10 อันดับ เลื่อยองศา ยี่ห้อไหนดี ตัดแม่นยำ ไร้เสี้ยน เหมาะกับทุกงานช่าง

COVER-407-Miter-Saw

เลื่อยองศา นับได้ว่าเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่มีบทบาทสำคัญในสายงานช่างอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นช่างไม้ ช่างโลหะ หรือแม้แต่งาน DIY ภายในบ้าน การตัดชิ้นงานให้ได้องศาที่แม่นยำเป็นสิ่งที่ทำให้ชิ้นงานออกมาดูดีและมีคุณภาพ ซึ่งเลื่อยองศาถือเป็นเครื่องมือที่ตอบโจทย์การตัดชิ้นงานเหล่านี้ได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นการตัดมุมตรง การตัดมุมเฉียง หรือการตัดเพื่อเข้ามุมต่าง ๆ เช่น การทำกรอบรูป การติดตั้งบัวเพดาน หรือการตัดชิ้นไม้สำหรับงานเฟอร์นิเจอร์ นอกจากความแม่นยำในการตัดแล้ว ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ทำให้ช่างสามารถทำงานได้เร็วขึ้น ประหยัดเวลาและแรงงาน โดยไม่ต้องเสียเวลาตั้งค่าเครื่องมือตัดอื่น ๆ หลายครั้

ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักกับ 10 อันดับ เลื่อยองศา ยี่ห้อไหนดี ตัดแม่นยำ ไร้เสี้ยน เหมาะกับทุกงานช่าง ซึ่งคัดเลือกมาแล้วว่าเป็นเครื่องมือที่เหมาะสมสำหรับงานทุกประเภท ไม่ว่าคุณจะเป็นช่างมืออาชีพหรือมือใหม่ที่ต้องการเครื่องมือที่ใช้งานได้หลากหลายและคุ้มค่า การเลือกเลื่อยองศาที่ดีและเหมาะสมกับงานจะช่วยให้คุณสามารถสร้างสรรค์ชิ้นงานที่มีคุณภาพได้อย่างมั่นใจ และช่วยให้การทำงานเพอร์เฟคทุกองศาตามต้องการ


หลักเกณฑ์ที่ใช้ในการจัดอันดับสินค้า

  1. ประเภทของเลื่อย: เราพิจารณาเลื่อยองศาทั้งสองประเภทหลัก ได้แก่ เลื่อยองศาแบบคานตายและเลื่อยองศาแบบรางสไลด์ โดยประเภทแรกเหมาะสำหรับงานที่ต้องการความมั่นคงในการตัด เช่น งานตัดไม้ทั่วไป ส่วนปรเภทนที่สองนั้นเหมาะกับงานที่ต้องการความยืดหยุ่นในการตัด สามารถตัดชิ้นงานที่กว้างกว่าได้ ทำให้งานที่ซับซ้อนและต้องการความแม่นยำเป็นพิเศษเป็นเรื่องง่าย
  2. ฐานรองและใบเลื่อย: เราให้ความสำคัญกับเลื่อยที่มีฐานรองกว้าง เพื่อเพิ่มความมั่นคงในการตัด ลดโอกาสการลื่นไถล นอกจากนี้ ใบเลื่อยที่มีฟันถี่ยังเป็นสิ่งที่เรามองหา เพราะช่วยให้การตัดไม้เป็นไปอย่างราบรื่นและแม่นยำ ช่วยลดเวลาในการทำงานและเพิ่มคุณภาพของชิ้นงาน
  3. ขนาดและรูปแบบของใบเลื่อย: การเลือกขนาดและรูปแบบของใบเลื่อยที่เหมาะสมกับงานเป็นสิ่งสำคัญ เราเน้นการเลือกใบเลื่อยที่มีความคมและสามารถตัดตั้งฉากได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับงานที่เกี่ยวข้องกับอะลูมิเนียม เพื่อให้ได้การตัดที่มีความเที่ยงตรง ไม่มีเสี้ยน และลดการเสียหายของชิ้นงาน
  4. ความเร็วรอบของเลื่อย: ความเร็วรอบของเลื่อยส่งผลอย่างมากต่อประสิทธิภาพการทำงาน เลื่อยที่มีความเร็วรอบสูงจะช่วยให้การตัดชิ้นงานเป็นไปอย่างรวดเร็ว แม่นยำ และลดเวลาที่ใช้ในกระบวนการทำงาน ทำให้เราสามารถทำงานได้มากขึ้นในเวลาที่น้อยลง
  5. ฟังก์ชันเสริม: นอกจากคุณสมบัติพื้นฐานแล้ว เรามองหาเลื่อยที่มีฟังก์ชันเสริมที่ช่วยเพิ่มความสะดวกและแม่นยำในการทำงาน เช่น ระบบเลเซอร์ที่ช่วยแสดงแนวการตัด หรือระบบดิจิตอลที่ช่วยให้การปรับตั้งค่าเป็นไปได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำมากขึ้น ฟังก์ชันเสริมเหล่านี้ทำให้ผู้ใช้งานสามารถควบคุมการทำงานได้ง่ายและปลอดภัยยิ่งขึ้น

1.CLINTON MS-255

1-CLINTON-MS-255

CLINTON MS-255 เลื่อยตัดองศาที่แม่นยำ ทนทาน ทำมุมได้หลากหลาย เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความละเอียดสูงและผลลัพธ์ที่เรียบสวยไร้เสี้ยน

ประเภทเลื่อยองศารางสไลด์
เหมาะสำหรับงานตัดไม้
กำลังไฟฟ้า2000วัตต์
ความเร็วรอบสูงสุด5000รอบ/นาที

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

CLINTON MS-255 เลื่อยตัดองศาแบบรางสไลด์ที่มีกำลังไฟฟ้า 2,000 วัตต์ ความเร็วรอบการหมุนสูงถึง 5,000 รอบต่อนาที ใบเลื่อยขนาด 10 นิ้ว สามารถตัดไม้ได้อย่างแม่นยำทั้งในมุมตรงและมุมเอียง โดยสามารถปรับเอียงซ้ายและขวาได้ถึง 45 องศา จุดเด่นของ CLINTON MS-255 คือ ระบบเลเซอร์ที่ช่วยเพิ่มความแม่นยำในการวางแนวตัด นอกจากนี้ ท่อสไลด์ยังถูกออกแบบให้มีขนาดใหญ่ขึ้นจาก 25 มิลลิเมตร เป็น 30 มิลลิเมตร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการตัดมุมเอียง ทำให้ชิ้นงานออกมาเรียบสวยไม่มีเสี้ยน

