น้ำมันเครื่องเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้เครื่องยนต์ของเราทำงานได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพสูง การเลือกน้ำมันเครื่องที่ตรงกับความต้องการและเหมาะสมกับเครื่องยนต์ของเรานั้นจะช่วยยืดอายุการใช้งานและปกป้องเครื่องยนต์จากการสึกหรอได้อย่างดีเยี่ยม ในบทความนี้ ผมจะนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับ แนะนำ 10 อันดับ น้ํามันเครื่องรถยนต์ ยี่ห้อไหนดี 2024 คุ้มค่า คุณภาพดี โดยมีรายละเอียดครบถ้วนตั้งแต่ปริมาณน้ำมันเครื่องที่บรรจุ, ประเภทเครื่องยนต์ที่เหมาะสมไม่ว่าจะเป็นเบนซินหรือดีเซล, ตลอดจนประเภทของน้ำมันเครื่อง ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันสังเคราะห์หรือกึ่งสังเคราะห์ นอกจากนี้ยังรวมถึงค่าความหนืดที่เหมาะสมกับสภาพอากาศต่างๆ และราคาที่แตกต่างกันไปตามคุณภาพและความต้องการของผู้ใช้งาน
คำแนะนำในการเลือกน้ำมันเครื่องที่เหมาะสมสำหรับเครื่องยนต์แต่ละประเภทจะช่วยให้คุณเข้าใจถึงความสำคัญของการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามระยะทางที่ระบุ เพื่อรักษาประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องยนต์ให้ดีที่สุด นอกจากนี้ยังรวมไปถึงวิธีการตรวจสอบสภาพน้ำมันเครื่องด้วยตัวเอง เพื่อให้คุณสามารถดูแลรถยนต์ของคุณได้อย่างเหมาะสมและถูกต้อง หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณสามารถตัดสินใจเลือกน้ำมันเครื่องที่ดีที่สุดสำหรับรถยนต์ของคุณได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น
หลักเกณฑ์ที่ใช้ในการจัดอันดับสินค้า
- ประเภทของน้ำมันเครื่อง: เราเลือกแบรนด์ที่มีน้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ ซึ่งเป็นทางเลือกที่ดีระหว่างคุณภาพและราคาที่เหมาะสม น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์มีราคาถูกกว่าน้ำมันสังเคราะห์แท้ แต่ให้การปกป้องและประสิทธิภาพที่ดีกว่าน้ำมันแร่ทั่วไป
- ความเข้ากันได้กับเครื่องยนต์: การเลือกน้ำมันเครื่องควรขึ้นอยู่กับประเภทของเครื่องยนต์ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์เบนซินหรือดีเซล เครื่องยนต์แต่ละประเภทมีความต้องการที่เฉพาะเจาะจง และการใช้น้ำมันที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้เครื่องยนต์เสื่อมสภาพเร็วขึ้น
- ค่าความหนืดของน้ำมันเครื่อง: เราพิจารณาค่าความหนืดของน้ำมัน เช่น 5W-30 ซึ่งหมายถึงความหนาของน้ำมันและความสามารถในการทำงานในอุณหภูมิที่แตกต่างกัน การเลือกค่าความหนืดที่ถูกต้องจะช่วยให้น้ำมันไหลผ่านเครื่องยนต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพในสภาพอากาศร้อนและเย็น
- สารเพิ่มคุณภาพ: เรามองหาน้ำมันเครื่องที่ผสมสารทำความสะอาดแบบโลหะ เพื่อช่วยลดการก่อตัวของคราบเขม่าและตะกรันในเครื่องยนต์ ช่วยให้เครื่องยนต์สะอาดและทำงานได้ดีขึ้น
- น้ำมันเครื่องสำหรับรถเก่า: สำหรับรถยนต์รุ่นเก่า เราแนะนำให้เลือกน้ำมันเครื่องธรรมดาหรือน้ำมันแร่ ซึ่งเหมาะสำหรับเครื่องยนต์ที่ใช้งานมานานและต้องการการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องบ่อยขึ้น
- น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้: สำหรับเครื่องยนต์สมรรถนะสูงและรุ่นใหม่ เราแนะนำให้น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ เนื่องจากมีการปกป้องที่เหนือกว่า ช่วยยืดอายุการเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง และรักษาความสะอาดของเครื่องยนต์ได้อย่างดีเยี่ยม
1. SHELL Helix HX8
SHELL Helix HX8 เป็นน้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ที่มาพร้อมเทคโนโลยี Flexi โมเลกุล ช่วยลดการสึกหรอและแรงเสียดทานของเครื่องยนต์ เหมาะสำหรับเครื่องยนต์ดีเซลและเบนซินที่ต้องการความหนืดต่ำและการปกป้องในทุกสภาวะ
ปริมาณสินค้า | 3, 4, 6 ลิตร |
ประเภทเครื่องยนต์ | เครื่องยนต์ดีเซล |
ประเภทน้ำมันเครื่อง | น้ำมันเครื่องเกรดสังเคราะห์ |
ค่าความหนืด | 0W20, 5W40, 5W30 |
ราคา | 1,248 บาท |
ข้อดี
- ช่วยลดการสึกหรอและแรงเสียดทานของเครื่องยนต์
- ปกป้องเครื่องยนต์ในทุกสภาวะอุณหภูมิ
- ช่วยประหยัดน้ำมันและยืดอายุการใช้งานเครื่องยนต์
ข้อควรพิจารณา
- อาจไม่เหมาะกับรถยนต์เก่าที่ใช้น้ำมันเครื่องแบบแร่
- ความเข้ากันได้กับเครื่องยนต์บางรุ่นอาจต้องตรวจสอบเพิ่มเติม
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?
