น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์พิเศษ หรือที่เรียกกันว่า Extra Virgin Olive Oil กำลังฮอตฮิตสุดๆ ในวงการอาหารเพื่อสุขภาพ และไม่ใช่แค่เทรนด์ที่มีแรงแค่ชั่วครู่ เพราะมีงานวิจัยรับรองชัดเจนว่าดีต่อสุขภาพจริง ทั้งช่วยบูสต์ภูมิคุ้มกัน ดูแลหัวใจ และลดการอักเสบในร่างกาย เห็นประโยชน์เพียบขนาดนี้ ใครๆ ก็อยากลองใช้กัน แต่พอไปยืนอยู่หน้าชั้นวางในซูเปอร์ฯ เห็นน้ำมันมะกอกเรียงรายเต็มไปหมด ตั้งแต่แบรนด์หรูราคาหลักพันจากยุโรป ยันแบรนด์ท้องถิ่นที่โฆษณาสรรพคุณกันใหญ่โต ก็เลยงงกันเลยว่า แล้วน้ำมันมะกอกจากสเปนกับอิตาลีต่างกันยังไง? แบบไหนที่เรียกว่าสกัดเย็นคุณภาพดี? แล้วค่ากรดไขมันเท่าไหร่ถึงจะเรียกว่าเกรดพรีเมียม?
วันนี้เราเลยถือโอกาสมาแชร์ 10 แบรนด์น้ำมันมะกอกคุณภาพเยี่ยมแห่งปี 2024 ที่คัดสรรมาแบบพิถีพิถัน ทั้งมาตรฐานระดับโลก ความสด และรสชาติที่เข้ากับทั้งอาหารไทยและเมดิเตอร์เรเนียน รับรองว่าอ่านจบแล้วจะเลือกน้ำมันมะกอกได้ถูกใจ ยกระดับสุขภาพได้แบบเห็นผล ไม่ว่าจะเป็นเชฟตัวยง หรือมือใหม่หัดทำอาหารเพื่อสุขภาพก็ตาม
หลักเกณฑ์ที่ใช้ในการจัดอันดับสินค้า
- ประเภทน้ำมันมะกอกต้องเป็น Extra Virgin หรือ Virgin เท่านั้น :เรามองหาแต่น้ำมันมะกอกเอ็กซ์ตร้าเวอร์จินที่ได้จากการบีบเย็นครั้งแรกเท่านั้น เพราะมันมีกรดไขมันต่ำสุด (แค่ 0.8% เอง) แถมยังไม่ผ่านความร้อนหรือสารเคมีใดๆ ทำให้ได้น้ำมันที่มีกลิ่นหอมธรรมชาติ สีสวยน่าใช้ และอุดมไปด้วยสารอาหารที่ดีต่อสุขภาพ
- ต้องไม่ผสมน้ำมันเกรดต่ำ :เราเลือกแต่น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ 100% เท่านั้น ไม่มีการผสมน้ำมันเกรดรอง อย่างพวกน้ำมันโพมาซหรือน้ำมันไลท์ เพราะเราอยากให้คุณได้รับคุณค่าทางโภชนาการและรสชาติที่แท้จริงของน้ำมันมะกอกคุณภาพสูง
- กรดไขมันดีสูง : เราเลือกน้ำมันที่มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว (โอเมก้า 3, 6, 9) สูง ช่วยลดคอเลสเตอรอลไม่ดี (LDL) และเพิ่มคอเลสเตอรอลดี (HDL) นอกจากนี้ยังมีประโยชน์ต่อการทำงานของหัวใจและหลอดเลือด ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด
- ช่วยระบบขับถ่าย : เราเลือกน้ำมันมะกอกมีสารโอเลโอแคนธอล (Oleocanthal) ที่ช่วยให้ท้องไม่ผูก ขับถ่ายง่าย แถมยังแก้ท้องอืดท้องเฟ้อได้ดีด้วย ที่สำคัญคือช่วยบำรุงลำไส้ให้แข็งแรง ทำให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้ดีขึ้น
- สารต้านอนุมูลอิสระ : น้ำมันมะกอกเอ็กซ์ตร้าเวอร์จินที่มีคุณภาพสูงจะต้องมีสารโพลีฟีนอล (Polyphenol) และวิตามินอีในปริมาณที่สูง สารเหล่านี้มีคุณสมบัติในการต้านการอักเสบในร่างกาย ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ และเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง
- ปลอดสารเคมี 100% : เราให้ความสำคัญกับการคัดเลือกแบรนด์ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์จากสถาบันที่น่าเชื่อถือระดับโลก เช่น USDA Organic และ EU Organic เพื่อให้มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ปราศจากสารปนเปื้อนจากยาฆ่าแมลง ปุ๋ยเคมี หรือสารเคมีทางการเกษตรใดๆ ทั้งสิ้น
- ผลิตภัณฑ์ต้องได้มาตรฐานสากล :พวกเราเช็คทุกอย่างอย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นวันผลิต การเก็บรักษา และที่สำคัญคือได้ชิมด้วยตัวเองเลย เพื่อให้มั่นใจว่าน้ำมันไม่มีรสขม ไม่หืน และมีรสชาติกลมกล่อมใช้ได้หลากหลาย จะทำอาหารหรือกินสดก็อร่อย
- ราคาสมเหตุสมผลกับคุณภาพ :เราช่วยคุณประหยัดเวลาด้วยการเปรียบเทียบราคาและปริมาณให้แล้ว พร้อมทั้งดูรีวิวจากคนที่ใช้จริง เช็คชื่อเสียงแบรนด์ และจุดเด่นต่างๆ เพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะได้น้ำมันมะกอกที่คุ้มค่าและใช้งานได้ดีจริง
1. Bertolli Organic Extra Virgin Olive Oil น้ำมันมะกอก
น้ำมันมะกอกสกัดเย็น Bertolli Organic ตัวทีเด็ดจริง เค้าใช้มะกอกออร์แกนิกล้วนๆ ผ่านการรับรองมาตรฐานด้วย จะเอาไปทำอาหารแบบไหนก็เข้ากันหมด ไม่ว่าจะผัด ทอด หรือราดสลัดก็อร่อย
| ปริมาณ | 1 ลิตร |
| แหล่งผลิตน้ำมันมะกอก | อิตาลี |
| บรรจุภัณฑ์ | ขวดแก้วทึบ |
ข้อดี
- เป็นน้ำมันมะกอกออร์แกนิกแท้ๆ ปลอดภัย ไม่มีสารเคมีเจือปน
- ผ่านการรับรองมาตรฐานระดับโลกทั้ง USDA และ EU
- กรดต่ำมากแค่ 0.3% ดีต่อสุขภาพสุดๆ
- สกัดเย็นแบบธรรมชาติ เก็บคุณค่าสารอาหารได้ครบถ้วน
- ใช้ได้หลากหลาย จะกินสดๆ หรือทำอาหารก็อร่อย
- เหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์การกิน ไม่ว่าจะมังสวิรัติ เจ หรือคีโต
ข้อควรพิจารณา
- บรรจุขวดขนาด 500 มิลลิลิตร อาจไม่เพียงพอสำหรับผู้ที่ใช้ปริมาณมาก
- มีราคาสูงกว่าน้ำมันมะกอกที่ไม่ใช่ออร์แกนิก
- อายุการเก็บรักษา 1 ปี 6 เดือน ซึ่งอาจน้อยกว่าผลิตภัณฑ์บางชนิด
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?
