สภาพอากาศในประเทศไทยไม่ว่าจะอยู่ในภาคไหนก็ช่างร้อนระอุได้ทั้งปี อีกทั้งอากาศบ้านเราจัดอยู่ในพื้นที่ร้อนชื้น ซึ่งค่าความชื้นสัมพัทธ์เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 60-80% ถือว่าค่อนข้างเยอะมากเลยทีเดียว และด้วยความชื้นที่มากเกินไปนี้ สามารถส่งผลเสียหลายอย่างต่อทั้งบ้านและสุขภาพของผู้อยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดเชื้อราและไรฝุ่น รวมถึงการเป็นต้นเหตุของกลิ่นอับไม่พึงประสงค์ ที่สามารถติดอยู่ในเฟอร์นิเจอร์และผ้าม่านได้ การมีเครื่องดูดความชื้น จึงไม่เพียงช่วยลดความชื้นและป้องกันปัญหาเหล่านี้ แต่ยังช่วยเสริมสุขภาพของคุณและครอบครัว
ด้วยเหตุผลดังกล่าว การมีสิ่งนี้ในบ้านจึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เพื่อรักษาคุณภาพชีวิตและสุขภาพของคุณและครอบครัวให้ดีที่สุด ในบทความนี้ เราขอนำเสนอ 10 อันดับ เครื่องดูดความชื้น ลดกลิ่นอับ กันราหน้าฝน ฟังก์ชั่นทันสมัย ขนาดกะทัดรัด พร้อมด้วยข้อมูลดีๆ ในบทความนี้เพื่อตัดสินใจที่ถูกต้องในการเลือกสินค้าให้เหมาะสมกับความต้องการ ที่ช่วยให้ผู้ที่มีอาการแพ้ หรือโรคหอบหืดสามารถหายใจได้สะดวกขึ้น ไม่เพียงเท่านั้น อีกทั้งป้องกันความเสียหายของเฟอร์นิเจอร์ ยืดอายุการใช้งานและสิ่งของต่างๆ ในบ้านของคุณ
หลักเกณฑ์ที่ใช้ในการจัดอันดับสินค้า
- ประสิทธิภาพในการลดความชื้น: เครื่องที่เราเลือกต้องสามารถดึงดูดความชื้นได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ช่วยให้บ้านของคุณปลอดจากเชื้อราและกลิ่นอับ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการรักษาสุขภาพที่ดีของครอบครัว
- ความสะดวกในการใช้งาน: การใช้งานได้ง่ายเป็นอีกหัวข้อที่เราคัดเลือก แม้ในพื้นที่ที่มีขนาดจำกัด ไม่ว่าจะเป็นการตั้งค่าหรือการเคลื่อนย้าย ทำให้คุณสามารถจัดการกับความชื้นได้ทุกมุมของบ้าน
- การชาร์จไฟ: เพื่อความสะดวกสบายในการใช้งาน การเลือกเครื่องที่สามารถชาร์จไฟได้ช่วยให้คุณใช้งานได้ต่อเนื่อง โดยไม่ต้องกังวลเรื่องสายไฟหรือการหาปลั๊กให้วุ่นวาย
- ระดับเสียง: เราใส่ใจในเรื่องของความเงียบสงบภายในบ้าน ดังนั้นเครื่องที่เราเลือกต้องมีระดับเสียงที่ต่ำ ไม่รบกวนช่วงเวลาพักผ่อนหรือกิจกรรมต่างๆ ของคุณและครอบครัว
- ฟังก์ชันพิเศษ: เครื่องดูดความชื้นที่มีฟังก์ชันพิเศษ เช่น การตั้งเวลา หรือการควบคุมผ่านแอป จะช่วยให้การใช้งานเป็นไปได้อย่างสะดวกสบาย และตอบสนองความต้องการของคุณได้ดีขึ้น
- ป้องกันกลิ่นอับและกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์: ความสามารถในการกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์เป็นอีกหนึ่งเกณฑ์สำคัญ ทำให้บ้านของคุณมีอากาศที่สดชื่น สะอาด เหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัว
1. HAFELE รุ่น ECOM-292
HAFELE รุ่น ECOM-292 มีน้ำหนักเบาเคลื่อนย้ายสะดวดก ใช้งานง่ายแค่กดปุ่มเดียว มีประสิทธิภาพลดความชื้นสูงและทำงานไม่มีเสียงรบกวน เหมาะสำหรับใช้งานในห้องขนาดไม่เกิน 20 ตารางเมตร
ลดความชื้นได้ต่อวัน | 750 ml/วัน |
---|---|
ขนาดพื้นที่ทำงาน | 20 ตารางเมตร |
การควบคุมสั่งงาน | ควบคุมโดยปุ่มเดียว |
คุณสมบัติ | ดูดความชื้น |
ข้อดี
- น้ำหนักเบาและพกพาสะดวก: ด้วยน้ำหนักเพียง 2.2 กิโลกรัม ทำให้เคลื่อนย้ายได้ง่ายในบ้านหรือเปลี่ยนตำแหน่งตามความต้องการ
- ดีไซน์ทันสมัย: มาพร้อมดีไซน์ที่ดูทันสมัย สามารถเข้ากับการตกแต่งในบ้านได้เป็นอย่างดี
- มีระบบตัดไฟอัตโนมัติ: เมื่อน้ำเต็มถังจะมีระบบตัดไฟอัตโนมัติ ช่วยให้ใช้งานได้อย่างปลอดภัย น้ำไม่ไหลนองเต็มพื้นบ้าน
- ทำงานเงียบ: เครื่องทำงานด้วยเสียงเบามากที่ 42 เดซิเบล ไม่สร้างความรำคาญหรือรบกวนใจ
ข้อควรพิจารณา
- ไม่มีระบบต่อสายระบายน้ำ: ต้องเทน้ำทิ้งด้วยตนเองเมื่อน้ำเต็มถัง ซึ่งอาจสร้างความไม่สะดวกในบางสถานการณ์
- อุณหภูมิการใช้งานที่จำกัด: สามารถใช้งานได้ดีในช่วงอุณหภูมิ 5-32 องศาเซลเซียส เท่านั้น ซึ่งอาจไม่เหมาะกับพื้นที่ที่มีอุณหภูมิต่ำหรือสูงกว่านี้
HAFELE เครื่องลดความชื้นรุ่น ECOM-292 เป็นหนึ่งในสินค้ายอดนิยมที่ออกแบบมาให้มีรูปทรงทันสมัย พร้อมด้วยคุณสมบัติที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานได้อย่างดีเยี่ยม เครื่องมีน้ำหนักเบาเพียง 2.2 กิโลกรัม ทำให้เคลื่อนย้ายได้ง่าย และสามารถลดความชื้นได้สูงสุด 750 มิลลิลิตรต่อวัน ด้วยความจุถังน้ำ 2 ลิตร มาพร้อมกับระบบตัดไฟอัตโนมัติเมื่อน้ำเต็มถัง ซึ่งช่วยป้องกันไม่ให้เครื่องทำงานเกินความจำเป็นและประหยัดพลังงาน
สินค้าผลิตจากพลาสติก ABS มีสีขาว ด้วยการออกแบบที่กะทัดรัด ทำให้เหมาะกับการใช้งานในพื้นที่ต่างๆ ภายในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นห้องนอน, โรงแรม, โรงพยาบาล, ห้องซักล้าง หรือสำนักงาน เครื่องใช้กำลังไฟ 45 วัตต์ และสามารถทำงานในอุณหภูมิระหว่าง 5 ถึง 32 องศาเซลเซียส อุปกรณ์นี้ถูกออกแบบมาให้เหมาะสำหรับห้องที่มีขนาดไม่เกิน 20 ตารางเมตร โดยมีระดับเสียงในการทำงานต่ำ น้อยกว่าหรือเท่ากับ 42 เดซิเบล ใช้ในห้องนอนก็ยังเงียบไม่รบกวนระหว่างคืน มีข้อแนะนำว่า ต้องคอยเทน้ำทิ้งด้วยตนเอง เนื่องจากรุ่นนี้ไม่มีระบบต่อสายระบายน้ำ แต่ด้วยการออกแบบที่ให้ความสำคัญกับความสะดวกสบาย ทำให้การเทน้ำทิ้งเป็นเรื่องง่าย นอกจากนี้ยังเป็นเครื่องที่ใช้งานแสนง่ายเพียงกดปุ่มควบคุมปุ่มเดียว ทำให้เหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัว
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?
