10 อันดับ เลื่อยซักไร้สาย ยี่ห้อไหนดี แรงดันไฟฟ้าสูง ตัดวัสดุได้หลากหลาย

390-Cover-เลื่อยชักไร้สาย

เมื่อคุณต้องการตัดงานช่างใหญ่ ๆ ให้รวดเร็บและฉับไว เลื่อยชักไร้สายเป็นอุปกรณ์ช่างที่มีความสำคัญและหลากหลายในการใช้งาน ถูกออกแบบมาเพื่อให้สามารถตัดวัสดุต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นไม้, โลหะ, หรือพลาสติก ด้วยการเคลื่อนที่ของใบเลื่อยในลักษณะชักไปมา ทำให้เลื่อยประเภทนี้เป็นเครื่องมือที่เหมาะสมสำหรับช่างมืออาชีพและผู้ที่ต้องการทำงานช่างด้วยตัวเองที่บ้าน โดยงานช่างที่เหมาะกับการใช้งาน เช่น การตัดชิ้นส่วนไม้สำหรับงานก่อสร้าง การตัดท่อโลหะในการติดตั้งระบบท่อน้ำ หรือแม้กระทั่งการตัดวัสดุในพื้นที่จำกัดที่เลื่อยขนาดใหญ่ไม่สามารถเข้าถึงได้

เมื่อพูดถึงการเลือกเลื่อยชักไร้สาย สิ่งที่ควรพิจารณาเป็นอันดับแรกคือกำลังมอเตอร์ ความทนทานของแบตเตอรี่ และความสะดวกในการใช้งาน เลื่อยที่มาพร้อมกับมอเตอร์คุณภาพสูงจะช่วยให้การตัดเป็นไปอย่างราบรื่นและต่อเนื่อง ขณะที่แบตเตอรี่ที่มีความจุสูงจะช่วยให้ทำงานได้นานขึ้นโดยไม่ต้องหยุดชาร์จบ่อยๆ การออกแบบที่กระทัดรัดและจับถนัดมือยังช่วยให้ทำงานได้สะดวกในพื้นที่ที่เข้าถึงยาก เพื่อให้คุณสามารถเลือกเลื่อยชักไร้สายที่ตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างแท้จริง บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจ 10 รุ่นเลื่อยชักไร้สายที่โดดเด่นในตลาดขณะนี้ ซึ่งแต่ละรุ่นถูกคัดสรรมาโดยพิจารณาจากประสิทธิภาพ แรงดันไฟฟ้า คุณภาพวัสดุ และความสามารถในการตัดวัสดุต่าง ๆ บทความนี้จึงเป็นคู่มือที่จะช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกเครื่องมือที่เหมาะสมกับงานของคุณได้อย่างมั่นใจ

หลักเกณฑ์ที่ใช้ในการจัดอันดับสินค้า

  1. แรงดันไฟฟ้า : เราพิจารณาแรงดันไฟฟ้าที่เลื่อยชักไร้สายสามารถรองรับได้ เพราะแรงดันไฟฟ้าที่สูงกว่าจะช่วยให้เครื่องมือทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อต้องตัดวัสดุที่แข็งแรง เช่น ไม้หนาหรือโลหะ การเลือกเลื่อยที่มีแรงดันไฟฟ้าที่เหมาะสมจะทำให้การใช้งานเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ
  2. การใช้งานกับงานประเภทไม้ : เราให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพของเลื่อยชักไร้สายในการตัดไม้ ไม่ว่าจะเป็นไม้แข็งหรือไม้อ่อน เราพิจารณาความสามารถในการตัดที่รวดเร็วและแม่นยำ รวมถึงความสะดวกในการใช้งาน เช่น ความสะดวกในการจับเครื่องมือ และน้ำหนักของเครื่องที่ไม่หนักเกินไป
  3. การใช้งานกับงานประเภทโลหะ : สำหรับผู้ที่ต้องการใช้เลื่อยชักไร้สายในการตัดโลหะ เราจะพิจารณาความสามารถของเลื่อยในการตัดโลหะที่มีความแข็งแรง ความคมของใบเลื่อย และการใช้งานที่สะดวกและปลอดภัย เพื่อให้แน่ใจว่าเลื่อยสามารถตอบสนองต่อความต้องการในการตัดโลหะได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  4. การใช้งานกับงานประเภทพลาสติก : เราให้ความสำคัญกับเลื่อยชักไร้สายที่สามารถตัดพลาสติกได้ดี โดยพิจารณาจากความสะอาดของรอยตัด ความแม่นยำ และการป้องกันการลื่นของใบเลื่อยเมื่อตัดพลาสติก ซึ่งเป็นวัสดุที่ต้องการการตัดที่ละเอียดและมีความปลอดภัย
  5. วัสดุที่ใช้ในการผลิต : เราพิจารณาวัสดุที่ใช้ในการผลิตสินค้า รวมถึงความทนทานของตัวเครื่อง ความแข็งแรงของใบเลื่อย และการออกแบบที่เหมาะสมกับการใช้งานจริง เพื่อให้มั่นใจว่าเลื่อยชักไร้สายที่ได้รับการคัดเลือกนั้นมีคุณภาพสูงและคุ้มค่าต่อการลงทุน

1.Total TRSLI1152

1-Total-TRSLI1152

เลื่อยชักไร้สายจากแบรนด์ Total รุ่น TRSLI1152 ความเร็วรอบ 2800 ครั้งต่อนาที มีความทนทานและประสิทธิภาพสูงในการตัดวัสดุหลายชนิด พร้อมแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานและการออกแบบที่เหมาะสมกับการใช้งานจริง

ความยาวช่วงชัก115 มม.
ความจุแบตเตอรี่1.5 Ah
แรงดันไฟฟ้า20 โวลต์
เหมาะสำหรับลักษณะการตัดประเภทไม้, เหล็ก
ความเร็วช่วงชักต่อนาที (SPM)2800

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

Total รุ่น TRSLI1152 เป็นเครื่องมือที่ออกแบบมาเพื่อรองรับงานหนัก ด้วยมอเตอร์ที่มีความทนทานและแรงขับที่สม่ำเสมอ ตลอดการใช้งาน ตัวเครื่องมาพร้อมกับแบตเตอรี่ความจุ 4 แอมป์ และแท่นชาร์จ ซึ่งช่วยให้สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องและมีความทนทาน เลื่อยชักรุ่นนี้สามารถตัดเหล็กได้ที่ขนาดสูงสุด 8 มม. และตัดไม้ที่ขนาดสูงสุด 115 มม. ด้วยความเร็วรอบต่อนาทีอยู่ที่ 2800 ครั้ง ใช้กำลังไฟ 20 โวลต์

นอกจากนี้ ตัวเครื่องยังมีการออกแบบที่ทันสมัยและเหมาะสมสำหรับการใช้งานด้วยมือเดียว ขนาดที่เหมาะสมกับการใช้งานของผู้หญิง จึงทำให้เครื่องมือนี้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการเครื่องมือที่ใช้งานง่ายและมีประสิทธิภาพสูง ยังสามารถใช้ร่วมกับแบตเตอรี่ Total 20 โวลต์ (P20) ทั้งแบบ 1.5 แอมป์, 2 แอมป์ และ 4 แอมป์ ทำให้สามารถปรับเปลี่ยนแบตเตอรี่ตามความต้องการในการใช้งานได้ สินค้านี้ยังมีการรับประกันนานถึง 12 เดือน ซึ่งเพิ่มความมั่นใจในการใช้งานในระยะยาว

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?

