปรับสมดุล pH ของผิวและฟื้นฟูปราการผิวให้แข็งแรง ทำให้ผิวดูสุขภาพดีโดยไม่ทำให้แห้งหรือลอก ครีมสูตรนี้ปลอดจากแอลกอฮอล์ พาราเบน ซิลิโคน และไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน (Non-Comedogenic) ผ่านการทดสอบทางการแพทย์ว่าสามารถลดเลือนสิวและรอยดำจากสิวได้อย่างชัดเจน ทั้งยังช่วยรักษาสมดุลความชุ่มชื้นในผิวตลอด 24 ชั่วโมง เนื้อครีมบางเบาและซึมซาบเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว ช่วยให้ผิวหน้าดูใสและปราศจากสิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?
Vichy Normaderm Phytosolution Daily Care เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวมันและสิวง่าย ด้วย Salicylic Acid ที่ช่วยขจัดสิวอุดตันและลดการอักเสบ พร้อมด้วยน้ำแร่ Vichy ที่ฟื้นฟูปราการผิว ครีมสูตรนี้ไม่ก่อให้เกิดการอุดตันและช่วยควบคุมความมันบนผิวหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
10. Lancome Renergie H.P.N. 300 Peptide Cream
Lancome Renergie H.P.N. 300 Peptide Cream ช่วยฟื้นฟูผิวให้ดูกระชับและลดเลือนริ้วรอย ด้วย Peptide 300 ชนิดและ Hyaluronic Acid ที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิว เนียนนุ่มและอิ่มฟูขึ้นอย่างรวดเร็ว เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มมีริ้วรอย
เนื้อสัมผัส | ครีม |
เหมาะสำหรับผิว | ผิวแห้ง |
สำหรับทาช่วงเวลา | เย็น |
ปริมาณบรรจุ | 50 มล. |
ส่วนผสมหลัก | Peptide, Hyaluronic Acid, Niacinamide |
ราคา | 5,200 บาท |
ข้อดี
- ลดเลือนริ้วรอยร่องตื้นและกระชับผิวอย่างอ่อนโยน
- เพิ่มความชุ่มชื้นและลดความแห้งกร้านของผิว
- ปรับสีผิวให้ดูสม่ำเสมอและเนียนนุ่ม
ข้อควรพิจารณา
- ต้องใช้อย่างต่อเนื่องเพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจน
- อาจไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวมันมาก
Lancome Renergie H.P.N. 300 Peptide Cream เป็นครีมบำรุงผิวหน้าที่ออกแบบมาเพื่อฟื้นฟูผิวให้ดูกระชับและลดเลือนริ้วรอย ด้วยนวัตกรรมล่าสุดจากลังโคมที่ผสานพลังของ Peptide กว่า 300 ชนิด เปปไทด์เหล่านี้ช่วยลดเลือนริ้วรอยร่องตื้นและกระชับผิวอย่างอ่อนโยน จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวบอบบางหรือเริ่มมีริ้วรอยในช่วงแรก ๆ ครีมนี้ยังมีส่วนผสมของ Hyaluronic Acid ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว ลดความแห้งกร้านที่เป็นหนึ่งในสาเหตุของการเกิดริ้วรอย นอกจากนี้ Niacinamide ยังช่วยลดเลือนจุดด่างดำและปรับสีผิวให้ดูสม่ำเสมอ ผลลัพธ์ที่ได้คือผิวหน้าที่ดูอิ่มฟู เนียนนุ่ม และกระชับมากขึ้น โดย 90% ของผู้ใช้รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงภายใน 7 วันหลังใช้ ครีมสูตรนี้จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลผิวอย่างครบถ้วน ทั้งเรื่องความชุ่มชื้น การลดริ้วรอย และการปรับสภาพสีผิวให้ดูเรียบเนียนและอ่อนเยาว์
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?
