หลักเกณฑ์ที่ใช้ในการจัดอันดับสินค้า
- การเลือกเครื่องเล่นแผ่นเสียงจากชุดเครื่องเสียง: เครื่องเล่นแผ่นเสียงที่มาพร้อมกับชุดเครื่องเสียงสมบูรณ์มักให้คุณภาพเสียงที่สมดุลและใช้งานง่าย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกสบายและการผสมผสานที่ลงตัวกับส่วนประกอบเสียงอื่น ๆ โดยเฉพาะแบรนด์ที่เชี่ยวชาญด้านชุดเครื่องเสียง ซึ่งมักผลิตเครื่องเล่นแผ่นเสียงที่ให้เสียงคุณภาพสูงและรองรับการใช้งานที่หลากหลาย
- จุดประสงค์ในการใช้งาน: ความต้องการของผู้ใช้งานแต่ละคนแตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่ที่ต้องการเครื่องเล่นที่ใช้งานง่าย, ดีเจที่มองหาเครื่องเล่นประสิทธิภาพสูง, หรือผู้หลงใหลในเสียงเพลงที่ต้องการคุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยม เราจัดอันดับโดยพิจารณาถึงความสามารถของเครื่องเล่นแต่ละรุ่นในการตอบสนองจุดประสงค์เฉพาะเหล่านี้
- สเปกและคุณสมบัติ: คุณสมบัติทางเทคนิคเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อคุณภาพเสียง วัสดุที่ใช้ เช่น อะลูมิเนียม ทองเหลือง หรืออะคริลิก ส่งผลต่อความเสถียรและเสียงที่ได้ โทนอาร์มแบบตรงหรือแบบโค้งช่วยตอบสนองสไตล์การเล่นที่ต่างกัน หัวเข็มแบบ MM, MC, หรือเซรามิกมีเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ และความเร็วที่รองรับ เช่น 33 1/3 RPM, 45 RPM หรือ 78 RPM ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการเล่นแผ่นเสียงหลากหลาย
- การเชื่อมต่อที่รองรับ: เครื่องเล่นแผ่นเสียงสมัยใหม่รองรับการเชื่อมต่อที่หลากหลาย เช่น USB Output สำหรับบันทึกเสียงเป็นดิจิทัล, Bluetooth สำหรับการเชื่อมต่อไร้สาย และ Phono/Line Output สำหรับระบบเสียงดั้งเดิม เราให้ความสำคัญกับเครื่องที่รองรับการเชื่อมต่อหลากหลายและมีคุณภาพ เพื่อให้สามารถใช้งานกับอุปกรณ์เสียงต่าง ๆ ได้อย่างราบรื่น
- ความน่าเชื่อถือของแบรนด์: ชื่อเสียงของแบรนด์เป็นสิ่งสำคัญในการเลือกซื้อ เราพิจารณาจากประวัติของแบรนด์ในวงการเครื่องเสียง ความคิดเห็นจากผู้ใช้จริง และระยะเวลาการรับประกัน เพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะได้รับเครื่องเล่นแผ่นเสียงที่คุ้มค่าและน่าเชื่อถือ
1. Audio Technica AT-LP60XUSB
Audio Technica AT-LP60XUSB เป็นเครื่องเล่นแผ่นเสียงที่ทำงานได้ทั้งระบบอนาล็อกและดิจิตอล มีการเชื่อมต่อผ่านสาย RCA และพอร์ต USB ทำให้ใช้งานได้หลากหลายและสะดวกสบายในทุกสถานการณ์
ขนาด | 359.5 x 97.5 x 373.3 มม. |
กลไกการหมุน | Belt Driven |
ความเร็วที่รองรับ | 33 – 1/3 RPM และ 45 RPM |
ราคา | 5,990 บ |
ข้อดี
- ใช้งานได้ทั้งระบบอนาล็อกและดิจิตอล
- เชื่อมต่อผ่านพอร์ต USB และสาย RCA
- ดีไซน์เรียบหรูเข้ากับทุกสไตล์
ข้อควรพิจารณา
- ไม่มีฟังก์ชัน Bluetooth
- หัวเข็มไม่สามารถปรับระดับได้
Audio Technica AT-LP60XUSB เป็นเครื่องเล่นแผ่นเสียงที่ทำงานได้ทั้งระบบอนาล็อกและดิจิตอล ด้วยความสามารถในการเชื่อมต่อผ่านสาย RCA และพอร์ต USB ทำให้คุณสามารถฟังเพลงจากแผ่นเสียงผ่านลำโพง คอมพิวเตอร์ หรือเครื่องเสียงอื่น ๆ ได้อย่างสะดวกสบาย ตัวเครื่องมีดีไซน์เรียบหรูที่เข้ากับทุกสไตล์ของห้อง จานหมุนของเครื่องเป็นระบบสายพานอัตโนมัติที่ปรับความเร็วได้ 2 ระดับ คือ 33-1/3 RPM และ 45 RPM โดยตัวจานหมุนทำจากอะลูมิเนียมหล่อขึ้นรูปที่เบาและหมุนได้อย่างไม่สะดุด พร้อมแผ่นรองป้องกันการสั่นของแผ่นไวนิล ฐานโทนอาร์มและหัวเข็มได้รับการออกแบบใหม่เพื่อรองรับการหมุนได้ดีและลดเสียงสะท้อน หัวเข็มโฟโนแบบ Dual Magnet™ มาพร้อมปลายหัวเข็มที่ถอดเปลี่ยนได้ ตัวเครื่องใช้อะแดปเตอร์จากภายนอกเพื่อลดเสียงรบกวน สัญญาณเสียงที่ได้สามารถปรับเป็นแบบ Phono เพื่อใช้งานกับหูฟังหรือแบบต่อสายแจ็คขนาด 3.5 มม. เพื่อการใช้งานที่หลากหลาย มั่นใจได้ด้วยการรับประกันศูนย์ไทย 1 ปี
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?
