รีวิว 10 ครีมกันแดดทาหน้า บางเบา ไม่อุดตัน กันน้ำ กันเหงื่อ ปี 2024

ครีมกันแดดทาหน้า
สวัสดีค่ะทุกคน พอพูดถึงเรื่อง “แสงแดด” ที่ไม่ได้แค่ทำให้เรารู้สึกร้อนเท่านั้นนะคะ แต่แสงจากแดดที่แผดเผาออกมาเนี่ยยังแอบทำร้ายผิวเราแบบที่เราไม่รู้ตัวด้วย ไม่ว่าจะเป็นฝ้า, กระ, รอยดำ, หรือริ้วรอยที่มาเยี่ยมเยือนก่อนวัย ทั้งหมดนี้มีต้นเหตุมาจากรังสี UVA และ UVB ที่มากับแสงแดดนั่นเอง นี่แหละเหตุผลว่าทำไม ครีมกันแดดจึงสำคัญมากๆ ไม่ใช่แค่เรื่องความสวย แต่เป็นเรื่องของสุขภาพผิวที่เราต้องดูแลทุกวัน แต่หลายคนก็เจอปัญหาเวลาหาผลิตภัณฑ์ที่ใช่ บางตัวทาแล้วกลับบ้านมาคอเสื้อเหลือง บ้างก็เจอเนื้อครีมเกลี่ยยังไงหน้าก็ยังขาวโบ๊ะ หรือเหนียวเหนอะหนะระหว่างวันจนไม่อยากทาอีกเลย แต่รู้มั้ยคะ ทุกวันนี้เทคโนโลยีครีมกันแดดพัฒนาไปไกลมากแล้ว ไม่ต้องทนทาครีมเหนอะๆ หนะๆ อีกต่อไป แบรนด์ต่างๆ แข่งขันกันพัฒนาสูตรใหม่ๆ ที่ใช้ง่าย สบายผิว แถมยังตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของเราได้ดีขึ้นด้วย ไม่ว่าจะเป็นเนื้อครีมที่บางเบา ซึมซาบไว ไม่อุดตันผิวหน้า ทนทั้งน้ำและเหงื่อ ให้เราออกไปใช้ชีวิตได้อย่างมั่นใจ วันนี้เราเลยคัดมาให้ 10 ครีมกันแดดทาหน้า บางเบา ไม่อุดตัน กันน้ำ กันเหงื่อ ตัวเด็ดประจำปี 2024 ที่เราลองมาแล้วว่าดีจริง เข้ากับทุกสภาพผิว พร้อมทิปส์ดีๆ ในการเลือกให้เหมาะกับผิวของคุณ เพราะเราเชื่อว่าถ้าได้ครีมกันแดดที่ใช่ นอกจากจะปกป้องผิวได้ดีแล้ว ยังทำให้ผิวสวยสุขภาพดีไปอีกนาน

หลักเกณฑ์ที่ใช้ในการจัดอันดับสินค้า

  1. เลือกแบรนด์ที่มีค่า SPF 30 PA+++ ขึ้นไป : เราถึงแนะนำให้เลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป และ PA+++ ขั้นต่ำ เพราะจะช่วยปกป้องผิวได้ครอบคลุมทั้งรังสี UVA และ UVB แต่ไม่จำเป็นต้องเลือกค่าที่สูงมากเกินไปนะ เพราะอาจจะทำให้ผิวแพ้ได้ เราเลยคัดมาแต่สูตรที่พอเหมาะ ทั้งปกป้องผิวได้ดี แถมยังอ่อนโยนต่อผิวด้วยค่ะ
  2. ผลิตภัณฑ์อ่อนโยนต่อผิวแพ้ง่าย : สำหรับคนที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย เราพิถีพิถันเลือกแบรนด์ที่เป็น Physical Sunscreen เข้ามาด้วย เพราะแบรนด์เหล่านี้มีส่วนผสมของ Zinc Oxide และ Titanium Dioxide มาให้ เพราะตัวนี้อ่อนโยนกว่า ไม่ซึมลงผิว ลดโอกาสแพ้ได้ดีเลย โดยเฉพาะเพื่อนๆ ที่เป็นสิวง่ายหรือผิวไวต่อสารเคมีต่างๆ
  3. เนื้อครีมเหมาะกับผิวมันและเป็นสิว : เรื่องเนื้อสัมผัสนี่สำคัญสุดๆ เลยนะ เพราะถ้าไม่ถูกใจก็คงไม่อยากทา เราเลยเลือกมาให้แบบครบจบทุกสไตล์เลย มีทั้งแบบเจล เบาสบายสำหรับเพื่อนๆ ผิวมันหรือเป็นสิว แบบครีมนุ่มๆ ฟินๆ สำหรับคนผิวแห้ง และแบบบางเบาสบายผิวสำหรับคนผิวผสม รับรองว่าได้ใช้แล้วจะติดใจ ไม่ต้องกังวลเรื่องความเหนอะหนะหรือคราบขาวอีกต่อไป
  4. ผลิตภัณฑ์กันน้ำกันเหงื่อต้องดี : ด้วยอากาศบ้านเราที่ร้อนจัดแบบนี้ เหงื่อออกตลอด ครีมกันแดดเลยต้องทนทานเป็นพิเศษ ไม่ใช่แค่ทาปุ๊บละลายปั๊บ หรือเช็ดหน้าทีเดียวหลุด แม้จะเหงื่อออกเยอะหรือโดนน้ำบ้างก็ยังอยู่ติดทนนะ แบรนด์ที่เราเลือกต้องเป็นสูตรที่กันน้ำกันเหงื่อได้ดีเยี่ยม ปกป้องผิวได้ยาวๆ ตลอดวัน ไม่ต้องกังวลว่าจะป้องกันแดดได้ไม่ดีเหมือนตอนแรกที่ทา
  5. ใช้แล้วไม่มันและไม่อุดตัน : เรื่องนี้เราใส่ใจมากเลยค่ะ เพราะใครจะอยากทาครีมกันแดดแล้วหน้ามันวาว หรือเสี่ยงเป็นสิวล่ะ? เราเลยเลือกมาแต่สูตรที่ควบคุมความมันได้ดี และไม่อุดตันรูขุมขน รับรองว่าทาแล้วหน้าไม่มัน ไม่เป็นสิว ใช้ได้ทุกวันอย่างสบายใจ ไม่ต้องกังวลว่าผิวจะแย่ลงเลยค่ะ

1. MizuMi UV Water Serum SPF50+ PA++++

MizuMi UV Water Serum SPF50+ PA++++

MizuMi UV Water Serum SPF50+ PA++++ ครีมกันแดดสูตรเซรั่มสำหรับผิวแพ้ง่าย เนื้อบางเบา ไม่อุดตัน ปราศจากสารเคมี กันแดดได้เต็มประสิทธิภาพ ออกแดดได้ทันที

ประเภท แบบ Physical
เนื้อครีมกันแดด เนื้อเซรั่ม
รูปแบบบรรจุภัณฑ์ หลอด
ค่า SPF 50+
ปริมาณบรรจุ 40 กรัม