Lancome Renergie H.P.N. 300 Peptide Cream ช่วยฟื้นฟูผิวให้ดูกระชับและลดเลือนริ้วรอย ด้วย Peptide กว่า 300 ชนิดที่ช่วยปรับผิวให้ดูเรียบเนียนและกระชับขึ้น พร้อมด้วย Hyaluronic Acid ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและลดความแห้งกร้าน ครีมสูตรนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดริ้วรอยและเพิ่มความกระจ่างใสให้แก่ผิว
วิธีเลือกครีมบำรุงผิวหน้าให้เหมาะกับสภาพผิวของคุณ
เรื่องผิวหน้านี่ต้องบอกเลยว่าแต่ละคนไม่เหมือนกันนะคะ บางคนมัน บางคนแห้ง บางคนก็ผสม แถมบางคนยังมีผิวบอบบางแพ้ง่ายอีก การที่เราเลือกครีมให้เหมาะกับผิวตัวเองจะช่วยให้เราได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด โดยที่ไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดการระคายเคืองหรือปัญหาผิวตามมาค่ะ
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการเข้าใจสภาพผิวของตัวเองก่อนนะคะ เพราะครีมบำรุงที่ดีต้องตอบโจทย์ความต้องการของผิวเราจริงๆ ถ้าเราเข้าใจว่าทำไมต้องเลือกครีมให้เหมาะกับสภาพผิว เราก็จะสามารถเลือกผลิตภัณฑ์ที่ใช่สำหรับการบำรุงผิวได้อย่างมั่นใจ
ผิวมัน
ต้องเลือกครีมที่เนื้อบางเบา ไม่อุดตันรูขุมขน และมีคำว่า “Oil-Free” หรือ “Non-Comedogenic” บนฉลากเท่านั้นค่ะ ส่วนผสมที่เป็นมิตรกับผิวมันต้องมีไนอาซินาไมด์ ตัวนี้เลิศมากค่ะ ช่วยคุมมัน กระชับรูขุมขน แถมยังมีซาลิไซลิกแอซิดที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวและป้องกันการอุดตัน พร้อมด้วยว่านหางจระเข้ที่จะช่วยให้ผิวสงบ ลดการอักเสบได้ดีเยี่ยม แนะนำให้ใช้ครีมคุมมันตอนกลางวัน และครีมเติมความชุ่มชื้นแบบบางเบาตอนกลางคืนนะคะ เพื่อให้ผิวสมดุลที่สุด
ผิวแห้ง
สำหรับสาวผิวแห้งทั้งหลาย ผิวของเราต้องการความชุ่มชื้นแบบล้ำลึกค่ะ ต้องมองหาครีมที่มีไฮยาลูรอนิคแอซิด ตัวท็อปในการดึงน้ำเข้าสู่ผิว ผสานกับเซราไมด์ที่จะมาเสริมเกราะปกป้องผิวของเรา และเชียบัตเตอร์ที่จะช่วยบรรเทาอาการระคายเคืองพร้อมล็อคความชุ่มชื้นไว้ตลอดวัน ตอนกลางคืนแนะนำให้ใช้ครีมสูตรเข้มข้นเพื่อฟื้นฟูผิว ส่วนตอนเช้าอย่าลืมเลือกครีมที่มี SPF ด้วยนะคะ จะได้ป้องกันผิวจากการสูญเสียน้ำเพราะแสงแดด
ผิวผสม
มาถึงสาวผิวผสม ผิวของเราต้องการการดูแลแบบพิเศษค่ะ เพราะต้องจัดการทั้งโซนมันและโซนแห้ง พี่แนะนำให้ใช้ครีมที่มีส่วนผสมของว่านหางจระเข้ที่จะช่วยให้ผิวสงบ ไนอาซินาไมด์ที่จะมาช่วยคุมความมัน และกรดแลคติกที่จะผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน ตอนเช้าใช้ครีมเนื้อบางเบา ส่วนตอนกลางคืนเลือกครีมที่ให้ความชุ่มชื้นมากขึ้นหน่อยนะคะ
ผิวแพ้ง่าย
