10 อันดับ แบตเตอรี่รถยนต์ ยี่ห้อไหนดี คุณภาพสูง ใช้งานทนทาน

Cover-483-แบตเตอรี่รถยนต์

แบตเตอรี่รถยนต์เป็นส่วนประกอบสำคัญที่ทำให้รถยนต์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยมีหน้าที่หลักในการจ่ายพลังงานไฟฟ้าเพื่อสตาร์ทเครื่องยนต์ และจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในรถ เช่น ระบบไฟ, ระบบเสียง, ระบบปรับอากาศ และระบบอื่น ๆ ที่ต้องใช้พลังงานไฟฟ้า แบตเตอรี่ที่มีคุณภาพดีจะช่วยให้การทำงานของรถยนต์เป็นไปอย่างราบรื่น ลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหาเกี่ยวกับระบบไฟฟ้า และยังช่วยยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ ภายในรถด้วย ในการเลือกแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ ควรพิจารณาปัจจัยสำคัญหลายประการ เช่น ประเภทของแบตเตอรี่ที่เหมาะสม, ค่าความจุของแบตเตอรี่, ค่า CCA ที่บ่งบอกถึงความสามารถในการสตาร์ทเครื่องยนต์ในสภาพอากาศเย็น, ความเหมาะสมกับขนาดและประเภทของเครื่องยนต์ รวมถึงประเภทของรถที่ใช้งาน เพื่อให้แบตเตอรี่สามารถตอบสนองความต้องการในการใช้งานของรถยนต์ได้อย่างเหมาะสม ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักกับ 10 อันดับ แบตเตอรี่รถยนต์ ยี่ห้อไหนดี คุณภาพสูง ใช้งานทนทาน โดยพิจารณาจากปัจจัยข้างต้น พร้อมแนะนำวิธีเลือกแบตเตอรี่ที่เหมาะสมกับรถของคุณอย่างละเอียด และยังมีหัวข้อสนับสนุนเพิ่มเติมเกี่ยวกับความสำคัญของค่า CCA และวิธีดูแลรักษาแบตเตอรี่เพื่อยืดอายุการใช้งาน ทำให้คุณมั่นใจได้ว่ารถยนต์ของคุณจะทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบในทุกการเดินทาง

หลักเกณฑ์ที่ใช้ในการจัดอันดับสินค้า

  • ประเภทของแบตเตอรี่: แบตเตอรี่รถยนต์มีหลายประเภท เช่น แบตเตอรี่แบบน้ำ แบตเตอรี่แบบแห้ง และแบตเตอรี่แบบ AGM (Absorbent Glass Mat) เราพิจารณาว่าแต่ละแบรนด์มีประเภทของแบตเตอรี่ที่หลากหลายและเหมาะสมกับรถยนต์แต่ละประเภทหรือไม่ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเลือกใช้แบตเตอรี่ที่ตรงกับความต้องการ
  • ค่าความจุของแบตเตอรี่ (Ah): ความจุของแบตเตอรี่มีผลต่อระยะเวลาการใช้งานและความสามารถในการจ่ายไฟฟ้า เราจะพิจารณาความจุที่แบรนด์นำเสนอเพื่อให้แน่ใจว่าแบตเตอรี่สามารถรองรับการใช้งานของระบบไฟฟ้าในรถยนต์ได้ดี
  • ค่า CCA (Cold Cranking Amps): ค่า CCA เป็นค่าที่บอกถึงความสามารถในการสตาร์ทเครื่องยนต์ในสภาพอากาศเย็น เราเลือกแบรนด์ที่มีค่า CCA สูงเพียงพอ เพื่อให้มั่นใจว่าแบตเตอรี่สามารถสตาร์ทเครื่องยนต์ได้ในทุกสภาพอากาศ
  • ความเหมาะสมสำหรับเครื่องยนต์: เราพิจารณาว่าแบรนด์แต่ละแบรนด์สามารถรองรับขนาดเครื่องยนต์ที่แตกต่างกันได้หรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ขนาดเล็ก รถยนต์ขนาดกลาง หรือรถกระบะที่ต้องการแบตเตอรี่ที่มีประสิทธิภาพสูง
  • ประเภทรถที่สามารถใช้งานได้: แบตเตอรี่บางยี่ห้ออาจเหมาะสำหรับรถยนต์เฉพาะรุ่น เช่น รถยนต์ไฟฟ้าหรือรถยนต์ดีเซล เราจัดอันดับแบรนด์ที่สามารถใช้งานได้กับหลากหลายประเภทของรถยนต์ เพื่อความคุ้มค่าและตอบโจทย์ผู้ใช้หลากหลายกลุ่ม

10 อันดับ แบตเตอรี่รถยนต์

1. 3K PMF50L

1 3K PMF50L

3K PMF50L เป็นแบตเตอรี่กึ่งแห้งที่มีความจุ 50 แอมป์และค่า CCA 400 เหมาะสำหรับรถเก๋งเบนซินหรือดีเซล มีระบบตรวจสอบประจุไฟและไม่ต้องเติมน้ำกลั่นบ่อย

ประเภทแบบแห้ง
ค่าความจุของแบตเตอรี่50 แอมป์
ค่า CCA400
เหมาะสำหรับเครื่องยนต์เบนซิน / ดีเซล
ประเภทรถที่ใช้งานได้รถเก๋ง