เราขอเลือกให้แบรนด์ Bertolli Organic นี่เป็นตัวท็อปเลยนะ เพราะทำจากมะกอกออร์แกนิกล้วนๆ ผ่านการรับรองทั้ง USDA และ EU เลย ที่สำคัญคือเค้าสกัดแบบเย็นๆ ไม่ผ่านความร้อน ทำให้ได้น้ำมันคุณภาพสูง ค่าความเป็นกรดต่ำแค่ 0.3% เท่านั้น แถมยังอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีต่อสุขภาพด้วย พูดง่ายๆ เลยว่าเอาไปใช้ทำอาหารอะไรก็ได้เลย จะราดสลัด หมักเนื้อ หรือผัดผักก็เข้ากันหมด รสชาติดีมาก ใครทานมังสวิรัติ เจ หรือคีโตก็ใช้ได้สบายๆ เพราะเป็นน้ำมันคุณภาพดีที่ให้ไขมันดีๆ กับร่างกาย ที่สำคัญคือช่วยดูแลสุขภาพหัวใจด้วยนะ เพราะมีไขมันดีเยอะมาก แถมยังผ่านมาตรฐานระดับโลก การันตีคุณภาพ ปลอดภัยแน่นอน2. Alianza Extra Virgin Olive Oil น้ำมันมะกอก
Alianza Extra Virgin Olive Oil จากกอร์โดบา สเปน ใช้มะกอกพันธุ์ดีสกัดแบบธรรมชาติ ไม่ผ่านความร้อนหรือเติมน้ำ ให้กลิ่นหอมมะกอกแท้พร้อมสารอาหารครบถ้วน
| ปริมาณ | 5 ลิตร |
| แหล่งผลิตน้ำมันมะกอก | สเปน |
| บรรจุภัณฑ์ | ขวดพลาสติกทึบ |
ข้อดี
- มาจากเมืองกอร์โดบา แหล่งปลูกมะกอกชั้นเลิศของสเปน ที่ใครๆ ก็ยอมรับในคุณภาพ
- บีบน้ำมันแบบธรรมชาติ ไม่ใช้ความร้อนหรือน้ำทึ้งสิ้น จึงได้สารอาหารครบถ้วน
- รสชาติละมุนละไม มีความขมกำลังดี แถมเผ็ดนิดๆ ช่วยชูรสอาหาร
- ใช้ทำอาหารได้สารพัด ไม่ว่าจะเป็นสลัดเพื่อสุขภาพ พาสต้าแสนอร่อย หรือจะราดบนอาหารย่างก็เข้ากัน
- มาในแกลลอนพลาสติกทึบขนาดใหญ่ 5 ลิตร เก็บได้นาน ไม่ต้องกลัวน้ำมันเสื่อมคุณภาพ
ข้อควรพิจารณา
- จริงๆ แล้วไม่ได้เป็นออร์แกนิกนะ แต่ก็ยังมีคุณภาพดีอยู่มาก
- ขนาด 5 ลิตรอาจจะเยอะไปนิดสำหรับคนที่อยากลองใช้ หรือใช้ไม่บ่อย
- รสชาติอาจจะแปลกไปหน่อยสำหรับคนที่ไม่คุ้นเคย เพราะเป็นมะกอกสายพันธุ์พิเศษ
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?
ถ้าพูดถึง Alianza Extra Virgin Olive Oil ต้องบอกเลยว่าเป็นน้ำมันมะกอกคุณภาพเยี่ยมจากเมืองกอร์โดบา ประเทศสเปน ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งปลูกมะกอกระดับท็อปของโลก เขาใช้วิธีบีบเย็นแบบธรรมชาติล้วนๆ ไม่ผ่านความร้อนหรือเติมน้ำเลย ทำให้ได้น้ำมันที่หอมกลิ่นมะกอกแท้ๆ แถมคุณค่าทางอาหารก็ครบถ้วน พอชิมดูจะรู้สึกถึงความเข้มข้น มีรสขมนิดๆ และเผ็ดซ่าที่ปลายลิ้นนิดหน่อย เข้ากันดีมาก ที่เจ๋งไปกว่านั้นคือใช้ทำอาหารได้แทบทุกแบบเลย จะเป็นน้ำสลัด ผัดพาสต้า หรือจะราดบนอาหารย่างก็อร่อยทั้งนั้น รสชาติกับกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ยังคงอยู่ครบ3. La EsPanola Extra Virgin Olive Oil น้ำมันมะกอก
La EsPanola Extra Virgin Olive Oil ต้องบอกเลยว่าเป็นน้ำมันมะกอกคุณภาพเยี่ยมจากสเปน ที่บีบคั้นจากผลมะกอกธรรมชาติแท้ๆ 100% มาพร้อมกลิ่นหอมละมุนเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว และที่สำคัญคือใช้ทำอาหารได้สารพัดเมนู
| ปริมาณ | 1 ลิตร |
| แหล่งผลิตน้ำมันมะกอก | สเปน |
| บรรจุภัณฑ์ | ขวดแก้วทึบ |
ข้อดี
- ผลิตจากผลมะกอกธรรมชาติ 100% จากประเทศสเปน
- เหมาะสำหรับการประกอบอาหารที่ใช้ความร้อนสูง เช่น ทอด ย่าง ผัด และอบ
- จุดเดือดอยู่ที่ 160 องศาเซลเซียส คงรสชาติและคุณค่าทางโภชนาการ
- ได้รับความนิยมในร้านอาหารระดับไฮเอนด์
- ขนาดบรรจุ 1 ลิตร เหมาะสำหรับใช้ในครัวเรือน
ข้อควรพิจารณา
- มีรสขมและความฉุนของพริกไทย อาจไม่เหมาะกับทุกคน
- ปริมาณ 1 ลิตร อาจไม่เพียงพอสำหรับผู้ที่ต้องการใช้ในปริมาณมาก
- ไม่ได้ระบุว่าเป็นผลิตภัณฑ์ออร์แกนิก
La EsPanola Extra Virgin Olive Oil น้ำมันมะกอกสเปนเกรดพรีเมียมที่ทำจากธรรมชาติ 100% แบบเข้มข้นสุดๆ ครับ กลิ่นหอมแรงจนสัมผัสได้ถึงความเป็นผลไม้สุกผสมกับความฉุนของพริกไทยแบบนวลๆ พอทานแล้วจะได้รสขมนิดๆ แบบติดปลายลิ้นที่เป็นเอกลักษณ์ จุดเด่นอยู่ที่ความอเนกประสงค์ เพราะนอกจากจะใช้ทำน้ำสลัดหรูๆ ได้แล้ว ยังทนความร้อนสูงถึง 160 องศาเซลเซียส เอาไปทอดสเต็กย่างๆ ผัดผักไฟแรง หรือแม้แต่ใช้อบอาหารก็ยังได้ โดยที่ยังคงรสชาติและสารอาหารไว้ครบถ้วน ไม่เหมือนน้ำมันมะกอกบางยี่ห้อที่ความร้อนทำลายคุณค่าไปหมด ผลิตภัณฑ์ขนาดบรรจุ 1 ลิตรกำลังเหมาะ ใช้ทั้งในครัวเรือนและร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์เลยล่ะ ลองเอาไปหมักเนื้อก่อนย่างหรือราดบนพาสต้าร้อนๆ ดูสิครับ ได้รสสัมผัสระดับเชฟชัดๆ แถมกลิ่นหอมฟุ้งแบบนี้ทำให้อาหารจานธรรมดากลายเป็นเมนูพิเศษได้ทันที
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?
