แนะนำ 10 Moka Pot ยี่ห้อไหนดี ปี 2024 ร้อนเร็ว ทนทาน ใช้งานง่าย

Moka-Pot

ผมเชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ลิ้มลองกาแฟจาก Moka Pot กันมาบ้างแล้ว เครื่องชงกาแฟสุดคลาสสิกที่ให้รสชาติเข้มข้นและกลิ่นหอมกรุ่นจนต้องยกนิ้วให้ วันนี้ผมจะพาทุกคนไปดู 10 อันดับ Moka Pot ยี่ห้อไหนดี ที่น่าสนใจ โดยจะเจาะลึกในเรื่องความจุ วัสดุ ขนาด จำนวนถ้วยที่ชงได้ และราคา แถมด้วยเคล็ดลับการเลือกซื้อ เทคนิคการชงให้อร่อย และวิธีดูแลรักษาให้ใช้งานได้ยาวนาน เพื่อให้คุณได้ Moka Pot ที่ใช่และสัมผัสประสบการณ์การชงกาแฟที่เหนือระดับ ถ้าเพื่อน ๆ ทุกคนพร้อมกันแล้วไปดูกันเลยครับว่าจะมีแบรนด์อะไรที่น่าสนใจบ้าง

หลักเกณฑ์ที่ใช้ในการจัดอันดับสินค้า

ผมได้ทำการรวบรวมและคัดเลือก Moka Pot 10 รุ่นที่ดีที่สุดมาให้ทุกท่านได้พิจารณากันครับ โดยผมได้วิเคราะห์และทดสอบอย่างละเอียดในหลากหลายด้าน เพื่อให้มั่นใจว่าแต่ละรุ่นที่นำมาแนะนำนั้นมีคุณภาพที่ดีเยี่ยมและสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพจริง มาดูกันเลยครับว่าผมใช้เกณฑ์อะไรบ้างในการคัดเลือก

  • ขนาดความจุ: ผมได้คัดสรรมาหลากหลายขนาดเพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างกันครับ เริ่มตั้งแต่แบบขนาดเล็กสำหรับชงแก้วเดียว (60 มล.) ไปจนถึงรุ่นขนาดใหญ่ที่สามารถชงได้ถึง 6 แก้ว (360 มล.) เหมาะสำหรับทั้งคนที่ชอบดื่มคนเดียว หรือต้องการชงให้สมาชิกในครอบครัวได้ดื่มพร้อมกัน
  • เข้ากับเตาที่มี: สำหรับเตาแก๊ส ผมแนะนำแบบอลูมิเนียมครับ เพราะคุณสมบัติในการนำความร้อนที่ดีเยี่ยม ทำให้ชงกาแฟได้รวดเร็ว ส่วนท่านที่ใช้เตาไฟฟ้าหรือเตาแม่เหล็กไฟฟ้า แบบสแตนเลสจะเหมาะสมกว่า เพราะนอกจากจะแข็งแรงทนทานแล้ว ยังใช้งานได้ดีกับเตาประเภทนี้โดยเฉพาะ
  • วัสดุและความทนทาน: ในด้านวัสดุ แบบอลูมิเนียมจะมีน้ำหนักเบา ให้ความร้อนได้เร็วกว่า แต่อาจมีข้อจำกัดเรื่องความทนทานในระยะยาว และอาจเกิดการผุกร่อนได้ง่าย ในขณะที่แบบสแตนเลสแม้จะมีน้ำหนักมากกว่าและราคาสูงกว่า แต่ก็มาพร้อมกับความทนทานที่เหนือกว่า ไม่เป็นสนิม และมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่ามาก
  • ราคา: เพื่อให้ครอบคลุมทุกงบประมาณ ผมได้คัดเลือกมาหลายระดับราคาครับ ตั้งแต่รุ่นประหยัดที่คุ้มค่าคุ้มราคา ไปจนถึงรุ่นพรีเมียมที่มาพร้อมคุณภาพระดับสูง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนกับอุปกรณ์ชงกาแฟคุณภาพดี

1. Bialetti Moka Pot

Bialetti-Moka-Pot

“Bialetti Moka Pot ถือเป็นสัญลักษณ์ของการชงกาแฟสไตล์อิตาเลียนด้วยการออกแบบที่คลาสสิกและการใช้วัสดุอลูมิเนียมคุณภาพสูง ที่มอบกาแฟเข้มข้นพร้อมครีม่านุ่มละมุน”

ความจุในการต้มน้ำ 120 มิลลิลิตร
วัสดุที่ใช้ในการผลิต Aluminum
ขนาดตัวเครื่อง 100 x 140 x 170 มม.
จำนวนถ้วยกาแฟที่ชงได้ 2 ถ้วย
ราคา 2,954 บาท

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ความรักในกาแฟสไตล์อิตาเลียนแท้ๆ หม้อต้มกาแฟนี้มีความจุ 120 มิลลิลิตร ใช้งานได้ทั้งเตาแก๊สและเตาไฟฟ้า ผลิตจากวัสดุอลูมิเนียมคุณภาพสูง ทนทาน และนำความร้อนได้ดีเยี่ยม สามารถชงกาแฟได้ถึง 2 ถ้วยในคราวเดียว นับเป็นอุปกรณ์ที่ไม่สามารถขาดได้สำหรับผู้ที่ชื่นชอบกาแฟแบบเข้มข้น ตั้งแต่ครั้งแรกที่วางจำหน่ายในปี 1933 หม้อต้มกาแฟ Bialetti ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ด้วยรูปทรงแปดเหลี่ยมที่โดดเด่น สะท้อนถึงเครื่องชงกาแฟแบบดั้งเดิมของอิตาลี รุ่น Brikka 2020 มีการเพิ่มแรงดันภายในหม้อต้มสูงกว่ารุ่นปกติถึง 2 เท่า ด้วยการใช้ยางซิลิโคนชนิดพิเศษ ซึ่งช่วยให้อุณหภูมิสูงขึ้นอีก 5 องศาเซลเซียส ทำให้กาแฟมีความเข้มข้นและครีม่ามากกว่าเดิม 20% ด้ามจับผลิตจากพลาสติกทนความร้อน พร้อม Inspection valve ลิขสิทธิ์เฉพาะของ Bialetti ที่ทำให้ได้มาตรฐานด้านคุณภาพและความปลอดภัย หม้อต้มกาแฟนี้ไม่เพียงแต่ให้กาแฟที่อร่อยเท่านั้น แต่ยังเป็นการเพิ่มความสวยงามและคลาสสิกให้กับห้องครัวของคุณ พร้อมทีมงานมืออาชีพที่พร้อมตอบทุกข้อสงสัยและให้บริการอย่างเต็มที่

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

Bialetti Moka Pot ออกแบบมาสำหรับผู้ที่รักกาแฟแบบอิตาเลียนแท้ๆ ด้วยวัสดุอลูมิเนียมคุณภาพสูง ทนทานและนำความร้อนได้ดีเยี่ยม ช่วยให้สามารถชงกาแฟได้เข้มข้นพร้อมกับครีม่าที่เนียนนุ่ม ด้วยการออกแบบที่คลาสสิกและใช้งานง่าย หม้อต้มกาแฟนี้จึงเป็นที่นิยมและเป็นส่วนหนึ่งของห้องครัวของชาวอิตาลีมาอย่างยาวนาน