SHELL Helix HX8 เป็นน้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ที่มาพร้อมเทคโนโลยี Flexi โมเลกุล ช่วยลดการสึกหรอและแรงเสียดทานของเครื่องยนต์ ทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับทั้งเครื่องยนต์เบนซินและดีเซล อีกทั้งยังช่วยปกป้องเครื่องยนต์ในทุกสภาวะ รวมถึงการประหยัดน้ำมันได้ดีขึ้น ถือเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการใช้งาน2. Liqui Moly SPECIAL TEC
Liqui Moly SPECIAL TEC เป็นน้ำมันเครื่องพรีเมี่ยมที่ออกแบบมาสำหรับเครื่องยนต์ดีเซล ช่วยลดการสึกหรอและประหยัดพลังงาน เหมาะสำหรับรถยนต์จากญี่ปุ่นและอเมริกา ให้การหล่อลื่นที่มีคุณภาพสูงและยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์
ปริมาณสินค้า | 7 ลิตร |
ประเภทเครื่องยนต์ | เครื่องยนต์ดีเซล |
ประเภทน้ำมันเครื่อง | น้ำมันเครื่องธรรมดา |
ค่าความหนืด | 10W-30 |
ราคา | 2,700 บาท |
ข้อดี
- เหมาะสำหรับเครื่องยนต์ดีเซลสมรรถนะสูง
- ลดการสึกหรอและประหยัดพลังงานเชื้อเพลิง
- รองรับการใช้งานหนักและเดินทางระยะไกล
ข้อควรพิจารณา
- ไม่เหมาะกับเครื่องยนต์เบนซิน
- อาจใช้ไม่ได้กับรถยนต์เก่าที่ไม่มีเทคโนโลยีใหม่ ๆ
Liqui Moly SPECIAL TEC น้ำมันเครื่องระดับพรีเมี่ยมที่ถูกพัฒนาขึ้นเป็นพิเศษสำหรับเครื่องยนต์ดีเซล โดยเฉพาะยานพาหนะจากญี่ปุ่นและอเมริกา น้ำมันเครื่องชนิดนี้มีเทคโนโลยี Synthetic ซึ่งช่วยลดการสึกหรอของเครื่องยนต์และประหยัดการใช้พลังงานเชื้อเพลิงอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งลดการปล่อยมลพิษในอากาศได้อย่างดีเยี่ยม ด้วยการผสมผสานน้ำมันพื้นฐานที่มีเทคโนโลยีสังเคราะห์และสารเติมแต่งล่าสุด ทำให้มั่นใจได้ในคุณภาพการหล่อลื่นที่ยอดเยี่ยมและรวดเร็วสำหรับเครื่องยนต์ ลดแรงเสียดทานและเพิ่มเสถียรภาพในการทำงานของเครื่องยนต์ที่มีการใช้งานหนักเป็นพิเศษ เหมาะสำหรับเครื่องยนต์ดีเซลที่มี Turbocharger หรือ Catalytic Converter ทั้งแบบมีและไม่มีระบบระบายความร้อนด้วยอากาศ นอกจากนี้ยังมีประสิทธิภาพในการทำความสะอาดเครื่องยนต์ ลดการสึกหรอในระยะยาว และรองรับการใช้งานในระยะทางมากกว่า 60,000 กิโลเมตร เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานกับเครื่องยนต์ดีเซลสมัยใหม่ ที่ต้องการน้ำมันเครื่องที่สามารถทนทานต่อแรงเฉือนได้อย่างดีเยี่ยม นอกจากนี้ Liqui Moly SPECIAL TEC ยังเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ขับขี่ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุดในการหล่อลื่นและยืดอายุการใช้งานเครื่องยนต์
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?
