10 อันดับ เครื่องดูดความชื้น ป้องกันกลิ่นอับในบ้าน ทำงานเสียงเบา ใช้งานง่าย

เครื่องดูดความชื้น

สภาพอากาศในประเทศไทยไม่ว่าจะอยู่ในภาคไหนก็ช่างร้อนระอุได้ทั้งปี อีกทั้งอากาศบ้านเราจัดอยู่ในพื้นที่ร้อนชื้น ซึ่งค่าความชื้นสัมพัทธ์เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 60-80% ถือว่าค่อนข้างเยอะมากเลยทีเดียว และด้วยความชื้นที่มากเกินไปนี้ สามารถส่งผลเสียหลายอย่างต่อทั้งบ้านและสุขภาพของผู้อยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดเชื้อราและไรฝุ่น รวมถึงการเป็นต้นเหตุของกลิ่นอับไม่พึงประสงค์ ที่สามารถติดอยู่ในเฟอร์นิเจอร์และผ้าม่านได้ การมีเครื่องดูดความชื้น จึงไม่เพียงช่วยลดความชื้นและป้องกันปัญหาเหล่านี้ แต่ยังช่วยเสริมสุขภาพของคุณและครอบครัว

ด้วยเหตุผลดังกล่าว การมีสิ่งนี้ในบ้านจึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เพื่อรักษาคุณภาพชีวิตและสุขภาพของคุณและครอบครัวให้ดีที่สุด ในบทความนี้ เราขอนำเสนอ 10 อันดับ เครื่องดูดความชื้น ลดกลิ่นอับ กันราหน้าฝน ฟังก์ชั่นทันสมัย ขนาดกะทัดรัด พร้อมด้วยข้อมูลดีๆ ในบทความนี้เพื่อตัดสินใจที่ถูกต้องในการเลือกสินค้าให้เหมาะสมกับความต้องการ ที่ช่วยให้ผู้ที่มีอาการแพ้ หรือโรคหอบหืดสามารถหายใจได้สะดวกขึ้น ไม่เพียงเท่านั้น อีกทั้งป้องกันความเสียหายของเฟอร์นิเจอร์ ยืดอายุการใช้งานและสิ่งของต่างๆ ในบ้านของคุณ


หลักเกณฑ์ที่ใช้ในการจัดอันดับสินค้า

  • ประสิทธิภาพในการลดความชื้น: เครื่องที่เราเลือกต้องสามารถดึงดูดความชื้นได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ช่วยให้บ้านของคุณปลอดจากเชื้อราและกลิ่นอับ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการรักษาสุขภาพที่ดีของครอบครัว
  • ความสะดวกในการใช้งาน: การใช้งานได้ง่ายเป็นอีกหัวข้อที่เราคัดเลือก แม้ในพื้นที่ที่มีขนาดจำกัด ไม่ว่าจะเป็นการตั้งค่าหรือการเคลื่อนย้าย ทำให้คุณสามารถจัดการกับความชื้นได้ทุกมุมของบ้าน
  • การชาร์จไฟ: เพื่อความสะดวกสบายในการใช้งาน การเลือกเครื่องที่สามารถชาร์จไฟได้ช่วยให้คุณใช้งานได้ต่อเนื่อง โดยไม่ต้องกังวลเรื่องสายไฟหรือการหาปลั๊กให้วุ่นวาย
  • ระดับเสียง: เราใส่ใจในเรื่องของความเงียบสงบภายในบ้าน ดังนั้นเครื่องที่เราเลือกต้องมีระดับเสียงที่ต่ำ ไม่รบกวนช่วงเวลาพักผ่อนหรือกิจกรรมต่างๆ ของคุณและครอบครัว
  • ฟังก์ชันพิเศษ: เครื่องดูดความชื้นที่มีฟังก์ชันพิเศษ เช่น การตั้งเวลา หรือการควบคุมผ่านแอป จะช่วยให้การใช้งานเป็นไปได้อย่างสะดวกสบาย และตอบสนองความต้องการของคุณได้ดีขึ้น
  • ป้องกันกลิ่นอับและกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์: ความสามารถในการกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์เป็นอีกหนึ่งเกณฑ์สำคัญ ทำให้บ้านของคุณมีอากาศที่สดชื่น สะอาด เหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัว

1. HAFELE รุ่น ECOM-292

HAFELE-รุ่น-ECOM-292

HAFELE รุ่น ECOM-292 มีน้ำหนักเบาเคลื่อนย้ายสะดวดก ใช้งานง่ายแค่กดปุ่มเดียว มีประสิทธิภาพลดความชื้นสูงและทำงานไม่มีเสียงรบกวน เหมาะสำหรับใช้งานในห้องขนาดไม่เกิน 20 ตารางเมตร

ลดความชื้นได้ต่อวัน750 ml/วัน
ขนาดพื้นที่ทำงาน20 ตารางเมตร
การควบคุมสั่งงานควบคุมโดยปุ่มเดียว
คุณสมบัติดูดความชื้น

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

HAFELE เครื่องลดความชื้นรุ่น ECOM-292 เป็นหนึ่งในสินค้ายอดนิยมที่ออกแบบมาให้มีรูปทรงทันสมัย พร้อมด้วยคุณสมบัติที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานได้อย่างดีเยี่ยม เครื่องมีน้ำหนักเบาเพียง 2.2 กิโลกรัม ทำให้เคลื่อนย้ายได้ง่าย และสามารถลดความชื้นได้สูงสุด 750 มิลลิลิตรต่อวัน ด้วยความจุถังน้ำ 2 ลิตร มาพร้อมกับระบบตัดไฟอัตโนมัติเมื่อน้ำเต็มถัง ซึ่งช่วยป้องกันไม่ให้เครื่องทำงานเกินความจำเป็นและประหยัดพลังงาน

สินค้าผลิตจากพลาสติก ABS มีสีขาว ด้วยการออกแบบที่กะทัดรัด ทำให้เหมาะกับการใช้งานในพื้นที่ต่างๆ ภายในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นห้องนอน, โรงแรม, โรงพยาบาล, ห้องซักล้าง หรือสำนักงาน เครื่องใช้กำลังไฟ 45 วัตต์ และสามารถทำงานในอุณหภูมิระหว่าง 5 ถึง 32 องศาเซลเซียส อุปกรณ์นี้ถูกออกแบบมาให้เหมาะสำหรับห้องที่มีขนาดไม่เกิน 20 ตารางเมตร โดยมีระดับเสียงในการทำงานต่ำ น้อยกว่าหรือเท่ากับ 42 เดซิเบล ใช้ในห้องนอนก็ยังเงียบไม่รบกวนระหว่างคืน มีข้อแนะนำว่า ต้องคอยเทน้ำทิ้งด้วยตนเอง เนื่องจากรุ่นนี้ไม่มีระบบต่อสายระบายน้ำ แต่ด้วยการออกแบบที่ให้ความสำคัญกับความสะดวกสบาย ทำให้การเทน้ำทิ้งเป็นเรื่องง่าย นอกจากนี้ยังเป็นเครื่องที่ใช้งานแสนง่ายเพียงกดปุ่มควบคุมปุ่มเดียว ทำให้เหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัว

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?

