10 น้ำมันเครื่องมอเตอร์ไซค์ ยี่ห้อไหนดี ดูแลรถคู่ใจอย่างมืออาชีพ 2024

น้ำมันเครื่องมอเตอร์ไซค์

น้ำมันเครื่องเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้มอเตอร์ไซค์ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์ ในปี 2024 มีแบรนด์น้ำมันเครื่องหลายยี่ห้อที่น่าสนใจและเหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน บทความนี้จะมาแนะนำ 10 น้ำมันเครื่องมอเตอร์ไซค์ ยี่ห้อไหนดี 2024 ปกป้องเครื่องยนต์ ยืดอายุการใช้งาน พร้อมข้อมูลสำคัญ เช่น ประเภทของน้ำมันเครื่อง ปริมาณบรรจุ ค่าความหนืด และความเหมาะสมกับเครื่องยนต์หรือเกียร์ของมอเตอร์ไซค์ แต่ละแบรนด์มีจุดเด่นต่างกันไป บางยี่ห้อเหมาะกับเครื่องยนต์ทั่วไป ขณะที่บางยี่ห้อออกแบบมาสำหรับเครื่องยนต์ที่ทำงานหนักหรือใช้ความเร็วสูง นอกจากนี้ บทความยังพูดถึงความสำคัญของน้ำมันเครื่องต่อสมรรถนะของมอเตอร์ไซค์ ค่าความหนืดคืออะไร และควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่องบ่อยแค่ไหน เพื่อให้มอเตอร์ไซค์ทำงานได้อย่างสมบูรณ์ที่สุด การเลือกน้ำมันเครื่องที่เหมาะสมจะช่วยลดการสึกหรอของเครื่องยนต์ ประหยัดน้ำมัน และเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ สรุปแล้ว บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจและเลือกน้ำมันเครื่องที่ตรงกับความต้องการของมอเตอร์ไซค์และไลฟ์สไตล์การใช้งานของคุณได้ดีขึ้น

หลักเกณฑ์ที่ใช้ในการจัดอันดับสินค้า

  • คุณภาพและมาตรฐานของน้ำมันเครื่อง: น้ำมันเครื่องที่ดีต้องผ่านการรับรองมาตรฐานสากล เช่น API (American Petroleum Institute) หรือ JASO (Japanese Automotive Standards Organization) ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ใช้ในการวัดคุณสมบัติของน้ำมันเครื่องสำหรับมอเตอร์ไซค์
  • ค่าความหนืด (Viscosity Grade): ค่าความหนืดมีผลต่อการทำงานของเครื่องยนต์ เราพิจารณาว่าน้ำมันเครื่องมีค่าความหนืดที่เหมาะสมกับการใช้งานในสภาพอากาศประเทศไทย เช่น 10W-40, 15W-50 หรือ 5W-30 เพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
  • ประเภทของน้ำมันเครื่อง: น้ำมันเครื่องแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ได้แก่ น้ำมันแร่ (Mineral Oil) ซึ่งมีราคาถูกและเหมาะสำหรับมอเตอร์ไซค์ทั่วไปที่ไม่ได้ใช้งานหนัก, น้ำมันกึ่งสังเคราะห์ (Semi-Synthetic Oil) ที่ให้ประสิทธิภาพดีกว่า มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น และเหมาะกับการใช้งานที่ต้องการความทนทานมากขึ้น และ น้ำมันสังเคราะห์ 100% (Fully Synthetic Oil) ซึ่งเป็นตัวเลือกคุณภาพสูงสุด สามารถทนความร้อนสูง ลดการสึกหรอ และเหมาะกับมอเตอร์ไซค์สมรรถนะสูงที่ต้องการการปกป้องเครื่องยนต์อย่างเต็มที่
  • ประสิทธิภาพในการหล่อลื่นและลดการสึกหรอ: น้ำมันเครื่องที่ดีต้องช่วยลดแรงเสียดทาน ป้องกันการสึกหรอของเครื่องยนต์ และทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้ราบรื่น เราพิจารณาจากการทดสอบและรีวิวของผู้ใช้จริง
  • ประสิทธิภาพในการระบายความร้อน: เครื่องยนต์มอเตอร์ไซค์ทำงานที่อุณหภูมิสูง น้ำมันเครื่องต้องสามารถช่วยระบายความร้อนและป้องกันเครื่องยนต์โอเวอร์ฮีทได้ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ขับขี่ในเมืองหรือระยะไกล
  • ความสะอาดและการป้องกันคราบสกปรก: น้ำมันเครื่องที่ดีต้องสามารถลดการสะสมของเขม่าและสิ่งสกปรกภายในเครื่องยนต์ ซึ่งช่วยให้เครื่องยนต์สะอาดและทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
  • การตอบรับจากผู้ใช้งาน: เราอ้างอิงข้อมูลจากรีวิวของผู้ใช้จริงและการทดสอบจากแหล่งที่เชื่อถือได้ เพื่อให้แน่ใจว่าน้ำมันเครื่องแต่ละแบรนด์ให้ผลลัพธ์ที่ดีและมีความคุ้มค่า
  • ความคุ้มค่ากับราคา: นอกจากคุณภาพแล้ว ราคาก็เป็นปัจจัยสำคัญ เราพิจารณาน้ำมันเครื่องที่ให้ประสิทธิภาพสูงในราคาที่เหมาะสมและเป็นมิตรกับผู้ใช้ทั่วไป
  • ความเหมาะสมกับเครื่องยนต์และรูปแบบการขับขี่: เราพิจารณาว่าน้ำมันเครื่องเหมาะกับประเภทของมอเตอร์ไซค์ เช่น มอเตอร์ไซค์ทั่วไป, บิ๊กไบค์ หรือรถแข่ง และรูปแบบการใช้งาน เช่น การขับขี่ในเมือง, ทางไกล หรือการใช้งานหนัก
  • ความน่าเชื่อถือของแบรนด์: แบรนด์น้ำมันเครื่องที่ได้รับความนิยมและมีชื่อเสียงมายาวนานมักจะมีเทคโนโลยีและการพัฒนาที่ต่อเนื่อง เราคัดเลือกแบรนด์ที่มีความน่าเชื่อถือ มีการพัฒนาอย่างสม่ำเสมอ และมีบริการหลังการขายที่ดี

10 น้ำมันเครื่องมอเตอร์ไซค์

1. PTT Challenger Scooter

PTT Challenger Scooter

PTT Challenger Scooter เป็นน้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ที่ออกแบบสำหรับรถจักรยานยนต์เกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ มีสารโมลิบดีนัมช่วยลดแรงเสียดทาน รองรับการขับขี่รอบสูง และได้รับมาตรฐาน JASO MB และ API SL

ประเภท น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์
ปริมาณบรรจุ 0.80 ลิตร
ค่าความหนืด SAE 10W-30
เหมาะสำหรับเครื่องยนต์ ดีเซล / เบนซิน
เหมาะสำหรับเกียร์ 4 จังหวะ

