ยางรถยนต์เป็นอะไหล่ที่ต้องเลือกดีๆและต้องตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอเครับ เพราะส่งผลต่อความปลอดภัยและสมรรถนะในการขับขี่ เนื่องจากยางเป็นส่วนเดียวที่สัมผัสกับพื้นถนนโดยตรงเลยนะครับ การเลือกยางให้เหมาะกับสภาพถนนและการใช้งานจึงสำคัญมากๆ ครับ นอกจากจะปลอดภัยแล้ว ยังช่วยให้รถเกาะถนนดีขึ้น และขับขี่นุ่มนวลด้วยครับ ในบทความนี้ ผมได้รวบรวม 10 อันดับยางรถยนต์ที่คนนิยมใช้กันมากที่สุดมาฝากครับ เหมาะกับรถทุกประเภทเลย ไม่ว่าจะเป็นรถเก๋ง กระบะ หรือ SUV ครับ ผมจะมาแนะนำยางแต่ละรุ่นพร้อมข้อมูลสเปคที่สำคัญๆ ทั้งหน้ากว้าง (มม.) ซีรีส์ยาง ขอบล้อ (นิ้ว) และแก้มยาง (ซม.) รวมถึงราคาและจุดเด่นของยางแต่ละรุ่น เพื่อให้คุณเปรียบเทียบและเลือกได้ง่ายขึ้นครับ และแน่นอนครับ ผมยังมีเกร็ดความรู้ดีๆ มาฝากด้วย ทั้งเรื่องการเลือกยางให้เหมาะกับสภาพถนน วิธีเช็คดอกยางและร่องยาง รวมถึงจังหวะที่ควรเปลี่ยนยางใหม่ครับ เพื่อให้เพื่อน ๆ ใช้ยางได้อย่างปลอดภัยและคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปครับ
หลักเกณฑ์ที่ใช้ในการจัดอันดับสินค้า
- ยางรถยนต์รุ่นประหยัดน้ำมัน: ข้อแรกเลยครับ เราดูเรื่องการประหยัดน้ำมันครับ ยางพวกนี้ออกแบบมาให้ลดแรงต้านตอนล้อหมุน ช่วยประหยัดน้ำมันได้เยอะเลยครับ เหมาะกับคนที่อยากประหยัดค่าน้ำมันและรักษ์โลกด้วยครับ แน่นอนว่าต้องไม่ทิ้งเรื่องความปลอดภัยด้วยนะครับ
- ยางที่ให้ความนุ่มและเงียบ: อันนี้สำคัญมากครับ โดยเฉพาะสำหรับคนที่ขับรถทางไกลบ่อยๆ เราเลือกยางที่ขับแล้วนุ่มสบาย เสียงเงียบ สั่นสะเทือนน้อย ขับในเมืองหรือบนทางหลวงก็สบายๆ ครับ
- ยางสปอร์ตสำหรับความสวยงามและประสิทธิภาพ: สำหรับสายแต่งรถครับ ยางพวกนี้ดีไซน์สวย ดุดัน แถมยังเกาะถนนดีเยี่ยม โดยเฉพาะตอนใช้ความเร็วสูงครับ ใครชอบแต่งรถต้องไม่พลาดเลยครับ
- ยาง HT สำหรับการวิ่งบนถนนหลวง: ถ้าใครขับทางไกลเป็นประจำ ผมแนะนำยาง HT ครับ ดอกยางจะถี่ๆ เรียบๆ ช่วยให้ขับเงียบ ประหยัดน้ำมัน เหมาะกับการใช้งานบนถนนหลวงมากๆ ครับ
- ยางสำหรับถนนขรุขระ: สำหรับพื้นที่ถนนไม่ดีครับ ยางพวกนี้จะมีดอกยางแบบก้อนๆ ทนทานสูง ยึดเกาะดีเยี่ยม เหมาะกับการใช้งานนอกเมืองหรือถนนที่ไม่ค่อยเรียบครับ
- ยาง AT, MT, RT: พวกนี้เป็นยางสำหรับสายลุยครับ ไม่ว่าจะเป็น AT (วิ่งได้ทุกสภาพ), MT (ลุยโคลน) หรือ RT (ออฟโรด) ก็ตาม ใช้ได้ทั้งบนถนนปกติและออฟโรดเลยครับ
- ยาง LT, C, Heavy Duty: ยางพวกนี้เหมาะกับรถบรรทุกหรือรถที่ต้องขนของหนักๆ ครับ รับน้ำหนักได้เยอะ ไม่ว่าจะบรรทุกหรือลากจูงก็สบายครับ
- ยางสปอร์ตที่มีดอกยางไม่สมมาตร: และสุดท้ายครับ เป็นยางสปอร์ตที่มีดอกยางพิเศษ ช่วยเพิ่มการยึดเกาะถนนได้ดีมาก ใช้ได้ทั้งถนนแห้งและเปียกเลยครับ
1. YOKOHAMA รุ่น Alliance AL30
YOKOHAMA รุ่น Alliance AL30 เป็นยางที่ออกแบบมาเพื่อความปลอดภัยและประหยัดพลังงาน เหมาะสำหรับการขับขี่ในเมือง พร้อมกับลายดอกยางที่ช่วยยืดอายุการใช้งานและลดเสียงรบกวนขณะขับขี่
หน้ากว้าง (มม.) | 175 |
ซีรีส์ยาง | 70 |
ขอบล้อ (นิ้ว) | 13 |
แก้มยาง (ซม.) | 12.25 |
ราคา (บาท) | 2,650 |
ข้อดี
- ประหยัดพลังงานและช่วยลดการใช้น้ำมัน
- ลดเสียงรบกวนขณะขับขี่ได้ดี
- ร่องยาง 4 ร่องช่วยรีดน้ำบนถนนเปียก
ข้อควรพิจารณา
- อาจไม่เหมาะกับการขับขี่ด้วยความเร็วสูง
- มีขนาดยางจำกัดเฉพาะรถเก๋ง
ยางรถยนต์ YOKOHAMA รุ่น Alliance AL30 เป็นยางที่ออกแบบมาเพื่อความปลอดภัยและประหยัดพลังงาน เหมาะสำหรับรถเก๋งที่ใช้งานในเมือง ด้วยลายดอกยางที่สึกหรอแบบสมมาตรช่วยให้มีอายุการใช้งานยาวนาน ทั้งยังลดเสียงรบกวนขณะขับขี่ และมาพร้อมร่องดอกยาง 4 ร่องที่สามารถรีดน้ำได้ดี ทำให้การขับขี่บนถนนเปียกเป็นไปอย่างปลอดภัย ยางรุ่นนี้ผลิตจากญี่ปุ่น มีขนาดให้เลือกตั้งแต่ขอบ 14 ถึงขอบ 18 โดยทุกเส้นที่สั่งซื้อจาก TIRE-OFF จะได้รับจุ๊บลมยางแท้แกนทองเหลืองฟรี ยางทุกเส้นมีการรับประกันจากโรงงาน YOKOHAMA เป็นระยะเวลา 6 ปี โดยหากมีปัญหาจากการผลิต ทางร้านจะดำเนินการส่งยางเคลมให้ลูกค้าทันที ยางรุ่นนี้ยังช่วยประหยัดน้ำมันด้วยค่าความต้านทานการหมุนต่ำ ทำให้เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ขับขี่ที่ต้องการความปลอดภัยและคุ้มค่าต่อการใช้งานในระยะยาว
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?