2. Moka Espresso Pot

Moka-Espresso-Pot

“Moka Espresso Pot นำเสนอหม้อชงกาแฟแบบเอสเพรสโซ่ที่มีความทนทานสูงด้วยวัสดุเสตนเลสสตีล และการออกแบบที่เหมาะสมสำหรับการพกพา ทำให้สามารถชงกาแฟได้อย่างรวดเร็วและรักษาความร้อนได้ดี เหมาะสำหรับผู้ที่รักในการเดินทางและต้องการกาแฟคุณภาพสูงทุกที่ทุกเวลา”

ความจุในการต้มน้ำ 30.9 ออนซ์
วัสดุที่ใช้ในการผลิต Stainless Steel
ขนาดตัวเครื่อง 4.6 x 4.4 x 8.5
จำนวนถ้วยกาแฟที่ชงได้ 3 ถ้วย
ราคา 1,800 บาท

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

Moka Espresso Pot คือหม้อชงกาแฟสุดคลาสสิกที่มาพร้อมคุณสมบัติการใช้งานที่เหมาะสำหรับคนรักกาแฟแบบเอสเพรสโซ่ ด้วยความจุ 25 ออนซ์ และวัสดุเสตนเลสสตีลที่ทนทานและรักษาความร้อนได้ดี หม้อนี้ได้รับการออกแบบมาให้สามารถชงกาแฟได้อย่างรวดเร็ว ให้คุณเพลิดเพลินกับกาแฟที่เสิร์ฟร้อนๆ ในไม่กี่นาที คุณสมบัติพิเศษของ Moka Espresso Pot นอกจากจะทนต่อการสึกหรอและใช้งานได้อย่างยาวนานแล้ว ยังมาพร้อมด้ามจับที่สามารถพับเก็บได้ ช่วยให้คุณจัดเก็บได้อย่างกะทัดรัด ไม่ว่าจะเป็นการจัดวางภายในห้องครัวหรือนำไปใช้ในการตั้งแคมป์ก็ตาม ด้วยน้ำหนักเพียง 30.9 ออนซ์และมิติของตัวหม้อที่ 4.6 x 4.4 x 8.5 นิ้ว ทำให้มันเป็นอุปกรณ์ที่สะดวกสบายและเหมาะสำหรับการพกพา การออกแบบที่เรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยฟังก์ชันการใช้งานที่สมบูรณ์แบบ ทำให้ Moka Espresso Pot เป็นทางเลือกที่สุดยอดสำหรับผู้ที่ต้องการเพลิดเพลินกับกาแฟคุณภาพสูงได้ทุกที่ ทุกเวลา

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

Moka Espresso Pot เป็นหม้อชงกาแฟที่สมบูรณ์แบบสำหรับคนรักกาแฟเอสเพรสโซ่ มีความจุ 25 ออนซ์ และทำจากสเตนเลสสตีลที่ทนทานและรักษาความร้อนได้ดีเยี่ยม ช่วยให้คุณสามารถชงกาแฟได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังมีด้ามจับพับเก็บได้ ทำให้สะดวกต่อการจัดเก็บและพกพา ไม่ว่าจะเป็นในครัวหรือนำไปใช้นอกสถานที่ก็ตาม ทำให้ Moka Espresso Pot เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการกาแฟคุณภาพในทุกๆ วัน

3. BIALETTI MOKA EXPRESS ITALIA 3 CUPS

BIALETTI-MOKA

“BIALETTI Moka Express Italia 3 Cups คือหม้อต้มกาแฟที่มาพร้อมกับความสามารถในการชงกาแฟเอสเพรสโซ่แบบดั้งเดิมที่เข้มข้น ผลิตจากอลูมิเนียมคุณภาพสูงที่มอบประสิทธิภาพและความปลอดภัย ให้กาแฟที่มีรสชาติดีเยี่ยม ตามแบบฉบับอิตาเลียนที่ได้รับการยกย่องมายาวนาน”

ความจุในการต้มน้ำ 130 มิลลิลิตร
วัสดุที่ใช้ในการผลิต อะลูมิเนียม
ขนาดตัวเครื่อง 90 x 130 x 175 มม.
จำนวนถ้วยกาแฟที่ชงได้ 3 ถ้วย
ราคา 2,083 บาท

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

BIALETTI Moka Express Italia 3 Cups คือหม้อต้มกาแฟสไตล์เอสเพรสโซ่จากอิตาลีที่ได้รับการออกแบบมาอย่างคลาสสิก สามารถใช้งานได้ทั้งบนเตาแก๊สและเตาไฟฟ้า หม้อต้มกาแฟรุ่นนี้มีความจุที่เพียงพอสำหรับการชงกาแฟถึง 3 ถ้วยในคราวเดียว โดยเหมาะสำหรับ 1 ถึง 2 คน ทำจากวัสดุอลูมิเนียมคุณภาพสูง ที่รับประกันด้วยความทนทานและความปลอดภัย ตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกในปี 1933 หม้อต้มกาแฟ Bialetti Moka Express ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ด้วยรูปทรงแปดเหลี่ยมเป็นเอกลักษณ์ ที่ไม่เพียงแต่ทำให้หม้อต้มกาแฟมีความโดดเด่น แต่ยังเป็นตัวแทนของเครื่องชงกาแฟแบบดั้งเดิมของอิตาลี รุ่น Moka Express (โมคา เอ็กซ์เพรส) เป็นรุ่นที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นต้นแบบของหม้อต้มกาแฟในประเทศอิตาลี รุ่นนี้สามารถชงกาแฟเอสเพรสโซ่ที่มีรสชาติเข้มข้นเสมือนกาแฟที่ชงโดยบาริสต้ามืออาชีพ ด้วยด้ามจับที่ทำจากพลาสติกทนความร้อนและมี Inspection valve ลิขสิทธิ์เฉพาะของ Bialetti ที่ทำให้การใช้งานมีความปลอดภัยสูง หม้อต้มกาแฟรุ่นนี้พร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งของห้องครัวคุณ และช่วยให้คุณสร้างกาแฟอร่อยๆ ได้ทุกวัน

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

BIALETTI Moka Express Italia 3 Cups จากอิตาลี เป็นหม้อต้มกาแฟที่เหมาะสำหรับชงกาแฟได้ถึง 3 ถ้วย เหมาะสำหรับ 1-2 คน โดดเด่นด้วยวัสดุอลูมิเนียมคุณภาพสูงที่ทนทานและรักษาความร้อนได้ดี รูปทรงแปดเหลี่ยมเป็นเอกลักษณ์ที่สะท้อนถึงเครื่องชงกาแฟแบบดั้งเดิมของอิตาลี ช่วยให้ชงกาแฟเอสเพรสโซ่ได้รสชาติเข้มข้นและอร่อยเสมือนชงโดยบาริสต้ามืออาชีพ

4. ATOM COFFEE รุ่น Hybrid

ATOM-COFFEE-รุ่น-Hybrid

“ATOM COFFEE รุ่น Hybrid เป็นหม้อต้มกาแฟที่มอบความยืดหยุ่นและความสะดวกในการชงกาแฟถึง 6 ถ้วย รองรับการใช้งานกับเตาหลากหลายประเภท นอกจากนี้ยังมีการออกแบบที่ทำให้การชงกาแฟเร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพ”

ความจุในการต้มน้ำ 300 มิลลิลิตร
วัสดุที่ใช้ในการผลิต อะลูมิเนียม
ขนาดตัวเครื่อง 17 x 25 ซม.
จำนวนถ้วยกาแฟที่ชงได้ 6 ถ้วย
ราคา 2,180 บาท