La EsPanola เป็นแบรนด์น้ำมันมะกอกเก่าแก่จากสเปนที่เขาใช้มะกอกธรรมชาติ 100% มาผลิตเป็นน้ำมันบริสุทธิ์พิเศษ พอได้กลิ่นก็หอมชวนหลงใหล มีกลิ่นผลไม้ผสมกับความเผ็ดร้อนนิดๆ แถมยังมีรสขมๆ ที่ปลายลิ้นเป็นเอกลักษณ์ คุณสามารถใช้ทำอาหารได้หลากหลายมาก ไม่ว่าจะทอด ย่าง ผัด หรืออบ ที่อุณหภูมิสูงถึง 160 องศา ก็ยังคงความอร่อยและคุณค่าทางอาหารไว้ได้ครบถ้วน แถมยังเป็นขวัญใจเชฟในร้านอาหารหรูๆ หลายที่ด้วยนะ
4. Romulo Organic Extra Virgin Olive Oil น้ำมันมะกอก
Romulo น้ำมันมะกอกออร์แกนิกคุณภาพเยี่ยมที่สกัดเย็นจากมะกอก Arbequina ของสเปน รักษาคุณค่าทางอาหารไว้ได้ครบถ้วน ปราศจากคอเลสเตอรอล เอาไว้ทำน้ำสลัดหรือซอสแบบไม่ต้องผ่านความร้อนได้อย่างลงตัว
| ปริมาณ | 0.5 ลิตร |
| แหล่งผลิตน้ำมันมะกอก | สเปน |
| บรรจุภัณฑ์ | ขวดแก้วทึบ |
ข้อดี
- ใช้มะกอกพันธุ์ Arbequina คุณภาพดี สกัดแบบเย็นๆ เพื่อรักษาคุณค่าสารอาหาร
- รับรองความเป็นออร์แกนิก ปลอดภัย ไร้สารเคมี 100%
- ไขมันดี ไม่มีคอเลสเตอรอล ช่วยดูแลสุขภาพของคุณ
- เหมาะมากสำหรับทำน้ำสลัดหรือซอสแบบไม่ต้องผ่านความร้อน
- มาในขนาด 500 มล. ใช้ได้จุใจหลายเดือน
ข้อควรพิจารณา
- ถ้าต้องทำอาหารที่ใช้ไฟแรงๆ อาจไม่เหมาะเท่าไหร่
- ขวด 500 มล. อาจจะเยอะเกินไปถ้าบ้านไหนไม่ค่อยทำอาหาร
- ไม่บอกค่าความเป็นกรดมาในฉลาก
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?
เรามองว่า Romulo เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากๆ เพราะเป็นน้ำมันมะกอกออร์แกนิกจากมะกอกพันธุ์ Arbequina ที่สกัดแบบเย็นๆ เลยทำให้คงคุณค่าอาหารไว้ได้ครบถ้วน และไม่มีคอเลสเตอรอลด้วยนะ ถ้าใครชอบทำอาหารสุขภาพ แนะนำเลยว่าเหมาะมากสำหรับทำน้ำสลัดหรือซอสที่ไม่ต้องผ่านความร้อน ที่สำคัญมีวิตามินอีและกรดไขมันดีๆ เยอะมาก เป็นสูตรออร์แกนิกแท้ๆ ไม่มีสารเคมีเจือปนเลย5. Basso Organic Extra Virgin Olive Oil น้ำมันมะกอก
Basso Organic Extra Virgin Olive Oil น้ำมันมะกอกออร์แกนิกจากอิตาลี ค่ากรดโอลิอิกต่ำ อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ เหมาะสำหรับการปรุงอาหารทุกประเภท
| ปริมาณ | 1 ลิตร |
| แหล่งผลิตน้ำมันมะกอก | อิตาลี |
| บรรจุภัณฑ์ | ขวดแก้วทึบ |
ข้อดี
- เป็นน้ำมันมะกอกออร์แกนิกแท้ๆ 100% ไม่มีสารเคมีเจือปนเลย
- มีกรดโอลิอิกต่ำกว่าน้ำมันมะกอกทั่วไปในท้องตลาด ดีต่อสุขภาพมากๆ
- อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุจากธรรมชาติที่ร่างกายต้องการ
- ใช้ได้สารพัดเมนู ไม่ว่าจะผัด หมัก ทำซอส หรือราดสดๆ ก็อร่อย
- มาในขวดใหญ่ขนาด 1 ลิตร คุ้มค่าสำหรับใช้ในครัวเรือน ใช้ได้นาน
ข้อควรพิจารณา
- ฉลากไม่ได้ระบุว่ามะกอกที่ใช้มาจากพื้นที่ไหนในอิตาลี ทำให้ไม่รู้แหล่งที่มาที่ชัดเจน
- ไม่ได้บอกว่าใช้วิธีสกัดเย็นหรือเปล่า
- แบรนด์นี้มีน้ำมันมะกอกหลายเกรด รวมถึง Olive Pomace Oil ด้วย อาจจะทำให้ซื้อผิดได้ถ้าไม่ดูให้ดี
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?