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

PTT Challenger Scooter เป็นน้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ที่มีค่าความหนืด SAE 10W-30 ออกแบบมาสำหรับรถจักรยานยนต์เกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ รวมถึงรถสกู๊ตเตอร์ที่ใช้ระบบคลัตช์แห้ง รองรับทั้งระบบจ่ายน้ำมันแบบหัวฉีดและคาร์บูเรเตอร์ สูตรนี้มีสารโมลิบดีนัมที่ช่วยลดแรงเสียดทานและปกป้องเครื่องยนต์จากการสึกหรอ รองรับการขับขี่ในรอบเครื่องยนต์สูงและช่วยรักษาความหนืดได้ดี มีคุณสมบัติช่วยลดการสึกหรอของชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์ และช่วยระบายความร้อนระหว่างการใช้งานต่อเนื่อง น้ำมันเครื่องนี้ได้รับมาตรฐาน JASO MB และ API SL เหมาะสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเผาไหม้เพื่อลดการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง ปริมาณบรรจุ 0.80 ลิตร และมีราคาจำหน่าย 118 บาท

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

PTT Challenger Scooter เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับรถจักรยานยนต์เกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ เพราะช่วยลดแรงเสียดทาน ปกป้องเครื่องยนต์จากการสึกหรอ รองรับการขับขี่รอบสูง และช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง อีกทั้งยังได้รับมาตรฐาน JASO MB และ API SL ทำให้มั่นใจในคุณภาพและประสิทธิภาพในการใช้งานประจำวัน

2. HONDA PROTECH GOLD

HONDA PROTECH GOLD

HONDA PROTECH GOLD เป็นน้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์นำเข้าจากเยอรมนีที่ออกแบบสำหรับรถจักรยานยนต์ 4 จังหวะ ช่วยเพิ่มการหล่อลื่น ลดการสึกหรอ และรักษาความสะอาดเครื่องยนต์ โดยได้รับมาตรฐาน JASO MB และรับประกันของแท้จาก HONDA THAILAND

ประเภท น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์
ปริมาณบรรจุ 0.80 ลิตร
ค่าความหนืด 10W-30
เหมาะสำหรับเครื่องยนต์ เบนซิน
เหมาะสำหรับเกียร์ 4 จังหวะ

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

HONDA PROTECH GOLD เป็นน้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ที่ออกแบบมาสำหรับรถจักรยานยนต์ 4 จังหวะที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน มีค่าความหนืด 10W-30 และได้รับมาตรฐาน JASO MB สูตรนี้พัฒนาด้วยเทคโนโลยีของ HONDA และนำเข้าจากเยอรมนี มีคุณสมบัติช่วยเพิ่มการหล่อลื่น ลดการสึกหรอ และรักษาแรงดันภายในเครื่องยนต์ นอกจากนี้ยังช่วยลดคราบสกปรกภายในเครื่องยนต์และช่วยให้ระบบหล่อลื่นทำงานได้อย่างต่อเนื่อง เหมาะสำหรับรถมอเตอร์ไซค์ออโตเมติก รถสายพาน และสกู๊ตเตอร์ น้ำมันเครื่องรุ่นนี้รับประกันของแท้ 100% จากโรงงาน HONDA THAILAND และมาในบรรจุภัณฑ์ใหม่ ปริมาณบรรจุ 0.80 ลิตร ราคาจำหน่าย 120 บาท

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

HONDA PROTECH GOLD เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับรถจักรยานยนต์ 4 จังหวะ เพราะช่วยเพิ่มการหล่อลื่น ลดการสึกหรอ และรักษาความสะอาดภายในเครื่องยนต์ พร้อมรับรองคุณภาพมาตรฐาน JASO MB และนำเข้าจากเยอรมนี ทำให้มั่นใจในประสิทธิภาพและความทนทานในการใช้งาน

3. YAMALUBE BLUE CORE 10W-40

YAMALUBE BLUE CORE 10W-40

YAMALUBE BLUE CORE 10W-40 เป็นน้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ที่ออกแบบสำหรับรถจักรยานยนต์เกียร์อัตโนมัติที่ใช้เทคโนโลยี BLUE CORE ช่วยเพิ่มการหล่อลื่น ลดแรงเสียดทาน ประหยัดน้ำมัน และรักษาความสะอาดเครื่องยนต์ ได้รับมาตรฐาน JASO MB

ประเภท น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์
ปริมาณบรรจุ 0.80 ลิตร
ค่าความหนืด SAE 10W-40
เหมาะสำหรับเครื่องยนต์ เบนซิน
เหมาะสำหรับเกียร์ 4 จังหวะ

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

YAMALUBE BLUE CORE 10W-40 เป็นน้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ที่ออกแบบมาสำหรับรถจักรยานยนต์เกียร์อัตโนมัติที่ใช้เครื่องยนต์หัวฉีดเทคโนโลยี BLUE CORE โดยเฉพาะ มีค่าความหนืด SAE 10W-40 และได้รับมาตรฐาน JASO MB สูตรนี้มีสารเพิ่มคุณภาพชนิดพิเศษที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการหล่อลื่น ลดแรงเสียดทาน และช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง นอกจากนี้ยังช่วยทำความสะอาดเครื่องยนต์และขจัดคราบเขม่าเพื่อให้ชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์สะอาดและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับเครื่องยนต์เบนซินและระบบเกียร์ 4 จังหวะ ปริมาณบรรจุ 0.80 ลิตร ราคาจำหน่าย 194 บาท

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

YAMALUBE BLUE CORE 10W-40 เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับรถจักรยานยนต์เกียร์อัตโนมัติที่ใช้เทคโนโลยี BLUE CORE เพราะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการหล่อลื่น ลดแรงเสียดทาน และช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง นอกจากนี้ยังช่วยทำความสะอาดเครื่องยนต์และขจัดคราบเขม่าเพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

4. LIQUI MOLY 10W-40 Scooter MB

LIQUI MOLY 10W-40 Scooter MB

LIQUI MOLY 10W-40 Scooter MB เป็นน้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้จากเยอรมนี ออกแบบสำหรับรถจักรยานยนต์เกียร์อัตโนมัติขนาดไม่เกิน 300 cc ช่วยลดแรงเสียดทาน ลดการสึกหรอ และประหยัดน้ำมัน โดยได้รับมาตรฐาน API SN PLUS และ JASO MB

ประเภท น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้
ปริมาณบรรจุ 1 ลิตร
ค่าความหนืด 10W-40
เหมาะสำหรับเครื่องยนต์ เบนซิน
เหมาะสำหรับเกียร์ 4 จังหวะ