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

3K PMF50L เป็นแบตเตอรี่รถยนต์แบบกึ่งแห้งที่มีค่าความจุ 50 แอมป์และค่า CCA อยู่ที่ 400 เหมาะสำหรับรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซินหรือดีเซล และสามารถใช้งานได้กับรถเก๋งหลายรุ่น เช่น Honda Accord, Civic, Mazda2, Toyota Vios, Yaris, และ Nissan Tiida ขนาดของแบตเตอรี่อยู่ที่ 129 x 238 x 225 มิลลิเมตร และน้ำหนัก 13 กิโลกรัม ราคาอยู่ที่ 1,519 บาท จุดเด่นของแบตเตอรี่รุ่นนี้คือมีระบบตาแมวตรวจสอบสถานะไฟฟ้า ทำให้สามารถตรวจสอบประจุไฟได้สะดวก รวมถึงสามารถใช้งานได้ทันทีโดยไม่ต้องเติมน้ำกลั่นตลอดอายุการใช้งาน (ควรดูแลน้ำกลั่นทุก 3-6 เดือนในกรณีใช้งานหนัก) แบตเตอรี่รุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อการสตาร์ทรถที่รวดเร็ว และสามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตัวแบตเตอรี่มีฝาแบน 6 ช่อง เพื่อให้สามารถตรวจสอบระดับน้ำกลั่นได้ง่าย

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

แบตเตอรี่ 3K PMF50L เป็นตัวเลือกที่ดีเพราะมีระบบตาแมวตรวจสอบสถานะไฟฟ้า ทำให้ใช้งานสะดวกและไม่ต้องดูแลน้ำกลั่นบ่อย อีกทั้งยังเหมาะสำหรับรถเก๋งหลายรุ่นและมีประสิทธิภาพในการสตาร์ทสูง

2. GS 46B24R

2 GS 46B24R

GS 46B24R เป็นแบตเตอรี่กึ่งแห้งที่มีความจุ 45 แอมป์และค่า CCA 421 เหมาะสำหรับรถยนต์เบนซินขนาดไม่เกิน 1,800 ซีซี ทนทานต่ออุณหภูมิ ใช้งานได้ทันทีโดยไม่ต้องเติมน้ำกลั่นบ่อย และมีระบบตาแมวตรวจสอบสถานะไฟฟ้า

ประเภทแบบแห้ง
ค่าความจุของแบตเตอรี่45 แอมป์
ค่า CCA421
เหมาะสำหรับเครื่องยนต์เบนซิน
ประเภทรถที่ใช้งานได้รถยนต์

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

GS 46B24R เป็นแบตเตอรี่รถยนต์ชนิดกึ่งแห้งที่มีค่าความจุ 45 แอมป์ และค่า CCA 421 เหมาะสำหรับรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน โดยเฉพาะเครื่องยนต์ที่มีความจุกระบอกสูบไม่เกิน 1,800 ซีซี แบตเตอรี่รุ่นนี้ใช้แผ่นธาตุอัลลอยตะกั่ว (Pb-Ca) ที่ช่วยในการจ่ายกระแสไฟฟ้าได้ดี แม้ในสภาพอุณหภูมิต่ำ นอกจากนี้ แบตเตอรี่ยังถูกออกแบบมาเพื่อลดปัญหาแบตเตอรี่บวมหรือผุกรอบ เนื่องจากวัสดุที่ใช้ห่อหุ้มเป็นพลาสติกชนิดพิเศษที่ทนทานต่อการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ ขนาดของแบตเตอรี่อยู่ที่ 129 x 238 x 225 มิลลิเมตร และน้ำหนัก 13 กิโลกรัม ราคาของแบตเตอรี่อยู่ที่ 1,750 บาท แบตเตอรี่รุ่นนี้สามารถใช้งานได้ทันทีและไม่ต้องเติมน้ำกลั่นตลอดอายุการใช้งาน (ควรดูแลน้ำกลั่นทุก 3-6 เดือนในกรณีใช้งานหนัก) มีระบบตาแมวตรวจสอบสถานะไฟฟ้า และฝาแบน 6 ช่องสำหรับตรวจสอบระดับน้ำกลั่น

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

แบตเตอรี่ GS 46B24R เป็นตัวเลือกที่ดีเนื่องจากมีความทนทานต่อการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ และสามารถใช้งานได้ทันทีโดยไม่ต้องเติมน้ำกลั่นบ่อย อีกทั้งยังมีระบบตาแมวตรวจสอบสถานะไฟฟ้าที่ช่วยให้ตรวจสอบได้ง่าย

3. FB F-135

3 FB F-135

FB F-135 เป็นแบตเตอรี่ชนิดน้ำที่มีความจุ 85 แอมป์และค่า CCA 630 เหมาะสำหรับรถกระบะ, รถตู้, และ SUV ที่ต้องการกำลังสตาร์ทสูง ใช้งานได้ในสภาพอากาศหลากหลายและมีการรับประกัน 1 ปี

ประเภทแบบน้ำ
ค่าความจุของแบตเตอรี่85 แอมป์
ค่า CCA630
เหมาะสำหรับเครื่องยนต์เบนซิน / ดีเซล
ประเภทรถที่ใช้งานได้รถกระบะ, รถตู้, รถบรรทุก, SUV

