10 อันดับ โช้คอัพประตู ยี่ห้อไหนดี เหมาะสำหรับติดตั้งกับประตูได้ทุกรูปแบบ

Cover-419-โช้คอัพประตู

โช้คอัพประตู หรือที่เรียกอีกอย่างว่า ประตูไฮดรอลิก เป็นอุปกรณ์สำคัญที่ใช้ในการควบคุมการเปิดและปิดประตูให้เป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัย ลดแรงกระแทกและความเร็วขณะปิด ในบทความนี้จะแนะนำ 10 แบรนด์โช้คอัพประตูที่ดีที่สุด ที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานได้อย่างครบถ้วน โดยแต่ละแบรนด์จะถูกประเมินตามหลักเกณฑ์สำคัญอย่างน้ำหนักที่รับได้ วัสดุที่ใช้ผลิต และระยะเปิดกว้างสูงสุดที่สามารถทำได้ คุณจะได้รับข้อมูลเกี่ยวกับคุณสมบัติและข้อดีของแต่ละแบรนด์ในเชิงลึก นอกจากนี้ เราจะพูดถึงวิธีการเลือกโช้คอัพประตูที่เหมาะสมกับการใช้งาน เพื่อให้คุณเลือกได้ถูกต้องและเหมาะสมที่สุด รวมถึงจะช่วยให้เข้าใจถึงความแข็งแรงและความทนทานที่แตกต่างกันของวัสดุที่ใช้ในการผลิต และสุดท้าย วิธีการดูแลรักษาและติดตั้งโช้คอัพประตูให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยให้โช้คอัพประตูทำงานได้ดีและมีอายุการใช้งานที่ยืนยาว และจะสรุปข้อมูลที่สำคัญที่คุณควรทราบเกี่ยวกับโช้คอัพประตู ทั้งนี้เพื่อให้คุณได้รับความรู้ที่จำเป็นและสามารถใช้ประโยชน์จากโช้คอัพประตูได้อย่างเต็มที่

หลักเกณฑ์ที่ใช้ในการจัดอันดับสินค้า

เราได้พิจารณาหลักเกณฑ์หลายประการในการเลือกและจัดอันดับแบรนด์โช้คอัพประตูที่ดีที่สุด โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมที่สุดกับความต้องการ ดังนี้

  • คุณภาพของวัสดุ: พิจารณาถึงความแข็งแรง ความทนทาน และความสามารถในการต้านทานสภาพแวดล้อมต่างๆ ของวัสดุที่ใช้ในการผลิตโช้คอัพประตูแต่ละแบรนด์
  • การออกแบบและนวัตกรรม: การพิจารณาว่าแบรนด์นั้นมีการนำเสนอนวัตกรรมหรือเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่ช่วยให้โช้คอัพประตูทำงานได้ดียิ่งขึ้นหรือไม่
  • น้ำหนักที่รับได้: ความสามารถในการรับน้ำหนักของประตู ซึ่งส่งผลต่อการเลือกโช้คอัพให้เหมาะสมกับประตูแต่ละประเภท
  • ระยะเปิด-ปิด: ความสามารถในการเปิดปิดได้กว้าง สะดวกสำหรับการใช้งานในพื้นที่ต่าง ๆ
  • ความปลอดภัย: ระบบความปลอดภัยที่โช้คอัพประตูนำมาใช้ เช่น ระบบป้องกันการกัดกร่อนหรือระบบล็อคที่เพิ่มความปลอดภัย
  • ความทนทานต่อสภาพอากาศ: การทดสอบว่าโช้คอัพประตูสามารถทนต่อสภาพอากาศและสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ เช่น ความชื้นสูงหรือการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิ
  • การรับประกัน: ระยะเวลาและเงื่อนไขของการรับประกันที่บ่งบอกถึงความมั่นใจของผู้ผลิตต่อผลิตภัณฑ์ของตน
  • ความง่ายในการติดตั้งและการบำรุงรักษา: พิจารณาถึงความง่ายในการติดตั้งและขั้นตอนการบำรุงรักษาที่ไม่ซับซ้อน
  • ราคาและคุ้มค่าในการลงทุน: การประเมินว่าราคาของโช้คอัพประตูแต่ละแบรนด์มีความเหมาะสมกับคุณภาพและคุณสมบัติที่นำเสนอหรือไม่
  • ความพึงพอใจของลูกค้า: รีวิวและการตอบรับจากผู้ใช้จริงที่ช่วยยืนยันถึงประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือของโช้คอัพประตู

10 อันดับ โช้คอัพประตู

1. YALE รุ่น VC7722H-SB

1-YALE-รุ่น-VC7722H-SB

YALE รุ่น VC7722H-SB เป็นโช้คอัพประตูอะลูมิเนียมที่รองรับน้ำหนักได้ถึง 80 กิโลกรัม มาพร้อมระบบเปิด-ปิดแบบสองจังหวะและฟังก์ชันตั้งค้าง ใช้งานสะดวก ทนทานตามมาตรฐาน UL