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

ATOM COFFEE รุ่น Hybrid เป็นหม้อต้มกาแฟ Moka Pot ที่ออกแบบมาเพื่อความยืดหยุ่นและความสะดวกในการใช้งานสูงสุด ด้วยความสามารถในการชงกาแฟได้ถึง 6 ถ้วยต่อครั้ง ทำให้เหมาะสำหรับครอบครัวหรือกลุ่มผู้ใช้งานจำนวนมาก ตัวหม้อรองรับการใช้งานได้กับเตาทุกประเภท ทั้งเตาแก๊สธรรมดา, เตาถ่าน, เตาไฟฟ้า, เตาอินฟราเรด, และเตาแม่เหล็กไฟฟ้า ซึ่งทำให้มีความเหมาะสมสำหรับทุกสภาพการใช้งาน รุ่น Hybrid นี้มีการออกแบบที่น่าสนใจ โดยมีส่วนล่างทำจากสแตนเลสซึ่งนำความร้อนได้ดีกว่าอลูมิเนียม ช่วยให้กาแฟชงได้เร็วขึ้นและลดการเกิดกลิ่นไหม้ ด้านบนของหม้อต้มทำจากอลูมิเนียมเพื่อความเบาและการกระจายความร้อนที่ดี การออกแบบนี้นอกจากจะทำให้การชงกาแฟมีประสิทธิภาพสูงแล้ว ยังช่วยให้คุณประหยัดค่าใช้จ่ายในการลงทุนสำหรับกาแฟที่บ้าน ATOM COFFEE ยังให้คำมั่นสัญญาว่าหากไม่พอใจจะคืนเงินหรือคืนสินค้าได้ เป็นการยืนยันถึงคุณภาพและความมั่นใจในสินค้าของพวกเขา หม้อต้มกาแฟรุ่นนี้ไม่เพียงแต่มอบกาแฟที่รวดเร็วและมีรสชาติดีเท่านั้น แต่ยังเพิ่มความสะดวกและความคุ้มค่าในการใช้งานในทุกวันได้อย่างเต็มที่

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

ATOM COFFEE รุ่น Hybrid เป็นหม้อต้มกาแฟที่ออกแบบมาเพื่อความยืดหยุ่นในการใช้งาน สามารถชงได้ถึง 6 ถ้วยต่อครั้ง รองรับการใช้งานกับเตาทุกประเภท โดดเด่นด้วยการออกแบบส่วนล่างทำจากสแตนเลสที่ช่วยให้ชงกาแฟได้เร็วขึ้น ประหยัดค่าใช้จ่ายในการลงทุนสำหรับกาแฟที่บ้าน ทั้งยังมีนโยบายคืนเงินหรือคืนสินค้าหากไม่พอใจ ทำให้เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกสบายในการชงกาแฟที่บ้าน

5. Scanproducts Moka Pot 6cup

Scanproducts-Moka-Pot-6cup

“Scanproducts Moka Pot รุ่น 6 ถ้วย ออกแบบมาสำหรับครอบครัวใหญ่ ช่วยให้คุณสามารถชงกาแฟได้พร้อมกันถึง 6 ถ้วย ด้วยวัสดุอลูมิเนียมคุณภาพสูงที่รักษาความร้อนได้ดี ด้ามจับไนล่อนทนความร้อน และน้ำหนักเบาทำให้ง่ายต่อการเคลื่อนย้ายและจัดเก็บ”

ความจุในการต้มน้ำ 300 มิลลิลิตร
วัสดุที่ใช้ในการผลิต อะลูมิเนียม
ขนาดตัวเครื่อง 160 x 95 มิลลิเมตร
จำนวนถ้วยกาแฟที่ชงได้ 6 ถ้วย
ราคา 504 บาท

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

Scanproducts Moka Pot รุ่น 6 ถ้วย เป็นหม้อต้มกาแฟที่ออกแบบมาเพื่อครอบครัวที่มีสมาชิกถึง 6 คน ด้วยความจุที่ 300 มิลลิลิตร ช่วยให้คุณสามารถชงกาแฟได้พร้อมกันถึง 6 ถ้วยในเวลาเดียวกัน ทำจากอลูมิเนียมคุณภาพสูงสีดำ เหมาะกับการใช้งานที่บ้านหรือในกิจกรรมกลางแจ้ง เพราะสามารถใช้กับเตาแก๊ส, เตาถ่าน และเตาไฟฟ้าได้ ด้วยน้ำหนักเพียง 525 กรัม และมีความสูงทั้งหมด 16 ซม. หม้อต้มกาแฟรุ่นนี้เป็นที่นิยมอย่างมากสำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกในการเคลื่อนย้ายและจัดเก็บ นอกจากนี้ หม้อต้มนี้ยังมีด้ามจับทำจากไนล่อนที่ทนทานต่อความร้อน ซึ่งช่วยให้การจับถือเป็นไปอย่างปลอดภัยและสะดวกสบายในทุกการใช้งาน Scanproducts Moka Pot รุ่น 6 ถ้วย นี้เป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับทุกครัวเรือนที่ต้องการเพลิดเพลินกับกาแฟเอสเพรสโซ่หอมกรุ่นที่ชงได้ง่ายและรวดเร็ว พร้อมด้วยการออกแบบที่ทันสมัยและเรียบง่าย ทำให้เข้ากับสไตล์ของครัวทุกประเภท

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

Scanproducts Moka Pot รุ่น 6 ถ้วย เหมาะสำหรับครอบครัวขนาดใหญ่ ด้วยความจุ 300 มิลลิลิตร ช่วยให้ชงกาแฟได้พร้อมกัน 6 ถ้วย ทำจากอลูมิเนียมคุณภาพสูง น้ำหนักเบา ทนทานต่อความร้อน มีด้ามจับจากไนล่อนที่ทนต่อความร้อน รองรับการใช้งานได้ทั้งเตาแก๊ส, เตาถ่าน และเตาไฟฟ้า ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานทั้งที่บ้านและกิจกรรมกลางแจ้ง สะดวกสำหรับการเคลื่อนย้ายและจัดเก็บ

6. I-MIX Moka Pot

I-MIX-Moka-Pot

“I-MIX Moka Pot เป็นทางเลือกที่โดดเด่นสำหรับผู้ที่รักในการชงกาแฟแบบมีสไตล์ มาพร้อมดีไซน์หรูหราและฟังก์ชันการทำงานที่สมบูรณ์แบบ ช่วยให้ชงกาแฟได้ถึง 3 ถ้วยด้วยกำลังไฟ 500 วัตต์”

ความจุในการต้มน้ำ 150 มิลลิลิตร
วัสดุที่ใช้ในการผลิต Stainless Steel
ขนาดตัวเครื่อง กว้าง 9.7 / ยาว 15.5 / สูง 16.5 ซม.
จำนวนถ้วยกาแฟที่ชงได้ 3 ถ้วย
ราคา 695 บาท

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

I-MIX Moka Pot มาพร้อมกับการออกแบบที่หรูหราและสง่างาม ซึ่งทำให้มันเป็นไม่เพียงแต่เครื่องชงกาแฟ แต่ยังเป็นงานศิลปะในห้องครัวของคุณ ด้วยความจุ 150 มิลลิลิตร หม้อต้มกาแฟนี้สามารถชงกาแฟได้ถึง 3 ถ้วย ทำจากอลูมิเนียมคุณภาพสูง มีน้ำหนักเพียง 430 กรัม เหมาะสำหรับใช้งานได้ทั้งที่บ้านและในร้านกาแฟ นอกจากนี้ I-MIX Moka Pot ยังมาพร้อมกับ I-MIX เตาไฟฟ้าขนาดเล็กที่เป็นเตาอุ่นอาหารอเนกประสงค์ มีกำลังไฟ 500 วัตต์ ซึ่งช่วยให้คุณสามารถควบคุมอุณหภูมิได้ 5 ระดับ ตัวเตามีเส้นผ่าศูนย์กลางของแผ่นทำความร้อน 10 ซม. และสายไฟยาว 1.05 เมตร ซึ่งทำให้การใช้งานเป็นไปอย่างสะดวกและปลอดภัย ทั้งยังช่วยเพิ่มความหรูหราในการเสิร์ฟกาแฟสดหอมกรุ่นให้กับคุณและแขกผู้มาเยือน รุ่นนี้เป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่ต้องการเครื่องชงกาแฟที่ไม่เพียงแค่ทำงานได้ดี แต่ยังต้องมีสไตล์และเสน่ห์ นำเสนอการผสมผสานระหว่างความคลาสสิกและเทคโนโลยีสมัยใหม่ในหนึ่งเดียว