น้ำมันมะกอกของ Basso Organic Extra Virgin นี่เป็นสินค้าออร์แกนิก 100% จากอิตาลีเลยนะ ที่เด่นๆ คือมีกรดโอลิอิกต่ำกว่าน้ำมันมะกอกทั่วไป แถมยังอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุตามธรรมชาติด้วย ใช้ทำอาหารได้หลากหลายมาก เหมาะกับการใช้งานในครัวทั่วไป ถ้าใครกำลังมองหาน้ำมันมะกอกออร์แกนิกคุณภาพดีในราคาที่จับต้องได้ ตัวนี้น่าสนใจมากๆ เลยล่ะครับ6. Naturel Extra Virgin Olive Oil น้ำมันมะกอก
น้ำมันมะกอก Naturel Extra Virgin จากสเปนตัวนี้น่าสนใจมากๆ เลยนะ ใช้มะกอกพันธุ์ดีอย่าง Hojiblanca กับ Picual ในการผลิต กลิ่นหอมมะกอกแท้ๆ ชัดเจน ที่สำคัญคือปลอดคอเลสเตอรอล และผ่านการรับรองฮาลาล
| ปริมาณ | 0.25 ลิตร |
| แหล่งผลิตน้ำมันมะกอก | สเปน |
| บรรจุภัณฑ์ | ขวดแก้ว |
ข้อดี
- ใช้มะกอกสายพันธุ์ดีอย่าง Hojiblanca กับ Picual จากแคว้นอันดาลูเซีย สเปน ที่ขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพ
- อุดมด้วยไขมันดีและสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยดูแลสุขภาพของคุณ
- ปลอดคอเลสเตอรอล 100% และผ่านการรับรองฮาลาล ใช้ได้ทุกความเชื่อ
- หอมกลิ่นมะกอกแท้ๆ รสชาติกลมกล่อม ใช้แล้วอาหารอร่อยขึ้นแน่นอน
- เหมาะมากสำหรับทำน้ำสลัด จิ้มขนมปัง หรือราดสดๆ กับอาหารเย็น
- มาในขวดขนาดกำลังดี 250 มล. พร้อมฝาเทสะดวกใช้ ไม่หกเลอะเทอะ
ข้อควรพิจารณา
- ถ้าชอบทำอาหารที่ต้องใช้ไฟแรงๆ อาจจะไม่เหมาะนะ เพราะน้ำมันชนิดนี้ไม่ทนความร้อนสูง
- ขวดขนาด 250 มล. อาจจะหมดเร็วไปหน่อยสำหรับคนที่ทำอาหารบ่อยๆ
- น่าเสียดายที่ไม่ได้บอกค่าความเป็นกรดเอาไว้
น้ำมันมะกอกแบรนด์ Naturel เป็นอีกตัวที่เราภูมิใจนำเสนอ เพราะผลิตจากมะกอกคุณภาพเยี่ยมจากแคว้นอันดาลูเซียของสเปน ใช้มะกอกพันธุ์ Hojiblanca และ Picual ที่ขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพ ที่สำคัญคือมีสารอาหารที่ดีต่อสุขภาพเพียบ ทั้งไขมันดี สารต้านอนุมูลอิสระ วิตามินเอ และเบต้าแคโรทีน ที่น่าประทับใจคือได้รับการรับรองฮาลาล และไม่มีคอเลสเตอรอลด้วย เหมาะมากสำหรับทำอาหารเย็นๆ อย่างสลัด หรือจะใช้จิ้มขนมปังก็อร่อย กลิ่นหอมของมะกอกชัดเจน รสชาติกลมกล่อม มาในขนาด 250 มล. เก็บได้นานถึง 3 ปี ที่เพิ่มความสะดวกคือมีฝาเทน้ำมันมาให้ด้วย ใช้งานง่าย ไม่เลอะเทอะ ถ้าใครกำลังมองหาน้ำมันมะกอกคุณภาพดีไว้ทำอาหารเพื่อสุขภาพ แนะนำตัวนี้เลยครับ ใช้ได้หลากหลายเมนูมาก
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?
น้ำมันมะกอก Naturel Extra Virgin นี่เป็นสุดยอดผลิตภัณฑ์จากแคว้นอันดาลูเซียของสเปนเลยนะ ที่นั่นขึ้นชื่อเรื่องการผลิตน้ำมันมะกอกคุณภาพเยี่ยมมาอย่างยาวนาน พิเศษตรงที่ใช้มะกอกพันธุ์ดีอย่าง Hojiblanca และ Picual มาผลิต อุดมไปด้วยไขมันดี สารต้านอนุมูลอิสระ วิตามินเอ และเบต้าแคโรทีน ทีเด็ดสุดคือผ่านการรับรองฮาลาล ตัวผลิตภัณฑ์ใช้งานง่ายสุด ๆ มาพร้อมฝาเทน้ำมันที่ใช้งานง่าย ไม่เลอะเทอะ ถ้าใครกำลังมองหาน้ำมันมะกอกดีๆ ไว้ทำอาหารเพื่อสุขภาพ แนะนำเลยว่าต้องลอง ใช้ได้หลากหลายเมนูมากจริงๆ
7. Ybarra Extra Virgin Olive Oil น้ำมันมะกอก
น้ำมันมะกอก Ybarra นี่ต้องยกนิ้วให้เลย น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์แท้ 100% จากสเปน ที่คัดสรรมะกอกอย่างพิถีพิถัน กลิ่นหอมธรรมชาติ สีเหลืองทองสวยงาม แถมยังอุดมด้วยวิตามินอี เอาไว้ทำสลัด พาสต้า หรือราดอาหารก็อร่อยมาก
| ปริมาณ | 0.5 ลิตร |
|---|---|
| แหล่งผลิตน้ำมันมะกอก | สเปน |
| บรรจุภัณฑ์ | ขวดแก้วทึบ |
ข้อดี
- มาจากแคว้นอันดาลูเซียในสเปน แหล่งผลิตน้ำมันมะกอกชั้นเยี่ยมที่มีชื่อเสียงระดับโลก
- ใส่ใจทุกขั้นตอนการผลิต คัดเฉพาะมะกอกเกรดพรีเมียมมาสกัดน้ำมัน
- สวยงามด้วยสีเหลืองทอง พร้อมกลิ่นหอมธรรมชาติของมะกอกแท้ๆ
- อัดแน่นด้วยวิตามินอี ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ดีต่อสุขภาพ
- เข้ากันดีกับอาหารสดๆ ไม่ว่าจะเป็นสลัด พาสต้า หรือจะราดลงไปในจานโปรด
- มาในขวดแก้วทึบขนาด 500 มล. ช่วยปกป้องคุณภาพน้ำมันได้ดีเยี่ยม
ข้อควรพิจารณา
- ตัวนี้ยังไม่ได้บอกว่าเป็นน้ำมันสกัดเย็นหรือเปล่า ทำให้เราไม่รู้ว่าคุณค่าสารอาหารจะยังอยู่ครบไหม
- น่าเสียดายที่ไม่ได้บอกว่าเป็นมะกอกออร์แกนิค สำหรับคนที่ใส่ใจเรื่องสารเคมีตกค้างอาจต้องลองหาข้อมูลเพิ่ม
- ขวดแก้วทึบดีตรงที่ช่วยเก็บน้ำมันให้สดใหม่ แต่ก็ต้องระวังหน่อยตอนขนส่งหรือใช้งาน เพราะอาจพลาดทำแตกได้ง่าย
Ybarra Extra Virgin Olive Oil น้ำมันมะกอกสเปนเกรดพรีเมียมที่ทำได้เข้มข้นและเปี่ยมคุณภาพแบบจัดเต็มครับ ตัวนี้ทำจากมะกอกพันธุ์ Arbequina และ Hojiblanca ที่คัดสรรสุดพิเศษ ผ่านกระบวนการควบคุมคุณภาพแบบเข้มข้น แบรนด์เค้าขนาดชิมมะกอกปีละพันครั้งเพื่อรักษามาตรฐานให้เป๊ะทุกขวด! พอเปิดขวดออกมาจะเจอกลิ่นหอมสดชื่นของมะกอกแท้ๆ สีเหลืองทองสวยตา แถมอัดแน่นด้วยวิตามินอีสารต้านอนุมูลอิสระชั้นดี เอาไปใช้ได้ทั้งทานสดๆ อย่างราดสลัดผักกรอบๆ คลุกพาสต้าร้อนๆ หรือแม้แต่เพิ่มความล้ำลึกให้สตูว์เนื้อก็เวิร์กสุดๆ จุดเด่นอยู่ที่ขวดแก้วทึบขนาด 500 มล. ที่ช่วยรักษาความหอมและคุณค่าสารอาหารไว้ได้นาน เหมาะมากกับคนรักสุขภาพที่อยากได้น้ำมันมะกอกคุณภาพสูงรสชาติกลมกล่อม แบบทานทีไรได้กลิ่นมะกอกติดจมูกตลอดเลยล่ะ รับรองว่าถูกใจทั้งสายคลีนเอทและสายฟู้ดี้ที่ชอบความออริจินัลของวัตถุดิบระดับพรีเมียม!