Audio Technica AT-LP60XUSB เป็นเครื่องเล่นแผ่นเสียงที่ทำงานได้ทั้งระบบอนาล็อกและดิจิตอล ด้วยการเชื่อมต่อผ่านสาย RCA และพอร์ต USB ทำให้ใช้งานง่ายและสะดวก ตัวเครื่องมีดีไซน์เรียบหรูและจานหมุนอะลูมิเนียมที่ทนทาน มีระบบสายพานอัตโนมัติปรับความเร็วได้ 2 ระดับ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการคุณภาพเสียงดีและการใช้งานที่หลากหลาย
2. Numark PT01 Scratch Portable Turntable
Numark PT01 Scratch Portable Turntable เป็นเครื่องเล่นแผ่นเสียงพกพาที่เหมาะสำหรับดีเจและผู้ชื่นชอบการสแครช ด้วยฟังก์ชันการปรับความเร็ว 3 ระดับ และการปรับเสียง Pitch และ Tone อย่างอิสระ ทำให้สร้างเสียงที่ต้องการได้อย่างง่ายดาย
ขนาด | 11.9 x 11.9 x 4 นิ้ว |
กลไกการหมุน | Belt Driven |
ความเร็วที่รองรับ | 33 1/3, 45 และ 78 RPM |
ราคา | 6,590 บาท |
ข้อดี
- ฟังก์ชันปรับความเร็ว 3 ระดับ
- สามารถปรับ Pitch และ Tone ได้
- ลำโพงในตัวและใช้งานด้วยถ่าน
ข้อควรพิจารณา
- ไม่รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth
- ขนาดเล็กอาจไม่ทนทานมาก
Numark PT01 Scratch Portable Turntable เป็นเครื่องเล่นแผ่นเสียงที่เหมาะสำหรับดีเจหรือผู้ที่ชื่นชอบการสแครชแผ่น เนื่องจากมีฟังก์ชันการปรับความเร็วจานหมุนได้ 3 ระดับ สามารถปรับระดับเสียง, Pitch และ Tone ได้อย่างอิสระ ทำให้สามารถสร้างเสียงที่ต้องการได้อย่างง่ายดาย แม้ว่าจะมีฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย แต่การควบคุมก็ทำได้ง่าย และฟังก์ชันพื้นฐานก็ทำงานได้อย่างราบลื่น มือใหม่ก็สามารถใช้งานได้อย่างไม่ยากลำบาก ดีไซน์ของเครื่องเล่นแผ่นเสียงรุ่นนี้ดูโฉบเฉี่ยวและสวยงาม ตัวเครื่องมีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา ทำให้สามารถพกพาไปวางตามจุดต่าง ๆ ได้อย่างสะดวก นอกจากนี้ยังมีลำโพงในตัว ทำให้ไม่ต้องพกพาลำโพงเพิ่มเติม และยังสามารถใช้ถ่านในการเล่นเพลงได้ เพิ่มความสะดวกในการใช้งานกลางแจ้งได้อีกด้วย ฟังก์ชันพิเศษคือมีพอร์ต USB ที่ช่วยให้คุณเชื่อมต่ออุปกรณ์เข้ากับคอมพิวเตอร์เพื่อทำการอัดเสียงได้ เครื่องเล่นแผ่นเสียง Numark PT01 Scratch Portable Turntable with DJ Scratch Switch รับประกันศูนย์ไทย 1 ปี
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?
Numark PT01 Scratch Portable Turntable เป็นเครื่องเล่นแผ่นเสียงที่เหมาะสำหรับดีเจหรือผู้ที่ชื่นชอบการสแครชแผ่น มีฟังก์ชันการปรับความเร็วจานหมุนได้ 3 ระดับ และสามารถปรับระดับเสียง, Pitch และ Tone ได้อย่างอิสระ ตัวเครื่องมีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา และมีลำโพงในตัว ทำให้พกพาสะดวกและใช้งานได้ทุกที่ พร้อมพอร์ต USB สำหรับการอัดเสียง
3. Pioneer DJ PLX-500-W High-Torque Direct-Drive Turntable
Pioneer DJ PLX-500-W High-Torque Direct-Drive Turntable เป็นเครื่องเล่นแผ่นเสียงที่เหมาะทั้งสำหรับการฟังเพลงและการใช้งานดีเจ มีการปรับความสูงของตัวอาร์ม รองรับโฟโนและแผ่นเสียงความเร็ว 45 RPM พร้อมดีไซน์สวยงามและประสิทธิภาพการทำงานสูง
ขนาด | 17.72 x 14.49 x 6.26 นิ้ว |
กลไกการหมุน | Direct Driven |
ความเร็วที่รองรับ | 33⅓, 45, 78 RPM |
ราคา | 13,900 บาท |
ข้อดี
- ปรับความสูงของตัวอาร์มได้
- รองรับแผ่นเสียงความเร็ว 45 RPM
- ดีไซน์สวยงามและทนทาน
ข้อควรพิจารณา
- ไม่มีฟังก์ชันการเชื่อมต่อ Bluetooth
- ไม่รองรับการเล่นแผ่นเสียง 78 RPM
Pioneer DJ PLX-500-W High-Torque Direct-Drive Turntable เป็นเครื่องเล่นแผ่นเสียงที่ตอบโจทย์ทั้งการฟังเพลงและการใช้งานในสายดีเจ ไม่ว่าจะเป็นการสแครชหรือมิกซ์เสียง รุ่นนี้อยู่ในซีรีส์ PLX ของ Pioneer ซึ่งเป็นแบรนด์เครื่องเสียงที่มีชื่อเสียงในการผลิตเครื่องเสียงคุณภาพสูง ตัวเครื่องออกแบบมาให้สามารถใช้งานได้อย่างรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นการฟังเพลงจากแผ่นเสียงตามปกติหรือการใช้ในการสแครชและมิกซ์เสียง จุดเด่นของรุ่นนี้คือตัวอาร์มสามารถปรับความสูงได้ตามต้องการ ทำให้รองรับการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เสริมได้หลากหลาย นอกจากนี้ยังรองรับโฟโนและมีอะแดปเตอร์สำหรับแผ่นเสียงความเร็ว 45 RPM พร้อมกับปุ่มปรับแรงดันไฟเพื่อเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน เครื่องเล่นแผ่นเสียงรุ่นนี้มาพร้อมกับดีไซน์ที่สวยงามและประสิทธิภาพการทำงานสูง ทำให้เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าไม่ว่าจะใช้ฟังเพลงหรือใช้งานในสายดีเจก็ตาม
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?
Pioneer DJ PLX-500-W High-Torque Direct-Drive Turntable เป็นเครื่องเล่นแผ่นเสียงที่ตอบโจทย์ทั้งการฟังเพลงและการใช้งานในสายดีเจ ด้วยความสามารถในการสแครชและมิกซ์เสียง ตัวอาร์มสามารถปรับความสูงได้ รองรับโฟโนและมีอะแดปเตอร์สำหรับแผ่นเสียงความเร็ว 45 RPM ดีไซน์สวยงามและประสิทธิภาพการทำงานสูง เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับทุกการใช้งาน
4. Gadhouse Brad Retro Edition MK II
Gadhouse Brad Retro Edition MK II เป็นเครื่องเล่นแผ่นเสียงที่ผสมผสานดีไซน์วินเทจและเรโทร มาพร้อมลำโพงสเตอริโอในตัวและการเชื่อมต่อบลูทูธ มีแบตเตอรี่ในตัวใช้งานได้ 4 ชั่วโมง และระบบขับเคลื่อนสายพานพร้อมหัวเข็ม Ruby Stylus ที่ให้เสียงคุณภาพสูง
ขนาด | 12.99 x 11.02 x 4.52 นิ้ว |
กลไกการหมุน | Belt Driven |
ความเร็วที่รองรับ | แผ่นเสียงทุกขนาด |
ราคา | 5,700 บาท |
ข้อดี
- ลำโพงสเตอริโอในตัว
- เชื่อมต่อบลูทูธและมีแบตเตอรี่ในตัว
- ดีไซน์วินเทจและเรโทร
ข้อควรพิจารณา
- อาจไม่เหมาะกับการใช้งานหนัก
- คุณภาพเสียงไม่เท่าตัวระดับสูง
Gadhouse Brad Retro Edition MK II เป็นเครื่องเล่นแผ่นเสียงที่ผสมผสานดีไซน์วินเทจและเรโทรเข้าด้วยกันอย่างลงตัว มีให้เลือกถึง 5 สี ได้แก่ Green, Gray, Ivory, Tangerine และ Navy ทำให้เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการตกแต่งบ้านสไตล์วินเทจ ตัวเครื่องเล่นแผ่นเสียงรุ่นนี้ออกแบบมาให้ใช้งานง่าย เหมาะสำหรับมือใหม่ มาพร้อมกับลำโพงสเตอริโอไดนามิกในตัวและรองรับการเชื่อมต่อผ่านสายแจ๊ก 3.5 มม. รวมถึงบลูทูธ ทำให้สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้หลากหลาย นอกจากนี้ Brad Retro Edition MK II ยังมีแบตเตอรี่ในตัวที่สามารถใช้งานได้สูงสุด 4 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และยังสามารถพกพาไปใช้งานนอกบ้านได้อีกด้วย ตัวเครื่องมีระบบขับเคลื่อนสายพานและหัวเข็มแบบ Ruby Stylus ที่ให้เสียงที่มีคุณภาพสูง พร้อมกับสปีดการเล่นที่สามารถปรับได้ 3 ระดับ คือ 33⅓, 45 และ 78 รอบต่อนาที รองรับการใช้งานกับแผ่นเสียงทุกขนาด ไม่ว่าจะเป็น 7”, 10” หรือ 12” Gadhouse Brad Retro Edition MK II ยังมีการรับประกันศูนย์ไทย 1 ปี ทำให้มั่นใจในคุณภาพและการใช้งานได้เป็นอย่างดี
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?