ยางรถยนต์ YOKOHAMA รุ่น Alliance AL30 เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ขับขี่ในเมือง ด้วยคุณสมบัติช่วยประหยัดพลังงานและลดเสียงรบกวน ยางรุ่นนี้มีร่องรีดน้ำ 4 ร่องที่ช่วยให้ขับขี่บนถนนเปียกได้อย่างปลอดภัย ทั้งยังมีอายุการใช้งานที่ยาวนานจากลายดอกยางที่สึกหรอแบบสมมาตร จึงเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าและปลอดภัย
2. Dunlop ยางรถยนต์ รุ่น SP SPORT LM705
Dunlop รุ่น SP SPORT LM705 เป็นยางที่มอบความนุ่มสบายและการควบคุมที่ดีเยี่ยม ด้วยร่องยางหยักลึกที่ช่วยเพิ่มการยึดเกาะถนนและลดเสียงรบกวน ทำให้เหมาะสำหรับการขับขี่ทั้งบนถนนแห้งและเปียก
หน้ากว้าง (มม.) | 175 |
ซีรีส์ยาง | 70 |
ขอบล้อ (นิ้ว) | 13 |
แก้มยาง (ซม.) | 12.25 |
ราคา (บาท) | 15,560 |
ข้อดี
- ยึดเกาะถนนดีทั้งบนถนนแห้งและเปียก
- ขับขี่นุ่มนวลและเงียบสงบ
- สามารถทำความเร็วได้โดยไม่เสียการควบคุม
ข้อควรพิจารณา
- อาจมีการสึกหรอเร็วเมื่อใช้งานหนัก
- ไม่เหมาะกับการขับขี่แบบออฟโรด
ยางรถยนต์ Dunlop รุ่น SP SPORT LM705 เป็นยางที่ได้รับการพัฒนาจากรุ่นก่อนหน้า เพื่อเสริมประสิทธิภาพในการขับขี่ ด้วยการออกแบบร่องยางที่มีความหยักลึก ช่วยให้อากาศไหลผ่านได้สะดวกและเพิ่มความสามารถในการยึดเกาะถนน ไม่ว่าจะเป็นการขับทางตรงหรือเข้าโค้ง ช่วยเสริมให้การขับขี่นุ่มนวลและราบรื่นมากยิ่งขึ้น ยางรุ่นนี้ยังมีการออกแบบขอบยางที่โค้งมน ทำให้การขับขี่เงียบสงบ นุ่มสบาย แต่อีกทั้งยังสามารถทำความเร็วได้ดี โดยไม่ลดทอนประสิทธิภาพในการควบคุมทิศทาง ทั้งนี้ ยาง Dunlop SP SPORT LM705 ยังเหมาะสมกับการขับขี่ทั้งในสภาพถนนเปียกและแห้ง อีกทั้งยังช่วยประหยัดน้ำมันได้ดี ยางทุกเส้นที่จำหน่ายมีอายุไม่เกิน 12 เดือน และหากต้องการซื้อมากกว่า 1 เส้น สามารถเพิ่มจำนวนได้อย่างสะดวกผ่านการสั่งซื้อออนไลน์
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?