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

ครีมกันแดดของ MizuMi ตัวนี้น่าสนใจมากเลยค่ะ เพราะเป็นสูตรน้ำที่ใช้สารกันแดดแบบ Physical 100% ไม่มีสารเคมีเลย ช่วยปกป้องผิวจากรังสี UVA1, UVA2 และ UVB ได้ดีมาก ที่สำคัญคือเหมาะกับคนผิวแพ้ง่ายและเป็นสิว เพราะไม่มีส่วนผสมที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง ทั้งน้ำมัน น้ำหอม แอลกอฮอล์ พาราเบน และสีสังเคราะห์ เนื้อครีมมาในรูปแบบเซรั่มที่บางเบามาก ซึมเร็ว ไม่เหนอะหนะ ทาปุ๊บออกแดดได้เลย ไม่ต้องรอ และยังมีสาร Antioxidants ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระจากรังสี UV ที่เป็นตัวการทำให้เกิดฝ้า กระ และจุดด่างดำ ที่น่าทึ่งคือผ่านการทดสอบจากมาตรฐานยุโรปว่าป้องกันรังสี UVB ได้สูงถึง 98% เลยนะคะ แต่ต้องบอกก่อนว่าตัวนี้ไม่กันน้ำนะคะ แต่ข้อดีคือล้างออกง่ายมาก เหมาะกับใช้ทุกวัน แนะนำให้ใช้ประมาณ 2 ข้อนิ้วเพื่อการปกป้องที่ดีที่สุด เค้าออกแบบมาให้ใช้ได้กับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะคนผิวแพ้ง่ายและเด็กๆ และที่ชอบคือไม่ทิ้งคราบขาวบนหน้าเลย ถ้าใครกำลังมองหาครีมกันแดดที่อ่อนโยน ไม่ระคายเคือง เหมาะกับผิวบอบบางที่แพ้ง่าย ลองตัวนี้ดูได้เลยค่ะ

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

แบรนด์ MizuMi คิดค้นครีมกันแดดมาได้น่าสนใจมาก ๆ ค่ะ ฉีกกฎกันแดดเก่า ๆ ที่เราได้เคยได้ใช้กันมา เนื้อบางเบารูปแบบเซรั่ม โดยใช้สารกันแดดแบบ Physical 100% ที่ช่วยสะท้อนรังสี UVA และ UVB ออกจากผิวได้ดี ไม่ต้องกังวลเรื่องการซึมเข้าสู่ผิว เลยเหมาะมากสำหรับคนผิวแพ้ง่ายหรือเป็นสิว ที่พิเศษคือตัวนี้ไม่มีส่วนผสมที่ระคายเคืองผิวเลย ทั้งน้ำมัน น้ำหอม แอลกอฮอล์ พาราเบน และสีสังเคราะห์ เนื้อครีมซึมเร็ว ไม่เหนอะหนะ ทาปุ๊บออกแดดได้เลย ไม่ต้องรอให้เซ็ตตัว แถมยังมีสาร Antioxidants ที่ช่วยปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระที่ทำให้เกิดฝ้า กระ และริ้วรอยอีกด้วย ถ้าใครกำลังหาครีมกันแดดใช้ทุกวัน ที่ไม่อุดตัน ไม่ทำให้หน้ามัน และล้างออกง่าย ต้องลองตัวนี้เลยค่ะ รับรองว่าจะติดใจ!

2. La Roche Posay Anthelios UV Mune 400 Oil Control Gel Cream

La Roche Posay Anthelios UV Mune 400 Oil Control Gel Cream

ผิวมันเป็นสิวง่าย ต้องลองตัวนี้เลย! La Roche-Posay Anthelios UVMune 400 Oil Control Gel Cream SPF50+ PA++++ สูตรเจลที่ช่วยคุมมันได้ดีเยี่ยม พร้อมปกป้องผิวจากแสงแดดและมลภาวะได้ครบจบในตัวเดียว ที่สำคัญคือกันน้ำได้ด้วยนะ

ประเภท แบบ Chemical
เนื้อครีมกันแดด เนื้อเจล
รูปแบบบรรจุภัณฑ์ หลอด
ค่า SPF 50+
ปริมาณบรรจุ 50 มล.

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

ถ้าใครกำลังตามหาครีมกันแดดสำหรับคนผิวมันและเป็นสิวง่าย ต้องลองตัวนี้เลย! La Roche-Posay Anthelios UVMune 400 นี่เป็นสูตรที่ไม่มีพาราเบนและน้ำหอม เลยช่วยลดโอกาสแพ้ได้เยอะมาก ที่เด็ดสุดคือตัวนี้คุมมันได้ดีมาก มีส่วนผสมของแอร์ลิเซียมที่ช่วยดูดซับความมัน ทำให้หน้าไม่มันวาว แถมยังช่วยป้องกันสิวอุดตัน อีกทั้งผ่านการทดสอบจากผู้เชี่ยวชาญด้านผิวแล้วว่าไม่อุดตันรูขุมขนด้วย สบายใจได้เลย! ส่วนเรื่องการปกป้องผิวนี่ครบเครื่องมาก ทั้ง UVA, UVB และ Ultra-Long UVA ด้วยสารกรองแสง Mexoplex® ที่เค้าว่ากันว่าเหนือกว่ามาตรฐานยุโรปอีก แถมยังกันน้ำได้ด้วย เหมาะมากสำหรับใช้ทุกวัน เนื้อครีมก็ดีงาม บางเบา ทาง่าย ซึมไว ไม่ทิ้งคราบขาวให้รำคาญใจ และที่ชอบอีกอย่างคือแพคเกจจิ้งเค้าทำมาดี เป็นหลอดที่มีหัวปั๊มด้านล่าง ใช้ง่าย สะอาด ไม่ต้องกลัวเรื่องเชื้อโรค ใครจะเอาไปใช้ก่อนแต่งหน้าก็ได้นะ แต่อย่าลืมทาให้ทั่วทั้งหน้าและคอก่อนออกแดดนะคะ

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

หากคุณรู้ตัวว่ามีปัญหาผิวมันหรือเป็นสิวง่าย ต้องลองตัวนี้เลยค่ะ! แบรนด์ La Roche-Posay เค้าออกแบบมาเพื่อดูแลผิวที่มีปัญหาโดยเฉพาะ ช่วยคุมมันได้ดีมาก ทำให้ลดโอกาสเกิดสิวอุดตัน ยิ่งไปกว่านั้นไม่ทำให้ผิวระคายเคืองด้วยนะคะ เพราะไม่มีพาราเบนและน้ำหอมเลย เหมาะมากสำหรับคนผิวบอบบางที่แพ้ง่าย ที่สำคัญคือปกป้องผิวได้ครบทั้ง UVA/UVB รวมถึง Ultra-Long UVA อินฟราเรด และมลภาวะ ด้วยสารกรองแสงพิเศษ Mexoplex® ที่เหนือกว่ามาตรฐานยุโรปอีกนะ เนื้อครีมก็ดีงามมาก บางเบา ทาง่าย ซึมไว แถมยังกันน้ำได้ด้วย ใช้ได้ทุกวันสบายๆ ไม่ว่าจะอยู่ในร่มหรือทำกิจกรรมกลางแจ้ง

3. KA UV Whitening Soft Cream

KA UV Whitening Soft Cream

กันแดดทุกวันอย่างมั่นใจด้วย KA UV Whitening Soft Cream SPF 50+ PA++++ ครีมกันแดดเนื้อบางเบา คุมมัน ไม่เหนอะหนะ ปกป้องผิวจากแสงแดด แสงสีฟ้า และมลภาวะ พร้อมบำรุงให้ผิวชุ่มชื้นและกระจ่างใส

ประเภท แบบ Physical
เนื้อครีมกันแดด เนื้อซอฟท์ครีม
รูปแบบบรรจุภัณฑ์ หลอด
ค่า SPF 50+
ปริมาณบรรจุ 30 กรัม

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

อยากแนะนำให้รู้จักกับ KA UV Whitening Soft Cream SPF 50+ PA++++ 30 กรัม ครีมกันแดดแบรนด์คนไทยแต่มาตรฐานระดับโลก เนื้อซอฟท์ครีมสุดฮิตที่กำลังมาแรงในตอนนี้! ตัวนี้เค้าทำมาให้เข้ากับผิวหน้าโดยเฉพาะเลยนะ เนื้อครีมบางเบาสุดๆ ทาปุ๊บซึมปั๊บ ไม่เหนอะหนะติดหน้าให้รำคาญ ใช้ได้กับทุกสภาพผิวด้วย แถมยังช่วยคุมมันได้ดีเยี่ยม ไม่ต้องกลัวหน้ามันวาวระหว่างวันเลย ที่เด็ดสุดๆ คือตัวนี้มาพร้อม SPF 50+ PA++++ ที่ปกป้องผิวได้ครบจบในตัวเดียว ทั้ง UVA I, UVA II, UVB และแสงสีฟ้า มี Pollution Filter ที่ช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะ ป้องกันริ้วรอยจากแสง IR และ Blue Light ได้ด้วยนะ แถมยังใส่ Aqua Aloe Vera Extract มาให้ด้วย ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น สบายผิว ไม่แห้งกร้านเวลาเจอแดดแรงๆ ส่วนในเรื่องการบำรุงก็ไม่น้อยหน้าใครเลย มีทั้ง Vitamin E ที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ และ Vitamin B3 ที่ช่วยให้ผิวกระจ่างใสขึ้น เนื้อครีมซึมง่าย ไม่ทิ้งคราบมันบนใบหน้า สาวๆ จะใช้เป็นเบสก่อนแต่งหน้าก็เวิร์คมากๆ