Gadhouse Brad Retro Edition MK II เป็นเครื่องเล่นแผ่นเสียงที่ผสมผสานดีไซน์วินเทจและเรโทรเข้าด้วยกัน มีให้เลือกถึง 5 สี เหมาะสำหรับการตกแต่งบ้านและใช้งานง่าย มาพร้อมลำโพงสเตอริโอไดนามิกในตัวและรองรับการเชื่อมต่อผ่านสายแจ๊ก 3.5 มม. และบลูทูธ มีแบตเตอรี่ในตัวที่ใช้งานได้สูงสุด 4 ชั่วโมง และระบบขับเคลื่อนสายพานให้เสียงคุณภาพสูง
5. Pioneer DJ PLX-1000 - Professional Turntable
Pioneer DJ PLX-1000 เป็นเครื่องเล่นแผ่นเสียงพรีเมียมสำหรับดีเจมืออาชีพ โดดเด่นด้วยฟังก์ชัน Quartz Lock ที่ควบคุมการหมุนอย่างเสถียร และระบบขับเคลื่อนแบบ High-Torque Direct Drive ที่มั่นคง พร้อมการควบคุมความเร็ว Multi-Tempo
ขนาด | 17.83 x 13.9 x 6.26 นิ้ว |
กลไกการหมุน | Direct Driven |
ความเร็วที่รองรับ | 33⅓ – 45 RPM |
ราคา | 27,900 บาท |
ข้อดี
- ฟังก์ชัน Quartz Lock ควบคุมการหมุน
- ระบบขับเคลื่อน High-Torque Direct Drive
- ควบคุมความเร็ว Multi-Tempo
ข้อควรพิจารณา
- อาจซับซ้อนสำหรับมือใหม่
- ขนาดใหญ่และหนัก
Pioneer DJ PLX-1000 เป็นเครื่องเล่นแผ่นเสียงระดับพรีเมียมที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ดีเจมืออาชีพและผู้ที่ชื่นชอบการสแครชแผ่นเพื่อสร้างสรรค์เสียงใหม่ ๆ โดยเฉพาะ โดดเด่นด้วยฟังก์ชัน Quartz Lock ที่ช่วยควบคุมการหมุนอย่างเสถียรและมั่นคงกว่าปกติ ทำให้สามารถจัดการกับแผ่นเสียงได้ด้วยความเร็วที่ต่างกันได้สะดวก พร้อมฟังก์ชันรีเซ็ตค่าต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย เสียงที่ได้จากเครื่องเล่นแผ่นเสียงรุ่นนี้มีความชัดเจนและคุณภาพเทียบเท่ากับเสียงที่เปิดในคลับ นอกจากนี้ยังมีระบบขับเคลื่อนแบบ High-Torque Direct Drive ที่มั่นคงและสามารถหมุนได้ถึงความเร็ว 33⅓ rpm ภายในเวลาเพียง 0.3 วินาที พร้อมการควบคุมความเร็วแบบ Multi-Tempo ที่สามารถปรับได้ถึง ±8%, ±16% และ ±50% ตัวเครื่องถูกออกแบบมาให้ลดการสั่นสะเทือนได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อให้การเล่นแผ่นเสียงเป็นไปอย่างราบรื่น แม้จะมีฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย แต่ก็ใช้งานได้ง่ายและเป็นมิตรกับผู้ใช้ รวมถึงดีเจมือใหม่ก็สามารถนำมาใช้งานได้เช่นกัน มาพร้อมการรับประกันศูนย์ไทย 1 ปี
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?
Pioneer DJ PLX-1000 เป็นเครื่องเล่นแผ่นเสียงระดับพรีเมียมสำหรับดีเจมืออาชีพ โดดเด่นด้วยฟังก์ชัน Quartz Lock ที่ช่วยควบคุมการหมุนอย่างเสถียรและมั่นคง พร้อมฟังก์ชันรีเซ็ตค่า ระบบขับเคลื่อนแบบ High-Torque Direct Drive และการควบคุมความเร็วแบบ Multi-Tempo ใช้งานง่ายและมีประสิทธิภาพสูง เหมาะสำหรับการสแครชและมิกซ์เสียง
6. JBL Spinner BT
JBL Spinner BT เป็นเครื่องเล่นแผ่นเสียงที่ให้คุณภาพเสียงระดับ Hi-Res และการเชื่อมต่อบลูทูธได้อย่างรวดเร็ว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเสียงคุณภาพสูงและความสะดวกสบายในการใช้งาน
ขนาด | 17.12 x 14.48 x 6.1 นิ้ว |
กลไกการหมุน | Belt Driven |
ความเร็วที่รองรับ | 45 RPM |
ราคา | 19,899 บาท |
ข้อดี
- การเชื่อมต่อบลูทูธที่รวดเร็ว
- คุณภาพเสียง Hi-Res ด้วย AptX-HD
- ตัวอาร์มและจานหมุนทำจากวัสดุคุณภาพ
ข้อควรพิจารณา
- ไม่มีลำโพงในตัว
- ราคาสูงกว่าบางรุ่น
JBL Spinner BT เป็นเครื่องเล่นแผ่นเสียงที่ออกแบบมาให้ใช้งานง่ายและให้คุณภาพเสียงในระดับ Hi-Res เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเสียงที่มีคุณภาพสูงและการใช้งานที่สะดวกสบาย เครื่องเล่นแผ่นเสียงรุ่นนี้มีความสามารถในการเชื่อมต่อบลูทูธ ทำให้คุณสามารถเชื่อมต่อกับลำโพงหรือหูฟังบลูทูธได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่สูญเสียคุณภาพเสียงด้วยการเข้ารหัสแบบ AptX-HD หัวเข็มของเครื่องเล่นเป็นแม่เหล็กคุณภาพสูงที่สามารถเปลี่ยนได้ ส่วนจานหมุนผลิตจากอะลูมิเนียมและทำงานด้วยระบบสายพาน พร้อมกับเซ็นเซอร์ออปติคัลที่ช่วยให้การเล่นแผ่นเสียงเป็นไปอย่างแม่นยำที่ความเร็ว 33⅓ RPM สำหรับอัลบั้ม หรือ 45 RPM สำหรับซิงเกิ้ลและ EPs รูปลักษณ์ภายนอกของเครื่องเล่นแผ่นเสียงรุ่นนี้ดูเรียบง่าย แต่มีความทนทานและสามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวก ตัวอาร์มทำจากอะลูมิเนียมคุณภาพสูงช่วยให้การติดตามร่องแผ่นเสียงเป็นไปอย่างแม่นยำและไม่ทำลายแผ่น นอกจากนี้ ฐานไม้ของเครื่องยังช่วยให้เสียงมีคุณภาพดีกว่าพลาสติกและมีความยั่งยืนมากขึ้น พร้อมหัวเข็มแม่เหล็กเคลื่อนที่คุณภาพสูงที่ติดตั้งมาแล้ว ทำให้คุณสามารถใช้งานได้ทันทีจากกล่อง JBL Spinner BT จึงเป็นเครื่องเล่นแผ่นเสียงที่ผสมผสานความทันสมัยและคุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยม
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?