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

LIQUI MOLY 10W-40 Scooter MB เป็นน้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ที่นำเข้าจากเยอรมนี ออกแบบมาสำหรับรถจักรยานยนต์เกียร์อัตโนมัติที่ใช้เครื่องยนต์เบนซินและมีขนาดไม่เกิน 300 cc มีค่าความหนืด 10W-40 และได้รับมาตรฐาน API SN PLUS และ JASO MB มีคุณสมบัติช่วยลดแรงเสียดทานและลดการสึกหรอของเครื่องยนต์ ช่วยปกป้องเครื่องยนต์ได้ทุกสภาพการใช้งาน พร้อมช่วยรักษาความสะอาดของเครื่องยนต์ นอกจากนี้ยังช่วยลดแรงเสียดทานภายในเครื่องยนต์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานและช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง สูตรนี้มีความเสถียรตลอดอายุการใช้งานและออกแบบมาสำหรับรถจักรยานยนต์ที่ใช้เกียร์อัตโนมัติเท่านั้น ไม่เหมาะสำหรับรถที่ใช้ระบบคลัตช์เปียก ปริมาณบรรจุ 1 ลิตร ราคาจำหน่าย 430 บาท

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

LIQUI MOLY 10W-40 Scooter MB เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับรถจักรยานยนต์เกียร์อัตโนมัติขนาดไม่เกิน 300 cc เพราะช่วยลดแรงเสียดทาน ลดการสึกหรอของเครื่องยนต์ และช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง อีกทั้งยังได้รับมาตรฐาน API SN PLUS และ JASO MB ทำให้มั่นใจในคุณภาพและประสิทธิภาพการใช้งาน

5. ENEOS 4AT

ENEOS 4AT

ENEOS 4AT เป็นน้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้จากญี่ปุ่นที่ออกแบบสำหรับรถจักรยานยนต์เกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ ช่วยลดแรงเฉือน ลดความร้อน และปกป้องเครื่องยนต์จากการสึกหรอ โดยได้รับมาตรฐาน JASO MB

ประเภท น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้
ปริมาณบรรจุ 0.80 ลิตร
ค่าความหนืด SAE 10W-40
เหมาะสำหรับเครื่องยนต์ เบนซิน
เหมาะสำหรับเกียร์ 4 จังหวะ

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

ENEOS 4AT เป็นน้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ที่ออกแบบมาสำหรับรถจักรยานยนต์เกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน มีค่าความหนืด SAE 10W-40 และได้รับมาตรฐาน JASO MB สูตรนี้ช่วยลดแรงเฉือนขณะเครื่องยนต์ทำงานที่รอบสูง ลดความร้อนภายในเครื่องยนต์ และลดการสูญเสียกำลังเครื่องยนต์ นอกจากนี้ยังช่วยสร้างชั้นฟิล์มเคลือบผิวโลหะเพื่อป้องกันความเสียหายจากความร้อนและลดคราบตะกรันสะสมที่อาจส่งผลกระทบต่อการทำงานของเครื่องยนต์ในระยะยาว น้ำมันเครื่องรุ่นนี้เป็นผลิตภัณฑ์จาก ENEOS Corporation ซึ่งเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจด้านพลังงานครบวงจรและเป็นผู้ผลิตน้ำมันหล่อลื่นระดับพรีเมียมในประเทศญี่ปุ่น ปริมาณบรรจุ 0.80 ลิตร ราคาจำหน่าย 111 บาท

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

ENEOS 4AT เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับรถจักรยานยนต์เกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ เพราะช่วยลดแรงเฉือน ลดความร้อน และลดการสูญเสียกำลังเครื่องยนต์ พร้อมสร้างชั้นฟิล์มเคลือบผิวโลหะเพื่อป้องกันความเสียหายจากความร้อน และได้รับมาตรฐาน JASO MB ทำให้มั่นใจในคุณภาพและประสิทธิภาพในการใช้งาน

6. Valvoline CHAMP EXTRA 4AT

Valvoline CHAMP EXTRA 4AT

Valvoline CHAMP EXTRA 4AT เป็นน้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ที่ออกแบบสำหรับรถจักรยานยนต์เกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ ช่วยเสริมการหล่อลื่น ลดแรงเสียดทาน ลดการสะสมคราบเขม่า และช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง โดยได้รับมาตรฐาน JASO MB และ API SL

ประเภท น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้
ปริมาณบรรจุ 0.80 ลิตร
ค่าความหนืด SAE 10W-30
เหมาะสำหรับเครื่องยนต์ เบนซิน
เหมาะสำหรับเกียร์ 4 จังหวะ

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

Valvoline CHAMP EXTRA 4AT เป็นน้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ที่ออกแบบมาสำหรับรถจักรยานยนต์เกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน มีค่าความหนืด SAE 10W-30 และได้รับมาตรฐาน JASO MB และ API SL สูตรนี้พัฒนาด้วยเทคโนโลยี 4-Tech Chemistry ของ Valvoline ช่วยเสริมการหล่อลื่นขณะเครื่องยนต์ทำงานที่รอบสูง ลดแรงเสียดทาน และลดการสึกหรอของชิ้นส่วนสำคัญของเครื่องยนต์ มีคุณสมบัติช่วยรักษาความสะอาดของเครื่องยนต์ ลดการสะสมของคราบเขม่า และช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง ฟิล์มน้ำมันชนิดพิเศษที่ใช้ในสูตรนี้สามารถทนความร้อนสูงและช่วยให้การทำงานของเครื่องยนต์เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับรถจักรยานยนต์ระบบคลัตช์แห้ง รวมถึงเครื่องยนต์หัวฉีดและคาร์บูเรเตอร์ ปริมาณบรรจุ 0.80 ลิตร ราคาจำหน่าย 139 บาท

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

Valvoline CHAMP EXTRA 4AT เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับรถจักรยานยนต์เกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ เพราะช่วยเสริมการหล่อลื่น ลดแรงเสียดทาน และลดการสึกหรอของเครื่องยนต์ พร้อมช่วยรักษาความสะอาด ลดคราบเขม่า และช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง โดยได้รับมาตรฐาน JASO MB และ API SL ทำให้มั่นใจในคุณภาพและประสิทธิภาพการใช้งาน

7. Mobil Super Moto™ Scooter 10W-40

Mobil Super Moto™ Scooter 10W-40

Mobil Super Moto™ Scooter 10W-40 เป็นน้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์สำหรับรถจักรยานยนต์เกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ ช่วยลดแรงเสียดทาน ลดการสึกหรอ และลดมลพิษ โดยใช้เทคโนโลยี Heat Activated Anti-Wear Molecule™ เพื่อเพิ่มการปกป้องเครื่องยนต์ภายใต้ภาวะอุณหภูมิสูง ได้รับมาตรฐาน API SL และ JASO MB

ประเภท น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์
ปริมาณบรรจุ 0.80 ลิตร
ค่าความหนืด SAE 10W-40
เหมาะสำหรับเครื่องยนต์ เบนซิน
เหมาะสำหรับเกียร์ 4 จังหวะ