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

FB F-135 เป็นแบตเตอรี่รถยนต์ชนิดน้ำที่มีความจุ 85 แอมป์ และค่า CCA 630 เหมาะสำหรับรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซินและดีเซล เช่น รถกระบะ, รถตู้, รถบรรทุก และ SUV แบตเตอรี่รุ่นนี้ใช้ระบบไฮบริดที่ต้องเติมน้ำกลั่นน้อย เหมาะกับการใช้งานในรถที่ต้องการกำลังสตาร์ทสูงและสามารถใช้งานได้ในสภาพอากาศที่หลากหลาย ขนาดของแบตเตอรี่อยู่ที่ 171 x 304 x 225 มิลลิเมตร แบตเตอรี่ FB F-135 มาพร้อมกับแผ่นธาตุ 15 แผ่นต่อช่อง และรับประกันการใช้งาน 1 ปี ราคาของแบตเตอรี่อยู่ที่ 2,750 บาท นอกจากนี้ยังมีการแถมแหวนกันขี้เกลือเพื่อป้องกันการเกิดคราบแบตเตอรี่ และตัวแบตเตอรี่สามารถเลือกได้ระหว่างขั้ว R และขั้ว L ขึ้นอยู่กับรุ่นของรถยนต์ที่ใช้งาน รุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานกับรถกระบะรุ่นต่าง ๆ รวมถึง Isuzu D-Max, Toyota Hilux Vigo, Fortuner, Mitsubishi Triton และ Nissan Navara

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

แบตเตอรี่ FB F-135 เป็นตัวเลือกที่ดีเพราะมีความจุ 85 แอมป์และค่า CCA 630 เหมาะสำหรับรถที่ต้องการกำลังสตาร์ทสูง เช่น รถกระบะและ SUV อีกทั้งยังใช้ระบบไฮบริดที่ต้องเติมน้ำกลั่นน้อยและมาพร้อมการรับประกัน 1 ปี

4. BOSCH 70B24L

4 BOSCH 70B24L

BOSCH 70B24L เป็นแบตเตอรี่แห้งที่มีความจุ 55 แอมป์และค่า CCA 510 ใช้เทคโนโลยี EFB เพื่อเพิ่มความทนทาน ไม่ต้องเติมน้ำกลั่น และเหมาะสำหรับรถที่มีการสตาร์ท-ดับเครื่องบ่อย ในสภาพอากาศร้อนจัด

ประเภทแบบแห้ง
ค่าความจุของแบตเตอรี่55 แอมป์
ค่า CCA510
เหมาะสำหรับเครื่องยนต์เบนซิน / ดีเซล
ประเภทรถที่ใช้งานได้รถเก๋ง

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

BOSCH 70B24L เป็นแบตเตอรี่รถยนต์ชนิดแห้งที่มีความจุ 55 แอมป์ และค่า CCA 510 เหมาะสำหรับเครื่องยนต์เบนซินและดีเซล ใช้ได้กับรถเก๋งหลายรุ่น เช่น Honda Accord, Civic, Mazda2 Sky Active เบนซิน, Suzuki Swift และ Toyota Yaris Ativ แบตเตอรี่รุ่นนี้ใช้เทคโนโลยี EFB ซึ่งเพิ่มวัสดุเส้นใยโพลีเอสเตอร์บนแผ่นเพลตขั้วบวก ทำให้มีความทนทานสูงและยืดอายุการใช้งาน ไม่ต้องเติมน้ำกลั่นตลอดอายุการใช้งาน ขนาดของแบตเตอรี่อยู่ที่ 129 x 238 x 223 มิลลิเมตร มีระบบการชาร์จและคายประจุแบบ Deep-cycling ซึ่งมีประสิทธิภาพมากกว่าแบตเตอรี่ทั่วไปถึง 2 เท่า นอกจากนี้ยังเหมาะสำหรับรถที่มีการสตาร์ท-ดับเครื่องบ่อย หรือใช้งานในสภาพอากาศร้อนจัด ราคาของแบตเตอรี่อยู่ที่ 2,550 บาท และมีการรับประกันการใช้งาน 15 เดือน

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

แบตเตอรี่ BOSCH 70B24L เป็นตัวเลือกที่ดีเพราะใช้เทคโนโลยี EFB ที่เพิ่มความทนทานและยืดอายุการใช้งานโดยไม่ต้องเติมน้ำกลั่น อีกทั้งยังมีระบบชาร์จและคายประจุแบบ Deep-cycling ที่มีประสิทธิภาพสูง เหมาะสำหรับรถที่มีการสตาร์ท-ดับเครื่องบ่อยหรือใช้งานในสภาพอากาศร้อนจัด

5. YUASA 50B24L/R SMF

5 YUASA 50B24 L-R SMF

YUASA 50B24L/R SMF เป็นแบตเตอรี่แห้งที่มีความจุ 50 แอมป์และค่า CCA 540 เหมาะสำหรับรถเก๋งไม่เกิน 2,400 ซีซี ใช้งานได้ทันทีโดยไม่ต้องดูแลน้ำกลั่น และมีประสิทธิภาพสูงแม้รถใช้งานน้อย

ประเภทแบบแห้ง
ค่าความจุของแบตเตอรี่50 แอมป์
ค่า CCA540
เหมาะสำหรับเครื่องยนต์เบนซิน
ประเภทรถที่ใช้งานได้รถเก๋งขนาดไม่เกิน 2,400 cc

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

YUASA 50B24L/R SMF เป็นแบตเตอรี่รถยนต์ชนิดแห้งที่มีความจุ 50 แอมป์ และค่า CCA 540 เหมาะสำหรับเครื่องยนต์เบนซินและรถเก๋งขนาดไม่เกิน 2,400 ซีซี แบตเตอรี่รุ่นนี้สามารถใช้งานได้ทันที ไม่จำเป็นต้องดูแลน้ำกลั่น และมาพร้อมฝา 2 ชั้นที่ช่วยป้องกันการระเหยของน้ำกรด ทำให้ไม่เกิดคราบขี้เกลือหลังการติดตั้ง นอกจากนี้ แผ่นธาตุแคลเซียมที่ใช้ในแบตเตอรี่ยังช่วยให้มีประสิทธิภาพในการสตาร์ทรถได้สูง แม้ในกรณีที่รถใช้งานน้อย ขนาดของแบตเตอรี่อยู่ที่ 24 เซนติเมตร และน้ำหนัก 11.3 กิโลกรัม ราคาของแบตเตอรี่อยู่ที่ 3,250 บาท และมีการรับประกันการใช้งาน 1 ปี รุ่นนี้เหมาะกับรถเก๋งหลายรุ่น เช่น Toyota Vios, Yaris, Altis, Honda Civic, CR-V, Nissan Sunny Neo, Tiida และ Mazda2