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

I-MIX Moka Pot ผสมผสานความหรูหราและการออกแบบที่สวยงาม ทำให้ไม่เพียงแต่เป็นเครื่องชงกาแฟเท่านั้น แต่ยังเป็นชิ้นงานศิลปะในห้องครัวของคุณ ด้วยความจุ 150 มิลลิลิตร สามารถชงได้ 3 ถ้วย และมาพร้อมกับเตาไฟฟ้าที่ควบคุมอุณหภูมิได้หลายระดับ ตัวเตามีความแม่นยำในการควบคุมความร้อน เหมาะสำหรับการเสิร์ฟกาแฟในทุกโอกาส

7. LZA Moka Pot K91

LZA-Moka-Pot-K91

“LZA Moka Pot K91 มีการออกแบบที่เหมาะสำหรับการชงกาแฟทุกวันในครัวเรือน พร้อมด้ามจับที่ทำจากไม้ไบโอนิคเพิ่มความทนทาน นอกจากนี้ยังมีระบบการรักษาความร้อนที่เยี่ยมช่วยให้ชงกาแฟได้รสชาติเข้มข้น”

ความจุในการต้มน้ำ 150 มิลลิลิตร
วัสดุที่ใช้ในการผลิต อะลูมิเนียม
ขนาดตัวเครื่อง 155 x 90 มิลลิเมตร
จำนวนถ้วยกาแฟที่ชงได้ 3 ถ้วย
ราคา 289 บาท

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

LZA Moka Pot K91 คือหม้อต้มกาแฟที่ออกแบบมาให้เหมาะสำหรับการใช้งานทุกวันในครัวเรือน ด้วยความจุ 150 มิลลิลิตร สามารถชงกาแฟได้ 3 ถ้วยในคราวเดียว ทำจากวัสดุอะลูมิเนียม Food Grade ที่รักษาความร้อนได้ดีเยี่ยมและมีความปลอดภัยสูงสุด หม้อนี้ไม่เพียงแต่มีประสิทธิภาพในการใช้งาน แต่ยังมาพร้อมกับด้ามจับทำจากไม้ไบโอนิคที่ทนทานต่อความร้อนและมีความแข็งแรงสูง ช่วยให้การจับถือปลอดภัยและสะดวกสบาย หม้อต้มกาแฟ LZA Moka Pot K91 มีขนาดที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานในครอบครัวหรือแม้กระทั่งในร้านกาแฟขนาดเล็ก เนื่องจากดีไซน์ที่สวยงามและคลาสสิก มันไม่เพียงช่วยให้คุณสามารถชงกาแฟที่มีรสชาติเข้มข้นและแสนอร่อยได้อย่างง่ายดาย แต่ยังเป็นการเพิ่มเสน่ห์ให้กับพื้นที่ใช้สอย ด้วยกลไกการสกัดที่สร้างแรงดันสูง คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การชงกาแฟที่ทั้งสนุกและเต็มไปด้วยรสชาติ ทำให้ทุกๆ วันของคุณพิเศษขึ้นด้วยกาแฟที่ชงเองได้ที่บ้าน

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

LZA Moka Pot K91 ออกแบบมาสำหรับการใช้งานประจำวันในครัวเรือน ด้วยความจุ 150 มิลลิลิตร สามารถชงได้ 3 ถ้วย ผลิตจากวัสดุอะลูมิเนียม Food Grade ที่ทนความร้อนได้ดีเยี่ยม ด้ามจับทำจากไม้ไบโอนิคทนความร้อนสูง ช่วยให้การจับถือปลอดภัยและสะดวก ตัวหม้อมีดีไซน์ที่สวยงามและทันสมัย สามารถใช้งานได้ทั้งในบ้านและร้านกาแฟขนาดเล็ก

8. CREMA

CREMA

“CREMA Moka Pot นำเสนอหม้อชงกาแฟที่สามารถเลือกสีและลวดลายได้หลากหลาย ตอบโจทย์ความต้องการทั้งในครัวเรือนและร้านกาแฟขนาดเล็ก ด้วยความสามารถในการชงกาแฟครีมม่าที่เนียนสวยและเก็บแรงดันได้ดีเยี่ยม ช่วยให้กาแฟมีรสชาติเข้มข้นสูงสุด”

ความจุในการต้มน้ำ 260 มล.
วัสดุที่ใช้ในการผลิต อะลูมิเนียม
ขนาดตัวเครื่อง กว้าง 11.5 / ยาว 16 / สูง 22 ซม.
จำนวนถ้วยกาแฟที่ชงได้ 6 คัพ
ราคา 850 บาท

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

CREMA Moka Pot เป็นหม้อต้มกาแฟที่มาพร้อมด้วยดีไซน์ทันสมัยและหลากหลายในการเลือกสีและลวดลาย ตั้งแต่สีดำ, สีขาวน้ำนม, สีแดง จนถึงลายไม้ ซึ่งทำให้เข้ากับทุกสไตล์ของห้องครัว ด้วยความจุ 260 มิลลิลิตร สามารถชงกาแฟได้ถึง 6 ถ้วย นับเป็นหม้อต้มกาแฟที่เหมาะกับครอบครัวหรือการใช้งานสำหรับร้านกาแฟขนาดเล็ก หม้อ CREMA นี้มีคุณสมบัติพิเศษมากมาย เช่น การสกัดกาแฟได้ครีมม่าที่เนียนสวย, ระบบเกลียวที่ออกแบบมาเพื่อเก็บแรงดันได้ดีเยี่ยม ช่วยให้สกัดกาแฟได้เข้มข้นสูงสุด และการใช้งานที่ง่ายดาย โดยเฉพาะกับการปิดหม้อที่ออกแบบมาให้ทำได้ง่าย สินค้ารุ่นนี้ทำจากอลูมิเนียมที่ให้ความร้อนไว ช่วยให้กาแฟขึ้นภายในเวลาเพียง 1-2 นาที เหมาะสำหรับใครที่ต้องการกาแฟอร่อยๆ รวดเร็วทันใจ นอกจากนี้ CREMA Moka Pot ยังมาพร้อมกับเทคนิคชงกาแฟโมก้าพอทฟรี ซึ่งเป็นความพิเศษที่ช่วยให้ผู้ใช้งานใหม่สามารถชงกาแฟได้อย่างมืออาชีพ จึงทำให้หม้อต้มกาแฟรุ่นนี้เป็นที่นิยมและได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในหม้อต้มกาแฟที่ดีที่สุดในระดับราคานี้