ความสามารถในการตัดของเลื่อยรุ่นนี้ค่อนข้างหลากหลาย เช่น การตัดที่มุม 45 องศา สามารถตัดชิ้นงานที่มีขนาด 40 x 210 มิลลิเมตรได้ ส่วนการตัดที่มุม 90 องศา สามารถตัดชิ้นงานที่มีขนาด 70 x 310 มิลลิเมตรได้ สำหรับการตัดที่มุม 45×90 องศา เลื่อยสามารถตัดชิ้นงานขนาด 40 x 310 มิลลิเมตรได้ และการตัดที่มุม 90×45 องศา สามารถตัดชิ้นงานขนาด 70 x 210 มิลลิเมตรได้ ทำให้เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความละเอียดและความแม่นยำสูง เช่น งานเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งต้องการรอยตัดที่เรียบสวยและไม่มีเสี้ยน

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

CLINTON MS-255 เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในตลาดเลื่อยตัดองศา โดยเฉพาะสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการเครื่องมือที่สามารถตัดไม้ได้อย่างแม่นยำและมีคุณภาพสูง มีคุณสมบัติเด่นหลายประการ ทั้งในเรื่องของความแม่นยำในการตัดที่สูงด้วยระบบเลเซอร์ การตัดชิ้นงานที่เรียบสวยไม่เป็นเสี้ยน และความสามารถในการปรับองศาการตัดได้ถึง 45 องศา ทั้งซ้ายและขวา นอกจากนี้ ตัวเครื่องยังมีความแข็งแรง ทนทาน เหมาะสำหรับการใช้งานในงานเฟอร์นิเจอร์หรืองานที่ต้องการความละเอียดสูง

2.BOSCH GCM 254 SD

2-BOSCH-GCM-254-SD

BOSCH GCM 254 SD แท่นตัดองศาที่มาพร้อมระบบเลเซอร์เพื่อความแม่นยำสูง รองรับการตัดวัสดุขนาดใหญ่ และเหมาะอย่างยิ่งสำหรับงานที่ต้องการความละเอียดและความสะดวกสบายในการใช้งาน

ประเภทเลื่อยองศารางสไลด์
เหมาะสำหรับงานตัดโลหะ, อะลูมิเนียม, ตัดไม้
กำลังไฟฟ้า1800 วัตต์
ความเร็วรอบสูงสุด4800 รอบ/นาที

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

BOSCH GCM 254 SD แท่นตัดองศาแบบรางสไลด์ที่มีกำลังไฟ 1,800 วัตต์ ซึ่งสามารถรองรับการตัดวัสดุได้หลากหลายชนิด โดยมาพร้อมกับระบบเลเซอร์ที่ช่วยเพิ่มความแม่นยำในการตัด เส้นเลเซอร์ที่ชัดเจนทำให้สามารถทำงานได้อย่างแม่นยำและสม่ำเสมอ นอกจากนี้ รุ่นนี้ยังมีส่วนต่อเสริมแบบถอดได้ที่ช่วยให้สามารถตัดวัสดุที่มีขนาดใหญ่ได้อย่างแม่นยำมากยิ่งขึ้น ความสามารถในการสไลด์ของเครื่องทำให้สามารถตัดชิ้นงานขนาดใหญ่ได้ถึง 310 มิลลิเมตร

ตัวเครื่องน้ำหนัก 17.9 กิโลกรัม ซึ่งถือว่าเป็นน้ำหนักที่พอดีสำหรับการยกย้ายและจัดเก็บ ความเร็วรอบในการทำงานอยู่ที่ 4,800 รอบต่อนาที ซึ่งเพียงพอสำหรับการตัดวัสดุในงานต่างๆ ขนาดการตัดที่มุม 0° คือ 90 x 310 มิลลิเมตร และที่มุม 45° สามารถตัดชิ้นงานที่มีขนาด 45 x 310 มิลลิเมตรได้ นอกจากนี้ ยังมีเกจวัดความยาวที่ช่วยให้สามารถทำงานตัดซ้ำได้อย่างสะดวก โดยไม่ต้องตั้งค่าใหม่ทุกครั้ง ความสามารถในการปรับมุมในแนวระนาบทำได้ทั้งซ้าย 47 องศา และขวา 52 องศา ส่วนการปรับมุมเอียงสามารถทำได้ทั้งซ้ายและขวาที่ 45 องศา นอกจากนี้ ตัวเครื่องยังมีขนาด 574 x 779 x 645 มิลลิเมตร ทำให้เป็นเครื่องมือที่มีขนาดพอเหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่จำกัด

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

โดยรวมแล้ว BOSCH GCM 254 SD เป็นแท่นตัดองศาที่มาพร้อมกับคุณสมบัติที่ครบครัน เช่น ระบบเลเซอร์ที่ช่วยให้การตัดมีความแม่นยำสูง สามารถตัดวัสดุขนาดใหญ่ได้ถึง 310 มิลลิเมตร และรองรับการตัดวัสดุได้หลากหลายชนิด อีกทั้งยังมีเกจวัดความยาวที่ช่วยให้การตัดซ้ำเป็นไปอย่างสะดวก ไม่ต้องตั้งค่าใหม่ทุกครั้ง ความสามารถในการปรับมุมในแนวระนาบและการปรับมุมเอียงยังช่วยให้การตัดมุมต่างๆ เป็นไปได้อย่างยืดหยุ่น ด้วยน้ำหนักที่เหมาะสมและขนาดเครื่องที่ไม่ใหญ่เกินไป

3.InnTech IMS-255T

3-InnTech-IMS-255T

InnTech รุ่น IMS-255T เลื่อยตัดองศากำลังสูง ที่ออกแบบมาสำหรับงานหนัก รองรับการตัดวัสดุหลากหลายชนิด ด้วยระบบเซฟตี้การ์ดบังใบเลื่อยและความแม่นยำสูง

ประเภทเลื่อยองศาคานตาย
เหมาะสำหรับงานตัดโลหะ, อะลูมิเนียม, ตัดไม้
กำลังไฟฟ้า2200 วัตต์
ความเร็วรอบสูงสุด6000 รอบ/นาที