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

ต้องบอกเลยว่า KA UV Whitening Soft Cream SPF 50+ PA++++ เป็นครีมกันแดดที่น่าสนใจมากๆ เพราะนอกจากจะควบคุมความมันได้ดีแล้ว ยังมีส่วนผสมบำรุงผิวที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและกระจ่างใสด้วยนะ ที่เด็ดสุดๆ คือมี Pollution Filter ที่ช่วยปกป้องผิวจากรังสี UVA, UVB, แสงสีฟ้า และมลภาวะต่างๆ ที่อาจทำให้ผิวหมองคล้ำและเกิดริ้วรอยก่อนวัยได้ แถมยังใส่บสารบำรุงผิวมาให้จุก ๆ อีกด้วย ช่วยให้ผิวสบายๆ ไม่แสบร้อนเวลาโดนแดดหรือฝุ่นควัน ที่สำคัญคือไม่มีส่วนผสมที่อุดตันรูขุมขน เนื้อครีมบางเบา เรียกได้ว่าเป็นครีมกันแดดที่ตอบโจทย์ทั้งเรื่องการปกป้องผิวและการบำรุงผิวไปพร้อมๆ กันเลยล่ะ

4. Biore UV Aqua Rich Watery Essence

Biore UV Aqua Rich Watery Essence

Biore UV อควา ริช วอเทอรี่ เอสเซนส์ SPF50+ PA++++ ครีมกันแดดเนื้อบางเบา ซึมไวแบบน้ำ ปกป้องผิวจากแดดได้ครบ ไม่ต้องกลัวเหงื่อออก แถมยังให้ความชุ่มชื้น ผิวไม่แห้งตึง

ประเภท แบบ Physical
เนื้อครีมกันแดด เนื้อเอสเซนส์
รูปแบบบรรจุภัณฑ์ หลอด
ค่า SPF หลอด
ปริมาณบรรจุ 50 กรัม

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

Biore แบรนด์ระดับโลกจากประเทศญี่ปุ่น ออกแบบครีมกันแดดสูตรน้ำที่เนื้อบางเบามากๆ เกลี่ยง่ายและซึมไวสุดๆ ที่เจ๋งคือมีเทคโนโลยี Micro Defense กับ UV Aqua Jelly Capsule ที่ทำให้ครีมกระจายตัวทั่วหน้าทันทีที่ทา ปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB ได้ดีเลย ด้วยค่า SPF50+ และ PA++++ ช่วยป้องกันผิวไม่ให้หมองคล้ำ ห่างไกลจากจุดด่างดำ แถมยังช่วยชะลอริ้วรอยที่เกิดจากรังสี UVA ด้วยนะ ที่เราชอบมากๆ คือกันน้ำกันเหงื่อได้ดี ติดทนนาน แม้แต่งหน้าก็ทาทับได้สบายๆ ไม่ทำให้เมคอัพเสียหายเลย ส่วนเรื่องการบำรุงก็ไม่น้อยหน้าใครนะคะ มีทั้ง Hyaluronic Acid และ Royal Jelly Extract ที่ช่วยเติมความชุ่มชื้น พร้อมกับ Mixed Citrus Essence จากสารสกัดเกรปฟรุต, ส้ม, และมะนาว ที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื่นไม่แห้งกร้าน และที่สำคัญคือผ่านการทดสอบการแพ้มาแล้วอีกด้วยค่ะ

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

ถ้าพูดถึงครีมกันแดดที่ดังมากๆ ตัวนี้ต้องยกให้ Biore UV Aqua Rich เลยค่ะ เนื้อบางเบาแบบน้ำๆ ทาปุ๊บซึมปั๊บ ไม่ต้องกลัวหน้าเยิ้มเลย ที่เค้าว่ากันว่าเจ๋งสุดๆ ก็เพราะมีเทคโนโลยี Micro Defense กับ UV Aqua Jelly Capsule ที่ช่วยให้ครีมกระจายตัวทั่วหน้าได้ดีมาก ปกป้องผิวจากแสงแดดได้ครบๆ ทั้ง UVA และ UVB นอกจากกันแดดแล้ว ตัวนี้ยังมีส่วนผสมดีๆ อย่าง Hyaluronic Acid กับ Royal Jelly Extract ที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น นุ่มนวล แถมยังมี Mixed Citrus Essence จากผลไม้ตระกูลส้มที่ช่วยบำรุงผิวไปในตัว

5. Clear Nose UV Sun Serum

Clear Nose UV Sun Serum

Clear Nose UV Sun Serum SPF50+ PA++++ กันแดดเนื้อเซรั่มสุดละมุน ที่จะมาช่วยดูแลผิวของคุณแบบครบๆ ทั้งปกป้องผิวจากแสงแดด คุมมัน ลดสิว พร้อมบำรุงผิวให้แข็งแรงและชุ่มชื้น ใช้แล้วหน้าไม่มัน ไม่อุดตัน แถมยังทาง่าย ซึมไวด้วยนะ

ประเภท แบบ Hybrid
เนื้อครีมกันแดด เนื้อเซรั่ม
รูปแบบบรรจุภัณฑ์ ขวด
ค่า SPF 50+
ปริมาณบรรจุ 80 มล.

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

Clear Nose UV Sun Serum SPF50+ PA++++ นี่เป็นกันแดดสูตรไฮบริดที่น่าสนใจมากๆ เลยค่ะ ช่วยปกป้องผิวจากรังสี UVA1, UVA2 และ UVB ได้ครบจบ แถมยังควบคุมความมันได้ดี ลดโอกาสเกิดสิว ไม่อุดตันรูขุมขน เนื้อบางเบาซึมไวแบบที่สาวๆ ชอบ ไม่เหนอะหนะ ไม่ทิ้งคราบขาวให้กวนใจด้วยนะคะ ที่พิเศษไปกว่านั้นคือมีสารบำรุงผิวดีๆ อย่าง Calendula, Grape Seed และ Centella Extract ที่ช่วยให้ผิวแข็งแรงและช่วยปลอบประโลมผิวไปในตัว เหมาะมากสำหรับคนผิวแพ้ง่ายหรือเป็นสิวง่าย เพราะไม่มีสารที่จะมาทำร้ายผิวเลย สาวๆ จะแต่งหน้าก็ไม่ต้องกังวล เพราะทาทับเมคอัพได้สบายๆ ไม่ทำให้หน้าลอก แถมกันน้ำได้ด้วยนะ ใช้ได้ทุกวันไม่มีเบื่อ ตัวนี้มาในขนาด 80 มิลลิลิตร และมีเลขที่ใบรับแจ้ง 20-1-6400045315 ด้วยค่ะ