HAFELE ECOM-292 ครองใจผู้ใช้หลาย ๆ นด้วยมีดีไซน์ทันสมัย ตัวเครื่องด้วยน้ำหนักเบาเพียง 2.2 กิโลกรัม ทำให้สามารถเคลื่อนย้ายได้ง่าย นอกจากนี้ยังมีความสามารถในการลดความชื้นสูงสุดถึง 750 มล.ต่อวัน และมีถังน้ำขนาด 2 ลิตรพร้อมระบบตัดไฟอัตโนมัติเมื่อน้ำเต็มถัง ซึ่งช่วยให้การใช้งานเป็นไปอย่างปลอดภัยและคุ้มค่า ความสามารถในการทำงานเงียบที่ 42 เดซิเบลยังเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นที่ทำให้เครื่องนี้เหมาะสำหรับการใช้งานในห้องที่ต้องการความเงียบสงบ เช่น ห้องนอนหรือห้องทำงาน
2. LG รุ่น MD16GQSA1.ATH
LG รุ่น MD16GQSA1.ATH สามารถควบคุมผ่านแอปพลิเคชันได้ มีฟังก์ชั่นฟอกอากาศด้วยประจุไฟฟ้าลดการสะสมของแบคทีเรียและกลิ่นอับหลังใช้งาน และทำงานเงียบเพียง 33dB เหมาะสำหรับใช้ในทุกพื้นที่ภายในบ้าน
ลดความชื้นได้ต่อวัน | 30 ลิตรต่อวัน |
---|---|
ขนาดพื้นที่ทำงาน | 66 ตารางเมตร |
การควบคุมสั่งงาน | แอปพลิเคชัน LG ThinQ™ |
คุณสมบัติ | ลดความชื้น |
ข้อดี
- ระบบฟอกอากาศด้วยประจุไฟฟ้านาโนไอออน: นอกจากจะลดความชื้นแล้ว ยังช่วยฟอกอากาศในบ้านของคุณให้สะอาดขึ้น ช่วยลดการเกิดอาการแพ้จากฝุ่นละอองและเชื้อรา
- ระบบ Auto Cleaning: หลังจากปิดการใช้งาน เครื่องจะทำการลดความชื้นอัตโนมัติเพื่อป้องกันแบคทีเรียและกลิ่นอับ ช่วยให้เครื่องคงความสะอาดและพร้อมใช้งานอยู่เสมอ
- คอมเพรสเซอร์ระบบ Dual Inverter: ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและประหยัดพลังงาน
- อุปกรณ์เสริมสายเป่าตัว T และ Y: ช่วยให้คุณสามารถใช้เครื่องสำหรับไล่ความชื้นในรองเท้าและตู้เสื้อผ้าได้อีกด้วย ช่วยขจัดความชื้นและกลิ่นไม่พึงประสงค์อย่างมีประสิทธิภาพ
- ต่อท่อระบายน้ำสะดวก: มีตัวเลือกในการต่อท่อระบายน้ำขนาด 3/8" (3หุน) หรือ 1/2" (4 หุน) เพื่อความสะดวกในการระบายน้ำออกจากเครื่องโดยไม่ต้องพึ่งถังเก็บน้ำ ลดความจำเป็นในการเทน้ำทิ้งบ่อยๆ
- การออกแบบที่เน้นความสะดวก: มาพร้อมด้ามจับที่ออกแบบมาให้จับได้สะดวกสบาย ล้อเลื่อนที่หมุนได้ 360° ช่วยให้การเคลื่อนย้ายเครื่องได้ง่ายดาย และถังน้ำใสที่ช่วยให้เห็นระดับน้ำได้จากหลายมุมมอง
ข้อควรพิจารณา
- ราคาอาจสูง: เนื่องจากเป็นเครื่องที่มีคุณสมบัติพิเศษและประสิทธิภาพสูง ราคาอาจสูงกว่าเครื่องลดความชื้นรุ่นอื่นๆ
- ขนาดเครื่องใหญ่: ด้วยถังน้ำขนาดใหญ่และความสามารถในการลดความชื้นสูง อาจทำให้เครื่องมีขนาดใหญ่และต้องการพื้นที่สำหรับวางเครื่องมากขึ้น
- ต้องมีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต: สำหรับการใช้งานฟีเจอร์ควบคุมผ่านแอปพลิเคชัน LG ThinQ™ ต้องมีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอยู่เสมอ ซึ่งอาจเป็นข้อจำกัดสำหรับบางพื้นที่
แบรนด์ระดับโลกอย่าง LG นำเสนอเครื่องดูดความชื้นรุ่น MD16GQSA1.ATH มีความสามารถในการลดความชื้นสูงถึง 30 ลิตรต่อวัน ด้วยถังเก็บน้ำขนาดใหญ่ถึง 16 ลิตร ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องการเทน้ำบ่อยครั้ง เครื่องมีคอมเพรสเซอร์ระบบ Dual Inverter ซึ่งปรับการทำงานอัตโนมัติตามสภาพความชื้น ช่วยให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและประหยัดพลังงาน นอกจากนี้ยังสามารถควบคุมการทำงานได้ผ่านแอปพลิเคชัน LG ThinQ™ สำหรับการตรวจสอบและควบคุมจากสมาร์ตโฟนหรือแท็บเล็ต
เครื่องออกแบบมีด้ามจับและล้อหมุน 360° ช่วยให้การเคลื่อนย้ายภายในบ้านเป็นเรื่องง่าย ตัวถังน้ำออกแบบบิ้วท์อินให้ถอดและเทได้ง่ายด้วยมือเดียว ยังรองรับการต่อท่อระบายน้ำขนาด 3/8″ (3หุน) หรือ 1/2″ (4 หุน) เพื่อความสะดวกในการระบายน้ำโดยไม่ต้องใช้ถังเก็บ ไม่ว่าอยู่ที่ไหนๆก็ไม่รบกวนใจเพราะทำงานเสียงเบามากเพียง 33dB นอกจากนี้ ยังมีฟังก์ชั่นฟอกอากาศด้วยประจุไฟฟ้านาโนไอออนและระบบ Auto Cleaning ซึ่งช่วยลดการสะสมของแบคทีเรียและกลิ่นไม่พึงประสงค์หลังจากการใช้งาน พร้อมอุปกรณ์เสริมสายเป่าตัว T และ Y สำหรับไล่ความชื้นให้รองเท้าและตู้เสื้อผ้า เครื่องรับประกันจากผู้ผลิต 1 ปี ทำให้เป็นเครื่องดูดความชื้นที่น่าเชื่อถือและมีความทนทานสูง ตอบโจทย์ทั้งในเรื่องการลดความชื้นอย่างมีประสิทธิภาพ การประหยัดพลังงาน และการใช้งานที่สะดวกสบายขั้นสุด
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?
เครื่องลดความชื้น LG รุ่น MD16GQSA1.ATH ด้วยความสามารถในการลดความชื้นสูงถึง 30 ลิตรต่อวัน และมีถังเก็บน้ำขนาดใหญ่ถึง 16 ลิตร ช่วยลดความต้องการในการเทน้ำบ่อยครั้ง คอมเพรสเซอร์ระบบ Dual Inverter ยังช่วยให้เครื่องทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพพร้อมการประหยัดพลังงาน นอกจากนี้ คุณยังสามารถควบคุมการทำงานได้จากทุกที่ผ่านแอปพลิเคชัน LG ThinQ™ ซึ่งเพิ่มความสะดวกให้กับผู้ใช้ รวมถึงระดับเสียงการทำงานที่ต่ำเพียง 33dB ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานในทุกสภาพแวดล้อมภายในบ้าน
3. HOMEMATEรุ่น HOM-16H458
HOMEMATE รุ่น HOM-16H458 มีความสามารถดูดคยวามชื้นสูง เหมาะสำหรับพื้นที่ขนาด 35-45 ตารางเมตร มาพร้อมฟังก์ชัน HEPA Filter และ Auto-Swing, ระบบควบคุมความชื้นแบบเจาะจง และความสะดวกในการดูแลรักษา
ลดความชื้นได้ต่อวัน | 45 L ต่อวัน |
---|---|
ขนาดพื้นที่ทำงาน | 35-45 ตร.ม. |
การควบคุมสั่งงาน | LCD แสดงโปรแกรมการทำงาน |
คุณสมบัติ | ควบคุมความชื้น |
ข้อดี
- ลดความชื้นสูง: สามารถลดความชื้นได้ถึง 45 ลิตรต่อวัน ซึ่งเหมาะกับพื้นที่ขนาด 35-45 ตารางเมตร
- มี HEPA Filter: ช่วยกรองอากาศให้สะอาดขึ้น ลดปัญหาเกี่ยวกับฝุ่นและสารก่อภูมิแพ้
- ระบบ Auto-Swing: ช่วยให้ผ้าที่ตากในห้องหรือเมื่อซักพรมและโซฟาแห้งได้เร็วขึ้น
- ตั้งค่าความชื้นที่แม่นยำ: สามารถควบคุมความชื้นได้ตั้งแต่ 40%-70% RH
- ดูแลรักษาไม่ยุ่งยาก: สามารถต่อท่อน้ำทิ้งได้ ลดความยุ่งยากในการเทน้ำทิ้งทุกวัน
ข้อควรพิจารณา
- ขนาดและน้ำหนัก: ด้วยขนาดที่ 41x26.5x66.5 เซนติเมตร และน้ำหนัก 18 กิโลกรัม อาจทำให้การเคลื่อนย้ายไม่สะดวกสำหรับบางคน
- การใช้พลังงาน: แม้ว่าจะมีระดับเสียงที่ต่ำ แต่เนื่องจากมีขนาดที่ใหญ่จึงอาจกินไฟมากกว่าเครื่องขนาดเล็ก
HOMEMATE รุ่น HOM-16H458 สีเงิน อุปกรณ์ออกแบบมาเพื่อใช้ในพื้นที่ที่มีขนาดระหว่าง 35-45 ตารางเมตร ซึ่งมีความชื้นสูงและกลิ่นอับ เช่น ในบ้าน, ห้องที่ปิดทิ้งไว้, ห้องนอนบ้านตากอากาศ, ห้องใต้ดิน, ห้องสมุดหรือห้องเก็บเอกสาร เครื่องนี้สามารถลดความชื้นภายในห้องได้สูงสุด 45 ลิตรต่อวัน โดยมีระบบควบคุมความชื้นที่สามารถตั้งค่าได้ตั้งแต่ 40%-70% RH นอกจากนี้ยังมีแผงปุ่มกดและหน้าจอ LCD แสดงสถานะการทำงานของตัวเครื่องอย่างละเอียด
ตัวเครื่องรุ่นนี้มีฟังก์ชันต่างๆ ครบครัน รวมถึง HEPA Filter สำหรับกรองอากาศให้สะอาดขึ้น, ระบบตั้งเวลาการทำงานอัตโนมัติ และระบบ Auto-Swing ที่ช่วยให้ผ้าที่ตากในห้องหรือเมื่อซักพรมหรือซักโซฟาแห้งได้เร็วขึ้น ตัวเครื่องมีความจุ 6 ลิตร มีขนาด 41×26.5×66.5 เซนติเมตร และน้ำหนัก 18 กิโลกรัม ทำงานระดับเสียงที่ 48 เดซิเบล หนึ่งในคุณสมบัติเด่นต่อท่อน้ำทิ้งได้ ทำให้การนะบายน้ำทิ้งง่ายขึ้นและไม่ต้องทำทุกวัน นอกจากนี้ ยังมีล้อและหูจับทำให้การเคลื่อนย้ายเป็นเรื่องง่าย สินค้ามาพร้อมกับการรับประกันจากศูนย์ 1 ปี และมีบริการเปลี่ยนหรือคืนสินค้าภายใน 7 วัน นอกจากนี้ยังสามารถเก็บเงินปลายทางได้
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?