Dunlop SP SPORT LM705 เป็นยางที่ออกแบบมาเพื่อความนุ่มเงียบและประหยัดน้ำมัน ด้วยร่องยางหยักลึกที่ช่วยในการยึดเกาะถนนและควบคุมรถได้ดีเยี่ยมไม่ว่าจะขับบนถนนแห้งหรือเปียก ยางรุ่นนี้ยังช่วยลดเสียงรบกวนและมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ราบรื่น เหมาะสำหรับการใช้งานในทุกสภาพถนน
3. Michelin รุ่น PRIMACY 4
Michelin รุ่น PRIMACY 4 ยางระดับพรีเมี่ยมที่มาพร้อมเทคโนโลยีลดเสียงและการรีดน้ำที่ดีเยี่ยม ช่วยให้ขับขี่ปลอดภัยและนุ่มสบายทุกสภาพถนน พร้อมทั้งยังช่วยประหยัดพลังงานด้วยค่าความต้านทานการหมุนต่ำ
หน้ากว้าง (มม.) | 215 |
ซีรีส์ยาง | 45 |
ขอบล้อ (นิ้ว) | 18 |
แก้มยาง (ซม.) | 9.68 |
ราคา (บาท) | 31,960 |
ข้อดี
- เบรกได้ระยะสั้น เพิ่มความปลอดภัย
- ลดเสียงรบกวนและสั่นสะเทือนได้ดี
- รีดน้ำได้มีประสิทธิภาพ เพิ่มความปลอดภัยบนถนนเปียก
ข้อควรพิจารณา
- มีขนาดยางจำกัดสำหรับรถบางประเภท
- ประสิทธิภาพอาจลดลงเมื่อใช้ในสภาพถนนที่ไม่ดี
ยางรถยนต์ Michelin รุ่น PRIMACY 4 เป็นยางระดับพรีเมี่ยมที่ออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่นุ่มสบายและเงียบสงบ ด้วยเทคโนโลยี Silent Rib รุ่นที่ 2 ที่ช่วยลดการสั่นสะเทือนและเสียงรบกวนไม่ให้เข้าสู่ห้องโดยสาร ทำให้การขับขี่เป็นไปอย่างราบรื่น นอกจากนี้ยังมีความสามารถในการรีดน้ำได้ดีกว่าเดิมถึง 22% ช่วยเพิ่มความปลอดภัยเมื่อต้องขับขี่บนถนนเปียก อีกทั้งยังสามารถเบรกในระยะสั้นเพียง 2.3 เมตร ทำให้มั่นใจในทุกสภาพการขับขี่ ยางรุ่นนี้ยังผ่านการทดสอบและรับรองจากสถาบัน TUV Rheinland Thailand ว่าเป็นยางที่มีประสิทธิภาพสูงและปลอดภัยตั้งแต่วันแรกที่ใช้จนถึงวันที่ต้องเปลี่ยนยางรอบถัดไป ด้วยการออกแบบที่เน้นการยึดเกาะถนนและสมรรถนะในการเบรก ยาง PRIMACY 4 จึงเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ขับขี่ที่ต้องการทั้งความปลอดภัยและความสบายในทุกการเดินทาง
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?
Michelin PRIMACY 4 เป็นยางพรีเมียมที่ออกแบบมาเพื่อลดการสั่นสะเทือนและเสียงรบกวน ด้วยเทคโนโลยี Silent Rib และการรีดน้ำที่ดีกว่าเดิม ยางรุ่นนี้ยังช่วยให้เบรกได้ระยะสั้นและปลอดภัยยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความนุ่มเงียบและความปลอดภัยในการขับขี่ทุกวัน
4. DAYTON รุ่น DT30
DAYTON รุ่น DT30 ยางที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานในทุกสภาพถนน ด้วยร่องยางใหญ่ที่ช่วยในการรีดน้ำและยึดเกาะถนนได้ดี เหมาะสำหรับผู้ขับขี่ที่ต้องการยางทนทานและนุ่มสบายในราคาที่คุ้มค่า
หน้ากว้าง (มม.) | 185 |
ซีรีส์ยาง | 60 |
ขอบล้อ (นิ้ว) | 15 |
แก้มยาง (ซม.) | 11.10 |
ราคา (บาท) | 16,315 |
ข้อดี
- รีดน้ำได้ดีด้วยร่องยางใหญ่ 4 ร่อง
- ยึดเกาะถนนได้แม่นยำทั้งถนนแห้งและเปียก
- ลดเสียงรบกวนขณะขับขี่ ทำให้การขับนุ่มสบาย
ข้อควรพิจารณา
- แรงต้านการหมุนอยู่ในระดับปานกลาง
- ประสิทธิภาพการประหยัดเชื้อเพลิงไม่สูงสุด
ยางรถยนต์ DAYTON รุ่น DT30 เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับรถยนต์ทั่วไปที่ต้องการยางที่สามารถใช้งานได้ครอบคลุมทุกสภาพถนน ด้วยการออกแบบร่องยางใหญ่ 4 ร่องที่ช่วยในการรีดน้ำได้ดี ช่วยให้การขับขี่บนถนนเปียกเป็นไปอย่างปลอดภัย อีกทั้งยังสามารถยึดเกาะถนนได้อย่างแม่นยำและตอบสนองการขับขี่ได้ดีไม่ว่าจะเป็นการขับในเมืองหรือเดินทางไกล ตัวยางมีแรงต้านการหมุนในระดับปานกลาง ทำให้มีประสิทธิภาพในการประหยัดเชื้อเพลิงในระดับที่น่าพอใจ รุ่นนี้ออกแบบและผลิตโดย BRIDGESTONE ซึ่งเป็นแบรนด์ที่มีคุณภาพและความน่าเชื่อถือสูง นอกจากนั้น ยาง DAYTON รุ่น DT30 ยังมอบประสบการณ์การขับขี่ที่นุ่มสบาย ลดเสียงรบกวน และมีความทนทานด้วยอายุการใช้งานที่ยาวนาน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการยางที่คุ้มค่า ปลอดภัย และใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?
DAYTON DT30 เป็นยางที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวัน ด้วยร่องยางใหญ่ 4 ร่องที่ช่วยในการรีดน้ำและยึดเกาะถนนได้ดีทั้งในเมืองและระหว่างการเดินทาง ตัวยางยังมีความทนทานและลดเสียงรบกวนขณะขับขี่ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการยางที่ประหยัดและปลอดภัย
5. Bridgestone รุ่น Dueler HT684
Bridgestone รุ่น Dueler HT684 ยางที่เหมาะสำหรับรถกระบะและ SUV ที่ต้องการความแข็งแกร่งและการยึดเกาะถนนที่ยอดเยี่ยม ทั้งบนถนนแห้งและเปียก มอบประสบการณ์การขับขี่ที่นุ่มนวลและทนทานแม้ในเส้นทางที่ท้าทาย
หน้ากว้าง (มม.) | 265 |
ซีรีส์ยาง | 65 |
ขอบล้อ (นิ้ว) | 17 |
แก้มยาง (ซม.) | 17.23 |
ราคา (บาท) | 4,945 |
ข้อดี
- ยึดเกาะถนนได้ดีเยี่ยมทั้งถนนแห้งและเปียก
- เหมาะสำหรับการขับขี่ด้วยความเร็วสูงและเส้นทางขรุขระ
- การขับขี่นุ่มนวลและเงียบสบายแม้บนถนนที่มีความท้าทาย
ข้อควรพิจารณา
- น้ำหนักยางมากขึ้นเล็กน้อย
- ประสิทธิภาพอาจลดลงในทางเรียบเมื่อเทียบกับยางเฉพาะทาง
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?