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

InnTech รุ่น IMS-255T มีขนาด 10 นิ้ว ที่ออกแบบมาสำหรับการตัดวัสดุหลากหลายชนิด ทั้งไม้ เหล็ก และอะลูมิเนียม ตัวเครื่องมีมอเตอร์กำลังสูงถึง 2,200 วัตต์ ซึ่งทำจากทองแดงแท้ 100% ทำให้สามารถรองรับงานหนักและการใช้งานอย่างต่อเนื่องได้อย่างมีประสิทธิภาพ ความเร็วการหมุนอยู่ที่ 0-6,000 รอบต่อนาที ซึ่งเป็นความเร็วที่สูงเพียงพอสำหรับการตัดวัสดุที่หลากหลาย นอกจากนี้ สวิตช์ไกปืนที่ใช้งานง่ายยังช่วยลดความเมื่อยล้าระหว่างการใช้งาน ฐานรองตัดชิ้นงานมีขนาดกว้างและแข็งแรง ช่วยให้การใช้งานเป็นไปอย่างสะดวกและปลอดภัย ไม่ลื่นไถลขณะใช้งาน

หนึ่งในจุดเด่นของเลื่อยรุ่นนี้ คือ มีระบบเบรกที่ช่วยหยุดการทำงานของใบเลื่อยได้อย่างรวดเร็ว เพิ่มความปลอดภัยในการใช้งาน นอกจากนี้ยังมีระบบล็อคแกนที่ช่วยให้การเปลี่ยนใบเลื่อยเป็นไปได้อย่างรวดเร็วและสะดวกยิ่งขึ้น ระบบเซฟตี้ได้รับการพัฒนาขึ้นด้วยการ์ดบังใบเลื่อยที่เปิดทุกครั้งเมื่อต้องการตัดชิ้นงาน เพื่อป้องกันการสัมผัสใบเลื่อยโดยไม่ได้ตั้งใจ ตัวเครื่องยังมีฉากกั้นชิ้นงานด้านข้างที่หนาพิเศษ ช่วยให้การตัดชิ้นงานเป็นไปอย่างมั่นคงและแม่นยำ โดยมีสเกลบอกระยะที่คมชัดและอ่านง่าย รวมถึงในชุดยังมาพร้อมกับถุงเก็บฝุ่นและใบเลื่อยตัดไม้ขนาด 10 นิ้ว 60 ฟัน ทำให้ผู้ใช้สามารถเริ่มงานได้ทันที

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

InnTech รุ่น IMS-255T เป็นเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการเลื่อยตัดองศาที่มีประสิทธิภาพสูง และมีความทนทานสำหรับงานหนัก ด้วยมอเตอร์กำลังสูง 2,200 วัตต์ ซึ่งทำจากทองแดงแท้ 100% ทำให้รองรับการใช้งานได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังมีระบบเบรกที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งาน โดยสามารถหยุดการทำงานของใบเลื่อยได้อย่างรวดเร็ว ตัวเครื่องยังมาพร้อมกับระบบล็อคแกนที่ช่วยให้การเปลี่ยนใบเลื่อยเป็นไปได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว ระบบเซฟตี้ได้รับการพัฒนาขึ้นด้วยการ์ดบังใบเลื่อยที่ช่วยป้องกันการสัมผัสใบเลื่อยโดยไม่ได้ตั้งใจ ทั้งนี้ยังมีฉากกั้นชิ้นงานที่แข็งแรง พร้อมกับสเกลบอกระยะที่คมชัด อ่านง่าย

4.FEMI TR1030DB

4-FEMI-TR1030DB

FEMI รุ่น TR1030DB มาพร้อมมอเตอร์กำลังสูง 2,000 วัตต์ และระบบเลเซอร์ Double Laser ที่ช่วยให้การตัดวัสดุมีความแม่นยำและรองรับงานหนักได้ดี

ประเภทเลื่อยองศารางสไลด์
เหมาะสำหรับงานตัดไม้
กำลังไฟฟ้า2000 วัตต์
ความเร็วรอบสูงสุด5500รอบ/นาที

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

FEMI รุ่น TR1030DB เป็นเลื่อยตัดองศาสำหรับงานหนักที่มีประสิทธิภาพสูง ด้วยมอเตอร์ขนาด 2,000 วัตต์ และระบบสายพานขับเคลื่อน ทำให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีความเร็วรอบในการหมุนที่ 5,500 รอบต่อนาที ตัวเลื่อยสามารถรองรับการตัดวัสดุได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นไม้ อะลูมิเนียม หรือเหล็ก นอกจากนี้ยังมีระบบเลเซอร์ Double Laser ที่ช่วยเพิ่มความแม่นยำในการตัด โดยเส้นเลเซอร์จะเป็นตัวนำทางสำหรับการตัด ทำให้การทำงานเป็นไปได้อย่างเที่ยงตรง

ขนาดใบเลื่อยของอยู่ที่ 305 มิลลิเมตร ซึ่งสามารถตัดชิ้นงานขนาดใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การตัดเอียงซ้ายและขวาทำได้ถึง 45 องศา โดยสามารถตัดมุมและเอียงได้หลากหลายแบบ เช่น การตัดไม้ที่มุม 0° สามารถตัดได้สูงสุดถึง 105 มิลลิเมตร ส่วนการตัดเอียงซ้ายที่ 45° สามารถตัดได้สูงสุดที่ 65 มิลลิเมตร และการตัดมุมซ้าย-ขวาที่ 45° สามารถตัดได้สูงสุดถึง 105 มิลลิเมตร ตัวเครื่องน้ำหนัก 23 กิโลกรัม ทำให้สามารถติดตั้งและใช้งานกับโต๊ะได้อย่างมั่นคง

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

FEMI รุ่น TR1030DB เป็นเลื่อยตัดองศาที่เหมาะสำหรับงานหนัก สามารถตัดวัสดุหลากหลายชนิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นไม้ อะลูมิเนียม หรือเหล็ก อีกทั้งยังมาพร้อมระบบเลเซอร์ Double Laser ที่ช่วยเพิ่มความแม่นยำในการตัด ทำให้สามารถทำงานได้อย่างเที่ยงตรง ตัวเลื่อยสามารถตัดเอียงซ้ายและขวาได้ถึง 45 องศา และรองรับการตัดชิ้นงานขนาดใหญ่ด้วยใบเลื่อยขนาด 305 มิลลิเมตร