น้ำหนักที่รับได้80 กิโลกรัม
วัสดุอะลูมิเนียม
เปิดกว้างได้สูงสุด170 องศา

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

YALE รุ่น VC7722H-SB เป็นโช้คอัพประตูที่ผลิตจากวัสดุอะลูมิเนียม มีความสามารถในการรับน้ำหนักได้สูงสุดถึง 80 กิโลกรัม โดยสามารถใช้งานร่วมกับประตูไม้ที่มีความกว้างไม่เกิน 110 เซนติเมตรได้ ตัวโช้คออกแบบให้สามารถเปิดกว้างได้สูงสุดถึง 170 องศา และมีระบบควบคุมการเปิด-ปิดประตูแบบสองจังหวะ โดยจังหวะแรกควบคุมการปิดที่ 170 ถึง 15 องศา และจังหวะที่สองควบคุมการปิดที่ 15 ถึง 0 องศา ซึ่งช่วยให้ประตูปิดอย่างนุ่มนวลโดยไม่กระแทก ตัวโช้คอัพยังมาพร้อมกับฟังก์ชันตั้งค้างได้ที่สะดวกในการใช้งาน เหมาะสำหรับการติดตั้งในประตูห้องนอนหรือพื้นที่ที่ต้องการความสะดวกในการเปิดค้าง ตัวสินค้าได้รับมาตรฐาน UL Listed และสอดคล้องกับมาตรฐาน UL228 และ UL10C โดยมีการทดสอบการใช้งานมากกว่า 300,000 ครั้ง

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

YALE รุ่น VC7722H-SB เป็นตัวเลือกที่ดีเนื่องจากมีระบบเปิด-ปิดประตูแบบสองจังหวะที่ช่วยให้การปิดประตูเป็นไปอย่างนุ่มนวล ไม่กระแทก อีกทั้งยังมีฟังก์ชันตั้งค้างได้และผ่านมาตรฐาน UL ทำให้มั่นใจได้ในเรื่องความทนทานและความปลอดภัย ในราคา 1,210 บาท

2. B-Home รุ่น HM-DCS

2-B-Home-รุ่น-HM-DCS

B-Home รุ่น HM-DCS เป็นโช้คอัพประตูสเตนเลสที่ทนทาน ไม่ขึ้นสนิม ติดตั้งง่าย รองรับน้ำหนักประตู 10-50 กิโลกรัม และเหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไปในบ้าน

น้ำหนักที่รับได้10 กิโลกรัม – 50 กิโลกรัม
วัสดุสเตนเลส
เปิดกว้างได้สูงสุด180 องศา

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

B-Home รุ่น HM-DCS เป็นโช้คอัพประตูที่ทำจากสเตนเลสคุณภาพดี มีความทนทานและไม่ขึ้นสนิม รองรับน้ำหนักประตูได้ตั้งแต่ 10 กิโลกรัมถึง 50 กิโลกรัม สามารถเปิดประตูได้กว้างถึง 180 องศา ตัวสินค้าออกแบบมาเพื่อให้ติดตั้งได้ง่าย เพียงใช้ไขควงหรือตัวสว่านในการติดตั้ง โดยไม่ต้องพึ่งพาช่างผู้เชี่ยวชาญ ฟังก์ชันหลักคือการเปิด-ปิดประตูอัตโนมัติ สามารถใช้ได้กับประตูทั่วไป เช่น ประตูบ้าน โรงแรม และห้องน้ำ ทั้งยังสามารถปรับความแรงของโช้คได้ตามต้องการ เหมาะสำหรับการใช้งานในครัวเรือนทั่วไป นอกจากนี้ ตัวสินค้ายังทนทานต่อการกัดกร่อนด้วยวัสดุสเตนเลสที่แข็งแรง

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

B-Home รุ่น HM-DCS เป็นตัวเลือกที่ดีเพราะติดตั้งง่าย ไม่ต้องพึ่งพาช่าง และวัสดุสเตนเลสที่ทนทาน ไม่ขึ้นสนิม ทำให้ใช้งานได้นาน รองรับน้ำหนักประตูได้หลากหลายและสามารถปรับความแรงได้ตามต้องการ ในราคาเพียง 169 บาท

3. JARTON โช้คอัพประตูระบบ 2 วาวล์

3-JARTON-โช้คอัพประตูระบบ2วาวล์

JARTON โช้คอัพประตูระบบ 2 วาล์ว ทำจากอะลูมิเนียม รองรับน้ำหนักประตูได้ 25-45 กิโลกรัม เปิดได้กว้างถึง 180 องศา ติดตั้งง่ายกับประตูทุกประเภท

น้ำหนักที่รับได้25 กิโลกรัม – 45 กิโลกรัม
วัสดุอะลูมิเนียม
เปิดกว้างได้สูงสุด180 องศา