Bridgestone Dueler HT684 เป็นยางที่เหมาะสำหรับรถกระบะและ SUV ที่ขับเคลื่อนสี่ล้อ ยางรุ่นนี้มีความทนทานและยึดเกาะถนนได้ดีเยี่ยมทั้งบนถนนเปียกและแห้ง อีกทั้งยังรองรับการขับขี่ด้วยความเร็วสูงได้อย่างมั่นใจ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการยางที่แข็งแรงและพร้อมลุยทุกสภาพถนน6. GOODRIDE รุ่น RP88
GOODRIDE รุ่น RP88 เป็นยางประหยัดพลังงานที่ออกแบบมาเพื่อความนุ่มนวลและลดเสียงรบกวน ด้วยเทคโนโลยี SILICA TECH ช่วยลดแรงต้านทานการหมุน ทำให้ประหยัดเชื้อเพลิงและขับขี่ได้อย่างมั่นใจบนถนนแห้งและเปียก
หน้ากว้าง (มม.) | 185 |
ซีรีส์ยาง | 60 |
ขอบล้อ (นิ้ว) | 15 |
แก้มยาง (ซม.) | 11.10 |
ราคา (บาท) | 3,950 |
ข้อดี
- ประหยัดพลังงานด้วยเทคโนโลยี SILICA TECH
- ลดเสียงรบกวนและการสั่นสะเทือนขณะขับขี่
- ยึดเกาะถนนได้ดีบนถนนแห้งและเปียก
ข้อควรพิจารณา
- ประสิทธิภาพบนถนนเปียกอาจไม่เทียบเท่ากับยางรุ่นพรีเมียม
- อายุการใช้งานอาจสั้นกว่าในสภาพถนนที่สมบุกสมบัน
ยาง GOODRIDE รุ่น RP88 เป็นยางประเภท ECO ที่ออกแบบมาเพื่อผู้ที่ต้องการยางคุณภาพดีในราคาประหยัด โดยยางรุ่นนี้มาพร้อมกับเทคโนโลยี SILICA TECH ที่ช่วยลดแรงต้านทานการหมุน ทำให้ผู้ใช้งานสามารถประหยัดเชื้อเพลิงได้มากขึ้น นอกจากนี้ยังมีลายดอกยางที่ออกแบบมาเพื่อลดเสียงรบกวน และให้การควบคุมรถที่ดีเยี่ยมบนถนนแห้ง พร้อมทั้งสามารถรับมือกับสภาพถนนเปียกได้ด้วยประสิทธิภาพการรีดน้ำจากร่องยางทั้ง 4 ร่อง ซึ่งช่วยให้การขับขี่เป็นไปอย่างนุ่มนวลและมั่นใจ ยางรุ่นนี้ยังเหมาะสำหรับรถเก๋งที่มีขนาดล้อขอบ 15, 16 และ 17 นิ้ว ด้วยการออกแบบดอกยางที่กระจายตัวอย่างสมดุล ช่วยให้หน้าดอกยางสัมผัสกับพื้นถนนอย่างมั่นคง และลดเสียงรบกวนขณะขับขี่ ทำให้ผู้โดยสารรู้สึกสะดวกสบายและเพลิดเพลินตลอดการเดินทาง
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?
GOODRIDE รุ่น RP88 เป็นยางประเภท ECO ที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความประหยัดและสมรรถนะในการขับขี่ ด้วยเทคโนโลยี SILICA TECH ที่ช่วยลดแรงต้านทานการหมุน ทำให้ประหยัดเชื้อเพลิงได้มากขึ้น และยังมีลายดอกยางที่ออกแบบมาเพื่อลดเสียงรบกวน พร้อมร่องรีดน้ำ 4 ร่อง ช่วยให้การขับขี่บนถนนเปียกเป็นไปอย่างปลอดภัย
7. Dunlop รุ่น ENASAVE EC300+
Dunlop รุ่น ENASAVE EC300+ เป็นยาง ECO ที่เน้นการประหยัดน้ำมันด้วยเทคโนโลยี Multi-Functionalized Polymer ช่วยลดแรงต้านทานการหมุน ทำให้ประหยัดพลังงานได้มากขึ้น อีกทั้งยังให้ความนุ่มเงียบและยึดเกาะถนนได้ดีในทุกสภาพการขับขี่
หน้ากว้าง (มม.) | 175 |
ซีรีส์ยาง | 65 |
ขอบล้อ (นิ้ว) | 14 |
แก้มยาง (ซม.) | 11.38 |
ราคา (บาท) | 2,719 |
ข้อดี
- ประหยัดน้ำมันได้ดีเยี่ยมด้วยเทคโนโลยีลดแรงต้านทานการหมุน
- ขับขี่นุ่มเงียบและราบรื่น
- ยึดเกาะถนนได้ดีทั้งในสภาพถนนแห้งและเปียก
ข้อควรพิจารณา
- ประสิทธิภาพการควบคุมอาจไม่ดีเท่ายางสไตล์สปอร์ต
- การยึดเกาะถนนในสภาพทางโค้งอาจลดลงบ้างในบางสภาพแวดล้อม
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?