อุปกรณ์ดูดความชื้น HOMEMATE รุ่น HOM-16H458 เป็นตัวเลือกสำหรับบ้านที่ไม่ต้องการเปลี่ยนถังน้ำบ่อย เนื่องจากมีความสามารถในการลดความชื้นได้สูงถึง 45 ลิตรต่อวัน ซึ่งเหมาะสำหรับพื้นที่ขนาด 35-45 ตารางเมตร มีคุณสมบัติพิเศษเช่น HEPA Filter ที่ช่วยกรองอากาศให้สะอาดขึ้น, ระบบ Auto-Swing ที่ช่วยให้ผ้าที่ตากในห้องหรือเมื่อซักพรมหรือซักโซฟาแห้งได้เร็วขึ้น นอกจากนี้ยังมีแผงควบคุมที่ใช้งานง่ายด้วยหน้าจอ LCD และต่อท่อน้ำทิ้งได้ ทำให้การดูแลรักษาเป็นเรื่องง่าย รวมถึงการเคลื่อนย้ายที่สะดวกด้วยล้อและหูจับ ทั้งหมดนี้ทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับใครก็ตามที่ต้องการปรับปรุงคุณภาพอากาศภายในบ้านของตนเอง
4. Bwell รุ่น BDH-20
Bwell รุ่น BDH-20 ควบคุมคุณภาพและมีประสิทธิภาพสูง ใช้งานง่ายสะดวกสบาย ควบคุมด้วยแผงคำสั่งหน้าจอดิจิทัล มีล้อเลื่อนสำหรับการเคลื่อนย้ายที่สะดวก, และมีโหมดการใช้งานหลากหลาย
ลดความชื้นได้ต่อวัน | 20 ลิตรต่อวัน |
---|---|
ขนาดพื้นที่ทำงาน | 10-30 ตรม. |
การควบคุมสั่งงาน | หน้าจอดิจิทัลใช้งานถึง 3 โหมด และ เซ็นเซอร์อัจฉริยะปรับค่าความชื้น |
คุณสมบัติ | ดูดความชื้น |
ข้อดี
- ฟังก์ชันการทำงานหลากหลาย: นอกจากการดูดความชื้นแล้ว ยังมีโหมดตากผ้าและโหมดพัดลม ตอบสนองความต้องการใช้งานที่หลากหลาย
- การออกแบบที่มีความสะดวก: มาพร้อมหน้าจอดิจิทัลและล้อเลื่อน ช่วยให้การตรวจสอบและเคลื่อนย้ายเครื่องง่ายดาย
- การลดความชื้นได้เป็นอย่างดี: สามารถลดความชื้นในอากาศได้ถึง 20 ลิตรต่อวัน ตอบโจทย์พื้นที่ขนาด 10-30 ตารางเมตร
- ระบบแจ้งเมื่อน้ำเต็มถัง : เป็นฟีเจอร์ที่มีประโยชน์มาก ช่วยให้ผู้ใช้สามารถรับรู้ได้ทันทีเมื่อถังเก็บน้ำของเครื่องเต็ม ป้องกันไม่ให้น้ำล้นออกมานอกเครื่อง ทำให้เกิดความเสียหายต่อพื้นที่ใกล้เคียง
ข้อควรพิจารณา
- การใช้พลังงาน: การใช้พลังงานที่ 440 วัตต์อาจทำให้ค่าใช้จ่ายในการจ่ายไฟเพิ่มขึ้น ซึ่งควรพิจารณาสำหรับผู้ที่ใส่ใจต่อค่าใช้จ่ายในระยะยาว
- น้ำหนักของเครื่อง: ด้วยน้ำหนัก 13.5 กิโลกรัม อาจเป็นอุปสรรคในการย้ายยกเครื่องในบางสถานการณ์
Bwell รุ่น BDH-20 เหมาะกับการใช้งานในพื้นที่ขนาด 10-30 ตารางเมตร มีฟังก์ชั่นการใช้งานหลายโหมด ได้แก่ โหมดดูดความชื้นแบบปกติ, โหมดตากผ้า ซึ่งจะเปิดพัดลมเป่าเพื่อช่วยให้ผ้าแห้งเร็วขึ้น, และโหมดพัดลมที่สามารถปรับความแรงได้ 2 ระดับ สามารถในการลดความชื้นสูงสุดถึง 20 ลิตรต่อวัน มีหน้าจอแสดงผลแบบดิจิทัลที่สามารถแสดงระดับความชื้นได้อย่างชัดเจน ความจุถังน้ำของเครื่องคือ 3.5 ลิตร ส่วนสารทำความเย็นที่ใช้คือ R134a มีกำลังไฟฟ้าการใช้งานอยู่ที่ 440 วัตต์ และรองรับระบบไฟฟ้า 220V/50Z ขนาดของเครื่องคือ 260x260x618 มิลลิเมตร และมีน้ำหนักอยู่ที่ 13.5 กิโลกรัม
นอกจากนี้ยังสามารถตั้งเวลาการทำงานได้ และมีโหมดนอนหลับที่จะลดเสียงการทำงานให้เบาลง เครื่องดูดความชื้นรุ่นนี้ยังออกแบบมาพร้อมกับล้อเลื่อนที่ติดอยู่ใต้ตัวเครื่อง ทำให้สามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวกแม้จะมีขนาดใหญ่และน้ำหนักค่อนข้างมาก อีกทั้งดีไซน์ของเครื่องยังมีความสวยงามและทันสมัย พร้อมแผงเมนูปุ่มกดที่มีสัญลักษณ์เข้าใจง่าย ทำให้การควบคุมเครื่องเป็นเรื่องง่ายและสะดวก
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?
เครื่องดูดความชื้น Bwell รุ่น BDH-20 เป็นตัวเลือกที่ดีเนื่องจากมีความสามารถในการลดความชื้นได้ถึง 20 ลิตรต่อวัน ทำให้เหมาะสำหรับใช้งานในพื้นที่ขนาด 10-30 ตารางเมตร หน้าจอดิจิทัลแสดงระดับความชื้นชัดเจน และมีล้อเลื่อนทำให้การเคลื่อนย้ายสะดวก นอกจากนี้ยังมีโหมดการใช้งานหลากหลายเช่นโหมดตากผ้าและโหมดพัดลม รวมถึงโหมดนอนหลับที่ลดเสียงการทำงานให้เบาลง เหล่านี้ทำให้เครื่องดูดความชื้นรุ่นนี้เหมาะสำหรับใครหลายๆ คนที่ต้องการปรับปรุงคุณภาพอากาศในบ้าน
5. Xiaomi รุ่น Mi Smart Dehumidifier 22L
Xiaomi รุ่น Mi Smart Dehumidifier 22L อุปกรณ์ดูดความชื้นอัจฉริยะ ที่ดูดความชื้นได้สูงสุด 22 ลิตรต่อวัน ทำงานเงียบ และสามารถควบคุมได้จากระยะไกลผ่านแอป Mi Home
ลดความชื้นได้ต่อวัน | 22 ลิตร |
---|---|
ขนาดพื้นที่ทำงาน | 30-90 ตารางเมตร |
การควบคุมสั่งงาน | ควบคุมผ่าน Mi Home APP |
คุณสมบัติ | ลดความชื้น |
ข้อดี
- เชื่อมต่อกับแอป Mi Home: ช่วยให้สามารถควบคุมและตรวจสอบสถานะการทำงานของเครื่องได้จากระยะไกล
- ระดับเสียงต่ำ: ทำงานเงียบด้วยระดับเสียงเพียง 35.5 dB ไม่รบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน
- ถังเก็บน้ำขนาดใหญ่: มีถังเก็บน้ำขนาด 4.5 ลิตร ช่วยให้ใช้งานได้ต่อเนื่องโดยไม่ต้องบำรุงรักษาบ่อยครั้ง
- ดูดความชื้นสูง: สามารถดูดความชื้นได้สูงสุด 22 ลิตรต่อวัน เหมาะสำหรับพื้นที่ขนาดใหญ่
- รับประกันร้าน 3 เดือน : ช่วยให้ผู้ซื้อมีความมั่นใจในคุณภาพและการบริการหลังการขายของสินค้า หากเกิดปัญหาหรือความไม่พอใจเกี่ยวกับสินค้าภายในระยะเวลานี้
ข้อควรพิจารณา
- ต้องมีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต: เพื่อใช้งานฟังก์ชันการควบคุมผ่านแอป Mi Home ซึ่งอาจไม่สะดวกสำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตมีข้อจำกัด
เครื่องจากแบรนด์ Xiaomi สามารถดูดความชื้นได้อย่างดีเยี่ยม มีถังเก็บน้ำขนาด 4.5 ลิตร ซึ่งสามารถทำงานได้ต่อเนื่อง 8 ชั่วโมง ดูดความชื้นได้สูงสุด 22 ลิตรต่อวัน มีการออกแบบที่ทันสมัยพร้อมหน้าจอ LED และแถบไฟสีที่แสดงปริมาณความชื้นสัมพัทธ์ในห้อง นอกจากนี้ยังควบคุมการทำงานด้วยปุ่มกดระบบสัมผัสและสามารถเชื่อมต่อท่อระบายน้ำได้โดยไม่ต้องใช้ถังเก็บน้ำ
เครื่องรองรับการใช้งานในอุณหภูมิระหว่าง 5 ℃ ถึง 35 ℃ มีความสามารถในการดูดความชื้นที่อุณหภูมิสูงคือ 22L/D (30 ℃/80%RH) และใช้สารทำความเย็น R134a/0.2kg กำลังไฟฟ้าเข้าสูงสุดคือ 450W และกระแสไฟเข้าสูงสุดคือ 2.05A นอกจากนี้ยังมีโหมดการตากผ้าและระบบควบคุมเสียงอัจฉริยะ ช่วยให้การใช้งานเครื่องดูดความชื้นนี้เป็นเรื่องง่ายและสะดวกสบายในทุกสถานการณ์ พร้อมฟังก์ชันตัดการทำงานอัตโนมัติเมื่อน้ำเต็มถัง ช่วยให้การใช้งานสะดวกยิ่งขึ้น และด้วยการใช้มอเตอร์ DC ไร้แปรงถ่านและโครงสร้างที่ไร้แรงสั่นสะเทือน ทำให้เครื่องทำงานได้อย่างเงียบ มีระดับเสียงเพียง 35.5dB เท่านั้น รองรับการเชื่อมต่อกับแอปฯ Mi Home เพื่อการควบคุมและตรวจสอบสถานะการทำงานของเครื่องได้จากทุกที่
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?