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

CREMA Moka Pot มาพร้อมดีไซน์ทันสมัยและหลากหลายสี สามารถชงได้ถึง 6 ถ้วยด้วยความจุ 260 มิลลิลิตร อุปกรณ์นี้เหมาะสำหรับครอบครัวหรือการใช้งานในร้านกาแฟขนาดเล็ก มีคุณสมบัติพิเศษเช่นการสกัดกาแฟได้ครีมม่าเนียนสวยและระบบเกลียวเก็บแรงดันได้ดีเยี่ยม ช่วยให้ชงกาแฟได้เร็วและอร่อย

9. LENODI

Alechaung

“LENODI Moka Pot ออกแบบมาเพื่อชงกาแฟแบบอิตาเลียนสำหรับผู้ที่อยู่ในพื้นที่จำกัด นำเสนอการใช้งานที่ง่ายดายและสะดวกสบายด้วยด้ามจับที่ป้องกันความร้อนได้ดี เหมาะสำหรับชงกาแฟที่บ้านหรือเมื่อเดินทาง พร้อมด้วยดีไซน์ทันสมัยและน้ำหนักเบา”

ความจุในการต้มน้ำ 300 มล.
วัสดุที่ใช้ในการผลิต อะลูมิเนียม
ขนาดตัวเครื่อง (กว้าง x สูง) 9.7 x 20 ซม.
จำนวนถ้วยกาแฟที่ชงได้ 2 แก้ว
ราคา 249 บาท

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

LENODI Moka Pot เป็นหม้อต้มกาแฟสไตล์อิตาเลียนที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้ที่อาศัยในพื้นที่จำกัดเช่นอพาร์ทเมนท์หรือคอนโด ด้วยความจุตั้งแต่ 100 ถึง 200 มิลลิลิตร สามารถชงกาแฟได้ 1-2 แก้ว ทำจากอลูมิเนียมที่ทนทานและนำความร้อนได้ดี ช่วยให้กาแฟขึ้นได้รวดเร็ว พร้อมด้ามจับแบคกาไลต์ที่ป้องกันความร้อนได้ดี สามารถใช้ได้กับเตาหลายประเภททั้งเตาแก๊ส, เตาไฟฟ้า, เตาอินฟาเรด และเตาถ่าน LENODI Moka Pot มาพร้อมดีไซน์ที่ทันสมัยและน้ำหนักเบา ทำให้เหมาะสำหรับการพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ เช่น การเดินทางหรือการตั้งแคมป์ ช่วยให้คุณสามารถเพลิดเพลินกับกาแฟสดที่ชงเองได้ง่ายๆ ทุกที่ทุกเวลา นอกจากนี้ยังช่วยให้คุณประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อกาแฟจากร้าน เพราะสามารถทำกาแฟอร่อยๆ ได้เองที่บ้านด้วยตัวคุณเอง แบบชิลๆ ทั้งวัน

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

LENODI Moka Pot เหมาะสำหรับผู้ที่อาศัยในพื้นที่จำกัด เช่น อพาร์ทเมนต์หรือคอนโด มีความจุระหว่าง 100-200 มิลลิลิตร ทำจากอลูมิเนียมทนทาน นำความร้อนได้ดี ช่วยให้กาแฟชงได้รวดเร็ว ด้ามจับแบคกาไลต์ช่วยป้องกันความร้อนได้ดี เหมาะสำหรับการชงกาแฟสดรับประทานเองที่บ้านหรือนำไปใช้งานนอกสถานที่

10. Alechaung

Alechaung

“Alechaung Moka Pot มีความสามารถที่โดดเด่นในการชงกาแฟรวดเร็วและมีคุณภาพสูงสำหรับร้านกาแฟขนาดเล็กหรือครอบครัวขนาดใหญ่ ด้วยความจุที่หลากหลายและด้ามจับทนความร้อน ช่วยให้สามารถใช้งานได้หลากหลายสถานการณ์ ทั้งยังเพิ่มความสวยงามในการชงด้วยรูปทรงแปดเหลี่ยมคลาสสิก”

ความจุในการต้มน้ำ 450ml.
วัสดุที่ใช้ในการผลิต อะลูมิเนียม
ขนาดตัวเครื่อง 9 x 18.5 ซม.
จำนวนถ้วยกาแฟที่ชงได้ 9 แก้ว
ราคา 219 บาท

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

Alechaung Moka Pot เป็นหม้อต้มกาแฟที่สมบูรณ์แบบสำหรับการใช้งานในร้านกาแฟขนาดเล็กหรือครอบครัวขนาดใหญ่ ด้วยขนาดความจุที่หลากหลายตั้งแต่ 100 มล. ถึง 450 มล. สามารถชงได้สูงสุด 9 ถ้วย ทำให้ตอบสนองความต้องการของผู้ดื่มกาแฟที่หลากหลายได้อย่างยอดเยี่ยม ตัวหม้อผลิตจากอลูมิเนียมที่ทนทานต่ออุณหภูมิสูงและสามารถนำความร้อนได้ดี ช่วยให้การสกัดกาแฟเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีคุณภาพ ด้ามจับทำจากแบคกาไลต์ที่ทนความร้อน เพิ่มความปลอดภัยในการใช้งาน และสามารถใช้ได้กับเตาหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นเตาแก๊ส, เตาไฟฟ้า, เตาแก๊สกระป๋อง, และเตาแคมปิ้ง นอกจากนี้ยังมีรูปทรงแปดเหลี่ยมแบบคลาสสิกที่ไม่เพียงแต่ช่วยกระจายความร้อนได้ดี แต่ยังเพิ่มความสวยงามให้กับหม้อต้มกาแฟของคุณด้วย Alechaung Moka Pot เหมาะสำหรับทุกคนที่ต้องการหม้อต้มกาแฟที่ทำกาแฟได้อย่างรวดเร็วและมีกลิ่นหอมชวนให้หลงใหล ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่บ้านหรือต้องการนำไปใช้ในร้านกาแฟ ก็ตอบโจทย์ได้ทั้งความทนทานและความสะดวกในการใช้งาน

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

Alechaung Moka Pot ตอบโจทย์ผู้ประกอบการร้านกาแฟขนาดเล็กหรือครอบครัวขนาดใหญ่ด้วยความจุที่หลากหลายตั้งแต่ 100 มล. ถึง 450 มล. ช่วยให้สามารถชงได้ถึง 9 ถ้วย ผลิตจากอลูมิเนียมทนทาน นำความร้อนได้ดี มีด้ามจับที่ทนความร้อนและใช้งานได้กับเตาหลายประเภท ช่วยให้ชงกาแฟได้อย่างรวดเร็วและมีคุณภาพ ทำให้เหมาะสำหรับทุกสถานการณ์ทั้งในบ้านและในร้านกาแฟ

วิธีเลือกชื้อกาต้มกาแฟ Moka Pot

วิธีเลือกชื้อกาต้มกาแฟ Moka Pot

การเลือกซื้อ Moka Pot นั้นเป็นเรื่องที่ไม่ยุ่งยากอย่างที่หลายคนคิดครับ แต่เพื่อให้ได้เครื่องชงกาแฟที่เหมาะสมกับการใช้งานและความต้องการของคุณมากที่สุด เรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่ามีปัจจัยสำคัญอะไรบ้างที่ควรพิจารณาให้ถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจเลือกซื้อ เพื่อให้คุณได้ Moka Pot ที่ใช่และคุ้มค่ากับการลงทุน