เลื่อยชักไร้สาย Total รุ่น TRSLI1152 เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการเครื่องมือที่มีความทนทานและมีประสิทธิภาพในการตัดวัสดุต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเหล็กหรือไม้ ด้วยมอเตอร์ที่มีแรงขับสูงและการออกแบบที่ทันสมัย ทำให้เครื่องมือนี้เหมาะสำหรับการใช้งานหนักและต่อเนื่อง แบตเตอรี่ที่มีความจุ 4 แอมป์ และความเร็วรอบ 2800 ครั้งต่อนาทีช่วยให้การตัดเป็นไปอย่างราบรื่นและรวดเร็ว นอกจากนี้ ตัวเครื่องยังออกแบบให้มีขนาดเหมาะมือ ใช้งานง่าย และมีการรับประกันสินค้านานถึง 12 เดือน

2.DELTON SB-99MKT

2-DELTON-SB-99MKT

เลื่อยชักคอตรง รุ่น SB-99MKT จากแบรนด์ DELTON เหมาะสำหรับงานหนัก รองรับการใช้งานในพื้นที่แคบ และมาพร้อมระบบ Easy Lock และฟังก์ชันความปลอดภัยที่ครบครัน

ความยาวช่วงชัก25 มม.
ความจุแบตเตอรี่6 Ah
แรงดันไฟฟ้า199 โวลต์
เหมาะสำหรับลักษณะการตัดประเภทไม้, เหล็ก, พลาสติก
ความเร็วช่วงชักต่อนาที (SPM)3,300

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

เลื่อยชักคอตรง DELTON รุ่น SB-99MKT เป็นเลื่อยอเนกประสงค์ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับงานหนัก โดยสามารถใช้งานในพื้นที่แคบทั้งแนวราบและแนวตั้งได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีความยาวช่วงชัก 25 มิลลิเมตร ซึ่งสามารถตัดไม้ได้ที่ความหนาสูงสุด 200 มิลลิเมตร ตัดเหล็กที่ความหนาสูงสุด 8 มิลลิเมตร และตัดพลาสติกหรือ PVC ได้ที่ความหนาสูงสุด 100 มิลลิเมตร เลื่อยรุ่นนี้ยังมีความเร็วรอบ 0-3,300 รอบต่อนาที ช่วยให้การตัดเป็นไปอย่างราบรื่น เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการเครื่องมือที่สามารถรองรับงานหนักและมีฟังก์ชันครบครัน พร้อมการใช้งานที่สะดวกสบายในทุกสภาพแวดล้อม

รุ่น SB-99MKT นี้มาพร้อมกับระบบ Easy Lock ที่ทำให้การเปลี่ยนใบเลื่อยเป็นเรื่องง่าย ไม่ต้องใช้เครื่องมือหกเหลี่ยม อีกทั้งยังมีปุ่มเซฟตี้ล็อกที่ต้องกดปลดล็อกก่อนเครื่องจะทำงาน เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน ตัวเครื่องยังมีไฟ LED สำหรับแสดงสถานะแบตเตอรี่ เพิ่มความสะดวกในการใช้งาน โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมที่มีแสงน้อย ในชุดประกอบด้วยใบเลื่อยตัดไม้ 3 ใบ ใบเลื่อยตัดเหล็ก 1 ใบ และกระเป๋าเก็บอุปกรณ์กันกระแทก ช่วยให้พกพาและจัดเก็บเครื่องมือได้ง่าย ตัวเครื่องรองรับการใช้งานร่วมกับแบตเตอรี่ DELTON ในกลุ่ม MK-Series ทั้งแบบ 199V 6.0Ah และ 199V 12.0Ah ทำให้สามารถเลือกใช้แบตเตอรี่ตามความต้องการและระยะเวลาในการใช้งาน

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?

เลื่อยชักคอตรง DELTON รุ่น SB-99MKT เป็นเครื่องมือที่สามารถรองรับงานหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยระบบ Easy Lock ที่ช่วยให้การเปลี่ยนใบเลื่อยเป็นไปอย่างง่ายดายโดยไม่ต้องใช้เครื่องมือพิเศษ เพิ่มความสะดวกในการใช้งาน นอกจากนี้ยังมีปุ่มเซฟตี้ล็อกเพื่อความปลอดภัย และไฟ LED สำหรับแสดงสถานะแบตเตอรี่ ซึ่งทำให้เหมาะกับการใช้งานในพื้นที่แคบหรือสภาพแวดล้อมที่มีแสงน้อย ชุดอุปกรณ์ยังมาพร้อมกับใบเลื่อยที่หลากหลายและกระเป๋าเก็บอุปกรณ์กันกระแทก ทำให้สะดวกต่อการพกพาและจัดเก็บ โดยรวมแล้ว เลื่อยรุ่นนี้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ที่มองหาเครื่องมือที่ทนทาน ใช้งานง่าย และปลอดภัย

3.ENZO 95V

3-ENZO-95V

เลื่อยชักไร้สาย ENZO รุ่น 95V ใช้งานง่ายในทุกพื้นที่ ด้วยความเร็วรอบสูงสุด 4,500 ครั้งต่อนาที รองรับการตัดวัสดุหลากหลาย พร้อมฟังก์ชันเซฟตี้ล็อกเพื่อความปลอดภัย

ความยาวช่วงชัก14.5 มม.
ความจุแบตเตอรี่5.0 AH
แรงดันไฟฟ้า95 โวลต์
เหมาะสำหรับลักษณะการตัดประเภทไม้, เหล็ก, พลาสติก
ความเร็วช่วงชักต่อนาที (SPM)4500

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

ENZO รุ่น 95V ออกแบบมาให้ใช้งานสะดวกในทุกพื้นที่ โดยไม่ต้องพึ่งพาสายไฟ ตัวเครื่องมาพร้อมแบตเตอรี่ li-ion จำนวน 2 ก้อน ซึ่งช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้งานระยะยาว โดยความเร็วรอบสูงสุดของเครื่องอยู่ที่ 4,500 ครั้งต่อนาที และมีระยะช่วงชัก 14.5 มิลลิเมตร ทำให้สามารถรองรับงานตัดได้หลากหลาย ทั้งไม้ เหล็ก พลาสติก และแม้กระทั่งเนื้อแช่แข็ง เลื่อยรุ่นนี้ถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้ดีในพื้นที่แคบ และมีฟังก์ชันปุ่มเซฟตี้ล็อกที่ต้องกดปลดล็อกก่อนใช้งานทุกครั้ง เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งาน ชุดอุปกรณ์ยังมาพร้อมกับใบเลื่อย 4 ใบ สำหรับการตัดไม้และเหล็ก ทำให้สามารถเลือกใช้ตามความเหมาะสมของวัสดุที่ต้องการตัด

นอกจากนี้ เลื่อยรุ่น 95V ยังมาพร้อมการรับประกันมอเตอร์นาน 3 เดือน และการรับประกันแบตเตอรี่นาน 1 เดือน ซึ่งเพิ่มความมั่นใจในการใช้งาน ตัวเครื่องสามารถตัดไม้และ PVC ได้ที่ความหนาสูงสุด 15 เซนติเมตร และยังสามารถใช้งานได้ในพื้นที่ที่ยากต่อการเข้าถึง ทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการเครื่องมือที่มีความคล่องตัวและสามารถใช้งานได้ในหลายสถานการณ์ สะดวกสบายในการทำงานตัดวัสดุต่าง ๆ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องสายไฟ และมาพร้อมฟังก์ชันความปลอดภัยที่ครบครัน

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?