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?
น้ำมันมะกอก Ybarra นี่เป็นของดีจากสเปน ผลิตจากแคว้นอันดาลูเซีย ที่ขึ้นชื่อเรื่องน้ำมันมะกอกคุณภาพเยี่ยม เค้าพิถีพิถันมากในการคัดสรรมะกอก ถึงขนาดต้องชิมตรวจสอบคุณภาพกันนับพันครั้งต่อปีเลยทีเดียว ที่สำคัญคือได้น้ำมันมะกอกสีทองสวย หอมกลิ่นมะกอกแท้ๆ อุดมไปด้วยวิตามินอีที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ เอาไว้ทำสลัด ราดพาสต้า หรือปรุงอาหารก็อร่อยทั้งนั้น แถมยังมาในขวดแก้วทึบที่ช่วยเก็บรักษาคุณภาพน้ำมันได้ดีอีกด้วย
8. Fragata Extra Virgin Olive Oil น้ำมันมะกอก
น้ำมันมะกอก Fragata ตัวนี้น่าสนใจมาก ผลิตจากสเปน ใช้มะกอกพันธุ์โฮจิบลังกาและปิคูด้าคุณภาพดี ที่เด่นๆ คือไม่มีไขมันทรานส์ และผ่านกระบวนการลดกลิ่นมะกอกมาแล้ว เลยเหมาะมากสำหรับคนที่อยากทำสลัดหรือซอสที่ไม่มีกลิ่นมะกอกแรง ๆ
| ปริมาณ | 0.25 ลิตร |
| แหล่งผลิตน้ำมันมะกอก | สเปน |
| บรรจุภัณฑ์ | ขวดแก้วทึบ |
ข้อดี
- ใช้มะกอกคุณภาพเยี่ยมจากแคว้นอันดาลูเซีย แหล่งน้ำมันมะกอกชั้นเลิศของสเปน
- ปลอดภัยต่อสุขภาพ เพราะไม่มีไขมันทรานส์เลย
- ผลิตด้วยเทคโนโลยีล่าสุด ได้มาตรฐานระดับโลก
- เหมาะที่สุดสำหรับทำสลัดสดๆ หรือราดซอสจิ้มแสนอร่อย
- สวยงามด้วยสีเหลืองทองธรรมชาติ พิเศษตรงที่กลิ่นมะกอกไม่แรงเกินไป
- ขวดขนาดกำลังดี 250 มล. พกพาง่าย ใช้ได้สะดวก
ข้อควรพิจารณา
- อาจไม่เหมาะกับการทำอาหารที่ต้องใช้ไฟแรงๆ เพราะน้ำมันอาจเสียคุณภาพได้
- การที่ลดกลิ่นมะกอกออกไป อาจทำให้คุณไม่ได้สัมผัสความเป็นน้ำมันมะกอกแท้ๆ เต็มที่
- ขวดขนาด 250 มล. อาจหมดเร็วไปนิด ถ้าคุณเป็นคนชอบทำอาหารบ่อยๆ
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?
Fragata นี่เป็นแบรนด์ดังจากสเปน ผลิตในแคว้นอันดาลูเซีย ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งผลิตน้ำมันมะกอกระดับพรีเมียมของโลก พิเศษตรงที่เค้าเลือกใช้มะกอกพันธุ์โฮจิบลังกาและปิคูด้าคุณภาพดี ที่สำคัญคือไม่มีไขมันทรานส์ด้วย ผ่านการผลิตที่ได้มาตรฐานสูง ใช้งานง่ายมากๆ จะเอาไปทำสลัด ราดพาสต้า หรือปรุงอาหารก็เข้ากันได้หมด มาในขนาด 250 มล. พกพาสะดวก สีสวยเหลืองทองน่าใช้ ที่เด่นสุดๆ คือผ่านกระบวนการลดกลิ่นมะกอกมาแล้ว เลยเหมาะมากสำหรับคนที่ไม่ชอบกลิ่นมะกอกแรงๆ จะเอาไปทำอะไรก็ได้หลากหลายสไตล์9. Filippo Berio Extra Virgin Olive Oil น้ำมันมะกอก
Filippo Berio ผลิตภัณฑ์คุณภาพพรีเมียมจากอิตาลี ผ่านการรับรองจากสถาบัน NAOOA ที่การันตีคุณภาพระดับสากล ไม่มีคอเลสเตอรอลและกลูเตน เอาไว้ทำสลัดเด็ด ซอสแสนอร่อย หรือจะราดพาสต้าก็ฟินสุดๆ
| ปริมาณ | 0.25 ลิตร |
| แหล่งผลิตน้ำมันมะกอก | อิตาลี |
| บรรจุภัณฑ์ | ขวดแก้วทึบ |
ข้อดี
- ได้รับการรับรองจากสมาคม NAOOA ที่เชี่ยวชาญด้านน้ำมันมะกอกในอเมริกาเหนือ
- ใช้มะกอกคุณภาพดีจากแหล่งเพาะปลูกในอิตาลี
- ดีต่อสุขภาพ ไม่มีคอเลสเตอรอลและกลูเตน
- เอาไว้ทำน้ำสลัดเด็ดๆ ซอสแสนอร่อย หรือหมักเนื้อก็ได้
- ทนความร้อนได้ถึง 180-200°C เอาไว้ผัดผักหรือทำอาหารที่ใช้ไฟปานกลางได้สบาย
- ขวดขนาด 250 มล. กำลังดี พกพาสะดวก เหมาะกับการใช้ในครัว
ข้อควรพิจารณา
- เป็นน้ำมันมะกอกทั่วไป ไม่ใช่ออร์แกนิก แต่คุณภาพดีนะ
- ขวดเล็กไปหน่อย ถ้าทำอาหารบ่อยๆ อาจต้องซื้อเพิ่มบ่อย
- ไม่ได้บอกค่าความเป็นกรดมาในฉลาก
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?