Xiaomi Mi Smart Dehumidifier 22L เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมเนื่องจากมีความสามารถในการดูดความชื้นสูงถึง 22 ลิตรต่อวัน ทำให้เหมาะสำหรับใช้ในพื้นที่ขนาดใหญ่ มีถังเก็บน้ำขนาด 4.5 ลิตรที่สามารถใช้งานต่อเนื่องได้นาน และยังสามารถเชื่อมต่อกับแอป Mi Home สำหรับการควบคุมและตรวจสอบสถานะการทำงานได้จากทุกที่ นอกจากนี้ เครื่องยังทำงานได้อย่างเงียบด้วยระดับเสียงเพียง 35.5 dB ทำให้ไม่รบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน
6. NEW WIDETECH รุ่น 12L
บอกลาความอับชื้นด้วย NEW WIDETECH รุ่น 12L ให้ประสิทธิภาพการดูดความชื้นได้อย่างเหมาะสมพร้อมความสะดวกในการเคลื่อนย้ายและควบคุมทางไกลได้ผ่านแอปพลิเคชัน
ลดความชื้นได้ต่อวัน | 30 ลิตร |
---|---|
ขนาดพื้นที่ทำงาน | 25 ตารางเมตร |
การควบคุมสั่งงาน | ควบคุมผ่าน Mi Home APP |
คุณสมบัติ | ดูดความชื้น |
ข้อดี
- เชื่อมต่อกับแอป Mi Home: ช่วยให้สามารถควบคุมและตรวจสอบการทำงานของเครื่องจากระยะไกล ทำให้การใช้งานเป็นเรื่องง่ายและสะดวก
- ฟิลเตอร์ต้านเชื้อแบคทีเรียซิลเวอร์ไอออน: ช่วยลดการเกิดและการแพร่กระจายของเชื้อแบคทีเรียในอากาศภายในบ้าน ทำให้อากาศที่หายใจเข้าไปมีความสะอาด และช่วยปรับปรุงคุณภาพอากาศในบ้านได้เป็นอย่างดี
- ทำงานเงียบ : เครื่องใช้มอเตอร์กระแสไฟฟ้าที่สามารถปรับความเร็วได้ช่วยให้เครื่องทำงานได้อย่างเงียบและมีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับการใช้งานในบ้านที่ต้องการความสงบ
- อุปกรณ์เสริม ท่อปั๊มน้ำ 5 เมตร สำหรับบ้านที่ใช้เครื่องวางชั้นใต้ดิน: ท่อปั๊มน้ำขนาดยาวช่วยให้การระบายน้ำจากเครื่องดูดความชื้นสะดวกมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับบ้านที่ติดตั้งเครื่องในชั้นใต้ดินหรือพื้นที่ที่ต้องการระบายน้ำไปยังจุดที่อยู่ห่างไกล
ข้อควรพิจารณา
- ถังจุน้อย : เพียง 2.2 ลิตร อาจต้องมีการเทน้ำออกบ่อยครั้ง ซึ่งอาจทำให้ไม่สะดวกสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการให้เครื่องทำงานได้ต่อเนื่องนานๆ โดยไม่ต้องคอยดูแลเปลี่ยนถัง
- ปลั๊ก3 ขาจีน : ต้องหาอุปกรณ์เปลี่ยนแปลงหรือตัวแปลงปลั๊กเพื่อใช้งานได้ ซึ่งอาจเพิ่มความยุ่งยากและค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
NEW WIDETECH รุ่น12L ได้รับความนิยมในหมู่ผู้ใช้งานในประเทศไทย ด้วยราคาที่เข้าถึงได้ง่ายและความหลากหลายของความจุที่ตอบโจทย์ความต้องการแตกต่างกัน โดยเฉพาะรุ่น 12L นี้ มีจุดเด่นในเรื่องของการออกแบบที่เรียบง่ายและสวยงาม สามารถปรับให้เข้ากับทุกพื้นที่ในบ้านได้อย่างลงตัว มาพร้อมกับหูจับด้านบนที่ช่วยให้การเคลื่อนย้ายเป็นเรื่องง่ายและสะดวก น้ำหนักของตัวเครื่องอยู่ที่ 9.7 กิโลกรัม
มีความสามารถดูดความชื้นในพื้นที่สูงสุด 25 ตารางเมตร มาพร้อมถังน้ำความจุ 2.2 ลิตรสีใส ช่วยให้มองเห็นระดับน้ำได้ชัดเจน สามารถถอดออกจากเครื่องเพื่อเททิ้งได้ง่าย นอกจากนี้ ยังมีฟังก์ชันตั้งเวลาการทำงานได้สูงสุด 12 ชั่วโมง ที่สำคัญคือสามารถเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชัน Mi Home ของ Xiaomi เพื่อตรวจสอบและควบคุมการทำงานระยะไกลผ่านสมาร์ตโฟนหรือแท็บเล็ตได้ ตัวเครื่องมีหลายโหมดให้เลือกใช้ ตั้งแต่การลดความชื้นในอากาศได้อย่างรวดเร็ว ช่วยให้ผ้าที่ต่กในบ้านแห้งไวไใ่อับชื้น หรือตรวจวัดอุณหภูมิและฟิลเตอร์ต้านเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานอีกขั้น ดำเนินงานเงียบด้วยมอเตอร์กระแสไฟฟ้าและการลดการสั่นสะเทือนทำให้เครื่องทำงานได้อย่างเงียบสงบ โดยมีระดับเสียงที่ 38dB เท่านั้น
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?