Liqui Moly SPECIAL TEC เป็นน้ำมันเครื่องที่ออกแบบมาเพื่อเครื่องยนต์ดีเซลโดยเฉพาะ ช่วยลดการสึกหรอและประหยัดพลังงานได้อย่างดี เหมาะกับรถยนต์จากญี่ปุ่นและอเมริกา พร้อมคุณสมบัติที่รองรับการใช้งานในเครื่องยนต์ที่มี Turbocharger และ Catalytic Converter น้ำมันเครื่องนี้เหมาะกับการเดินทางระยะไกลและช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์
3. Liqui Moly SUPER LEICHTLAUF
Liqui Moly SUPER LEICHTLAUF เป็นน้ำมันเครื่องสังเคราะห์ที่ช่วยลดแรงเสียดทานและปกป้องเครื่องยนต์ทั้งเบนซินและดีเซล ช่วยประหยัดเชื้อเพลิงและลดมลพิษ เหมาะสำหรับเครื่องยนต์ที่ใช้งานหนักและต้องการการหล่อลื่นที่ดีเยี่ยม
ปริมาณสินค้า | 7 ลิตร |
ประเภทเครื่องยนต์ | เครื่องยนต์ดีเซลและเบนซิน |
ประเภทน้ำมันเครื่อง | น้ำมันเครื่องเกรดสังเคราะห์ |
ค่าความหนืด | 10W-40 |
ราคา | 2,700 บาท |
ข้อดี
- ลดแรงเสียดทานและปกป้องเครื่องยนต์ได้ดี
- ประหยัดเชื้อเพลิงและลดการปล่อยมลพิษ
- รองรับการใช้งานกับเครื่องยนต์ที่มี Turbocharger
ข้อควรพิจารณา
- ไม่เหมาะกับรถยนต์ที่ใช้งานเบาหรือระยะสั้น
- ประสิทธิภาพอาจไม่เต็มที่ในเครื่องยนต์เก่า
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?
Liqui Moly SUPER LEICHTLAUF เป็นน้ำมันเครื่องสังเคราะห์ที่ออกแบบมาเพื่อลดแรงเสียดทานและเพิ่มประสิทธิภาพในการหล่อลื่น ช่วยปกป้องเครื่องยนต์ทั้งเบนซินและดีเซล อีกทั้งยังช่วยประหยัดเชื้อเพลิงและลดการปล่อยมลพิษ เหมาะกับรถยนต์ที่ใช้งานระยะทางไกล และเครื่องยนต์ที่มีระบบ Turbocharger4. SHELL Helix Ultra
SHELL Helix Ultra เป็นน้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ที่มีเทคโนโลยี Pureplus ช่วยปกป้องและทำความสะอาดเครื่องยนต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดการสึกหรอและประหยัดพลังงาน เหมาะสำหรับเครื่องยนต์ที่ต้องการความสะอาดและสมรรถนะสูง
ปริมาณสินค้า | 4 ลิตร |
ประเภทเครื่องยนต์ | เครื่องยนต์เบนซิน |
ประเภทน้ำมันเครื่อง | น้ำมันเครื่องเกรดสังเคราะห์ |
ค่าความหนืด | 0W-40 |
ราคา | 2,222 บาท |
ข้อดี
- ช่วยลดแรงเสียดทานและประหยัดเชื้อเพลิงได้สูงสุด
- ป้องกันคราบสกปรกและยางเหนียวในเครื่องยนต์
- ทนทานต่ออุณหภูมิสุดขั้วได้ดีเยี่ยม
ข้อควรพิจารณา
- อาจไม่เหมาะกับเครื่องยนต์รุ่นเก่าหรือการใช้งานเบา
- ต้องตรวจสอบความเข้ากันได้กับเครื่องยนต์บางรุ่น
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?
SHELL Helix Ultra เป็นน้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ที่มีเทคโนโลยี Pureplus และ Active Cleansing ช่วยทำความสะอาดเครื่องยนต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดแรงเสียดทานและประหยัดพลังงาน สามารถทำงานได้ในอุณหภูมิสุดขั้ว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปกป้องเครื่องยนต์และลดการเติมน้ำมันบ่อยครั้ง5. MOBIL1 TURBO
MOBIL1 TURBO น้ำมันเครื่องคุณภาพสูงที่ออกแบบมาเพื่อปกป้องเครื่องยนต์จากความร้อนและสิ่งปนเปื้อน ช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพในทุกสภาวะ และยังช่วยประหยัดเชื้อเพลิง
ปริมาณสินค้า | 6 ลิตร |
ประเภทเครื่องยนต์ | เครื่องยนต์ดีเซล |
ประเภทน้ำมันเครื่อง | น้ำมันเครื่องเกรดสังเคราะห์ |
ค่าความหนืด | 5W-40 |
ราคา | 990 บาท |
ข้อดี
- ปกป้องเครื่องยนต์จากความร้อนได้มากถึง 30 เท่า
- ลดสิ่งปนเปื้อนในเครื่องยนต์ได้สูงถึง 99%
- ช่วยประหยัดเชื้อเพลิงและลดมลพิษ
ข้อควรพิจารณา
- อาจไม่เหมาะกับรถยนต์ที่ใช้งานเบาหรือไม่เดินทางไกล
- อาจไม่เหมาะกับรถยนต์ที่ใช้งานเบาหรือไม่เดินทางไกล
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?