Dunlop รุ่น ENASAVE EC300+ เป็นยางที่ตอบโจทย์เรื่องการประหยัดน้ำมันด้วยเทคโนโลยี Multi-Functionalized Polymer ที่ช่วยลดการใช้พลังงานได้ถึง 20% ยางรุ่นนี้ยังเน้นความนุ่มเงียบในการขับขี่ และมาพร้อมกับลายดอกยางที่ช่วยยึดเกาะถนนได้ดีเยี่ยม ทั้งในสภาพถนนแห้งและเปียก ทำให้การขับขี่มั่นใจและปลอดภัย8. KUMHO รุ่น ECSTA PS31
KUMHO รุ่น ECSTA PS31 ยางสไตล์สปอร์ตที่ออกแบบมาเพื่อการยึดเกาะถนนและการระบายความร้อนที่ดีเยี่ยม หน้ายางลายทิศทางเดียวพร้อมร่องรีดน้ำ ช่วยให้ขับขี่ปลอดภัยทั้งบนถนนแห้งและเปียก เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความมั่นใจในการขับขี่ด้วยความเร็วสูง
หน้ากว้าง (มม.) | 195 |
ซีรีส์ยาง | 55 |
ขอบล้อ (นิ้ว) | 15 |
แก้มยาง (ซม.) | 10.72 |
ราคา (บาท) | 19,650 |
ข้อดี
- ยึดเกาะถนนดีเยี่ยมและการเข้าโค้งแม่นยำ
- ระบายความร้อนได้ดีด้วยเทคโนโลยีปุ่มกระจายความร้อน
- ร่องรีดน้ำช่วยเพิ่มความปลอดภัยบนถนนเปียก
ข้อควรพิจารณา
- การสึกหรออาจเกิดขึ้นเร็วกว่าในสภาพถนนที่ขรุขระ
- การขับขี่ในทางเรียบอาจไม่ให้ความนุ่มสบายมากนัก
ยางรถยนต์ KUMHO รุ่น ECSTA PS31 เป็นยางสไตล์สปอร์ตที่ออกแบบมาเพื่อการขับขี่ที่มั่นใจทั้งในเรื่องการยึดเกาะถนนและการระบายความร้อน หน้ายางถูกออกแบบให้มีลายดอกยางทิศทางเดียวพร้อมร่องรีดน้ำหลัก 4 ร่อง ทำมุม 10 องศากับร่องระบายน้ำด้านข้าง ช่วยระบายน้ำออกจากหน้ายางได้อย่างรวดเร็ว ทำให้สามารถขับขี่บนถนนเปียกได้อย่างปลอดภัย นอกจากนี้ยังมาพร้อมเทคโนโลยีปุ่มกระจายความร้อนแบบ 3 มิติ ที่ช่วยลดความร้อนสะสมบริเวณหน้ายาง ทำให้เพิ่มประสิทธิภาพการยึดเกาะถนนและการเบรกได้ดีทั้งบนถนนแห้งและเปียก ยางรุ่นนี้ยังมีความสามารถในการเข้าโค้งอย่างแม่นยำในทุกช่วงความเร็ว เหมาะสำหรับผู้ขับขี่ที่ชื่นชอบความเร็วและต้องการความมั่นใจในทุกสภาพการขับขี่
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?
KUMHO รุ่น ECSTA PS31 เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการขับขี่แบบสปอร์ต ด้วยการออกแบบลายดอกยางทิศทางเดียวและร่องรีดน้ำหลักที่ช่วยระบายน้ำได้ดี ทำให้การขับขี่บนถนนเปียกปลอดภัย นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีปุ่มกระจายความร้อน 3 มิติ ช่วยลดความร้อนและเพิ่มประสิทธิภาพการยึดเกาะถนนได้ดีทั้งบนถนนแห้งและเปียก
9. Yokohama รุ่น ADVAN dB V552
Yokohama รุ่น ADVAN dB V552 ยางที่ให้ความนุ่มเงียบสูงสุด ด้วยเทคโนโลยีลดเสียงรบกวนและการสั่นสะเทือน พร้อมการรีดน้ำที่ดีและแรงต้านทานการหมุนที่ลดลง ทำให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้น เหมาะสำหรับการขับขี่ที่เงียบสงบและปลอดภัย
หน้ากว้าง (มม.) | 195 |
ซีรีส์ยาง | 60 |
ขอบล้อ (นิ้ว) | 15 |
แก้มยาง (ซม.) | 11.70 |
ราคา (บาท) | 4,387 |
ข้อดี
- ลดเสียงรบกวนได้ถึง 30% และมอบการขับขี่ที่นุ่มเงียบ
- ยึดเกาะถนนได้ดีเยี่ยมและเพิ่มประสิทธิภาพการเบรก
- ลดการสึกหรอและช่วยประหยัดน้ำมัน
ข้อควรพิจารณา
- อาจไม่เหมาะสำหรับการขับขี่ที่ต้องการความเร็วสูงสุด
- ประสิทธิภาพอาจลดลงเมื่อใช้งานในสภาพถนนที่มีความขรุขระมาก
ยางรถยนต์ Yokohama รุ่น ADVAN dB V552 เป็นยางที่ออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่นุ่มนวลและเงียบสงบ ด้วยเทคโนโลยีที่ลดเสียงรบกวนจากยางได้ถึง 30% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า พร้อมทั้งยังช่วยลดการสั่นสะเทือนและเพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่ ยางรุ่นนี้มีคุณสมบัติที่โดดเด่นด้วยดอกยางทั้ง 144 ร่องที่ออกแบบมาให้ไม่มีเหลี่ยม ช่วยดูดซับเสียงรบกวนได้ดี ลดการสึกหรอที่ไม่สม่ำเสมอ ทำให้ยางมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น อีกทั้งยังมีประสิทธิภาพในการเบรกดีขึ้น 6% และแรงต้านทานการหมุนลดลง 5% ส่งผลให้ช่วยประหยัดน้ำมันได้มากขึ้น ยาง Yokohama ADVAN dB V552 เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความนุ่มเงียบและความปลอดภัยในการขับขี่ พร้อมประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนนที่ดีเยี่ยม
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?