JBL Spinner BT เป็นเครื่องเล่นแผ่นเสียงที่ออกแบบมาให้ใช้งานง่ายและให้คุณภาพเสียงในระดับ Hi-Res เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเสียงที่มีคุณภาพสูงและการใช้งานที่สะดวกสบาย เครื่องเล่นแผ่นเสียงรุ่นนี้มีความสามารถในการเชื่อมต่อบลูทูธ ทำให้สามารถเชื่อมต่อกับลำโพงหรือหูฟังบลูทูธได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่สูญเสียคุณภาพเสียง
7. Gadhouse DEAN Turntable Stereo System
Gadhouse DEAN Turntable Stereo System เป็นเครื่องเล่นแผ่นเสียงที่ผสมผสานดีไซน์คลาสสิกและเทคโนโลยีสมัยใหม่อย่างลงตัว เหมาะสำหรับการตกแต่งบ้านและฟังเพลงด้วยคุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยม
ขนาด | 16.06 x 12.51 x 7.4 นิ้ว |
กลไกการหมุน | Belt Driven |
ความเร็วที่รองรับ | 33 ⅓, 45 และ 78 RPM |
ราคา | 8,910 บาท |
ข้อดี
- ดีไซน์คลาสสิกและทันสมัย ผสมผสานดีไซน์คลาสสิกและเทคโนโลยีใหม่
- ฟังก์ชัน Auto Start-Stop เล่นและหยุดโดยอัตโนมัติ เพิ่มความสะดวก
- ลำโพงในตัว มีลำโพงสเตอริโอให้เสียงคุณภาพสูง
ข้อควรพิจารณา
- ขนาดใหญ่ อาจใช้พื้นที่มากกว่ารุ่นพกพา
- ไม่รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth ไม่มีฟังก์ชันการเชื่อมต่อไร้สาย
Gadhouse DEAN Turntable Stereo System เป็นเครื่องเล่นแผ่นเสียงที่ผสมผสานดีไซน์คลาสสิกเข้ากับเทคโนโลยีสมัยใหม่ได้อย่างลงตัว ด้วยการออกแบบที่โดดเด่นและสวยงามในสไตล์ Dean & Joan ทำให้เครื่องเล่นแผ่นเสียงรุ่นนี้เป็นทั้งอุปกรณ์เปิดเพลงและของแต่งบ้านที่น่าสนใจ ตัวเครื่องรองรับความเร็วในการเล่นแผ่นเสียงได้ถึง 3 ระดับ ได้แก่ 33 ⅓, 45 และ 78 RPM มาพร้อมฟังก์ชันการหยุดเล่นเพลงอัตโนมัติ ช่วยให้การใช้งานสะดวกมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีคาร์ทริดจ์รุ่น Audio Technica ATN3600L ที่ช่วยปรับแต่งเสียงแหลมและเสียงเบสได้อย่างมีประสิทธิภาพ รองรับการเชื่อมต่อทั้งแบบมีสายและไร้สาย ทำให้คุณสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย มาพร้อมลำโพงสเตอริโอตั้งโต๊ะ Joan ที่ให้เสียงที่คมชัดและคุณภาพสูง เครื่องเล่นแผ่นเสียงรุ่นนี้ยังมีฟังก์ชัน Auto Start-Stop เล่น-หยุดได้โดยอัตโนมัติและมี Stereo Phono Pre-Amplifier ภายในตัว ทำให้สามารถใช้งานได้ทันทีไม่ต้องพึ่งอุปกรณ์เสริมเพิ่มเติม Gadhouse DEAN Turntable Stereo System จึงเป็นเครื่องเล่นแผ่นเสียงที่ผสมผสานความคลาสสิกและความทันสมัยได้อย่างลงตัว เหมาะสำหรับคนรักเสียงเพลงและการตกแต่งบ้าน
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?
Gadhouse DEAN Turntable Stereo System ผสมผสานดีไซน์คลาสสิกกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ได้อย่างลงตัว ตัวเครื่องรองรับการเล่นแผ่นเสียงได้ 3 ระดับและมีฟังก์ชันหยุดเล่นอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังมีคาร์ทริดจ์ Audio Technica ATN3600L และรองรับการเชื่อมต่อทั้งแบบมีสายและไร้สาย มาพร้อมลำโพงสเตอริโอให้เสียงคมชัด
8. Gadhouse x Honne Brad Retro Record Player Limited Edition
Gadhouse x Honne Brad Retro Record Player Limited Edition เป็นเครื่องเล่นแผ่นเสียงที่มีดีไซน์โดดเด่นจากการร่วมมือกับศิลปินระดับโลก HONNE เหมาะสำหรับการสะสมและการใช้งานที่มอบประสบการณ์การฟังเพลงที่ยอดเยี่ยม
ขนาด | 330 mm (W) x 280 mm (H) x 115 mm (D) |
กลไกการหมุน | Belt Driven |
ความเร็วที่รองรับ | 33⅓ RPM |
ราคา | 4,830 บาท |
ข้อดี
- ดีไซน์เฉพาะ ลวดลายร่วมกับศิลปิน HONNE ทำให้เป็นของสะสม
- ฟังก์ชัน 2-in-1 ใช้งานได้ทั้งแผ่นเสียงและ Bluetooth
- เสียงคมชัด คุณภาพเสียงสูงเหมาะสำหรับการฟังที่บ้าน
ข้อควรพิจารณา
- รุ่นลิมิเต็ด อาจหาซื้อได้ยาก
- ราคาสูงกว่าเครื่องเล่นทั่วไป
Gadhouse x Honne Brad Retro Record Player Limited Edition เป็นเครื่องเล่นแผ่นเสียงที่มีดีไซน์และสีสันโดดเด่น ด้วยการออกแบบที่ร่วมมือกับศิลปินระดับโลกอย่าง HONNE ทำให้เครื่องเล่นแผ่นเสียงรุ่นนี้มีลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ในธีมอัลบั้มของศิลปินเอง ซึ่งนอกจากจะเป็นอุปกรณ์เปิดเพลงแล้วยังเป็นของสะสมที่มีคุณค่าสำหรับแฟนคลับของ HONNE เครื่องเล่นแผ่นเสียงรุ่นนี้มีฟังก์ชันการใช้งานแบบ 2-in-1 รองรับการใช้งานกับแผ่นเสียงทั่วไปและยังมีการเชื่อมต่อแบบ Bluetooth 5.0 ที่ช่วยให้สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่น ๆ ได้อย่างไร้สาย เสียงที่ได้มีความคมชัดและคุณภาพสูง ทำให้เหมาะกับการฟังเพลงภายในบ้านหรือนำมาใช้ในการแต่งบ้านเพื่อเพิ่มบรรยากาศ Gadhouse x Honne Brad Retro Record Player Limited Edition จึงเป็นเครื่องเล่นแผ่นเสียงที่ผสมผสานความเป็นศิลปะและเทคโนโลยีได้อย่างลงตัว สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม เครื่องเล่นแผ่นเสียงรุ่นนี้เป็นโปรเจ็กต์พิเศษที่สร้างขึ้นภายใต้แนวคิดจากอัลบั้มล่าสุดของ HONNE “Let’s just say the world ended a week from now. What would you do?” และมาพร้อมกับฟังก์ชัน Exclusive ที่ให้ประสบการณ์การฟังเพลงที่เหนือกว่า
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?