เลื่อยชักไร้สาย ENZO รุ่น 95V เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเครื่องมือที่มีความคล่องตัวและสะดวกในการใช้งาน ด้วยความสามารถในการทำงานได้ในทุกพื้นที่โดยไม่ต้องพึ่งพาสายไฟ ความเร็วรอบสูงสุดที่ 4,500 ครั้งต่อนาที และระยะช่วงชัก 14.5 มิลลิเมตร ทำให้เลื่อยนี้สามารถตัดวัสดุหลากหลายชนิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นไม้ เหล็ก พลาสติก หรือเนื้อแช่แข็ง นอกจากนี้ ตัวเครื่องยังมาพร้อมกับใบเลื่อย 4 ใบ ที่สามารถเปลี่ยนใช้ตามความเหมาะสมของงานตัด และมีฟังก์ชันเซฟตี้ล็อกเพื่อความปลอดภัยในระหว่างการใช้งาน แบตเตอรี่ li-ion จำนวน 2 ก้อน ที่มาพร้อมกับตัวเครื่องยังช่วยเพิ่มระยะเวลาในการทำงานโดยไม่ต้องหยุดชาร์จบ่อยครั้ง

4.Milwaukee รุ่น M18 FHZ-0

5-MAKITA-DJR188

แบรนด์ Milwaukee รุ่น M18 FHZ-0 มีความแม่นยำและประสิทธิภาพสูง ปรับองศาได้ พร้อมฟังก์ชันลดแรงสั่นสะเทือนและระบบป้องกันการโอเวอร์โหลด เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความคล่องตัวและความทนทาน

ความยาวช่วงชัก22 มม.
ความจุแบตเตอรี่6 Ah
แรงดันไฟฟ้า18 โวลต์
เหมาะสำหรับลักษณะการตัดประเภทไม้, เหล็ก
ความเร็วช่วงชักต่อนาที (SPM)3000

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

Milwaukee รุ่น M18 FHZ-0 อำนวยความสะดวกและความแม่นยำในการใช้งาน โดยสามารถควบคุมการเลื่อยได้ด้วยมือข้างเดียว ซึ่งเหมาะสำหรับการทำงานในพื้นที่จำกัด ด้วยน้ำหนักเพียง 2.6 กิโลกรัม ทำให้เลื่อยรุ่นนี้ใช้งานได้ง่ายและสะดวก นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันลดแรงสั่นสะเทือนที่ช่วยเพิ่มความแม่นยำในการตัด ความยาวช่วงชักของเลื่อยอยู่ที่ 22 มิลลิเมตร และสามารถปรับองศาได้ ทำให้การตัดชิ้นงานเป็นไปอย่างราบรื่นยิ่งขึ้น

เครื่องใช้มอเตอร์ไร้แปรงถ่าน POWERSTATE™ ซึ่งเพิ่มความเร็วและประสิทธิภาพในการตัด ช่วยให้การทำงานเป็นไปอย่างต่อเนื่อง โดยมีอัตราความเร็วขณะไม่มีโหลดที่ 0-3,000 รอบต่อนาที ตัวเครื่องยังมีระบบ REDLINK PLUS™ ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมระหว่างแบตเตอรี่และเครื่องมือ เพื่อป้องกันการโอเวอร์โหลด และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน REDLITHIUM™ M18™ ที่ใช้กับเครื่องมือรุ่นนี้มีความทนทานสูง และสามารถใช้งานร่วมกับเครื่องมือ Milwaukee รุ่นอื่น ๆ ได้มากกว่า 125 รุ่น นอกจากนี้ เลื่อยชักรุ่นนี้ยังมีฟังก์ชันการเปลี่ยนใบเลื่อยแบบไม่ต้องใช้กุญแจด้วยระบบ FIXTEC™ และมีไฟ LED สำหรับใช้งานในที่มืดหรือแสงน้อย ตัวเครื่องยังมาพร้อมกับตะขอแขวนเพื่อความสะดวกในการจัดเก็บและเพิ่มความปลอดภัยในพื้นที่ทำงาน

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?

เลื่อยชักไร้สาย Milwaukee รุ่น M18 FHZ-0 เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสูงและใช้งานได้ง่าย ด้วยการออกแบบที่สามารถควบคุมได้ด้วยมือข้างเดียว ทำให้เหมาะสำหรับการทำงานในพื้นที่จำกัด หรือการใช้งานในที่สูง นอกจากนี้ มอเตอร์ไร้แปรงถ่าน POWERSTATE™ ยังช่วยเพิ่มความเร็วและประสิทธิภาพในการตัด ส่วนฟังก์ชันลดแรงสั่นสะเทือนทำให้การตัดมีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น แบตเตอรี่ REDLITHIUM™ M18™ ที่ใช้ในเครื่องมือรุ่นนี้มีความทนทานสูง และสามารถใช้งานร่วมกับเครื่องมือ Milwaukee รุ่นอื่น ๆ ได้มากกว่า 125 รุ่น อีกทั้งยังมีระบบ REDLINK PLUS™ ที่ช่วยป้องกันการโอเวอร์โหลด และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องมือ เลื่อยรุ่นนี้ยังมีฟังก์ชันการเปลี่ยนใบเลื่อยแบบไม่ต้องใช้กุญแจ และไฟ LED ที่เพิ่มความสะดวกในการใช้งานในที่มืด

5.MAKITA DJR188

5-MAKITA-DJR188

MAKITA รุ่น DJR188Z ด้ามจับของเลื่อยยังออกแบบตามหลักสรีระศาสตร์ มีความแม่นยำ ทนทาน และปรับความเร็วได้ พร้อมฟังก์ชันป้องกันฝุ่นและน้ำ ทำให้ใช้งานได้หลากหลายสภาพแวดล้อม

ความยาวช่วงชัก20 มม.
ความจุแบตเตอรี่3AH
แรงดันไฟฟ้า18 โวลต์
เหมาะสำหรับลักษณะการตัดประเภทไม้, เหล็ก
ความเร็วช่วงชักต่อนาที (SPM)3300

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

MAKITA รุ่น DJR188Z เใช้งานที่ง่ายและสะดวก ด้วยความสามารถในการปรับความเร็วได้ 2 ระดับ ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกความเร็วที่เหมาะสมกับวัสดุที่ต้องการตัด ไม่ว่าจะเป็นไม้หรือเหล็ก นอกจากนี้ ด้ามจับของเลื่อยยังออกแบบตามหลักสรีระศาสตร์ ทำให้จับถนัดมือและลดความเมื่อยล้าระหว่างการใช้งาน โดยเฉพาะในพื้นที่แคบหรือที่ต้องการความแม่นยำสูง พร้อมกับฟังก์ชัน Extreme Protection Technology (XPT) ซึ่งช่วยป้องกันฝุ่นและน้ำ ทำให้สามารถใช้งานกลางแจ้งได้อย่างมั่นใจ แม้ในสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวย ระบบไฟ LED ที่ติดตั้งมาพร้อมกับเครื่อง ช่วยเพิ่มความสว่างในพื้นที่ที่มีแสงน้อย และยังมีปุ่มล็อกเพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งาน

เลื่อยรุ่นนี้มีความยาวช่วงชัก 20 มิลลิเมตร และความเร็วช่วงชักสูงสุดที่ 3,300 ครั้งต่อนาที ทำให้การตัดเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ เครื่องมือยังมีการยึดฐานเพื่อเสริมความแข็งแกร่ง มาพร้อมกับใบเลื่อยตัดไม้และใบเลื่อยตัดเหล็ก ที่สามารถเปลี่ยนได้ง่ายโดยไม่ต้องใช้เครื่องมือเพิ่มเติม น้ำหนักของเครื่องอยู่ที่ 2.6-2.9 กิโลกรัม ซึ่งยังคงอยู่ในระดับที่สามารถใช้งานได้สะดวก และยังรองรับแบตเตอรี่ MAKITA 18V รุ่น BL1815, BL1830, BL1850, และ BL1860 รวมถึงแท่นชาร์จรุ่น DC18SD, DC18RC, และ DC18RD ทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่มีแบตเตอรี่และแท่นชาร์จของ MAKITA อยู่แล้ว

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?