Yokohama รุ่น ADVAN dB V552 เป็นยางที่มอบประสบการณ์การขับขี่ที่เงียบสงบ ด้วยเทคโนโลยีที่ลดเสียงรบกวนได้ถึง 30% และดอกยาง 144 ร่องที่ช่วยดูดซับเสียงและลดการสึกหรอ ยางรุ่นนี้ยังช่วยเบรกได้ดีกว่าเดิม 6% และลดแรงต้านทานการหมุน ส่งผลให้ช่วยประหยัดน้ำมันและทำให้ยางมีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น
10. NEXEN รุ่น N'FERA SU4
NEXEN รุ่น N'FERA SU4 เป็นยางสมรรถนะสูงที่ตอบโจทย์การขับขี่สไตล์สปอร์ต ด้วยดอกยางไม่สมมาตรและร่องยางลึก ช่วยเพิ่มการยึดเกาะและการรีดน้ำ ทำให้ขับขี่มั่นใจแม้ในความเร็วสูงและสภาพถนนเปียก
หน้ากว้าง (มม.) | 195 |
ซีรีส์ยาง | 65 |
ขอบล้อ (นิ้ว) | 15 |
แก้มยาง (ซม.) | 12.68 |
ราคา (บาท) | 3,100 |
ข้อดี
- ยึดเกาะถนนและเข้าโค้งได้แม่นยำ แม้ขับขี่ด้วยความเร็วสูง
- ร่องยางลึกช่วยรีดน้ำได้ดี ทำให้การขับขี่บนถนนเปียกปลอดภัย
- ลดเสียงรบกวนและซึมซับแรงกระแทก ทำให้การขับขี่นุ่มนวล
ข้อควรพิจารณา
- การสึกหรออาจเกิดเร็วขึ้นในการใช้งานที่หนักหรือทางขรุขระ
- ประสิทธิภาพอาจลดลงเล็กน้อยเมื่อใช้ในสภาพถนนที่แห้งมาก
ยางรถยนต์ NEXEN รุ่น N’FERA SU4 เป็นยางสมรรถนะสูงที่ออกแบบมาเพื่อผู้ที่ชื่นชอบการขับขี่สไตล์สปอร์ต ด้วยหน้ายางกว้างและดอกยางแบบไม่สมมาตรที่แข็งเล็กน้อย ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนนและเข้าโค้งได้อย่างแม่นยำ แม้ขับขี่ด้วยความเร็วสูง ยางรุ่นนี้ยังมาพร้อมร่องยางลึกที่ช่วยรีดน้ำได้ดี ทำให้การขับขี่บนถนนเปียกเป็นไปอย่างปลอดภัยและมั่นใจ นอกจากนี้ ยาง N’FERA SU4 ยังช่วยซึมซับแรงกระแทกและลดเสียงรบกวน ทำให้การขับขี่นุ่มนวลและเงียบสงบ เทคโนโลยีการออกแบบโปรไฟล์ยางและการรีดน้ำช่วยให้การควบคุมรถดีขึ้น พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพในการเบรกและลดโอกาสการเหินน้ำ ยางรุ่นนี้ยังช่วยประหยัดน้ำมันและลดการปล่อย CO2 เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการทั้งสมรรถนะและความประหยัดในทุกสภาพถนน
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?
NEXEN รุ่น N’FERA SU4 เป็นยางสมรรถนะสูงที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การขับขี่สไตล์สปอร์ต ด้วยดอกยางไม่สมมาตรและร่องยางลึกที่ช่วยรีดน้ำและเพิ่มการยึดเกาะถนน ทำให้เข้าโค้งได้อย่างแม่นยำ ยางรุ่นนี้ยังช่วยลดแรงกระแทกและเสียงรบกวน ทำให้การขับขี่นุ่มนวล ปลอดภัย และประหยัดพลังงาน
การเลือกยางรถยนต์ที่เหมาะสมสำหรับสภาพถนนและการขับขี่
การเลือกยางรถยนต์ที่เหมาะสมส่งผลโดยตรงต่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการขับขี่ครับ ถ้าเราเลือกยางให้เข้ากับสภาพถนนและสไตล์การขับของเรา นอกจากจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุแล้ว ยังทำให้ยางใช้งานได้นานขึ้นด้วย
ยางสำหรับถนนเปียก
ถนนเปียกเป็นสภาพที่ต้องระวังเป็นพิเศษเลยนะครับ เพราะยางอาจจะเกาะถนนได้ไม่ดีเท่าปกติครับ ผมเลยอยากแนะนำว่าควรเลือกยางที่มีดอกยางแบบรีดน้ำได้ดีๆ ครับ ยางพวกนี้จะมีร่องลึกๆ ที่ออกแบบมาพิเศษเลย ช่วยระบายน้ำออกได้เร็ว ทำให้ยางเกาะถนนได้ดีขึ้นครับ ที่สำคัญคือช่วยป้องกันอาการเหินน้ำ หรือที่เรียกว่า Hydroplaning ได้ด้วยครับ ซึ่งอาการนี้เป็นสาเหตุที่ทำให้รถลื่นไถลได้ง่ายๆ เลย และที่ผมชอบมากๆ คือยางพวกนี้ช่วยให้เราเบรกและควบคุมรถได้มั่นใจขึ้นเยอะเลยครับ ถึงถนนจะลื่นก็ไม่น่ากลัวครับ
ยางสำหรับถนนขรุขระหรือทางออฟโรด