HAFELE ECOM-292 ครองใจผู้ใช้หลาย ๆ นด้วยมีดีไซน์ทันสมัย ตัวเครื่องด้วยน้ำหนักเบาเพียง 2.2 กิโลกรัม ทำให้สามารถเคลื่อนย้ายได้ง่าย นอกจากนี้ยังมีความสามารถในการลดความชื้นสูงสุดถึง 750 มล.ต่อวัน และมีถังน้ำขนาด 2 ลิตรพร้อมระบบตัดไฟอัตโนมัติเมื่อน้ำเต็มถัง ซึ่งช่วยให้การใช้งานเป็นไปอย่างปลอดภัยและคุ้มค่า ความสามารถในการทำงานเงียบที่ 42 เดซิเบลยังเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นที่ทำให้เครื่องนี้เหมาะสำหรับการใช้งานในห้องที่ต้องการความเงียบสงบ เช่น ห้องนอนหรือห้องทำงาน

2. LG รุ่น MD16GQSA1.ATH

LG-รุ่น-MD16GQSA1-ATH

LG รุ่น MD16GQSA1.ATH สามารถควบคุมผ่านแอปพลิเคชันได้ มีฟังก์ชั่นฟอกอากาศด้วยประจุไฟฟ้าลดการสะสมของแบคทีเรียและกลิ่นอับหลังใช้งาน และทำงานเงียบเพียง 33dB เหมาะสำหรับใช้ในทุกพื้นที่ภายในบ้าน

ลดความชื้นได้ต่อวัน30 ลิตรต่อวัน
ขนาดพื้นที่ทำงาน66 ตารางเมตร
การควบคุมสั่งงานแอปพลิเคชัน LG ThinQ™
คุณสมบัติลดความชื้น

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

แบรนด์ระดับโลกอย่าง LG นำเสนอเครื่องดูดความชื้นรุ่น MD16GQSA1.ATH มีความสามารถในการลดความชื้นสูงถึง 30 ลิตรต่อวัน ด้วยถังเก็บน้ำขนาดใหญ่ถึง 16 ลิตร ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องการเทน้ำบ่อยครั้ง เครื่องมีคอมเพรสเซอร์ระบบ Dual Inverter ซึ่งปรับการทำงานอัตโนมัติตามสภาพความชื้น ช่วยให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและประหยัดพลังงาน นอกจากนี้ยังสามารถควบคุมการทำงานได้ผ่านแอปพลิเคชัน LG ThinQ™ สำหรับการตรวจสอบและควบคุมจากสมาร์ตโฟนหรือแท็บเล็ต

เครื่องออกแบบมีด้ามจับและล้อหมุน 360° ช่วยให้การเคลื่อนย้ายภายในบ้านเป็นเรื่องง่าย ตัวถังน้ำออกแบบบิ้วท์อินให้ถอดและเทได้ง่ายด้วยมือเดียว ยังรองรับการต่อท่อระบายน้ำขนาด 3/8″ (3หุน) หรือ 1/2″ (4 หุน) เพื่อความสะดวกในการระบายน้ำโดยไม่ต้องใช้ถังเก็บ ไม่ว่าอยู่ที่ไหนๆก็ไม่รบกวนใจเพราะทำงานเสียงเบามากเพียง 33dB นอกจากนี้ ยังมีฟังก์ชั่นฟอกอากาศด้วยประจุไฟฟ้านาโนไอออนและระบบ Auto Cleaning ซึ่งช่วยลดการสะสมของแบคทีเรียและกลิ่นไม่พึงประสงค์หลังจากการใช้งาน พร้อมอุปกรณ์เสริมสายเป่าตัว T และ Y สำหรับไล่ความชื้นให้รองเท้าและตู้เสื้อผ้า เครื่องรับประกันจากผู้ผลิต 1 ปี ทำให้เป็นเครื่องดูดความชื้นที่น่าเชื่อถือและมีความทนทานสูง ตอบโจทย์ทั้งในเรื่องการลดความชื้นอย่างมีประสิทธิภาพ การประหยัดพลังงาน และการใช้งานที่สะดวกสบายขั้นสุด

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?

เครื่องลดความชื้น LG รุ่น MD16GQSA1.ATH ด้วยความสามารถในการลดความชื้นสูงถึง 30 ลิตรต่อวัน และมีถังเก็บน้ำขนาดใหญ่ถึง 16 ลิตร ช่วยลดความต้องการในการเทน้ำบ่อยครั้ง คอมเพรสเซอร์ระบบ Dual Inverter ยังช่วยให้เครื่องทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพพร้อมการประหยัดพลังงาน นอกจากนี้ คุณยังสามารถควบคุมการทำงานได้จากทุกที่ผ่านแอปพลิเคชัน LG ThinQ™ ซึ่งเพิ่มความสะดวกให้กับผู้ใช้ รวมถึงระดับเสียงการทำงานที่ต่ำเพียง 33dB ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานในทุกสภาพแวดล้อมภายในบ้าน

3. HOMEMATEรุ่น HOM-16H458

HOMEMATEรุ่น-HOM-16H458

HOMEMATE รุ่น HOM-16H458 มีความสามารถดูดคยวามชื้นสูง เหมาะสำหรับพื้นที่ขนาด 35-45 ตารางเมตร มาพร้อมฟังก์ชัน HEPA Filter และ Auto-Swing, ระบบควบคุมความชื้นแบบเจาะจง และความสะดวกในการดูแลรักษา

ลดความชื้นได้ต่อวัน45 L ต่อวัน
ขนาดพื้นที่ทำงาน35-45 ตร.ม.
การควบคุมสั่งงานLCD แสดงโปรแกรมการทำงาน
คุณสมบัติควบคุมความชื้น

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

HOMEMATE รุ่น HOM-16H458 สีเงิน อุปกรณ์ออกแบบมาเพื่อใช้ในพื้นที่ที่มีขนาดระหว่าง 35-45 ตารางเมตร ซึ่งมีความชื้นสูงและกลิ่นอับ เช่น ในบ้าน, ห้องที่ปิดทิ้งไว้, ห้องนอนบ้านตากอากาศ, ห้องใต้ดิน, ห้องสมุดหรือห้องเก็บเอกสาร เครื่องนี้สามารถลดความชื้นภายในห้องได้สูงสุด 45 ลิตรต่อวัน โดยมีระบบควบคุมความชื้นที่สามารถตั้งค่าได้ตั้งแต่ 40%-70% RH นอกจากนี้ยังมีแผงปุ่มกดและหน้าจอ LCD แสดงสถานะการทำงานของตัวเครื่องอย่างละเอียด

ตัวเครื่องรุ่นนี้มีฟังก์ชันต่างๆ ครบครัน รวมถึง HEPA Filter สำหรับกรองอากาศให้สะอาดขึ้น, ระบบตั้งเวลาการทำงานอัตโนมัติ และระบบ Auto-Swing ที่ช่วยให้ผ้าที่ตากในห้องหรือเมื่อซักพรมหรือซักโซฟาแห้งได้เร็วขึ้น ตัวเครื่องมีความจุ 6 ลิตร มีขนาด 41×26.5×66.5 เซนติเมตร และน้ำหนัก 18 กิโลกรัม ทำงานระดับเสียงที่ 48 เดซิเบล หนึ่งในคุณสมบัติเด่นต่อท่อน้ำทิ้งได้ ทำให้การนะบายน้ำทิ้งง่ายขึ้นและไม่ต้องทำทุกวัน นอกจากนี้ ยังมีล้อและหูจับทำให้การเคลื่อนย้ายเป็นเรื่องง่าย สินค้ามาพร้อมกับการรับประกันจากศูนย์ 1 ปี และมีบริการเปลี่ยนหรือคืนสินค้าภายใน 7 วัน นอกจากนี้ยังสามารถเก็บเงินปลายทางได้

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?