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

Mobil Super Moto™ Scooter 10W-40 เป็นน้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ที่ออกแบบมาสำหรับรถจักรยานยนต์เกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน มีค่าความหนืด SAE 10W-40 และได้รับมาตรฐาน API SL และ JASO MB สูตรนี้พัฒนาจากการผสมระหว่างน้ำมันแร่คุณภาพสูงและน้ำมันพื้นฐานไฮโดรคาร์บอนสังเคราะห์ พร้อมระบบสารเพิ่มคุณภาพขั้นสูง ช่วยลดแรงเสียดทาน ลดการสึกหรอ และลดการกัดกร่อนของเครื่องยนต์ มีคุณสมบัติช่วยลดการเกิดออกซิเดชัน ลดมลพิษ และช่วยรักษาความสะอาดภายในเครื่องยนต์ เทคโนโลยี Heat Activated Anti-Wear Molecule™ ที่ใช้ในสูตรนี้ช่วยเพิ่มการปกป้องเครื่องยนต์ภายใต้ภาวะอุณหภูมิสูงและการใช้งานที่ต้องสตาร์ทและหยุดเครื่องบ่อยครั้ง เหมาะสำหรับรถสกู๊ตเตอร์ที่ใช้งานในสภาพจราจรเมืองที่ต้องการความทนทานและการปกป้องเครื่องยนต์อย่างต่อเนื่อง ปริมาณบรรจุ 0.80 ลิตร ราคาจำหน่าย 182 บาท

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

Mobil Super Moto™ Scooter 10W-40 เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับรถจักรยานยนต์เกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ เพราะช่วยลดแรงเสียดทาน ลดการสึกหรอ และลดการกัดกร่อนของเครื่องยนต์ พร้อมเทคโนโลยี Heat Activated Anti-Wear Molecule™ ที่ช่วยปกป้องเครื่องยนต์ภายใต้ภาวะอุณหภูมิสูงและการใช้งานที่ต้องสตาร์ทและหยุดบ่อยครั้ง ทำให้เหมาะกับการขับขี่ในเมืองที่ต้องการความทนทานและการปกป้องที่ต่อเนื่อง

8. Shell Advance AX5 4T

Shell Advance AX5 4T

Shell Advance AX5 4T เป็นน้ำมันเครื่องชนิดน้ำมันแร่สำหรับรถจักรยานยนต์เกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ ช่วยป้องกันการจับตัวของสิ่งสกปรก ลดเสียงและการสั่นสะเทือนของเครื่องยนต์ พร้อมรักษาความสะอาดและลดการสึกหรอ โดยได้รับมาตรฐาน API SL และ JASO MB

ประเภท น้ำมันเครื่องชนิดน้ำมันแร่
ปริมาณบรรจุ 0.80 ลิตร
ค่าความหนืด SAE J 300 15W-40
เหมาะสำหรับเครื่องยนต์ เบนซิน
เหมาะสำหรับเกียร์ 4 จังหวะ

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

Shell Advance AX5 4T เป็นน้ำมันเครื่องชนิดน้ำมันแร่ที่ออกแบบมาสำหรับรถจักรยานยนต์เกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน มีค่าความหนืด SAE J 300 15W-40 และได้รับมาตรฐาน API SL และ JASO MB สูตรนี้พัฒนาด้วยเทคโนโลยี Active Cleansing ที่ช่วยป้องกันการจับตัวของสิ่งสกปรกบริเวณเครื่องยนต์ ลดเสียงและการสั่นสะเทือนของเครื่องยนต์ขณะทำงาน และช่วยลดความร้อนสะสมที่อาจส่งผลต่อประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ มีคุณสมบัติช่วยรักษาความสะอาดของเครื่องยนต์และป้องกันการสึกหรอเพื่อยืดอายุการใช้งาน น้ำมันเครื่องรุ่นนี้เป็นผลิตภัณฑ์จาก Shell ที่ได้รับการออกแบบมาให้เหมาะสำหรับการใช้งานในทุกสภาวะ ปริมาณบรรจุ 0.80 ลิตร ราคาจำหน่าย 115 บาท

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

Shell Advance AX5 4T เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับรถจักรยานยนต์เกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ เพราะช่วยลดเสียงและการสั่นสะเทือนของเครื่องยนต์ พร้อมป้องกันการจับตัวของสิ่งสกปรกและลดความร้อนสะสมด้วยเทคโนโลยี Active Cleansing นอกจากนี้ยังช่วยรักษาความสะอาดของเครื่องยนต์และลดการสึกหรอเพื่อยืดอายุการใช้งาน โดยได้รับมาตรฐาน API SL และ JASO MB

9. MOTUL SCOOTER POWER LE 5W-40 4T

MOTUL SCOOTER POWER LE 5W-40 4T

MOTUL SCOOTER POWER LE 5W-40 4T เป็นน้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ 100% สำหรับรถจักรยานยนต์เกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ ช่วยลดแรงเสียดทาน ลดเสียงเครื่องยนต์ และป้องกันการสึกหรอ โดยได้รับมาตรฐาน API SN และ JASO MB รองรับการทำงานที่อุณหภูมิสูงและช่วยให้สตาร์ทติดง่ายในสภาพอากาศเย็น

ประเภท น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้
ปริมาณบรรจุ 1 ลิตร
ค่าความหนืด SAE 5W-40
เหมาะสำหรับเครื่องยนต์ เบนซิน
เหมาะสำหรับเกียร์ 4 จังหวะ

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

MOTUL SCOOTER POWER LE 5W-40 4T เป็นน้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ 100% ที่ออกแบบมาสำหรับรถจักรยานยนต์เกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน มีค่าความหนืด SAE 5W-40 และได้รับมาตรฐาน API SN และ JASO MB สูตรนี้สามารถใช้ได้กับรถจักรยานยนต์ขนาดตั้งแต่ 50 – 800 cc และเหมาะสำหรับรถสกู๊ตเตอร์และรถระบบคลัตช์แห้ง มีคุณสมบัติช่วยลดแรงเสียดทาน ลดแรงสั่นสะเทือน ลดเสียงเครื่องยนต์ และช่วยรักษาความสะอาดของเครื่องยนต์โดยป้องกันการก่อตัวของสารตกค้างจากการเผาไหม้ นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันการสึกหรอของชุดเกียร์ เพิ่มอายุการใช้งาน และป้องกันการเกิดสนิมและฟองอากาศ รองรับการทำงานที่อุณหภูมิสูง และช่วยให้เครื่องยนต์สตาร์ทติดง่ายในสภาพอากาศที่เย็น ปริมาณบรรจุ 1 ลิตร ราคาจำหน่าย 277 บาท

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

MOTUL SCOOTER POWER LE 5W-40 4T เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับรถจักรยานยนต์เกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ เพราะช่วยลดแรงเสียดทาน ลดเสียงเครื่องยนต์ และป้องกันการสึกหรอของชุดเกียร์ พร้อมรองรับการทำงานที่อุณหภูมิสูง และช่วยให้เครื่องยนต์สตาร์ทติดง่ายในสภาพอากาศเย็น ได้รับมาตรฐาน API SN และ JASO MB ทำให้มั่นใจในคุณภาพและประสิทธิภาพการใช้งาน