สำหรับคนที่ต้องขับรถบนถนนขรุขระหรือออฟโรดบ่อยๆ ผมขอแนะนำให้เลือกยางที่แข็งแรงทนทานและมีดอกยางหนาๆ นะครับ ยางออฟโรดจะมีดอกยางที่ออกแบบมาพิเศษเลยครับ ช่วยให้เกาะถนนได้ดีไม่ว่าจะเป็นพื้นดิน ทราย หรือหินก็ตาม ที่สำคัญคือดอกยางที่หนาและแข็งแรงจะช่วยป้องกันการโดนของแหลมทิ่มแทงได้ดีครับ ซึ่งเจอได้บ่อยมากบนถนนแบบนี้ และที่ขาดไม่ได้เลยคือโครงสร้างยางต้องทนทานต่อแรงกระแทกด้วยนะครับ เพราะต้องรับมือกับหลุมบ่อหรือเนินขรุขระตลอดเวลาครับ
ยางสำหรับถนนทางเรียบ
สำหรับการขับขี่บนถนนทางเรียบหรือทางหลวงที่มีความเร็วสูงนะครับ เราต้องใช้ยางที่เกาะถนนดีๆ และนุ่มนวลครับ ยางพวกนี้จะมีดอกยางที่เรียบๆ ออกแบบมาให้ขับขี่นุ่มเงียบเลยครับ ที่สำคัญคือดอกยางแบบละเอียดๆ นี่จะช่วยลดแรงต้านตอนล้อหมุนครับ ทำให้ประหยัดน้ำมันและสบายๆ ตอนขับทางไกลเลย และที่ผมชอบมากๆ คือยางพวกนี้ช่วยลดเสียงรบกวนได้ดีมากครับ ทำให้ขับแล้วเงียบสงบ สบายใจสุดๆ เลยครับ
ปัจจัยที่ควรพิจารณาในการเลือกยาง
- ประเภทของรถ: ผมขอแนะนำให้ดูประเภทรถของเราก่อนเลยนะครับ เพราะไม่ว่าจะเป็นรถเก๋ง กระบะ หรือ SUV ก็มียางที่ออกแบบมาเฉพาะเลยครับ เลือกให้เหมาะกับรถเราจะช่วยให้ขับขี่ได้ดีขึ้นครับ
- ขนาดของยาง: เรื่องขนาดสำคัญมากๆ เลยนะครับ ต้องเลือกให้ตรงกับที่บริษัทผู้ผลิตรถแนะนำมาครับ ถ้าเลือกผิดขนาดอาจจะทำให้ควบคุมรถลำบากและไม่ปลอดภัยด้วยครับ
- สไตล์การขับขี่: ถ้าชอบขับเร็วๆ หรือชอบลุยๆ หน่อย ผมแนะนำให้เลือกยางที่เกาะถนนดีๆ และเบรกได้กระทันหันครับ จะได้ปลอดภัยเวลาใช้งานจริงครับ
- สภาพอากาศ: ยางแต่ละรุ่นเขาออกแบบมาให้เหมาะกับสภาพอากาศต่างๆ กันนะครับ มีทั้งยางหน้าร้อน หน้าฝน ถ้าบ้านเราอากาศเปลี่ยนบ่อย ก็ควรมียางให้เหมาะกับแต่ละฤดูครับ
การดูแลรักษายางเพื่อยืดอายุการใช้งาน
การดูแลรักษายางก็สำคัญไม่แพ้การเลือกยางเลยนะครับ ถ้าเราดูแลยางให้ดี นอกจากจะช่วยยืดอายุการใช้งานแล้ว ยังทำให้ขับขี่ปลอดภัยขึ้นด้วยครับ ผมแนะนำให้หมั่นเช็คลมยางสม่ำเสมอ และคอยสังเกตดูว่าดอกยางสึกหรือเปล่าครับ
ส่วนตอนที่เราไม่ได้ใช้รถนานๆ ผมแนะนำให้คลุมรถไว้ด้วยผ้าคลุมรถนะครับ จะได้ช่วยป้องกันยางจากแสงแดดและความร้อนที่อาจทำให้ยางเสื่อมเร็วครับ ถ้าเพื่อนๆ กำลังมองหา10 ผ้าคลุมรถยนต์ที่ดีที่สุด ผมขอแนะนำให้เลือกแบบที่ทำจากวัสดุทนทานและกันน้ำได้ดีๆ นะครับ จะได้ป้องกันทั้งฝุ่นและแดดได้ครับ แต่อย่าลืมดูขนาดให้พอดีกับรถด้วยนะครับ และต้องเลือกแบบที่ระบายอากาศได้ดี ไม่งั้นความชื้นอาจสะสมจนทำให้รถเสียหายในระยะยาวได้ครับ
การตรวจสอบดอกยางและความลึกของร่องยาง
ดอกยางเป็นส่วนที่สัมผัสกับถนนโดยตรง มีผลต่อการเกาะถนนของรถเราครับ ถ้าดอกยางสึกหรอหรือร่องยางตื้นเกินไป รถจะเกาะถนนได้ไม่ดี ทำให้ควบคุมรถยากขึ้น โดยเฉพาะตอนฝนตกหรือถนนเปียกครับ ผมเลยแนะนำให้ตรวจเช็คดอกยางบ่อยๆ เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่นะครับ
สำหรับมาตรฐานความลึกของร่องยางนี่ ไม่ควรต่ำกว่า 1.6 มิลลิเมตรเลยครับ ถ้าต่ำกว่านี้ ประสิทธิภาพในการรีดน้ำและเกาะถนนจะแย่ลงมากๆ เสี่ยงต่อการเหินน้ำ (Hydroplaning) ได้ง่ายครับ โดยเฉพาะตอนฝนตกหนักหรือถนนลื่นๆ
วิธีเช็คง่ายๆ ผมแนะนำให้ใช้เครื่องวัดความลึกร่องยาง หรือจะใช้เหรียญบาทก็ได้ครับ แค่เสียบเหรียญลงไปในร่องยาง ถ้าเห็นตัวอักษรบนเหรียญชัดๆ แสดงว่าดอกยางสึกมากแล้ว ควรเปลี่ยนได้แล้วครับ อ้อ! อย่าลืมดูการสึกของดอกยางด้วยนะครับว่าสึกเท่ากันทั้งเส้นไหม ถ้าสึกไม่เท่ากัน อาจมีปัญหาที่ช่วงล่างหรือล้อไม่บาลานซ์ครับ