อุปกรณ์ดูดความชื้น HOMEMATE รุ่น HOM-16H458 เป็นตัวเลือกสำหรับบ้านที่ไม่ต้องการเปลี่ยนถังน้ำบ่อย เนื่องจากมีความสามารถในการลดความชื้นได้สูงถึง 45 ลิตรต่อวัน ซึ่งเหมาะสำหรับพื้นที่ขนาด 35-45 ตารางเมตร มีคุณสมบัติพิเศษเช่น HEPA Filter ที่ช่วยกรองอากาศให้สะอาดขึ้น, ระบบ Auto-Swing ที่ช่วยให้ผ้าที่ตากในห้องหรือเมื่อซักพรมหรือซักโซฟาแห้งได้เร็วขึ้น นอกจากนี้ยังมีแผงควบคุมที่ใช้งานง่ายด้วยหน้าจอ LCD และต่อท่อน้ำทิ้งได้ ทำให้การดูแลรักษาเป็นเรื่องง่าย รวมถึงการเคลื่อนย้ายที่สะดวกด้วยล้อและหูจับ ทั้งหมดนี้ทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับใครก็ตามที่ต้องการปรับปรุงคุณภาพอากาศภายในบ้านของตนเอง

4. Bwell รุ่น BDH-20

Bwell-รุ่น-BDH-20

Bwell รุ่น BDH-20 ควบคุมคุณภาพและมีประสิทธิภาพสูง ใช้งานง่ายสะดวกสบาย ควบคุมด้วยแผงคำสั่งหน้าจอดิจิทัล มีล้อเลื่อนสำหรับการเคลื่อนย้ายที่สะดวก, และมีโหมดการใช้งานหลากหลาย

ลดความชื้นได้ต่อวัน20 ลิตรต่อวัน
ขนาดพื้นที่ทำงาน10-30 ตรม.
การควบคุมสั่งงานหน้าจอดิจิทัลใช้งานถึง 3 โหมด และ เซ็นเซอร์อัจฉริยะปรับค่าความชื้น
คุณสมบัติดูดความชื้น

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

Bwell รุ่น BDH-20 เหมาะกับการใช้งานในพื้นที่ขนาด 10-30 ตารางเมตร มีฟังก์ชั่นการใช้งานหลายโหมด ได้แก่ โหมดดูดความชื้นแบบปกติ, โหมดตากผ้า ซึ่งจะเปิดพัดลมเป่าเพื่อช่วยให้ผ้าแห้งเร็วขึ้น, และโหมดพัดลมที่สามารถปรับความแรงได้ 2 ระดับ สามารถในการลดความชื้นสูงสุดถึง 20 ลิตรต่อวัน มีหน้าจอแสดงผลแบบดิจิทัลที่สามารถแสดงระดับความชื้นได้อย่างชัดเจน ความจุถังน้ำของเครื่องคือ 3.5 ลิตร ส่วนสารทำความเย็นที่ใช้คือ R134a มีกำลังไฟฟ้าการใช้งานอยู่ที่ 440 วัตต์ และรองรับระบบไฟฟ้า 220V/50Z ขนาดของเครื่องคือ 260x260x618 มิลลิเมตร และมีน้ำหนักอยู่ที่ 13.5 กิโลกรัม

นอกจากนี้ยังสามารถตั้งเวลาการทำงานได้ และมีโหมดนอนหลับที่จะลดเสียงการทำงานให้เบาลง เครื่องดูดความชื้นรุ่นนี้ยังออกแบบมาพร้อมกับล้อเลื่อนที่ติดอยู่ใต้ตัวเครื่อง ทำให้สามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวกแม้จะมีขนาดใหญ่และน้ำหนักค่อนข้างมาก อีกทั้งดีไซน์ของเครื่องยังมีความสวยงามและทันสมัย พร้อมแผงเมนูปุ่มกดที่มีสัญลักษณ์เข้าใจง่าย ทำให้การควบคุมเครื่องเป็นเรื่องง่ายและสะดวก

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?

เครื่องดูดความชื้น Bwell รุ่น BDH-20 เป็นตัวเลือกที่ดีเนื่องจากมีความสามารถในการลดความชื้นได้ถึง 20 ลิตรต่อวัน ทำให้เหมาะสำหรับใช้งานในพื้นที่ขนาด 10-30 ตารางเมตร หน้าจอดิจิทัลแสดงระดับความชื้นชัดเจน และมีล้อเลื่อนทำให้การเคลื่อนย้ายสะดวก นอกจากนี้ยังมีโหมดการใช้งานหลากหลายเช่นโหมดตากผ้าและโหมดพัดลม รวมถึงโหมดนอนหลับที่ลดเสียงการทำงานให้เบาลง เหล่านี้ทำให้เครื่องดูดความชื้นรุ่นนี้เหมาะสำหรับใครหลายๆ คนที่ต้องการปรับปรุงคุณภาพอากาศในบ้าน

5. Xiaomi รุ่น Mi Smart Dehumidifier 22L

Xiaomi-รุ่น-Mi-Smart-Dehumidifier-22L

Xiaomi รุ่น Mi Smart Dehumidifier 22L อุปกรณ์ดูดความชื้นอัจฉริยะ ที่ดูดความชื้นได้สูงสุด 22 ลิตรต่อวัน ทำงานเงียบ และสามารถควบคุมได้จากระยะไกลผ่านแอป Mi Home

ลดความชื้นได้ต่อวัน22 ลิตร
ขนาดพื้นที่ทำงาน30-90 ตารางเมตร
การควบคุมสั่งงานควบคุมผ่าน Mi Home APP
คุณสมบัติลดความชื้น

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

เครื่องจากแบรนด์ Xiaomi สามารถดูดความชื้นได้อย่างดีเยี่ยม มีถังเก็บน้ำขนาด 4.5 ลิตร ซึ่งสามารถทำงานได้ต่อเนื่อง 8 ชั่วโมง ดูดความชื้นได้สูงสุด 22 ลิตรต่อวัน มีการออกแบบที่ทันสมัยพร้อมหน้าจอ LED และแถบไฟสีที่แสดงปริมาณความชื้นสัมพัทธ์ในห้อง นอกจากนี้ยังควบคุมการทำงานด้วยปุ่มกดระบบสัมผัสและสามารถเชื่อมต่อท่อระบายน้ำได้โดยไม่ต้องใช้ถังเก็บน้ำ

เครื่องรองรับการใช้งานในอุณหภูมิระหว่าง 5 ℃ ถึง 35 ℃ มีความสามารถในการดูดความชื้นที่อุณหภูมิสูงคือ 22L/D (30 ℃/80%RH) และใช้สารทำความเย็น R134a/0.2kg กำลังไฟฟ้าเข้าสูงสุดคือ 450W และกระแสไฟเข้าสูงสุดคือ 2.05A นอกจากนี้ยังมีโหมดการตากผ้าและระบบควบคุมเสียงอัจฉริยะ ช่วยให้การใช้งานเครื่องดูดความชื้นนี้เป็นเรื่องง่ายและสะดวกสบายในทุกสถานการณ์ พร้อมฟังก์ชันตัดการทำงานอัตโนมัติเมื่อน้ำเต็มถัง ช่วยให้การใช้งานสะดวกยิ่งขึ้น และด้วยการใช้มอเตอร์ DC ไร้แปรงถ่านและโครงสร้างที่ไร้แรงสั่นสะเทือน ทำให้เครื่องทำงานได้อย่างเงียบ มีระดับเสียงเพียง 35.5dB เท่านั้น รองรับการเชื่อมต่อกับแอปฯ Mi Home เพื่อการควบคุมและตรวจสอบสถานะการทำงานของเครื่องได้จากทุกที่

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?