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

แบตเตอรี่ YUASA 50B24L/R SMF เป็นตัวเลือกที่ดีเพราะใช้งานได้ทันทีโดยไม่ต้องดูแลน้ำกลั่น มาพร้อมฝา 2 ชั้นที่ช่วยป้องกันการระเหยของน้ำกรด และมีประสิทธิภาพในการสตาร์ทสูง แม้ในกรณีที่รถใช้งานน้อย

6. Panasonic 60B24 R/L

6 Panasonic 60B24 R-L

Panasonic 60B24 R/L เป็นแบตเตอรี่แห้งที่มีความจุ 48 แอมป์และค่า CCA 480 เหมาะสำหรับรถยนต์เครื่องต่ำกว่า 1,600 ซีซี ใช้งานได้ทันทีโดยไม่ต้องดูแลน้ำกลั่น และมีอายุการใช้งานเฉลี่ย 2 ปี

ประเภทแบบแห้ง
ค่าความจุของแบตเตอรี่48 แอมป์
ค่า CCA480
เหมาะสำหรับเครื่องยนต์เบนซิน / ดีเซล
ประเภทรถที่ใช้งานได้รถเก๋งขนาดเล็กกว่า 1,600 cc

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

Panasonic 60B24 R/L เป็นแบตเตอรี่รถยนต์ชนิดแห้งที่มีความจุ 48 แอมป์ และค่า CCA 480 เหมาะสำหรับรถยนต์ที่มีขนาดเครื่องต่ำกว่า 1,600 ซีซี ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซินหรือดีเซล แบตเตอรี่รุ่นนี้ออกแบบมาให้ใช้งานได้ดีสำหรับรถยนต์แบรนด์ญี่ปุ่น และสามารถใช้งานได้ทันทีโดยไม่ต้องดูแลน้ำกลั่น ขนาดของแบตเตอรี่อยู่ที่ 129 x 238 x 227 มิลลิเมตร ราคา 1,890 บาท มีให้เลือกทั้งขั้วซ้าย (L) และขั้วขวา (R) เพื่อให้เหมาะกับลักษณะของรถยนต์ต่าง ๆ เช่น Toyota Vios, Yaris, Honda Civic, CR-V, Suzuki Swift และ Prius แบตเตอรี่รุ่นนี้มีอายุการใช้งานเฉลี่ย 2 ปี หรือประมาณ 30,000 กิโลเมตร

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

แบตเตอรี่ Panasonic 60B24 R/L เป็นตัวเลือกที่ดีเนื่องจากออกแบบมาให้ใช้งานได้ทันทีโดยไม่ต้องดูแลน้ำกลั่น เหมาะสำหรับรถยนต์แบรนด์ญี่ปุ่นที่มีขนาดเครื่องต่ำกว่า 1,600 ซีซี อีกทั้งยังมีราคาเข้าถึงได้และอายุการใช้งานเฉลี่ยถึง 2 ปี

7. GS MFX-50L

7 GS MFX-50L

GS MFX-50L เป็นแบตเตอรี่แห้งขนาด 40 แอมป์และค่า CCA 380 ที่ไม่ต้องเติมน้ำกลั่น เหมาะสำหรับรถยนต์หลายรุ่นในสภาพอากาศร้อนของเมืองไทย โดยมีโครงสร้าง Expansion Grid ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการจ่ายไฟ

ประเภทแบบแห้ง
ค่าความจุของแบตเตอรี่40 แอมป์
ค่า CCA380
เหมาะสำหรับเครื่องยนต์เบนซิน / ดีเซล
ประเภทรถที่ใช้งานได้รถเก๋ง

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

GS MFX-50L เป็นแบตเตอรี่รถยนต์ชนิดแห้งที่มีความจุ 40 แอมป์ และค่า CCA 380 เหมาะสำหรับรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซินและดีเซล โดยรุ่นนี้ไม่จำเป็นต้องเติมน้ำกลั่นตลอดอายุการใช้งาน ออกแบบมาให้ใช้งานได้ดีในสภาพอากาศร้อนของเมืองไทย โครงสร้างแบตเตอรี่แบบ Expansion Grid ช่วยให้สามารถจ่ายไฟได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ อีกทั้งยังมีแผ่นกั้นแผ่นธาตุ PE ที่ช่วยลดปัญหาขั้วแบตเตอรี่แตกหรือขาดภายใน ขนาดของแบตเตอรี่อยู่ที่ 187 x 127 x 225 มิลลิเมตร และราคา 1,585 บาท รุ่นนี้เหมาะสำหรับรถยนต์หลายรุ่น เช่น Honda Brio, City, Jazz, Nissan March, Mitsubishi Attrage และ Toyota Vios

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

แบตเตอรี่ GS MFX-50L เป็นตัวเลือกที่ดีเพราะไม่ต้องเติมน้ำกลั่นตลอดอายุการใช้งาน เหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพอากาศร้อนของเมืองไทย และมีโครงสร้าง Expansion Grid ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจ่ายไฟอย่างเต็มที่