5.MIXPRO 23-005-003

5-MIXPRO-23-005-003

MIXPRO รุ่น MP1013A2 เป็นแท่นตัดองศาแบบรางสไลด์ ที่มาพร้อมกำลังมอเตอร์สูง 2,000 วัตต์ มีจำนวน 40 ฟัน และระบบเลเซอร์นำตัด ช่วยให้การตัดไม้เป็นไปอย่างแม่นยำและสะดวกสบาย

ประเภทเลื่อยองศารางสไลด์
เหมาะสำหรับงานตัดไม้
กำลังไฟฟ้า2000วัตต์
ความเร็วรอบสูงสุด4500รอบ/นาที

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

MIXPRO รุ่น MP1013A2 เป็นแท่นตัดองศาแบบรางสไลด์ที่ออกแบบมาเพื่อการตัดไม้โดยเฉพาะ มาพร้อมกับใบเลื่อยขนาด 10 นิ้ว (254 มิลลิเมตร) ที่มีจำนวน 40 ฟัน ทำให้สามารถตัดไม้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ กำลังมอเตอร์ของเครื่องนี้อยู่ที่ 2,000 วัตต์ ซึ่งเพียงพอสำหรับการตัดชิ้นงานไม้ขนาดใหญ่ ความเร็วรอบในการหมุนสูงสุดอยู่ที่ 4,500 รอบต่อนาที ทำให้การตัดเป็นไปอย่างรวดเร็วและแม่นยำ

ตัวเครื่องมีระบบเลเซอร์นำตัด ช่วยให้การตัดมีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น แม้จะสามารถเอียงได้เฉพาะด้านซ้าย สามารถตัดชิ้นงานได้ในหลากหลายมุม โดยสามารถตัดได้ถึงขนาด 70×310 มิลลิเมตร สำหรับการตัดที่มุม 45- 90 องศา แต่เครื่องนี้สามารถทำมุมการตัดได้อย่างเรียบเนียนและสม่ำเสมอ นอกจากนี้ยังมีถุงผ้าสำหรับเก็บฝุ่นในตัว ทำให้การทำความสะอาดพื้นที่หลังการใช้งานเป็นไปอย่างสะดวก โดยเฉพาะเมื่อนำเครื่องไปใช้งานนอกสถานที่

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

MIXPRO รุ่น MP1013A2 รองรับการตัดไม้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยกำลังมอเตอร์ 2,000 วัตต์ และใบเลื่อยขนาด 10 นิ้วที่มีจำนวน 40 ฟัน ทำให้สามารถตัดชิ้นงานไม้ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ นอกจากนี้ยังมีระบบเลเซอร์นำตัดที่ช่วยเพิ่มความแม่นยำในการตัดชิ้นงานได้อย่างมาก การที่เครื่องสามารถตัดได้ในหลากหลายมุม ทั้งมุม 90 องศาและ 45 องศา ช่วยให้ผู้ใช้สามารถปรับการใช้งานได้ตามต้องการ ถุงผ้าเก็บฝุ่นในตัวช่วยให้การทำความสะอาดหลังการใช้งานเป็นไปได้อย่างสะดวก เหมาะสำหรับการใช้งานทั้งในสถานที่และนอกสถานที่ และการรับประกันสินค้านาน 1 ปี

6.DEWALT DWS780-KR

6-DEWALT-DWS780-KR

DEWALT รุ่น DWS780-KR เลื่อยตัดองศาที่มาพร้อมไฟ LED สุดล้ำ พ่วงความสามารถในการปรับมุมตัดหลายองศา เพื่อความแม่นยำและความสะดวกในการใช้งาน

ประเภทเลื่อยองศารางสไลด์
เหมาะสำหรับงานตัดไม้
กำลังไฟฟ้า1675 วัตต์
ความเร็วรอบสูงสุด3800รอบ/นาที

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

DEWALT รุ่น DWS780-KR ออกแบบมาเพื่อการใช้งานที่ต้องการความแม่นยำสูง พร้อมฟีเจอร์พิเศษอย่าง ไฟ LED ที่ช่วยส่องสว่างแนวตัด ทำให้การตัดชิ้นงานเป็นไปได้อย่างเที่ยงตรง ตัวเครื่องสามารถปรับองศาการตัดได้หลายมุม เช่น 15 องศา, 30 องศา, และ 45 องศา ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถเลือกการตัดมุมตามความต้องการได้อย่างสะดวก ฐานรองตัวเครื่องมีความกว้างและมั่นคง ช่วยเพิ่มความเสถียรในการตัดชิ้นงาน นอกจากนี้ยังมีการออกแบบด้ามจับตามหลักสรีระศาสตร์ ทำให้จับถนัดมือและควบคุมการทำงานได้ง่าย

ใบเลื่อยขนาด 12 นิ้ว 60 ฟันของ DEWALT รุ่น DWS780-KR สามารถตัดไม้ได้หนาสูงสุดถึง 125 มิลลิเมตร เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการความแม่นยำในการตัด นอกจากนี้ เครื่องยังมีบังใบที่คลุมใบเลื่อยเกือบเต็ม ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งาน มอเตอร์ของเครื่องมีช่องระบายความร้อนขนาดใหญ่ ทำให้สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่เกิดความร้อนสูงจนเกินไป และยังมาพร้อมกับสายไฟที่มีการหุ้มฉนวนอย่างดี ช่วยให้การใช้งานในพื้นที่ต่าง ๆ เป็นไปได้อย่างสะดวก

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

DEWALT รุ่น DWS780-KR สินค้ามาพร้อมกับคุณสมบัติที่ตอบโจทย์การใช้งานอย่างมืออาชีพ ด้วยไฟ LED ที่ช่วยส่องสว่างแนวตัด ทำให้การตัดชิ้นงานมีความแม่นยำสูง อีกทั้งตัวเครื่องยังสามารถปรับองศาการตัดได้หลากหลายมุม เช่น 15 องศา, 30 องศา, และ 45 องศา เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการในการตัดที่แตกต่างกัน ด้ามจับของเครื่องถูกออกแบบตามหลักสรีระศาสตร์ ช่วยให้การควบคุมเครื่องมือเป็นไปอย่างสะดวกและปลอดภัย ฐานรองตัดมีความมั่นคง ช่วยให้การทำงานเป็นไปอย่างราบรื่นและแม่นยำ