10. Caltex Havoline SUPERMATIC 4T

Caltex Havoline SUPERMATIC 4T

Caltex Havoline SUPERMATIC 4T เป็นน้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์สำหรับรถจักรยานยนต์เกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ ช่วยทนความร้อน ลดคราบเขม่า และประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง ด้วยเทคโนโลยี C.O.R.E.+ และ Zoom Tech ที่ช่วยเสริมการปกป้องเครื่องยนต์และเพิ่มสมรรถนะการขับขี่ ได้รับมาตรฐาน API SN และ JASO MB

ประเภท น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์
ปริมาณบรรจุ 0.80 ลิตร
ค่าความหนืด SAE 10W-40
เหมาะสำหรับเครื่องยนต์ เบนซิน
เหมาะสำหรับเกียร์ 4 จังหวะ

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

Caltex Havoline SUPERMATIC 4T เป็นน้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ที่ออกแบบมาสำหรับรถจักรยานยนต์เกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน มีค่าความหนืด SAE 10W-40 และได้รับมาตรฐาน API SN และ JASO MB สูตรนี้ผลิตด้วยเทคโนโลยี C.O.R.E.+ ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทนความร้อน ลดคราบเขม่าสะสม และช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง เทคโนโลยี Zoom Tech ที่ใช้ในสูตรนี้ช่วยเพิ่มการปกป้องเครื่องยนต์และเสริมสมรรถนะในการขับขี่ เหมาะสำหรับรถจักรยานยนต์ 4 จังหวะรุ่นใหม่ทุกยี่ห้อ มีคุณสมบัติช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้ราบรื่น ลดการเสียดสี และช่วยให้การหล่อลื่นมีประสิทธิภาพมากขึ้น ปริมาณบรรจุ 0.80 ลิตร ราคาจำหน่าย 220 บาท

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

Caltex Havoline SUPERMATIC 4T เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับรถจักรยานยนต์เกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ เพราะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทนความร้อน ลดคราบเขม่า และช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง ด้วยเทคโนโลยี C.O.R.E.+ และ Zoom Tech ที่ช่วยเสริมการปกป้องเครื่องยนต์และเพิ่มสมรรถนะการขับขี่ ได้รับมาตรฐาน API SN และ JASO MB ทำให้มั่นใจในคุณภาพและประสิทธิภาพการใช้งาน

ความสำคัญของน้ำมันเครื่องต่อสมรรถนะของมอเตอร์ไซค์

ความสำคัญของน้ำมันเครื่องต่อสมรรถนะของมอเตอร์ไซค์
น้ำมันเครื่องเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับเครื่องยนต์มอเตอร์ไซค์ ทำหน้าที่หล่อลื่น ป้องกันการสึกหรอ และช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ หากไม่มีน้ำมันเครื่อง หรือใช้น้ำมันเครื่องที่ไม่มีคุณภาพ อาจทำให้เครื่องยนต์ทำงานหนักขึ้น เกิดความร้อนสะสม และอาจทำให้เครื่องยนต์พังได้เร็วขึ้น สำหรับผู้ที่ใช้งานมอเตอร์ไซค์เป็นประจำ ควรรู้ว่าน้ำมันเครื่องที่ดีมีผลต่อสมรรถนะของรถอย่างไร และควรเลือกน้ำมันเครื่องที่เหมาะสมกับการใช้งาน เพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างราบรื่น ลดโอกาสเกิดปัญหาจากการเสื่อมสภาพของน้ำมันเครื่อง และช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุง

หน้าที่ของน้ำมันเครื่องที่มีผลต่อสมรรถนะของมอเตอร์ไซค์

  • ลดแรงเสียดทาน น้ำมันเครื่องช่วยลดการเสียดสีระหว่างชิ้นส่วนโลหะภายในเครื่องยนต์ ทำให้ชิ้นส่วนสามารถเคลื่อนที่ได้อย่างราบรื่น ลดการสึกหรอ และช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้มีประสิทธิภาพ
  • ป้องกันการสึกหรอของเครื่องยนต์ การใช้น้ำมันเครื่องที่มีคุณภาพช่วยป้องกันไม่ให้ชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์เสื่อมสภาพเร็วขึ้น ลดการสึกกร่อนจากการใช้งานต่อเนื่อง และยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์
  • ช่วยระบายความร้อน เครื่องยนต์มอเตอร์ไซค์ทำงานที่อุณหภูมิสูงมาก น้ำมันเครื่องช่วยดูดซับและพาความร้อนออกจากส่วนที่มีความร้อนสูง เช่น ลูกสูบ และเพลาข้อเหวี่ยง ทำให้เครื่องยนต์ไม่ร้อนเกินไป ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงที่เครื่องยนต์จะโอเวอร์ฮีท
  • ทำความสะอาดเครื่องยนต์ น้ำมันเครื่องช่วยดักจับสิ่งสกปรก เขม่า และเศษโลหะที่เกิดจากการเผาไหม้ของเชื้อเพลิง ลดการสะสมของคราบตะกรันและคราบคาร์บอน ซึ่งเป็นสาเหตุให้เครื่องยนต์ทำงานผิดปกติ
  • ป้องกันการเกิดสนิมและการกัดกร่อน เครื่องยนต์ที่ไม่ได้รับการหล่อลื่นอย่างเหมาะสมอาจเกิดสนิมและการกัดกร่อนจากความชื้นและสารเคมีต่าง ๆ ในน้ำมันเชื้อเพลิง น้ำมันเครื่องช่วยเคลือบปกป้องชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์ ทำให้ลดโอกาสเกิดสนิมและช่วยให้เครื่องยนต์ใช้งานได้นานขึ้น
  • ช่วยให้เครื่องยนต์เดินเรียบ น้ำมันเครื่องที่เหมาะสมช่วยให้เครื่องยนต์เดินเรียบ ไม่มีเสียงดังผิดปกติ ช่วยให้การขับขี่นุ่มนวลขึ้น และลดอาการสั่นของเครื่องยนต์ในขณะเดินเบาหรือขับขี่ที่ความเร็วสูง

ทำไมน้ำมันเครื่องถึงสำคัญต่อการใช้งานมอเตอร์ไซค์

การเลือกน้ำมันเครื่องที่เหมาะสมส่งผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ และยังช่วยลดต้นทุนในการซ่อมบำรุงระยะยาว หากใช้น้ำมันเครื่องที่ไม่มีคุณภาพ อาจทำให้เครื่องยนต์เสื่อมสภาพเร็วขึ้น เสียหายง่าย และทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมมากขึ้น สำหรับผู้ที่ใช้มอเตอร์ไซค์ในชีวิตประจำวัน เช่น ขับขี่ไปทำงาน ส่งของ หรือเดินทางไกล ควรเลือกน้ำมันเครื่องคุณภาพดีที่ช่วยลดการสึกหรอ ป้องกันความร้อนสะสม และทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ เพื่อให้ขับขี่ได้อย่างปลอดภัยและไม่ต้องกังวลเรื่องปัญหาเครื่องยนต์ที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้งานต่อเนื่อง

ค่าความหนืดของน้ำมันเครื่องมอเตอร์ไซค์คืออะไร?