NEW WIDETECH เครื่องดูดความชื้นรุ่น 12L เป็นตัวเลือกที่ดีเนื่องจากมีความสามารถในการดูดความชื้นได้มากถึง 12 ลิตรต่อวัน ทำให้เหมาะกับพื้นที่สูงสุด 25 ตารางเมตร ราคาที่เข้าถึงได้ง่ายและดีไซน์ที่เรียบง่ายทำให้เหมาะสมกับทุกพื้นที่ในบ้าน นอกจากนี้ยังมีหูจับที่ช่วยให้การเคลื่อนย้ายเป็นเรื่องง่าย และฟังก์ชั่นการเชื่อมต่อกับแอป Mi Home ของ Xiaomi ยังเพิ่มความสะดวกในการควบคุมและตรวจสอบการทำงานของเครื่องจากระยะไกล
7. Simplus รุ่น CUSH002
Simplus อุปกรณ์ดูดความชิ้นในบ้านรุ่น CUSH002 มาพร้อมฟังก์ชันการใช้งานหลากหลาย ใช้งานง่ายด้วยหน้าจอสัมผัส และเพิ่มความหอมด้วยกล่องอะโรม่า ให้ประสิทธิภาพสูงในการลดความชื้นพร้อมกลิ่นหอมสะอาด
ลดความชื้นได้ต่อวัน | 300ml |
---|---|
ขนาดพื้นที่ทำงาน | 100 ตารางเมตร |
การควบคุมสั่งงาน | ควบคุมแผงสัมผัสจอ LCD |
คุณสมบัติ | ดูดความชื้น |
ข้อดี
- รองรับพื้นที่การใช้งานเยอะ: สามารถใช้งานได้ในพื้นที่กว้างถึง 100 ตารางเมตร
- กล่องใส่กลิ่นอะโรม่า: เพิ่มความหอมให้กับห้อง สร้างบรรยากาศที่สดชื่นและผ่อนคลาย
- ถังน้ำความจุ 2.5L: ช่วยให้สามารถลดความชื้นได้นานถึง 24 ชั่วโมง ลดความยุ่งยากในการเทน้ำบ่อยๆ
- ใช้งานง่ายด้วยหน้าจอสัมผัส: ทำให้การควบคุมฟังก์ชันต่างๆ ของเครื่องดูดความชื้นเป็นเรื่องง่ายและสะดวก
- มั่นใจว่าอากาศบริสุทธิ์ : ด้วยระบบไอออนลบ นอกจากจะช่วยลดความชื้แล้ว ยังต่อต้านไรฝุ่นและแบคทีเรียในอากาศ ให้บรรยากาศในบ้านสุขภาพดีทั้งวัน
ข้อควรพิจารณา
- ต้องมีการเชื่อมต่อไฟตลอดเวลา: เนื่องจากเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า จำเป็นต้องมีการเชื่อมต่อกับแหล่งจ่ายไฟในการใช้งาน
- สายไฟสั้น : แม้ว่าเครื่องจะสามารถรองรับการใช้งานในพื้นที่ขนาดใหญ่ได้ แต่ด้วยสายไฟยาวเพียงรวม 1.3 เมตร อาจจะต้องใช้ปลั๊กไฟต่อหากเต้ารับไฟฟ้าอยู่ไกล
Simplus รุ่น CUSH002 เป็นเครื่องระบบลดความชื้นคู่ ที่ใช้ระบบไอออนลบในการช่วยลดความชื้น และมีกล่องใส่กลิ่นอะโรม่าที่ช่วยเพิ่มความหอมให้กับห้อง สร้างบรรยากาศที่สดชื่นและผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น ตัวเครื่องผลิตจากวัสดุ ABS ที่มีความแข็งแรงและทนทาน ใช้งานได้ยาวนานโดยไม่เปลี่ยนเป็นสีเหลือง ไม่มีสารเคมีปนเปื้อน และไม่ปล่อยก๊าซที่เป็นอันตราย เครื่องยังสามารถลดความชื้นได้นานต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง ด้วยเสียงทำงานที่ต่ำเพียง 35dB ทำให้ไม่รบกวนสภาพแวดล้อมรอบข้าง
สามารถควบคุมการทำงานได้อย่างง่ายดายผ่านแผงปุ่มกดหน้าจอ LCD แบบสัมผัส ที่มาพร้อมกับแสงไฟระบุสถานะการทำงาน และสามารถแสดงอุณหภูมิและระดับความชื้นภายในห้องได้แบบเรียลไทม์ รองรับพื้นที่การใช้งานได้กว้างถึง 100 ตารางเมตร มีถังน้ำความจุ 2.5L ที่ออกแบบมาให้มองเห็นระดับน้ำได้ชัดเจน มีระบบตัดการทำงานอัตโนมัติทันทีเมื่อน้ำเต็มถัง ช่วยลดความยุ่งยากในการใช้งาน ด้วยคุณสมบัติที่ครอบคลุมและการใช้งานที่สะดวก ทำให้แบรนด์ Simplus เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเครื่องดูดความชื้นที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพสูง เพื่อช่วยให้พื้นที่ใช้สอยมีความชื้นที่เหมาะสมและสดชื่นอยู่เสมอ
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?
Simplus รุ่น CUSH002 เป็นอีกสินค้าที่น่าเลือกใช้ เพราะมีหน้าจอสัมผัสที่ใช้งานง่าย, ถังน้ำความจุ 2.5L ที่ช่วยให้สามารถลดความชื้นได้นาน 24 ชั่วโมง, และเสียงทำงานต่ำเพียง 35dB ซึ่งไม่รบกวนสภาพแวดล้อมรอบข้าง นอกจากนี้ยังมีกล่องใส่กลิ่นอะโรม่าเพิ่มความหอมให้กับห้อง ระบบลดความชื้นที่ใช้ระบบไอออนลบไม่ต้องกังวลเรื่องแบคทีเรีย ทำให้เหมาะสำหรับใช้งานในพื้นที่กว้างถึง 100 ตารางเมตร อีกทั้งวัสดุที่ทนทานและไม่เปลี่ยนเป็นสีเหลืองเมื่อใช้งานนาน
8. HANABISHI รุ่น HDF-20M
HANABISHI รุ่น HDF-20M มอบประสิทธิภาพการดูดความชื้นสูงในดีไซน์ทันสมัย พร้อมความสะดวกในการเคลื่อนย้าย และการใช้พลังงานที่ประหยัดมากกว่าเดิม
ลดความชื้นได้ต่อวัน | 1000 ML |
---|---|
ขนาดพื้นที่ทำงาน | 10-20 ตารางเมตร |
การควบคุมสั่งงาน | กดปุ่มบนตัวเครื่อง/รีโมทคอนโทรล |
คุณสมบัติ | ดูดความชื้น |
ข้อดี
- ตั้งเวลาการทำงานได้: มีตัวเลือกการตั้งเวลา 6 และ 12 ชั่วโมง ช่วยให้สามารถกำหนดเวลาการใช้งานได้ตามความต้องการ
- ดีไซน์ทันสมัย: มีดีไซน์และสีสันที่เรียบหรู ทำให้เหมาะสมกับการตกแต่งภายในบ้านในหลายสไตล์
- ขนาดกะทัดรัดและหูหิ้ว: ช่วยให้เคลื่อนย้ายได้ง่าย สะดวกสำหรับการใช้งานในหลายพื้นที่
- การใช้พลังงานที่ประหยัด: เพียง 36W ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการใช้ไฟฟ้า
- ฟังก์ชันตัดการทำงานอัตโนมัติ: เมื่อน้ำเต็มถัง ช่วยเพิ่มความสะดวกและปลอดภัยในการใช้งาน
ข้อควรพิจารณา
- ถังน้ำความจุเล็ก: มีความจุเพียง 1 ลิตร อาจต้องการการเทน้ำบ่อยครั้งในพื้นที่ที่มีความชื้นสูง
- ขนาดพื้นที่ใช้งานจำกัด: อาจไม่เพียงพอสำหรับห้องขนาดใหญ่เกิน 20 ตารางเมตร
อุปกรณ์ดูดความชื้นรุ่น HDF-20M จาก HANABISHI ออกแบบมาให้มีดีไซน์โมเดิร์นและสีสันที่ทันสมัย ตัวเครื่องมีขนาดกะทัดรัดพร้อมหูหิ้วทำให้เคลื่อนย้ายได้สะดวก มีถังน้ำความจุ 1 ลิตรและน้ำหนักเบาเพียง 1.3 กิโลกรัม สามารถตั้งเวลาการทำงานได้ 2 ระดับ คือ 6 และ 12 ชั่วโมง รองรับพื้นที่การใช้งานได้กว้างถึง 10 – 20 ตารางเมตร ใช้พลังงานไฟฟ้าเพียง 36W ทำให้ใช้พลังงานน้อยมาก ไม่เปลืองไฟ
เครื่องมีฟังก์ชั่นตัดการทำงานอัตโนมัติเมื่อน้ำเต็มถังื และมีไฟเตือนเพื่อแจ้งเตือนสถานะนี้ การควบคุมการทำงานง่ายด้วยปุ่มกดบนตัวเครื่อง ช่วยลดการเกิดเชื้อราและแบคทีเรียต่างๆ ป้องกันความเสียหายต่อเฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์อิเลคทรอนิคส์ นอกจากนี้ยังช่วยปรับสมดุลอากาศภายในบ้านไม่ให้ชื้นจนเกินไป ป้องกันโรคที่เกิดจากความชื้นสูง เหมาะกับการใช้งานในหลายพื้นที่ภายในบ้าน เช่น ห้องนอน, ห้องครัว, ห้องนั่งเล่น, ห้องเก็บเสื้อผ้า หรือห้องเก็บของ เพื่อป้องกันสิ่งของภายในห้องขึ้นราหรือมีกลิ่นอับ ช่วยให้ห้องมีอากาศที่สดชื่น ลดความชื้นอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วยการใช้พลังงานที่ต่ำ
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?