Xiaomi Mi Smart Dehumidifier 22L เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมเนื่องจากมีความสามารถในการดูดความชื้นสูงถึง 22 ลิตรต่อวัน ทำให้เหมาะสำหรับใช้ในพื้นที่ขนาดใหญ่ มีถังเก็บน้ำขนาด 4.5 ลิตรที่สามารถใช้งานต่อเนื่องได้นาน และยังสามารถเชื่อมต่อกับแอป Mi Home สำหรับการควบคุมและตรวจสอบสถานะการทำงานได้จากทุกที่ นอกจากนี้ เครื่องยังทำงานได้อย่างเงียบด้วยระดับเสียงเพียง 35.5 dB ทำให้ไม่รบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน

6. NEW WIDETECH รุ่น 12L

NEW-WIDETECH-รุ่น-12L

บอกลาความอับชื้นด้วย NEW WIDETECH รุ่น 12L ให้ประสิทธิภาพการดูดความชื้นได้อย่างเหมาะสมพร้อมความสะดวกในการเคลื่อนย้ายและควบคุมทางไกลได้ผ่านแอปพลิเคชัน

ลดความชื้นได้ต่อวัน30 ลิตร
ขนาดพื้นที่ทำงาน25 ตารางเมตร
การควบคุมสั่งงานควบคุมผ่าน Mi Home APP
คุณสมบัติดูดความชื้น

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

NEW WIDETECH รุ่น12L ได้รับความนิยมในหมู่ผู้ใช้งานในประเทศไทย ด้วยราคาที่เข้าถึงได้ง่ายและความหลากหลายของความจุที่ตอบโจทย์ความต้องการแตกต่างกัน โดยเฉพาะรุ่น 12L นี้ มีจุดเด่นในเรื่องของการออกแบบที่เรียบง่ายและสวยงาม สามารถปรับให้เข้ากับทุกพื้นที่ในบ้านได้อย่างลงตัว มาพร้อมกับหูจับด้านบนที่ช่วยให้การเคลื่อนย้ายเป็นเรื่องง่ายและสะดวก น้ำหนักของตัวเครื่องอยู่ที่ 9.7 กิโลกรัม

มีความสามารถดูดความชื้นในพื้นที่สูงสุด 25 ตารางเมตร มาพร้อมถังน้ำความจุ 2.2 ลิตรสีใส ช่วยให้มองเห็นระดับน้ำได้ชัดเจน สามารถถอดออกจากเครื่องเพื่อเททิ้งได้ง่าย นอกจากนี้ ยังมีฟังก์ชันตั้งเวลาการทำงานได้สูงสุด 12 ชั่วโมง ที่สำคัญคือสามารถเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชัน Mi Home ของ Xiaomi เพื่อตรวจสอบและควบคุมการทำงานระยะไกลผ่านสมาร์ตโฟนหรือแท็บเล็ตได้ ตัวเครื่องมีหลายโหมดให้เลือกใช้ ตั้งแต่การลดความชื้นในอากาศได้อย่างรวดเร็ว ช่วยให้ผ้าที่ต่กในบ้านแห้งไวไใ่อับชื้น หรือตรวจวัดอุณหภูมิและฟิลเตอร์ต้านเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานอีกขั้น ดำเนินงานเงียบด้วยมอเตอร์กระแสไฟฟ้าและการลดการสั่นสะเทือนทำให้เครื่องทำงานได้อย่างเงียบสงบ โดยมีระดับเสียงที่ 38dB เท่านั้น

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?

NEW WIDETECH เครื่องดูดความชื้นรุ่น 12L เป็นตัวเลือกที่ดีเนื่องจากมีความสามารถในการดูดความชื้นได้มากถึง 12 ลิตรต่อวัน ทำให้เหมาะกับพื้นที่สูงสุด 25 ตารางเมตร ราคาที่เข้าถึงได้ง่ายและดีไซน์ที่เรียบง่ายทำให้เหมาะสมกับทุกพื้นที่ในบ้าน นอกจากนี้ยังมีหูจับที่ช่วยให้การเคลื่อนย้ายเป็นเรื่องง่าย และฟังก์ชั่นการเชื่อมต่อกับแอป Mi Home ของ Xiaomi ยังเพิ่มความสะดวกในการควบคุมและตรวจสอบการทำงานของเครื่องจากระยะไกล

7. Simplus รุ่น CUSH002

Simplus-รุ่น-CUSH002

Simplus อุปกรณ์ดูดความชิ้นในบ้านรุ่น CUSH002 มาพร้อมฟังก์ชันการใช้งานหลากหลาย ใช้งานง่ายด้วยหน้าจอสัมผัส และเพิ่มความหอมด้วยกล่องอะโรม่า ให้ประสิทธิภาพสูงในการลดความชื้นพร้อมกลิ่นหอมสะอาด

ลดความชื้นได้ต่อวัน300ml
ขนาดพื้นที่ทำงาน100 ตารางเมตร
การควบคุมสั่งงานควบคุมแผงสัมผัสจอ LCD
คุณสมบัติดูดความชื้น

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

Simplus รุ่น CUSH002 เป็นเครื่องระบบลดความชื้นคู่ ที่ใช้ระบบไอออนลบในการช่วยลดความชื้น และมีกล่องใส่กลิ่นอะโรม่าที่ช่วยเพิ่มความหอมให้กับห้อง สร้างบรรยากาศที่สดชื่นและผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น ตัวเครื่องผลิตจากวัสดุ ABS ที่มีความแข็งแรงและทนทาน ใช้งานได้ยาวนานโดยไม่เปลี่ยนเป็นสีเหลือง ไม่มีสารเคมีปนเปื้อน และไม่ปล่อยก๊าซที่เป็นอันตราย เครื่องยังสามารถลดความชื้นได้นานต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง ด้วยเสียงทำงานที่ต่ำเพียง 35dB ทำให้ไม่รบกวนสภาพแวดล้อมรอบข้าง

สามารถควบคุมการทำงานได้อย่างง่ายดายผ่านแผงปุ่มกดหน้าจอ LCD แบบสัมผัส ที่มาพร้อมกับแสงไฟระบุสถานะการทำงาน และสามารถแสดงอุณหภูมิและระดับความชื้นภายในห้องได้แบบเรียลไทม์ รองรับพื้นที่การใช้งานได้กว้างถึง 100 ตารางเมตร มีถังน้ำความจุ 2.5L ที่ออกแบบมาให้มองเห็นระดับน้ำได้ชัดเจน มีระบบตัดการทำงานอัตโนมัติทันทีเมื่อน้ำเต็มถัง ช่วยลดความยุ่งยากในการใช้งาน ด้วยคุณสมบัติที่ครอบคลุมและการใช้งานที่สะดวก ทำให้แบรนด์ Simplus เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเครื่องดูดความชื้นที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพสูง เพื่อช่วยให้พื้นที่ใช้สอยมีความชื้นที่เหมาะสมและสดชื่นอยู่เสมอ

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?