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

เป็นครีมกันแดดที่น่าสนใจมากๆ เลยค่ะ เพราะเป็นสูตรไฮบริดที่เข้าใจคนผิวแพ้ง่ายและเป็นสิวง่ายมากๆ ตัวนี้เค้าออกแบบมาให้ควบคุมความมันได้ดี ไม่อุดตัน แถมยังช่วยลดปัญหาสิวได้ด้วยนะคะ ที่ชอบมากๆ คือเนื้อเซรั่มบางเบาสุดๆ ซึมซาบไวแบบที่สาวๆ ต้องร้องว้าว! ไม่เหนียวเหนอะหนะ และไม่ทิ้งคราบขาวให้กวนใจด้วย ปกป้องผิวได้ครบจบในตัวเดียวด้วย SPF50+ PA++++ แถมยังมีสารบำรุงดีๆ อย่าง Calendula, Grape Seed และ Centella Extract ที่ช่วยให้ผิวแข็งแรงและปลอบประโลมผิวไปในตัว

6. Her Hyness Royal Hya Water Sunscreen

Her Hyness Royal Hya Water Sunscreen

Her Hyness Royal Hya Water Sunscreen SPF50+ PA++++ กันแดดสูตรน้ำที่ใช้แล้วจะหลงรัก! เนื้อบางเบาแต่ปกป้องผิวได้ยาวนาน ทาแล้วไม่เหนอะ ไม่เป็นคราบขาว พร้อมบำรุงผิวให้ชุ่มชื่นและแข็งแรง

ประเภท แบบ Hybrid
เนื้อครีมกันแดด เนื้อน้ำ
รูปแบบบรรจุภัณฑ์ หลอด
ค่า SPF 50+
ปริมาณบรรจุ 30 มล.

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

ครีมกันแดดตัวนี้เป็นสูตรน้ำที่เนื้อบางเบาสุดๆ เลยค่ะ ทาปุ๊บซึมปั๊บ ไม่เหนอะหนะผิวเลย แถมยังแต่งหน้าทับได้แบบไม่มีปัญหา ที่เด็ดสุดคือใช้เทคโนโลยี Encapsulated UV Filter ที่ช่วยให้ครีมปกป้องผิวจากรังสี UVA, UVB และรังสีอินฟราเรดได้ยาวนานกว่า 10 เท่าเลยนะคะ สำหรับใครที่กังวลเรื่องความปลอดภัย ตัวนี้ผ่านการทดสอบมาแล้วทั้ง In Vivo (ทดสอบกับอาสาสมัครจริงๆ) และ In Vitro ตามมาตรฐานสากล ISO เลยค่ะ แถมยังมีสารบำรุงดีๆ อย่างไฮยาลูรอนิก ไนอะซินาไมด์ และไฟโตพลาเซนต้า ที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและต้านอนุมูลอิสระด้วย ไม่มีสารที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองถึง 18 ชนิดเลย ไม่ว่าจะเป็นแอลกอฮอล์ น้ำหอม ซิลิโคน หรือพาราเบน ผ่านการทดสอบจากแพทย์ผิวหนังแล้วว่าไม่ทำให้เกิดสิว เลยใช้ได้กับทุกสภาพผิว แม้แต่คนผิวแพ้ง่ายก็ใช้ได้สบายๆ ค่ะ

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

Her Hyness Royal Hya Water Sunscreen SPF50+ PA++++ เป็นครีมกันแดดสูตรน้ำ เนื้อสัมผัสบางเบาแบบที่สาวๆ ชอบ ไม่เหนอะหนะ และที่สำคัญคือแต่งหน้าทับได้สบายๆ ไม่ทำให้เมคอัพเป็นคราบเลย ที่เด็ดสุดๆ คือมี Encapsulated UV Filter ที่ช่วยให้ครีมปกป้องผิวจากรังสี UVA, UVB และรังสีอินฟราเรดได้ยาวนานถึง 10 เท่าเลยนะคะ ผ่านการทดสอบมาแล้วทั้ง In Vivo และ In Vitro ตามมาตรฐานสากล แล้วที่ชอบมากๆ อีกอย่างคือไม่มีสารที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองถึง 18 ชนิดเลย ไม่ว่าจะเป็นแอลกอฮอล์ น้ำหอม หรือซิลิโคน เลยใช้ได้กับทุกสภาพผิว แม้แต่คนผิวแพ้ง่ายก็ใช้ได้จ้า

7. Banana Boat Aqua Long Wearing Moisture UV Protection

Banana Boat Aqua Long Wearing Moisture UV Protection

Banana Boat Aqua ครีมกันแดดตัวเด็ดที่ให้ทั้ง SPF50+ PA++++ เนื้อบางเบาสบายผิวมากๆ ที่สำคัญคือกันน้ำกันเหงื่อได้ดีเยี่ยม เหมาะมากสำหรับคนที่ชอบทำกิจกรรมกลางแจ้ง แถมยังช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวโดยไม่ทำให้หน้ามันหรืออุดตันด้วยนะ

ประเภท แบบ Chemical
เนื้อครีมกันแดด เนื้อครีม
รูปแบบบรรจุภัณฑ์ หลอด
ค่า SPF 50+
ปริมาณบรรจุ 50 มล.

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

คุณกำลังมองหาครีมกันแดดตัวเด็ด ต้องลอง Banana Boat Aqua Long Wearing Moisture UV Protection Sunscreen นะคะ! ตัวนี้มาในรูปแบบเนื้อครีมผสมน้ำที่บางเบาสุดๆ ซึมซาบไวแบบไม่ทิ้งความเหนอะหนะให้รำคาญใจเลย ผลิตภัณฑ์ใส่ Hyaluronic Acid ที่ช่วยล็อคความชุ่มชื้นให้ผิวสวยเปล่งปลั่ง และที่สำคัญคือไม่มีสารที่จะมาอุดตันรูขุมขนอย่าง Oxybenzone, Paraben, น้ำมัน หรือแอลกอฮอล์ด้วยนะ ใช้ได้ทุกวันสบายๆ แถมถ้าใครชอบทำกิจกรรมกลางแจ้งหรือว่ายน้ำ ตัวนี้ก็รับมือได้ดีเพราะกันน้ำกันเหงื่อได้ยาวนานถึง 80 นาทีเลยล่ะ และด้วยค่า SPF50+ ช่วยปกป้องผิวจากรังสี UVB ที่ทำให้ผิวคล้ำเสียและไหม้แดด ส่วน PA++++ ก็ช่วยต้านรังสี UVA ที่เป็นตัวการทำให้เกิดริ้วรอย ฝ้า กระ จุดด่างดำ ที่ชอบมากๆ คือเนื้อครีมไม่ทิ้งคราบขาว แถมแต่งหน้าทับได้ปังมาก!

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

ครีมกันแดด Banana Boat Aqua เค้าทำออกมาได้ดีมากเลยค่ะ เนื้อครีมบางเบาแบบสูตรน้ำ ทาปุ๊บซึมปั๊บ ไม่เหนอะหนะติดหน้าเลย ที่เด็ดสุดๆ คือเหมาะมากสำหรับคนชอบทำกิจกรรมกลางแจ้ง ด้วย SPF50+ PA++++ ที่ปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB ได้เต็มๆ แถมยังกันน้ำกันเหงื่อได้ยาวๆ ถึง 80 นาทีด้วยนะคะ นอกจากนี้ยังมี Hyaluronic Acid ที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวด้วย และที่ชอบมากๆ คือเค้าไม่ใส่สาร Oxybenzone, Paraben, น้ำมัน หรือแอลกอฮอล์เลย ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องรูขุมขนอุดตันหรือระคายเคือง เนื้อครีมเกลี่ยง่าย ไม่ทิ้งคราบขาว ใช้ได้ทุกวันสบายๆ เลยค่ะ

8. Ingu Super - Light Soothing Sunscreen

Ingu Super - Light Soothing Sunscreen

Ingu ซุปเปอร์-ไลท์ ซูทติ้ง ซันสกรีน SPF50+ PA++++ ครีมกันแดดเนื้อบางเบาที่ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดและแสงสีฟ้าได้อย่างครบถ้วน พร้อมดูแลผิวให้แข็งแรง ลดการระคายเคือง และช่วยให้ผิวรู้สึกสบายตลอดวัน

ประเภท แบบ Hybrid
เนื้อครีมกันแดด เนื้อครีม
รูปแบบบรรจุภัณฑ์ หลอด
ค่า SPF 50+
ปริมาณบรรจุ 30 มล.