HANABISHI รุ่น HDF-20M
เป็นตัวเลือกที่ดีเนื่องจากมีดีไซน์ทันสมัยและสีสันที่เรียบหรู ขนาดกะทัดรัดและมีหูหิ้วทำให้เคลื่อนย้ายได้ง่าย ทำให้เหมาะสำหรับใช้ในหลายพื้นที่ภายในบ้าน นอกจากนี้ ยังมีถังน้ำความจุ 1 ลิตร สามารถตั้งเวลาการทำงานได้ 2 ระดับ และใช้พลังงานไฟฟ้าเพียง 36W ทำให้ประหยัดพลังงานและไม่เพิ่มภาระค่าใช้จ่าย รวมทั้งมีระบบไฟแจ้งเตือนและฟังก์ชันตัดการทำงานอัตโนมัติเมื่อน้ำเต็มถัง ช่วยให้ใช้งานได้อย่างสะดวกและปลอดภัย
9. Elementmax
Elementmax มอบประสิทธิภาพการลดความชื้นสูงสุด พร้อมเทคโนโลยี Photocatalyst ลดกลิ่นอับ ในขนาดกะทัดรัดที่เคลื่อนย้ายง่าย และโหมดการทำงานหลากหลายตอบสนองทุกความต้องการ
ลดความชื้นได้ต่อวัน | 1,080 มล. |
---|---|
ขนาดพื้นที่ทำงาน | 30-90 ตารางเมตร |
การควบคุมสั่งงาน | กดปุ่มบนตัวเครื่อง/รีโมทคอนโทรล |
คุณสมบัติ | ลดความชื้น |
ข้อดี
- เทคโนโลยี Photocatalyst: ช่วยลดกลิ่นอับไม่พึงประสงค์ภายในบ้าน ทำให้บ้านมีอากาศที่สะอาดและปลอดภัย
- โหมดการทำงานหลากหลาย: มีโหมดบริสุทธิ์, โหมดความชื้นคงที่, และโหมด Sleep ที่ทำงานเงียบเพียง 25 เดซิเบล
- ระบบระบายน้ำแบบคู่: ช่วยให้การจัดการน้ำที่รวบรวมได้ง่ายและสะดวก
- ขนาดเล็กและน้ำหนักเบา: ทำให้เคลื่อนย้ายง่าย สามารถนำไปวางได้ทุกที่ภายในบ้าน
ข้อควรพิจารณา
- พื้นที่ใช้สอยจำกัด: อาจไม่เพียงพอสำหรับพื้นที่ที่ใหญ่กว่า 30 ตร.ม.
- การจัดการน้ำรวบรวม: แม้จะมีระบบระบายน้ำแบบคู่ แต่การเทน้ำออกอาจจำเป็นต้องทำบ่อยครั้งหากใช้งานในพื้นที่ที่ความชื้นสูง
Elementmax ด้วยความสามารถในการลดความชื้นสูงสุดถึง 1,080 มล. ต่อวัน มีเทคโนโลยี Photocatalyst ที่ไม่เพียงแต่ช่วยลดความชื้นเท่านั้น แต่ยังช่วยลดกลิ่นอับภายในบ้านได้อีกด้วย ทำให้บ้านของคุณมีอากาศที่สดชื่นยิ่งขึ้น เครื่องมีโหมดการใช้งานที่หลากหลาย รวมถึงโหมดบริสุทธิ์ ควบคุมการเร่งปฏิกิริยาด้วยแสง (Photocatalyst) สามารถล้างและกำจัดสารพิษที่อันตรายได้ด้วยพลังของแสงที่เข้ามาใกล้พื้นผิวที่เคลือบ, โหมดความชื้นคงที่ และโหมด Sleep นอกจากนี้ ยังมาพร้อมระบบระบายน้ำแบบคู่ที่ช่วยให้การจัดการน้ำที่รวบรวมได้มากยิ่งขึ้น และด้วยขนาดเล็กและน้ำหนักเบาทำให้เคลื่อนย้ายได้สะดวก สามารถนำไปตั้งได้ทุกที่ภายในบ้าน
ทำงานด้วยเสียงเบาเพียง 25 เดซิเบล ช่วยให้คุณได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ไม่รบกวนการพักผ่อนหรือกิจกรรมอื่นๆ ภายในบ้าน เครื่องออกแบบมาให้เหมาะกับพื้นที่ใช้สอย 21-30 ตร.ม. มีการใช้พลังงานที่ 90W และความถี่ที่ 50Hz มีฟังก์ชันการลดความชื้นด้วยปุ่มเดียวหรือใช้รีโมทคอนโทรในระยะ 5 เมตร และการแสดงอุณหภูมิและความชื้น นอกจากนี้ ยังมาพร้อมระบบระบายน้ำแบบคู่ที่ช่วยให้การจัดการน้ำที่รวบรวมได้มากยิ่งขึ้น และด้วยขนาดเล็กและน้ำหนักเบาทำให้เคลื่อนย้ายได้สะดวก สามารถนำไปตั้งได้ทุกที่ภายในบ้าน
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?
Elementmax มีความสามารถในการลดความชื้นได้มากถึง 1,080 มล. ต่อวัน พร้อมเทคโนโลยี Photocatalyst ที่ช่วยลดกลิ่นอับ นอกจากนี้ยังมีโหมดการใช้งานหลากหลายเช่น โหมดบริสุทธิ์และโหมด Sleep ที่ทำงานเงียบเพียง 25 เดซิเบล รวมถึงระบบระบายน้ำแบบคู่ที่ทำให้การจัดการน้ำที่รวบรวมง่ายขึ้น ขนาดเล็กและน้ำหนักเบาทำให้เคลื่อนย้ายได้สะดวก ทำให้เหมาะสำหรับวางได้ทุกที่ในบ้าน
10. Xiaomi Mijia รุ่น H2102
Xiaomi Mijia รุ่น H2102 เครื่องลดความชื้นที่มาพร้อมความสามารถในการฟอกอากาศ ถังเก็บน้ำขนาดใหญ่ 1,000 มล. และไฟ LED สีสันสวยงาม เสริมความผ่อนคลายพร้อมการทำงานเงียบในโหมด Sleep
ลดความชื้นได้ต่อวัน | 350ml /วัน |
---|---|
ขนาดพื้นที่ทำงาน | 15-20 ตารางเมตร |
การควบคุมสั่งงาน | กดปุ่มบนตัวเครื่อง |
คุณสมบัติ | ลดความชื้น |
ข้อดี
- ไฟ LED 7 สี: เพิ่มความผ่อนคลายและสีสันในห้อง
- การทำงานเงียบ: โหมด Sleep ช่วยให้เครื่องทำงานได้อย่างเงียบสนิท สร้างความไม่รบกวนในช่วงเวลาพักผ่อน
- ระบบฟอกอากาศและไส้กรอง: ช่วยลดเชื้อราและแบคทีเรีย ทำให้อากาศภายในห้องสะอาดและปลอดภัย
- ดูดความชื้นได้สูง: สามารถดูดความชื้นได้สูงสุดวันละ 350 มล. เหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่ขนาดกลาง
- ถังเก็บน้ำขนาดใหญ่: มีถังเก็บน้ำสีใส ความจุ 1,000 มล. ช่วยให้มองเห็นปริมาณน้ำที่ดูดออกมาได้ชัดเจน
ข้อควรพิจารณา
- ความต้องการดูแลรักษา: ไส้กรองภายในต้องมีการทำความสะอาดและเปลี่ยนทดแทนอย่างสม่ำเสมอเพื่อรักษาประสิทธิภาพ
- ความสามารถในการดูดความชื้น: อาจไม่เหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีความชื้นสูงมาก หรือมีขนาดกว้างเกินไป
Xiaomi Mijia รุ่น H2102 เป็นเครื่องลดความชื้นที่ออกแบบมาให้สามารถดูดความชื้นได้สูงสุดวันละ 350 มล. ด้วยถังเก็บน้ำสีใส ความจุ 1,000 มล. ทำให้สามารถมองเห็นปริมาณน้ำที่ดูดออกมาได้อย่างชัดเจน มีระบบตัดไฟอัตโนมัติ เมื่อระดับน้ำเต็มถัง ช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้งานและป้องกันการเกิดอันตรายจากน้ำเต็มถัง นอกจากลดความชื้นแล้ว เครื่องมีระบบฟอกอากาศและไส้กรองมาให้ในตัว เพื่อช่วยให้อากาศภายในห้องสะอาดและปลอดภัยจากเชื้อราและแบคทีเรีย นอกจากนี้ ยังมีโหมด Sleep ที่ทำงานเงียบเพียง 25 เดซิเบล ช่วยให้ไม่รบกวนการพักผ่อนยามค่ำคืน
ตัวสินค้าเหมาะสำหรับพื้นที่ 15-20 ตารางเมตร ใช้กำลังไฟ 36 วัตต์ (สูงสุด 45 วัตต์) ช่วยให้การลดความชื้นและการฟอกอากาศเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและประหยัดพลังงาน ดีไซน์สุดล้ำและไฟ LED 7 สี เพิ่มความผ่อนคลายและสีสันให้กับห้อง ตัวเครื่องมีน้ำหนักเพียง 1.3 kg ทำให้สามารถวางที่ใด พร้อมมีให้เลือก 3 สี คือ เขียว, ดำ, และขาว ทำให้เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับทุกบ้านที่ต้องการปรับปรุงคุณภาพอากาศให้ดีขึ้น
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?
Xiaomi Mijia รุ่น H2102 นอกจากคุณสมบัติดูดความชื้นได้สูงสุดวันละ 350 มล. พร้อมถังเก็บน้ำขนาดใหญ่ 1,000 มล. ที่ช่วยให้เห็นปริมาณน้ำได้อย่างชัดเจน และมีระบบตัดไฟอัตโนมัติเพื่อความปลอดภัย เครื่องนี้ยังช่วยฟอกอากาศและมีไส้กรองในตัว เพิ่มความสะดวกด้วยโหมด Sleep ที่ทำงานเงียบไม่รบกวนการพักผ่อน นอกจากนี้ ดีไซน์ทันสมัยและไฟ LED 7 สียังเพิ่มความผ่อนคลายและสีสันให้กับห้อง
เลือกเครื่องดูดความชื้นอย่างไร ให้เหมาะกับบ้านคุณ?