ค่าความหนืดของน้ำมันเครื่องมอเตอร์ไซค์คืออะไร
ค่าความหนืดของน้ำมันเครื่องเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ ค่าความหนืดกำหนดความสามารถในการไหลของน้ำมันเครื่องเมื่อเครื่องยนต์ทำงาน หากเลือกค่าความหนืดที่เหมาะสม เครื่องยนต์จะทำงานได้ดีขึ้น ลดการสึกหรอ และช่วยให้เครื่องยนต์มีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น ค่าความหนืดของน้ำมันเครื่องถูกกำหนดโดย ตัวเลข 2 ชุด เช่น 10W-40 ซึ่งมีความหมายดังนี้
  • เลขตัวแรก (10W) หมายถึงค่าความหนืดของน้ำมันเครื่องในอุณหภูมิต่ำ (W ย่อมาจาก Winter) ยิ่งเลขต่ำ น้ำมันยิ่งไหลง่ายเมื่ออากาศเย็น
  • เลขตัวหลัง (40) หมายถึงค่าความหนืดของน้ำมันเครื่องในอุณหภูมิสูง ยิ่งเลขสูง น้ำมันยิ่งหนืดขึ้นเมื่อเครื่องยนต์ร้อน
ค่าความหนืดที่เหมาะสมต้องสอดคล้องกับสภาพอากาศและรูปแบบการใช้งาน เพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ลดการสึกหรอ และช่วยให้การขับขี่เป็นไปอย่างราบรื่น

ค่าความหนืดของน้ำมันเครื่องมอเตอร์ไซค์มีผลอย่างไร?

  • ช่วยปกป้องเครื่องยนต์ น้ำมันเครื่องที่มีค่าความหนืดเหมาะสมช่วยลดแรงเสียดทานระหว่างชิ้นส่วนโลหะในเครื่องยนต์ ทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้ราบรื่นและลดความเสียหายจากการสึกหรอ
  • มีผลต่อการสตาร์ทเครื่องยนต์ หากเลือกค่าความหนืดที่ไม่เหมาะสม อาจทำให้เครื่องยนต์สตาร์ทติดยาก โดยเฉพาะในช่วงอากาศหนาว น้ำมันเครื่องที่มีค่าความหนืดต่ำจะช่วยให้เครื่องยนต์ติดง่ายขึ้น
  • ช่วยลดความร้อนสะสมในเครื่องยนต์ เครื่องยนต์ผลิตความร้อนขณะทำงาน น้ำมันเครื่องช่วยดูดซับและพาความร้อนออกจากส่วนที่มีความร้อนสูง ทำให้เครื่องยนต์ไม่ร้อนเกินไป ลดโอกาสที่เครื่องยนต์จะเสียหายจากความร้อนสะสม
  • ช่วยให้เครื่องยนต์เดินเรียบ น้ำมันเครื่องที่เหมาะสมช่วยให้เครื่องยนต์เดินเรียบ ไม่มีเสียงดังผิดปกติ ทำให้การขับขี่นุ่มนวลขึ้น ลดการสั่นของเครื่องยนต์ และเพิ่มประสิทธิภาพในการตอบสนอง
  • มีผลต่ออายุการใช้งานของเครื่องยนต์ น้ำมันเครื่องที่มีค่าความหนืดเหมาะสมช่วยลดการสึกหรอของเครื่องยนต์ ทำให้เครื่องยนต์มีอายุการใช้งานที่นานขึ้น ลดโอกาสเกิดปัญหาจากการเสื่อมสภาพของชิ้นส่วนภายใน
  • เหมาะสมกับอุณหภูมิที่ใช้งาน ค่าความหนืดที่ต่ำเหมาะกับอากาศเย็น เพราะน้ำมันไหลได้เร็ว ส่วนค่าความหนืดที่สูงเหมาะกับอากาศร้อน เพราะช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้ดีในสภาพอุณหภูมิสูง

การเลือกค่าความหนืดให้เหมาะสมกับมอเตอร์ไซค์

  • ขับขี่ในเมือง: เลือกน้ำมันเครื่องค่าความหนืด 10W-40 หรือ 5W-30 เพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานได้ดีแม้ในสภาพจราจรติดขัด
  • ขับขี่ระยะไกล: เลือกค่าความหนืด 15W-50 หรือ 20W-50 เพื่อให้เครื่องยนต์ทนทานและทำงานได้ดีเมื่อต้องขับขี่ต่อเนื่อง
  • มอเตอร์ไซค์เก่า: เครื่องยนต์ที่มีการใช้งานมานานควรเลือกค่าความหนืดสูงขึ้น เช่น 15W-50 หรือ 20W-50 เพื่อป้องกันการสึกหรอ
  • อากาศร้อน: เลือกน้ำมันเครื่องที่มีค่าความหนืดสูงกว่า เช่น 10W-40 หรือ 15W-50 เพื่อช่วยลดความร้อนสะสมในเครื่องยนต์
  • อากาศเย็น: เลือกน้ำมันเครื่องค่าความหนืดต่ำ เช่น 5W-30 หรือ 10W-40 เพื่อให้เครื่องยนต์สตาร์ทง่าย
ค่าความหนืดของน้ำมันเครื่องมีผลโดยตรงต่อสมรรถนะของเครื่องยนต์ หากเลือกให้เหมาะสมกับสภาพการใช้งาน จะช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้ดีขึ้น ลดปัญหาต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้น และช่วยให้เครื่องยนต์มีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น

ควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่องมอเตอร์ไซค์บ่อยแค่ไหน?

ควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่องมอเตอร์ไซค์บ่อยแค่ไหน

น้ำมันเครื่องเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดแรงเสียดทาน ลดความร้อน และป้องกันการสึกหรอของชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์ อย่างไรก็ตาม น้ำมันเครื่องมีอายุการใช้งานที่จำกัด หากใช้งานเป็นเวลานานโดยไม่เปลี่ยนใหม่ น้ำมันเครื่องจะเสื่อมสภาพและไม่สามารถทำหน้าที่ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

การเปลี่ยนน้ำมันเครื่องให้ตรงตามระยะเวลาที่เหมาะสมเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้ใช้มอเตอร์ไซค์ทุกคน โดยเฉพาะผู้ที่ขับขี่เป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานในเมือง การเดินทางไกล หรือการใช้งานหนัก เพราะหากปล่อยให้น้ำมันเครื่องเสื่อมสภาพ อาจส่งผลให้เครื่องยนต์ทำงานหนักขึ้น กินน้ำมันมากขึ้น และอาจเกิดความเสียหายที่ต้องเสียค่าซ่อมแซมจำนวนมาก

ปัจจัยที่มีผลต่อระยะเวลาในการเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง

  • ระยะทางที่ใช้งาน

    โดยทั่วไปแนะนำให้เปลี่ยนน้ำมันเครื่องทุก 2,000 – 5,000 กิโลเมตร แต่ในบางกรณีอาจต้องเปลี่ยนเร็วกว่านั้นขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งาน

  • ประเภทของน้ำมันเครื่อง
    • น้ำมันแร่ (Mineral Oil): ราคาถูก แต่เสื่อมสภาพเร็ว ควรเปลี่ยนทุก 2,000 – 3,000 กิโลเมตร
    • น้ำมันกึ่งสังเคราะห์ (Semi-Synthetic Oil): ทนทานกว่าน้ำมันแร่ ควรเปลี่ยนทุก 3,000 – 5,000 กิโลเมตร
    • น้ำมันสังเคราะห์ (Fully Synthetic Oil): มีอายุการใช้งานนาน ทนความร้อนสูง ควรเปลี่ยนทุก 5,000 – 7,000 กิโลเมตร
  • ลักษณะการใช้งาน
    • ขับขี่ในเมือง: การหยุดและออกตัวบ่อย ๆ ทำให้น้ำมันเครื่องเสื่อมเร็วขึ้น ควรเปลี่ยนเร็วกว่าปกติ
    • ขับขี่ทางไกล: น้ำมันเครื่องต้องรองรับอุณหภูมิสูงต่อเนื่อง ควรเลือกน้ำมันเครื่องที่ทนความร้อนดี
    • ใช้งานหนัก หรือขับขี่ในพื้นที่ที่มีฝุ่นเยอะ: น้ำมันเครื่องอาจปนเปื้อนสิ่งสกปรกได้เร็ว ควรเปลี่ยนถี่ขึ้น
  • สัญญาณที่บ่งบอกว่าควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง
    • สีของน้ำมันเครื่องดำคล้ำและข้นขึ้น: แสดงว่าน้ำมันเริ่มเสื่อมสภาพและมีสิ่งสกปรกสะสม
    • เครื่องยนต์มีเสียงดังขึ้น: อาจเกิดจากการหล่อลื่นที่ไม่เพียงพอ
    • เครื่องยนต์เดินไม่เรียบหรือสตาร์ทยาก: น้ำมันเครื่องเสื่อมสภาพทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้ไม่เต็มที่
    • มีกลิ่นไหม้จากเครื่องยนต์: น้ำมันเครื่องอาจร้อนเกินไปหรือเสื่อมคุณภาพ

ข้อดีของการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องตามระยะเวลาที่เหมาะสม

ช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้น โดยการหล่อลื่นชิ้นส่วนต่าง ๆ อย่างทั่วถึง ช่วยลดการสึกหรอและการเสียดสีของชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังช่วยระบายความร้อนและลดปัญหาความร้อนสะสมในเครื่องยนต์ได้ดี ส่งผลให้ลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงในระยะยาวได้อย่างมาก และที่สำคัญคือช่วยให้การขับขี่นุ่มนวลและราบรื่นมากขึ้น เพราะเครื่องยนต์ทำงานได้อย่างสมดุล

การดูแลแบตมอเตอร์ไซค์เพื่อลดภาระการทำงานของเครื่องยนต์

นอกจากการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องแล้ว การดูแลแบตมอเตอร์ไซค์ก็เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยเสริมให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แบตมอเตอร์ไซค์ที่ดีมีบทบาทสำคัญในการจ่ายไฟให้กับระบบสตาร์ทและอุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ หากแบตเตอรี่เสื่อมสภาพหรือมีปัญหา อาจส่งผลให้เครื่องยนต์สตาร์ทยาก และระบบไฟฟ้าทำงานผิดปกติ

วิธีดูแลแบตมอเตอร์ไซค์

  • ตรวจสอบระดับไฟแบตเตอรี่: ใช้เครื่องมือวัดแรงดันไฟฟ้าเพื่อตรวจสอบว่าแรงดันอยู่ในช่วงปกติ (12.5-13.5 โวลต์)
  • ทำความสะอาดขั้วแบตเตอรี่: เช็ดคราบสนิมหรือคราบสกปรกที่ขั้วแบตเตอรี่ด้วยแปรงขนอ่อนและน้ำยาทำความสะอาด
  • ตรวจสอบระดับน้ำกลั่น (สำหรับแบตเตอรี่ชนิดเติมน้ำ): เติมน้ำกลั่นให้ถึงขีดที่กำหนด
  • หลีกเลี่ยงการปล่อยแบตเตอรี่หมด: หากไม่ได้ใช้งานรถมอเตอร์ไซค์เป็นเวลานาน ควรถอดแบตเตอรี่ออกหรือชาร์จแบตเตอรี่เพื่อป้องกันการเสื่อมสภาพ

การดูแลแบตมอเตอร์ไซค์ควบคู่ไปกับการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องตามระยะเวลาที่กำหนดเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพราะทั้งสองส่วนนี้ทำงานร่วมกันในการขับเคลื่อนมอเตอร์ไซค์ การดูแลรักษาที่ดีจะช่วยยืดอายุการใช้งานของทั้งเครื่องยนต์และระบบไฟฟ้า ทำให้อุปกรณ์ทุกส่วนทำงานประสานกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงในระยะยาว และที่สำคัญคือช่วยให้การขับขี่มีความปลอดภัยและราบรื่นมากยิ่งขึ้น!

การเลือกน้ำมันเครื่องที่เหมาะสมช่วยให้เครื่องยนต์มอเตอร์ไซค์ทำงานได้ดีขึ้น ลดการสึกหรอ และยืดอายุการใช้งาน บทความนี้แนะนำ 10 น้ำมันเครื่องมอเตอร์ไซค์ที่เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน โดยแต่ละผลิตภัณฑ์มีรายละเอียดเกี่ยวกับ ประเภทของน้ำมัน ปริมาณบรรจุ ค่าความหนืด ความเหมาะสมกับเครื่องยนต์ และความเหมาะสมกับเกียร์ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเลือกผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับลักษณะการขับขี่ นอกจากแนะนำผลิตภัณฑ์แล้ว ยังมีข้อมูลเกี่ยวกับ ความสำคัญของน้ำมันเครื่องต่อสมรรถนะของมอเตอร์ไซค์ ที่อธิบายว่าน้ำมันเครื่องช่วยลดแรงเสียดทาน ลดความร้อนสะสม และทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้ราบรื่น ค่าความหนืดของน้ำมันเครื่องมอเตอร์ไซค์คืออะไร? อธิบายความหมายของค่าความหนืด วิธีเลือกค่าความหนืดที่เหมาะสมกับสภาพอากาศ และผลกระทบของค่าความหนืดที่ไม่เหมาะสม ควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่องมอเตอร์ไซค์บ่อยแค่ไหน? ให้ข้อมูลเกี่ยวกับระยะเวลาที่เหมาะสมในการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องขึ้นอยู่กับประเภทของน้ำมันเครื่องและลักษณะการใช้งาน การเลือกน้ำมันเครื่องที่ดีและเปลี่ยนถ่ายตามระยะเวลาที่เหมาะสมช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ลดปัญหาการสึกหรอ และช่วยให้เครื่องยนต์มีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น