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

JARTON โช้คอัพประตูระบบ 2 วาล์ว เป็นโช้คอัพประตูที่ทำจากวัสดุอะลูมิเนียม สามารถรองรับน้ำหนักประตูได้ตั้งแต่ 25 กิโลกรัมถึง 45 กิโลกรัม โดยมีการออกแบบเพื่อใช้ได้กับประตูทุกประเภท ทั้งประตูไม้ ประตูโลหะ หรือประตูอะลูมิเนียม ตัวโช้คสามารถเปิดได้กว้างถึง 180 องศา ทำงานด้วยระบบ 2 วาล์ว ซึ่งช่วยควบคุมการเปิดและปิดประตูได้อย่างนุ่มนวล โดยสามารถปรับความเร็วในการกวาดและสลักประตูได้ตามต้องการ นอกจากนี้ การติดตั้งยังเป็นแบบสากลที่เหมาะกับประตูบานพับทั้งฝั่งซ้ายและขวา ตัวสินค้ามีขนาด 132 x 19 มิลลิเมตร และเหมาะสำหรับประตูที่มีความกว้างระหว่าง 700 มิลลิเมตรถึง 900 มิลลิเมตร

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

JARTON โช้คอัพประตูระบบ 2 วาล์ว เป็นตัวเลือกที่ดีเนื่องจากสามารถใช้งานได้กับประตูทุกประเภทและรองรับน้ำหนักได้ตั้งแต่ 25-45 กิโลกรัม อีกทั้งยังมีระบบควบคุมการเปิด-ปิดประตูอย่างนุ่มนวลและปรับความเร็วได้ตามต้องการ ราคาเหมาะสมที่ 1,807 บาท

4. SOLEX รุ่น 86

4-SOLEX-รุ่น-86

SOLEX รุ่น 86 เป็นโช้คอัพประตูที่ทนทานต่อการเกิดสนิม รองรับน้ำหนักได้ 80-100 กิโลกรัม ลดการสั่นสะเทือนจากการปิดประตู และผ่านมาตรฐานกันไฟ

น้ำหนักที่รับได้80 กิโลกรัม – 100 กิโลกรัม
วัสดุอะลูมิเนียม
เปิดกว้างได้สูงสุด110 องศา

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

SOLEX รุ่น 86 เป็นโช้คอัพประตูที่สามารถรองรับน้ำหนักประตูได้ระหว่าง 80-100 กิโลกรัม ตัวโครงสร้างผลิตจากอะลูมิเนียมที่ทนทานต่อการเกิดสนิม และมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ตัวโช้คสามารถเปิดได้กว้างถึง 110 องศา มีคุณสมบัติในการลดการสั่นสะเทือนและการกระแทกจากการปิดประตู ซึ่งเหมาะสำหรับการติดตั้งในอาคารหรือสำนักงาน นอกจากนี้ ยังผ่านมาตรฐานกันไฟ และออกแบบมาให้ดูแลรักษาได้ง่าย ไม่เกิดรอยขีดข่วน ทำความสะอาดได้สะดวก รุ่นนี้มีสองสีให้เลือก ได้แก่ สีน้ำตาลเมทาลิคและสีเงิน

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

SOLEX รุ่น 86 เป็นตัวเลือกที่ดี เนื่องจากรองรับน้ำหนักประตูได้ถึง 100 กิโลกรัม ทนทานต่อการเกิดสนิม และลดการสั่นสะเทือนจากการปิดประตูได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับการใช้งานในอาคารและสำนักงานในราคาที่คุ้มค่าเพียง 610 บาท

5. JARTON โช้คอัพประตูตั้งค้าง

5-JARTON-โช้คอัพประตูตั้งค้าง

JARTON โช้คอัพประตูตั้งค้างทำจากซิงค์อัลลอยด์ แข็งแรง รองรับน้ำหนัก 25-45 กิโลกรัม มีฟังก์ชันตั้งค้างที่ 85 องศา เหมาะสำหรับการใช้งานในโรงแรมหรือสำนักงาน

น้ำหนักที่รับได้25 กิโลกรัม – 45 กิโลกรัม
วัสดุซิงค์อัลลอยด์
เปิดกว้างได้สูงสุด120-140 องศา

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

JARTON โช้คอัพประตูตั้งค้าง รุ่นนี้ทำจากวัสดุซิงค์อัลลอยด์ที่มีความแข็งแรง และได้รับมาตรฐานยูโร มาตรฐาน EN1154 เกรด EN2-3 รองรับน้ำหนักประตูได้ตั้งแต่ 25-45 กิโลกรัม โดยสามารถใช้ติดตั้งได้กับประตูไม้ ประตูเหล็ก และประตูอะลูมิเนียม แขนของโช้คสามารถเปิดประตูได้กว้างถึง 120-140 องศา และมีฟังก์ชั่นตั้งค้างประตูที่มุม 85 องศา ทำให้สะดวกสำหรับการเข้าออกบ่อยครั้งโดยไม่ต้องเปิดปิดประตูหลายครั้ง เหมาะสำหรับการใช้งานในโรงแรมหรือสำนักงานที่ต้องการความเรียบหรู ตัวสินค้าออกแบบด้วยดีไซน์เหลี่ยมเสริมความหรูหรา โดยมีขนาดความกว้างของประตูที่เหมาะสมระหว่าง 850-950 มิลลิเมตร