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

ขอแนะนำให้รู้จักกับ INGU Super-Light Soothing Sunscreen SPF50+ PA++++ ครีมกันแดดตัวเด็ดที่มาพร้อมกับสูตรไฮบริด 5x Hybrid Filters ผสมผสานระหว่างสารกันแดดแบบ Chemical และ Mineral เพื่อปกป้องผิวจากรังสี UVA I, UVA II และ UVB ได้อย่างครบถ้วน เนื้อครีมบางเบาสบายผิว ไม่เหนียวเหนอะหนะ ไม่อุดตันรูขุมขนค่ะ ที่เด็ดไปกว่านั้นคือมีส่วนผสมของ Encapsulated Cica หรือสารสกัดจากใบบัวบกในรูปแบบแคปซูลนาโน ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ลดการอักเสบ และบำรุงผิวให้แข็งแรง พร้อมด้วย Liposhield™ HEV Melanin ที่ช่วยปกป้องผิวจากแสงสีฟ้าที่มาจากแสงแดดอีกด้วย ทำให้เหมาะมากสำหรับคนผิวแพ้ง่าย ใช้ได้ทุกวัน ด้วยสูตรที่บางเบา เกลี่ยง่าย ซึมไว ไม่ทิ้งคราบขาว ไม่มันเยิ้ม ช่วยปกป้องและบำรุงผิวให้แข็งแรงในตัวเดียว

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

ครีมกันแดดตัวนี้เป็นสูตรไฮบริดที่น่าสนใจมากๆ เพราะผสมผสานทั้งสารกันแดดแบบ Chemical และ Mineral ที่ช่วยปกป้องผิวจากรังสี UVA I, UVA II และ UVB ได้ครบถ้วน พร้อมด้วยสารสกัดจากใบบัวบกในรูปแบบแคปซูล หรือที่เรียกว่า Encapsulated Cica ที่ช่วยดูแลผิวได้หลายด้าน ทั้งต้านอนุมูลอิสระ ลดการอักเสบ และปลอบประโลมผิวให้สบาย ที่พิเศษไปกว่านั้นคือมี Liposhield™ HEV Melanin ที่ช่วยปกป้องผิวจากแสงสีฟ้า ส่วนเนื้อครีมก็ใช้งานง่าย บางเบา ซึมไว ไม่เหนอะหนะ ไม่อุดตัน ใครที่ผิวแพ้ง่ายก็ใช้ได้สบายๆ เลยค่ะ

9. L'Oreal Paris UV Defender Invisible Resist Daily Sunscreen

L_Oreal Paris UV Defender Invisible Resist Daily Sunscreen

L'Oreal Paris UV Defender ตัวใหม่ล่าสุด ที่มาในรูปแบบเซรั่มเนื้อบางเบา ซึมซาบไวแบบไม่ต้องรอ ควบคุมความมันได้ดีเยี่ยม ไม่เหนอะหนะระหว่างวัน พร้อมปกป้องผิวจากแสงแดดด้วย SPF50+ PA++++

ประเภท แบบ Chemical
เนื้อครีมกันแดด เนื้อฟลูอิด
รูปแบบบรรจุภัณฑ์ ขวด
ค่า SPF 50+
ปริมาณบรรจุ 50 มล.

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

ครีมกันแดดจาก L’Oreal Paris ตัวนี้เป็นสูตรใหม่ล่าสุดที่ได้รับการพัฒนาอย่างพิถีพิถันเพื่อปกป้องผิวจากทั้งรังสี UVA, UVB และมลภาวะได้อย่างครอบคลุมและมีประสิทธิภาพสูงสุด ด้วย SPF50+ PA++++ ที่ทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพในการปกป้องผิว พร้อมด้วยคุณสมบัติพิเศษที่ช่วยลดเลือนริ้วรอย ฝ้า กระ และจุดด่างดำ ส่งผลให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัด สิ่งที่น่าประทับใจเป็นพิเศษคือการใช้เทคโนโลยี Netlock ที่ล้ำสมัย ซึ่งช่วยให้เนื้อครีมเกาะติดผิวได้อย่างแนบสนิทและยาวนาน โดยไม่ก่อให้เกิดความรู้สึกเหนอะหนะหรือคราบขาวบนผิวแต่อย่างใด ด้วยนวัตกรรม Micro-Droplets ที่ทำให้เนื้อครีมซึมซาบเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังมีคุณสมบัติกันน้ำที่ช่วยให้การปกป้องผิวคงอยู่ได้ยาวนานยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มสาร Airlicium ที่ทรงประสิทธิภาพในการควบคุมความมันบนใบหน้า ช่วยให้ผิวดูแมตต์สวยอย่างเป็นธรรมชาติ ปราศจากความมันวาวตลอดวัน

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

กันแดดเนื้อเซรั่มของแบรนด์ดังระดับโลกอย่างลอรีอัล ปารีส UV Defender ใหม่ล่าสุดนี้ก็ไม่ทำให้ผิดหวังค่ะ ผลิตภัณฑ์เนื้อบางเบาที่ปกป้องผิวจากแสงแดดได้สุดๆ ด้วย SPF50+ PA++++ เลยค่ะ ที่สำคัญคือช่วยลดปัญหาริ้วรอย ฝ้า กระ จุดด่างดำ ได้ด้วยนะ ด้วยเทคโนโลยี Daily Broad-Spectrum ที่ปกป้องผิวได้ยาวนาน แถมยังมีเทคโนโลยี Netlock ที่ทำให้เนื้อครีมติดทนดี ไม่เหนอะหนะ ซึมไวแบบไม่ต้องรอ และไม่ทิ้งคราบขาวให้กวนใจด้วย ที่ชอบมากๆ คือเนื้อครีมเป็น Micro-Droplets ที่ซึมซาบไวมาก มี Airlicium ที่ช่วยคุมมันได้ดีเยี่ยม หน้าดูแมตต์สวย เรียบเนียน กันน้ำได้ด้วยนะคะ แถมยังช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะ เหมาะมากสำหรับใช้ทุกวัน ใครที่ชอบแต่งหน้าก็วางใจได้เลย เพราะไม่ทำให้รองพื้นเป็นคราบเลยค่ะ

10. Eucerin Sun Dry Touch Acne Oil Control

Eucerin Sun Dry Touch Acne Oil Control

ครีมกันแดดที่คุมมันได้ดีและไม่ทำให้เป็นสิวต้อง Eucerin Sun Dry Touch Acne Oil Control SPF50+ PA++++ น่าจะตอบโจทย์คุณ! ด้วยเนื้อสัมผัสที่แมตต์ ช่วยคุมมันยาวนานถึง 12 ชั่วโมง ไม่ต้องกังวลเรื่องหน้ามันระหว่างวัน กันน้ำกันเหงื่อได้ดี เหมาะมากสำหรับคนผิวแพ้ง่ายและเป็นสิวง่าย

ประเภท แบบ Chemical
เนื้อครีมกันแดด เนื้อเจลครีม
รูปแบบบรรจุภัณฑ์ ขวด
ค่า SPF 50+
ปริมาณบรรจุ 50 มล.