คำถามที่พบบ่อย

1. ทำไมน้ำมันเครื่องมอเตอร์ไซค์ถึงสำคัญ? น้ำมันเครื่องช่วยลดแรงเสียดทานระหว่างชิ้นส่วนเครื่องยนต์ ป้องกันการสึกหรอ และยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์ นอกจากนี้ยังช่วยควบคุมอุณหภูมิโดยพาความร้อนออกจากจุดที่ร้อน ลดความเสี่ยงที่เครื่องยนต์จะร้อนเกินไป น้ำมันเครื่องที่ดีช่วยให้เครื่องยนต์สะอาดโดยดักจับสิ่งสกปรกและคราบเขม่า ป้องกันการสะสมของคราบที่อาจส่งผลต่อประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ หากไม่มีน้ำมันเครื่องที่เหมาะสม เครื่องยนต์อาจร้อนเกินไป สึกหรอเร็วขึ้น และทำงานได้ไม่มีประสิทธิภาพ 2. ค่าความหนืดของน้ำมันเครื่องคืออะไร และมีผลอย่างไรกับมอเตอร์ไซค์? ค่าความหนืดหมายถึงความข้นเหลวของน้ำมันเครื่อง และความสามารถในการไหลในอุณหภูมิต่าง ๆ น้ำมันเครื่องมักมีตัวเลขเช่น 10W-40 โดย 10W หมายถึงค่าความหนืดที่อุณหภูมิต่ำ และ 40 หมายถึงค่าความหนืดที่อุณหภูมิสูง การเลือกค่าความหนืดที่เหมาะสมช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้ราบรื่น ค่าความหนืดต่ำเหมาะกับการสตาร์ทในอากาศเย็น ส่วนค่าความหนืดสูงช่วยปกป้องเครื่องยนต์ในอุณหภูมิสูง หากเลือกค่าความหนืดผิด อาจทำให้เครื่องยนต์ทำงานหนักขึ้นและลดประสิทธิภาพ 3. ควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่องมอเตอร์ไซค์บ่อยแค่ไหน? ระยะเวลาในการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องขึ้นอยู่กับประเภทของน้ำมันและลักษณะการใช้งาน น้ำมันแร่ ควรเปลี่ยนทุก 2,000-3,000 กิโลเมตร น้ำมันกึ่งสังเคราะห์ ควรเปลี่ยนทุก 3,000-5,000 กิโลเมตร และ น้ำมันสังเคราะห์ ควรเปลี่ยนทุก 5,000-7,000 กิโลเมตร การขับขี่ในเมืองที่มีการหยุดและออกตัวบ่อย หรือการขับขี่ระยะสั้นอาจทำให้น้ำมันเครื่องเสื่อมเร็วขึ้น ควรตรวจสอบสีของน้ำมันเครื่อง การทำงานของเครื่องยนต์ และเสียงผิดปกติเพื่อช่วยกำหนดเวลาที่เหมาะสมในการเปลี่ยน 4. จะเกิดอะไรขึ้นถ้าไม่เปลี่ยนน้ำมันเครื่องตามระยะเวลาที่กำหนด? หากไม่เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง น้ำมันจะเสื่อมสภาพและสูญเสียความสามารถในการหล่อลื่น ทำให้ชิ้นส่วนเครื่องยนต์เกิดแรงเสียดทานมากขึ้น อาจทำให้เครื่องยนต์ร้อนเกินไป และสึกหรอเร็วขึ้น น้ำมันเครื่องที่สกปรกอาจทำให้เกิดคราบตะกรัน อุดตันทางเดินน้ำมัน ส่งผลให้เครื่องยนต์ทำงานได้ไม่มีประสิทธิภาพ ในระยะยาวอาจทำให้เครื่องยนต์เสียหายและต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมมากขึ้น การเปลี่ยนน้ำมันเครื่องตามระยะเวลาที่เหมาะสมช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้ราบรื่น และช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์

ผู้เขียน

หมวดหมู่ผลิตภัณฑ์

icon-Grey_1-อิเล็กทรอนิกส์

อิเล็กทรอนิกส์

icon-Grey_2-เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน

เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน

icon-Grey_3-แฟชั่นและเสื้อผ้า

แฟชั่นและเสื้อผ้า

icon-Grey_4-ความงามและสุขอนามัย

ความงามและสุขอนามัย

icon-Grey_5-สุขภาพและเวชภัณฑ์

สุขภาพและเวชภัณฑ์

icon-Grey_6-ของใช้ในบ้านและห้องครัว

ของใช้ในบ้านและห้องครัว

icon-Grey_7-อาหารและเครื่องดื่ม

อาหารและเครื่องดื่ม

icon-Grey_8-กีฬาและกิจกรรมกลางแจ้ง

กีฬาและกิจกรรมกลางแจ้ง

icon-Grey_9-ของเล่นและเกม

ของเล่นและเกม

icon-Grey_10-ยานยนต์

ยานยนต์

icon-Grey_11-ผลิตภัณฑ์สำหรับแม่และเด็ก

ผลิตภัณฑ์สำหรับแม่และเด็ก

icon-Grey_12-อุปกรณ์สำนักงาน

อุปกรณ์สำนักงาน

icon-Grey_13-อุปกรณ์สัตว์เลี้ยง

อุปกรณ์สัตว์เลี้ยง

icon-Grey_14-เฟอร์นิเจอร์และตกแต่งบ้าน

เฟอร์นิเจอร์และตกแต่งบ้าน

icon-Grey_15-อุปกรณ์ทำสวนและเกษตร

อุปกรณ์ทำสวนและเกษตร

icon-Grey_16-เครื่องดนตรีและการดนตรี

เครื่องดนตรีและการดนตรี

icon-Grey_17-เครื่องมือช่างและวัสดุก่อสร้าง

เครื่องมือช่างและวัสดุก่อสร้าง

icon-Grey_18-ศิลปะและงานฝีมือ

ศิลปะและงานฝีมือ

icon-Grey_19-งานปาร์ตี้และสันทนาการ

งานปาร์ตี้และสันทนาการ

icon-Grey_20-บรรจุภัณฑ์และการจัดเก็บ

บรรจุภัณฑ์และการจัดเก็บ

icon-Grey_21-สื่อและภาพยนต์

สื่อและภาพยนต์

icon-Grey_22-เครื่องจักรและอุตสาหกรรม

เครื่องจักรและอุตสาหกรรม

icon-Grey_7-อาหารและเครื่องดื่ม

อาหารและเครื่องดื่ม

icon-Grey_24-การท่องเที่ยวและอุปกรณ์การเดินทาง

ท่องเที่ยว/อุปกรณ์การเดินทาง

Scroll to Top