MAKITA รุ่น DJR188Z สามารถปรับความเร็วได้ 2 ระดับ ทำให้สามารถเลือกความเร็วที่เหมาะสมกับวัสดุที่ต้องการตัด ไม่ว่าจะเป็นไม้หรือเหล็ก ด้ามจับที่ออกแบบตามหลักสรีระศาสตร์ ช่วยให้การใช้งานในพื้นที่แคบหรือในสถานการณ์ที่ต้องการความแม่นยำสูงเป็นไปอย่างสะดวกสบาย นอกจากนี้ ยังมีเทคโนโลยี Extreme Protection Technology (XPT) ที่ป้องกันฝุ่นและน้ำ ทำให้สามารถใช้งานได้ในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย ระบบไฟ LED ช่วยเพิ่มความสว่างในการทำงานในพื้นที่ที่มีแสงน้อย พร้อมทั้งปุ่มล็อกเพื่อเพิ่มความปลอดภัย นอกจากนี้ยังสามารถเปลี่ยนใบเลื่อยได้ง่ายโดยไม่ต้องใช้เครื่องมือเพิ่มเติม

6.Dewalt DCS367B

6-Dewalt-DCS367B

Dewalt รุ่น DCS367B มีความทนทานสูงและใช้งานง่าย ด้วยระบบมอเตอร์ไร้แปรงถ่าน รองรับแบตเตอรี่หลากหลายแบบ และสามารถตัดวัสดุได้หลากหลายอย่างมีประสิทธิภาพ

ความยาวช่วงชัก16 มม.
ความจุแบตเตอรี่5 Ah
แรงดันไฟฟ้า18 โวลต์
เหมาะสำหรับลักษณะการตัดประเภทไม้, อะลูมิเนียม
ความเร็วช่วงชักต่อนาที (SPM)2800

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

เลื่อยชักไร้สาย Dewalt รุ่น DCS367B เป็นเครื่องมือที่ออกแบบมาเพื่อการตัดวัสดุหลากหลายประเภทอย่างมีประสิทธิภาพ ตัวเครื่องมาพร้อมระบบมอเตอร์ไร้แปรงถ่านที่ช่วยเพิ่มความทนทานและประสิทธิภาพในการทำงาน สามารถใช้งานได้กับแบตเตอรี่หลากหลายแบบ ทำให้การทำงานต่อเนื่องและยาวนานขึ้น โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการชาร์จแบตบ่อยๆ

เลื่อยรุ่นนี้สามารถตัดไม้ได้สูงสุด 90 มม. และตัดอะลูมิเนียมได้สูงสุด 40 มม. โดยมีระยะชักใบเลื่อยที่ 16 มม. และความเร็วรอบตัวเปล่าที่ 0-2,800 รอบต่อนาที ทำให้การตัดเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ตัวเครื่องยังออกแบบมาให้ใช้งานง่าย ด้วยฟังก์ชันการเปลี่ยนใบเลื่อยโดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์เพิ่มเติม และสามารถใช้ร่วมกับใบเลื่อยได้ทุกยี่ห้อ เพิ่มความสะดวกในการสับเปลี่ยนใบเลื่อยตามความเหมาะสมของงาน ยังมาพร้อมกับไฟ LED ที่ช่วยเพิ่มความสว่างในการทำงานในพื้นที่แสงน้อย และมีระบบการตัดและสวิตช์ล็อคเพื่อเพิ่มความสะดวกและความปลอดภัยในการใช้งาน นอกจากนี้ ตัวเครื่องยังมีน้ำหนักเพียง 1.43 กิโลกรัม ทำให้สามารถพกพาและใช้งานได้ง่ายในทุกสถานการณ์

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?

เลื่อยชักไร้สาย Dewalt รุ่น DCS367B เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพและความทนทานสูง ด้วยระบบมอเตอร์ไร้แปรงถ่านที่ช่วยเพิ่มความทนทานและลดการสึกหรอของเครื่องมือ ทำให้สามารถใช้งานได้ยาวนาน นอกจากนี้ เครื่องยังสามารถรองรับแบตเตอรี่ได้หลากหลายแบบ ซึ่งช่วยให้การทำงานต่อเนื่องโดยไม่ต้องหยุดชาร์จบ่อยๆ ความสามารถในการตัดไม้สูงสุด 90 มม. และตัดอะลูมิเนียมสูงสุด 40 มม. พร้อมระบบการเปลี่ยนใบเลื่อยที่ไม่ต้องใช้อุปกรณ์เพิ่มเติม ทำให้สะดวกและรวดเร็วในการเปลี่ยนใบเลื่อยตามความต้องการ อีกทั้งยังมีไฟ LED ที่ช่วยให้ทำงานในพื้นที่แสงน้อยได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยน้ำหนักเพียง 1.43 กิโลกรัม เลื่อยรุ่นนี้จึงง่ายต่อการพกพาและใช้งานในหลายสถานการณ์

7.JIAPU Cordless Reciprocating Saw

7-JIAPU-Cordless-Reciprocating-Saw

JIAPU น้ำหนักเบา มาพร้อมกับแบตเตอรี่ลิเธียมที่มีความจุถึง 8,500mAh ตัดได้หลากหลายวัสดุ มีความทนทานสูง และมาพร้อมใบเลื่อย 8 ใบ เพื่อการใช้งานที่หลากหลาย

ความยาวช่วงชัก29 มม.
ความจุแบตเตอรี่1.7 Ah
แรงดันไฟฟ้า10 โวลต์
เหมาะสำหรับลักษณะการตัดประเภทไม้, โลหะ, พลาสติก, เนื้อแช่แข็ง
ความเร็วช่วงชักต่อนาที (SPM)3600

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

JIAPU เครื่องมือที่มอบสะดวกและประสิทธิภาพในการตัดวัสดุหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นไม้ โลหะ ท่อพีวีซี หรือแม้กระทั่งเนื้อแช่แข็ง ตัวเครื่องมีน้ำหนักเบาเพียง 1.1 กิโลกรัม ทำให้พกพาและใช้งานได้ง่ายในทุกพื้นที่ รวมถึงสถานที่แคบและการทำงานเหนือศีรษะ นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับระบบมอเตอร์ทองแดงล้วน ที่ช่วยเพิ่มความทนทานและประสิทธิภาพในการตัด

มีความสามารถในการตัดไม้ได้สูงสุด 200 มิลลิเมตร ตัดโลหะได้สูงสุด 8 มิลลิเมตร และตัดพลาสติกได้สูงสุด 12 มิลลิเมตร ด้วยรอบความเร็วในการชักที่ 3,600 ครั้งต่อนาที ช่วยให้การตัดเป็นไปอย่างรวดเร็วและแม่นยำ หัวจับเลื่อยยังมีฟังก์ชันล็อกตัวเอง เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน และช่วยให้การตัดเป็นไปอย่างราบรื่น มาพร้อมกับแบตเตอรี่ลิเธียมที่มีความจุถึง 8,500mAh ซึ่งสามารถชาร์จเต็มได้ภายในเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง เพิ่มความสะดวกในการใช้งานต่อเนื่อง และสามารถรองรับงานตัดหลากหลายประเภททั้งในร่มและกลางแจ้ง นอกจากนี้ ตัวเครื่องยังมาพร้อมกับใบเลื่อยถึง 8 ใบ ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้งานตามประเภทของวัสดุที่ต้องการตัด

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?

เลื่อยชักไร้สาย JIAPU เป็นเครื่องมือที่มีความคล่องตัวและประสิทธิภาพสูง ด้วยน้ำหนักเบาเพียง 1.1 กิโลกรัม ทำให้พกพาและใช้งานได้ง่ายในทุกสถานที่ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่แคบหรือการทำงานเหนือศีรษะ นอกจากนี้ ระบบมอเตอร์ทองแดงล้วนยังช่วยเพิ่มความทนทานและความแม่นยำในการตัด วัสดุที่สามารถตัดได้ครอบคลุมทั้งไม้ โลหะ พลาสติก และเนื้อแช่แข็ง ด้วยความเร็วในการชักถึง 3,600 ครั้งต่อนาที อีกทั้งหัวจับเลื่อยยังมีฟังก์ชันล็อกตัวเองเพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งาน แบตเตอรี่ลิเธียมที่มีความจุสูงช่วยให้การทำงานต่อเนื่องโดยไม่ต้องหยุดชาร์จบ่อย นอกจากนี้ยังมาพร้อมใบเลื่อยถึง 8 ใบ ซึ่งเพิ่มความยืดหยุ่นในการตัดวัสดุต่าง ๆ ทำให้เลื่อยรุ่นนี้เหมาะสำหรับงานตัดหลากหลายประเภททั้งในร่มและกลางแจ้ง

8.Pumpkin INFINITY INF-20RSBL

8-Pumpkin-INFINITY-INF-20RSBL

Pumpkin INFINITY รุ่น INF-20RSBL มีความทนทาน น้ำหนักเบา ใช้งานง่ายในทุกพื้นที่ไม่ว่าจะพื้นที่แคบหรือเข้ายากขนาดไหนก็เอาอยู่ พร้อมฟังก์ชันที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความแม่นยำในการตัด