Filippo Berio เป็นแบรนด์น้ำมันมะกอกคุณภาพสูงจากอิตาลี สชาติของน้ำมันมะกอกตัวนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ให้กลิ่นหอมอ่อนๆ ของผลไม้สดผสมกับกลิ่นหญ้า และมีรสชาติละมุนที่ค้างติดในคอนิดๆ เอาไปทำอะไรก็อร่อย ไม่ว่าจะเป็นน้ำสลัด ซอสต่างๆ ราดพาสต้า หรือใช้หมักเนื้อสัตว์และผัดผัก ที่สำคัญคือทนความร้อนได้ถึง 180-200°C แถมยังไม่มีคอเลสเตอรอลและกลูเตน เรียกได้ว่าตอบโจทย์สายสุขภาพสุดๆ10. Alce Nero Organic Extra Virgin Olive Oil น้ำมันมะกอก
Alce Nero Organic Extra Virgin Olive Oil น้ำมันมะกอกออร์แกนิก 100% จากอิตาลี ผ่านการรับรองมาตรฐานออร์แกนิกสหภาพยุโรป ผลิตด้วยกระบวนการสกัดเย็น เหมาะสำหรับน้ำสลัด ผักย่าง และจิ้มขนมปัง
| ปริมาณ | 0.5 ลิตร |
| แหล่งผลิตน้ำมันมะกอก | อิตาลี |
| บรรจุภัณฑ์ | ขวดแก้วทึบ |
ข้อดี
- เป็นน้ำมันมะกอกออร์แกนิกแท้ๆ 100% เลยนะ ไม่มีของปลอมมาผสม
- ผ่านการรับรองจากสหภาพยุโรป การันตีคุณภาพระดับพรีเมียม
- สกัดเย็นแบบธรรมชาติ ไม่ผ่านความร้อนหรือสารเคมีใดๆ เลย
- เอาไว้ทำน้ำสลัด ราดผักย่าง หรือจิ้มขนมปังอร่อยๆ ได้หมด
- มาในขวดแก้วขนาด 500 มล. เก็บรักษาง่าย ใช้ได้นาน
ข้อควรพิจารณา
- ถ้าจะเอาไปทอดหรือผัดอาจไม่เหมาะนะ เพราะน้ำมันตัวนี้ไม่ได้ออกแบบมาสำหรับทำอาหารที่ต้องใช้ไฟแรงๆ
- น่าเสียดายที่ฉลากไม่ได้ระบุค่ากรดโอเลอิกเอาไว้ ทำให้เราไม่รู้ว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพมากแค่ไหน
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?
Alce Nero เป็นน้ำมันมะกอกออร์แกนิกแท้ๆ จากอิตาลี ที่ผ่านการคัดสรรมะกอกคุณภาพเยี่ยมมาให้เราได้ใช้กัน ผ่านการรับรองจากสหภาพยุโรป และที่สำคัญคือใช้วิธีสกัดเย็นแบบธรรมชาติ ไม่ผ่านความร้อนหรือสารเคมีใดๆ เลย ทำให้ได้น้ำมันมะกอกที่คงคุณค่าทางอาหารไว้อย่างครบถ้วน พูดถึงรสชาติต้องบอกว่าเด็ดมาก! มีกลิ่นหอมของมะกอกแท้ๆ แถมยังมีกลิ่นผลไม้อ่อนๆ แทรกมาให้ได้ดื่มด่ำ เอาไปทำน้ำสลัดก็เข้ากัน จิ้มขนมปังก็อร่อย หรือจะราดบนผักย่างกับปลาย่างก็ฟินสุดๆ แต่แนะนำว่าอย่าเอาไปทอดหรือผัดนะ เพราะน้ำมันตัวนี้ไม่ได้ออกแบบมาสำหรับทำอาหารร้อนจัดExtra Virgin Olive Oil ดีต่อสุขภาพยังไงบ้าง?
ช่วยดูแลหัวใจและควบคุมคอเลสเตอรอล
หนึ่งในคุรสมบัติที่น่าจับตามอง คือช่วยเพิ่มไขมันดี (HDL) และลดไขมันร้าย (LDL) ได้ดีเลยล่ะ ซึ่งนี่แหละที่จะช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจได้! ยิ่งไปกว่านั้นคือ น้ำมันมะกอกมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวเยอะมาก ซึ่งช่วยไม่ให้ไขมันไปจับตัวในเส้นเลือด แถมยังมีโพลีฟีนอล ที่เหมือนเป็นยาแก้อักเสบธรรมชาติ ช่วยให้เลือดไหลเวียนดีขึ้นด้วยนะต้านอนุมูลอิสระ ชะลอวัย ต้านมะเร็ง
EVOO นี่เป็นขุมพลังของสารต้านอนุมูลอิสระเลยนะครับ โดยเฉพาะสารโพลีฟีนอลและวิตามินอี ที่ช่วยปกป้องเซลล์ในร่างกายเราจากความเสียหาย ทำให้ผิวพรรณดูอ่อนเยาว์ ลดริ้วรอย และที่เจ๋งไปกว่านั้นคือช่วยลดความเสี่ยงของมะเร็งด้วย! โดยเฉพาะมะเร็งเต้านมและมะเร็งลำไส้ ที่น่าสนใจคือมีงานวิจัยพบว่า คนที่ทานอาหารเมดิเตอร์เรเนียนเป็นประจำ มีโอกาสเป็นมะเร็งน้อยกว่าคนที่ไม่ได้ทานเลย และถ้าใครอยากเพิ่มพลังต้านอนุมูลอิสระให้แรงขึ้นไปอีก ลองดู 10 astaxanthin ดีที่สุด ที่เราแนะนำไว้ก็ได้นะ เพราะทั้งสองนี้มีสารต้นอนุมูลอิสระ เมื่อกินคู่กับอาหารที่ปรุงด้วยน้ำมันมะกอก ก็จะสุขภาพดี ช่วยลดการอักเสบและดูแลหัวใจไปพร้อมๆ กัน ถือเป็นคู่หูสุขภาพที่ลงตัวสุดๆ!ช่วยกระตุ้นการขับถ่าย ทำให้ท้องไม่ผูก
น้ำมันมะกอกมีสารพิเศษที่ชื่อว่า โอเลโอแคนธอล (Oleocanthal) ซึ่งช่วยให้ลำไส้ของเราทำงานได้ดีขึ้น ทำให้ระบบขับถ่ายเป็นปกติ ไม่ต้องกังวลเรื่องท้องผูกอีกต่อไป และไขมันดีในน้ำมันมะกอก ยังทำหน้าที่เหมือนสารหล่อลื่นในลำไส้ ช่วยให้ขับถ่ายง่ายขึ้น เรียกได้ว่าเป็นทางเลือกที่ดีมากๆ สำหรับคนที่มีปัญหาเรื่องระบบย่อยอาหารเลยล่ะข้อแตกต่างระหว่าง EVOO กับน้ำมันมะกอกประเภทอื่น