8. 3K MAX95L/R

8 3K MAX95 L-R

3K MAX95L/R เป็นแบตเตอรี่ชนิดแห้งขนาด 75 แอมป์ ที่ไม่ต้องเติมน้ำกลั่น รองรับการใช้งานกับรถยนต์ขนาดใหญ่และเครื่องยนต์สูงถึง 2,500 ซีซี มาพร้อมระบบ Maintenance Free และอายุการใช้งานเฉลี่ย 2 ปี

ประเภทแบบแห้ง
ค่าความจุของแบตเตอรี่75 แอมป์
ค่า CCA600
เหมาะสำหรับเครื่องยนต์เบนซิน / ดีเซล
ประเภทรถที่ใช้งานได้รถกระบะ, รถเก๋งขนาดใหญ่

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

3K MAX95L/R เป็นแบตเตอรี่รถยนต์ชนิดแห้งขนาด 75 แอมป์ ที่ไม่ต้องเติมน้ำกลั่นตลอดอายุการใช้งาน ด้วยค่า CCA 600 แบตเตอรี่รุ่นนี้ออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานกับรถยนต์ที่มีกำลังเครื่องยนต์สูงถึง 2,500 ซีซี เช่น รถกระบะ รถ SUV และรถเก๋งขนาดใหญ่ อย่าง Toyota Fortuner, Camry, Honda Accord และ Isuzu D-MAX แบตเตอรี่รุ่นนี้มาพร้อมระบบ Maintenance Free ทำให้ผู้ใช้งานไม่ต้องดูแลบำรุงรักษาบ่อยครั้ง ขนาดของแบตเตอรี่อยู่ในมาตรฐาน JIS 90D26 และมีให้เลือกทั้งขั้วซ้าย (L) และขั้วขวา (R) เพื่อให้ตรงกับรุ่นรถยนต์ที่ใช้ ราคาของแบตเตอรี่อยู่ที่ 2,290 บาท และมีอายุการใช้งานเฉลี่ย 2 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร พร้อมการรับประกันจากบริษัทผู้ผลิต 1 ปี

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

แบตเตอรี่ 3K MAX95L/R เป็นตัวเลือกที่ดีเพราะไม่ต้องเติมน้ำกลั่นตลอดอายุการใช้งาน เหมาะสำหรับรถยนต์ขนาดใหญ่ที่มีกำลังเครื่องยนต์สูงถึง 2,500 ซีซี อีกทั้งยังมีระบบ Maintenance Free ที่ช่วยลดการบำรุงรักษา ทำให้ใช้งานได้สะดวกและคุ้มค่า

9. AMARON 115D31R/L

9 AMARON 115D31 R-L

AMARON 115D31R/L เป็นแบตเตอรี่แห้งขนาด 90 แอมป์ที่ใช้เทคโนโลยี PowerFrame Grid เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจ่ายไฟและความทนทาน เหมาะสำหรับรถยนต์ขนาด 1,900 - 3,200 ซีซี และมีการรับประกันนานถึง 24 เดือน

ประเภทแบบแห้ง
ค่าความจุของแบตเตอรี่90 แอมป์
ค่า CCA750
เหมาะสำหรับเครื่องยนต์เบนซิน / ดีเซล
ประเภทรถที่ใช้งานได้รถยนต์ 1,900 – 3,200 cc

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

AMARON 115D31R/L เป็นแบตเตอรี่รถยนต์ชนิดแห้งที่มีความจุ 90 แอมป์ และค่า CCA สูงถึง 750 เหมาะสำหรับรถยนต์ที่มีขนาดเครื่องยนต์ตั้งแต่ 1,900 – 3,200 ซีซี แบตเตอรี่รุ่นนี้ผลิตด้วยเทคโนโลยี PowerFrame Grid ซึ่งช่วยให้จ่ายไฟได้แรงกว่า 66% และมีความทนทานกว่าแบตเตอรี่ทั่วไปถึง 70% นอกจากนี้ แผ่นธาตุยังมีส่วนผสมของแร่เงินซึ่งช่วยให้การนำไฟฟ้ามีประสิทธิภาพสูงขึ้น โดยเฉพาะสำหรับการสตาร์ทรถในสภาพอากาศที่ไม่ดี ราคาของแบตเตอรี่อยู่ที่ 3,930 บาท และมีการรับประกันนานถึง 24 เดือน เหมาะสำหรับรถยนต์หลายรุ่น เช่น Isuzu D-Max, Toyota Fortuner, Mitsubishi Triton, และ Nissan Navara แบตเตอรี่รุ่นนี้มีทั้งขั้วซ้าย (L) และขั้วขวา (R) เพื่อให้เลือกใช้งานได้ตามความต้องการ

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

แบตเตอรี่ AMARON 115D31R/L เป็นตัวเลือกที่ดีเพราะใช้เทคโนโลยี PowerFrame Grid ที่ช่วยเพิ่มความทนทานและประสิทธิภาพในการจ่ายไฟ โดยมีค่า CCA สูงถึง 750 ทำให้สตาร์ทรถได้ดีในสภาพอากาศที่ไม่ดี อีกทั้งยังมีการรับประกันยาวนานถึง 24 เดือน

10. NIKO NK135R/L

10 NIKO NK135 R-L

NIKO NK135R/L เป็นแบตเตอรี่ชนิดน้ำขนาด 70 แอมป์ที่ใช้เทคโนโลยีใยแก้วเพื่อเพิ่มความทนทาน เหมาะสำหรับรถกระบะและ SUV โดยมีความแข็งแรงและทนทานต่อการใช้งานหนักพร้อมรับประกัน 12 เดือน