Gadhouse x Honne Brad Retro Record Player Limited Edition มีดีไซน์และสีสันโดดเด่นจากการร่วมมือกับศิลปินระดับโลก HONNE เหมาะสำหรับการฟังเพลงในบ้านและการตกแต่งบ้าน ด้วยการเชื่อมต่อแบบ Bluetooth 5.0 และฟังก์ชันการใช้งานแบบ 2-in-1 ทำให้เครื่องเล่นแผ่นเสียงรุ่นนี้ผสมผสานความเป็นศิลปะและเทคโนโลยีได้อย่างลงตัว
9. REGA Planar1 Turntable
REGA Planar1 Turntable เป็นเครื่องเล่นแผ่นเสียงที่มีดีไซน์เรียบหรูและทนทาน ให้เสียงคมชัดและกังวาน เหมาะสำหรับการฟังเพลงแจ๊สและเครื่องดนตรีประเภทเครื่องสาย
ขนาด | 17.59 x 14.17 x 4.6 นิ้ว |
กลไกการหมุน | Direct Driven |
ความเร็วที่รองรับ | 33⅓ RPM |
ราคา | 17,900 บาท |
ข้อดี
- ดีไซน์เรียบหรู ดีไซน์ทนทานและดูดี
- เสียงคมชัด เหมาะสำหรับการฟังเพลงแจ๊สและเครื่องดนตรี
- ใช้งานง่าย ตั้งค่าล่วงหน้าและติดตั้งง่าย
ข้อควรพิจารณา
- ไม่รองรับ Bluetooth การเชื่อมต่อไร้สาย
- ไม่มีลำโพงในตัว ต้องใช้ลำโพงภายนอก
REGA Planar1 Turntable เป็นเครื่องเล่นแผ่นเสียงที่มีดีไซน์เรียบหรูและสวยงาม วัสดุที่ใช้ในการผลิตมีความทนทานสูงและให้เสียงที่คมชัดและกังวานอย่างมาก เหมาะสำหรับการฟังเพลงแจ๊สหรือเพลงที่ใช้เครื่องดนตรีประเภทเครื่องสาย โดยเฉพาะเสียงเปียโนที่มีความทุ้มลึก ช่วยให้คุณดื่มด่ำไปกับเสียงเพลงได้อย่างเต็มอิ่มมากยิ่งขึ้น รุ่นนี้ได้รับรางวัลมากมายจากหลายเวทีด้วยกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐานและการทดสอบการใช้งานทุกเครื่องก่อนนำมาวางจำหน่าย เครื่องเล่นแผ่นเสียง REGA Planar1 ยังใช้งานง่ายที่สุดของ Rega ด้วยแขนโทนอาร์ม RB110 ที่ตั้งค่าล่วงหน้าและระบบติดตั้งที่รวดเร็ว เพียงแค่ใส่น้ำหนักบาลานซ์ที่ด้านหลังของแขนโทนอาร์ม ถอดการ์ดสไตลัสออกและเริ่มเล่นแผ่นเสียงที่คุณชื่นชอบได้ทันที นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ใหม่ ๆ เช่น แขนโทนอาร์ม RB110 ที่ออกแบบใหม่พร้อมลูกปืนที่มีแรงเสียดทานต่ำเป็นพิเศษ คาร์ทริดจ์ Rega Carbon มอเตอร์ AC ซิงโครนัส 24v ที่ให้ความเงียบและเสถียรภาพในการหมุนสูง และจานหมุน 23 มม. ที่มีมวลสูงเพื่อเพิ่มความเสถียรในการเล่นแผ่นเสียง REGA Planar1 จึงเป็นเครื่องเล่นแผ่นเสียงที่ครบเครื่องทั้งในเรื่องดีไซน์และคุณภาพเสียง
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?
REGA Planar1 Turntable เป็นเครื่องเล่นแผ่นเสียงที่มีดีไซน์เรียบหรูและทนทาน เสียงที่ได้คมชัดและกังวาน เหมาะสำหรับการฟังเพลงแจ๊สและเพลงที่ใช้เครื่องดนตรีประเภทเครื่องสาย มีแขนโทนอาร์ม RB110 ที่ตั้งค่าล่วงหน้าและระบบติดตั้งที่รวดเร็ว พร้อมฟีเจอร์ใหม่ ๆ เพื่อการใช้งานที่สะดวกและคุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยม
10. Fornuts Record Player
Fornuts Record Player เป็นเครื่องเล่นแผ่นเสียงสไตล์เรโทรที่มีดีไซน์คลาสสิกและไม้เคลือบเงาสวยงาม เหมาะสำหรับการตกแต่งบ้านหรือให้เป็นของขวัญ พร้อมการใช้งานที่ง่ายและหลากหลาย
ขนาด | 16.45 x 13.18 x 2.7 นิ้ว |
กลไกการหมุน | Belt Driven |
ความเร็วที่รองรับ | 33 1/3, 45 และ 78 RPM |
ราคา | 3,590 บาท |
ข้อดี
- ดีไซน์เรโทร ดีไซน์คลาสสิกและไม้เคลือบเงาสวยงาม
- ใช้งานง่าย เหมาะสำหรับมือใหม่ มีฟังก์ชันหลายแบบ
- ฟังก์ชัน Bluetooth เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ไร้สายได้สะดวก
ข้อควรพิจารณา
- วัสดุอาจไม่ทนทานเท่ารุ่นพรีเมียม
- อาจมีขนาดเล็กเกินไปสำหรับบางการใช้งาน
Fornuts Record Player เป็นเครื่องเล่นแผ่นเสียงสไตล์เรโทรที่มีดีไซน์คลาสสิกด้วยการใช้ไม้เคลือบเงาที่สวยงาม เพิ่มความหรูหราและเหมาะสำหรับการใช้แต่งบ้านหรือให้เป็นของขวัญในโอกาสพิเศษ ตัวเครื่องมีขนาดไม่ใหญ่จนเกินไป ทำให้สามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวก นอกจากนี้ยังใช้งานง่าย เหมาะสำหรับมือใหม่ที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์การฟังเพลงจากแผ่นเสียงรุ่นนี้สามารถใช้งานร่วมกับแผ่นเสียงได้ถึง 4 ขนาด และสามารถปรับระดับความเร็วได้ 3 ระดับ อีกทั้งยังมีฟังก์ชันการเชื่อมต่อผ่านบลูทูธ ช่วยให้สามารถเชื่อมต่อกับลำโพงหรือหูฟังบลูทูธได้อย่างง่ายดาย บริเวณจานหมุนมีฝาครอบช่วยลดปัญหาฝุ่นเกาะ ทำให้การฟังเพลงเป็นไปอย่างราบรื่นและไม่ติดขัด Fornuts Record Player จึงเป็นเครื่องเล่นแผ่นเสียงที่ลงตัวทั้งในเรื่องของดีไซน์และการใช้งาน เหมาะสำหรับการฟังเพลงในบรรยากาศที่สบาย ๆ หรือนำไปใช้เป็นของขวัญที่น่าประทับใจ
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?