ความยาวช่วงชัก22 มม.
ความจุแบตเตอรี่2 Ah
แรงดันไฟฟ้า20 โวลต์
เหมาะสำหรับลักษณะการตัดประเภทไม้, เหล็ก, พลาสติก
ความเร็วช่วงชักต่อนาที (SPM)3200

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

Pumpkin INFINITY รุ่น INF-20RSBL มีความทนทานและการใช้งานที่ยาวนาน ด้วยมอเตอร์ไร้แปรงถ่านที่มีน้ำหนักเบาและมีพลังสูง ช่วยให้การทำงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ตัวเครื่องมาพร้อมกับปุ่ม Safety Lock ซึ่งช่วยป้องกันอุบัติเหตุจากการเปิดเครื่องโดยไม่ได้ตั้งใจ ด้ามจับถูกออกแบบเสริมยางกันลื่น ทำให้จับถนัดมือและช่วยลดแรงสั่นสะเทือนในระหว่างการใช้งาน

เครื่องมีฟังก์ชันหัวจับใบเลื่อยที่สามารถเปลี่ยนได้อย่างรวดเร็ว ช่วยเพิ่มความสะดวกในการสับเปลี่ยนใบเลื่อยตามความต้องการของงาน นอกจากนี้ ฐานของเลื่อยยังสามารถปรับระดับได้ ช่วยให้สัมผัสกับพื้นผิวการตัดได้ดีขึ้น เพิ่มความแม่นยำในการตัด เลื่อยชักไร้สายรุ่นนี้สามารถใช้งานได้ดีในพื้นที่แคบหรือที่เข้าถึงยาก ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย รองรับการใช้งานร่วมกับแบตเตอรี่ P20 และ E20 ทำให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกใช้แบตเตอรี่ที่เหมาะสมตามความต้องการและระยะเวลาการทำงาน ตัวเครื่องถูกออกแบบให้ใช้งานได้สะดวกและมีความปลอดภัยสูง พร้อมกับความทนทานที่เพิ่มขึ้นจากมอเตอร์ไร้แปรงถ่าน

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?

เลื่อยชักไร้สาย Pumpkin INFINITY รุ่น INF-20RSBL เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการเครื่องมือที่มีความทนทานและประสิทธิภาพสูง ด้วยมอเตอร์ไร้แปรงถ่านที่มีพลังสูงและน้ำหนักเบา ทำให้ใช้งานได้อย่างต่อเนื่องและยาวนาน อีกทั้งยังมีปุ่ม Safety Lock ที่ช่วยป้องกันอุบัติเหตุจากการเปิดเครื่องโดยไม่ได้ตั้งใจ ด้ามจับเสริมยางกันลื่นทำให้จับถนัดมือและลดแรงสั่นสะเทือน เพิ่มความสะดวกและความแม่นยำในการทำงาน นอกจากนี้ หัวจับใบเลื่อยที่เปลี่ยนได้เร็วและฐานที่ปรับได้ช่วยให้การตัดชิ้นงานเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ เลื่อยรุ่นนี้ยังสามารถใช้งานได้ดีในพื้นที่แคบหรือที่เข้าถึงยาก

9.QUEEN 199Vf

9-QUEEN-199Vf

QUEEN รุ่น 199Vf รองรับงานหนัก และสามารถใช้งานได้ในทุกพื้นที่ มีไฟ LED ช่วยเพิ่มความสว่างในระหว่างการทำงาน มีประสิทธิภาพสูง ทนทาน และมาพร้อมระบบเซฟตี้ล็อกเพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน

ความยาวช่วงชัก15 มม.
ความจุแบตเตอรี่2 Ah
แรงดันไฟฟ้า20 โวลต์
เหมาะสำหรับลักษณะการตัดประเภทไม้, เหล็ก, พลาสติก
ความเร็วช่วงชักต่อนาที (SPM)3600

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

เลื่อยชักไร้สายแบรนด์ QUEEN รุ่น 199Vf เป็นเครื่องมือที่ออกแบบมาเพื่อความสะดวกและปลอดภัยในการใช้งาน ตัวเครื่องมาพร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 2 ก้อน ซึ่งช่วยให้การทำงานต่อเนื่องได้ยาวนานโดยไม่ต้องหยุดชาร์จบ่อย นอกจากนี้ยังมีกระเป๋ากันกระแทกสำหรับเก็บอุปกรณ์ ช่วยให้พกพาและจัดเก็บได้ง่ายดาย คุณสมบัติที่ครบครันและการออกแบบที่เน้นความสะดวกและปลอดภัย

มีความเร็วรอบสูงสุดที่ 0-3,600 รอบต่อนาที พร้อมกับความยาวช่วงชัก 15 มิลลิเมตร ทำให้การตัดเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ เครื่องมีระบบเซฟตี้ล็อกที่ต้องกดปลดล็อกก่อนการใช้งาน เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและป้องกันการเปิดเครื่องโดยไม่ได้ตั้งใจ นอกจากนี้ยังมีไฟ LED ช่วยเพิ่มความสว่างในระหว่างการทำงาน โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีแสงน้อยหรือเข้าถึงยาก ตัวเครื่องได้รับการออกแบบให้ทนทาน รองรับงานหนัก และสามารถใช้งานได้ในทุกพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นแนวราบ แนวตั้ง หรือพื้นที่แคบ การเปลี่ยนใบเลื่อยก็ทำได้ง่ายด้วยระบบ Easy Lock ที่ไม่ต้องใช้เครื่องมือเพิ่มเติม ในชุดยังแถมใบเลื่อยตัดไม้ 3 ใบ และใบเลื่อยตัดเหล็ก 1 ใบ ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้งานตามประเภทวัสดุที่ต้องการตัด

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?

QUEEN รุ่น 199Vf เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูง ตัวเครื่องมาพร้อมกับแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 2 ก้อน ซึ่งช่วยให้การทำงานต่อเนื่องได้ยาวนาน โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการชาร์จแบตเตอรี่บ่อย ๆ ระบบเซฟตี้ล็อกที่ต้องกดปลดล็อกก่อนใช้งาน เพิ่มความปลอดภัยและป้องกันอุบัติเหตุจากการเปิดเครื่องโดยไม่ได้ตั้งใจ นอกจากนี้ ความเร็วรอบสูงสุดที่ 3,600 รอบต่อนาที และความยาวช่วงชัก 15 มิลลิเมตร ช่วยให้การตัดวัสดุต่าง ๆ เป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ตัวเครื่องยังได้รับการออกแบบให้ทนทาน สามารถใช้งานได้ดีในทุกพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่แคบหรือการทำงานในแนวราบและแนวตั้ง พร้อมกับไฟ LED

10.BOSCH GSA18V-LI SOLO

10-BOSCH-GSA18V-LI-SOLO

BOSCH รุ่น GSA18V-LI SOLO ออกแบบตามหลักสรีระศาสตร์ ช่วยให้จับได้กระชับมื ขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา ใช้งานคล่องตัว ลดแรงสั่นสะเทือน เหมาะสำหรับงานตัดวัสดุหลากหลายประเภท

ความยาวช่วงชัก14.5 มม.
ความจุแบตเตอรี่2.6 Ah
แรงดันไฟฟ้า12 โวลต์
เหมาะสำหรับลักษณะการตัดประเภทไม้, เหล็ก, พลาสติก
ความเร็วช่วงชักต่อนาที (SPM)3000

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

เลื่อยชักไร้สาย BOSCH รุ่น GSA18V-LI SOLO เครื่องมือที่ออกแบบมาให้มีขนาดเล็ก กะทัดรัด และน้ำหนักเบาเพียง 1.2 กิโลกรัม ทำให้พกพาสะดวกและใช้งานได้อย่างคล่องตัวในทุกพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นงานกลางแจ้งหรือพื้นที่คับแคบ ด้ามจับของเลื่อยออกแบบตามหลักสรีระศาสตร์ ช่วยให้จับได้กระชับมือ ลดแรงสั่นสะเทือน และเพิ่มความสบายในการใช้งาน สามารถใช้งานร่วมกับแบตเตอรี่ 12V ของ BOSCH ทำให้เหมาะสำหรับผู้ที่มีแบตเตอรี่รุ่นนี้อยู่แล้ว การใช้งานของเครื่องเป็นไปอย่างเงียบสงบ ด้วยระดับเสียงรบกวนที่ต่ำเพียง 70 dB(A) และมีการรับประกันความทนทานในการใช้งาน