Simplus รุ่น CUSH002 เป็นอีกสินค้าที่น่าเลือกใช้ เพราะมีหน้าจอสัมผัสที่ใช้งานง่าย, ถังน้ำความจุ 2.5L ที่ช่วยให้สามารถลดความชื้นได้นาน 24 ชั่วโมง, และเสียงทำงานต่ำเพียง 35dB ซึ่งไม่รบกวนสภาพแวดล้อมรอบข้าง นอกจากนี้ยังมีกล่องใส่กลิ่นอะโรม่าเพิ่มความหอมให้กับห้อง ระบบลดความชื้นที่ใช้ระบบไอออนลบไม่ต้องกังวลเรื่องแบคทีเรีย ทำให้เหมาะสำหรับใช้งานในพื้นที่กว้างถึง 100 ตารางเมตร อีกทั้งวัสดุที่ทนทานและไม่เปลี่ยนเป็นสีเหลืองเมื่อใช้งานนาน

8. HANABISHI รุ่น HDF-20M

SHANABISHI-รุ่น-HDF-20M

HANABISHI รุ่น HDF-20M มอบประสิทธิภาพการดูดความชื้นสูงในดีไซน์ทันสมัย พร้อมความสะดวกในการเคลื่อนย้าย และการใช้พลังงานที่ประหยัดมากกว่าเดิม

ลดความชื้นได้ต่อวัน1000 ML
ขนาดพื้นที่ทำงาน10-20 ตารางเมตร
การควบคุมสั่งงานกดปุ่มบนตัวเครื่อง/รีโมทคอนโทรล
คุณสมบัติดูดความชื้น

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

อุปกรณ์ดูดความชื้นรุ่น HDF-20M จาก HANABISHI ออกแบบมาให้มีดีไซน์โมเดิร์นและสีสันที่ทันสมัย ตัวเครื่องมีขนาดกะทัดรัดพร้อมหูหิ้วทำให้เคลื่อนย้ายได้สะดวก มีถังน้ำความจุ 1 ลิตรและน้ำหนักเบาเพียง 1.3 กิโลกรัม สามารถตั้งเวลาการทำงานได้ 2 ระดับ คือ 6 และ 12 ชั่วโมง รองรับพื้นที่การใช้งานได้กว้างถึง 10 – 20 ตารางเมตร ใช้พลังงานไฟฟ้าเพียง 36W ทำให้ใช้พลังงานน้อยมาก ไม่เปลืองไฟ

เครื่องมีฟังก์ชั่นตัดการทำงานอัตโนมัติเมื่อน้ำเต็มถังื และมีไฟเตือนเพื่อแจ้งเตือนสถานะนี้ การควบคุมการทำงานง่ายด้วยปุ่มกดบนตัวเครื่อง ช่วยลดการเกิดเชื้อราและแบคทีเรียต่างๆ ป้องกันความเสียหายต่อเฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์อิเลคทรอนิคส์ นอกจากนี้ยังช่วยปรับสมดุลอากาศภายในบ้านไม่ให้ชื้นจนเกินไป ป้องกันโรคที่เกิดจากความชื้นสูง เหมาะกับการใช้งานในหลายพื้นที่ภายในบ้าน เช่น ห้องนอน, ห้องครัว, ห้องนั่งเล่น, ห้องเก็บเสื้อผ้า หรือห้องเก็บของ เพื่อป้องกันสิ่งของภายในห้องขึ้นราหรือมีกลิ่นอับ ช่วยให้ห้องมีอากาศที่สดชื่น ลดความชื้นอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วยการใช้พลังงานที่ต่ำ

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?

HANABISHI รุ่น HDF-20M

เป็นตัวเลือกที่ดีเนื่องจากมีดีไซน์ทันสมัยและสีสันที่เรียบหรู ขนาดกะทัดรัดและมีหูหิ้วทำให้เคลื่อนย้ายได้ง่าย ทำให้เหมาะสำหรับใช้ในหลายพื้นที่ภายในบ้าน นอกจากนี้ ยังมีถังน้ำความจุ 1 ลิตร สามารถตั้งเวลาการทำงานได้ 2 ระดับ และใช้พลังงานไฟฟ้าเพียง 36W ทำให้ประหยัดพลังงานและไม่เพิ่มภาระค่าใช้จ่าย รวมทั้งมีระบบไฟแจ้งเตือนและฟังก์ชันตัดการทำงานอัตโนมัติเมื่อน้ำเต็มถัง ช่วยให้ใช้งานได้อย่างสะดวกและปลอดภัย

9. Elementmax

Elementmax

Elementmax มอบประสิทธิภาพการลดความชื้นสูงสุด พร้อมเทคโนโลยี Photocatalyst ลดกลิ่นอับ ในขนาดกะทัดรัดที่เคลื่อนย้ายง่าย และโหมดการทำงานหลากหลายตอบสนองทุกความต้องการ

ลดความชื้นได้ต่อวัน1,080 มล.
ขนาดพื้นที่ทำงาน30-90 ตารางเมตร
การควบคุมสั่งงานกดปุ่มบนตัวเครื่อง/รีโมทคอนโทรล
คุณสมบัติลดความชื้น

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

Elementmax ด้วยความสามารถในการลดความชื้นสูงสุดถึง 1,080 มล. ต่อวัน มีเทคโนโลยี Photocatalyst ที่ไม่เพียงแต่ช่วยลดความชื้นเท่านั้น แต่ยังช่วยลดกลิ่นอับภายในบ้านได้อีกด้วย ทำให้บ้านของคุณมีอากาศที่สดชื่นยิ่งขึ้น เครื่องมีโหมดการใช้งานที่หลากหลาย รวมถึงโหมดบริสุทธิ์ ควบคุมการเร่งปฏิกิริยาด้วยแสง (Photocatalyst) สามารถล้างและกำจัดสารพิษที่อันตรายได้ด้วยพลังของแสงที่เข้ามาใกล้พื้นผิวที่เคลือบ, โหมดความชื้นคงที่ และโหมด Sleep นอกจากนี้ ยังมาพร้อมระบบระบายน้ำแบบคู่ที่ช่วยให้การจัดการน้ำที่รวบรวมได้มากยิ่งขึ้น และด้วยขนาดเล็กและน้ำหนักเบาทำให้เคลื่อนย้ายได้สะดวก สามารถนำไปตั้งได้ทุกที่ภายในบ้าน

ทำงานด้วยเสียงเบาเพียง 25 เดซิเบล ช่วยให้คุณได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ไม่รบกวนการพักผ่อนหรือกิจกรรมอื่นๆ ภายในบ้าน เครื่องออกแบบมาให้เหมาะกับพื้นที่ใช้สอย 21-30 ตร.ม. มีการใช้พลังงานที่ 90W และความถี่ที่ 50Hz มีฟังก์ชันการลดความชื้นด้วยปุ่มเดียวหรือใช้รีโมทคอนโทรในระยะ 5 เมตร และการแสดงอุณหภูมิและความชื้น นอกจากนี้ ยังมาพร้อมระบบระบายน้ำแบบคู่ที่ช่วยให้การจัดการน้ำที่รวบรวมได้มากยิ่งขึ้น และด้วยขนาดเล็กและน้ำหนักเบาทำให้เคลื่อนย้ายได้สะดวก สามารถนำไปตั้งได้ทุกที่ภายในบ้าน

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?