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

ถ้าคุณกำลังมองหาครีมกันแดดสำหรับคนเป็นสิวและผิวแพ้ง่าย Eucerin Sun Dry Touch Acne Oil Control SPF50+ PA++++ บรรจุ 50 มล.น่าจะเป็นตัวเลือกที่ใช่เลย! ตัวนี้เค้าออกแบบมาให้เป็นเนื้อเจลครีมที่ซึมซาบง่าย ปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB ได้ดีมาก แถมยังช่วยลดฝ้าแดดสะสมด้วยนะ ด้วยเทคโนโลยี Broad-Spectrum Oxidant Filter ที่ซึมลึกถึงผิวชั้นใน สิ่งที่ทำให้ตัวนี้พิเศษคือมีส่วนผสมของ L-Carnitine ที่ช่วยคุมมันได้ยาวๆ ถึง 12 ชั่วโมงเลย ไม่ต้องกังวลเรื่องหน้ามันระหว่างวัน และที่สำคัญคือช่วยลดโอกาสเกิดสิวอุดตันด้วย เอาไปเล่นกีฬากลางแจ้งได้สบายๆ เพราะกันน้ำกันเหงื่อได้ดีมาก เนื้อครีมเป็นแบบแมตต์ แห้งไว ไม่ทิ้งคราบขาวน่ารำคาญ และไม่ทำให้หน้ามันเยิ้มด้วย ตัวขวดมาพร้อมหัวปั๊มแบบสุญญากาศที่ใช้ง่าย สะอาด ปลอดภัย

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

ครีมกันแดดสำหรับคนเป็นสิวและผิวแพ้ง่าย ต้องลองตัวนี้เลย! Eucerin Sun Dry Touch Acne Oil Control SPF50+ PA++++ มาพร้อมกับ Broad-Spectrum Oxidant Filter ที่ช่วยปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB ได้อย่างครอบคลุม ช่วยลดฝ้าแดดที่น่ารำคาญ และปกป้องผิวจากแสงแดดที่แรงๆ ได้ดีเลยล่ะ ที่เด็ดสุดๆ คืช่วยคุมมันได้ยาวถึง 12 ชั่วโมง ไม่ต้องกังวลว่าหน้าจะมันวาวระหว่างวัน แถมยังช่วยป้องกันสิวอุดตันด้วยนะ เนื้อครีมบางเบามาก ซึมไวแบบไม่ทิ้งคราบขาว หน้าดูแมตต์สวย ใช้ได้ทั้งวันสบายๆ แม้จะต้องเล่นกีฬากลางแจ้งก็เอาอยู่ เพราะกันน้ำกันเหงื่อได้ดีมาก

มารู้จักครีมกันแดด 2 แบบที่คนส่วนใหญ่ใช้กัน

มารู้จักครีมกันแดด 2 แบบที่คนส่วนใหญ่ใช้กัน
เคยสงสัยกันไหมคะว่าทำไมครีมกันแดดถึงมีหลายแบบ? จริงๆ แล้วครีมกันแดดที่เราเห็นกันทั่วไปมี 2 แบบหลักๆ เลยค่ะ คือ Physical Sunscreen กับ Chemical Sunscreen แต่ละแบบก็มีข้อดีข้อเสียต่างกันไป วันนี้เราเลยอยากมาแชร์ให้ฟังว่าแต่ละแบบเป็นยังไง จะได้เลือกใช้ให้เหมาะกับตัวเองกันนะคะ

Physical Sunscreen ปกป้องผิวด้วยการสะท้อนแสง

ถ้าพูดถึง Physical Sunscreen หรือที่เรียกอีกชื่อว่า Mineral Sunscreen นี่เป็นครีมกันแดดที่น่าสนใจมากๆ เลยค่ะ เพราะใช้สารจากธรรมชาติอย่าง ซิงค์ออกไซด์ และ ไททาเนียมไดออกไซด์ มาเป็นตัวปกป้องผิวเรา วิธีการทำงานของมันก็เหมือนกับการสร้างเกราะป้องกันบนผิวเลยล่ะค่ะ คอยสะท้อนรังสี UVA และ UVB ไม่ให้เข้ามาทำร้ายผิวของเราได้ ข้อดีของ Physical Sunscreen: เป็นตัวเลือกที่เหมาะมากๆ สำหรับคนผิวแพ้ง่าย หรือผิวบอบบางนะคะ เพราะไม่ซึมลงผิว ช่วยลดการระคายเคืองได้ดี แถมพอทาปุ๊บก็ปกป้องผิวได้เลย ไม่ต้องรอให้ซึมเข้าผิวด้วย ที่สำคัญคือปลอดภัยมากๆ เลยสำหรับเด็กๆ หรือคนที่ผิวบอบบางแพ้ง่าย ข้อเสีย : ก็จะมีปัญหาเรื่องคราบขาวๆ บนผิวนิดหน่อย โดยเฉพาะคนผิวเข้มอาจจะเห็นชัดหน่อย แล้วก็เนื้อครีมค่อนข้างเหนียวหนืดกว่าแบบอื่นๆ ด้วยค่ะ

Chemical Sunscreen กันแดดเนื้อบางเบา ซึมซาบเร็ว

กันแดดเคมิคอลที่มีส่วนผสมของสารสังเคราะห์พิเศษ อย่าง Oxybenzone, Avobenzone หรือ Octinoxate ที่ทำหน้าที่เหมือนฟองน้ำคอยดูดซับรังสี UV แล้วแปลงเป็นความร้อนปล่อยออกไป ไม่ให้ทำร้ายผิวเราได้ จุดเด่นของ Chemical Sunscreen : เนื้อบางเบาสบายผิว ซึมซาบไวแบบไม่เหนอะหนะ ไม่ทิ้งคราบขาวให้กวนใจ เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับสาวๆ ที่ไม่ชอบความยุ่งยาก แถมยังมีสูตรให้เลือกหลากหลายตามความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นแบบกันน้ำสำหรับคนชอบว่ายน้ำ สูตรควบคุมความมันสำหรับคนผิวมัน หรือแบบเพิ่มความชุ่มชื้นสำหรับคนผิวแห้ง ข้อจำกัด : อาจจะไม่เหมาะกับคนที่ผิวบอบบางหรือแพ้ง่าย เพราะมีโอกาสระคายเคืองได้ และต้องทาทิ้งไว้สักพัก (ประมาณ 15-20 นาที) ก่อนออกแดด เพื่อให้ครีมได้ทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ

แล้วควรเลือกแบบไหนดี?

ถ้าให้เลือกระหว่าง Physical กับ Chemical Sunscreen ก็ต้องดูที่ตัวเราเองนะคะว่าเหมาะกับแบบไหน ถ้าใครผิวแพ้ง่าย หรืออยากได้ครีมกันแดดที่อ่อนโยนๆ แนะนำ Physical Sunscreen เลยค่ะ เพราะไม่ซึมลงผิว ช่วยลดการระคายเคืองได้ดี แต่ถ้าใครชอบครีมกันแดดที่ทาง่าย เบาสบายผิว ไม่ทิ้งคราบขาว Chemical Sunscreen น่าจะตอบโจทย์มากกว่านะคะ นอกจากปกป้องผิวจากแดดแล้ว เรื่องผิวหมองคล้ำก็สำคัญไม่แพ้กันเลยค่ะ ใครที่กำลังกังวลเรื่องฝ้า กระ รอยดำ ลองมองหาตัวช่วยเพิ่มเติมดูนะคะ อย่าง ครีมทาฝ้าแบรนด์คุณภาพ ที่ช่วยให้ผิวดูสม่ำเสมอขึ้น หรือจะลองเซรั่มวิตามินซียี่ห้อไหนดี ที่ช่วยให้หน้าดูกระจ่างใสขึ้นก็ได้ค่ะ ในรีวิวของเรา เราได้รวบรวมทั้งกันแดดทั้งสองประเภทมาให้เลือกกันเยอะเลยค่ะ เพราะจริงๆ แล้วไม่มีสูตรไหนที่ดีที่สุดหรอกนะคะ แต่มีสูตรที่ใช่กับเราที่สุดต่างหาก ไม่ว่าจะอยากได้แบบอ่อนโยน, คุมมัน, กันน้ำ หรือจะใช้คู่กับสกินแคร์ตัวอื่นๆ ก็เลือกให้เข้ากับผิวและไลฟ์สไตล์ของเราได้เลยค่ะ