สุดท้ายสำหรับสาวผิวบอบบางแพ้ง่าย ต้องพิถีพิถันเป็นพิเศษนะคะ เลือกครีมสูตรอ่อนโยน ไม่มีน้ำหอม แอลกอฮอล์ และพาราเบนเด็ดขาด มองหาส่วนผสมดีๆ อย่างอโลเวร่าที่จะช่วยลดการอักเสบ เซราไมด์ที่จะมาเสริมเกราะปกป้องผิว และน้ำมันโจโจ้บาที่จะเพิ่มความชุ่มชื้นโดยไม่ทำให้เกิดการอุดตัน และที่สำคัญที่สุด อย่าลืมทดสอบผลิตภัณฑ์ในบริเวณเล็กๆ ก่อนใช้จริงนะคะ และเลือกผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการทดสอบจากแพทย์ผิวหนังเท่านั้น เพื่อความปลอดภัยของผิว
ส่วนผสมสำคัญในครีมบำรุงผิวที่ช่วยลดเลือนริ้วรอย
เมื่อเราอายุมากขึ้น ผิวของเราก็จะเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเป็นริ้วรอยเล็กๆ หรือผิวที่เริ่มหย่อนคล้อย แต่ไม่ต้องกังวลนะคะ เพราะเรามีตัวช่วยดีๆ อย่างครีมบำรุงที่มีส่วนผสมเลิศๆ ที่จะมาช่วยฟื้นฟูผิวของเราให้กลับมาดูอ่อนเยาว์ได้ วันนี้เราจะมาดูกันว่ามีส่วนผสมอะไรบ้างที่ได้รับการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์แล้วว่าช่วยให้ผิวของเราดูสวย เปล่งประกาย น่าหลงใหล
เรตินอล (Retinol)
เริ่มกันที่ตัวดังอย่างเรตินอลค่ะ ถ้าพูดถึงการชะลอวัย ต้องยกให้เป็นควีนเลยนะคะ เพราะเรตินอลช่วยกระตุ้นการผลิตเซลล์ผิวใหม่และเพิ่มคอลลาเจนให้ผิวได้อย่างเทพ ริ้วรอยเล็กๆ ก็จะค่อยๆ จางลง ผิวหน้าจะดูเด้ง กระจ่างใส เนียนกริบ แต่มีข้อควรระวังนิดนึงนะคะ แนะนำให้เริ่มใช้จากความเข้มข้นต่ำๆ ก่อน และใช้ตอนกลางคืนเท่านั้น อย่าลืมทาครีมกันแดดตอนเช้าด้วยนะคะ เพื่อป้องกันการระคายเคืองผิว
วิตามินซี (Vitamin C)
ต่อกันที่วิตามินซีค่ะ ถือเป็นฮีโร่ตัวจริงในการปกป้องผิวจากแสงแดดและมลภาวะเลยนะคะ นอกจากจะช่วยให้ผิวกระจ่างใส จุดด่างดำจางลงแล้ว ยังช่วยกระตุ้นคอลลาเจนให้ผิวดูเต่งตึง สดใส มีออร่า ใครที่อยากผิวสวยแบบธรรมชาติ ต้องมีวิตามินซีติดบ้านไว้เลยค่ะ
ไฮยาลูรอนิคแอซิด (Hyaluronic Acid)
มาถึงไอเท็มสุดปังที่สาวๆ ต้องมีติดบ้านอย่างไฮยาลูรอนิคแอซิดค่ะ ตัวนี้เป็นเหมือนเครื่องดื่มชั้นดีให้กับผิวเลย เพราะช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น ทำให้ผิวดูอิ่มน้ำ เด้งดึ๋ง ยืดหยุ่นดี ริ้วรอยก็ดูตื้นขึ้น และที่เลิฟมากๆ คือใช้ได้กับทุกสภาพผิว แถมยังมิกซ์แอนด์แมทช์กับส่วนผสมอื่นๆ ได้ดีอีกด้วยค่ะ
เปปไทด์ (Peptides)
ปิดท้ายด้วยเปปไทด์ค่ะ ถือเป็นอีกหนึ่งส่วนผสมที่ช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์ เพราะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินให้ผิว ทำให้ผิวดูกระชับ เรียบเนียน ยิ่งใช้เป็นประจำ ผิวก็จะยิ่งดูสวย เปล่งประกาย ดูมีสุขภาพดีค่ะ
“เรตินอล” ตัวช่วยเนรมิตผิวสวยของเราให้อิ่มฟูขึ้น