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

JARTON โช้คอัพประตูตั้งค้าง เป็นตัวเลือกที่ดีเนื่องจากมีฟังก์ชันตั้งค้างประตูที่มุม 85 องศา ทำให้สะดวกสำหรับการเข้าออกบ่อยครั้ง อีกทั้งยังรองรับน้ำหนักได้ถึง 45 กิโลกรัม เหมาะสำหรับการใช้งานในโรงแรมหรือสำนักงานที่ต้องการดีไซน์เรียบหรู ในราคา 1,281 บาท

6. TORSTEN รุ่น PQS-BX882

6-TORSTEN-รุ่น-PQS-BX882

TORSTEN รุ่น PQS-BX882 เป็นโช้คอัพประตูที่ผลิตจากเหล็กคุณภาพสูง รองรับน้ำหนักได้ 45-75 กิโลกรัม มาพร้อมระบบไฮดรอลิกช่วยให้การเปิด-ปิดประตูนุ่มนวล ติดตั้งง่ายและทนทาน

น้ำหนักที่รับได้45 กิโลกรัม – 75 กิโลกรัม
วัสดุเหล็กคุณภาพสูง
เปิดกว้างได้สูงสุด170 องศา

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

TORSTEN รุ่น PQS-BX882 เป็นโช้คอัพประตูที่ผลิตจากเหล็กคุณภาพสูง มีความแข็งแรงและทนทาน รองรับน้ำหนักประตูได้ตั้งแต่ 45-75 กิโลกรัม สามารถเปิดประตูได้กว้างสุดถึง 170 องศา ตัวโช้คมาพร้อมกับระบบไฮดรอลิก ช่วยให้การเปิดและปิดประตูเป็นไปอย่างนุ่มนวล นอกจากนี้ ยังสามารถปรับค่าความหนืดเพื่อควบคุมความเร็วในการเปิด-ปิดประตูได้ตามต้องการ การติดตั้งทำได้ง่ายและรวดเร็ว เหมาะสำหรับการใช้งานในสำนักงานหรือภายในบ้าน โช้คถูกออกแบบด้วยสีโครเมียมกึ่งเงา เพื่อป้องกันสนิมและคราบเขียวจากโลหะ ทำให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน โดยมีขนาด 21 เซนติเมตร x 4 เซนติเมตร x 6 เซนติเมตร

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

TORSTEN รุ่น PQS-BX882 เป็นตัวเลือกที่ดีเพราะวัสดุเหล็กคุณภาพสูงช่วยเพิ่มความทนทานและป้องกันสนิม อีกทั้งยังมีระบบไฮดรอลิกที่ช่วยให้การเปิด-ปิดประตูนุ่มนวลและสามารถปรับค่าความหนืดได้ตามต้องการ ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานทั้งในสำนักงานและบ้าน ในราคา 1,849 บาท

7. GUTE รุ่น SD010A

7-GUTE-รุ่น-SD010A

GUTE รุ่น SD010A เป็นโช้คอัพประตูสำหรับบานเลื่อน รองรับน้ำหนักได้สูงสุด 65 กิโลกรัม ผลิตจากโลหะอัลลอยด์ แข็งแรง ทนทาน และสามารถปรับความหนืดและตั้งค้างได้

น้ำหนักที่รับได้65 กิโลกรัม
วัสดุโลหะอัลลอยด์
เปิดกว้างได้สูงสุด1.5 m

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

GUTE รุ่น SD010A เป็นโช้คอัพประตูสำหรับประตูบานเลื่อนที่สามารถรองรับน้ำหนักประตูได้สูงสุด 65 กิโลกรัม ผลิตจากโลหะอัลลอยด์ที่มีความทนทานและแข็งแรง ตัวโช้คอัพสามารถติดตั้งได้ง่ายบนขอบวงกบของประตู โดยสามารถปรับความหนืดและระดับความลื่นไหลในการเปิด-ปิดได้ตามต้องการ นอกจากนี้ ยังสามารถตั้งค้างประตูได้เมื่อปลดล็อก มีให้เลือกทั้งหมด 3 ขนาดสำหรับประตูที่มีความกว้างไม่เกิน 1 เมตร, 1.2 เมตร, และ 1.5 เมตร เหมาะสำหรับการใช้งานกับประตูบานเลื่อนทั้งไม้และอะลูมิเนียม โดยรุ่นนี้สามารถป้องกันการกระแทกและการปิดไม่สนิทได้ดี