น้ำมันมะกอกมีหลายเกรดนะครับ แต่ที่เขาบอกว่า EVOO ดีที่สุดเนี่ย ก็เพราะมันผ่านการสกัดแบบเย็น (Cold Pressed) ไม่ได้ใช้ความร้อนหรือสารเคมีอะไรเลย เลยทำให้วิตามินกับสารอาหารดีๆ ยังอยู่ครบถ้วน ลองมาดูแต่ละแบบกันดีกว่าว่าแตกต่างกันอย่างไรบ้าง- Virgin Olive Oil : จริง ๆ น้ำมันประเภทเวอร์จิ้นก็ดีนะ แต่คุณภาพรองลงมานิดหน่อย ยังมีความเป็นกรดสูงขึ้น แต่ก็ยังมีวิตามินอยู่บ้าง
- Pure Olive Oil หรือ Light Olive Oil : น้ำมันพวกนี้ผ่านการกลั่นมาแล้ว วิตามินหายไปเยอะ แต่ข้อดีคือเอาไปทำอาหารที่ต้องใช้ไฟแรงๆ ได้
- Pomace Olive Oil : ส่วนน้ำมันประเทภนี้เขาเอากากมะกอกมาสกัดด้วยสารเคมี วิตามินเลยเหลือน้อยที่สุด
EVOO: น้ำมันมะกอกสุดพิเศษ เพื่อสุขภาพที่ดีกว่า
ถ้าคุณกำลังมองหาน้ำมันที่ช่วยดูแลสุขภาพได้ครบเครื่อง น้ำมันมะกอกน่าจะเป็นตัวเลือกที่ใช่เลย! นอกจากจะช่วยดูแลหัวใจและลดความเสี่ยงมะเร็งแล้ว ยังช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น พร้อมทั้งอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่ร่างกายต้องการ แค่เปลี่ยนจากน้ำมันทอดทั่วไปมาใช้น้ำมันมะกอกเอ็กตร้าเวอร์จิน ก็สามารถช่วยให้มื้ออาหารของคุณมีประโยชน์มากขึ้นแล้ว ง่ายจริงไหมล่ะ?วิธีสังเกตน้ำมันมะกอก EVOO ของแท้
น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์พิเศษ (Extra Virgin Olive Oil – EVOO) ถือเป็นน้ำมันคุณภาพสูงที่มีสารอาหารครบถ้วนและดีต่อสุขภาพ แต่ด้วยความนิยมที่เพิ่มขึ้น ทำให้มีสินค้าปลอม หรือผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐานออกมาวางจำหน่ายมากมาย
1. เคล็ดลับดูฉลาก จะรู้ได้ไงว่าเป็นน้ำมันมะกอกคุณภาพดี
รู้หรือไม่ว่าฉลากบนขวดน้ำมันมะกอกนั้นบอกอะไรเราได้เยอะมาก? มาดูกันว่าต้องสังเกตอะไรบ้างนะ
- มองหาคำว่า “Extra Virgin” – นี่แหละตัวบ่งชี้ว่าเป็นน้ำมันเกรดท็อป สกัดจากมะกอกครั้งแรกแบบธรรมชาติ ไม่พึ่งสารเคมีหรือความร้อน วิตามินเลยอยู่ครบ
- “Cold Pressed” หรือ “Cold Extraction” – สกัดเย็นที่อุณหภูมิต่ำกว่า 27°C เพื่อรักษากลิ่นหอมและคุณค่าอาหารไว้ให้มากที่สุด
- ดูค่าความเป็นกรด (Acidity Level) – ของดีต้องต่ำกว่า 0.8% ยิ่งต่ำยิ่งดี แปลว่าใช้มะกอกคุณภาพดีและผลิตอย่างพิถีพิถัน ถ้าค่านี้สูง อาจเป็นสัญญาณว่าคุณภาพไม่ค่อยดีหรือเริ่มเสื่อมแล้ว
2. มาดูกันว่าเลือกอย่างไรให้ได้ของแท้
ถ้าอยากได้น้ำมันมะกอกคุณภาพดี ต้องดูที่การรับรองมาตรฐานนะ เพราะพวกนี้จะช่วยการันตีว่าผลิตมาจากที่ไหน ผลิตยังไง และคุณภาพเป็นอย่างไร
- USDA Organic – ถ้าเห็นตรานี้รับรองว่าเป็นออร์แกนิกแน่นอน ปลอดสารพิษ ไม่มียาฆ่าแมลงเลย
- PDO – นี่เป็นตรารับรองว่ามาจากแหล่งปลูกที่ดีที่สุด อย่างในสเปนก็มีที่อันดาลูเซีย หรือในอิตาลีก็มีทัสคานี ที่ขึ้นชื่อเรื่องมะกอกคุณภาพเยี่ยม
- PGI – คล้ายๆ PDO แต่ครอบคลุมพื้นที่กว้างกว่า แต่ก็ยังรับประกันว่ามาจากแหล่งที่มีชื่อเสียงด้านน้ำมันมะกอกอยู่ดี
3. ลองเทสต์ง่ายๆ ที่บ้าน – เอาไปแช่ตู้เย็นดูสิ!
รู้มั้ย? เราสามารถเช็คน้ำมันมะกอก EVOO ง่ายๆ ที่บ้านได้เลย แค่เอาไปแช่ตู้เย็นที่อุณหภูมิ 0-5°C ทิ้งไว้สักวัน แล้วมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น
- ถ้าเป็นของแท้ น้ำมันจะเริ่มขุ่นๆ และอาจจับตัวเป็นก้อนคล้ายๆ ไข่ขาว เพราะไขมันดีๆ ในน้ำมันมะกอกจะแข็งตัวเมื่อโดนความเย็น
- แต่ถ้าเป็นของปลอม น้ำมันจะยังใสๆ เหมือนเดิม เพราะอาจมีการผสมน้ำมันอื่นๆ ที่ไม่แข็งตัวเวลาเย็น
แต่ทั้งนี้ก็เป็นการพิสูจน์แบบคร่าว ๆ เท่านั้น เพราะน้ำมันมะกอกแต่ละสายพันธุ์ก็อาจจะแข็งตัวไม่เหมือนกัน ใช้วิธีนี้เป็นแค่การเช็คเบื้องต้นก็พอ
4. เรื่องบรรจุภัณฑ์สำคัญนะ ต้องดูให้ดี!