Fornuts Record Player เป็นเครื่องเล่นแผ่นเสียงสไตล์เรโทรที่มีดีไซน์คลาสสิกด้วยไม้เคลือบเงาสวยงาม เหมาะสำหรับการแต่งบ้านหรือให้เป็นของขวัญ ตัวเครื่องมีขนาดไม่ใหญ่ เคลื่อนย้ายสะดวก ใช้งานง่าย รองรับแผ่นเสียง 4 ขนาดและปรับความเร็วได้ 3 ระดับ พร้อมการเชื่อมต่อบลูทูธ ทำให้ฟังเพลงได้ราบรื่น
ก่อนเลือกซื้อเครื่องเล่นแผ่นเสียง ต้องรู้อะไรบ้าง?
ศึกษาเครื่องเล่นแผ่นเสียงให้เข้าใจ
เครื่องเล่นแผ่นเสียงมีหลายองค์ประกอบที่ต้องรู้จัก เช่น แพลตเตอร์ (Platter) ซึ่งเป็นจานรองแผ่นเสียง โทนอาร์ม (Tonearm) ที่ทำหน้าที่เคลื่อนหัวเข็มตามร่องแผ่นเสียง ก้านยกโทนอาร์ม (Cueing Lever) ช่วยยกหรือปล่อยโทนอาร์ม ก้านมอเตอร์ (Motor Pulley) ที่หมุนแพลตเตอร์ และหัวเข็ม (Cartridge) ที่แปลงข้อมูลจากแผ่นเสียงเป็นสัญญาณเสียง แต่ละส่วนนี้มีความสำคัญและต้องพิจารณาให้ละเอียดกำหนดงบประมาณ
การตั้งงบประมาณจะช่วยให้การเลือกเครื่องเล่นแผ่นเสียงง่ายขึ้น เราควรพิจารณาแบรนด์และรุ่นที่เหมาะสมกับงบประมาณแต่มีฟังก์ชันครบครัน หรือแบรนด์ที่เน้นความสะดวกสบายในการใช้งาน ส่วนใครที่มีงบประมาณสูง อาจสนใจรุ่นไฮเอนด์ที่มีดีไซน์สวยงามและระบบเสียงทรงพลัง หรือรุ่นที่มีคุณภาพเสียงดีเยี่ยมเลือกจากสไตล์รูปลักษณ์หรือเสียงที่ชอบ
เมื่อกำหนดงบประมาณแล้ว ควรพิจารณารูปลักษณ์ของเครื่องเล่นแผ่นเสียงที่ตรงกับความชอบส่วนตัว มีหลายสไตล์ให้เลือก เช่น เรโทร วินเทจ มินิมอล หรือโมเดิร์น นอกจากนี้ ควรฟังเสียงจากเครื่องเล่นแผ่นเสียงหลาย ๆ รุ่น เพื่อหาสไตล์เสียงที่ชอบ บางคนอาจชอบเสียงที่มีมวลกว้าง บางคนอาจชอบเสียงนอยซ์ หรือเสียงธรรมชาติของเครื่องดนตรีคุณภาพหัวเข็ม
หัวเข็มเป็นส่วนสำคัญที่สุดในการเลือกเครื่องเล่นแผ่นเสียง มี 4 ประเภทหลัก ได้แก่ MM (Magnetic / Moving Magnet) ที่พบได้ทั่วไปและราคาถูก MC (Moving Coil) ที่มีราคาแพงแต่ให้ความละเอียดของเสียงสูง Ceramic ที่ให้เสียงเบสชัดเจนและราคาถูก และ Capacitance หรือ FM Cartridge ที่ใช้งานได้หลากหลายและนิยมในยุค 50’s การเลือกหัวเข็มที่ดีจะทำให้เสียงที่ได้มีคุณภาพและความแม่นยำตารางสรุปวิธีเลือกซื้อเครื่องเล่นแผ่นเสียง
หัวข้อ | รายละเอียด |
---|---|
ศึกษาความเข้าใจเครื่องเล่นแผ่นเสียง | แพลตเตอร์: จานรองแผ่นเสียง, โทนอาร์ม: เคลื่อนหัวเข็ม, ก้านยกโทนอาร์ม: ยก/ปล่อยโทนอาร์ม, หัวเข็ม: แปลงข้อมูลเป็นเสียง |
กำหนดงบประมาณ | ตั้งงบประมาณเพื่อเลือกแบรนด์และรุ่นที่เหมาะสม, เลือกรุ่นไฮเอนด์หรือฟังก์ชันครบครันตามงบประมาณ |
เลือกจากสไตล์รูปลักษณ์หรือเสียงที่ชอบ | เลือกสไตล์รูปลักษณ์ตามความชอบ เช่น เรโทร, วินเทจ, มินิมอล, โมเดิร์น, ฟังเสียงหลายรุ่นเพื่อหาสไตล์เสียงที่ชอบ |
คุณภาพหัวเข็ม | MM: ราคาถูก, ทนทาน, MC: ราคาแพง, เสียงละเอียด, Ceramic: เสียงเบสชัดเจน, ราคาถูก, Capacitance: ใช้งานหลากหลาย, เสียงธรรมชาติ |
องค์ประกอบพื้นฐานของเครื่องเล่นแผ่นเสียง
แพลตเตอร์ (Platter)
แพลตเตอร์คือจานรองแผ่นเสียงที่หมุนเพื่อลดการสั่นสะเทือนระหว่างการเล่นแผ่นเสียง การหมุนของแพลตเตอร์ช่วยให้การอ่านข้อมูลจากแผ่นเสียงเป็นไปอย่างราบรื่น วัสดุที่ใช้ทำแพลตเตอร์มีผลต่อคุณภาพเสียงที่ได้ออกมา วัสดุที่นิยมใช้ทำแพลตเตอร์มีหลายประเภท เช่น- อะลูมิเนียม (Aluminum): วัสดุที่มีน้ำหนักเบา แต่แข็งแรง ทนทาน ช่วยลดการสั่นสะเทือนและการรบกวนของเสียง
- ทองเหลือง (Brass): วัสดุที่มีน้ำหนักมาก ช่วยเพิ่มเสถียรภาพในการหมุน และลดการสั่นสะเทือนอย่างมีประสิทธิภาพ
- อะคริลิก (Acrylic): วัสดุที่มีความหนาแน่นสูง ช่วยลดเสียงรบกวนและการสั่นสะเทือนได้ดี นอกจากนี้ยังให้รูปลักษณ์ที่สวยงามและทันสมัย
โทนอาร์ม (Tonearm)
โทนอาร์มเป็นส่วนที่ทำหน้าที่พาหัวเข็มไปตามร่องแผ่นเสียง โทนอาร์มที่ดีจะช่วยลดการสั่นสะเทือนและคงความเสถียรของหัวเข็มในการอ่านข้อมูลจากแผ่นเสียง มีลักษณะเป็นท่อยาวทำจากวัสดุต่าง ๆ เช่น อะลูมิเนียม คาร์บอนไฟเบอร์ หรือแม้แต่ไม้ ขึ้นอยู่กับคุณภาพและราคาของเครื่องเล่นแผ่นเสียง โทนอาร์มมีสองประเภทหลัก- โทนอาร์มแบบตรง (Straight Tonearm): มักจะพบในเครื่องเล่นแผ่นเสียงที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานทั่วไป มีความยาวคงที่และเสถียรในการอ่านข้อมูล