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

GUTE รุ่น SD010A เป็นตัวเลือกที่ดีเพราะสามารถปรับความหนืดและระดับความลื่นไหลได้ตามต้องการ ช่วยให้การเปิด-ปิดประตูบานเลื่อนไม่กระแทกและปิดสนิท อีกทั้งยังมีฟังก์ชั่นตั้งค้างและรองรับประตูหลายขนาด เหมาะสำหรับประตูทั้งไม้และอะลูมิเนียม ราคา 2,190 บาท

8. SOLO รุ่น 2545

8-SOLO-รุ่น-2545

SOLO รุ่น 2545 เป็นโช้คอัพประตูสเตนเลสที่ทนทาน รองรับน้ำหนักได้ 25-45 กิโลกรัม มีฟังก์ชันปรับความเร็วในการปิดและผ่านมาตรฐานกันไฟ ติดตั้งง่าย

น้ำหนักที่รับได้25kg- 45kg
วัสดุสเตนเลส
เปิดกว้างได้สูงสุด180 องศา

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

SOLO รุ่น 2545 เป็นโช้คอัพประตูที่ผลิตจากวัสดุสเตนเลส แข็งแรงและทนทาน รองรับน้ำหนักประตูได้ตั้งแต่ 25 กิโลกรัมถึง 45 กิโลกรัม โดยสามารถติดตั้งได้ทั้งประตูบานซ้ายและบานขวา โช้คอัพรุ่นนี้สามารถเปิดประตูได้กว้างถึง 180 องศา มีฟังก์ชันการปรับจังหวะการปิดประตูด้วยวาล์วไฮดรอลิก ซึ่งสามารถปรับความเร็วในการปิดได้ตามต้องการ นอกจากนี้ ยังมีคุณสมบัติผ่านมาตรฐานกันไฟ จึงเหมาะสำหรับการใช้งานในครัวเรือน เช่น ประตูห้องนอนหรือประตูไม้อัด ตัวสินค้าออกแบบมาให้ติดตั้งง่ายและสามารถเลือกตำแหน่งการติดตั้งเพื่อกำหนดแรงปิดได้อย่างแม่นยำ

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

SOLO รุ่น 2545 เป็นตัวเลือกที่ดีเพราะวัสดุสเตนเลสทนทาน รองรับน้ำหนักประตูได้หลากหลายตั้งแต่ 25-45 กิโลกรัม พร้อมฟังก์ชันปรับความเร็วในการปิดด้วยวาล์วไฮดรอลิก อีกทั้งยังผ่านมาตรฐานกันไฟ ติดตั้งง่าย ในราคาเพียง 575 บาท

9. HAFELE โช้คอัพประตูฝังพื้นแบบเปิดสองทาง EN3

9-HAFELE-โช้คอัพประตูฝังพื้นแบบเปิดสองทาง-EN3

HAFELE โช้คอัพประตูฝังพื้นแบบเปิดสองทาง EN3 รองรับน้ำหนักประตูได้สูงสุด 100 กิโลกรัม เปิดได้ 120 องศา และมีฟังก์ชันตั้งค้างที่ 90 องศา เหมาะสำหรับประตูบานสวิงขนาดใหญ่

น้ำหนักที่รับได้100 กิโลกรัม
วัสดุเหล็กหล่อ/ สแตนเลส
เปิดกว้างได้สูงสุด120 องศา

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

HAFELE โช้คอัพประตูฝังพื้นแบบเปิดสองทาง EN3 เป็นโช้คอัพที่รองรับน้ำหนักประตูได้สูงสุดถึง 100 กิโลกรัม ผลิตจากเหล็กหล่อและแผ่นหน้าสแตนเลสเกรด 304 จึงมีความแข็งแรงและทนทาน โช้คอัพรุ่นนี้ออกแบบมาเพื่อใช้กับประตูบานสวิงทั้งสองทิศทาง โดยสามารถเปิดได้กว้างถึง 120 องศา และมีฟังก์ชันตั้งค้างประตูได้ที่ 90 องศา ซึ่งเหมาะสำหรับประตูกระจกขนาดใหญ่หรือประตูไม้ที่มีน้ำหนักมาก นอกจากนี้ โช้คอัพยังสามารถติดตั้งได้ทั้งบานซ้ายและบานขวา แต่ไม่เหมาะสำหรับประตูกันไฟ เนื่องจากไม่มีคุณสมบัติป้องกันไฟ

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

HAFELE โช้คอัพประตูฝังพื้นแบบเปิดสองทาง EN3 เป็นตัวเลือกที่ดีเนื่องจากรองรับน้ำหนักได้สูงถึง 100 กิโลกรัม เหมาะสำหรับประตูบานสวิงขนาดใหญ่ และมีฟังก์ชันตั้งค้างที่ 90 องศา ช่วยให้การใช้งานสะดวก อีกทั้งวัสดุเหล็กหล่อและสแตนเลสเกรด 304 ยังเพิ่มความทนทานในระยะยาว ราคาอยู่ที่ 1,820 บาท