น้ำมันมะกอกเนี่ยไวต่อแสงมาก พอเจอแสงแดดหรืออากาศมากไปก็เสียได้ง่ายๆ เลย ถ้าอยากได้น้ำมันมะกอกที่คุณภาพดี ต้องดูเรื่องบรรจุภัณฑ์ด้วยนะ มาดูกันว่าควรเลือกยังไง
- ขวดต้องสีเข้มๆ หรือเป็นอะลูมิเนียม – ไม่งั้นแสงแดดจะทำลายน้ำมันเอาได้ง่ายๆ ถ้าเจอขวดใสๆ หรือกระป๋องธรรมดา ข้ามไปเลยดีกว่า คุณภาพอาจจะไม่ดีเท่าที่ควร
- ฝาต้องปิดแน่นๆ – ถ้าอากาศเข้าได้ น้ำมันจะเหม็นหืนไวมาก แล้วก็ต้องทิ้งเปล่าๆ น่าเสียดายแย่
- ดูวันหมดอายุให้ชัด – น้ำมันมะกอกคุณภาพดีนี่ พอเปิดใช้แล้วควรใช้ให้หมดภายใน 6-12 เดือน จะได้ประโยชน์เต็มๆ
มาดูกัน! วิธีใช้น้ำมันมะกอกให้คุ้มค่าที่สุด
1. น้ำมันมะกอกเอาไปทำอาหารแบบไหนได้บ้าง
ถ้าจะใช้น้ำมันมะกอกทำอาหาร ต้องระวังเรื่องความร้อนนิดนึงนะ เพราะมันจะมีจุดที่เริ่มเกิดควัน (หรือที่เค้าเรียก Smoke Point) อยู่ที่ 160-200°C พอร้อนเกินกว่านี้ น้ำมันก็จะเริ่มเสียคุณภาพ สารอาหารดีๆ ก็จะหายไปด้วย แต่ไม่ต้องกังวลไป เพราะยังมีเมนูอร่อยๆ อีกเพียบที่เหมาะกับน้ำมันมะกอก อย่างเช่น- สลัดและน้ำสลัด – เอาจริงๆ นะ น้ำมันมะกอกนี่เข้ากับสลัดได้ดีมากๆ กลิ่นหอมๆ ของมะกอกช่วยชูรสชาติสลัดให้น่ากินขึ้นเยอะ ลองเอาไปผสมกับน้ำส้มสายชูบัลซามิกทำน้ำสลัดก็อร่อยสุดๆ
- ผัดไฟอ่อนๆ – ใช้ผัดอาหารไฟอ่อนๆ ก็ได้นะ อย่างผัดเห็ด ผัดหน่อไม้ฝรั่ง หรือจะทำสปาเก็ตตี้น้ำมันมะกอกกระเทียมก็เข้าท่า กลิ่นหอมๆ ช่วยเพิ่มความอร่อยได้อีกระดับ
- อบอาหาร – แค่ทาบางๆ บนเนื้อหรือผักก่อนเอาเข้าเตาอบ รับรองว่าได้อาหารที่นุ่มฉ่ำ รสชาติดีเยี่ยม
2. เมนูที่ควรหลีกเลี่ยง
น้ำมันมะกอก EVOO ดีต่อสุขภาพจริง แต่ก็มีข้อจำกัดนิดหน่อยนะ โดยเฉพาะเวลาทำอาหารที่ใช้ไฟแรงๆ มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง- ทอดน้ำมันท่วม (Deep fried) – อันนี้เลี่ยงไว้ก่อนดีกว่า เพราะ EVOO ทนความร้อนได้ไม่ดีเท่าน้ำมันรำข้าวหรือน้ำมันมะพร้าว ถ้าเอาไปทอด นอกจากจะเสียของแล้ว ยังอาจจะทำให้อาหารมีควันและเสียคุณค่าทางอาหารไปด้วย
- ผัดไฟแรง – ถ้าใช้ไฟแรงเกิน 200°C น้ำมันจะเริ่มไหม้ แถมยังทำให้รสชาติออกขมๆ ไม่อร่อยด้วย
3. จัดเก็บน้ำมันมะกอกให้อยู่ทน คุณภาพคงเดิม
ไม่ว่าของจะคุณภาพดีมากแค่ไหน แต่ถ้าเก็บผิดวิธีคุณภาพจะเสื่อมลงได้ง่ายๆ เลย มาดูกันว่าจะเก็บยังไงให้น้ำมันอยู่ได้นานๆ คงความอร่อยและคุณประโยชน์ไว้ครบถ้วน- หาที่เย็นๆ มืดๆ – แนะนำให้เก็บในตู้กับข้าวหรือห้องครัวที่อุณหภูมิไม่ร้อนจัด อย่าเอาไปตั้งตากแดดหรือใกล้เตาเชียวนะ น้ำมันจะเสียเร็ว
- เปิดแล้วใช้ให้หมดใน 6 เดือน – น้ำมันมะกอกเก็บได้นาน 1-2 ปีเลยทีเดียว แต่พอเปิดขวดแล้วอย่าเก็บนานเกิน 6 เดือนนะ จะได้ความอร่อยเต็มๆ
- ขวดต้องปิดแน่น – เลือกขวดแก้วสีเข้มๆ แล้วอย่าลืมปิดฝาให้สนิททุกครั้งที่ใช้เสร็จ จะได้ไม่มีอากาศเข้าไปทำให้น้ำมันเสีย
4. เมนูสุขภาพสุดฟิน ทำง่าย อร่อยด้วย
อยากทำอาหารสุขภาพแต่กลัวจืดชืด? ลองใช้น้ำมันมะกอกช่วยเพิ่มความอร่อยสิ! มาดูเมนูเด็ดๆ กันเลย- สลัดผักโขม+อะโวคาโด – เมนูเพื่อสุขภาพสุดฮิต จัดจ้านด้วย EVOO คู่กับน้ำส้มสายชูบัลซามิก ได้ทั้งไฟเบอร์และไขมันดีจากผักโขมและอะโวคาโด รับรองว่าอิ่มท้องแถมดีต่อสุขภาพสุดๆ
- ปลาแซลมอนย่าง – เคล็ดลับความอร่อยอยู่ที่การทา EVOO บางๆ ก่อนย่าง เนื้อปลาจะนุ่มฉ่ำ ได้กลิ่นหอมชวนกิน แถมยังได้โอเมก้า 3 แบบจัดเต็ม
คำถามที่พบบ่อย
1. น้ำมันมะกอกธรรมดากับแบบ Extra Virgin ต่างกันยังไง?
Extra Virgin Olive Oil หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า EVOO นี่เป็นน้ำมันมะกอกเกรดพรีเมียมเลยล่ะ สกัดเย็นแบบธรรมชาติ ไม่ผ่านสารเคมี ค่าความเป็นกรดต่ำมากแค่ 0.8% เท่านั้น เลยได้กลิ่นหอม รสชาติดี และมีสารอาหารครบถ้วน ต่างจากน้ำมันมะกอกทั่วไปที่ผ่านการกลั่นมาบ้าง ทำให้รสชาติและประโยชน์ลดลงไปนิดหน่อย
2. ทอดของด้วย EVOO ได้มั้ย?
จริงๆ แล้ว EVOO ไม่เหมาะกับการทอดน้ำมัน (Deep freid) นะ เพราะทนความร้อนได้แค่ 160-200°C ถ้าร้อนเกินไปก็จะเสียของดีๆ ในน้ำมันไปหมด แถมยังเกิดควันง่ายด้วย แนะนำให้ใช้ผัดไฟอ่อนๆ ทำน้ำสลัด หรือราดบนอาหารจะดีกว่า อร่อยแถมได้ประโยชน์เต็มๆ
3. จะเก็บ EVOO ให้อยู่ได้นานๆ ต้องทำไง?
ง่ายๆ เลย แค่เก็บในขวดแก้วสีเข้มๆ ปิดฝาให้แน่น อย่าให้โดนแดด เก็บไว้ในที่เย็นๆ อย่างในตู้กับข้าว แล้วก็พยายามใช้ให้หมดภายใน 6 เดือนหลังเปิดขวด จะได้อร่อยเหมือนเดิมทุกครั้งที่ใช้
4. EVOO ดีต่อสุขภาพยังไงบ้าง?
ผมขอย้ำอีกทีว่า EVOO นี่เด็ดจริงๆ อุดมไปด้วยไขมันดีที่ช่วยจัดการคอเลสเตอรอล ทั้งลดตัวร้าย (LDL) และเพิ่มตัวดี (HDL) แถมยังมีสารต้านอนุมูลอิสระอย่างโพลีฟีนอลและวิตามินอี ที่ช่วยให้ดูอ่อนเยาว์ ลดการอักเสบ ปกป้องเซลล์ในร่างกาย ช่วยระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น และยังดูแลหัวใจให้แข็งแรงอีกด้วย