ประเภทแบบน้ำ
ค่าความจุของแบตเตอรี่70 แอมป์
ค่า CCA440
เหมาะสำหรับเครื่องยนต์เบนซิน
ประเภทรถที่ใช้งานได้รถกระบะ, SUV

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

NIKO NK135R/L เป็นแบตเตอรี่รถยนต์ชนิดน้ำที่มีความจุ 70 แอมป์ และค่า CCA 440 เหมาะสำหรับรถกระบะและ SUV โดยรุ่นนี้ใช้เทคโนโลยีใยแก้วในการกั้นแผงแผ่นธาตุ ช่วยให้แบตเตอรี่มีความทนทานและป้องกันการเสื่อมสภาพเร็ว นอกจากนี้ สะพานเชื่อมเซลล์ไฟฟ้ายังมีความหนาเป็นพิเศษ ช่วยป้องกันการขาดหลุดบริเวณสะพานไฟ ทำให้แบตเตอรี่นี้มีความแข็งแรงและทนทานต่อการใช้งานหนัก ขนาดของแบตเตอรี่อยู่ที่ 171 x 304 x 225 มิลลิเมตร และราคาของแบตเตอรี่อยู่ที่ 2,090 บาท รับประกันการใช้งาน 12 เดือน รุ่นนี้เหมาะกับรถยนต์หลายรุ่น เช่น Chevrolet Colorado, Isuzu D-MAX, Toyota Fortuner, และ Mitsubishi Triton

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

แบตเตอรี่ NIKO NK135R/L เป็นตัวเลือกที่ดีเพราะใช้เทคโนโลยีใยแก้วที่ช่วยเพิ่มความทนทานและป้องกันการเสื่อมสภาพเร็ว นอกจากนี้ยังมีสะพานเชื่อมเซลล์ไฟฟ้าหนาพิเศษ ช่วยป้องกันการขาดหลุด ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานหนักในรถกระบะและ SUV

วิธีเลือกความจุแบตเตอรี่ที่เหมาะสมสำหรับรถของคุณ

483-วิธีเลือกความจุแบตเตอรี่ที่เหมาะสมสำหรับรถของคุณ

การเลือกแบตเตอรี่ที่มีความจุเหมาะสมกับรถยนต์ของคุณมีผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของรถยนต์อย่างมาก แบตเตอรี่ที่มีความจุน้อยเกินไปอาจทำให้การจ่ายไฟไม่เพียงพอ ซึ่งส่งผลให้ระบบไฟฟ้าภายในรถทำงานไม่เต็มที่หรือไม่สามารถสตาร์ทรถได้ ในทางตรงกันข้าม หากแบตเตอรี่มีความจุมากเกินไป ก็อาจเป็นการสิ้นเปลืองพลังงานและค่าใช้จ่ายโดยไม่จำเป็น ดังนั้นการเลือกความจุแบตเตอรี่ที่พอดีจึงเป็นสิ่งที่สำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพของรถและยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่

  • ตรวจสอบการใช้งานประจำวัน: รถยนต์ที่ใช้ขับในเมืองสั้น ๆ หรือมีการขับขี่ไม่บ่อย อาจไม่ต้องการแบตเตอรี่ที่มีความจุสูงนัก แต่ถ้ารถของคุณถูกใช้สำหรับการขับทางไกลบ่อย ๆ หรือบรรทุกน้ำหนักมาก ควรเลือกแบตเตอรี่ที่มีความจุมากขึ้น
  • ระบบไฟฟ้าในรถ: หากรถของคุณมีการติดตั้งอุปกรณ์เสริม เช่น ระบบเสียง, จอภาพ, หรือระบบ GPS การเลือกแบตเตอรี่ที่มีความจุสูงก็จะช่วยให้รถสามารถรองรับการทำงานของอุปกรณ์เหล่านี้ได้อย่างราบรื่น
  • ตรวจสอบค่า CCA ร่วมด้วย: นอกจากความจุแล้ว ค่า CCA (Cold Cranking Amps) ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณา โดยเฉพาะสำหรับรถที่ใช้งานในพื้นที่ที่มีอากาศหนาวเย็น ค่า CCA ที่สูงจะช่วยให้สตาร์ทรถได้ง่ายขึ้นในสภาพอากาศที่หนาวจัด
ประเภทรถความจุแบตเตอรี่ที่แนะนำ (Ah)ค่า CCA ที่แนะนำคำแนะนำ
รถยนต์ขนาดเล็ก35-45 Ah300-400 CCAเหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไปในเมือง
รถยนต์ขนาดกลาง (Sedan)50-60 Ah400-600 CCAเหมาะสำหรับการขับขี่ระยะไกลและการใช้งานอุปกรณ์ไฟฟ้าบางส่วนในรถ
รถกระบะหรือรถ SUV65-80 Ah600-800 CCAเหมาะสำหรับการใช้งานหนักหรือการขับขี่ในสภาพอากาศรุนแรง
รถยนต์ที่ใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าหนัก80 Ah ขึ้นไป800 CCA ขึ้นไปเหมาะสำหรับรถที่ใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าจำนวนมาก เช่น ระบบเสียงขนาดใหญ่

การเลือกความจุแบตเตอรี่และค่า CCA ที่เหมาะสมตามประเภทรถและการใช้งาน จะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่ารถยนต์ของคุณทำงานได้เต็มประสิทธิภาพในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ในเมืองหรือการเดินทางไกล