มาดูวิธีทาครีมกันแดดให้ปัง! ปกป้องผิวได้เต็มที่

มาดูวิธีทาครีมกันแดดให้ปัง! ปกป้องผิวได้เต็มที่
ใครว่าทาครีมกันแดดเป็นเรื่องยุ่งยาก? จริงๆ แล้วมีเทคนิคนะคะ เพราะหลายคนอาจจะไม่รู้ว่าทาไมทาครีมกันแดดแล้วยังเห็นผิวคล้ำ หรือยังมีฝ้ากระผุดขึ้นมา สาเหตุหลักๆ เลยก็คือ ทาไม่ถูกวิธี หรือใช้น้อยเกินไป นั่นเอง วันนี้เรามาทำความเข้าใจกันให้ชัดๆ ดีกว่าค่ะ

1. ทาให้พอดี ไม่มาก ไม่น้อย

ถ้าใครเคยสงสัยว่าต้องทาครีมกันแดดปริมาณเท่าไหร่ดี เรามีเทคนิคง่ายๆ มาบอก! แค่บีบครีมออกมา ยาวประมาณ 2 ข้อนิ้ว (หรือขนาดเท่าเหรียญ 10 บาท) ก็พอดีสำหรับทาหน้าและคอแล้วค่ะ แนะนำให้แบ่งทาเป็น 5 จุด คือ หน้าผาก แก้มซ้าย-ขวา จมูก และคาง เพื่อให้ทั่วถึงทุกส่วน ถ้าทาน้อยกว่านี้ ประสิทธิภาพการป้องกันแดดก็จะลดลงไปด้วย แล้วผิวเราอาจจะโดนแดดเผาโดยไม่รู้ตัวนะคะ

2. ทายังไงให้กันแดดทำงานได้เต็มที่

รู้มั้ยว่าครีมกันแดดต้องการเวลาในการเซ็ตตัวนะ ถ้าอยากให้ได้ผลดีที่สุด แนะนำให้ทาก่อนออกจากบ้าน 15-30 นาที เพื่อให้ครีมได้สร้างชั้นป้องกันแสงแดดอย่างเต็มที่ แล้วถ้าต้องอยู่กลางแจ้งนานๆ หรือทำกิจกรรมข้างนอก อย่าลืม ทาซ้ำทุก 2-3 ชั่วโมง ด้วยนะ โดยเฉพาะหลังเช็ดหน้าหรือเหงื่อออกเยอะๆ จะได้ปกป้องผิวได้ตลอดทั้งวันด้วยค่ะ

3. จุดที่คนมักลืมทากันแดด

รู้มั้ยว่าหลายคนชอบทากันแดดแค่บนใบหน้า แต่จริงๆ แล้วยังมีจุดสำคัญที่เราต้องดูแลอีกนะ อย่าง หู ลำคอ ริมฝีปาก และหลังมือ พวกนี้ก็โดนแดดโดยตรงเหมือนกัน บางทียังโดนมากกว่าที่อื่นด้วยซ้ำ โดยเฉพาะหลังมือที่ต้องเจอแดดตลอดตอนขับรถหรือเดินข้างนอก ถ้าเราลืมทากันแดดตรงนี้ นอกจากจะทำให้ผิวคล้ำไม่เท่ากันแล้ว ยังเสี่ยงเกิดริ้วรอยก่อนวัยอีกด้วย ไม่อยากให้ผิวดูด่างๆ ดำๆ ก็อย่าลืมทากันแดดให้ครบทุกจุดกันนะคะ

4. เคล็ดลับเลือกกันแดดให้เข้ากับไลฟ์สไตล์

ถ้าอยากได้กันแดดที่ใช้แล้วชอบ ลองมองหาตัวที่เนื้อบางเบา ซึมซาบไว ไม่เหนอะหนะผิว แถมยังทนแดดทนเหงื่อด้วยนะคะ ในรีวิวนี้เราเลยรวบรวมกันแดดมาให้เลือกหลากหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นสูตรสำหรับคนผิวมัน ผิวแห้ง ผิวบอบบาง หรือแม้แต่สูตรกันน้ำสำหรับคนชอบทำกิจกรรมกลางแจ้ง เมื่อเราอ่านกันมาตรงนี้ หลาย ๆ ก็เรื่มจะพอเข้าใจว่าการใช้ครีมกันแดดไม่ได้ยากอย่างที่คิดใช่ไหมคะ แค่เราทาในปริมาณที่พอเหมาะ ทาให้ทั่วทุกจุด และอย่าลืมทาซ้ำบ้างถ้าต้องอยู่กลางแจ้งนานๆ แค่นี้ก็ช่วยป้องกันปัญหาผิวหมองคล้ำ ฝ้า กระ และริ้วรอยได้แล้วค่ะเพื่อน ๆ

เรื่องที่ต้องรู้! SPF กับ PA สำคัญแค่ไหนในการเลือกกันแดด

เรื่องที่ต้องรู้! SPF กับ PA สำคัญแค่ไหนในการเลือกกันแดด
เชื่อว่าหลายคนคงเคยเห็นตัวเลขพวกนี้บนขวดครีมกันแดดกันใช่ไหมคะ? จริงๆ แล้ว SPF และ PA เนี่ย สำคัญมากๆ เลยนะคะ เพราะเป็นตัวบอกว่ากันแดดตัวนั้นๆ จะปกป้องผิวเราได้ดีแค่ไหน ถ้าเลือกไม่ถูก ผิวก็อาจจะหมองคล้ำ เป็นฝ้า กระ จุดด่างดำ หรือมีริ้วรอยก่อนวัยได้ มาทำความรู้จักกับสองตัวนี้ให้มากขึ้นกันดีกว่าค่ะ

SPF คืออะไร? ทำไมต้องดูตัวเลขนี้ก่อนซื้อครีมกันแดด

SPF เป็นตัวบอกว่าครีมกันแดดของเราจะปกป้องผิวจากรังสี UVB ได้ดีแค่ไหน รังสีตัวนี้แหละที่ทำให้ผิวเราไหม้แดด คล้ำเสีย และอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อมะเร็งผิวหนังได้ด้วยนะ แล้วเราควรเลือกค่า SPF เท่าไหร่ดีล่ะ?
  • ถ้าทำงานออฟฟิศ หรือไม่ค่อยได้เจอแดดมาก แนะนำให้ใช้ SPF 30 ขึ้นไป ก็พอ
  • แต่ถ้าต้องออกไปเที่ยว เล่นกีฬา หรือทำกิจกรรมกลางแจ้ง ควรใช้ SPF 50+ เพื่อปกป้องผิวได้นานขึ้น
แต่อย่าเข้าใจผิดนะคะว่าทาครั้งเดียวแล้วจะอยู่ได้ทั้งวัน ถึงจะเลือก SPF สูงแค่ไหน ก็ยังต้องทาซ้ำระหว่างวันอยู่ดี เพราะเหงื่อหรือการเช็ดหน้าก็ทำให้ประสิทธิภาพลดลงได้

PA คืออะไร? แล้วสำคัญยังไงนะ

ถ้าพูดง่ายๆ ค่า PA ก็คือตัวบอกว่าครีมกันแดดของเราจะปกป้องผิวจากรังสี UVA ได้ดีแค่ไหน รังสีตัวนี้แหละที่แอบแทรกซึมลงไปถึงชั้นผิวด้านใน ไปทำลายคอลลาเจน ทำให้เกิดริ้วรอย ฝ้า จุดด่างดำได้ แล้วเราควรเลือกแบบไหนดีล่ะ?
  • PA+++ ขึ้นไป เป็นค่าที่แนะนำ โดยเฉพาะคนที่ผิวแพ้แดดง่ายๆ
  • เลือกให้เหมาะกับการใช้งานครีมกันแดดที่มีทั้ง SPF และ PA สูงๆ จะช่วยปกป้องผิวได้ดี โดยที่เราไม่ต้องทาหนาๆ ให้รำคาญ ในรีวิวนี้เรามีแนะนำหลายแบบเลย ทั้งสำหรับใช้ในชีวิตประจำวัน หรือจะเอาไว้ทำกิจกรรมกลางแจ้งที่ต้องเจอแดดจัดๆ ก็มีให้เลือก