7.TOMA JAPAN TMS-255T

7-TOMA-JAPAN-TMS-255T

TOMA JAPAN รุ่น TMS-255T มีกำลังสูง 2,200 วัตต์ และระบบเซฟตี้มีระบบเบรคใบเลื่อย เหมาะสำหรับงานหนักที่ต้องการความแม่นยำและความปลอดภัยสูง

ประเภทเลื่อยองศาคานตาย
เหมาะสำหรับงานตัดโลหะ, อะลูมิเนียม, ตัดไม้
กำลังไฟฟ้า2200 วัตต์
ความเร็วรอบสูงสุด6000รอบ/นาที

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

TOMA JAPAN รุ่น TMS-255T สินค้าออกแบบมาเพื่อการใช้งานหนัก มาพร้อมมอเตอร์ทองแดงแท้ 100% ที่มีกำลังสูงถึง 2,200 วัตต์ ทำให้สามารถตัดชิ้นงานได้ทั้งไม้ เหล็ก และอะลูมิเนียม ความเร็วในการหมุนของเครื่องนี้อยู่ที่ 0-6,000 รอบต่อนาที ทำให้สามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ มีระบบเบรคใบเลื่อยที่ช่วยหยุดการทำงานของใบเลื่อยได้อย่างรวดเร็ว เพิ่มความปลอดภัยในการใช้งาน นอกจากนี้ยังมีระบบล็อคแกนที่ช่วยให้การเปลี่ยนใบเลื่อยเป็นไปได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว รวมถึงการ์ดบังใบที่ช่วยป้องกันการสัมผัสใบเลื่อยโดยไม่ได้ตั้งใจ

เครื่องนี้มาพร้อมกับฉากกั้นชิ้นงานที่หนาและแข็งแรง ช่วยให้การตัดชิ้นงานเป็นไปอย่างแม่นยำและปลอดภัย สเกลบอกระยะมีความคมชัดและอ่านง่าย ทำให้สามารถตั้งค่าการตัดได้อย่างแม่นยำ ฐานรองตัดชิ้นงานมีขนาดกว้างและแข็งแรง ช่วยให้การใช้งานเป็นไปอย่างมั่นคงและไม่ลื่นไถล ส่วนสวิตช์ไกปืนออกแบบมาให้ใช้งานง่าย ลดความเมื่อยล้าระหว่างการใช้งาน พิเศษสุด! สินค้ามาพร้อมถุงเก็บฝุ่นที่ช่วยให้การทำความสะอาดหลังใช้งานเป็นไปอย่างสะดวก และใบเลื่อยตัดไม้ขนาด 10 นิ้ว 60 ฟัน ติดมากับเครื่อง ทำให้คุณสามารถเริ่มใช้งานได้ทันทีที่แกะกล่อง

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

TOMA JAPAN รุ่น TMS-255T มีมอเตอร์ทองแดงแท้ 100% กำลังสูงถึง 2,200 วัตต์ ทำให้สามารถตัดชิ้นงานได้ทั้งไม้ เหล็ก และอะลูมิเนียม เครื่องนี้มาพร้อมระบบเบรคใบเลื่อยที่หยุดการทำงานได้อย่างรวดเร็ว เพิ่มความปลอดภัยในการใช้งาน ระบบล็อคแกนช่วยให้เปลี่ยนใบเลื่อยได้สะดวก และการ์ดบังใบช่วยป้องกันการสัมผัสใบเลื่อยโดยไม่ตั้งใจ ตัวเครื่องมาพร้อมฉากกั้นแข็งแรงและสเกลบอกระยะชัดเจน ทำให้ตัดได้แม่นยำและปลอดภัย ฐานรองกว้างและแข็งแรงช่วยให้ใช้งานได้อย่างมั่นคง ไม่ลื่นไถล นอกจากนี้ ยังมีถุงเก็บฝุ่นที่ช่วยให้ทำความสะอาดหลังใช้งานได้สะดวก

8.MAKITA LS1040

8-MAKITA-LS1040

MAKITA รุ่น LS1040 มาพร้อมถุงเก็บฝุ่นที่ช่วยลดการฟุ้งกระจายของเศษไม้ มีระบบเบรกไฟฟ้า และสามารถปรับเอียงซ้ายได้ถึง 45 องศา เหมาะสำหรับงานตัดที่ต้องการความแม่นยำและความปลอดภัยสูง

ประเภทเลื่อยองศาคานตาย
เหมาะสำหรับงานตัดโลหะ, อะลูมิเนียม, ตัดไม้
กำลังไฟฟ้า1650 วัตต์
ความเร็วรอบสูงสุด4600รอบ/นาที

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

MAKITA รุ่น LS1040 เป็นแท่นเลื่อยตัดองศาขนาด 10 นิ้ว กำลังไฟฟ้า 1,650 วัตต์ และความเร็วรอบที่ 4,600 รอบต่อนาที ทำให้สามารถตัดชิ้นงานได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว ตัวเครื่องสามารถปรับเอียงซ้ายได้สูงสุด 45 องศา ซึ่งเหมาะสำหรับการตัดเฉียงชิ้นงานที่ต้องการความละเอียดและความแม่นยำ ระบบเบรคไฟฟ้าของเครื่องช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งาน โดยจะหยุดการทำงานอัตโนมัติเมื่อเกิดความร้อนสูงหรือมีความผิดปกติ นอกจากนี้ เครื่องยังมีระบบล็อกชิ้นงานที่ช่วยป้องกันการลื่นไหลขณะตัด ทำให้การตัดไม้เป็นไปอย่างมั่นคงและปลอดภัย

สินค้ามาพร้อมกับถุงเก็บฝุ่นที่ช่วยลดการฟุ้งกระจายของเศษไม้และขี้เลื่อย ทำให้พื้นที่ทำงานสะอาดยิ่งขึ้น ความสามารถในการตัดสูงสุดของเครื่องนี้อยู่ที่ 90.5 มิลลิเมตร x 95 มิลลิเมตรสำหรับการตัดที่มุม 0 องศา และ 90.5 มิลลิเมตร x 67 มิลลิเมตรสำหรับการตัดที่มุม 45 องศา ตัวเครื่องมีความแข็งแรงสูงและสามารถรองรับการทำงานหนักได้อย่างดี ด้วยคุณสมบัติต่างๆ เช่น ระบบเบรคไฟฟ้า ระบบล็อกชิ้นงาน และระบบเก็บฝุ่นที่มีประสิทธิภาพ ทำให้แบรนด์นี้ เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการแท่นเลื่อยตัดองศาที่มีความแม่นยำ ปลอดภัย และทนทาน