- โทนอาร์มแบบโค้ง (S-shaped Tonearm): มักใช้ในเครื่องเล่นแผ่นเสียงระดับมืออาชีพ มีความยืดหยุ่นสูง ช่วยลดการสึกหรอของแผ่นเสียงและหัวเข็ม
หัวเข็ม (Cartridge)
หัวเข็มเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดในการถ่ายทอดข้อมูลจากแผ่นเสียงไปยังระบบเสียง หัวเข็มมีหลายประเภท แต่ละประเภทมีคุณสมบัติและราคาแตกต่างกัน- MM (Magnetic / Moving Magnet): หัวเข็มประเภทนี้มีราคาไม่สูงมาก นิยมใช้ในเครื่องเล่นแผ่นเสียงทั่วไป มีความทนทานและสามารถเปลี่ยนได้ง่าย
- MC (Moving Coil): หัวเข็มประเภทนี้มีความละเอียดสูง ให้เสียงที่มีคุณภาพดีกว่า MM แต่มีราคาสูงกว่าและบอบบาง ต้องการการดูแลรักษาที่ดี
- Ceramic: หัวเข็มชนิดนี้มักพบในเครื่องเล่นแผ่นเสียงวินเทจ หรือเครื่องเล่นแบบ Suitcase ให้เสียงเบสชัดเจน และมีราคาถูก
- Capacitance (FM Cartridge): หัวเข็มชนิดนี้นิยมใช้ในยุค 50’s สามารถใช้งานได้หลากหลาย และให้เสียงที่มีความเป็นธรรมชาติ
ตารางสรุปองค์ประกอบพื้นฐานของเครื่องเล่นแผ่นเสียง
หัวข้อ | รายละเอียด |
---|---|
แพลตเตอร์ | อะลูมิเนียม: น้ำหนักเบา, ทนทาน; ทองเหลือง: น้ำหนักมาก, เสถียร; อะคริลิก: ลดเสียงรบกวน, รูปลักษณ์สวยงาม |
โทนอาร์ม | ตรง: ใช้งานทั่วไป, เสถียร; โค้ง: มืออาชีพ, ลดการสึกหรอ |
หัวเข็ม | MM: ราคาถูก, ทนทาน; MC: ราคาแพง, เสียงละเอียด; Ceramic: เสียงเบสชัดเจน, ราคาถูก; Capacitance: เสียงธรรมชาติ, ใช้งานหลากหลาย |
การดูแลและบำรุงรักษาเครื่องเล่นแผ่นเสียง
การทำความสะอาดหัวเข็ม
หัวเข็มเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดในการอ่านข้อมูลจากแผ่นเสียง หากหัวเข็มสกปรกหรือมีฝุ่นสะสม จะทำให้คุณภาพเสียงที่ได้รับลดลงและอาจทำให้แผ่นเสียงเสียหายได้ ดังนั้น การทำความสะอาดหัวเข็มเป็นประจำจึงเป็นสิ่งจำเป็น:- ใช้แปรงทำความสะอาดหัวเข็ม: ควรใช้แปรงที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับทำความสะอาดหัวเข็ม แปรงเหล่านี้มักจะมีขนที่นุ่มและไม่ทำให้หัวเข็มเสียหาย ควรทำความสะอาดโดยการปัดจากด้านหลังไปด้านหน้าอย่างเบามือ
- การใช้สารทำความสะอาด: สำหรับหัวเข็มที่มีคราบสกปรกที่ติดแน่น อาจใช้สารทำความสะอาดหัวเข็มที่ออกแบบมาเฉพาะ แต่ควรระวังไม่ให้สารเคมีเข้าสู่ภายในหัวเข็ม
การเก็บรักษาแผ่นเสียง
การเก็บรักษาแผ่นเสียงอย่างถูกต้องจะช่วยยืดอายุการใช้งานของแผ่นเสียงและรักษาคุณภาพเสียงให้อยู่ในระดับที่ดี- เก็บในที่แห้งและห่างจากแสงแดดโดยตรง: ความชื้นและแสงแดดสามารถทำให้แผ่นเสียงบิดเบี้ยวและเสียหายได้ ควรเก็บแผ่นเสียงในที่ที่มีอุณหภูมิคงที่และไม่มีความชื้น
- ใช้ซองเก็บแผ่นเสียงที่มีคุณภาพ: ควรใช้ซองเก็บแผ่นเสียงที่ทำจากวัสดุที่ไม่ทำให้เกิดไฟฟ้าสถิตและสามารถป้องกันรอยขีดข่วนได้ เช่น ซองพลาสติกหรือซองกระดาษที่ไม่มีกรด
- การเก็บในแนวตั้ง: ควรเก็บแผ่นเสียงในแนวตั้งเพื่อป้องกันการบิดเบี้ยวที่อาจเกิดขึ้นจากแรงกดทับ
การปรับแต่งเครื่องเล่น
การตรวจสอบและปรับแต่งเครื่องเล่นแผ่นเสียงอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้เครื่องเล่นทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ- การปรับโทนอาร์ม: ควรตรวจสอบว่าโทนอาร์มอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องและมีการปรับสมดุลอย่างเหมาะสม การปรับโทนอาร์มที่ดีจะช่วยลดการสึกหรอของหัวเข็มและแผ่นเสียง
- การตรวจสอบหัวเข็ม: ควรตรวจสอบหัวเข็มอย่างสม่ำเสมอว่ามีการสึกหรอหรือไม่ หากพบว่าหัวเข็มสึกหรอ ควรเปลี่ยนหัวเข็มใหม่ทันทีเพื่อรักษาคุณภาพเสียง
- การทำความสะอาดแพลตเตอร์และโทนอาร์ม: ควรทำความสะอาดแพลตเตอร์และโทนอาร์มอย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันการสะสมของฝุ่นและสิ่งสกปรก