MOBIL1 TURBO เป็นน้ำมันเครื่องที่ช่วยปกป้องเครื่องยนต์จากความร้อนและสิ่งปนเปื้อนได้อย่างดีเยี่ยม ช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานเต็มประสิทธิภาพในทุกสภาวะ พร้อมบริการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องฟรีเมื่อเปลี่ยนพร้อมไส้กรองที่ศูนย์บริการ เหมาะกับผู้ที่ต้องการความสะดวกในการดูแลเครื่องยนต์6. PTT Lubricants DYNAMIC COMMONRAIL
PTT Lubricants DYNAMIC COMMONRAIL เป็นน้ำมันเครื่องที่ออกแบบมาเพื่อรองรับเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล ช่วยปกป้องเครื่องยนต์จากการสึกหรอและคราบสกปรก เหมาะสำหรับรถปิคอัพที่ต้องการสมรรถนะสูง
ปริมาณสินค้า | 6 ลิตร |
ประเภทเครื่องยนต์ | เครื่องยนต์ดีเซล |
ประเภทน้ำมันเครื่อง | น้ำมันเครื่องเกรดสังเคราะห์ |
ค่าความหนืด | 10W-30, 15W-40 |
ราคา | 1,050 บาท |
ข้อดี
- ออกแบบมาเพื่อเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรลสมรรถนะสูง
- ลดการเกิดคราบและรักษาความสะอาดของเครื่องยนต์
- ฟิล์มน้ำมันแข็งแรง ทนต่อการใช้งานหนัก
ข้อควรพิจารณา
- อาจไม่เหมาะกับรถยนต์ที่ใช้งานเบาหรือไม่ใช่ดีเซล
- ต้องตรวจสอบค่าความหนืดให้เข้ากับเครื่องยนต์แต่ละรุ่น
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?
PTT Lubricants DYNAMIC COMMONRAIL เหมาะสำหรับเครื่องยนต์ดีเซลระบบคอมมอนเรลที่ต้องการสมรรถนะสูง น้ำมันเครื่องรุ่นนี้มีเทคโนโลยี CLEAN AND LOCK ช่วยลดการเกิดคราบเขม่าและรักษากำลังเครื่องยนต์ ทำให้ตอบสนองการเร่งได้เต็มที่ ฟิล์มน้ำมันยังแข็งแรง ปกป้องเครื่องยนต์จากการใช้งานหนักได้ดี เหมาะกับรถปิคอัพที่ใช้งานหนัก7. TOYOTA 10W-30SN
TOYOTA 10W-30SN เป็นน้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ที่ช่วยปกป้องเครื่องยนต์จากการสึกหรอและทนต่อความร้อน เหมาะสำหรับเครื่องยนต์เบนซินที่มีระบบมัลติวาล์ว และใช้งานได้ในทุกสภาพอากาศ
ปริมาณสินค้า | 4 ลิตร |
ประเภทเครื่องยนต์ | เครื่องยนต์เบนซิน |
ประเภทน้ำมันเครื่อง | – |
ค่าความหนืด | – |
ราคา | 904 บาท |
ข้อดี
- ช่วยปกป้องเครื่องยนต์จากการสึกหรอ
- ทนต่อความร้อนได้ดีในทุกสภาพอุณหภูมิ
- ยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์
ข้อควรพิจารณา
- อาจไม่เหมาะกับเครื่องยนต์ดีเซล
- อาจต้องตรวจสอบความเข้ากันกับเครื่องยนต์รุ่นอื่น ๆ
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?
TOYOTA 10W-30SN เป็นน้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองการใช้งานของเครื่องยนต์เบนซิน โดยเฉพาะเครื่องยนต์โตโยต้า น้ำมันเครื่องรุ่นนี้ช่วยปกป้องชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์จากการสึกหรอ และยังคงทนต่อความร้อนสูง เหมาะสำหรับการใช้งานในทุกสภาพอากาศ อีกทั้งยังช่วยยืดอายุการใช้งานเครื่องยนต์ได้ยาวนาน8. FURIO FULLY SYNTHETIC SP
FURIO FULLY SYNTHETIC SP น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ที่ช่วยปกป้องเครื่องยนต์เบนซินสมรรถนะสูง ลดการสึกหรอและทำให้เครื่องยนต์สะอาด เหมาะสำหรับเครื่องยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงแก๊สโซฮอล์และก๊าซธรรมชาติ
ปริมาณสินค้า | 4 ลิตร |
ประเภทเครื่องยนต์ | เครื่องยนต์เบนซิน |
ประเภทน้ำมันเครื่อง | น้ำมันเครื่องเกรดสังเคราะห์ |
ค่าความหนืด | 5W-30 |
ราคา | 879 บาท |
ข้อดี
- ปกป้องเครื่องยนต์จากการสึกหรอและแรงเสียดทาน
- เหมาะสำหรับเครื่องยนต์สมรรถนะสูง
- รองรับการใช้งานกับเชื้อเพลิงหลากหลายประเภท
ข้อควรพิจารณา
- ไม่เหมาะสำหรับเครื่องยนต์ที่ใช้งานเบา
- อาจต้องตรวจสอบความเข้ากันได้กับเครื่องยนต์บางรุ่น
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?