เรตินอล หรืออนุพันธ์วิตามินเอ เป็นส่วนผสมที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในการบำรุงผิวหน้า เนื่องจากมีประสิทธิภาพสูงในการเสริมสร้างคอลลาเจนและช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิวใหม่ ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์และลดเลือนริ้วรอยอย่างเห็นได้ชัด เรตินอลช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนซึ่งเป็นโปรตีนสำคัญที่ทำให้ผิวเต่งตึงและเรียบเนียน นอกจากนี้ยังช่วยให้ผิวดูสว่างใสขึ้นและปรับสภาพสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอได้ดี ผู้ที่เริ่มมีริ้วรอยหรือมีปัญหาผิวหมองคล้ำสามารถใช้ครีมบำรุงผิวที่มีเรตินอลเพื่อคืนความยืดหยุ่นให้กับผิวและป้องกันการเกิดริ้วรอยใหม่
การใช้ครีมที่มีเรตินอลควรเริ่มใช้ในปริมาณเล็กน้อยและค่อย ๆ เพิ่มขึ้น เพื่อให้ผิวปรับตัวได้ดีขึ้นและไม่เกิดการระคายเคือง การใช้ควรอยู่ในช่วงกลางคืนเพื่อให้เรตินอลทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในระหว่างที่ผิวพักผ่อน หากสนใจผลิตภัณฑ์ที่มีเรตินอล สำหรับการเลือกซื้อ 10 อันดับ เรตินอลที่ดีที่สุด ควรเริ่มจากความเข้มข้นที่ต่ำ เช่น 0.25%-0.5% สำหรับผู้เริ่มต้น เพื่อให้ผิวปรับตัวได้ดี เลือกสูตรที่มีส่วนผสมของสารบำรุงอย่างไฮยาลูรอนิคแอซิดหรือเซราไมด์เพื่อลดการระคายเคือง และควรใช้เรตินอลในช่วงกลางคืนเท่านั้น
เคล็ดลับการใช้ครีมบำรุงผิวหน้าให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
1. ทาครีมตอนผิวชุ่มชื้น
คุณรู้มั้ยว่าการทาครีมตอนผิวยังชุ่มๆ หลังล้างหน้าหรือใช้โทนเนอร์นั้นเป็นเคล็ดลับสุดพิเศษที่ช่วยให้ผิวของเราดูดซึมครีมได้ดีขึ้นมากๆ เลยนะคะ เพราะผิวที่ชุ่มชื้นจะทำหน้าที่เหมือนฟองน้ำนุ่มๆ ที่พร้อมดูดซับสารบำรุงทุกหยดเข้าสู่ผิวอย่างล้ำลึก ดังนั้นหลังล้างหน้าหรือใช้โทนเนอร์เสร็จ อย่าปล่อยให้ผิวแห้งก่อนนะคะ รีบทาครีมบำรุงทันทีเลย แต่ถ้ารู้สึกว่าผิวแห้งไปแล้ว แนะนำให้ฉีดมิสต์หรือแพะน้ำตบเบาๆ ก่อนทาครีมค่ะ
2. นวดหน้าเบาๆ ระหว่างทาครีม
ขั้นตอนนี้สำคัญมากๆ นะคะ การนวดหน้าเบาๆ ขณะทาครีมไม่ได้แค่ช่วยให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น แต่ยังทำให้ผิวดูดซึมครีมได้ดีขึ้นด้วยค่ะ ใช้ปลายนิ้วนวดเป็นวงกลมเบาๆ ที่แก้ม หน้าผาก และคาง แต่อย่าออกแรงกดมากเกินไปนะคะ เพราะอาจทำให้ผิวระคายเคืองได้ นวดจากกลางหน้าออกด้านข้างเพื่อกระตุ้นการไหลเวียน และสำหรับบริเวณรอบดวงตา ให้ใช้ปลายนิ้วแตะเบาๆ เพื่อลดอาการบวมและช่วยให้ครีมซึมซาบได้ดียิ่งขึ้นค่ะ
3. เลือกครีมให้เหมาะกับเวลา
สาวๆ ต้องรู้นะคะว่า ครีมกลางวันและกลางคืนมีหน้าที่ต่างกันค่ะ ตอนกลางวันเราต้องการครีมที่มี SPF 30 ขึ้นไป เพื่อปกป้องผิวสวยจากแสงแดดและมลภาวะ ส่วนตอนกลางคืน เราต้องการครีมที่มีส่วนผสมฟื้นฟูผิว อย่างเช่น เรตินอล เปปไทด์ หรือไนอาซินาไมด์ ที่จะช่วยซ่อมแซมผิวในยามที่เรานอนหลับพักผ่อน โดยเฉพาะสาวๆ ที่กังวลเรื่องริ้วรอย แนะนำให้ใช้ครีมกลางคืนที่มีส่วนผสมเข้มข้นเพื่อการบำรุงที่ล้ำลึกค่ะ
4. ใช้ครีมแต่พอดี