10. ZEKER รุ่น MODEL Z-100

10-ZEKER-รุ่น-MODEL-Z-100

ZEKER รุ่น MODEL Z-100 เป็นโช้คอัพประตูเหล็กหล่อที่ทนทาน รองรับน้ำหนักได้สูงสุด 80 กิโลกรัม มาพร้อมระบบ 2 วาล์วและฟังก์ชันตั้งค้างที่ 90 องศา เหมาะสำหรับประตูบานสวิง

น้ำหนักที่รับได้80 กิโลกรัม
วัสดุเหล็กหล่อหนา
เปิดกว้างได้สูงสุด90 องศา

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

ZEKER รุ่น MODEL Z-100 เป็นโช้คอัพประตูที่ผลิตจากเหล็กหล่อหนา มีความทนทานและเคลือบป้องกันสนิม ทำให้ทนต่อการสึกกร่อนได้ดี ตัวโช้คออกแบบมาสำหรับประตูบานสวิงที่สามารถรองรับน้ำหนักประตูได้สูงสุดถึง 80 กิโลกรัม โดยรุ่นนี้มีระบบ 2 วาล์ว ช่วยควบคุมการเปิด-ปิดประตูได้อย่างนุ่มนวล พร้อมทั้งสามารถปรับความเร็วและจังหวะการปิดประตูได้ นอกจากนี้ ยังสามารถตั้งค้างได้ที่มุม 90 องศา เหมาะสำหรับการใช้งานกับประตูอะลูมิเนียมบานสวิง เช่น ประตูห้องทำงานหรือร้านค้า ตัวสินค้าได้รับการทดสอบการเปิด-ปิดมากกว่า 500,000 ครั้ง และผ่านการรับรองมาตรฐาน CLASSIFIED UL จากสหรัฐอเมริกา

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

ZEKER รุ่น MODEL Z-100 เป็นตัวเลือกที่ดีเนื่องจากผลิตจากเหล็กหล่อหนา ทนทานและป้องกันสนิม พร้อมระบบ 2 วาล์วที่ช่วยควบคุมการเปิด-ปิดประตูอย่างนุ่มนวล อีกทั้งยังมีฟังก์ชันตั้งค้างที่ 90 องศา เหมาะสำหรับประตูบานสวิงในห้องทำงานหรือร้านค้า ในราคาเพียง 1,110 บาท

วิธีการเลือกโช้คอัพประตูที่เหมาะสมกับการใช้งาน

419-วิธีการเลือกโช้คอัพประตูที่เหมาะสมกับการใช้งาน

การเลือกโช้คอัพประตูที่เหมาะสมนั้นสำคัญไม่แพ้กับการเลือกประตูเอง เนื่องจากโช้คอัพมีบทบาทในการควบคุมการเปิดและปิดประตูให้เป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัย ผู้ที่กำลังมองหาโช้คอัพควรพิจารณาถึงปัจจัยหลายอย่าง เพื่อให้ได้โช้คอัพที่ตรงกับความต้องการของการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นความสามารถในการรับน้ำหนัก วัสดุที่ใช้ผลิต หรือระยะการเปิดประตูที่รองรับได้

  • น้ำหนักที่รับได้: สำคัญที่สุดคือต้องเลือกโช้คอัพที่สามารถรับน้ำหนักของประตูได้ เพื่อไม่ให้เกิดการเสียหายหรืออายุการใช้งานที่สั้นลง โช้คอัพที่มีคุณภาพสามารถรับน้ำหนักได้ตั้งแต่น้ำหนักเบาจนถึงหนักมาก ขึ้นอยู่กับลักษณะและขนาดของประตู
  • วัสดุที่ใช้ผลิต: วัสดุที่ใช้ในการผลิตโช้คอัพมีหลากหลาย ตั้งแต่เหล็ก สแตนเลส ไปจนถึงอะลูมิเนียม แต่ละชนิดมีคุณสมบัติในการรับแรงดันและการทนทานที่ต่างกัน ควรเลือกวัสดุที่ตอบโจทย์การใช้งานและสภาพแวดล้อมที่ติดตั้ง
  • การเปิดกว้างของประตูที่โช้คอัพรองรับได้: ควรพิจารณาโช้คอัพที่มีความยืดหยุ่นในการเปิดประตูได้ในระดับที่ต้องการ ซึ่งจะช่วยให้การเข้าออกสะดวกสบายยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการใช้งานบ่อย

การเลือกใช้ลูกบิดประตูและไขควงไฟฟ้าสำหรับการติดตั้งโช้คอัพอย่างมีประสิทธิภาพ

เมื่อติดตั้งโช้คอัพประตูแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ควรพิจารณาคือ ลูกบิดประตู ซึ่งมีความสำคัญต่อการใช้งานที่ราบรื่นและสะดวก ลูกบิดประตูมีหลากหลายรูปแบบให้เลือก เช่น แบบกุญแจล็อก ลูกบิดแบบหมุนง่าย หรือแบบดิจิทัล การเลือกใช้ลูกบิดประตูคุณภาพสูง จะช่วยเสริมความปลอดภัยให้กับบ้านหรือสถานที่ทำงาน ควรเลือกให้เข้ากับสไตล์ของประตูและลักษณะการใช้งาน ทั้งนี้ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าลูกบิดประตูสามารถทำงานร่วมกับโช้คอัพได้อย่างสมบูรณ์แบบ เพื่อให้ประตูเปิดปิดได้สะดวกและปลอดภัย