FURIO FULLY SYNTHETIC SP น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ที่เหมาะกับเครื่องยนต์เบนซินสมรรถนะสูง ช่วยลดการสึกหรอและแรงเสียดทานได้ดี ทำให้เครื่องยนต์สะอาดและทำงานได้เต็มประสิทธิภาพในทุกสภาวะ สามารถใช้งานกับเชื้อเพลิงแก๊สโซฮอล์ E10, E20, E85 NGV และ LPG ได้อย่างดีเยี่ยม9. PTT Lubricants PERFORMA SYNTHETIC
PTT Lubricants PERFORMA SYNTHETIC น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ 100% ที่ช่วยลดการสึกหรอของเครื่องยนต์และประหยัดเชื้อเพลิง เหมาะสำหรับเครื่องยนต์เบนซินสมรรถนะสูงและเครื่องยนต์ดีเซลยุโรป
ปริมาณสินค้า | 4 ลิตร |
ประเภทเครื่องยนต์ | เครื่องยนต์เบนซิน |
ประเภทน้ำมันเครื่อง | น้ำมันเครื่องเกรดสังเคราะห์ |
ค่าความหนืด | 5W-30, 5W-40, NGV 5W-40 |
ราคา | 1,250 บาท |
ข้อดี
- ช่วยให้เครื่องยนต์สตาร์ทง่ายและประหยัดเชื้อเพลิง
- ป้องกันการเกิดคราบโคลนในเครื่องยนต์
- รองรับการใช้งานกับเชื้อเพลิงหลากหลายประเภท
ข้อควรพิจารณา
- อาจไม่เหมาะกับเครื่องยนต์รุ่นเก่าหรือใช้งานหนัก
- ต้องตรวจสอบค่าความหนืดให้เข้ากับเครื่องยนต์แต่ละรุ่น
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?
PTT Lubricants PERFORMA SYNTHETIC น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ 100% ที่ออกแบบมาเพื่อเครื่องยนต์สมรรถนะสูง ช่วยลดการสึกหรอของเครื่องยนต์ พร้อมประหยัดเชื้อเพลิงและช่วยรักษาความสะอาดของเครื่องยนต์ เหมาะสำหรับการใช้งานกับเชื้อเพลิงแก๊สโซฮอล์ E10, E20, E85 รวมถึงก๊าซธรรมชาติ10. MOTUL MUGEN MS-A
MOTUL MUGEN MS-A น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ที่ออกแบบมาเพื่อปกป้องเครื่องยนต์ฮอนด้าและเบนซินทั่วไป ช่วยลดการสึกหรอและเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่ เหมาะสำหรับรถที่ใช้งานหนัก
ปริมาณสินค้า | 4 ลิตร |
ประเภทเครื่องยนต์ | เครื่องยนต์เบนซิน |
ประเภทน้ำมันเครื่อง | น้ำมันเครื่องเกรดสังเคราะห์ |
ค่าความหนืด | 5W-30, 5W-40 |
ราคา | 1,390 บาท |
ข้อดี
- ปกป้องเครื่องยนต์จากการสึกหรอได้ดีเยี่ยม
- ช่วยลดการจุดระเบิดล่วงหน้าด้วยความเร็วต่ำ (LSPI)
- รักษาความสะอาดของเครื่องยนต์จากคราบเขม่าและตะกรัน
ข้อควรพิจารณา
- ต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องทุก 10,000 กิโลเมตร
- อาจไม่เหมาะสำหรับเครื่องยนต์ที่ไม่ใช่ของฮอนด้า
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?