ขนาดความจุ

Moka Pot มีให้เลือกหลากหลายขนาดเพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างกันครับ โดยขนาดที่พบได้ทั่วไปในท้องตลาดจะเริ่มตั้งแต่ขนาดเล็กที่ชงได้ 1 ถ้วย ไปจนถึงขนาดใหญ่ที่ชงได้ถึง 6 ถ้วย (โดย 1 ถ้วยมาตรฐานจะเท่ากับ 60 มิลลิลิตร) สำหรับคนที่ชงดื่มคนเดียว ผมขอแนะนำแบบ 2 ถ้วย (ประมาณ 100 มิลลิลิตร) ซึ่งให้ปริมาณที่พอดีสำหรับการดื่มกาแฟ 1 แก้วขนาดกำลังดี แต่ถ้าคุณต้องการชงกาแฟให้สมาชิกในครอบครัวหรือเพื่อนๆ ได้ดื่มพร้อมกัน ผมแนะนำให้เลือกขนาด 6 ถ้วย (ประมาณ 300 มิลลิลิตร) จะเหมาะสมกว่า เพราะจะได้ปริมาณกาแฟที่มากพอสำหรับการแบ่งปันกันดื่มได้อย่างทั่วถึงครับ

วัสดุการผลิต

มีให้เลือก 2 แบบหลักๆ ครับ

  • อลูมิเนียม: ข้อดีคือร้อนเร็ว ชงกาแฟได้ไว น้ำหนักเบา แต่ต้องดูแลดีๆ หน่อย เพราะอาจเป็นสนิมได้ถ้าไม่เช็ดให้แห้ง
  • สแตนเลส: แข็งแรงทนทานกว่า ไม่ต้องกังวลเรื่องสนิม แต่ก็แลกมาด้วยน้ำหนักที่เยอะกว่าและราคาที่แพงขึ้น ใช้กับเตาไฟฟ้าบางรุ่นไม่ได้ด้วยนะครับ

เตาที่ใช้งาน

อันนี้สำคัญมากครับ ต้องเลือกให้เข้ากับเตาที่บ้านเรามี

  • เตาแก๊สและเตาไฟฟ้า: ใช้แบบอลูมิเนียมได้เลย ร้อนไว ใช้ง่าย
  • เตาแม่เหล็กไฟฟ้า: ต้องใช้แบบสแตนเลสครับ เพราะแข็งแรงและทนทานกว่า

สุดท้ายนี้ อย่าลืมว่าการเลือก Moka Pot ที่ใช่ไม่ใช่แค่เรื่องชงกาแฟอย่างเดียวนะครับ ต้องคำนึงถึงการดูแลรักษาด้วย จะได้ใช้ไปได้นานๆ ถ้าดูแลดี รับรองว่าจะได้ดื่มกาแฟอร่อยๆ ไปอีกนาน

ตารางสรุปการเลือกซื้อ Moka Pot

ปัจจัยรายละเอียด
ขนาดความจุ– ถ้าชงดื่มคนเดียวผมแนะนำให้เลือกขนาด 1-2 ถ้วย แต่ถ้าอยากชงแบ่งกันดื่มในครอบครัวก็เลือกแบบ 4-6 ถ้วยได้เลย
– ตัวอย่างเช่น ขนาด 2 ถ้วยจะได้กาแฟประมาณ 100 มิลลิลิตร พอดีๆ สำหรับแก้วเดียว ส่วนขนาด 6 ถ้วยจะได้ 300 มิลลิลิตร เหมาะสำหรับดื่มกันหลายคน
วัสดุการผลิต– อลูมิเนียมเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจนะครับ เพราะน้ำหนักเบา ชงกาแฟได้ไวเลย แต่ข้อเสียคือถ้าไม่ดูแลให้ดีก็อาจจะเป็นสนิมได้
– ส่วนสแตนเลสนี่แข็งแรงทนทานสุดๆ ไม่ต้องกังวลเรื่องสนิม แต่ก็ต้องยอมรับว่าหนักกว่าและราคาก็แพงกว่าด้วย แถมบางรุ่นยังใช้กับเตาไฟฟ้าไม่ได้อีกด้วยครับ
เตาที่ใช้งาน– ถ้าบ้านเรามีเตาแก๊สหรือเตาไฟฟ้า แนะนำให้เลือกแบบอลูมิเนียมเลยครับ ใช้ง่าย ร้อนไว ไม่ต้องกังวลอะไรมาก
– ส่วนใครที่ใช้เตาแม่เหล็กไฟฟ้า ต้องเลือกแบบสแตนเลสนะครับ จะได้ใช้งานได้นานๆ ไม่ต้องห่วงเรื่องเสียหายง่าย

เคล็ดลับและเทคนิคในการชงกาแฟด้วย Moka Pot

เคล็ดลับและเทคนิคในการชงกาแฟด้วย Moka Pot
มาดูเทคนิคการชง Moka Pot ให้อร่อยแบบที่ผมชอบกันครับ เป็นวิธีที่ผมได้ลองผิดลองถูกมาหลายครั้งจนได้สูตรที่ลงตัว รับรองว่าทำตามง่ายมากๆ ไม่ต้องใช้อุปกรณ์พิเศษอะไรเลย แถมยังได้กาแฟที่มีรสชาติกลมกล่อม มีกลิ่นหอมชวนดื่ม และมีความเข้มข้นพอดีๆ ไม่ขมหรือจืดจนเกินไป มาดูกันเลยครับว่ามีเทคนิคอะไรบ้างที่จะช่วยให้คุณชงกาแฟได้อร่อยเหมือนที่ผมทำ
  • เลือกเมล็ดกาแฟและบดให้พอดี: ผมแนะนำให้ใช้เมล็ดกาแฟคุณภาพดี คัดสรรจากแหล่งที่มีชื่อเสียง บดให้หยาบนิดนึงในระดับที่เหมาะสม ไม่ต้องละเอียดมากเกินไป เพราะถ้าบดละเอียดเกินไป น้ำจะไหลผ่านได้ยากลำบาก ทำให้กาแฟมีรสชาติขมเกินไปและเสียรสชาติที่ควรจะเป็นครับ
  • เทคนิคใส่น้ำและกาแฟ: ผมมีเทคนิคพิเศษคือชอบใส่น้ำร้อนลงไปในช่องล่าง เพราะวิธีนี้จะช่วยให้ชงได้เร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แถมยังป้องกันไม่ให้กาแฟไหม้อีกด้วย สำหรับกาแฟบดนั้น ให้ใส่ลงไปในกรวยแบบพอดีๆ ไม่ต้องอัดแน่นจนเกินไป เพราะจะทำให้น้ำไหลผ่านยาก จากนั้นก็ตั้งไฟให้แรงในระดับที่พอเหมาะ ไม่แรงหรืออ่อนจนเกินไปครับ
  • ดูเรื่องไฟให้ดี: จากประสบการณ์ของผม การใช้ไฟในระดับกลางๆ หรือค่อนไปทางอ่อนนิดหน่อยจะได้ผลดีที่สุด เพราะจะช่วยควบคุมอุณหภูมิไม่ให้ร้อนเกินไป ถ้าร้อนมากเกินไปกาแฟจะมีรสขมที่ไม่น่าพึงพอใจ โดยปกติผมจะใช้เวลาประมาณ 5 นาทีในการชง และคอยสังเกตจนกว่าจะได้ยินเสียงฟู่ๆ ที่เป็นสัญญาณว่ากาแฟกำลังสุกพอดีครับ
  • รู้จังหวะปิดไฟ: จังหวะสำคัญที่สุดคือตอนที่กาแฟเริ่มไหลขึ้นมาด้านบนและคุณได้ยินเสียงฟู่ดังชัดเจน ตรงนี้ผมจะรีบลดไฟลงทันทีและยกลงจากเตา เพื่อป้องกันไม่ให้กาแฟไหม้และเสียรสชาติที่ต้องการครับ
  • เทคนิคเพิ่มครีม: สำหรับคนที่ชอบครีมกาแฟเยอะๆ ผมมีเคล็ดลับพิเศษคือ ให้ลองเทกาแฟส่วนแรกที่ออกมาประมาณ 1-2 ช้อนโต๊ะแยกไว้ก่อน แล้วค่อยเทกลับเข้าไปผสมใหม่ วิธีนี้จะช่วยให้กาแฟมีความเข้มข้นเพิ่มขึ้นและมีครีมมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลยครับ
  • ปรับสูตรตามใจชอบ: ผมชอบที่จะทดลองปรับเปลี่ยนสูตรต่างๆ เช่น การเพิ่มหรือลดปริมาณน้ำและกาแฟ การปรับระดับอุณหภูมิให้สูงหรือต่ำกว่าปกติ จนกว่าจะได้รสชาติที่ถูกปากที่สุด บางครั้งผมก็เพิ่มความหลากหลายด้วยการใส่น้ำตาล ครีม หรือแม้แต่เครื่องเทศต่างๆ เพื่อสร้างรสชาติแปลกใหม่ที่น่าสนใจครับ
  • การใช้น้ำที่เหมาะสม: คุณภาพของน้ำเป็นปัจจัยสำคัญมากในการชงกาแฟ ผมจึงเลือกใช้เฉพาะน้ำที่สะอาดและมีคุณภาพดี เพราะน้ำคุณภาพดีจะช่วยดึงรสชาติที่ดีที่สุดออกมาจากเมล็ดกาแฟ ในทางกลับกัน ถ้าใช้น้ำที่มีคุณภาพไม่ดี รสชาติของกาแฟก็จะผิดเพี้ยนไปอย่างน่าเสียดายครับ
  • ดูแลอุปกรณ์ให้ดี: การดูแลรักษา Moka Pot เป็นเรื่องสำคัญมาก หลังใช้งานทุกครั้ง ผมจะทำความสะอาดด้วยน้ำอุ่นผสมสบู่อ่อนๆ โดยหลีกเลี่ยงการใช้อุปกรณ์ขัดที่แข็งเกินไปหรือผงซักฟอกที่มีความเข้มข้นสูง วิธีนี้จะช่วยยืดอายุการใช้งานและรักษาคุณภาพของ Moka Pot ให้อยู่กับเราไปได้นานๆ ครับ
ถ้าคุณทำตามคำแนะนำทั้งหมดที่ผมได้แบ่งปันไว้ ผมรับรองว่าคุณจะได้ลิ้มลองกาแฟที่มีรสชาติอร่อยเหนือความคาดหมาย และยิ่งคุณชงบ่อยเท่าไหร่ คุณก็จะยิ่งเข้าใจวิธีการปรับแต่งรสชาติให้เข้ากับความชอบส่วนตัวของคุณได้ดียิ่งขึ้นเท่านั้น ลองทำตามดูนะครับ แล้วคุณจะพบว่าการชงกาแฟด้วย Moka Pot นั้นเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ที่น่าหลงใหลจริงๆ