นอกจากนี้ ไขควงไฟฟ้า ก็เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยในการติดตั้งโช้คอัพประตูให้รวดเร็วและแม่นยำ แนะนำ 10 อันดับแบรนด์ไขควงไฟฟ้า ที่จะช่วยลดเวลาและแรงในการขันสกรู เมื่อติดตั้งโช้คอัพหรืออุปกรณ์ต่าง ๆ บนประตู โดยเฉพาะในงานที่ต้องการความละเอียดและความแน่นหนา การเลือกใช้ไขควงไฟฟ้าที่มีคุณภาพและสามารถปรับระดับแรงบิดได้ จะช่วยให้การติดตั้งเป็นไปอย่างราบรื่น และไม่ทำให้วัสดุเสียหาย

เห็นได้ว่าการเลือกโช้คอัพประตู และอุปกรณ์ที่เหมาะสม ไม่เพียงแต่ช่วยให้การติดตั้งโช้คอัพเป็นไปได้ง่ายขึ้น แต่ยังช่วยยืดอายุการใช้งานของทั้งโช้คอัพและประตูที่ติดตั้งด้วย คุณจึงสามารถมั่นใจได้ว่าประตูของคุณจะเปิดปิดได้อย่างราบรื่นและปลอดภัยในทุกครั้งที่ใช้งาน


วัสดุโช้คอัพประตู: ความแข็งแรงและทนทานขึ้นอยู่กับอะไร?

419-วัสดุโช้คอัพประตู

การเลือกวัสดุที่ใช้ในการผลิตโช้คอัพประตูเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ต้องใส่ใจ เพราะความแข็งแรงและความทนทานของโช้คอัพขึ้นอยู่กับวัสดุที่ใช้ การเลือกวัสดุที่เหมาะสมจะช่วยให้โช้คอัพมีอายุการใช้งานที่ยาวนานและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อตอบสนองความต้องการใช้งานที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานในร่มหรือกลางแจ้ง

วัสดุและคุณสมบัติของโช้คอัพประตู

  • เหล็ก: มีความแข็งแรงสูงและทนต่อการโหลดน้ำหนักหนัก แต่อาจเป็นสนิมได้หากไม่มีการเคลือบผิวอย่างเหมาะสม
  • สแตนเลส: ทนทานต่อสนิมและมีความแข็งแรงดี เหมาะสำหรับใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง
  • อะลูมิเนียม: น้ำหนักเบาและไม่เป็นสนิม สามารถใช้งานได้ดีในสถานที่ที่ต้องการโช้คอัพที่เคลื่อนไหวได้ง่าย
  • ซิงค์อัลลอยด์: มีน้ำหนักที่เบาและมีความทนทานต่อการกัดกร่อน ทำให้เหมาะกับการใช้งานในที่ที่มีสภาพอากาศที่แปรปรวน

ตารางสรุปการเลือกวัสดุตามสภาพการใช้งาน

วัสดุคุณสมบัติของวัสดุเหมาะสำหรับใช้งาน
เหล็กแข็งแรง, ราคาไม่แพง, อาจเป็นสนิมใช้งานในร่ม, ที่ต้องการรับน้ำหนักมาก
สแตนเลสทนทานต่อสนิม, มีความเงางามใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้น
อะลูมิเนียมน้ำหนักเบา, ไม่เป็นสนิมการใช้งานที่ต้องการความเบาและการเคลื่อนไหวง่าย
ซิงค์อัลลอยด์ทนทานต่อการกัดกร่อนใช้งานกลางแจ้ง

การเลือกวัสดุที่เหมาะสมไม่เพียงแต่ช่วยให้โช้คอัพประตูทำงานได้อย่างราบรื่น แต่ยังช่วยให้มั่นใจได้ว่าประตูของคุณจะปลอดภัยและใช้งานได้ยาวนานตามที่คาดหวัง

วิธีดูแลและติดตั้งโช้คอัพประตูให้มีอายุการใช้งานยาวนาน

419-วิธีดูแลและติดตั้งโช้คอัพประตูให้มีอายุการใช้งานยาวนาน

การดูแลรักษาและติดตั้งโช้คอัพประตูอย่างถูกต้อง เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้โช้คอัพมีอายุการใช้งานยาวนานและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ การเลือกโช้คอัพประตูที่ดีที่สุดจึงไม่เพียงพอ คุณต้องรู้วิธีการดูแลและติดตั้งที่เหมาะสมเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดจากการใช้งาน

การดูแลรักษาโช้คอัพประตู

  • การทำความสะอาด: โช้คอัพควรทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดการสะสมของฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกที่อาจทำให้การทำงานของโช้คอัพลดลง ใช้ผ้าชุบน้ำหมาด ๆ เช็ดทำความสะอาด และหลีกเลี่ยงการใช้น้ำมันหรือสารเคมีที่รุนแรง
  • การตรวจสอบสภาพ: ควรตรวจสอบโช้คอัพและอุปกรณ์เสริมที่เกี่ยวข้องอย่างสม่ำเสมอ เพื่อตรวจหาสภาพความเสียหายหรือการสึกหรอ ซึ่งอาจต้องมีการปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลง

การติดตั้งโช้คอัพประตู

  • การเลือกตำแหน่งติดตั้ง: ควรติดตั้งโช้คอัพในตำแหน่งที่ช่วยให้การเปิดปิดประตูเป็นไปได้อย่างราบรื่น โดยอาจต้องพิจารณาตำแหน่งที่ไม่ทำให้โช้คอัพต้องรับแรงกระแทกมากเกินไป
  • การตรวจสอบและปรับแต่งหลังการติดตั้ง: หลังจากติดตั้งโช้คอัพแล้ว ควรตรวจสอบและทำการปรับแต่งเพื่อให้โช้คอัพทำงานได้ตามมาตรฐานที่ต้องการ และปรับให้เข้ากับขนาดและน้ำหนักของประตู

การทำความเข้าใจวิธีการดูแลและติดตั้งโช้คอัพประตูอย่างถูกวิธี ช่วยให้คุณสามารถใช้งานโช้คอัพได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ประตูของคุณทำงานได้อย่างราบรื่นและมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน นอกจากนี้ ยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุจากการใช้งานประตูที่อาจไม่มั่นคงหรือมีปัญหา

โช้คอัพประตูนี้ทำหน้าที่ลดแรงกระแทกและความเร็วขณะปิด ช่วยให้ประตูปิดอย่างช้าๆ และนุ่มนวล ป้องกันไม่ให้ประตูปิดกระแทกแรง ซึ่งการเลือกโช้คอัพประตูที่ดีที่สุด ไม่ใช่เพียงแค่เลือกแบรนด์ที่ดีเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการพิจารณาคุณสมบัติที่สำคัญอย่างน้ำหนักที่รับได้ วัสดุที่ใช้ผลิต และความสามารถในการเปิดประตูได้กว้างสูงสุด ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยให้การใช้งานโช้คอัพประตูเป็นไปอย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ ในรีวิวนี้ได้มีการแนะนำ 10 แบรนด์โช้คอัพประตูที่มีคุณภาพสูง โดยแต่ละแบรนด์มีการกล่าวถึงคุณสมบัติอย่างละเอียด เพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจถึงข้อดีและความเหมาะสมในการใช้งาน นอกจากนี้ ยังมีหัวข้อเสริมที่พูดถึงวิธีการเลือกโช้คอัพประตู ความแข็งแรงของวัสดุ และการดูแลรักษาโช้คอัพประตูให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ทั้งหมดนี้จะช่วยให้ผู้อ่านสามารถเลือกและใช้โช้คอัพประตูได้อย่างมีคุณภาพและความปลอดภัย

คำถามที่พบบ่อย

1. โช้คอัพประตูคืออะไร และมีหน้าที่อย่างไร?

โช้คอัพประตูเป็นอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับควบคุมการเปิดและปิดประตูให้เป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัย มีหน้าที่ช่วยลดแรงกระแทกเมื่อปิดและเปิดประตู ทำให้ประตูมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น

2. วัสดุใดที่ควรพิจารณาเมื่อเลือกซื้อโช้คอัพประตู?

ควรเลือกวัสดุที่ตรงกับสภาพแวดล้อมการใช้งาน เช่น สแตนเลสสำหรับพื้นที่ชื้น เหล็กหรืออะลูมิเนียมสำหรับการใช้งานทั่วไป และซิงค์อัลลอยด์สำหรับพื้นที่ที่ต้องการความทนทานต่อการกัดกร่อน

3. ควรตรวจสอบส่วนใดบ้างหลังจากติดตั้งโช้คอัพประตู?

หลังจากติดตั้งควรตรวจสอบการทำงานของโช้คอัพว่าสามารถควบคุมการเปิดปิดประตูได้ราบรื่นหรือไม่ ตรวจสอบความแน่นหนาของการติดตั้งและปรับแต่งหากจำเป็น

4. การดูแลรักษาโช้คอัพประตูมีวิธีการอย่างไรบ้าง?

ควรทำความสะอาดโช้คอัพอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันฝุ่นและสิ่งสกปรก ตรวจสอบสภาพความเสียหายหรือการสึกหรอทุก ๆ 6 เดือน เพื่อปรับเปลี่ยนหรือซ่อมแซมให้พร้อมใช้งานได้อย่างดีที่สุด

Scroll to Top