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

MAKITA รุ่น LS1040 มีความแข็งแรงและทนทานสูง ตัวเครื่องมาพร้อมกับระบบเบรคไฟฟ้าที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งาน โดยสามารถหยุดการทำงานอัตโนมัติเมื่อเกิดความร้อนสูงหรือมีความผิดปกติ นอกจากนี้ เครื่องยังมีระบบล็อกชิ้นงานที่ช่วยให้การตัดเป็นไปอย่างมั่นคงและแม่นยำ การปรับเอียงซ้ายได้ถึง 45 องศาช่วยให้สามารถตัดชิ้นงานที่ต้องการมุมเอียงได้ง่ายขึ้น และระบบเก็บฝุ่นที่มีประสิทธิภาพช่วยให้พื้นที่ทำงานสะอาดและปลอดภัยยิ่งขึ้น

9.PUMPKIN J-M109

9-PUMPKIN-J-M109

PUMPKIN รุ่น J-M109 เป็นเลื่อยตัดองศาประสิทธิภาพสูง ใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นงานไม้หรืองานเหล็กก็รับมือได้อย่างสบาย อีกทั้งยังออกแบบมาเพื่อความสะดวกสบายในการใช้งาน

ประเภทเลื่อยองศารางสไลด์
เหมาะสำหรับงานตัดโลหะ อะลูมิเนียม、ตัดไม้
กำลังไฟฟ้า1800 วัตต์
ความเร็วรอบสูงสุด6000รอบ/นาที

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

PUMPKIN รุ่น J-M109 ตอบสนองความต้องการในการตัดวัสดุหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นไม้ เหล็ก หรืออะลูมิเนียม ด้วยกำลังไฟฟ้า 1,800 วัตต์ และความเร็วรอบ 6,000 รอบต่อนาที ทำให้การตัดเป็นไปอย่างแม่นยำและรวดเร็ว สามารถปรับมุมการตัดได้หลากหลายองศา ทั้งมุมตรงและมุมเฉียง โดยการเอียงสามารถปรับได้ตั้งแต่ 0 ถึง 45 องศา ทำให้เลื่อยรุ่นนี้เหมาะสำหรับการใช้งานที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นงานตกแต่งภายใน งานผลิตเฟอร์นิเจอร์ หรือการทำงาน D.I.Y.

ตัวเครื่องมีความแข็งแรงทนทานและออกแบบมาเพื่อความสะดวกสบายในการใช้งาน มอเตอร์แบบไร้แปรงถ่านและไม่ใช้เฟืองช่วยให้เครื่องทำงานเงียบและลดปัญหาในการบำรุงรักษา นอกจากนี้ ด้วยขนาดกะทัดรัด จึงสะดวกในการจัดเก็บและเคลื่อนย้าย เครื่องสามารถตัดชิ้นงานที่มุม 0 องศาได้ขนาดสูงสุด 85 x 300 มิลลิเมตร และที่มุม 45 องศาได้ขนาดสูงสุด 85 x 210 มิลลิเมตร อีกทั้งยังสามารถเปลี่ยนใบเลื่อยได้อย่างง่ายดาย ซึ่งช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้งานยิ่งขึ้น

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

PUMPKIN รุ่น J-M109 เหมาะสำหรับงานหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นงานตกแต่งภายใน งานผลิตเฟอร์นิเจอร์ หรือการทำงาน D.I.Y. ด้วยกำลังไฟฟ้า 1,800 วัตต์ และความเร็วรอบ 6,000 รอบต่อนาที ทำให้การตัดชิ้นงานเป็นไปอย่างรวดเร็วและแม่นยำ สามารถปรับมุมการตัดได้หลากหลายองศา ทั้งมุมตรงและมุมเฉียง โดยสามารถเอียงได้ตั้งแต่ 0 ถึง 45 องศา นอกจากนี้ ตัวเครื่องยังออกแบบให้มีความแข็งแรงทนทาน พร้อมมอเตอร์ที่ทำงานเงียบและไม่ต้องการการบำรุงรักษามาก

10.Berala BL-1040

10-Berala-BL-1040

Berala รุ่น BL-1040 เป็นเลื่อยตัดองศาที่มาพร้อมมอเตอร์ทองแดงแท้ 100% และระบบความปลอดภัยครบครัน ด้วยฐานรองลื่นไถลกับระบบแกนล็อคใบเลื่อย

ประเภทเลื่อยองศาคานตาย
เหมาะสำหรับงานตัดโลหะ, อะลูมิเนียม, ตัดไม้
กำลังไฟฟ้า1650 วัตต์
ความเร็วรอบสูงสุด4600รอบ/นาที

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

Berala รุ่น BL-1040 เป็นเลื่อยตัดองศาที่มาพร้อมกับใบเลื่อยขนาด 10 นิ้ว ที่สามารถตัดวัสดุได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นไม้ เหล็ก หรืออะลูมิเนียม เครื่องนี้ใช้มอเตอร์ทองแดงแท้ 100% ที่มีกำลังไฟฟ้าสูงถึง 1,650 วัตต์ ทำให้รองรับงานหนักและการใช้งานอย่างต่อเนื่องได้อย่างมีประสิทธิภาพ ความเร็วรอบของเครื่องอยู่ที่ 4,600 รอบต่อนาที ทำให้การตัดเป็นไปอย่างรวดเร็วและแม่นยำ

ระบบความปลอดภัยขอแบรนด์นี้ เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง โดยเครื่องมีระบบเบรกที่สามารถหยุดใบเลื่อยได้อย่างรวดเร็ว ลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุระหว่างการใช้งาน นอกจากนี้ยังมีการ์ดใสบังใบเลื่อยที่ช่วยป้องกันการสัมผัสใบเลื่อยโดยไม่ได้ตั้งใจ การ์ดนี้จะเปิดทุกครั้งเมื่อต้องการตัดชิ้นงาน ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในระหว่างการทำงาน ฐานรองตัดชิ้นมีความกว้างและแข็งแรง ช่วยให้การตัดเป็นไปอย่างมั่นคงและไม่ลื่นไถล นอกจากนี้ยังมีระบบล็อกแกนที่ช่วยให้การเปลี่ยนใบเลื่อยเป็นไปได้อย่างรวดเร็วและสะดวก ช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการทำงาน

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

Berala รุ่น BL-1040 มาพร้อมกับคุณสมบัติที่ตอบโจทย์การใช้งานอย่างมืออาชีพ มอเตอร์ทองแดงแท้ 100% กำลังสูงถึง 1,650 วัตต์ ทำให้สามารถตัดวัสดุได้หลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นไม้ เหล็ก หรืออะลูมิเนียม เครื่องนี้ยังมีระบบเบรกที่ช่วยหยุดใบเลื่อยได้อย่างรวดเร็ว เพิ่มความปลอดภัยในการใช้งาน อีกทั้งยังมีการ์ดใสบังใบเลื่อยที่ช่วยป้องกันการสัมผัสใบเลื่อยโดยไม่ได้ตั้งใจ ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานในหลากหลายสภาพแวดล้อม

วิธีเลือกเลื่อยองศาที่เหมาะกับงานของคุณ

407-วิธีเลือกเลื่อยองศา-01

ประเภทของเลื่อย

เลื่อยองศาเป็นเครื่องมือที่มีหลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภทถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของงานที่แตกต่างกันไป ประเภทที่พบบ่อยที่สุดคือเลื่อยองศาแบบคานตายและเลื่อยองศาแบบรางสไลด์

  • เลื่อยองศาแบบคานตาย (Standard Miter Saw): เลื่อยองศาประเภทนี้เป็นรุ่นพื้นฐานที่ออกแบบมาเพื่อการตัดชิ้นงานในมุมที่กำหนดไว้ เลื่อยแบบคานตายเหมาะสำหรับงานตัดไม้ที่ไม่ต้องการความซับซ้อน เช่น การตัดมุมตรงหรืองานที่ไม่ต้องการการตัดเฉียง ประโยชน์หลักของเลื่อยประเภทนี้คือมีน้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายง่าย และราคาไม่สูง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเครื่องมือที่ใช้งานง่ายและไม่ซับซ้อน
  • เลื่อยองศาแบบรางสไลด์ (Sliding Compound Miter Saw): เลื่อยประเภทนี้มีฟังก์ชันเสริมที่สามารถเลื่อนใบเลื่อยไปข้างหน้าและข้างหลังได้ ซึ่งช่วยให้สามารถตัดชิ้นงานที่กว้างกว่าได้ เลื่อยแบบรางสไลด์เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความแม่นยำสูงและการตัดชิ้นงานที่มีขนาดใหญ่ เช่น การตัดไม้สำหรับทำเฟอร์นิเจอร์ งานตัดอะลูมิเนียมหรือโลหะบางประเภท การมีฟังก์ชันสไลด์ช่วยให้การตัดงานที่มีขนาดกว้างมากขึ้นโดยไม่ต้องพลิกชิ้นงาน

วิธีเลือกเลื่อยองศาให้เหมาะกับงานแต่ละประเภท

  • งานไม้: สำหรับการตัดไม้ที่ต้องการความแม่นยำและความเรียบ เลื่อยองศาแบบรางสไลด์ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด เนื่องจากสามารถตัดไม้ที่มีความกว้างและความหนาได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งยังช่วยให้การตัดชิ้นงานมีความละเอียดและไม่มีเสี้ยน นอกจากนี้ ควรเลือกเลื่อยที่มีฟันเลื่อยละเอียด เพื่อให้การตัดไม้มีความคมชัดและเรียบเนียน
  • งานโลหะ: หากงานที่ต้องการตัดเป็นโลหะ เช่น อะลูมิเนียมหรือเหล็กบางชนิด ควรเลือกเลื่อยองศาที่มีความทนทานและมีกำลังสูง เลื่อยองศาแบบรางสไลด์ก็เป็นตัวเลือกที่ดีในกรณีนี้ เนื่องจากสามารถปรับมุมตัดได้หลายรูปแบบและสามารถตัดโลหะได้อย่างแม่นยำ ควรเลือกใช้ใบเลื่อยที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับตัดโลหะ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
  • งาน DIY: สำหรับผู้ที่ต้องการเลื่อยองศาไปใช้ในงาน DIY เล็ก ๆ ภายในบ้าน เช่น การทำชั้นวางของหรือตัดไม้เพื่อสร้างของใช้ในบ้าน เลื่อยองศาแบบคานตายอาจเป็นตัวเลือกที่เพียงพอ เนื่องจากใช้งานง่าย ราคาไม่สูง และไม่จำเป็นต้องมีฟังก์ชันเสริมมากมาย อย่างไรก็ตาม หากต้องการตัดชิ้นงานที่มีขนาดใหญ่ขึ้น อาจพิจารณาเลื่อยแบบรางสไลด์เพื่อเพิ่มความสะดวกและความหลากหลายในการใช้งาน


การดูแลรักษาเลื่อยองศาเพื่อให้ใช้งานได้ยาวนาน

407-การดูแลรักษาเลื่อยองศา-02

การทำความสะอาดเลื่อยองศาหลังจากการใช้งานเป็นขั้นตอนที่สำคัญเพื่อยืดอายุการใช้งานและรักษาประสิทธิภาพของเครื่องมือ

  • ปิดเครื่องและถอดปลั๊กไฟก่อนทำความสะอาด: ควรเริ่มจากการปิดเครื่องเลื่อยองศาและถอดปลั๊กไฟเพื่อความปลอดภัยทุกครั้งก่อนเริ่มทำความสะอาด
  • ใช้แปรงขนอ่อนหรือเครื่องเป่าลมทำความสะอาด: ใช้แปรงขนอ่อนหรือเครื่องเป่าลมทำความสะอาดเศษไม้ ฝุ่น และสิ่งสกปรกที่ติดอยู่ตามร่องใบเลื่อยและส่วนต่าง ๆ ของเครื่อง โดยเฉพาะบริเวณฟันเลื่อยและฐานรอง
  • เช็ดทำความสะอาดตัวเครื่องภายนอก: ใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำหมาด ๆ เช็ดทำความสะอาดตัวเครื่องภายนอกเป็นระยะ เพื่อป้องกันการสะสมของคราบน้ำมันหรือสารเคมีที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างการใช้งาน
  • ลดการสะสมของเศษวัสดุเพื่อป้องกันความเสียหาย: การทำความสะอาดเครื่องมือหลังการใช้งานทุกครั้งจะช่วยลดการสะสมของเศษวัสดุที่อาจทำให้เกิดความเสียหายหรือการสึกหรอในระยะยาว