ความสำคัญของการเปลี่ยนยางตามระยะเวลาใช้งาน
ยางรถยนต์เป็นส่วนที่สัมผัสถนนโดยตรงและรับน้ำหนักรถทั้งคันเลยครับ ถึงยางจะดูยังดีอยู่ แต่ถ้าใช้นานเกินไปก็อาจจะเสื่อมสภาพได้ครับ ทำให้ยึดเกาะถนนได้ไม่ดีเท่าที่ควร เราเลยต้องเปลี่ยนยางตามกำหนดเวลาหรือเมื่อสึกหรอมากๆ เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ครับ ผมมีเหตุผลดีๆ มาแชร์ให้ฟังครับว่าทำไมการเปลี่ยนยางตามกำหนดถึงสำคัญมากๆ
- อายุการใช้งานของยางและการเสื่อมสภาพตามธรรมชาติ: แม้ยางจะดูดีไม่มีรอยสึก แต่ผมขอบอกเลยว่ายางทุกเส้นมีอายุการใช้งานประมาณ 5-6 ปีนะครับ หลังจากนั้นยางจะเริ่มเสื่อมเองตามธรรมชาติครับ เพราะสารเคมีในเนื้อยางจะสลายตัว ทำให้ความยืดหยุ่นลดลง เกาะถนนไม่ดีเหมือนเดิม เราเลยต้องเปลี่ยนยางเมื่อครบอายุการใช้งานครับ
- ดอกยางสึกและการระบายน้ำ: เรื่องนี้สำคัญมากๆ เลยนะครับ ถ้าดอกยางสึกมาก จะทำให้รถเกาะถนนไม่ดี โดยเฉพาะตอนฝนตกถนนเปียกๆ อาจทำให้รถเหินน้ำหรือควบคุมยากได้ครับ ผมเลยแนะนำให้หมั่นเช็คความลึกดอกยาง ถ้าสึกมากก็ควรเปลี่ยนเลยนะครับ
- รอยแตกหรือรอยบวมบนยาง: นอกจากดอกยางสึกแล้ว ถ้าเห็นยางมีรอยแตกหรือบวมนี่อันตรายมากๆ เลยนะครับ เพราะอาจทำให้ยางระเบิดระหว่างขับได้ ผมแนะนำให้ตรวจสอบยางบ่อยๆ ถ้าเจอปัญหาพวกนี้ต้องรีบเปลี่ยนทันทีเลยครับ
- ขับขี่นุ่มนวลและประหยัดน้ำมัน: ยางที่อยู่ในสภาพดีจะทำให้ขับขี่สบายๆ นุ่มนวล และช่วยประหยัดน้ำมันด้วยนะครับ แต่ถ้ายางเสื่อมสภาพจะทำให้รถวิ่งกระด้าง กินน้ำมันมากขึ้น เพราะฉะนั้นการเปลี่ยนยางตามกำหนดไม่ได้ช่วยแค่เรื่องความปลอดภัย แต่ยังช่วยประหยัดค่าน้ำมันในระยะยาวด้วยครับ
ผมหวังว่า 10 อันดับยางยอดฮิตที่ได้รับความนิยมสูงที่เราเลือกมา จะช่วยให้เพื่อน ๆ ได้นำไปประกอบการตัดสินใจกันได้ดียิ่งขึ้น โดยผมได้รวบรวมข้อมูลสเปคแบบละเอียดยิบทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นขนาดหน้ากว้าง ความสูงแก้มยาง ขนาดขอบล้อ รุ่นต่างๆ ที่มีในท้องตลาด รวมถึงคุณสมบัติพิเศษที่โดดเด่นของยางแต่ละรุ่นมาให้เปรียบเทียบกันอย่างครบถ้วนครับ นอกจากนี้ ผมยังได้รวบรวมเคล็ดลับดีๆ ที่จำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับการดูแลรักษายาง วิธีการตรวจเช็คสภาพยางอย่างละเอียด และจังหวะเวลาที่เหมาะสมที่ควรเปลี่ยนยางใหม่มาฝากด้วยนะครับ เพื่อให้เพื่อนๆ สามารถใช้งานยางได้อย่างปลอดภัยสูงสุดและคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปมากที่สุดครับ
คำถามที่พบบ่อย
1. ยางรถยนต์ใช้งานได้นานแค่ไหน?
ปกติแล้วยางรถยนต์จะใช้งานได้ประมาณ 5-6 ปีเลยนะครับ แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าเราใช้งานหนักแค่ไหน ดูแลดีแค่ไหนด้วยครับ ผมแนะนำให้หมั่นตรวจเช็คสภาพยางอย่างสม่ำเสมอนะครับ
2. แล้วควรเปลี่ยนยางตอนไหนดี?
ถ้าเห็นว่าดอกยางเริ่มสึกมากแล้ว หรือใช้มาครบ 5-6 ปีแล้ว หรือสังเกตเห็นรอยแตกรอยบวมตามเนื้อยาง ก็ถึงเวลาต้องเปลี่ยนแล้วล่ะครับ
3. ยางรถยนต์มีกี่แบบ?
มีหลายแบบเลยครับ ทั้งยางสำหรับขับในหน้าฝน ยางออฟโรดสำหรับลุยๆ และยางสำหรับถนนทั่วไป เราต้องเลือกให้เหมาะกับการใช้งานของเราเองครับ ว่าชอบขับแบบไหน ใช้งานบนถนนแบบไหนบ่อยที่สุด
4. ยางดอกลึกดีกว่ายางดอกตื้นยังไง?
ยางดอกลึกจะช่วยให้รถเกาะถนนดีขึ้น โดยเฉพาะตอนฝนตกถนนเปียกๆ ครับ แต่ถ้าเป็นยางดอกตื้นจะให้ความรู้สึกนุ่มนวลเงียบกว่าตอนขับครับ