มาถึงตรงนี้แล้ว เราคงพอเห็นภาพกันแล้วใช่ไหมคะว่า การเลือกครีมกันแดดที่ใช่ไม่ได้ดูแค่ตัวเลข SPF และ PA อย่างเดียว แต่ต้องดูด้วยว่าเนื้อครีมเป็นยังไง ทาแล้วรู้สึกดีไหม แล้วก็เหมาะกับผิวเราหรือเปล่า เพราะถ้าได้ครีมที่ดี ต้องทาง่าย ซึมเร็ว ไม่เหนอะหนะ ไม่อุดตัน จะได้ใช้ได้ทุกวันแบบสบายๆ โดยบรรดาแบรนด์ครีมกันแดดที่เรารวบรวมมาให้ในบทความนี้ คัดมาแล้วว่าดีจริง เลือกใช้ได้กับทุกสภาพผิว ไม่ว่าจะผิวมัน ผิวแห้ง หรือผิวบอบบางแค่ไหน ก็มีให้เลือกเหมาะๆ กับตัวเอง แถมถ้าเลือกถูกตัว รับรองว่าผิวจะได้รับการปกป้องดีเยี่ยม ไม่ต้องกังวลเรื่องแดดทำร้ายผิวอีกต่อไป สุดท้ายนี้ อย่าลืมว่าการทาครีมกันแดดทุกวันเป็นเรื่องสำคัญนะคะ จะได้ไม่ต้องมานั่งกังวลเรื่องริ้วรอย ฝ้า กระ หรือผิวหมองคล้ำ ถ้าใครกำลังหาครีมกันแดดที่ เบาสบายผิว ไม่อุดตัน กันน้ำกันเหงื่อได้ดี ใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน ลองเลือกจากที่เราแนะนำดูนะคะ รับรองว่าผิวสวยปลอดภัยจากแสงแดดแน่นอน

คำถามที่พบบ่อย

1. ค่า SPF ที่ใช่สำหรับเรา เลือกยังไงดีนะ?
สำหรับคนที่ทำงานในออฟฟิศ หรือใช้ชีวิตส่วนใหญ่ในร่ม ไม่ค่อยได้สัมผัสแสงแดดโดยตรง แนะนำให้ใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป ก็เพียงพอต่อการปกป้องผิวในชีวิตประจำวันแล้วค่ะ แต่สำหรับคนที่ชอบทำกิจกรรมกลางแจ้ง เล่นกีฬา ท่องเที่ยว หรือต้องอยู่กลางแดดเป็นเวลานาน ควรเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 50+ เพื่อการปกป้องที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น และให้ความมั่นใจว่าผิวจะปลอดภัยจากรังสี UV ตลอดวันนะคะ

2. ค่า PA++++ กับ PA+++ บนฉลากผลิตภัณฑ์แตกต่างกันมากไหม?
ค่า PA เป็นตัวชี้วัดประสิทธิภาพในการปกป้องผิวจากรังสี UVA ซึ่งเป็นรังสีที่อันตรายต่อผิวหนังของเรา จำนวนเครื่องหมาย + ที่มากขึ้นแสดงถึงระดับการป้องกันที่สูงขึ้น โดย PA++++ จะมีประสิทธิภาพในการปกป้องผิวได้ดีกว่า PA+++ อย่างเห็นได้ชัด ซึ่งความแตกต่างนี้จะเห็นผลชัดเจนมากในช่วงหน้าร้อนของประเทศไทยที่มีแสงแดดจัดและรังสี UVA แรงตลอดทั้งวัน

3. แล้วเราต้องทาซ้ำบ่อยแค่ไหนจึงจะสามารถป้องกันแสงแดดได้ดีที่สุด?
แนะนำให้ทาซ้ำทุก 2-3 ชั่วโมงเลยนะคะ ยิ่งถ้าต้องอยู่กลางแจ้งหรือเหงื่อออกเยอะๆ ยิ่งต้องระวัง ส่วนใครที่ใช้ครีมกันแดดกันน้ำแล้วไปว่ายน้ำหรือเล่นน้ำ ก็อย่าลืมทาซ้ำหลังจากผ่านไป 80 นาทีด้วยนะ จะได้ปกป้องผิวได้อย่างมั่นใจ

4. Physical กับ Chemical Sunscreen เลือกแบบไหนดี?
Physical Sunscreen เป็นแบบที่มีสารสะท้อนแสงแดดตามธรรมชาติ อย่าง Zinc Oxide และ Titanium Dioxide ซึ่งทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันผิวโดยการสะท้อนรังสี UV ออกไป เหมาะมากสำหรับคนผิวแพ้ง่าย ผิวบอบบาง หรือผิวที่มีปัญหา เพราะไม่ระคายเคืองและปลอดภัยต่อผิวแม้ใช้เป็นประจำ ส่วน Chemical Sunscreen จะทำงานในระดับโมเลกุล โดยจะดูดซับรังสี UV แล้วเปลี่ยนเป็นความร้อนปล่อยออกจากผิว มีเนื้อบางเบา ทาง่าย ซึมเร็ว ไม่ทิ้งคราบขาวบนผิวหน้า จึงเหมาะกับคนที่ชอบแต่งหน้าและอยากได้ครีมกันแดดที่ซึมไวๆ ใช้งานสะดวกในชีวิตประจำวัน

ผู้เขียน

หมวดหมู่ผลิตภัณฑ์

icon-Grey_1-อิเล็กทรอนิกส์

อิเล็กทรอนิกส์

icon-Grey_2-เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน

เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน

icon-Grey_3-แฟชั่นและเสื้อผ้า

แฟชั่นและเสื้อผ้า

icon-Grey_4-ความงามและสุขอนามัย

ความงามและสุขอนามัย

icon-Grey_5-สุขภาพและเวชภัณฑ์

สุขภาพและเวชภัณฑ์

icon-Grey_6-ของใช้ในบ้านและห้องครัว

ของใช้ในบ้านและห้องครัว

icon-Grey_7-อาหารและเครื่องดื่ม

อาหารและเครื่องดื่ม

icon-Grey_8-กีฬาและกิจกรรมกลางแจ้ง

กีฬาและกิจกรรมกลางแจ้ง

icon-Grey_9-ของเล่นและเกม

ของเล่นและเกม

icon-Grey_10-ยานยนต์

ยานยนต์

icon-Grey_11-ผลิตภัณฑ์สำหรับแม่และเด็ก

ผลิตภัณฑ์สำหรับแม่และเด็ก

icon-Grey_12-อุปกรณ์สำนักงาน

อุปกรณ์สำนักงาน

icon-Grey_13-อุปกรณ์สัตว์เลี้ยง

อุปกรณ์สัตว์เลี้ยง

icon-Grey_14-เฟอร์นิเจอร์และตกแต่งบ้าน

เฟอร์นิเจอร์และตกแต่งบ้าน

icon-Grey_15-อุปกรณ์ทำสวนและเกษตร

อุปกรณ์ทำสวนและเกษตร

icon-Grey_16-เครื่องดนตรีและการดนตรี

เครื่องดนตรีและการดนตรี

icon-Grey_17-เครื่องมือช่างและวัสดุก่อสร้าง

เครื่องมือช่างและวัสดุก่อสร้าง

icon-Grey_18-ศิลปะและงานฝีมือ

ศิลปะและงานฝีมือ

icon-Grey_19-งานปาร์ตี้และสันทนาการ

งานปาร์ตี้และสันทนาการ

icon-Grey_20-บรรจุภัณฑ์และการจัดเก็บ

บรรจุภัณฑ์และการจัดเก็บ

icon-Grey_21-สื่อและภาพยนต์

สื่อและภาพยนต์

icon-Grey_22-เครื่องจักรและอุตสาหกรรม

เครื่องจักรและอุตสาหกรรม

icon-Grey_7-อาหารและเครื่องดื่ม

อาหารและเครื่องดื่ม

icon-Grey_24-การท่องเที่ยวและอุปกรณ์การเดินทาง

ท่องเที่ยว/อุปกรณ์การเดินทาง

Scroll to Top