ประเมินขนาดพื้นที่และความต้องการใช้งาน
ก่อนเลือกซื้อสินค้านี้ คุณจำเป็นต้องประเมิณขนาดพื้นที่ใช้งานและระดับความชื้นที่ต้องการควบคุม โดยการใช้เครื่องมือที่เรียกว่า “ไฮโกรอมิเตอร์” (Hygrometer) ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ออกแบบมาเพื่อวัดและแสดงค่าความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศได้อย่างแม่นยำ นอกจากนี้ยังมีวิธีอื่นๆ ที่สามารถทำได้ดังนี้
- ไฮโกรอมิเตอร์ดิจิตอล: เป็นเครื่องมือยอดนิยมสำหรับวัดความชื้นในบ้าน เนื่องจากมีความแม่นยำสูงและใช้งานง่าย บางรุ่นยังมีฟังก์ชันการวัดอุณหภูมิร่วมด้วย
- ไฮโกรอมิเตอร์อะนาล็อก: เป็นอุปกรณ์แบบดั้งเดิม ที่ใช้งานได้โดยไม่ต้องพึ่งพาแบตเตอรี่หรือแหล่งพลังงาน มักใช้ในการวัดความชื้นในพื้นที่กลางแจ้งหรือในสถานที่ที่ไม่มีไฟฟ้า
- สมาร์ทโฮมเซ็นเซอร์: ในบ้านอัจฉริยะหรือสมาร์ทโฮม มักติดตั้งเซ็นเซอร์ที่สามารถวัดความชื้นและอุณหภูมิได้ เหล่านี้สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์อัจฉริยะอื่นๆ ให้คุณสามารถตรวจสอบค่าความชื้นได้จากทุกที่
- เครื่องที่มาพร้อมกับไฮโกรอมิเตอร์ในตัว: สินค้าบางรุ่น มาพร้อมกับไฮโกรอมิเตอร์ในตัวที่ช่วยให้คุณสามารถตั้งค่าและควบคุมระดับความชื้นได้อย่างแม่นยำตามที่ต้องการ
หลังจากการประเมินขนาดพื้นใช้งานและระดับความชื้นที่ต้องการควบคุม ความสามารถในการดูดความชื้นของเครื่องมักจะระบุเป็นปอนด์ต่อวัน (pints per day – PPD) หรือลิตรต่อวัน (liters per day – L/D) พื้นที่ขนาดเล็กอาจต้องการเครื่องที่มีความสามารถดูดความชื้นอยู่ที่ประมาณ 10-30 PPD ขณะที่พื้นที่ใหญ่กว่าอาจต้องการเครื่องที่มีความสามารถมากกว่า 30 PPD
ขนาดพื้นที่ (ตารางฟุต/เมตร)
คุณสามารถคำนวณขนาดพื้นที่ โดยการวัดความยาวและความกว้างของห้อง จากนั้นคูณค่าเหล่านี้เข้าด้วยกัน (ยาว x กว้าง) เพื่อหาพื้นที่เป็นตารางฟุตหรือตารางเมตร ตัวอย่างเช่น, ห้องที่มีขนาด 10×10 ฟุต จะมีพื้นที่ 100 ตารางฟุต (หรือประมาณ 9.29 ตารางเมตร) ห้องที่มีขนาดนี้อาจต้องการเครื่องดูดความชื้นที่มีความสามารถอย่างน้อย 10-30 PPD (ประมาณ 4.73 ถึง 14.20 ลิตรต่อวัน) เพื่อรักษาระดับความชื้นในระดับที่สบายและปลอดภัย
ระดับความชื้นปัจจุบัน
ระดับความชื้นในบ้านควรอยู่ระหว่าง 30-50% เพื่อสุขภาพและความสบายที่ดีที่สุด หากคุณพบว่าความชื้นในบ้านสูงกว่านี้ (เช่น 60-70%) นั่นหมายความว่าคุณอาจต้องการเครื่องที่มีความสามารถสูงขึ้น เพื่อลดความชื้นให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม การมีความชื้นสูงสามารถนำไปสู่ปัญหาสุขภาพ เช่น การเกิดเชื้อราและไรฝุ่น
การใช้งาน
- หากคุณมีห้องครัวที่ใช้ในการประกอบอาหารบ่อยๆ ซึ่งสามารถเพิ่มความชื้นในบ้านได้
- ห้องน้ำที่ไม่มีการระบายอากาศที่ดี สามารถสะสมความชื้นจากการอาบน้ำ
- พื้นที่ก่อสร้างหรือพื้นที่ที่มีน้ำซึมเข้ามา
ตารางสรุปข้อควรคำนึงก่อนซื้อสินค้า
ขนาดพื้นที่ | วัดความยาวและความกว้างของห้อง แล้วคูณค่าเหล่านี้เข้าด้วยกัน เช่น ห้อง 10×10 ฟุต มีพื้นที่ 100 ตารางฟุต หรือประมาณ 9.29 ตารางเมตร ต้องการเครื่องที่มีความสามารถ 10-30 PPD หรือ 4.73 ถึง 14.20 ลิตรต่อวัน |
---|---|
ระดับความชื้นปัจจุบัน | ระดับความชื้นในบ้านควรอยู่ระหว่าง 30-50% เพื่อสุขภาพที่ดี หากความชื้นเกินกว่านี้ เช่น 60-70% ควรหาเครื่องที่มีความสามารถสูงขึ้น เพื่อลดความชื้นให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม |
การใช้งาน | – ครัว: การทำอาหารบ่อยครั้งสามารถเพิ่มความชื้นในบ้านได้ – ห้องน้ำ: ขาดการระบายอากาศที่ดี มักสะสมความชื้นจากการอาบน้ำ – พื้นที่ก่อสร้าง/มีน้ำซึม: พื้นที่เหล่านี้อาจต้องการเครื่องที่มีความสามารถสูงขึ้น เพื่อจัดการกับความชื้นเพิ่มเติม |
ความสำคัญของอุปกรณ์อื่น ๆ ในบ้าน
นอกจากเครื่องดูดความชื้น ยังมีอุปกรณ์อื่นๆ ที่สามารถช่วยให้บ้านของคุณน่าอยู่มากขึ้น เช่น ตู้เย็นมินิบาร์ยี่ห้อที่ดีที่สุด ซึ่งช่วยเก็บรักษาอาหารและเครื่องดื่มในปริมาณที่เหมาะสม โดยไม่ต้องใช้พื้นที่มาก และการเลือกเครื่องปั่นน้ำผลไม้ยี่ห้อไหนดีก็สามารถช่วยเตรียมเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน ทั้งสองอุปกรณ์นี้สามารถเพิ่มความสะดวกสบายในบ้านของคุณได้อย่างมาก
โดยสรุปแล้วการเลือกเครื่องดูดความชื้นที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพสูงสุด คุณจะสามารถสร้างสภาพแวดล้อมที่สบายและปลอดภัยสำหรับทุกคนในบ้านได้
คุณสมบัติเพิ่มเติมที่คุณควรรู้ ที่มากกว่าแค่ดูดความชื้น
เครื่องทำงานเงียบ
คุณภาพของชีวิตในบ้านปรับปรุงได้ ด้วยเครื่องที่ทำงานอย่างเงียบสงบ การออกแบบที่ทันสมัยและเทคโนโลยีล่าสุดได้ช่วยให้มีเสียงรบกวนน้อยลง โดยปกติแล้วเครื่องที่มีเสียงเบา จะมีระดับเสียงอยู่ที่ประมาณ 35-50 เดซิเบล ซึ่งเทียบได้กับเสียงซุบซิบหรือเสียงห้องสมุด บางรุ่นใช้เทคโนโลยีที่ช่วยลดเสียงรบกวนจากการหมุนของพัดลมหรือการไหลของน้ำภายในเครื่อง ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานในห้องนอนหรือพื้นที่ที่ต้องการความเงียบสงบ
ใช้งานง่ายไม่ซับซ้อน
การออกแบบที่เน้นความสะดวกในการใช้งาน เป็นอีกหนึ่งคุณสมบัติที่ทำให้สินต้ามีความน่าสนใจ หลาย ๆ เครื่องพร้อมกับหน้าจอแสดงผลดิจิตอล ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเห็นระดับความชื้นปัจจุบันและตั้งค่าความชื้นที่ต้องการได้ การตั้งค่าสามารถทำได้ผ่านปุ่มกดหรืออินเทอร์เฟสที่ใช้งาน อีกทั้งบางรุ่นยังมีฟังก์ชั่นการทำความสะอาดอัตโนมัติและการแจ้งเตือนเมื่อถาดน้ำเต็ม ลดความจำเป็นในการบำรุงรักษาเป็นประจำ นอกจากนี้ยังมีระบบการทำความสะอาดและการเปลี่ยนตัวกรองที่สามารถทำได้ง่ายโดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์เพิ่มเติม ทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องวุ่นวายกับการดูแลรักษาและเพิ่มอายุการใช้งาน
การเชื่อมต่ออัจฉริยะ