มีสามารถปรับความเร็วในการชักได้ตามความเหมาะสมกับวัสดุที่ต้องการตัด โดยมีอัตราช่วงชักสูงสุดที่ 3,000 ครั้งต่อนาที ความลึกในการเลื่อยไม้ได้สูงสุด 65 มิลลิเมตร และเลื่อยโลหะได้ลึกสุด 50 มิลลิเมตร ช่วงชักใบเลื่อยยาว 14.5 มิลลิเมตร ซึ่งเหมาะสำหรับการตัดวัสดุที่หลากหลาย เช่น ไม้ โลหะ และพลาสติก นอกจากนี้ เลื่อยยังมีไฟแสดงสถานะแบตเตอรี่ ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบระดับพลังงานที่เหลืออยู่ได้ตลอดเวลาด้วยคุณสมบัติที่ครบครันและการออกแบบที่เน้นความสะดวกสบายและการใช้งานที่คล่องตัว เลื่อยชักไร้สาย BOSCH รุ่น GSA18V-LI SOLO จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเครื่องมือที่ใช้งานได้หลากหลายและมีประสิทธิภาพสูง

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?

เลื่อยชักไร้สาย BOSCH รุ่น GSA18V-LI SOLO เมรความคล่องตัวสูง ด้วยขนาดที่เล็ก กะทัดรัด และน้ำหนักเบาเพียง 1.2 กิโลกรัม ทำให้พกพาและใช้งานได้สะดวกในทุกพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นการทำงานในพื้นที่คับแคบหรืองานกลางแจ้ง ด้ามจับที่ออกแบบตามหลักสรีระศาสตร์ช่วยให้จับกระชับมือและลดแรงสั่นสะเทือน ทำให้การทำงานเป็นไปอย่างราบรื่น เลื่อยรุ่นนี้ยังสามารถปรับความเร็วในการชักได้ถึง 3,000 ครั้งต่อนาที ทำให้สามารถตัดวัสดุหลากหลายประเภทได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น ไม้ โลหะ และพลาสติก นอกจากนี้ยังมีไฟแสดงสถานะแบตเตอรี่ ช่วยให้ผู้ใช้งานตรวจสอบระดับพลังงานได้ง่ายและทำงานได้ต่อเนื่อง

ความสำคัญของแรงดันไฟฟ้าในการทำงานของเลื่อยชักไร้สาย

390-ความสำคัญของแรงดันไฟฟ้าในการทำงานของเลื่อยชักไร้สาย​

แรงดันไฟฟ้า เป็นตัวแปรสำคัญที่กำหนดความสามารถในการทำงานของเลื่อยชักไร้สายโดยตรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการทำงานที่ต้องการกำลังสูง เช่น การตัดผ่านวัสดุที่แข็งแรงหรือหนา แรงดันไฟฟ้าที่สูงจะช่วยเพิ่มพลังงานให้กับมอเตอร์ ทำให้เลื่อยสามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น สำหรับเลื่อยชักไร้สายที่มีแรงดันไฟฟ้า 18V หรือ 20V จะมีความสามารถในการตัดผ่านไม้เนื้อแข็งที่มีความหนา 2 นิ้ว หรือท่อโลหะที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 1/4 นิ้วได้อย่างราบรื่น ขณะที่เลื่อยที่มีแรงดันไฟฟ้าต่ำกว่า เช่น 12V อาจทำงานได้ช้าลง และอาจไม่สามารถรับมือกับงานที่ต้องใช้กำลังสูงได้ดีเท่ากับรุ่นที่มีแรงดันไฟฟ้าสูงกว่า

แรงดันไฟฟ้าที่สูงช่วยให้ตัดวัสดุที่แข็งแรงได้ง่ายขึ้น รวมถึงการทำงานที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

การใช้งานเลื่อยชักไร้สายในงานที่ต้องการความเร็วและความแม่นยำ แรงดันไฟฟ้าที่สูงเป็นปัจจัยสำคัญที่ไม่สามารถมองข้ามได้ ยิ่งแรงดันไฟฟ้าสูงเท่าไร การทำงานก็จะยิ่งมีประสิทธิภาพและเสถียรภาพมากขึ้น ตัวอย่างเช่น เลื่อยชักไร้สายที่มีแรงดันไฟฟ้า 20V สามารถตัดไม้เนื้อแข็งหนา 2 นิ้วได้ในเวลาเพียง 8-10 วินาที และตัดท่อเหล็กหนา 1/4 นิ้วได้ในเวลาน้อยกว่า 15 วินาที ขณะที่รุ่นที่มีแรงดันไฟฟ้าต่ำกว่าอาจต้องใช้เวลานานกว่า 20 วินาทีในการทำงานเดียวกัน ซึ่งการเลือกใช้เลื่อยที่มีแรงดันไฟฟ้าสูงจะช่วยลดโอกาสที่เครื่องจะสะดุดหรือหยุดทำงานกลางคัน ทำให้การตัดเป็นไปอย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ

การเลือกแรงดันไฟฟ้าที่เหมาะสมสำหรับงานตัดต่าง ๆ

การเลือกแรงดันไฟฟ้าที่เหมาะสมสำหรับงานตัดต่าง ๆ นั้น ควรพิจารณาจากชนิดของวัสดุที่ต้องการตัดเป็นหลัก:

  • งานตัดไม้: สำหรับการตัดไม้เนื้อแข็งหรือไม้อัดที่มีความหนามาก แนะนำให้ใช้เลื่อยชักไร้สายที่มีแรงดันไฟฟ้าอย่างน้อย 18V ขึ้นไป เพื่อให้สามารถตัดได้อย่างราบรื่นและรวดเร็ว สำหรับไม้เนื้ออ่อนหรือแผ่นไม้บาง แรงดันไฟฟ้า 12V หรือ 14.4V อาจเพียงพอ
  • งานตัดโลหะ: หากต้องการตัดท่อเหล็กหรือแผ่นโลหะที่มีความหนา ควรเลือกเลื่อยชักไร้สายที่มีแรงดันไฟฟ้า 20V หรือมากกว่า เพื่อให้การตัดเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยงที่ใบเลื่อยจะเกิดการสึกหรอหรือเครื่องมือจะเสียหายจากการทำงานหนัก
  • งานตัดพลาสติก: สำหรับการตัดพลาสติกที่มีความแข็งน้อย เลื่อยที่มีแรงดันไฟฟ้า 12V หรือ 14.4V จะเพียงพอ แต่ควรเลือกเครื่องที่มีฟีเจอร์การควบคุมความเร็วหรือระบบลดแรงสั่นสะเทือน เพื่อให้สามารถตัดพลาสติกได้อย่างแม่นยำและสะอาด

เราสรุปได้ว่า การเลือกแรงดันไฟฟ้าที่เหมาะสมกับงานที่ต้องการทำเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดจากเลื่อยชักไร้สาย ควรพิจารณาจากชนิดของวัสดุที่ต้องการตัดและประเภทของงานที่ต้องการทำ เพื่อให้การลงทุนในเครื่องมือเป็นไปอย่างคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพสูงสุด

การทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้าในเลื่อยชักไร้สาย

มอเตอร์ไฟฟ้าในเลื่อยชักไร้สาย เป็นหลักสำคัญที่ขับเคลื่อนการทำงานของเครื่องมือชนิดนี้ โดยมอเตอร์ไฟฟ้าจะทำหน้าที่เปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ให้กลายเป็นพลังงานกล ซึ่งพลังงานกลนี้จะถูกส่งผ่านระบบเกียร์ไปยังใบเลื่อย ทำให้ใบเลื่อยเคลื่อนที่กลับไปกลับมาในลักษณะชัก เพื่อทำการตัดวัสดุต่างๆ เช่น ไม้ เหล็ก หรือพลาสติก การทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้ายี่ห้อไหนดีในเลื่อยชักไร้สาย จะต้องมีความต่อเนื่องและเสถียร เพื่อให้ใบเลื่อยสามารถตัดได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ ความเร็วของใบเลื่อยที่ได้จากมอเตอร์มักจะอยู่ในช่วง 2,500-3,000 รอบต่อนาที (RPM) ซึ่งเพียงพอสำหรับการตัดวัสดุทั่วไป นอกจากนี้ การออกแบบมอเตอร์ให้มีขนาดกะทัดรัดแต่ทรงพลัง ยังช่วยให้เลื่อยชักไร้สายมีน้ำหนักเบาและใช้งานได้สะดวกขึ้น การใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนเป็นแหล่งพลังงานทำให้สามารถใช้งานได้ยาวนานและชาร์จใหม่ได้อย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม การใช้เลื่อยชักไร้สายยังต้องคำนึงถึงความปลอดภัย โดยเฉพาะการป้องกันดวงตาจากเศษวัสดุและฝุ่นละอองที่อาจกระเด็นเข้าตาในระหว่างการตัดวัสดุที่แข็งหรือแตกหักง่าย การสวมใส่แว่นตาเชื่อมเหล็กยี่ห้อไหนดี จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุและป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับดวงตาได้

พิจารณาเรื่องวัสดุที่ใช้ในการผลิตเลื่อย

390-พิจารณาเรื่องวัสดุที่ใช้ในการผลิตเลื่อย​

วัสดุที่ใช้ในการผลิตเลื่อยชักไร้สาย เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อความทนทานและความสามารถในการทำงานของเครื่องมือ สำหรับงานหนัก เช่น การตัดโลหะหรือไม้เนื้อแข็ง วัสดุที่แข็งแรงและทนทาน เช่น เหล็กกล้าหรืออะลูมิเนียมอัลลอยด์ เป็นวัสดุที่ควรพิจารณา เหล็กกล้ามีคุณสมบัติที่แข็งแรง ทนทานต่อแรงกระแทกและการสึกหรอ ทำให้ตัวเครื่องมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น ส่วนอะลูมิเนียมอัลลอยด์เป็นวัสดุที่มีน้ำหนักเบาแต่ยังคงความแข็งแรง ซึ่งช่วยลดน้ำหนักของเครื่องมือได้โดยไม่ลดทอนประสิทธิภาพ

  • เหล็กกล้า (Steel): มีความแข็งแรงสูง ทนทานต่อการสึกหรอ เหมาะสำหรับงานหนัก เช่น การตัดโลหะ
  • อะลูมิเนียมอัลลอยด์ (Aluminum Alloy): น้ำหนักเบา แต่ทนทาน ช่วยให้เลื่อยมีน้ำหนักเบาและใช้งานง่าย
  • ใบเลื่อยคุณภาพสูง: ควรเลือกใบเลื่อยที่ผลิตจากคาร์บอนสตีล (carbon steel) หรือไบเมทัล (bi-metal) ซึ่งสามารถตัดวัสดุแข็งแรงได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่สึกหรอง่าย

การเลือกเลื่อยที่ใช้วัสดุคุณภาพสูงแม้จะมีราคาสูงขึ้นเล็กน้อย แต่ก็ถือว่าคุ้มค่าในระยะยาว เพราะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมหรือเปลี่ยนเครื่องมือบ่อยๆ

ให้ความสำคัญกับการออกแบบที่เหมาะสม

การออกแบบของเลื่อยชักไร้สายมีผลโดยตรงต่อความสะดวกสบายในการใช้งาน โดยเฉพาะเมื่อต้องใช้เครื่องมือเป็นเวลานาน น้ำหนักของเลื่อยเป็นหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญ หากเลื่อยมีน้ำหนักมากเกินไป ผู้ใช้งานอาจรู้สึกเหนื่อยล้าได้ง่าย ทำให้การควบคุมเครื่องมือทำได้ยากขึ้น ควรเลือกเลื่อยที่มีน้ำหนักเบาประมาณ 2.5-3 กิโลกรัม เพื่อความสะดวกในการใช้งานและความแม่นยำในการตัด

  • น้ำหนัก (Weight): เลื่อยที่มีน้ำหนัก 2.5-3 กิโลกรัมเป็นน้ำหนักที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานที่ต้องใช้เวลานาน ช่วยลดความเหนื่อยล้าและเพิ่มความแม่นยำ
  • ด้ามจับ (Handle): ควรเลือกเลื่อยที่มีด้ามจับเป็นยางกันลื่น ช่วยให้การจับถือเครื่องมือมั่นคง ลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุ
  • ระบบลดแรงสั่นสะเทือน (Vibration Reduction): ระบบนี้ช่วยลดแรงสั่นสะเทือนขณะตัด ทำให้การใช้งานเลื่อยสะดวกสบายยิ่งขึ้น และลดความเมื่อยล้าของมือและแขน

ฟีเจอร์เสริมที่ควรพิจารณา

คุณสมบัติเสิมที่มาพร้อมกับเครื่อง สามารถทำให้การใช้งานสะดวกและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น หนึ่งในฟีเจอร์ที่มีความสำคัญคือระบบเปลี่ยนใบเลื่อยที่ง่ายดาย เช่น ระบบ quick-change ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเปลี่ยนใบเลื่อยได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องใช้เครื่องมือเสริม ทำให้ประหยัดเวลาในการทำงาน

  • ระบบเปลี่ยนใบเลื่อย (Blade Change System): ระบบ quick-change ช่วยให้การเปลี่ยนใบเลื่อยทำได้ภายในไม่กี่วินาที เพิ่มความสะดวกในการใช้งานและลดเวลาการหยุดทำงาน
  • ระบบป้องกันการลื่นของใบเลื่อย (Anti-Slip Mechanism): ฟีเจอร์นี้ช่วยลดความเสี่ยงที่ใบเลื่อยจะหลุดออกจากร่องขณะตัดวัสดุ ทำให้การตัดมีความปลอดภัยมากขึ้น
  • ระบบเก็บฝุ่น (Dust Collection System): ระบบนี้มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับการใช้งานในพื้นที่ที่มีฝุ่นมาก ช่วยให้พื้นที่ทำงานสะอาดขึ้น และป้องกันการสะสมของฝุ่นในเครื่องมือ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพของเลื่อย

วิธีการใช้งานยให้มีประสิทธิภาพสูงสุด รวมถึงการเลือกใช้ใบเลื่อยที่เหมาะสม

390-วิธีการใช้งานยให้มีประสิทธิภาพสูงสุด รวมถึงการเลือกใช้ใบเลื่อยที่เหมาะสม

การใช้งานเลื่อยชักไร้สายให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดนั้น เริ่มต้นจากการเลือกใช้ใบเลื่อยที่เหมาะสมกับวัสดุที่ต้องการตัด ใบเลื่อยที่ถูกออกแบบมาเฉพาะสำหรับวัสดุแต่ละประเภทจะช่วยให้การตัดเป็นไปอย่างราบรื่นและมีความแม่นยำมากขึ้น เช่น:

  • งานตัดไม้: ใช้ใบเลื่อยที่มีฟันละเอียด (10-14 TPI: Teeth Per Inch) สำหรับไม้เนื้ออ่อน และฟันหยาบ (6-8 TPI) สำหรับไม้เนื้อแข็งหรือไม้อัด เพื่อให้สามารถตัดได้เร็วและลดการสะสมของเศษไม้ระหว่างการตัด
  • งานตัดโลหะ: ควรใช้ใบเลื่อยที่มีฟันละเอียดมาก (18-24 TPI) เพื่อให้การตัดโลหะเป็นไปอย่างราบรื่น และลดโอกาสที่ฟันเลื่อยจะเกิดการแตกหักจากแรงกด
  • งานตัดพลาสติก: ใช้ใบเลื่อยที่มีฟันปานกลาง (10-12 TPI) ซึ่งจะช่วยลดการเกิดรอยขีดข่วนหรือการแตกหักของพลาสติกในระหว่างการตัด