MOTUL MUGEN MS-A น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ที่ออกแบบมาโดยทีมแข่ง MUGEN ร่วมกับ Motul เพื่อปกป้องเครื่องยนต์เบนซินและเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่ ช่วยลดการสึกหรอและรักษาความสะอาดเครื่องยนต์ เหมาะสำหรับการใช้งานกับรถยนต์ฮอนด้าและเครื่องยนต์เบนซินทั่วไปการเลือกน้ำมันเครื่องให้เหมาะสมกับเครื่องยนต์
การเลือกน้ำมันเครื่องที่เหมาะสมกับเครื่องยนต์เป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อประสิทธิภาพและอายุการใช้งานของเครื่องยนต์ น้ำมันเครื่องที่ดีสามารถช่วยลดการสึกหรอ ลดแรงเสียดทาน และป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับชิ้นส่วนภายใน ผู้ขับขี่จึงควรให้ความสำคัญในการเลือกใช้น้ำมันเครื่องที่เหมาะสม โดยพิจารณาจากค่าความหนืด (SAE) และมาตรฐาน API ซึ่งสามารถตรวจสอบได้จากคู่มือรถยนต์ของผู้ผลิต นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ควรนำมาพิจารณาเพื่อให้มั่นใจว่าเครื่องยนต์จะได้รับการปกป้องอย่างเต็มที่
ค่าความหนืด (SAE)
ค่าความหนืด หรือ SAE (Society of Automotive Engineers) เป็นตัวบ่งบอกระดับการไหลของน้ำมันเครื่องในอุณหภูมิต่าง ๆ ค่าความหนืดที่เหมาะสมจะช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ น้ำมันเครื่องที่มีค่าความหนืดต่ำเหมาะสำหรับการขับขี่ในสภาพอากาศหนาว ส่วนค่าความหนืดสูงจะเหมาะสำหรับเครื่องยนต์ที่ทำงานหนักหรือใช้ในสภาพอากาศร้อน ดังนั้นผู้ขับขี่ควรตรวจสอบค่าความหนืดที่เหมาะสมจากคู่มือรถยนต์
มาตรฐาน API
มาตรฐาน API (American Petroleum Institute) เป็นเครื่องหมายการันตีคุณภาพของน้ำมันเครื่อง โดยแบ่งออกเป็นหลายเกรด เช่น SN, SM สำหรับเครื่องยนต์เบนซิน และ CI, CJ สำหรับเครื่องยนต์ดีเซล น้ำมันเครื่องที่ได้รับมาตรฐาน API จะช่วยให้มั่นใจได้ว่ามีคุณภาพเพียงพอต่อการปกป้องเครื่องยนต์จากการสึกหรอ ลดคราบเขม่า และลดการเสื่อมสภาพของน้ำมันเมื่อใช้งานไปนาน ๆ
การใช้งานรถยนต์
น้ำมันเครื่องที่เหมาะสมกับการใช้งานรถยนต์มีความสำคัญมาก หากคุณขับรถในเมืองบ่อย ๆ ที่ต้องเจอการจราจรติดขัด หรือขับรถในระยะทางไกลบ่อยครั้ง ควรเลือกน้ำมันเครื่องที่มีคุณสมบัติช่วยระบายความร้อนและลดการสึกหรอของเครื่องยนต์ นอกจากนี้สำหรับผู้ที่ใช้รถในพื้นที่ที่มีอากาศหนาวควรเลือกน้ำมันเครื่องที่มีค่าความหนืดต่ำเพื่อช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้ดียิ่งขึ้นในอุณหภูมิต่ำ
ประเภทน้ำมันเครื่อง
น้ำมันเครื่องมีอยู่ 3 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่ น้ำมันเครื่องแร่ น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ และน้ำมันเครื่องสังเคราะห์เต็มรูปแบบ น้ำมันเครื่องแร่เหมาะกับเครื่องยนต์ที่ไม่ต้องการสมรรถนะสูง ส่วนกึ่งสังเคราะห์ให้ประสิทธิภาพดีขึ้นในขณะที่ยังคงราคาที่เหมาะสม และน้ำมันเครื่องสังเคราะห์เต็มรูปแบบมีประสิทธิภาพในการปกป้องเครื่องยนต์สูงสุด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลรักษาเครื่องยนต์ในระยะยาว
ปัจจัยสำคัญในการเลือกน้ำมันเครื่องให้เหมาะสมกับการใช้งาน
การเลือกน้ำมันเครื่องให้เหมาะสมกับการใช้งานของเครื่องยนต์มีหลายปัจจัยที่ควรพิจารณา เช่น ค่าความหนืด (SAE) ที่ควรเลือกตามสภาพอากาศและการใช้งานรถยนต์ หากขับในสภาพอากาศเย็นควรใช้น้ำมันที่มีค่าความหนืดต่ำเพื่อลดแรงเสียดทาน แต่หากขับในสภาพอากาศร้อนหรือใช้รถยนต์ที่ทำงานหนัก ควรเลือกน้ำมันเครื่องที่มีค่าความหนืดสูงเพื่อปกป้องเครื่องยนต์จากการสึกหรอ นอกจากนี้มาตรฐาน API ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญในการเลือกใช้น้ำมันเครื่อง โดยควรเลือกตามคำแนะนำของผู้ผลิตรถยนต์เพื่อให้เหมาะสมกับชนิดของเครื่องยนต์