ความสำคัญของค่า CCA (Cold Cranking Amps) ในแบตเตอรี่รถยนต์

483-ความสำคัญของค่า CCA (Cold Cranking Amps) ในแบตเตอรี่รถยนต์

การเลือกแบตเตอรี่รถยนต์ที่มีค่า CCA (Cold Cranking Amps) เหมาะสมมีความสำคัญอย่างมากในการสตาร์ทรถยนต์ โดยเฉพาะในสภาพอากาศที่หนาวเย็น ค่า CCA คือค่าที่บ่งบอกถึงความสามารถของแบตเตอรี่ในการจ่ายกระแสไฟฟ้าเพื่อสตาร์ทเครื่องยนต์ในสภาพอากาศเย็นจัด หากค่า CCA สูง แบตเตอรี่จะสามารถจ่ายไฟฟ้าได้มากพอสำหรับการสตาร์ทในช่วงเวลาสั้น ๆ ซึ่งมีประโยชน์มากสำหรับการขับขี่ในพื้นที่ที่มีอากาศเย็น

  • ค่า CCA ส่งผลต่อการสตาร์ทรถอย่างไร: แบตเตอรี่ที่มีค่า CCA สูงจะสามารถจ่ายไฟฟ้าให้เครื่องยนต์สตาร์ทได้อย่างรวดเร็ว แม้ในสภาพอากาศที่เย็นจัด ขณะที่แบตเตอรี่ที่มีค่า CCA ต่ำอาจทำให้สตาร์ทรถได้ยากหรือช้าลงในสภาพอากาศหนาวเย็น
  • การเลือกค่า CCA ให้เหมาะกับสภาพการใช้งาน: หากคุณขับรถในพื้นที่ที่มีอากาศร้อน ค่า CCA ที่สูงอาจไม่จำเป็นมากนัก แต่ถ้าคุณใช้งานรถในพื้นที่ที่มีอากาศหนาวหรืออุณหภูมิต่ำ คุณควรเลือกแบตเตอรี่ที่มีค่า CCA สูงพอที่จะรองรับการสตาร์ทรถในอุณหภูมิต่ำได้
  • การตรวจสอบค่า CCA ที่เหมาะสม: ควรดูข้อมูลในคู่มือรถยนต์เพื่อหาค่า CCA ที่เหมาะสมกับรถของคุณ การเลือกแบตเตอรี่ที่มีค่า CCA สูงเกินความจำเป็นอาจทำให้สิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย ดังนั้นการเลือกค่า CCA ที่เหมาะสมจะช่วยให้การใช้งานเป็นไปอย่างคุ้มค่า
ประเภทรถค่า CCA ที่แนะนำคำแนะนำ
รถยนต์ขนาดเล็ก300-400 CCAเหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่ที่อากาศไม่หนาวมาก
รถยนต์ขนาดกลาง (Sedan)400-600 CCAเหมาะสำหรับการขับขี่ในพื้นที่ทั่วไป หรือในช่วงฤดูหนาวบางช่วง
รถกระบะหรือรถ SUV600-800 CCAเหมาะสำหรับการขับขี่ในพื้นที่ที่มีอากาศหนาวหรือใช้เครื่องยนต์ขนาดใหญ่
รถที่ใช้งานในสภาพอากาศเย็นจัด800 CCA ขึ้นไปเหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีอากาศหนาวเย็นตลอดปี

การเลือกค่า CCA ที่เหมาะสมตามประเภทรถยนต์และสภาพการใช้งานของคุณไม่เพียงช่วยให้การสตาร์ทรถเป็นไปอย่างราบรื่น แต่ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานแบตเตอรี่ และลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้งานในสภาพอากาศที่ไม่เหมาะสม

เคล็ดลับการดูแลแบตเตอรี่รถยนต์เพื่อยืดอายุการใช้งาน

483-เคล็ดลับการดูแลแบตเตอรี่รถยนต์เพื่อยืดอายุการใช้งาน

การดูแลรักษาแบตเตอรี่รถยนต์เป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ใช้รถไม่ควรมองข้าม เนื่องจากการดูแลที่ถูกต้องจะช่วยยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่และลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต แบตเตอรี่ที่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสมจะทำให้รถยนต์สามารถสตาร์ทได้อย่างราบรื่นและช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนแบตเตอรี่ นี่คือเคล็ดลับสำคัญในการดูแลแบตเตอรี่ให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น