นอกจากนี้ ควรใช้แรงกดที่เหมาะสมในการตัด โดยไม่กดแรงเกินไป เพราะอาจทำให้ใบเลื่อยเกิดการสึกหรอเร็วขึ้น และยังเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ การปรับความเร็วของเลื่อยให้เหมาะสมกับชนิดของวัสดุที่ตัดก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยให้การใช้งานมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

เคล็ดลับในการทำความสะอาดและบำรุงรักษา

คงไม่มีใครอยากซื้อเครื่องมือมาแล้วใช้งานได้แค่ชั่วคราว ดังนั้น การทำความสะอาดและบำรุงรักษาเลื่อยชักไร้สายอย่างสม่ำเสมอจะช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องมือและรักษาประสิทธิภาพ เราแนะนำว่าหลังการใช้งานควรทำตามขั้นตอนดังนี้:

  • ทำความสะอาดใบเลื่อย: ใช้แปรงลวดหรือผ้าเช็ดทำความสะอาดเศษวัสดุที่ติดอยู่บนใบเลื่อย เช่น เศษไม้ โลหะ หรือพลาสติก เพื่อป้องกันการสะสมของเศษวัสดุที่อาจทำให้ใบเลื่อยเกิดสนิมหรือสึกหรอเร็วขึ้น
  • ตรวจสอบมอเตอร์และระบบระบายอากาศ: ใช้ลมเป่าเพื่อขจัดฝุ่นละอองและเศษวัสดุที่อาจเข้าไปในมอเตอร์หรือระบบระบายอากาศ ซึ่งอาจทำให้เครื่องมือร้อนเกินไปและลดประสิทธิภาพการทำงาน
  • หยอดหล่อลื่น: หากเลื่อยมีจุดที่ต้องการการหล่อลื่น ควรหยอดน้ำมันหล่อลื่นตามที่คู่มือแนะนำเพื่อให้เครื่องมือทำงานได้อย่างราบรื่น และป้องกันการสึกหรอของชิ้นส่วนที่มีการเสียดสี

ควรเก็บเลื่อยในที่แห้งและสะอาด และหลีกเลี่ยงการเก็บเครื่องมือในที่ชื้นหรือมีฝุ่นมาก เพราะอาจทำให้เกิดการกัดกร่อนหรือความเสียหายต่ออุปกรณ์ได้

วิธีการตรวจสอบและเปลี่ยนใบเลื่อยที่สึกหรอ

ความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญที่ชางทุกคนควรคำนึงเป็นอันดับแรก อย่าลืมตรวจสอบและเปลี่ยนใบเลื่อยที่สึกหรอ ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมากในการใช้งานอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ใบเลื่อยที่มีความคมหรือมีสภาพที่ดีจะช่วยให้การตัดเป็นไปอย่างราบรื่น และลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ

  • ตรวจสอบใบเลื่อยก่อนใช้งาน: ตรวจสอบฟันใบเลื่อยว่ามีการแตกหักหรือสึกหรอหรือไม่ หากพบว่าฟันใบเลื่อยเริ่มมีลักษณะโค้งงอหรือสูญเสียความคม ควรพิจารณาเปลี่ยนใบเลื่อยใหม่
  • การเปลี่ยนใบเลื่อย: สำหรับเลื่อยที่มีระบบเปลี่ยนใบเลื่อยแบบ quick-change สามารถเปลี่ยนใบเลื่อยได้ในไม่กี่วินาที โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือเสริม ในกรณีที่ใช้เลื่อยที่ต้องใช้เครื่องมือในการเปลี่ยนใบ ควรทำตามคำแนะนำในคู่มือผู้ใช้เพื่อความปลอดภัย
  • ทดสอบใบเลื่อยใหม่: หลังจากเปลี่ยนใบเลื่อยใหม่ ควรทำการทดสอบตัดวัสดุที่ไม่สำคัญเพื่อดูว่าใบเลื่อยทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและมั่นคงหรือไม่

การตรวจสอบและเปลี่ยนใบเลื่อยอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้การตัดเป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัย ทั้งยังช่วยยืดอายุการใช้งานของเลื่อยชักไร้สายอีกด้วย

เมื่อถึงจุดสรุป เราคงเห็นแล้วว่าการเลือกเลื่อยชักไร้สายที่มีแรงดันไฟฟ้าสูงและวัสดุที่มีคุณภาพดีเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เลื่อยที่เหมาะสมไม่เพียงแต่จะช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพสูงสุด แต่ยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยและยืดอายุการใช้งานของเครื่องมืออีกด้วย ผู้อ่านจะได้รับข้อมูลที่ครบถ้วนเพื่อใช้ในการตัดสินใจเลือกเลื่อยชักไร้สายที่ตรงกับความต้องการและลักษณะงานของตนเอง

นอกจากนี้ ขอเชิญชวนให้ผู้อ่านนำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการเลือกซื้อเลื่อยใหม่ หรือการบำรุงรักษาเครื่องมือที่มีอยู่แล้ว หากมีความคิดเห็นหรือประสบการณ์การใช้งานเลื่อยชักไร้สายใด ๆ สามารถแชร์ได้ในช่องคอมเมนต์หรือผ่านทางโซเชียลมีเดีย เพื่อแบ่งปันความรู้และข้อแนะนำกับผู้อ่านท่านอื่น ๆ สุดท้ายนี้ อย่าลืมติดตามบทความและรีวิวสินค้าอื่น ๆ ที่จะช่วยเพิ่มความมั่นใจในการตัดสินใจซื้ออุปกรณ์ที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานในอนาคต

คำถามที่พบบ่อย

  1. เลื่อยชักไร้สายกับเลื่อยแบบมีสาย แบบไหนดีกว่ากันสำหรับการใช้งานทั่วไป? เลื่อยชักไร้สายให้ความสะดวกในการใช้งานมากกว่า เพราะไม่มีข้อจำกัดเรื่องสายไฟ ทำให้เคลื่อนที่ได้ง่ายและเข้าถึงพื้นที่ที่จำกัดได้ดี แต่ถ้าคุณต้องการกำลังที่เสถียรและใช้งานต่อเนื่องเป็นเวลานาน เลื่อยแบบมีสายอาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า เพราะไม่มีข้อจำกัดเรื่องแบตเตอรี่
  2. เลื่อยชักไร้สายที่มีแรงดันไฟฟ้าสูงกว่า จำเป็นไหมสำหรับการตัดวัสดุแข็ง? ใช่แล้ว เลื่อยที่มีแรงดันไฟฟ้าสูงจะมีกำลังในการตัดวัสดุที่แข็งแรงได้ดีกว่า ช่วยให้การตัดเป็นไปอย่างราบรื่นและรวดเร็วขึ้น แรงดันไฟฟ้าที่สูงยังช่วยลดความเสี่ยงที่เครื่องจะสะดุดหรือตัดไม่สำเร็จเมื่อต้องเจอกับวัสดุที่แข็ง เช่น โลหะหรือไม้หนา
  3. เลื่อยชักไร้สายจำเป็นต้องเปลี่ยนใบเลื่อยบ่อยแค่ไหน? ความถี่ในการเปลี่ยนใบเลื่อยขึ้นอยู่กับความถี่ในการใช้งานและชนิดของวัสดุที่ตัด หากใช้งานในการตัดวัสดุแข็งบ่อย ๆ เช่น โลหะหรือไม้หนา ควรตรวจสอบใบเลื่อยอย่างสม่ำเสมอ และเปลี่ยนเมื่อพบว่าใบเลื่อยเริ่มสึกหรอหรือทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ
  4. ควรเก็บเลื่อยชักไร้สายอย่างไรเพื่อยืดอายุการใช้งาน? คุณควรเก็บในที่แห้งและห่างไกลจากความชื้น หลังจากใช้งานควรทำความสะอาดใบเลื่อยและตัวเครื่องเพื่อขจัดฝุ่นและเศษวัสดุที่อาจทำให้เกิดการกัดกร่อน นอกจากนี้ ควรถอดแบตเตอรี่ออกเมื่อไม่ได้ใช้งานเป็นเวลานาน เพื่อป้องกันการสูญเสียพลังงานและยืดอายุแบตเตอรี่

Scroll to Top