เครื่องบดกาแฟ อุปกรณ์สำคัญที่ขาดไม่ได้ในการชงกาแฟแบบ Moka Pot

การเลือกเครื่องบดกาแฟที่ดี มักมีผลต่อการชงกาแฟด้วย Moka Pot ครับ เพราะความละเอียดของผงกาแฟมีผลต่อรสชาติโดยตรง ถ้าบดละเอียดไป น้ำจะไหลผ่านช้าแถมได้รสขมเกินไป แต่ถ้าบดหยาบไป น้ำก็จะไหลผ่านเร็วเกินจนรสชาติจืดไปเลย ผมเลยแนะนำให้ใช้เครื่องบดกาแฟดีๆ เพื่อจะได้ควบคุมความละเอียดได้แม่นยำ ส่วนเรื่องเครื่องบดกาแฟยี่ห้อไหนดี ผมว่าแบบเสี้ยนเป็นตัวเลือกที่เหมาะสุด เพราะบดได้สม่ำเสมอดี แล้วอย่าลืมบดกาแฟสดๆ ก่อนชงทุกครั้งนะครับ จะได้กลิ่นหอมและรสชาติที่เต็มที่ ทำให้ได้กาแฟจาก Moka Pot ที่เข้มข้นอร่อยแบบที่เราต้องการเลย

การทำความสะอาดและการบำรุงรักษา Moka Pot

การทำความสะอาดและการบำรุงรักษา Moka Pot

การดูแล Moka Pot เป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะถ้าเราใส่ใจดูแลรักษาอย่างถูกวิธี เครื่องชงกาแฟคู่ใจของเราก็จะคงความสวยงามและประสิทธิภาพการใช้งานได้ยาวนาน ทั้งยังช่วยรักษาคุณภาพและรสชาติของกาแฟให้อร่อยสม่ำเสมอในทุกครั้งที่ชง ผมอยากแบ่งปันเทคนิคการดูแลรักษาแบบง่ายๆ ที่ใครก็ทำได้มาฝากกันครับ

  • ล้างทันทีหลังใช้: ควรล้างทำความสะอาดหลังใช้งานทุกครั้งเลยนะครับ แต่ต้องรอให้เครื่องเย็นลงก่อนนะครับ จากนั้นค่อยๆ แยกชิ้นส่วนทั้งหมดออกมาล้างอย่างละเอียด ทั้งหม้อต้ม กรวย และเหยือก การล้างทันทีจะช่วยป้องกันไม่ให้มีคราบกาแฟแห้งติดค้างซึ่งล้างออกยากในภายหลัง
  • ใช้น้ำอุ่นกับสบู่อ่อนๆ: ใช้น้ำอุ่นผสมสบู่อ่อนๆ แค่นิดหน่อย และใช้ฟองน้ำนุ่มๆ เช็ดถูเบาๆ อย่างระมัดระวัง ห้ามใช้แปรงขัดหรือของแข็งขัดโดยเด็ดขาดนะครับ เพราะอาจทำให้ผิวโลหะเป็นรอยขีดข่วนได้ ซึ่งนอกจากจะทำให้ดูไม่สวยแล้ว ยังอาจเป็นที่สะสมของแบคทีเรียได้อีกด้วย
  • เช็คทุกซอกทุกมุม: สำคัญมากที่จะต้องล้างให้ทั่วถึงทุกซอกทุกมุมนะครับ โดยเฉพาะบริเวณรูน้ำไหลและแหวนยางซีล เพราะถ้ามีคราบกาแฟหรือน้ำมันตกค้างในจุดเหล่านี้ นอกจากจะไม่ถูกสุขอนามัยแล้ว ยังส่งผลให้กาแฟที่ชงได้มีรสชาติผิดเพี้ยนไป อาจจะขมเกินไปหรือมีกลิ่นหืนได้
  • เช็ดให้แห้งสนิท: หลังจากล้างเสร็จ ผมจะใช้ผ้าสะอาดที่นุ่มและไม่ทิ้งเศษใยเช็ดให้แห้งสนิททุกชิ้นส่วน โดยเฉพาะบริเวณรอยต่อและซอกมุมต่างๆ เพราะถ้าเก็บทั้งที่ยังมีความชื้น นอกจากจะเสี่ยงต่อการขึ้นสนิมแล้ว ยังอาจเกิดเชื้อราได้ด้วย จากนั้นควรเก็บในที่แห้ง อากาศถ่ายเทดี เพื่อรอการใช้งานครั้งต่อไป
  • ดูแลแหวนยางดีๆ: ชิ้นส่วนนี้สำคัญมากๆ เลยนะครับ เพราะแหวนยางเป็นตัวป้องกันการรั่วซึมของน้ำและความดัน ผมแนะนำให้หมั่นตรวจสอบสภาพอย่างสม่ำเสมอ ถ้าสังเกตเห็นว่าแหวนยางเริ่มแข็งตัว มีรอยแตก หรือเสื่อมสภาพ ควรรีบเปลี่ยนใหม่ทันที อย่าประหยัดจนเกินไปนะครับ เพราะนอกจากจะทำให้น้ำรั่วระหว่างชงแล้ว ยังอาจทำให้แรงดันไม่ดีส่งผลต่อรสชาติกาแฟด้วย