Elementmax มีความสามารถในการลดความชื้นได้มากถึง 1,080 มล. ต่อวัน พร้อมเทคโนโลยี Photocatalyst ที่ช่วยลดกลิ่นอับ นอกจากนี้ยังมีโหมดการใช้งานหลากหลายเช่น โหมดบริสุทธิ์และโหมด Sleep ที่ทำงานเงียบเพียง 25 เดซิเบล รวมถึงระบบระบายน้ำแบบคู่ที่ทำให้การจัดการน้ำที่รวบรวมง่ายขึ้น ขนาดเล็กและน้ำหนักเบาทำให้เคลื่อนย้ายได้สะดวก ทำให้เหมาะสำหรับวางได้ทุกที่ในบ้าน

10. Xiaomi Mijia รุ่น H2102

Xiaomi-Mijia-รุ่น-H2102

Xiaomi Mijia รุ่น H2102 เครื่องลดความชื้นที่มาพร้อมความสามารถในการฟอกอากาศ ถังเก็บน้ำขนาดใหญ่ 1,000 มล. และไฟ LED สีสันสวยงาม เสริมความผ่อนคลายพร้อมการทำงานเงียบในโหมด Sleep

ลดความชื้นได้ต่อวัน350ml /วัน
ขนาดพื้นที่ทำงาน15-20 ตารางเมตร
การควบคุมสั่งงานกดปุ่มบนตัวเครื่อง
คุณสมบัติลดความชื้น

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

Xiaomi Mijia รุ่น H2102 เป็นเครื่องลดความชื้นที่ออกแบบมาให้สามารถดูดความชื้นได้สูงสุดวันละ 350 มล. ด้วยถังเก็บน้ำสีใส ความจุ 1,000 มล. ทำให้สามารถมองเห็นปริมาณน้ำที่ดูดออกมาได้อย่างชัดเจน มีระบบตัดไฟอัตโนมัติ เมื่อระดับน้ำเต็มถัง ช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้งานและป้องกันการเกิดอันตรายจากน้ำเต็มถัง นอกจากลดความชื้นแล้ว เครื่องมีระบบฟอกอากาศและไส้กรองมาให้ในตัว เพื่อช่วยให้อากาศภายในห้องสะอาดและปลอดภัยจากเชื้อราและแบคทีเรีย นอกจากนี้ ยังมีโหมด Sleep ที่ทำงานเงียบเพียง 25 เดซิเบล ช่วยให้ไม่รบกวนการพักผ่อนยามค่ำคืน

ตัวสินค้าเหมาะสำหรับพื้นที่ 15-20 ตารางเมตร ใช้กำลังไฟ 36 วัตต์ (สูงสุด 45 วัตต์) ช่วยให้การลดความชื้นและการฟอกอากาศเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและประหยัดพลังงาน ดีไซน์สุดล้ำและไฟ LED 7 สี เพิ่มความผ่อนคลายและสีสันให้กับห้อง ตัวเครื่องมีน้ำหนักเพียง 1.3 kg ทำให้สามารถวางที่ใด พร้อมมีให้เลือก 3 สี คือ เขียว, ดำ, และขาว ทำให้เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับทุกบ้านที่ต้องการปรับปรุงคุณภาพอากาศให้ดีขึ้น

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?

Xiaomi Mijia รุ่น H2102 นอกจากคุณสมบัติดูดความชื้นได้สูงสุดวันละ 350 มล. พร้อมถังเก็บน้ำขนาดใหญ่ 1,000 มล. ที่ช่วยให้เห็นปริมาณน้ำได้อย่างชัดเจน และมีระบบตัดไฟอัตโนมัติเพื่อความปลอดภัย เครื่องนี้ยังช่วยฟอกอากาศและมีไส้กรองในตัว เพิ่มความสะดวกด้วยโหมด Sleep ที่ทำงานเงียบไม่รบกวนการพักผ่อน นอกจากนี้ ดีไซน์ทันสมัยและไฟ LED 7 สียังเพิ่มความผ่อนคลายและสีสันให้กับห้อง

เลือกเครื่องดูดความชื้นอย่างไร ให้เหมาะกับบ้านคุณ?

เลือกเครื่องดูดความชื้นอย่างไร ให้เหมาะกับบ้านคุณ?

ประเมินขนาดพื้นที่และความต้องการใช้งาน

ก่อนเลือกซื้อสินค้านี้ คุณจำเป็นต้องประเมิณขนาดพื้นที่ใช้งานและระดับความชื้นที่ต้องการควบคุม โดยการใช้เครื่องมือที่เรียกว่า “ไฮโกรอมิเตอร์” (Hygrometer) ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ออกแบบมาเพื่อวัดและแสดงค่าความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศได้อย่างแม่นยำ นอกจากนี้ยังมีวิธีอื่นๆ ที่สามารถทำได้ดังนี้

  • ไฮโกรอมิเตอร์ดิจิตอล: เป็นเครื่องมือยอดนิยมสำหรับวัดความชื้นในบ้าน เนื่องจากมีความแม่นยำสูงและใช้งานง่าย บางรุ่นยังมีฟังก์ชันการวัดอุณหภูมิร่วมด้วย
  • ไฮโกรอมิเตอร์อะนาล็อก: เป็นอุปกรณ์แบบดั้งเดิม ที่ใช้งานได้โดยไม่ต้องพึ่งพาแบตเตอรี่หรือแหล่งพลังงาน มักใช้ในการวัดความชื้นในพื้นที่กลางแจ้งหรือในสถานที่ที่ไม่มีไฟฟ้า
  • สมาร์ทโฮมเซ็นเซอร์: ในบ้านอัจฉริยะหรือสมาร์ทโฮม มักติดตั้งเซ็นเซอร์ที่สามารถวัดความชื้นและอุณหภูมิได้ เหล่านี้สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์อัจฉริยะอื่นๆ ให้คุณสามารถตรวจสอบค่าความชื้นได้จากทุกที่
  • เครื่องที่มาพร้อมกับไฮโกรอมิเตอร์ในตัว: สินค้าบางรุ่น มาพร้อมกับไฮโกรอมิเตอร์ในตัวที่ช่วยให้คุณสามารถตั้งค่าและควบคุมระดับความชื้นได้อย่างแม่นยำตามที่ต้องการ

หลังจากการประเมินขนาดพื้นใช้งานและระดับความชื้นที่ต้องการควบคุม ความสามารถในการดูดความชื้นของเครื่องมักจะระบุเป็นปอนด์ต่อวัน (pints per day – PPD) หรือลิตรต่อวัน (liters per day – L/D) พื้นที่ขนาดเล็กอาจต้องการเครื่องที่มีความสามารถดูดความชื้นอยู่ที่ประมาณ 10-30 PPD ขณะที่พื้นที่ใหญ่กว่าอาจต้องการเครื่องที่มีความสามารถมากกว่า 30 PPD

ขนาดพื้นที่ (ตารางฟุต/เมตร)

คุณสามารถคำนวณขนาดพื้นที่ โดยการวัดความยาวและความกว้างของห้อง จากนั้นคูณค่าเหล่านี้เข้าด้วยกัน (ยาว x กว้าง) เพื่อหาพื้นที่เป็นตารางฟุตหรือตารางเมตร ตัวอย่างเช่น, ห้องที่มีขนาด 10×10 ฟุต จะมีพื้นที่ 100 ตารางฟุต (หรือประมาณ 9.29 ตารางเมตร) ห้องที่มีขนาดนี้อาจต้องการเครื่องดูดความชื้นที่มีความสามารถอย่างน้อย 10-30 PPD (ประมาณ 4.73 ถึง 14.20 ลิตรต่อวัน) เพื่อรักษาระดับความชื้นในระดับที่สบายและปลอดภัย

ระดับความชื้นปัจจุบัน

ระดับความชื้นในบ้านควรอยู่ระหว่าง 30-50% เพื่อสุขภาพและความสบายที่ดีที่สุด หากคุณพบว่าความชื้นในบ้านสูงกว่านี้ (เช่น 60-70%) นั่นหมายความว่าคุณอาจต้องการเครื่องที่มีความสามารถสูงขึ้น เพื่อลดความชื้นให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม การมีความชื้นสูงสามารถนำไปสู่ปัญหาสุขภาพ เช่น การเกิดเชื้อราและไรฝุ่น

การใช้งาน

  • หากคุณมีห้องครัวที่ใช้ในการประกอบอาหารบ่อยๆ ซึ่งสามารถเพิ่มความชื้นในบ้านได้
  • ห้องน้ำที่ไม่มีการระบายอากาศที่ดี สามารถสะสมความชื้นจากการอาบน้ำ
  • พื้นที่ก่อสร้างหรือพื้นที่ที่มีน้ำซึมเข้ามา