นอกจากน้ำมันเครื่องแล้ว การดูแลรักษาระบบไฟฟ้าของรถยนต์ก็เป็นสิ่งสำคัญ การดูแลแบตเตอรี่รถยนต์ให้มีสภาพดีช่วยให้ระบบไฟฟ้าในรถยนต์ทำงานได้อย่างราบรื่น ตรวจสอบความสะอาดของขั้วแบตเตอรี่และระดับน้ำกลั่นเป็นประจำเพื่อป้องกันปัญหาการทำงานของระบบไฟฟ้าในระยะยาว สำหรับการเลือกซื้อแบตเตอรี่รถยนต์ยี่ห้อไหนดี วรพิจารณาขนาดและความจุไฟฟ้าที่เหมาะสมกับรถยนต์ โดยสามารถดูจากคู่มือรถหรือแบตเตอรี่เดิมที่ติดมากับรถ นอกจากนี้ควรเลือกแบตเตอรี่ที่มีคุณสมบัติตรงกับการใช้งาน เช่น แบตเตอรี่แบบแห้งหรือแบบน้ำ และตรวจสอบวันผลิตเพื่อให้แน่ใจว่าแบตเตอรี่ยังใหม่ ไม่ควรเก่ากว่า 6 เดือน
ความสำคัญของการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามระยะทางที่กำหนด
การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามระยะทางที่กำหนดเป็นสิ่งที่ผู้ขับขี่ทุกคนควรให้ความสำคัญ เพราะน้ำมันเครื่องมีหน้าที่สำคัญในการหล่อลื่นและป้องกันการสึกหรอของชิ้นส่วนเครื่องยนต์ เมื่อใช้งานไประยะเวลาหนึ่ง น้ำมันเครื่องจะสูญเสียประสิทธิภาพในการหล่อลื่น การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามระยะเวลาที่เหมาะสมจึงเป็นการป้องกันการเสื่อมสภาพของเครื่องยนต์ ช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพและยืดอายุการใช้งาน นอกจากนี้ยังช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงและลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นกับเครื่องยนต์ได้อีกด้วย
ลดการสึกหรอของเครื่องยนต์
น้ำมันเครื่องทำหน้าที่หล่อลื่นชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์ เมื่อใช้งานไประยะหนึ่งน้ำมันเครื่องจะเริ่มเสื่อมสภาพและสูญเสียคุณสมบัติในการปกป้อง หากไม่เปลี่ยนถ่ายตามระยะทางที่กำหนด อาจทำให้ชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์เกิดการสึกหรอได้เร็วขึ้น ส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องยนต์และอายุการใช้งานในระยะยาว
ช่วยระบายความร้อนในเครื่องยนต์
น้ำมันเครื่องช่วยระบายความร้อนจากการทำงานของเครื่องยนต์ หากน้ำมันเครื่องเสื่อมสภาพจะทำให้การระบายความร้อนไม่เต็มที่ ส่งผลให้เครื่องยนต์ทำงานหนักขึ้นและอาจเกิดความร้อนสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อเครื่องยนต์ การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามระยะทางที่กำหนดจะช่วยป้องกันปัญหานี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทำความสะอาดคราบสกปรกในเครื่องยนต์
น้ำมันเครื่องช่วยจับคราบสกปรกที่เกิดขึ้นจากการเผาไหม้ของเชื้อเพลิงและการสึกหรอของชิ้นส่วน หากใช้น้ำมันเครื่องที่เสื่อมสภาพ คราบสกปรกเหล่านี้อาจสะสมในเครื่องยนต์ ส่งผลให้การทำงานของเครื่องยนต์ไม่ราบรื่น การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องจะช่วยทำความสะอาดเครื่องยนต์ ลดการสะสมของคราบและเขม่าที่อาจทำให้เครื่องยนต์เสื่อมสภาพเร็วขึ้น
ยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์
การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามระยะที่กำหนดเป็นวิธีการง่าย ๆ ที่ช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องอย่างสม่ำเสมอจะช่วยรักษาประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องยนต์ ลดการสึกหรอและป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
ความเสี่ยงที่เกิดจากการไม่เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามระยะทางที่กำหนด
การไม่เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามระยะทางที่กำหนดอาจส่งผลเสียต่อประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องยนต์และอาจก่อให้เกิดปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อการขับขี่ในระยะยาว น้ำมันเครื่องที่เสื่อมสภาพไม่สามารถป้องกันการสึกหรอของชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ชิ้นส่วนเหล่านั้นเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติและอาจเกิดความเสียหายรุนแรง นอกจากนี้ การใช้น้ำมันเครื่องที่เสื่อมสภาพอาจทำให้เครื่องยนต์ทำงานหนักขึ้น ส่งผลให้สิ้นเปลืองเชื้อเพลิงมากขึ้น และอาจเกิดความร้อนสะสมในเครื่องยนต์ที่อาจก่อให้เกิดการขัดข้องระหว่างการขับขี่