ถ้าทำตามคำแนะนำเหล่านี้อย่างสม่ำเสมอ ผมรับรองว่า Moka Pot ของคุณจะมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน คงความสวยงามเหมือนใหม่อยู่เสมอ และที่สำคัญที่สุดคือจะให้รสชาติกาแฟที่สดใหม่ เข้มข้น หอมกรุ่น น่าลิ้มลองในทุกๆ ครั้งที่คุณชงเลยครับ การดูแลรักษาอย่างถูกวิธีจึงเป็นเหมือนการลงทุนระยะยาวที่จะตอบแทนคุณด้วยกาแฟรสดี ๆ ในทุก ๆ วันเลยทีเดียว

ผมหวังว่าบทความรีวิวที่ผมได้ทุ่มเทรวบรวมและวิเคราะห์มาอย่างละเอียดทั้งหมดนี้ จะเป็นประโยชน์และช่วยให้ทุกท่านสามารถเลือก Moka Pot ได้ตรงใจและเหมาะกับการใช้งานมากที่สุดนะครับ ผมได้คัดสรรแต่ละรุ่นมาอย่างพิถีพิถัน โดยคำนึงถึงทุกความต้องการของผู้ใช้ที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความจุที่เหมาะกับการใช้งาน วัสดุที่ทนทานและปลอดภัย ขนาดที่สะดวกต่อการจัดเก็บและพกพา หรือราคาที่คุ้มค่ากับคุณภาพที่ได้รับ

นอกจากนี้ ผมยังได้รวบรวมคำแนะนำในการใช้งานและวิธีการดูแลรักษาอย่างละเอียดทุกขั้นตอน เพื่อให้ทุกท่านสามารถใช้ Moka Pot ได้อย่างถูกต้อง เต็มประสิทธิภาพ และยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานที่สุด สุดท้ายนี้ ผมขอให้ทุกท่านสนุกกับการชงกาแฟ เพลิดเพลินไปกับกระบวนการทำกาแฟในทุกขั้นตอน และได้ลิ้มรสกาแฟที่อร่อย มีคุณภาพ ตรงตามความชอบของแต่ละท่านครับ

คำถามที่พบบ่อย

1. Moka Pot ชงกาแฟได้เยอะแค่ไหน?

ขนาดมีให้เลือกหลากหลายเลยครับ เริ่มตั้งแต่ขนาดเล็กที่ชงได้แค่ถ้วยเดียว (60 ml) ไปจนถึงขนาดใหญ่ที่ชงได้ 6 ถ้วย (360 ml) แล้วแต่ว่าคุณจะใช้ดื่มคนเดียวหรือชงให้เพื่อนๆ ด้วย

2. แล้วควรเลือกวัสดุแบบไหนดี?

ผมขอแนะนำแบบนี้นะครับ ถ้าชอบของเบาๆ พกพาสะดวก ลองดูแบบอลูมิเนียมครับ นำความร้อนได้ดีด้วย แต่ต้องดูแลหน่อยเพราะอาจผุได้ ส่วนใครที่ชอบของคงทน ไม่ต้องกังวลเรื่องสนิม แนะนำสแตนเลสครับ แต่ราคาจะแพงกว่านิดหน่อย

3. ใช้กับเตาแม่เหล็กไฟฟ้าได้มั้ย?

ต้องดูที่วัสดุนะครับ ถ้าเป็นอลูมิเนียมส่วนใหญ่จะใช้ไม่ได้ เพราะต้องการฐานที่ดูดแม่เหล็กได้ แต่ถ้าเป็นสแตนเลสส่วนมากใช้ได้สบายๆ ครับ

4. มีเทคนิคทำความสะอาดยังไงบ้าง?

ง่ายมากครับ แค่ล้างด้วยน้ำอุ่นผสมสบู่อ่อนๆ ทุกครั้งที่ใช้เสร็จ แล้วอย่าลืมเช็ดให้แห้งเลยนะครับ จะได้ไม่มีคราบกาแฟติด หรือเป็นสนิม แต่อย่าใช้ที่ขัดแรงๆ หรือน้ำยาทำความสะอาดที่กัดกร่อนเชียวครับ เดี๋ยวผิว Moka Pot จะเสียหาย

ผู้เขียน

หมวดหมู่ผลิตภัณฑ์

icon-Grey_1-อิเล็กทรอนิกส์

อิเล็กทรอนิกส์

icon-Grey_2-เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน

เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน

icon-Grey_3-แฟชั่นและเสื้อผ้า

แฟชั่นและเสื้อผ้า

icon-Grey_4-ความงามและสุขอนามัย

ความงามและสุขอนามัย

icon-Grey_5-สุขภาพและเวชภัณฑ์

สุขภาพและเวชภัณฑ์

icon-Grey_6-ของใช้ในบ้านและห้องครัว

ของใช้ในบ้านและห้องครัว

icon-Grey_7-อาหารและเครื่องดื่ม

อาหารและเครื่องดื่ม

icon-Grey_8-กีฬาและกิจกรรมกลางแจ้ง

กีฬาและกิจกรรมกลางแจ้ง

icon-Grey_9-ของเล่นและเกม

ของเล่นและเกม

icon-Grey_10-ยานยนต์

ยานยนต์

icon-Grey_11-ผลิตภัณฑ์สำหรับแม่และเด็ก

ผลิตภัณฑ์สำหรับแม่และเด็ก

icon-Grey_12-อุปกรณ์สำนักงาน

อุปกรณ์สำนักงาน

icon-Grey_13-อุปกรณ์สัตว์เลี้ยง

อุปกรณ์สัตว์เลี้ยง

icon-Grey_14-เฟอร์นิเจอร์และตกแต่งบ้าน

เฟอร์นิเจอร์และตกแต่งบ้าน

icon-Grey_15-อุปกรณ์ทำสวนและเกษตร

อุปกรณ์ทำสวนและเกษตร

icon-Grey_16-เครื่องดนตรีและการดนตรี

เครื่องดนตรีและการดนตรี

icon-Grey_17-เครื่องมือช่างและวัสดุก่อสร้าง

เครื่องมือช่างและวัสดุก่อสร้าง

icon-Grey_18-ศิลปะและงานฝีมือ

ศิลปะและงานฝีมือ

icon-Grey_19-งานปาร์ตี้และสันทนาการ

งานปาร์ตี้และสันทนาการ

icon-Grey_20-บรรจุภัณฑ์และการจัดเก็บ

บรรจุภัณฑ์และการจัดเก็บ

icon-Grey_21-สื่อและภาพยนต์

สื่อและภาพยนต์

icon-Grey_22-เครื่องจักรและอุตสาหกรรม

เครื่องจักรและอุตสาหกรรม

icon-Grey_7-อาหารและเครื่องดื่ม

อาหารและเครื่องดื่ม

icon-Grey_24-การท่องเที่ยวและอุปกรณ์การเดินทาง

ท่องเที่ยว/อุปกรณ์การเดินทาง

Scroll to Top