ตารางสรุปการดูแลและบำรุงรักษาเครื่องเล่นแผ่นเสียง
หัวข้อ | รายละเอียด |
---|---|
การทำความสะอาดหัวเข็ม | แปรงทำความสะอาด: ใช้แปรงนุ่ม, ปัดจากด้านหลังไปด้านหน้า; สารทำความสะอาด: ใช้สารเฉพาะ, ระวังไม่ให้เข้าสู่ภายในหัวเข็ม |
การเก็บรักษาแผ่นเสียง | ที่แห้งและห่างจากแสงแดด: เก็บในที่มีอุณหภูมาคงที่; ซองเก็บคุณภาพ: ใช้ซองที่ไม่ทำให้เกิดไฟฟ้าสถิต; เก็บในแนวตั้ง: ป้องกันการบิดเบี้ยว |
การปรับแต่งเครื่องเล่น | ปรับโทนอาร์ม: ตรวจสอบและปรับสมดุล; ตรวจสอบหัวเข็ม: เปลี่ยนหากสึกหรอ; ทำความสะอาดแพลตเตอร์และโทนอาร์ม: ป้องกันฝุ่นและสิ่งสกปรก |
ทำความสะอาดเครื่องเล่นแผ่นเสียงให้ไร้ฝุ่นด้วยเครื่องดูดฝุ่น
การทำความสะอาดเครื่องเล่นแผ่นเสียงให้ไร้ฝุ่นด้วยเครื่องดูดฝุ่นเป็นวิธีที่สะดวกและได้ผลดี เริ่มต้นด้วยการถอดปลั๊กเครื่องเล่นแผ่นเสียงออกเพื่อความปลอดภัย จากนั้นใช้แปรงขนอ่อนหรือผ้าไมโครไฟเบอร์เช็ดฝุ่นเบื้องต้นออกจากพื้นผิวของเครื่องเล่นแผ่นเสียง เมื่อเช็ดฝุ่นออกแล้ว ใช้เครื่องดูดฝุ่นที่มีหัวแปรงขนนุ่มในการดูดฝุ่นที่หลงเหลืออยู่ หากคุณมองหาเครื่องดูดฝุ่นยี่ห้อไหนดี ควรเลือกเครื่องดูดฝุ่นที่มีพลังดูดแรงและมีหัวแปรงที่อ่อนนุ่มเพื่อป้องกันการขีดข่วนบนพื้นผิวของเครื่องเล่นแผ่นเสียง การดูดฝุ่นควรทำอย่างเบามือและระมัดระวังโดยเฉพาะบริเวณแผ่นเสียงและแขนยกแผ่นเสียง เมื่อล้างฝุ่นเสร็จแล้ว ควรตรวจสอบและทำความสะอาดหัวเข็มด้วยแปรงทำความสะอาดหัวเข็มเพื่อให้การเล่นแผ่นเสียงมีคุณภาพเสียงที่ดีที่สุด การดูแลและทำความสะอาดเครื่องเล่นแผ่นเสียงอย่างสม่ำเสมอจะช่วยยืดอายุการใช้งานและรักษาคุณภาพเสียงให้อยู่ในระดับที่ดีเสมอเก็บรักษาแผ่นเสียงสำหรับเครื่องเล่นแผ่นเสียงให้ปลอดภัยด้วยเครื่องดูดความชื้น
การเก็บรักษาแผ่นเสียงสำหรับเครื่องเล่นแผ่นเสียงให้ปลอดภัยด้วยเครื่องดูดความชื้นเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันความชื้นและเชื้อราที่อาจทำลายแผ่นเสียง เริ่มต้นด้วยการเก็บแผ่นเสียงในกล่องหรือชั้นวางที่เหมาะสม ควรใช้ปลอกพลาสติกหรือปลอกกระดาษคุณภาพดีหุ้มแผ่นเสียงแต่ละแผ่นเพื่อป้องกันฝุ่นและความชื้น เมื่อจัดเก็บในที่ที่เหมาะสมแล้ว การใช้เครื่องดูดความชื้นในห้องที่เก็บแผ่นเสียงจะช่วยควบคุมระดับความชื้นให้อยู่ในระดับที่ปลอดภัย ในส่วนของเครื่องดูดความชื้นยี่ห้อไหนดี ควรเลือกเครื่องที่มีประสิทธิภาพในการลดความชื้นและทำงานเงียบ เพื่อไม่ให้รบกวนการฟังเพลง การรักษาความชื้นในห้องให้อยู่ในระดับ 40-60% จะช่วยป้องกันการเกิดเชื้อราและปัญหาที่เกี่ยวข้องกับความชื้น แผ่นเสียงของคุณจะคงความสวยงามและสามารถใช้งานได้อย่างยาวนานหากมีการดูแลรักษาอย่างเหมาะสมด้วยเครื่องดูดความชื้นคำถามที่พบบ่อย
1. เครื่องเล่นแผ่นเสียงมีราคาเท่าไหร่?
ราคาของเครื่องเล่นแผ่นเสียงมีความหลากหลายตั้งแต่หลักพันบาทไปจนถึงหลักหมื่นบาท ขึ้นอยู่กับคุณภาพและฟังก์ชันของเครื่อง บางรุ่นราคาถูกมีฟังก์ชันพื้นฐาน ส่วนรุ่นที่มีราคาแพงจะมีคุณภาพเสียงที่ดีและวัสดุที่ดีกว่า
2. เครื่องเล่นแผ่นเสียงใช้ได้กับแผ่นเสียงทุกประเภทหรือไม่?
เครื่องเล่นแผ่นเสียงส่วนใหญ่รองรับแผ่นเสียงที่มีความเร็ว 33 1/3 RPM และ 45 RPM บางรุ่นอาจรองรับความเร็ว 78 RPM ด้วย ดังนั้นควรตรวจสอบความเร็วที่รองรับก่อนซื้อเพื่อให้แน่ใจว่าใช้งานได้กับแผ่นเสียงที่คุณมี
3. จำเป็นต้องเปลี่ยนหัวเข็มบ่อยแค่ไหน?
ความถี่ในการเปลี่ยนหัวเข็มขึ้นอยู่กับการใช้งานและคุณภาพของหัวเข็ม หากใช้เครื่องเล่นแผ่นเสียงบ่อยครั้ง ควรเปลี่ยนหัวเข็มทุกๆ 500-1000 ชั่วโมงการเล่น หรือเมื่อสังเกตเห็นว่าคุณภาพเสียงลดลง
4. การดูแลรักษาเครื่องเล่นแผ่นเสียงทำอย่างไร?
การดูแลเครื่องเล่นแผ่นเสียงควรทำความสะอาดหัวเข็มและแพลตเตอร์อย่างสม่ำเสมอ ใช้แปรงทำความสะอาดหัวเข็มและตรวจสอบการปรับโทนอาร์มให้ถูกต้อง เก็บแผ่นเสียงในที่แห้งและห่างจากแสงแดดเพื่อป้องกันการบิดเบี้ยวและเสื่อมสภาพ