นอกจากนี้ยังควรให้ความสำคัญในการตรวจเช็ค ยางรถยนต์ อยู่เสมอ เช่นเดียวกับการตรวจเช็คน้ำมันเครื่อง เพราะยางรถยนต์ที่มีคุณภาพดีช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ การตรวจสอบสภาพยางรถยนต์บ่อยครั้ง เช่น ความดันลมยางและการสึกหรอของดอกยาง ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุและยังช่วยให้การขับขี่เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ หากยางรถยนต์อยู่ในสภาพที่ดีจะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าเครื่องยนต์และรถยนต์ทำงานอย่างสอดคล้องกันในทุกสภาวะ สำหรับการเลือกซื้อ 10 ยางรถยนต์ที่ดีที่สุด ควรคำนึงถึงขนาดที่ตรงกับสเปกของรถยนต์ โดยดูจากคู่มือหรือขนาดที่ยางเดิมติดรถมา รวมถึงประเภทของยางที่เหมาะกับการใช้งาน เช่น ยางสำหรับการขับขี่ในเมืองหรือการเดินทางไกล ควรเลือกยางที่มีดอกยางลึกเพื่อการยึดเกาะที่ดี และควรตรวจสอบวันที่ผลิตยางเพื่อให้แน่ใจว่าได้รับยางที่ใหม่และไม่เก่าเกินไป
วิธีตรวจเช็คสภาพน้ำมันเครื่องด้วยตัวเอง
การตรวจเช็คระดับน้ำมันเครื่อง
เริ่มจากการดับเครื่องยนต์และรอให้เครื่องยนต์เย็นลง จากนั้นเปิดฝากระโปรงและดึงก้านวัดระดับน้ำมันเครื่องออกมา เช็ดก้านให้สะอาดแล้วใส่กลับไปในตำแหน่งเดิม จากนั้นดึงก้านออกมาอีกครั้งเพื่อดูระดับน้ำมัน หากน้ำมันเครื่องอยู่ในช่วงระดับที่เหมาะสมระหว่าง “Min” และ “Max” แสดงว่าระดับน้ำมันอยู่ในเกณฑ์ปกติ แต่หากระดับต่ำเกินไป ควรเติมน้ำมันเครื่องเพิ่มเพื่อป้องกันการทำงานของเครื่องยนต์ที่ผิดปกติการตรวจสอบสีของน้ำมันเครื่อง
สีของน้ำมันเครื่องเป็นอีกตัวบ่งชี้ที่สามารถช่วยให้คุณรู้ว่าน้ำมันเครื่องยังมีสภาพดีหรือควรเปลี่ยนใหม่ น้ำมันเครื่องที่มีสภาพดีควรเป็นสีน้ำตาลอ่อนหรือสีเหลืองใส หากน้ำมันเครื่องมีสีดำคล้ำหรือมีคราบสกปรกอยู่ในน้ำมัน แสดงว่าน้ำมันเครื่องเริ่มเสื่อมสภาพและควรเปลี่ยนถ่ายเพื่อป้องกันปัญหาในระยะยาวการตรวจเช็คความหนืดของน้ำมันเครื่อง
การตรวจสอบความหนืดของน้ำมันเครื่องสามารถทำได้โดยการสัมผัสน้ำมันที่ปลายก้านวัด ความหนืดของน้ำมันเครื่องที่ดีจะต้องไม่เหนียวหรือข้นจนเกินไป หากรู้สึกว่าน้ำมันเครื่องมีความข้นหรือเหนียวกว่าปกติ แสดงว่าน้ำมันเครื่องเสื่อมสภาพและอาจไม่สามารถปกป้องเครื่องยนต์ได้ดีเท่าที่ควร ควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันใหม่เพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพการตรวจสอบการรั่วซึมของน้ำมันเครื่อง
นอกจากการตรวจสอบระดับและสภาพของน้ำมันเครื่องแล้ว ควรสังเกตบริเวณใต้ท้องรถเพื่อดูว่ามีคราบน้ำมันเครื่องรั่วไหลออกมาหรือไม่ หากพบว่ามีคราบน้ำมันเครื่องรั่ว ควรนำรถเข้าตรวจสอบและซ่อมแซมทันทีเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจส่งผลต่อเครื่องยนต์คำถามที่พบบ่อย
1. ควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่องบ่อยแค่ไหน?
แนะนำให้เปลี่ยนน้ำมันเครื่องทุก ๆ 5,000-10,000 กิโลเมตร ขึ้นอยู่กับคำแนะนำของผู้ผลิตรถยนต์และประเภทของน้ำมันเครื่องที่ใช้งาน
2. น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์กับน้ำมันเครื่องสังเคราะห์เต็มรูปแบบต่างกันอย่างไร?
น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์มีส่วนผสมของน้ำมันแร่และสังเคราะห์ ในขณะที่น้ำมันเครื่องสังเคราะห์เต็มรูปแบบจะมีประสิทธิภาพในการหล่อลื่นและปกป้องเครื่องยนต์ได้ดีกว่า เหมาะกับการใช้งานหนัก
3. น้ำมันเครื่องมีสีดำแสดงว่าต้องเปลี่ยนทันทีหรือไม่?
ไม่จำเป็นเสมอไป สีดำอาจเกิดจากการทำงานของสารซักฟอกในน้ำมันเครื่องที่จับเขม่าสกปรก อย่างไรก็ตาม ควรพิจารณาจากระยะเวลาใช้งานและการตรวจสอบอื่น ๆ ร่วมด้วย
4. ค่าความหนืดของน้ำมันเครื่องมีความสำคัญอย่างไร?
ค่าความหนืด (SAE) จะบอกถึงความสามารถในการไหลของน้ำมันเครื่องในอุณหภูมิต่าง ๆ ค่าที่เหมาะสมจะช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้ดีในสภาพอากาศและการใช้งานต่าง ๆ