ตารางสรุปข้อควรคำนึงก่อนซื้อสินค้า

ขนาดพื้นที่

วัดความยาวและความกว้างของห้อง แล้วคูณค่าเหล่านี้เข้าด้วยกัน

เช่น ห้อง 10×10 ฟุต มีพื้นที่ 100 ตารางฟุต หรือประมาณ 9.29 ตารางเมตร ต้องการเครื่องที่มีความสามารถ 10-30 PPD หรือ 4.73 ถึง 14.20 ลิตรต่อวัน

ระดับความชื้นปัจจุบันระดับความชื้นในบ้านควรอยู่ระหว่าง 30-50% เพื่อสุขภาพที่ดี หากความชื้นเกินกว่านี้ เช่น 60-70% ควรหาเครื่องที่มีความสามารถสูงขึ้น เพื่อลดความชื้นให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม
การใช้งาน

ครัว: การทำอาหารบ่อยครั้งสามารถเพิ่มความชื้นในบ้านได้

– ห้องน้ำ: ขาดการระบายอากาศที่ดี มักสะสมความชื้นจากการอาบน้ำ

– พื้นที่ก่อสร้าง/มีน้ำซึม: พื้นที่เหล่านี้อาจต้องการเครื่องที่มีความสามารถสูงขึ้น เพื่อจัดการกับความชื้นเพิ่มเติม

ความสำคัญของอุปกรณ์อื่น ๆ ในบ้าน

นอกจากเครื่องดูดความชื้น ยังมีอุปกรณ์อื่นๆ ที่สามารถช่วยให้บ้านของคุณน่าอยู่มากขึ้น เช่น ตู้เย็นมินิบาร์ยี่ห้อที่ดีที่สุด ซึ่งช่วยเก็บรักษาอาหารและเครื่องดื่มในปริมาณที่เหมาะสม โดยไม่ต้องใช้พื้นที่มาก และการเลือกเครื่องปั่นน้ำผลไม้ยี่ห้อไหนดีก็สามารถช่วยเตรียมเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน ทั้งสองอุปกรณ์นี้สามารถเพิ่มความสะดวกสบายในบ้านของคุณได้อย่างมาก 

โดยสรุปแล้วการเลือกเครื่องดูดความชื้นที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพสูงสุด คุณจะสามารถสร้างสภาพแวดล้อมที่สบายและปลอดภัยสำหรับทุกคนในบ้านได้

คุณสมบัติเพิ่มเติมที่คุณควรรู้ ที่มากกว่าแค่ดูดความชื้น

คุณสมบัติเพิ่มเติมที่คุณควรรู้ ที่มากกว่าแค่ดูดความชื้น

เครื่องทำงานเงียบ

คุณภาพของชีวิตในบ้านปรับปรุงได้ ด้วยเครื่องที่ทำงานอย่างเงียบสงบ การออกแบบที่ทันสมัยและเทคโนโลยีล่าสุดได้ช่วยให้มีเสียงรบกวนน้อยลง โดยปกติแล้วเครื่องที่มีเสียงเบา จะมีระดับเสียงอยู่ที่ประมาณ 35-50 เดซิเบล ซึ่งเทียบได้กับเสียงซุบซิบหรือเสียงห้องสมุด บางรุ่นใช้เทคโนโลยีที่ช่วยลดเสียงรบกวนจากการหมุนของพัดลมหรือการไหลของน้ำภายในเครื่อง ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานในห้องนอนหรือพื้นที่ที่ต้องการความเงียบสงบ

ใช้งานง่ายไม่ซับซ้อน

การออกแบบที่เน้นความสะดวกในการใช้งาน เป็นอีกหนึ่งคุณสมบัติที่ทำให้สินต้ามีความน่าสนใจ หลาย ๆ เครื่องพร้อมกับหน้าจอแสดงผลดิจิตอล ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเห็นระดับความชื้นปัจจุบันและตั้งค่าความชื้นที่ต้องการได้ การตั้งค่าสามารถทำได้ผ่านปุ่มกดหรืออินเทอร์เฟสที่ใช้งาน อีกทั้งบางรุ่นยังมีฟังก์ชั่นการทำความสะอาดอัตโนมัติและการแจ้งเตือนเมื่อถาดน้ำเต็ม ลดความจำเป็นในการบำรุงรักษาเป็นประจำ นอกจากนี้ยังมีระบบการทำความสะอาดและการเปลี่ยนตัวกรองที่สามารถทำได้ง่ายโดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์เพิ่มเติม ทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องวุ่นวายกับการดูแลรักษาและเพิ่มอายุการใช้งาน

การเชื่อมต่ออัจฉริยะ

ในยุคดิจิทัล การมีเครื่องดูดความชื้นที่เชื่อมต่อ Wi-Fi และสามารถควบคุมได้ผ่านแอปพลิเคชั่น เป็นคุณสมบัติที่น่าสนใจอย่างยิ่ง เครื่องที่มีความสามารถนี้มักจะมีช่วงการควบคุมอุณหภูมิและความชื้นได้จาก 30% ถึง 70% ระยะทางในการเชื่อมต่อไวไฟ สามารถเป็นได้ตั้งแต่ 10 เมตรถึง 30 เมตร ขึ้นอยู่กับการออกแบบและรุ่นของเครื่อง ฟังก์ชั่นนี้ช่วยให้คุณสามารถเปิดหรือปิดเครื่อง ปรับระดับความชื้น และตรวจสอบสถานะการทำงานของเครื่องได้จากทุกที่ทุกเวลาผ่านสมาร์ทโฟน

คุณภาพอากาศและการกรอง

เครื่องที่มีฟิลเตอร์อากาศเป็นส่วนเสริมที่ช่วยให้คุณไม่เพียงแค่ลดความชื้นในบ้านเท่านั้น แต่ยังช่วยกรองสิ่งสกปรกและสิ่งที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ออกจากอากาศได้ ฟิลเตอร์เหล่านี้ สามารถกรองอนุภาคขนาดเล็กได้ถึง 0.3 ไมครอน ซึ่งรวมถึงฝุ่นละออง, สปอร์เชื้อรา, และขนสัตว์ บางรุ่นมีฟิลเตอร์ HEPA ซึ่งเป็นมาตรฐานในอุตสาหกรรม ช่วยให้อากาศภายในบ้านของคุณสะอาดและปลอดภัยมากขึ้น แต่ควรบำรุงรักษาฟิลเตอร์เป็นประจำทุก 3-6 เดือน เพื่อรักษาประสิทธิภาพในการกรองอากาศและป้องกันการสะสมของสิ่งสกปรกที่อาจหลุดกลับเข้าสู่อากาศในบ้าน

ตารางฟีเจอร์เพิ่มเติมที่น่าสนใจ

เครื่องทำงานเงียบเครื่องมีเสียงรบกวนต่ำ ประมาณ 35-50 เดซิเบล ใช้เทคโนโลยีลดเสียงจากพัดลมและการไหลของน้ำ เหมาะสำหรับใช้งานในห้องนอนหรือพื้นที่ที่ต้องการความเงียบ
ใช้งานง่ายไม่ซับซ้อน– มีหน้าจอแสดงผลดิจิตอล
– การตั้งค่าที่ง่าย
– ฟังก์ชั่นการทำความสะอาดอัตโนมัติ
– แจ้งเตือนเมื่อถาดน้ำเต็ม เปลี่ยนตัวกรองง่ายโดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์เพิ่มเติม
การเชื่อมต่ออัจฉริยะความสามารถในการเชื่อมต่อ Wi-Fi และควบคุมผ่านแอป สามารถตั้งค่าอุณหภูมิและความชื้นได้จาก 30% ถึง 70% ควบคุมและตรวจสอบจากทุกที่ผ่านมือถือ
คุณภาพอากาศและการกรองมีฟิลเตอร์อากาศ กรองอนุภาคขนาดเล็กถึง 0.3 ไมครอน เช่น ฝุ่นละออง สปอร์เชื้อรา ขนสัตว์ บางรุ่นมีฟิลเตอร์ HEPA บำรุงรักษาฟิลเตอร์ทุก 3-6 เดือน เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด

วิธีติดตั้งและดูแลเครื่องง่ายๆ ด้วยตัวเอง

วิธีติดตั้งและดูแลเครื่องง่ายๆ ด้วยตัวเอง

การติดตั้ง

  • เลือกตำแหน่งที่เหมาะสม: การเลือกตำแหน่งที่เหมาะสมสำหรับติดตั้งเครื่องดูดความชื้นเป็นปัจจัยสำคัญที่สุด ควรติดตั้งเครื่องในพื้นที่ที่ความชื้นสูงสุด เช่น ห้องใต้ดินที่มีปัญหาน้ำซึมหรือห้องน้ำที่มีการใช้น้ำมาก โดยพื้นที่เหล่านี้อาจมีความชื้นสูงกว่า 60-70% RH (Relative Humidity)
  • รักษาระยะห่างจากผนังและเฟอร์นิเจอร์: เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการไหลเวียนของอากาศและการดูดความชื้น ควรวางเครื่องห่างจากผนังและเฟอร์นิเจอร์อย่างน้อย 6-12 นิ้ว (15-30 เซนติเมตร)
  • ใช้สายไฟและปลั๊กที่เหมาะสม: ควรใช้สายไฟและปลั๊กที่ตรงกับความต้องการของเครื่องและมาตรฐานความปลอดภัย เพื่อป้องกันปัญหาไฟฟ้าลัดวงจรหรือไฟไหม้

วิธีบำรุงรักษา

  • ทำความสะอาดถาดน้ำ: แนะนำให้ล้างถาดเก็บน้ำอย่างน้อยทุกสัปดาห์ เพื่อป้องกันการเติบโตของเชื้อราและแบคทีเรีย การใช้น้ำส้มสายชูผสมน้ำในอัตราส่วน 1:1 สามารถช่วยลดการสะสมของสิ่งสกปรกได้
  • เปลี่ยนหรือทำความสะอาดฟิลเตอร์: ฟิลเตอร์ควรเปลี่ยนหรือทำความสะอาดทุก 3-6 เดือน หรือตามคำแนะนำของผู้ผลิต เพื่อรักษาประสิทธิภาพในการกรองอากาศ
  • ตรวจสอบและทำความสะอาดพัดลมและคอยล์: แนะนำให้ตรวจสอบและทำความสะอาดพัดลมและคอยล์เย็นอย่างน้อยปีละครั้ง เพื่อป้องกันการสะสมของฝุ่นละอองและรักษาความเย็นในการทำงาน

ตารางสรุปการดูแลเครื่องที่ถูกต้อง

การติดตั้งเลือกตำแหน่งที่เหมาะสม: พื้นที่ที่ความชื้นสูงสุด เช่น ห้องใต้ดินหรือห้องน้ำ
-รักษาระยะห่าง: วางห่างจากผนังและเฟอร์นิเจอร์ 6-12 นิ้ว
-สายไฟและปลั๊ก: ใช้สายไฟและปลั๊กที่เหมาะสมและปลอดภัย
ใช้งานง่ายไม่ซับซ้อน– มีหน้าจอแสดงผลดิจิตอล
– การตั้งค่าที่ง่าย
– ฟังก์ชั่นการทำความสะอาดอัตโนมัติ
– แจ้งเตือนเมื่อถาดน้ำเต็ม เปลี่ยนตัวกรองง่ายโดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์เพิ่มเติม
การบำรุงรักษา

– ทำความสะอาดถาดน้ำ: ล้างทุกสัปดาห์ด้วยน้ำส้มสายชูผสมน้ำ

– เปลี่ยนหรือทำความสะอาดทุก 3-6 เดือน
– พัดลมและคอยล์: ตรวจสอบและทำความสะอาดปีละครั้งเพื่อป้องกันการสะสมของฝุ่นละออง

การลงทุนซื้ออุปกรณ์ดูดความชื้นจึงเป็นการตัดสินใจที่คุ้มค่าสำหรับทุกครอบครัว เครื่องสามารถควบคุมระดับความชื้นในบ้าน ไม่เพียงช่วยลดปัญหาเชื้อราและกลิ่นไม่พึงประสงค์เท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มคุณภาพของอากาศภายใน สนับสนุนให้สุขภาพของทุกคนดีขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้เฟอร์นิเจอร์และวัสดุอื่นๆ มีอายุการใช้งานที่ยืนยาว ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อสักเครื่อง คุณควรพิจารณาหลายปัจจัย เช่น ขนาดของพื้นที่ต้องการใช้ ระดับความชื้นในปัจจุบัน และคุณสมบัติพิเศษที่อาจตอบโจทย์ความต้องการ เช่น เครื่องที่ทำงานเงียบหรือมีฟังก์ชั่นการเชื่อมต่ออัจฉริยะ อุปกรณ์ดูดความชื้นที่ตรงกับความต้องการ จะช่วยให้คุณสามารถรักษาความสมดุลของความชื้นในบ้านได้อย่างเหมาะสม ด้วยจากรายการที่เราได้คัดสรรมา รับรองได้เลยว่าคุณและครอบครัวจะได้สัมผัสกับความสะดวกสบาย มีอากาศที่สะอาดและสดชื่น และสุขภาพที่ดีขึ้นในบ้านของตัวเอง

คำถามที่พบบ่อย (FAQs)

1. เครื่องดูดความชื้นคืออะไร? และทำไมถึงต้องใช้? 

สิ่งนี้ คือ อุปกรณ์ที่ช่วยลดระดับความชื้นในอากาศภายในบ้าน ช่วยให้อากาศสดชื่น ป้องกันเชื้อราและกลิ่นไม่พึงประสงค์ การใช้เครื่องดูดความชื้นจึงช่วยเสริมสุขภาพและความสบายในบ้านของคุณได้

2. เราควรวางอุปกรณ์ดูดความชื้นที่ไหนในบ้าน? 

ควรวางเครื่องในพื้นที่ที่มีความชื้นสูง เช่น ห้องใต้ดิน ห้องน้ำ หรือห้องครัว และหลีกเลี่ยงการวางใกล้กับผนังหรือเฟอร์นิเจอร์เพื่อการไหลเวียนอากาศที่ดี

3. เลือกอุปกรณ์ดูดความชื้นขนาดไหนดี มีคำแนะนำไหม? 

ขนาดของเครื่องที่เหมาะสม ขึ้นอยู่กับขนาดพื้นที่ที่ต้องการใช้งานและระดับความชื้น ควรวัดขนาดห้องและปรึกษาระดับความชื้นเพื่อเลือกขนาดเครื่องที่พอเหมาะ

4. เราควรทำความสะอาดเครื่องบ่อยแค่ไหน? 

แนะนำให้ทำความสะอาดถาดเก็บน้ำและฟิลเตอร์อย่างน้อยทุกสัปดาห์ เพื่อป้องกันเชื้อราและรักษาประสิทธิภาพในการดูดความชื้นให้อยู่ในสภาพที่ดีที่สุด

Scroll to Top