  • ตรวจสอบระบบไฟฟ้าของรถยนต์: ควรตรวจสอบระบบการชาร์จไฟของรถยนต์ เช่น ไดชาร์จ ว่าทำงานได้ตามปกติหรือไม่ หากไดชาร์จเสียหรือทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ อาจทำให้แบตเตอรี่ไม่สามารถชาร์จไฟได้เพียงพอ และอาจทำให้แบตเตอรี่หมดเร็วได้ การตรวจสอบควรทำโดยช่างผู้เชี่ยวชาญ
  • ป้องกันการสั่นสะเทือนของแบตเตอรี่: การติดตั้งแบตเตอรี่ให้แน่นหนาเป็นสิ่งสำคัญเพื่อป้องกันการสั่นสะเทือน เนื่องจากการสั่นสะเทือนขณะขับรถอาจทำให้แบตเตอรี่เสียหายหรือขั้วแบตเตอรี่หลวม ซึ่งอาจทำให้เกิดการสูญเสียพลังงานและลดประสิทธิภาพการทำงานของแบตเตอรี่
  • ตรวจสอบอุณหภูมิของแบตเตอรี่: อุณหภูมิที่สูงหรือต่ำเกินไปอาจทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็วขึ้น ในสภาพอากาศร้อนจัด แบตเตอรี่อาจมีอัตราการระเหยของน้ำกลั่นสูง ควรจอดรถในที่ร่มหรือลดการใช้รถในสภาพอากาศที่ร้อนจัด ส่วนในช่วงอากาศเย็น แบตเตอรี่อาจทำงานช้าลง ควรตรวจสอบการทำงานของแบตเตอรี่และการจ่ายกระแสไฟฟ้าให้มั่นใจว่าเพียงพอสำหรับการสตาร์ทรถ
  • เปลี่ยนแบตเตอรี่ตามอายุการใช้งาน: แบตเตอรี่รถยนต์ทั่วไปมีอายุการใช้งานเฉลี่ยประมาณ 3-5 ปี ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาและสภาพแวดล้อมที่ใช้งาน ควรเปลี่ยนแบตเตอรี่เมื่อถึงเวลาแม้ว่าแบตเตอรี่ยังสามารถใช้งานได้ เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
  • เลือกใช้แบตเตอรี่ที่มีคุณภาพ: การเลือกใช้แบตเตอรี่ที่มีคุณภาพจากผู้ผลิตที่เชื่อถือได้จะช่วยให้มั่นใจได้ว่าแบตเตอรี่มีความทนทานและมีประสิทธิภาพในการจ่ายพลังงาน ควรเลือกแบตเตอรี่ที่เหมาะสมกับประเภทและรุ่นของรถยนต์ของคุณ รวมถึงตรวจสอบความจุและกำลังไฟที่ตรงตามความต้องการของรถยนต์

การดูแลรักษาแบตเตอรี่รถยนต์ที่ถูกต้องจะช่วยป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการขับขี่ ช่วยให้รถยนต์สามารถสตาร์ทได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ให้ยาวนานขึ้น

บทความนี้แนะนำ 10 อันดับ แบตเตอรี่รถยนต์ ยี่ห้อไหนดี คุณภาพสูง ใช้งานทนทาน โดยเน้นหลักเกณฑ์สำคัญ เช่น ประเภทของแบตเตอรี่ ความจุของแบตเตอรี่ ค่า CCA ความเหมาะสมกับเครื่องยนต์ และประเภทรถที่สามารถใช้งานได้ พร้อมคำอธิบายสั้น ๆ ของแต่ละแบรนด์ เพื่อช่วยให้ผู้อ่านเลือกแบตเตอรี่ที่เหมาะสมกับรถของตนเอง นอกจากนี้ยังมีหัวข้อสนับสนุนที่อธิบายวิธีเลือกความจุแบตเตอรี่ที่เหมาะสมกับรถ ความสำคัญของค่า CCA ในการสตาร์ทรถยนต์ และเคล็ดลับการดูแลแบตเตอรี่รถยนต์ให้ใช้งานได้ยาวนาน บทความให้ความรู้ที่เป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่ต้องการทราบข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับการเลือกและการดูแลแบตเตอรี่รถยนต์อย่างถูกต้อง

คำถามที่พบบ่อย

1. วิธีเลือกความจุแบตเตอรี่ที่เหมาะสมสำหรับรถของฉันคืออะไร?

การเลือกความจุแบตเตอรี่ที่ถูกต้องขึ้นอยู่กับประเภทของรถและการใช้งาน หากคุณขับรถในเมืองหรือระยะทางสั้น ๆ ความจุแบตเตอรี่ที่ต่ำกว่าอาจเพียงพอ แต่หากคุณขับระยะทางไกลหรือบรรทุกของหนัก ควรเลือกแบตเตอรี่ที่มีความจุมากขึ้น นอกจากนี้ ควรตรวจสอบความต้องการไฟฟ้าของรถเพื่อให้ความจุแบตเตอรี่ตรงกับความต้องการของรถคุณ

2. ทำไมค่า CCA (Cold Cranking Amps) ถึงสำคัญสำหรับแบตเตอรี่รถยนต์?

CCA คือค่าที่บ่งบอกถึงความสามารถของแบตเตอรี่ในการสตาร์ทรถในสภาพอากาศเย็น หากคุณอยู่ในพื้นที่ที่มีอากาศเย็น ค่า CCA ที่สูงจะช่วยให้รถของคุณสตาร์ทได้ง่ายขึ้น ในสภาพอากาศที่ร้อน ค่า CCA ที่ต่ำกว่าก็เพียงพอ การเลือกค่า CCA ที่เหมาะสมจะช่วยให้การสตาร์ทรถเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่

3. วิธีดูแลแบตเตอรี่รถยนต์ให้ใช้งานได้นานขึ้นคืออะไร?

การดูแลแบตเตอรี่ให้ใช้งานได้นานขึ้น ควรตรวจสอบระบบการชาร์จของรถอยู่เสมอ ติดตั้งแบตเตอรี่ให้แน่นเพื่อลดการสั่นสะเทือน และป้องกันแบตเตอรี่จากอุณหภูมิที่สูงหรือต่ำเกินไป นอกจากนี้ควรเปลี่ยนแบตเตอรี่ทุก 3-5 ปี เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

4. สามารถใช้แบตเตอรี่ที่มีความจุหรือค่า CCA สูงกว่าที่แนะนำได้หรือไม่?

การใช้แบตเตอรี่ที่มีความจุหรือค่า CCA สูงกว่าที่แนะนำไม่ทำให้เกิดปัญหา แต่จะเป็นการสิ้นเปลืองโดยไม่จำเป็น การเลือกแบตเตอรี่ที่ตรงตามความต้องการของรถจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเหมาะสมกับการใช้งาน

Scroll to Top