หลายคนอาจคิดว่ายิ่งทาครีมเยอะ ผิวยิ่งสวย แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่เลยค่ะ การใช้ครีมในปริมาณที่พอเหมาะจะช่วยให้ผิวได้รับการบำรุงอย่างเต็มที่โดยไม่ทำให้รูขุมขนอุดตัน สำหรับครีมบำรุงผิวหน้า ใช้แค่ปริมาณเท่าเม็ดถั่วเล็กๆ ก็พอแล้วค่ะสำหรับทั้งใบหน้าและลำคอ อย่าทาเยอะเกินไปนะคะ เพราะอาจทำให้ผิวมันและเกิดสิวได้ โดยเฉพาะครีมที่มีส่วนผสมเข้มข้นอย่างเรตินอล แนะนำให้เริ่มจากปริมาณน้อยๆ ก่อน แล้วค่อยๆ เพิ่มขึ้นเมื่อผิวเริ่มชินค่ะ
อัปเกรดการบำรุงผิวให้ปังขึ้นไปอีกด้วย Setting Spray
เราจะมาแชร์เทคนิคเด็ดที่จะช่วยให้ผิวสวยฉ่ำวาวแบบเซเลบกันนะคะ นั่นก็คือการใช้ Setting Spray คู่กับครีมบำรุงผิวหน้านั่นเองค่ะ หลายคนอาจจะคิดว่า Setting Spray ใช้แค่เซ็ตเมคอัพให้ติดทนใช่ไหมคะ? แต่จริงๆ แล้วตัวนี้เค้าเก่งกว่านั้นอีกนะคะ เพราะนอกจากจะช่วยล็อคเมคอัพแล้ว ยังช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้ผิวสวยเปล่งประกายตลอดวันด้วยค่ะ
วิธีใช้ก็ง่ายมากๆ เลยค่ะ หลังจากที่เราทาครีมบำรุงเสร็จ ก็แค่ฉีด Setting Spray เบาๆ ให้ทั่วใบหน้า แค่นี้ก็จะช่วยให้ครีมบำรุงซึมลึกเข้าสู่ผิว ล็อคความชุ่มชื้น ผิวจะดูฉ่ำวาว สุขภาพดีแบบไม่ต้องคอยทาซ้ำให้เสียเวลาเลยค่ะ สำหรับการเลือก Setting Spray พี่แนะนำให้ดูส่วนผสมด้วยนะคะ ควรมีสารบำรุงผิวอย่างวิตามินอี หรือสารต้านอนุมูลอิสระ จะได้ทั้งบำรุงและปกป้องผิวไปพร้อมๆ กัน สาวๆ สามารถเช็คเพิ่มเติมได้ที่ 10 Setting Spray ยอดนิยม ที่พี่ได้รวบรวมไว้ให้ค่ะ และอย่าลืมเลือกให้เหมาะกับสภาพผิวของเรานะคะ ถ้าผิวมันก็เลือกสูตรคุมมัน ผิวแห้งก็ไปทางไฮยาลูรอน แถมถ้าได้ตัวที่มีวิตามินอีหรือสารต้านอนุมูลอิสระด้วย รับรองว่าผิวสวยปังแบบยาวๆ แน่นอนค่ะ
คำถามที่พบบ่อย
1. ครีมบำรุงผิวหน้าควรใช้ในช่วงเวลาไหน?
ครีมบำรุงผิวหน้าควรใช้ในช่วงเช้าและก่อนนอน โดยในช่วงเช้าควรเลือกครีมที่มีสารกันแดด ส่วนในตอนกลางคืนควรใช้ครีมที่เข้มข้นและเน้นการฟื้นฟูผิว
2. ครีมบำรุงผิวหน้าแบบไหนเหมาะสำหรับผิวมัน?
สำหรับผิวมัน ควรเลือกครีมที่มีเนื้อสัมผัสบางเบา ไม่มีน้ำมัน และช่วยควบคุมความมัน เพื่อลดการอุดตันของรูขุมขนและป้องกันการเกิดสิว
3. ควรเลือกครีมบำรุงผิวหน้าที่มีส่วนผสมอะไรเพื่อช่วยลดเลือนริ้วรอย?
ควรเลือกครีมที่มีส่วนผสมของเรตินอล วิตามินซี หรือเปปไทด์ ซึ่งช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนและลดเลือนริ้วรอยอย่างมีประสิทธิภาพ
4. สามารถใช้ครีมบำรุงผิวร่วมกับผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ได้หรือไม่?
สามารถใช้ครีมบำรุงผิวร่วมกับผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ได้ เช่น โทนเนอร์ เซรั่ม และ Setting Spray เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบำรุงผิว