10 พื้นไวนิล ยี่ห้อไหนดี ติดตั้งง่าย ทนทาน พร้อมกันน้ำและกันปลวก

Cover-397-พื้นไวนิล

การตกแต่งบ้านให้สวยงามและมีสไตล์ในยุคปัจจุบันต้องการวัสดุที่ไม่เพียงแต่สวยงามเท่านั้น แต่ยังต้องมีคุณสมบัติที่ทนทานและตอบสนองต่อการใช้งานที่หลากหลาย “พื้นไวนิล” กลายเป็นหนึ่งในตัวเลือกยอดนิยมที่ตอบโจทย์ทั้งในเรื่องของความสวยงามและประสิทธิภาพในการใช้งาน อย่างไรก็ตาม การเลือกใช้พื้นไวนิลก็มีหลายปัจจัยที่ต้องพิจารณา โดยเฉพาะเรื่องของความหนาที่ส่งผลต่อทั้งความทนทานและรูปแบบการใช้งาน ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปดูข้อดีและข้อเสียของพื้นไวนิล รวมถึงแนะนำ พื้นไวนิล ยี่ห้อไหนดี และวิธีการเลือกใช้พื้นไวนิลที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณ เพื่อให้คุณได้เลือกวัสดุปูพื้นที่ดีที่สุดสำหรับบ้านยุคใหม่ของคุณ

หลักเกณฑ์ที่ใช้ในการจัดอันดับสินค้า

  • ความทนทาน: พื้นไวนิลต้องมีความทนทานสูงต่อการใช้งานในระยะยาว โดยไม่เกิดการเสียหายหรือสึกหรอง่าย การใช้งานในพื้นที่ที่มีการสัญจรสูง เช่น ห้องนั่งเล่นหรือห้องครัว ยิ่งต้องพิจารณาเรื่องความทนทานเป็นพิเศษ เพราะพื้นไวนิลคุณภาพดีจะสามารถรับน้ำหนักและแรงกดได้โดยไม่เกิดรอยขีดข่วนหรือการชำรุด
  • การกันน้ำ: สินค้าควรมีคุณสมบัติในการกันน้ำได้ดี เพื่อป้องกันการเสียหายจากความชื้น โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีโอกาสเปียกน้ำบ่อย ๆ อย่างเช่นห้องน้ำหรือห้องครัว การที่พื้นไวนิลสามารถกันน้ำได้ จะช่วยป้องกันไม่ให้พื้นบวมหรือหลุดลอก อีกทั้งยังช่วยยืดอายุการใช้งานของพื้นได้อีกด้วย
  • การกันปลวก: พื้นไวนิลควรสามารถกันปลวกและแมลงอื่น ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อยืดอายุการใช้งาน ปลวกและแมลงเป็นปัจจัยที่ทำให้พื้นไม้หรือวัสดุอื่น ๆ เสื่อมสภาพเร็ว แต่พื้นไวนิลที่มีคุณสมบัติในการกันปลวกจะช่วยลดความเสี่ยงจากปัญหานี้ ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องการถูกทำลายจากแมลง
  • การติดตั้ง: ความง่ายในการติดตั้งเป็นสิ่งสำคัญ ควรเลือกสินค้าที่สามารถติดตั้งได้โดยไม่ยุ่งยากและไม่ต้องใช้เครื่องมือซับซ้อน ซึ่งจะช่วยประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายในการติดตั้ง สินค้าควรมีการออกแบบให้สามารถติดตั้งได้อย่างมั่นคงและเรียบเนียน ไม่เกิดช่องว่างหรือความไม่เรียบร้อยในการติดตั้ง
  • ความสวยงาม: ลวดลายและสีสันของพื้นไวนิลควรมีความสวยงามและเข้ากับการตกแต่งภายในได้ดี พื้นไวนิลที่ดีควรมีลวดลายที่หลากหลายและดูสมจริง เช่น ลายไม้ หิน หรือคอนกรีต เพื่อตอบโจทย์การตกแต่งภายในที่แตกต่างกัน นอกจากนี้ พื้นไวนิลที่มีความสวยงามจะช่วยเพิ่มบรรยากาศและความสบายให้กับบ้านหรือพื้นที่ใช้งาน
  • ราคา: ควรพิจารณาสินค้าที่มีราคาสมเหตุสมผลและคุ้มค่ากับคุณภาพ พื้นไวนิลที่มีราคาสูงไม่จำเป็นต้องเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดเสมอไป ควรเปรียบเทียบราคากับคุณสมบัติและความทนทานของสินค้า เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่คุ้มค่าที่สุด
  • การดูแลรักษา: สินค้าควรดูแลรักษาง่าย ไม่ต้องใช้เวลาและค่าใช้จ่ายสูงในการดูแล พื้นไวนิลที่มีคุณสมบัติทำความสะอาดง่ายและไม่เกิดรอยง่ายจะช่วยลดเวลาในการทำความสะอาดและการบำรุงรักษา ทำให้พื้นที่ใช้งานสะอาดและดูใหม่อยู่เสมอ
  • ความคิดเห็นจากผู้ใช้: รีวิวและความคิดเห็นจากผู้ใช้จริงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยในการประเมินคุณภาพของสินค้า ความเห็นจากผู้ที่เคยใช้สินค้าจะช่วยให้เราเข้าใจถึงข้อดีข้อเสียของผลิตภัณฑ์ และช่วยในการตัดสินใจเลือกซื้อได้อย่างมั่นใจมากขึ้น
  • การรับประกัน: ควรมีการรับประกันสินค้าที่ครอบคลุมเพียงพอ เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการใช้งาน การรับประกันที่ดีควรครอบคลุมความเสียหายจากการผลิตและการใช้งานปกติ ซึ่งจะเป็นหลักประกันให้กับผู้ซื้อว่าสินค้ามีคุณภาพและสามารถใช้งานได้อย่างมั่นใจ
  • ความปลอดภัย: สินค้าควรผลิตจากวัสดุที่ปลอดภัยต่อสุขภาพ ไม่มีสารเคมีอันตรายที่สามารถก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพของผู้ใช้งาน วัสดุที่ใช้ควรได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัย เช่น ปราศจากสาร VOCs (Volatile Organic Compounds) หรือสารเคมีที่เป็นอันตราย ซึ่งจะช่วยให้การใช้งานเป็นไปอย่างปลอดภัยในระยะยาว

10 อันดับ พื้นไวนิล ยี่ห้อไหนดี คุณภาพสูง ทนทาน พร้อมกันน้ำและปลวกได้ดี

1. Leowood กระเบื้องยาง SPC รุ่น ULTIMA

1-Leowood-กระเบื้องยาง-SPC-รุ่น-ULTIMA

กระเบื้องยาง SPC รุ่น ULTIMA - Prank เป็นพื้นไม้ที่ทนทาน ติดตั้งง่าย ปลอดภัย และเหมาะกับการใช้งานในหลากหลายพื้นที่ภายในอาคาร

การใช้งานแบบ Click Lock
ขนาด18 x 12 cm. หนา 6 mm.
จำนวนต่อกล่อง10 แผ่น
พื้นที่2.22 ตรม.
ราคา1,441 บาท

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

กระเบื้องยาง SPC รุ่น ULTIMA – Prank เป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มความสวยงามและความแข็งแรงให้กับพื้นในพื้นที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นคาเฟ่ ร้านอาหาร สำนักงาน หรือห้องประชุม ด้วยความหนาของชั้นกันสึกที่สูงถึง 0.5 มม. ช่วยป้องกันรอยขูดขีดและเสริมความทนทานได้ถึง 70% ทำให้พื้นไม้ดูสวยงามและใหม่อยู่เสมอ ด้วยชั้น SPC CORE ที่เพิ่มความแข็งแกร่งถึง 25% พร้อมกับโฟม ixpe ในตัวที่ช่วยรองรับแรงกระแทก ทำให้สัมผัสนุ่มสบายกว่าที่เคย ตัววัสดุผลิตจากแคลเซียมคาร์บอเนตผสม PVC เกรด VIRGIN ปราศจากสารก่อมะเร็ง ปลอดภัยทั้งสำหรับคนและสัตว์เลี้ยง ติดตั้งง่ายด้วยระบบคลิกล็อก สามารถปูทับพื้นเดิมได้ทันที ไม่ต้องกังวลเรื่องปลวก ความชื้น หรือไฟลาม นอกจากนี้ยังได้รับการรับประกันคุณภาพนานถึง 20 ปี สินค้าจำหน่ายเป็นกล่องซึ่งบรรจุ 10 แผ่น ครอบคลุมพื้นที่ 2.22 ตร.ม. น้ำหนักต่อกล่อง 24 กก.

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

กระเบื้องยาง SPC รุ่น ULTIMA – Prank เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการพื้นไม้ที่ทนทานต่อความชื้นและรอยขูดขีด ติดตั้งง่ายด้วยระบบคลิกล็อก และปลอดภัยต่อสุขภาพ เหมาะกับทุกพื้นที่ในอาคาร

2. COTTO กระเบื้องยางลายไม้ LVT

2-COTTO-กระเบื้องยางลายไม้-LVT

กระเบื้องยางไวนิล COTTO รุ่น LT 15x90 ลาโด้ วอลนัท17 เป็นกระเบื้องลายไม้สมจริงที่ทนทาน กันน้ำ กันปลวก และเพิ่มความอบอุ่นหรูหราให้กับพื้นภายในอาคาร

การใช้งานแบบทากาว
ขนาด15 x 90 cm. หนา 3 mm.
จำนวนต่อกล่อง16 แผ่น
พื้นที่2.23 ตรม.
ราคา845 บาท

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

กระเบื้องยางไวนิล COTTO รุ่น LT 15×90 ลาโด้ วอลนัท17 เป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มความอบอุ่นและหรูหราให้กับพื้นที่ภายในอาคาร ด้วยลวดลายไม้ที่สมจริงและผิวสัมผัสแบบนูนต่ำ ความหนา 3 มิลลิเมตร กระเบื้องรุ่นนี้ไม่เพียงแค่สวยงามแต่ยังมีคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยม อาทิ การยืดหดตัวน้อย กันน้ำ และกันปลวกได้อย่างมีประสิทธิภาพ พื้นผิวถูกออกแบบให้ทำความสะอาดได้ง่าย ติดตั้งสะดวกด้วยระบบคลิกล็อกที่แนบสนิททุกแผ่น ผลิตจาก PVC บริสุทธิ์ Premium Healthy Grade ที่ปลอดภัยต่อสุขภาพ กระเบื้องไวนิลนี้เป็นเกรด A ที่รองรับน้ำหนักและการกดทับได้ดี เหมาะสำหรับการตกแต่งทุกพื้นที่ในบ้านหรืออาคาร ด้วยสีเบจที่ให้ความอบอุ่นและสบายตาในทุกการมองเห็น มาพร้อมบรรจุภัณฑ์ที่สามารถปูได้ 2.23 ตารางเมตรต่อกล่อง คุ้มค่าที่สุดในราคาเพียง 379 บาทต่อตารางเมตร

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

กระเบื้องยางไวนิล COTTO รุ่นนี้เป็นตัวเลือกที่ดีเพราะมีลวดลายไม้สมจริงพร้อมคุณสมบัติยืดหดตัวน้อย กันน้ำและกันปลวก ทำให้ทนทานและดูแลรักษาง่าย เหมาะสำหรับการเพิ่มความอบอุ่นและหรูหราให้กับพื้นที่ภายในบ้านหรืออาคารของคุณ

3. ShawContract by OMP กระเบื้องไวนิล LVT

3-ShawContract-by-OMP-กระเบื้องไวนิล-LVT

พื้นไวนิล Shaw Contact ดีไซน์หรูหรา ทนทานต่อแรงกระแทก พร้อมลวดลายสวยงามเป็นธรรมชาติและติดตั้งง่าย

การใช้งานแบบทากาว
ขนาด23 x 91 cm. หนา 3 mm.
จำนวนต่อกล่อง16 แผ่น
พื้นที่3.34 ตรม
ราคา5,718 บาท

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

Shaw Contact พื้นไวนิลดีไซน์หรูหราที่มาพร้อมกับลวดลายคล้ายผืนพรม ซึ่งถูกออกแบบมาอย่างประณีตด้วยลายสานเส้นละเอียดที่ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติ ผลิตตามมาตรฐานจากประเทศสหรัฐอเมริกา ทำให้มีความคงทนและสามารถรองรับแรงกระแทกได้อย่างดีเยี่ยม เหมาะสำหรับการตกแต่งห้องรับแขก ห้องนอน หรือห้องทำงาน เพื่อเพิ่มความหรูหราและความสวยงามอย่างมีระดับ นอกจากนี้ พื้นไวนิล Shaw reThink ยังมีการเคลือบพื้นผิวด้วยเทคนิค ExoGuardTM Finish ที่ช่วยป้องกันรอยขีดข่วนและทำให้สีสันคงทนนาน โดยไม่จำเป็นต้องเคลือบ wax หลังการติดตั้งอีกครั้ง ด้วยความหนาและความทนทานที่เหนือชั้น พื้นไวนิลนี้จึงเหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่ที่ต้องการความสวยงามและความทนทานในเวลาเดียวกัน สินค้ารับประกันนานถึง 10 ปี และสามารถติดตั้งได้ง่ายบนทุกพื้นผิว โดยพื้นผิวควรเรียบและสะอาดเพื่อให้การติดตั้งสมบูรณ์แบบที่สุด ผลิตภัณฑ์นี้เป็นแบบทากาวซึ่งให้การยึดเกาะที่ดีกว่าแบบมีกาวในตัว พร้อมด้วยบริการจากผู้ขายตลอดระยะเวลารับประกัน

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

พื้นไวนิล Shaw Contact เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มความหรูหราให้กับพื้นที่ในบ้าน ด้วยลวดลายที่สวยงามเป็นธรรมชาติ พร้อมความทนทานสูงต่อการใช้งานและแรงกระแทก อีกทั้งยังติดตั้งง่ายและดูแลรักษาได้อย่างสะดวก

4. Rococo LVT รุ่น R330S

4-Rococo-LVT-รุ่น-R330S

กระเบื้องไวนิล Rococo รุ่น R330S มีความหนาและทนทาน ติดตั้งง่าย พร้อมทั้งให้สัมผัสที่อบอุ่นและไม่เย็นเท้า เหมาะสำหรับการใช้งานในบ้านหรือออฟฟิศ

การใช้งานแบบทากาว
ขนาด12 x 24 cm. หนา 3.3 mm.
จำนวนต่อกล่อง18 แผ่น
พื้นที่3.34 ตรม.
ราคา1,572 บาท

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

กระเบื้องไวนิล Rococo รุ่นทากาว รหัส R330S มาพร้อมกับความหนาพิเศษถึง 3.3 มิลลิเมตร ออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานหนักได้อย่างดีเยี่ยม ด้วยผิวสัมผัสเรียบเนียนที่ไม่ทำให้รู้สึกเย็นเท้า มอบสัมผัสที่อบอุ่นและรักษาอุณหภูมิในบ้านหรือออฟฟิศได้อย่างยอดเยี่ยม แผ่นไวนิลขนาดใหญ่ช่วยให้การติดตั้งง่ายและรวดเร็ว ประหยัดเวลาในการทำงาน อีกทั้งยังสามารถตัดแต่งได้ตามต้องการเพื่อสร้างลวดลายที่หลากหลายและโดดเด่น พื้นผิวของกระเบื้องยังกันน้ำ ป้องกันปลวก และกันความชื้น 100% ทำให้มั่นใจได้ว่าพื้นบ้านของคุณจะทนทานต่อการใช้งานในระยะยาว คราบสกปรกไม่ฝังลึกและทำความสะอาดได้ง่าย เหมาะสำหรับการใช้งานในร้านอาหารหรือออฟฟิศ โดยมีการรับประกันคุณภาพนานถึง 10 ปี ให้คุณมั่นใจในคุณภาพและความคุ้มค่าของผลิตภัณฑ์นี้

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

กระเบื้องไวนิล Rococo รุ่น R330S เป็นตัวเลือกที่ดีเพราะมีความทนทานสูง ติดตั้งง่ายและรวดเร็ว พร้อมทั้งให้สัมผัสที่อบอุ่นและไม่เย็นเท้า ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานในบ้านหรือออฟฟิศที่ต้องการความสะดวกสบายและความทนทานในระยะยาว

5. Porcela พื้นไวนิล รุ่น LVT(Promax)

5-Porcela-พื้นไวนิล-รุ่น-LVT(Promax)

กระเบื้องยาง Porcela รุ่น LVT(Promax) เป็นพื้นไวนิลคุณภาพสูงที่ติดตั้งง่าย ทนทาน กันน้ำและปลวกได้ดี พร้อมลวดลายเสมือนไม้จริงในราคาย่อมเยา

การใช้งานแบบ Click Lock
ขนาด17.5 x 12.2 cm. หนา 4 mm.
จำนวนต่อกล่อง9 แผ่น
พื้นที่1.94 ตรม.
ราคา1,150 บาท

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

กระเบื้องยาง Porcela รุ่น LVT(Promax) แบบ Click Lock หนา 4 มม. รหัส LW4302 สี Natural White Oak เป็นพื้นไวนิลคุณภาพสูงที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การใช้งานทั้งในบ้าน คอนโด และตึกสูง ด้วยคุณสมบัติเด่นของการผลิตจากไวนิลบริสุทธิ์ 100% ทำให้ตัวกระเบื้องมีความยืดหยุ่น แข็งแรง รองรับแรงกระแทกได้ดี ทั้งยังทนทานต่อรอยขีดข่วน ป้องกันน้ำและปลวกได้อย่างมีประสิทธิภาพ พื้นผิวเรียบลื่นไม่เกาะฝุ่น จึงทำความสะอาดง่ายเพียงปัดกวาดหรือเช็ดถูด้วยผ้าหมาด การติดตั้งแบบ Click Lock ทำให้ไม่ต้องใช้กาว ทำให้คุณสามารถเข้าอยู่ได้ทันทีหลังการติดตั้งเสร็จ นอกจากนี้ กระเบื้องยังมีคุณสมบัติไม่ลามไฟ ปลอดภัยต่อการใช้งาน มาพร้อมลวดลายที่เสมือนไม้จริง แต่ราคาย่อมเยากว่าไม้จริง อีกทั้งด้านล่างของกระเบื้องยังออกแบบให้มีผิวตาข่ายช่วยยึดเกาะกับพื้นผิวเดิมได้ดี กระจายน้ำหนักเพื่อให้แผ่นกระเบื้องไม่ลื่นสไลด์ออกจากกัน สินค้า 1 กล่อง บรรจุ 1.94 ตารางเมตร (9 แผ่น) ขนาดต่อแผ่น 177.35 x 1212.4 x 4 มม. พร้อมชั้นปกป้องผิวหนา 0.3 มม.

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

กระเบื้องยาง Porcela รุ่น LVT(Promax) เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการพื้นไวนิลที่สวยงาม ทนทาน และติดตั้งง่าย ด้วยคุณสมบัติกันน้ำ กันปลวก และไม่ลามไฟ จึงมั่นใจได้ในเรื่องความปลอดภัยและความคุ้มค่าในระยะยาว

6. HW กระเบื้องยาง pvc

6-HW-กระเบื้องยาง-pvc

ผลิตภัณฑ์พื้นหนาทนทานนี้ติดตั้งง่าย กันน้ำ 100% และทนต่อการสึกหรอ เหมาะสำหรับการปรับปรุงพื้นบ้านอย่างมีคุณภาพ

การใช้งานแบบลอกกาว
ขนาด91.4 x 15.2 cm. 4 mm.
จำนวนต่อกล่อง36 แผ่น
พื้นที่5 ตรม.
ราคา429 บาท

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

ผลิตภัณฑ์พื้นหนาทนต่อการสึกหรอและขีดข่วน ด้วยขนาด 15.2 x 91.4 ซม. และความหนา 1.5 มม. ผลิตจากวัสดุ PVC+PVE ที่มีคุณสมบัติกันน้ำ 100% กันปลวก กันกระแทก และยังมีการยืดหดตัวต่ำ ทำให้สามารถครอบคลุมกระเบื้องเดิม, พื้นไม้, และพื้นซีเมนต์ได้อย่างลงตัว ติดตั้งง่ายด้วยกาวในตัว เพียงเช็ดทำความสะอาดพื้นผิวเดิมแล้วติดตั้งตามขั้นตอนก็สามารถเปลี่ยนพื้นที่บ้านให้ดูใหม่ได้ทันที มีสีให้เลือกถึง 6 สี พร้อมทั้งรับประกันอายุการใช้งานยาวนานถึง 20 ปี สั่งซื้อวันนี้รับประกันคุณภาพสินค้า 10 ปี และหากสั่งซื้อมากกว่า 10 กล่อง ไม่ต้องจ่ายค่าจัดส่ง โดยจัดส่งถึงมือคุณภายใน 1-3 วันในกรุงเทพฯ และ 2-3 วันในต่างจังหวัด สำหรับคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับสีและการสั่งซื้อ สามารถติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าได้ทันที

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

ผลิตภัณฑ์นี้เหมาะสำหรับการเลือกใช้งานเพราะติดตั้งง่าย ทนทานต่อการสึกหรอและขีดข่วน อีกทั้งยังกันน้ำ 100% ทำให้มั่นใจได้ในความคงทนและความสะอาดของพื้นผิวตลอดการใช้งาน

7. TARA DBV50

7-TARA-DBV50

กระเบื้องยางหลังกาวรุ่น TARA DBV50 เป็นกระเบื้องยางคุณภาพสูงที่ติดตั้งง่ายและมีลวดลายไม้เสมือนจริง มอบความทนทานและความอบอุ่นเป็นธรรมชาติให้กับพื้นที่ในบ้านของคุณ

การใช้งานแบบทากาว
ขนาด15.24 x 91.44 cm. 2 mm.
จำนวนต่อกล่อง24 แผ่น
พื้นที่3.34 ตรม.
ราคา999 บาท

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

กระเบื้องยางหลังกาวรุ่น TARA DBV50 ขนาด 15.24X91.44 ซม. ผลิตจากไวนิลคุณภาพสูงที่มาพร้อมกับกาวในตัว ช่วยให้การติดตั้งเป็นเรื่องง่ายและสะดวกสบาย สามารถทำได้ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องใช้กาวเพิ่มเติม ติดแน่นทนนาน และสามารถทำความสะอาดได้อย่างง่ายดาย กระเบื้องยางรุ่นนี้ออกแบบมาให้ทนต่อรอยขีดข่วน พร้อมผิวสัมผัสที่นุ่มสบายเท้า มอบความรู้สึกอบอุ่นเป็นธรรมชาติด้วยลวดลายไม้ที่เสมือนจริง นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติในการดูดซับเสียงและลดแรงกระแทกในระหว่างการเดินได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถติดตั้งบนพื้นผิวหลากหลาย เช่น พื้นคอนกรีต พื้นหินขัด หรือพื้นไม้เก่า ช่วยเสริมบรรยากาศในบ้านของคุณให้ดูมีสไตล์และสวยงามด้วยความเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับการปูตกแต่งพื้นภายในอาคาร เพื่อเพิ่มความสวยงามและความรู้สึกอบอุ่นในทุกย่างก้าว

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

กระเบื้องยางหลังกาวรุ่น TARA DBV50 เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมเพราะติดตั้งง่าย ทนทานต่อรอยขีดข่วน และมีลวดลายไม้เสมือนจริงที่มอบความอบอุ่นเป็นธรรมชาติให้กับพื้นที่ในบ้านของคุณ

8. DURAGRES กู๊ตตี้ เบจ

8-DURAGRES-กู๊ตตี้-เบจ

กระเบื้องยางไวนิลจาก TARA มีความทนทานสูง ติดตั้งง่าย และมีลวดลายไม้เสมือนจริงที่สวยงาม เหมาะสำหรับการตกแต่งภายในอาคารอย่างลงตัว

การใช้งานแบบ Click Lock
ขนาด20 x 100 cm. 3 mm.
จำนวนต่อกล่อง16 แผ่น
พื้นที่3.2 ตรม
ราคา1,191 บาท

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

กระเบื้องยางไวนิลคุณภาพสูงจากแบรนด์ TARA มีความยืดหยุ่นสูงและทนทานต่อการใช้งานยาวนาน ด้วยลวดลายไม้ที่สวยงามและผิวสัมผัสเสมือนจริง ให้ความรู้สึกอบอุ่นเป็นธรรมชาติ ช่วยดูดซับเสียงและลดแรงกระแทกขณะเดิน เหมาะสำหรับปูตกแต่งพื้นภายในอาคาร โดยไม่ต้องใช้กาวในการติดตั้ง ขนาด 15.24×91.44 ซม. มีความหนา 2 มม. พร้อมชั้นเคลือบ 0.2 มม. น้ำหนักรวม 13.3 กก. แต่ละกล่องบรรจุ 24 แผ่น ครอบคลุมพื้นที่ 3.34 ตารางเมตร นอกจากนี้กระเบื้องยังมีคุณสมบัติทนต่อรอยขีดข่วนได้ดี ให้คุณสัมผัสกับความสวยงามและความทนทานในทุกก้าวเดิน หลีกเลี่ยงการปูในพื้นที่เปียกชื้นและการใช้สารเคมีเข้มข้นในการทำความสะอาดเพื่อรักษาคุณภาพของกระเบื้องไวนิลนี้ให้ยาวนาน

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

กระเบื้องยางไวนิลจาก TARA เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมเพราะมีความทนทานสูง ติดตั้งง่ายโดยไม่ต้องใช้กาว และให้ความรู้สึกอบอุ่นเป็นธรรมชาติด้วยลวดลายไม้เสมือนจริงพร้อมคุณสมบัติทนต่อรอยขีดข่วน เหมาะสำหรับการตกแต่งภายในบ้านที่ต้องการทั้งความสวยงามและความคงทน

9. VIGLACERA

9-VIGLACERA

กระเบื้องพื้น VIGLACERA มิเนรัลไลน์ ไอวอรี่ ขนาด 15x60 ซม. เป็นกระเบื้องพอร์ซเลนคุณภาพสูงที่ทนทานต่อการใช้งานและมีลวดลายไม้ธรรมชาติที่ช่วยเสริมบรรยากาศบ้านให้ดูโมเดิร์นและอบอุ่น

การใช้งานแบบ Click Lock
ขนาด15 x 60 cm. 9 mm.
จำนวนต่อกล่อง12 แผ่น
พื้นที่1.08 ตรม.
ราคา499 บาท

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

กระเบื้องพื้น VIGLACERA มิเนรัลไลน์ ไอวอรี่ ขนาด 15×60 ซม. ผลิตจากเซรามิกพอร์ซเลนคุณภาพสูง มาพร้อมกับผิวหน้าแบบกึ่งมันกึ่งด้านที่สวยงาม ได้รับแรงบันดาลใจจากลวดลายไม้ธรรมชาติ ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติอย่างแท้จริง กระเบื้องชนิดตัดขอบนี้มีความแข็งแรง ทนทานต่อรอยขีดข่วนและการเสียดสี รองรับน้ำหนักได้ดี เหมาะสำหรับการปูพื้นภายในบ้าน เช่น ห้องนอน ห้องครัว และห้องรับแขก ช่วยเสริมให้บรรยากาศในบ้านดูอบอุ่นและเป็นธรรมชาติ ในขณะที่ยังคงความโมเดิร์นและเรียบหรู ผิวเคลือบลวดลายทำให้สามารถทำความสะอาดได้ง่าย และคงทนต่อการใช้งานในระยะยาว กระเบื้องนี้ยังถูกออกแบบมาให้ปูง่าย ด้วยขนาดที่พอดีต่อการติดตั้งและการใช้งานจริงในบ้านทุกประเภท

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

กระเบื้องพื้น VIGLACERA มิเนรัลไลน์ ไอวอรี่มีความทนทานสูงต่อรอยขีดข่วนและการเสียดสี พร้อมลวดลายไม้ธรรมชาติที่เสริมบรรยากาศบ้านให้ดูอบอุ่นและโมเดิร์น ทำให้เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับการตกแต่งภายในบ้านที่ต้องการความสวยงามและใช้งานได้ยาวนาน

10. Duragres PVC

10-Duragres-PVC

กระเบื้องยางไวนิลเป็นวัสดุปูพื้นที่ทนทานต่อความชื้น ยืดหยุ่น และมีลวดลายสวยงามเลียนแบบไม้จริง พร้อมติดตั้งและทำความสะอาดได้ง่าย

การใช้งานแบบลอกกาว
ขนาด91.4 x15 cm. หนา 2 mm.
จำนวนต่อกล่อง24 แผ่น
พื้นที่3.34 ตรม.
ราคา875 บาท

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

กระเบื้องยางไวนิลหรือกระเบื้องยางจาก PVC (Poly Vinyl Chloride) เป็นวัสดุปูพื้นที่มีความทนทานสูง เหมาะสำหรับการใช้งานในทุกพื้นที่ของบ้าน ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นในการทนต่อความชื้น มีความยืดหยุ่นและเหนียวแน่น ทำให้กระเบื้องไม่ลื่นง่าย และมีลวดลายที่เลียนแบบไม้จริงอย่างสวยงาม อีกทั้งยังติดตั้งและทำความสะอาดได้ง่าย ซึ่งช่วยให้การดูแลรักษาพื้นบ้านของคุณสะดวกและรวดเร็ว นอกจากนี้ในการติดตั้งกระเบื้องควรตรวจสอบเฉดสี ขนาด และสภาพของกระเบื้องให้เรียบร้อยก่อนปู เพื่อให้แน่ใจว่างานปูพื้นจะเป็นไปตามที่ต้องการ ทั้งนี้ควรศึกษาข้อแนะนำจากกล่องผลิตภัณฑ์อย่างละเอียดก่อนการใช้งานทุกครั้ง และในกรณีที่พบกระเบื้องชำรุดจากการขนส่ง ควรแจ้งให้พนักงานขนส่งหรือพนักงานขายทราบภายในระยะเวลาไม่เกินหนึ่งวันหลังจากได้รับสินค้า เพื่อรักษาสิทธิ์ในการเคลมสินค้า

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

กระเบื้องยางไวนิลเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมเพราะมีความทนทานต่อความชื้นสูงและมีความยืดหยุ่น พร้อมทั้งลวดลายที่เลียนแบบไม้จริงอย่างสวยงาม ทำให้พื้นที่ดูมีสไตล์และง่ายต่อการดูแลรักษา

พื้นไวนิลแบบหนาและบาง แบบไหนเหมาะกับการใช้งานของคุณ?

397-พื้นไวนิลแบบหนาและบาง แบบไหนเหมาะกับการใช้งานของคุณ_

การเลือกพื้นไวนิลสำหรับพื้นที่ในบ้านหรือสำนักงานเป็นการตัดสินใจที่สำคัญ เพราะพื้นเป็นส่วนหนึ่งของการตกแต่งภายในที่สามารถส่งผลต่อความสวยงาม ความทนทาน และการใช้งานในระยะยาว พื้นไวนิลในปัจจุบันมีให้เลือกหลายแบบ แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องพิจารณาอย่างละเอียดคือความหนาของพื้นไวนิล ซึ่งมีผลต่อทั้งคุณสมบัติและการใช้งาน เรามาดูรายละเอียดกันว่าพื้นไวนิลแบบหนาและบางนั้นแตกต่างกันอย่างไร และแบบไหนที่เหมาะกับการใช้งานของคุณ

ความแตกต่างระหว่างพื้นไวนิลแบบหนาและบาง

  • พื้นไวนิลแบบหนา

พื้นไวนิลแบบหนามีความหนาประมาณ 4-6 มิลลิเมตร หรือมากกว่า ซึ่งมีข้อดีหลายประการ เช่น ความทนทานสูง สามารถรองรับแรงกดจากเฟอร์นิเจอร์หนัก ๆ ได้ดี และยังช่วยลดเสียงรบกวนจากการเดินหรือเคลื่อนย้ายสิ่งของ นอกจากนี้ พื้นไวนิลแบบหนายังมีความสามารถในการป้องกันการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิได้ดี ทำให้เหมาะสำหรับพื้นที่ที่ต้องการความนุ่มสบายในการเดิน เช่น ห้องนอน หรือห้องนั่งเล่น

  • พื้นไวนิลแบบบาง

พื้นไวนิลแบบบางมีความหนาประมาณ 2-3 มิลลิเมตร ซึ่งมีข้อดีในด้านของการติดตั้งที่ง่ายและรวดเร็ว และราคาที่ประหยัดกว่า พื้นไวนิลแบบบางยังเหมาะสำหรับพื้นที่ที่ไม่ต้องการความทนทานสูง เช่น ห้องเก็บของ หรือพื้นที่ที่ไม่ต้องรับน้ำหนักมาก อย่างไรก็ตาม พื้นไวนิลแบบบางอาจไม่เหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีการเดินผ่านบ่อย ๆ เพราะอาจเกิดการสึกหรอได้ง่ายกว่าพื้นแบบหนา

คำแนะนำในการเลือกใช้งานพื้นไวนิล

การเลือกใช้พื้นไวนิลให้เหมาะสมกับการใช้งานของแต่ละพื้นที่เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เพราะนอกจากจะส่งผลต่อความสวยงามและบรรยากาศของพื้นที่แล้ว ยังมีผลต่อความทนทานและการใช้งานในระยะยาวอีกด้วย ต่อไปนี้คือคำแนะนำที่ควรคำนึงถึงเมื่อเลือกใช้พื้นไวนิลแบบหนาหรือบางตามความเหมาะสม:

1. ลักษณะของพื้นที่ที่ใช้งาน

  • พื้นที่ที่มีการเดินผ่านบ่อยและรับน้ำหนักมาก

    พื้นที่อย่างห้องนั่งเล่น ห้องครัว หรือทางเดินที่มีการใช้งานบ่อย ๆ และต้องรับน้ำหนักจากเฟอร์นิเจอร์หรือของใช้ต่าง ๆ ควรเลือกใช้พื้นไวนิลแบบหนา เนื่องจากมีความทนทานต่อแรงกดและการสึกหรอได้ดีกว่า อีกทั้งยังช่วยป้องกันเสียงรบกวนจากการเดินหรือเคลื่อนย้ายสิ่งของ ลดการสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้น

  • พื้นที่ที่ไม่ต้องรับน้ำหนักมากหรือใช้งานไม่บ่อย

    สำหรับพื้นที่ที่ไม่มีการเดินผ่านบ่อย ๆ หรือไม่ได้รับน้ำหนักจากสิ่งของมาก เช่น ห้องเก็บของ ห้องนอนแขก หรือพื้นที่ที่ใช้จัดเก็บสิ่งของเบา ๆ พื้นไวนิลแบบบางอาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกว่า เนื่องจากติดตั้งง่ายและมีราคาที่ประหยัดกว่า อีกทั้งยังสามารถเปลี่ยนหรือซ่อมแซมได้ง่ายหากมีความเสียหายเกิดขึ้น

2. ความต้องการในเรื่องของเสียงและความนุ่มสบาย

  • ความนุ่มสบายในการเดิน

    หากคุณต้องการความนุ่มสบายในการเดินโดยเฉพาะในห้องนอนหรือห้องเด็กเล่น พื้นไวนิลแบบหนาจะช่วยเพิ่มความสบายในการเดินมากกว่า เนื่องจากมีชั้นที่หนาขึ้น ทำให้เดินแล้วรู้สึกนุ่มนวล และยังช่วยป้องกันการกระแทกเมื่อเกิดการล้ม

  • การลดเสียงรบกวน

    ในกรณีที่พื้นที่ต้องการลดเสียงรบกวนจากการเดินหรือเสียงจากการเคลื่อนย้ายเฟอร์นิเจอร์ เช่น ห้องทำงานหรือห้องนั่งเล่นที่ต้องการความเงียบสงบ พื้นไวนิลแบบหนาจะสามารถช่วยลดเสียงได้ดีกว่า เนื่องจากความหนาของวัสดุจะช่วยดูดซับเสียงและลดการสะท้อนเสียงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3. งบประมาณในการติดตั้งและบำรุงรักษา

  • งบประมาณจำกัด

    หากคุณมีงบประมาณจำกัด พื้นไวนิลแบบบางอาจเป็นตัวเลือกที่ดี เนื่องจากมีราคาถูกกว่าและติดตั้งได้ง่ายกว่า ทำให้ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายสูงในการติดตั้ง นอกจากนี้ การบำรุงรักษาพื้นไวนิลแบบบางยังค่อนข้างง่ายและไม่ต้องการการดูแลพิเศษ

  • การลงทุนในระยะยาว

    หากคุณมองหาการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว พื้นไวนิลแบบหนาจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกว่า แม้จะมีราคาสูงกว่า แต่ด้วยความทนทานและความสามารถในการรองรับการใช้งานหนัก จะช่วยลดความเสี่ยงในการซ่อมแซมและเปลี่ยนใหม่บ่อย ๆ ทำให้คุ้มค่ากับการลงทุนในระยะยาว

4. ความต้องการในการออกแบบและตกแต่ง

  • การเลือกสีและลวดลายที่เข้ากับสไตล์การตกแต่ง

    พื้นไวนิลแบบหนามักมีลวดลายและสีสันที่หลากหลายมากกว่า เนื่องจากมีชั้นลวดลายที่คมชัดและสมจริง ทำให้สามารถเลือกให้เข้ากับสไตล์การตกแต่งภายในบ้านหรือสำนักงานได้ง่าย เช่น สไตล์โมเดิร์น สไตล์คลาสสิก หรือสไตล์มินิมอล

  • การใช้ในพื้นที่ที่เน้นการออกแบบเป็นหลัก

    หากพื้นที่นั้นเน้นการออกแบบและความสวยงามเป็นหลัก พื้นไวนิลแบบหนาจะสามารถตอบโจทย์ได้ดีกว่า เนื่องจากลวดลายและความหนาของวัสดุจะช่วยเพิ่มความหรูหราและความมีสไตล์ให้กับพื้นที่ นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกในการติดตั้งที่ยืดหยุ่นและสร้างสรรค์มากขึ้น เช่น การปูแบบลายตาราง การปูแบบสลับสี หรือการออกแบบลวดลายพิเศษ

5. สภาพแวดล้อมและการใช้งานเฉพาะทาง

  • พื้นที่ที่มีความชื้นสูง

    หากเป็นพื้นที่ที่มีความชื้นสูง เช่น ห้องน้ำหรือห้องครัว พื้นไวนิลแบบหนามักมีความทนทานต่อความชื้นดีกว่า ซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้พื้นบวม หรือเกิดความเสียหายจากน้ำและความชื้น นอกจากนี้ยังช่วยลดโอกาสเกิดเชื้อราได้ดี

  • พื้นที่ที่ต้องการความทนทานเป็นพิเศษ

    สำหรับพื้นที่ที่ต้องเผชิญกับการใช้งานหนักหรือมีการเคลื่อนย้ายสิ่งของบ่อย ๆ เช่น พื้นที่สำนักงานหรือพื้นที่สาธารณะ พื้นไวนิลแบบหนาจะสามารถรองรับการใช้งานในลักษณะนี้ได้ดีกว่า ทำให้มั่นใจได้ว่าไม่เกิดความเสียหายจากการใช้งานหนัก ๆ

การติดตั้งพื้นไวนิลให้คงทนด้วยกาวปูกระเบื้องยาง

เมื่อคุณตัดสินใจเลือกพื้นไวนิลไม่ว่าจะเป็นแบบหนาหรือบาง การติดตั้งเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพื่อให้พื้นไวนิลคงทนและสวยงามในระยะยาว การเลือกใช้ 10 ยี่ห้อกาวปูกระเบื้องยางที่ดีที่สุด เป็นตัวเลือกที่ดีในการติดตั้งพื้นไวนิล เนื่องจากกาวชนิดนี้มีความแข็งแรงและยึดติดได้ดี ทำให้พื้นไม่หลุดหรือพองขึ้นเมื่อใช้ไปนาน ๆ นอกจากนี้ การใช้กาวปูกระเบื้องยางยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดความชื้นที่อาจทำให้พื้นเสียหายได้ วิธีการติดตั้งที่ถูกต้องรวมถึงการเตรียมพื้นผิวให้เรียบและสะอาดก่อนทากาว ซึ่งจะช่วยให้การยึดติดเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและทำให้พื้นไวนิลของคุณคงทนสวยงามไปอีกนาน


พื้นไวนิลกับการดูแลรักษาง่าย ๆ ที่คุณควรรู้

397-พื้นไวนิลกับการดูแลรักษาง่าย ๆ ที่คุณควรรู้

พื้นไวนิลเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับการตกแต่งภายใน เนื่องจากมีความทนทาน ติดตั้งง่าย และมีลวดลายที่สวยงามหลากหลาย แต่แม้จะมีความทนทานสูง พื้นไวนิลก็ยังต้องการการดูแลรักษาเพื่อให้คงความสวยงามและใช้งานได้นานหลายปี ในบทความนี้ เราจะมาดูวิธีการดูแลรักษาพื้นไวนิลอย่างถูกต้อง รวมถึงเคล็ดลับในการทำความสะอาดและการป้องกันรอยขีดข่วน เพื่อให้พื้นไวนิลของคุณดูใหม่และคงทนตลอดการใช้งาน

วิธีการดูแลรักษาพื้นไวนิล

1. การทำความสะอาดพื้นไวนิลอย่างสม่ำเสมอ

การทำความสะอาดพื้นไวนิลเป็นขั้นตอนที่สำคัญในการรักษาความสวยงามและยืดอายุการใช้งาน ควรทำความสะอาดพื้นไวนิลด้วยการกวาดหรือดูดฝุ่นอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง เพื่อกำจัดฝุ่นและสิ่งสกปรกที่อาจทำให้พื้นเกิดรอยขีดข่วน นอกจากนี้ การถูพื้นด้วยผ้าชุบน้ำหมาด ๆ และน้ำยาทำความสะอาดที่เหมาะสมกับพื้นไวนิลจะช่วยขจัดคราบสกปรกและคราบมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2. การป้องกันรอยขีดข่วนบนพื้นไวนิล

รอยขีดข่วนเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยบนพื้นไวนิล การป้องกันรอยขีดข่วนสามารถทำได้ง่าย ๆ โดยการติดตั้งแผ่นรองกันรอยใต้ขาเฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้น เพื่อป้องกันการเกิดรอยจากการเคลื่อนย้าย นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงการลากเฟอร์นิเจอร์หรือของหนักบนพื้นไวนิลโดยตรง และใช้พรมปูพื้นบริเวณที่มีการเดินผ่านบ่อย ๆ เพื่อป้องกันการสึกหรอ

3. การดูแลรักษาพื้นไวนิลจากความชื้นและน้ำ

แม้พื้นไวนิลจะทนทานต่อความชื้น แต่การดูแลรักษาให้ห่างจากน้ำเป็นสิ่งสำคัญ ควรทำความสะอาดน้ำที่หกลงบนพื้นทันที เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดคราบน้ำหรือความเสียหายจากความชื้นสะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริเวณที่อาจเกิดความชื้นบ่อย เช่น ห้องครัวหรือห้องน้ำ การใช้ผ้าชุบน้ำหมาด ๆ และไม่ควรใช้ผ้าหรือฟองน้ำที่เปียกน้ำมากเกินไปเพื่อทำความสะอาดจะช่วยรักษาสภาพพื้นไวนิลให้ดีเหมือนใหม่

4. การเลือกใช้น้ำยาทำความสะอาดที่เหมาะสม

การเลือกใช้น้ำยาทำความสะอาดที่เหมาะสมเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ ควรเลือกใช้น้ำยาทำความสะอาดที่ออกแบบมาสำหรับพื้นไวนิลโดยเฉพาะ หลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาที่มีสารเคมีแรงหรือที่มีค่าความเป็นกรด-ด่างสูง เพราะอาจทำให้พื้นเสียหายหรือสีซีดจางได้ การใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีส่วนผสมของแว็กซ์หรือน้ำมันก็ไม่ควรใช้ เพราะอาจทำให้พื้นลื่นและสะสมคราบสกปรกได้ง่ายขึ้น

5. การบำรุงรักษาเพื่อยืดอายุการใช้งาน

นอกจากการทำความสะอาดและป้องกันรอยขีดข่วนแล้ว ควรทำการตรวจสอบพื้นไวนิลอย่างสม่ำเสมอ หากพบรอยขีดข่วนเล็ก ๆ หรือความเสียหาย ควรรีบทำการซ่อมแซมหรือขัดลบรอยเพื่อป้องกันไม่ให้ลุกลาม นอกจากนี้ การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงรักษาพื้นไวนิลที่มีสารช่วยเคลือบพื้น จะช่วยเพิ่มความทนทานและรักษาความเงางามของพื้นไว้ได้นาน

การใช้สเปรย์โฟมอุดรอยรั่วเพื่อรักษาพื้นไวนิล

การรักษาความสมบูรณ์ของพื้นไวนิลเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้พื้นดูสวยงามและใช้งานได้นาน หากพบรอยรั่วหรือช่องว่างบนพื้นไวนิล การใช้ 10 ยี่ห้อสเปรย์โฟมอุดรอยรั่ว เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น สเปรย์โฟมนี้สามารถช่วยอุดรอยรั่วและช่องว่างที่เกิดจากการติดตั้งที่ไม่สมบูรณ์หรือการเคลื่อนย้ายเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งอาจทำให้ความชื้นแทรกซึมเข้าสู่พื้นไวนิลและทำให้เกิดความเสียหายได้

การใช้งานสเปรย์โฟมอุดรอยรั่วง่ายดายและรวดเร็ว เพียงฉีดโฟมเข้าไปในรอยรั่วหรือช่องว่างที่ต้องการอุด ทิ้งไว้ให้โฟมขยายตัวและแข็งตัว จากนั้นทำการขัดหรือปาดให้เรียบเพื่อให้พื้นผิวกลับมาเหมือนเดิม นอกจากนี้ การใช้สเปรย์โฟมยังช่วยป้องกันไม่ให้สิ่งสกปรกหรือฝุ่นละอองเข้าไปสะสมในรอยรั่ว ทำให้พื้นไวนิลของคุณคงความสวยงามและสะอาดตลอดเวลา.

ข้อดีและข้อเสียของพื้นไวนิล ทำไมถึงเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับบ้านยุคใหม่?

397-ข้อดีและข้อเสียของพื้นไวนิล ทำไมถึงเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับบ้านยุคใหม่_

พื้นไวนิลเป็นหนึ่งในวัสดุปูพื้นที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ด้วยคุณสมบัติที่หลากหลายและความสามารถในการตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้งานในยุคปัจจุบัน แต่เช่นเดียวกับวัสดุทุกประเภท พื้นไวนิลก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจเลือกใช้ ในบทความนี้ เราจะสำรวจถึงข้อดีและข้อเสียของพื้นไวนิล เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจได้อย่างมั่นใจว่านี่คือวัสดุที่เหมาะสมสำหรับบ้านของคุณหรือไม่

ข้อดีของพื้นไวนิล

1. ความทนทานและการใช้งานระยะยาว

พื้นไวนิลมีความทนทานสูง สามารถรับน้ำหนักและแรงกดได้ดี ไม่เกิดรอยขีดข่วนง่าย และยังสามารถทนต่อการสึกหรอจากการใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังทนทานต่อน้ำและความชื้น ทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับพื้นที่เช่นห้องน้ำหรือห้องครัว

2. ความยืดหยุ่นและความนุ่มนวล

พื้นไวนิลมีความยืดหยุ่นสูง ทำให้เดินแล้วรู้สึกนุ่มสบาย ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ดีสำหรับบ้านที่มีเด็กหรือผู้สูงอายุ นอกจากนี้ความยืดหยุ่นของพื้นไวนิลยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดรอยขีดข่วนหรือรอยบุบจากการตกของวัตถุหนัก

3. ความหลากหลายของลวดลายและสีสัน

พื้นไวนิลมีลวดลายและสีสันให้เลือกหลากหลาย ตั้งแต่ลายไม้ ลายหิน จนถึงลวดลายโมเดิร์น ทำให้คุณสามารถเลือกใช้ได้ตามสไตล์การตกแต่งภายในของบ้าน นอกจากนี้ พื้นไวนิลยังสามารถเลียนแบบวัสดุธรรมชาติได้อย่างสมจริง ในราคาที่ประหยัดกว่า

4. ติดตั้งง่ายและรวดเร็ว

การติดตั้งพื้นไวนิลไม่ยุ่งยากและไม่ต้องใช้เวลาในการติดตั้งนาน พื้นไวนิลบางประเภทสามารถติดตั้งด้วยตัวเองได้ โดยไม่ต้องพึ่งพาช่างมืออาชีพ ทำให้เป็นตัวเลือกที่สะดวกและประหยัดค่าใช้จ่าย

5. การดูแลรักษาง่าย

พื้นไวนิลมีความง่ายในการดูแลรักษา การทำความสะอาดพื้นไวนิลสามารถทำได้ง่ายด้วยการกวาด ดูดฝุ่น หรือถูด้วยผ้าชุบน้ำหมาด ๆ ไม่ต้องใช้สารเคมีหรือวิธีการทำความสะอาดที่ซับซ้อน ทำให้ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการดูแล

ข้อเสียของพื้นไวนิล

1. ความอ่อนไหวต่อความร้อน

แม้ว่าพื้นไวนิลจะทนทานต่อน้ำและความชื้นได้ดี แต่กลับมีความอ่อนไหวต่อความร้อนสูง หากสัมผัสกับความร้อนหรือแสงแดดจัดเป็นเวลานาน พื้นไวนิลอาจเกิดการบวม หรือเปลี่ยนรูปทรงได้ จึงไม่เหมาะสำหรับการติดตั้งในพื้นที่ที่ต้องเผชิญกับแสงแดดตรงหรือความร้อนสูง

2. ความยากในการซ่อมแซม

หากพื้นไวนิลเกิดความเสียหาย เช่น รอยขีดข่วนลึก หรือการฉีกขาด การซ่อมแซมอาจเป็นเรื่องยากและไม่สามารถทำให้กลับมาเหมือนเดิมได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งต่างจากวัสดุอื่น ๆ เช่น พื้นไม้ ที่สามารถขัดและเคลือบใหม่ได้

3. อายุการใช้งาน

แม้ว่าพื้นไวนิลจะมีความทนทาน แต่ก็มีอายุการใช้งานที่จำกัด หากใช้งานมาเป็นเวลานาน สีและลวดลายอาจซีดจาง หรือพื้นอาจเริ่มเสื่อมสภาพได้ ทำให้ต้องมีการเปลี่ยนใหม่เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม

4. ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

พื้นไวนิลผลิตจากวัสดุสังเคราะห์ ซึ่งในกระบวนการผลิตอาจมีการปล่อยสารเคมีที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้เมื่อหมดอายุการใช้งาน การกำจัดพื้นไวนิลก็เป็นเรื่องที่ท้าทาย เพราะวัสดุนี้ย่อยสลายได้ยากและไม่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้อย่างเต็มที่

สรุปได้ว่า การเลือก พื้นไวนิล ยี่ห้อไหนดี สำหรับบ้านของคุณเป็นการตัดสินใจที่ต้องพิจารณาหลายปัจจัย ทั้งความทนทาน ความสวยงาม และความเหมาะสมในการใช้งานในแต่ละพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นพื้นไวนิลแบบหนาหรือบาง ต่างก็มีข้อดีและข้อเสียที่คุณควรรู้ การเลือกวัสดุที่เหมาะสมจะช่วยเพิ่มความคุ้มค่าและความพึงพอใจในระยะยาว หากคุณพิจารณาอย่างรอบคอบและเลือกใช้พื้นไวนิลที่ตอบโจทย์การใช้งานของคุณมากที่สุด ไม่เพียงแต่จะทำให้บ้านของคุณดูสวยงามและมีสไตล์ แต่ยังช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าพื้นที่นี้จะคงทนและใช้งานได้อย่างยาวนานอีกด้วย

คำถามที่พบบ่อย

1. พื้นไวนิลแบบหนาและแบบบางต่างกันอย่างไร?

พื้นไวนิลแบบหนามีความหนาประมาณ 4-6 มิลลิเมตร หรือมากกว่า ซึ่งให้ความทนทานสูงกว่า รองรับน้ำหนักและแรงกดได้ดี เหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีการใช้งานหนัก เช่น ห้องนั่งเล่นหรือห้องครัว ในขณะที่พื้นไวนิลแบบบางมีความหนาประมาณ 2-3 มิลลิเมตร เหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีการใช้งานน้อย เช่น ห้องเก็บของ หรือพื้นที่ที่ไม่ต้องรับน้ำหนักมาก

2. พื้นไวนิลเหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่ที่มีความชื้นสูงหรือไม่?

พื้นไวนิลมีความทนทานต่อน้ำและความชื้นได้ดี จึงเหมาะสำหรับใช้งานในพื้นที่ที่มีความชื้นสูง เช่น ห้องน้ำหรือห้องครัว อย่างไรก็ตาม ควรดูแลรักษาโดยการทำความสะอาดน้ำที่หกลงบนพื้นทันที เพื่อป้องกันการสะสมของความชื้นที่อาจทำให้พื้นเกิดความเสียหาย

3. พื้นไวนิลติดตั้งง่ายหรือไม่ และสามารถติดตั้งเองได้หรือเปล่า?

พื้นไวนิลเป็นวัสดุที่ติดตั้งได้ง่ายและรวดเร็ว บางประเภทสามารถติดตั้งได้ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องพึ่งพาช่างมืออาชีพ จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายในการติดตั้ง อย่างไรก็ตาม ควรศึกษาขั้นตอนและวิธีการติดตั้งอย่างละเอียดก่อนลงมือทำ

4. พื้นไวนิลมีอายุการใช้งานนานแค่ไหน?

แม้ว่าพื้นไวนิลจะมีความทนทานสูง แต่ก็มีอายุการใช้งานที่จำกัด โดยทั่วไปอาจใช้งานได้หลายปีขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาและการใช้งาน อย่างไรก็ตาม เมื่อใช้งานมานาน สีและลวดลายอาจซีดจางหรือพื้นอาจเสื่อมสภาพ ซึ่งทำให้ต้องพิจารณาเปลี่ยนใหม่เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม

Scroll to Top