ในยุคดิจิทัล การมีเครื่องดูดความชื้นที่เชื่อมต่อ Wi-Fi และสามารถควบคุมได้ผ่านแอปพลิเคชั่น เป็นคุณสมบัติที่น่าสนใจอย่างยิ่ง เครื่องที่มีความสามารถนี้มักจะมีช่วงการควบคุมอุณหภูมิและความชื้นได้จาก 30% ถึง 70% ระยะทางในการเชื่อมต่อไวไฟ สามารถเป็นได้ตั้งแต่ 10 เมตรถึง 30 เมตร ขึ้นอยู่กับการออกแบบและรุ่นของเครื่อง ฟังก์ชั่นนี้ช่วยให้คุณสามารถเปิดหรือปิดเครื่อง ปรับระดับความชื้น และตรวจสอบสถานะการทำงานของเครื่องได้จากทุกที่ทุกเวลาผ่านสมาร์ทโฟน
คุณภาพอากาศและการกรอง
เครื่องที่มีฟิลเตอร์อากาศเป็นส่วนเสริมที่ช่วยให้คุณไม่เพียงแค่ลดความชื้นในบ้านเท่านั้น แต่ยังช่วยกรองสิ่งสกปรกและสิ่งที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ออกจากอากาศได้ ฟิลเตอร์เหล่านี้ สามารถกรองอนุภาคขนาดเล็กได้ถึง 0.3 ไมครอน ซึ่งรวมถึงฝุ่นละออง, สปอร์เชื้อรา, และขนสัตว์ บางรุ่นมีฟิลเตอร์ HEPA ซึ่งเป็นมาตรฐานในอุตสาหกรรม ช่วยให้อากาศภายในบ้านของคุณสะอาดและปลอดภัยมากขึ้น แต่ควรบำรุงรักษาฟิลเตอร์เป็นประจำทุก 3-6 เดือน เพื่อรักษาประสิทธิภาพในการกรองอากาศและป้องกันการสะสมของสิ่งสกปรกที่อาจหลุดกลับเข้าสู่อากาศในบ้าน
ตารางฟีเจอร์เพิ่มเติมที่น่าสนใจ
เครื่องทำงานเงียบ | เครื่องมีเสียงรบกวนต่ำ ประมาณ 35-50 เดซิเบล ใช้เทคโนโลยีลดเสียงจากพัดลมและการไหลของน้ำ เหมาะสำหรับใช้งานในห้องนอนหรือพื้นที่ที่ต้องการความเงียบ |
---|---|
ใช้งานง่ายไม่ซับซ้อน | – มีหน้าจอแสดงผลดิจิตอล – การตั้งค่าที่ง่าย – ฟังก์ชั่นการทำความสะอาดอัตโนมัติ – แจ้งเตือนเมื่อถาดน้ำเต็ม เปลี่ยนตัวกรองง่ายโดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์เพิ่มเติม |
การเชื่อมต่ออัจฉริยะ | ความสามารถในการเชื่อมต่อ Wi-Fi และควบคุมผ่านแอป สามารถตั้งค่าอุณหภูมิและความชื้นได้จาก 30% ถึง 70% ควบคุมและตรวจสอบจากทุกที่ผ่านมือถือ |
คุณภาพอากาศและการกรอง | มีฟิลเตอร์อากาศ กรองอนุภาคขนาดเล็กถึง 0.3 ไมครอน เช่น ฝุ่นละออง สปอร์เชื้อรา ขนสัตว์ บางรุ่นมีฟิลเตอร์ HEPA บำรุงรักษาฟิลเตอร์ทุก 3-6 เดือน เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด |
วิธีติดตั้งและดูแลเครื่องง่ายๆ ด้วยตัวเอง
การติดตั้ง
- เลือกตำแหน่งที่เหมาะสม: การเลือกตำแหน่งที่เหมาะสมสำหรับติดตั้งเครื่องดูดความชื้นเป็นปัจจัยสำคัญที่สุด ควรติดตั้งเครื่องในพื้นที่ที่ความชื้นสูงสุด เช่น ห้องใต้ดินที่มีปัญหาน้ำซึมหรือห้องน้ำที่มีการใช้น้ำมาก โดยพื้นที่เหล่านี้อาจมีความชื้นสูงกว่า 60-70% RH (Relative Humidity)
- รักษาระยะห่างจากผนังและเฟอร์นิเจอร์: เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการไหลเวียนของอากาศและการดูดความชื้น ควรวางเครื่องห่างจากผนังและเฟอร์นิเจอร์อย่างน้อย 6-12 นิ้ว (15-30 เซนติเมตร)
- ใช้สายไฟและปลั๊กที่เหมาะสม: ควรใช้สายไฟและปลั๊กที่ตรงกับความต้องการของเครื่องและมาตรฐานความปลอดภัย เพื่อป้องกันปัญหาไฟฟ้าลัดวงจรหรือไฟไหม้
วิธีบำรุงรักษา
- ทำความสะอาดถาดน้ำ: แนะนำให้ล้างถาดเก็บน้ำอย่างน้อยทุกสัปดาห์ เพื่อป้องกันการเติบโตของเชื้อราและแบคทีเรีย การใช้น้ำส้มสายชูผสมน้ำในอัตราส่วน 1:1 สามารถช่วยลดการสะสมของสิ่งสกปรกได้
- เปลี่ยนหรือทำความสะอาดฟิลเตอร์: ฟิลเตอร์ควรเปลี่ยนหรือทำความสะอาดทุก 3-6 เดือน หรือตามคำแนะนำของผู้ผลิต เพื่อรักษาประสิทธิภาพในการกรองอากาศ
- ตรวจสอบและทำความสะอาดพัดลมและคอยล์: แนะนำให้ตรวจสอบและทำความสะอาดพัดลมและคอยล์เย็นอย่างน้อยปีละครั้ง เพื่อป้องกันการสะสมของฝุ่นละอองและรักษาความเย็นในการทำงาน
ตารางสรุปการดูแลเครื่องที่ถูกต้อง
การติดตั้ง | เลือกตำแหน่งที่เหมาะสม: พื้นที่ที่ความชื้นสูงสุด เช่น ห้องใต้ดินหรือห้องน้ำ -รักษาระยะห่าง: วางห่างจากผนังและเฟอร์นิเจอร์ 6-12 นิ้ว -สายไฟและปลั๊ก: ใช้สายไฟและปลั๊กที่เหมาะสมและปลอดภัย |
---|---|
ใช้งานง่ายไม่ซับซ้อน | – มีหน้าจอแสดงผลดิจิตอล – การตั้งค่าที่ง่าย – ฟังก์ชั่นการทำความสะอาดอัตโนมัติ – แจ้งเตือนเมื่อถาดน้ำเต็ม เปลี่ยนตัวกรองง่ายโดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์เพิ่มเติม |
การบำรุงรักษา | – ทำความสะอาดถาดน้ำ: ล้างทุกสัปดาห์ด้วยน้ำส้มสายชูผสมน้ำ – เปลี่ยนหรือทำความสะอาดทุก 3-6 เดือน |
การลงทุนซื้ออุปกรณ์ดูดความชื้นจึงเป็นการตัดสินใจที่คุ้มค่าสำหรับทุกครอบครัว เครื่องสามารถควบคุมระดับความชื้นในบ้าน ไม่เพียงช่วยลดปัญหาเชื้อราและกลิ่นไม่พึงประสงค์เท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มคุณภาพของอากาศภายใน สนับสนุนให้สุขภาพของทุกคนดีขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้เฟอร์นิเจอร์และวัสดุอื่นๆ มีอายุการใช้งานที่ยืนยาว ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อสักเครื่อง คุณควรพิจารณาหลายปัจจัย เช่น ขนาดของพื้นที่ต้องการใช้ ระดับความชื้นในปัจจุบัน และคุณสมบัติพิเศษที่อาจตอบโจทย์ความต้องการ เช่น เครื่องที่ทำงานเงียบหรือมีฟังก์ชั่นการเชื่อมต่ออัจฉริยะ อุปกรณ์ดูดความชื้นที่ตรงกับความต้องการ จะช่วยให้คุณสามารถรักษาความสมดุลของความชื้นในบ้านได้อย่างเหมาะสม ด้วยจากรายการที่เราได้คัดสรรมา รับรองได้เลยว่าคุณและครอบครัวจะได้สัมผัสกับความสะดวกสบาย มีอากาศที่สะอาดและสดชื่น และสุขภาพที่ดีขึ้นในบ้านของตัวเอง
คำถามที่พบบ่อย (FAQs)
1. เครื่องดูดความชื้นคืออะไร? และทำไมถึงต้องใช้?
สิ่งนี้ คือ อุปกรณ์ที่ช่วยลดระดับความชื้นในอากาศภายในบ้าน ช่วยให้อากาศสดชื่น ป้องกันเชื้อราและกลิ่นไม่พึงประสงค์ การใช้เครื่องดูดความชื้นจึงช่วยเสริมสุขภาพและความสบายในบ้านของคุณได้
2. เราควรวางอุปกรณ์ดูดความชื้นที่ไหนในบ้าน?
ควรวางเครื่องในพื้นที่ที่มีความชื้นสูง เช่น ห้องใต้ดิน ห้องน้ำ หรือห้องครัว และหลีกเลี่ยงการวางใกล้กับผนังหรือเฟอร์นิเจอร์เพื่อการไหลเวียนอากาศที่ดี
3. เลือกอุปกรณ์ดูดความชื้นขนาดไหนดี มีคำแนะนำไหม?
ขนาดของเครื่องที่เหมาะสม ขึ้นอยู่กับขนาดพื้นที่ที่ต้องการใช้งานและระดับความชื้น ควรวัดขนาดห้องและปรึกษาระดับความชื้นเพื่อเลือกขนาดเครื่องที่พอเหมาะ
4. เราควรทำความสะอาดเครื่องบ่อยแค่ไหน?
แนะนำให้ทำความสะอาดถาดเก็บน้ำและฟิลเตอร์อย่างน้อยทุกสัปดาห์ เพื่อป้องกันเชื้อราและรักษาประสิทธิภาพในการดูดความชื้นให้อยู่ในสภาพที่ดีที่สุด