เปลี่ยนใบเลื่อยและตรวจสอบความคม

  • ตรวจสอบความคมของใบเลื่อยเป็นประจำ: ใบเลื่อยที่คมจะช่วยให้การตัดเป็นไปอย่างราบรื่นและแม่นยำ ควรตรวจสอบความคมของใบเลื่อยทุก 3-6 เดือน หรือเมื่อรู้สึกว่าการตัดเริ่มไม่ราบรื่นเหมือนเดิม
  • เปลี่ยนใบเลื่อยเมื่อทื่อหรือไม่คม: หากพบว่าใบเลื่อยเริ่มมีอาการทื่อหรือไม่คม ควรทำการเปลี่ยนใบเลื่อยใหม่ทันทีเพื่อรักษาคุณภาพของการตัด
  • ขั้นตอนการเปลี่ยนใบเลื่อย: การเปลี่ยนใบเลื่อยสามารถทำได้ง่าย ๆ โดยการถอดล็อกแกนใบเลื่อย ใช้ประแจคลายสกรูที่ยึดใบเลื่อย และเปลี่ยนใบเลื่อยใหม่ตามคำแนะนำจากผู้ผลิต
  • ป้องกันการเกิดเสี้ยน: การรักษาความคมของใบเลื่อยจะช่วยป้องกันการเกิดเสี้ยนและลดความเสี่ยงในการเสียหายของชิ้นงาน

ดูแลระบบเบรกและตรวจสอบส่วนประกอบต่าง ๆ พื่อความปลอดภัย

  • ตรวจสอบระบบเบรกเป็นระยะ: ระบบเบรกในเลื่อยองศา เป็นฟังก์ชันที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งาน โดยจะหยุดการหมุนของใบเลื่อยทันทีเมื่อปล่อยปุ่มควบคุม ควรตรวจสอบระบบเบรกเป็นระยะเพื่อให้มั่นใจว่าทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ติดต่อผู้เชี่ยวชาญเมื่อพบปัญหา: หากระบบเบรกทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ ควรติดต่อผู้เชี่ยวชาญหรือนำเครื่องไปตรวจสอบที่ศูนย์บริการ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้
  • ตรวจสอบสภาพของสายไฟ ปลั๊ก และสวิตช์ควบคุม: ควรตรวจสอบสภาพของสายไฟ ปลั๊ก และสวิตช์ควบคุมอย่างสม่ำเสมอว่าทำงานปกติหรือไม่ เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาทางไฟฟ้าที่อาจนำไปสู่อุบัติเหตุ
  • บำรุงรักษาส่วนต่าง ๆ ของเครื่องเป็นประจำ: การหมั่นตรวจสอบและบำรุงรักษาส่วนต่าง ๆ ของเครื่องอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้เลื่อยองศาของคุณสามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัยและมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น

แบ่งปันเคล็ดลับการใช้เลื่อยองศาเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

407-เคล็ดลับการใช้เลื่อยองศา-03

เทคนิคการตั้งค่าองศาและมุมตัดเพื่อความแม่นยำ

การตั้งค่าองศาและมุมตัด เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องใส่ใจอย่างมากหากต้องการให้ชิ้นงานออกมามีความแม่นยำ เริ่มจากการเลือกมุมตัดที่ถูกต้อง โดยปกติแล้ว การตัดมุมที่ 45 องศามักจะใช้สำหรับการเข้ามุมที่ต้องการความเป๊ะ เช่น การทำกรอบรูป หรือการตัดมุมไม้บัว อย่างไรก็ตาม หากต้องการความแม่นยำที่สูงสุด แนะนำให้ใช้เครื่องมือวัดองศาที่มีความละเอียดในการวัดที่ 0.1 องศา เพื่อให้แน่ใจว่ามุมตัดนั้นตรงตามที่ต้องการ อีกทั้งควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าตัวเลื่อยถูกตั้งค่าไว้ในตำแหน่งที่แน่นอนและไม่เคลื่อนที่ระหว่างการตัด ซึ่งจะช่วยลดความคลาดเคลื่อนในการตัดได้มากถึง 90%

ยึดชิ้นงานให้มั่นเพื่อลดการเกิดเสี้ยน

การยึดชิ้นงานให้มั่นคงเป็นเทคนิคสำคัญในการตัดชิ้นงานด้วยเลื่อยองศา เสี้ยนมักเกิดขึ้นเมื่อชิ้นงานไม่ถูกยึดแน่นพอ ทำให้เกิดการเคลื่อนไหวระหว่างตัด เพื่อป้องกันปัญหานี้ ควรใช้แคลมป์ยึดชิ้นงานเข้ากับโต๊ะเลื่อยอย่างแน่นหนา การใช้ปากกาจับชิ้นงานที่มีแรงยึดสูงจะช่วยลดการเคลื่อนไหวขณะตัด ซึ่งสามารถลดการเกิดเสี้ยนได้ถึง 70% สำหรับชิ้นงานขนาดใหญ่หรือยาว ควรใช้แท่นรองรับชิ้นงานเพิ่มเติมเพื่อลดการสั่นสะเทือนที่อาจเกิดขึ้น

ใช้ฟังก์ชันเสริมเข้าช่วย

ระบบเลเซอร์ในเลื่อยองศา เป็นฟังก์ชันที่มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับการตัดชิ้นงานที่ต้องการความแม่นยำสูง ระบบนี้จะสร้างเส้นเลเซอร์ที่แสดงแนวการตัดล่วงหน้า ทำให้ผู้ใช้สามารถปรับตำแหน่งชิ้นงานให้ตรงกับแนวที่ต้องการก่อนการตัด การใช้ระบบเลเซอร์สามารถเพิ่มความแม่นยำได้ถึง 95% โดยเฉพาะในงานที่ต้องการการตัดที่ละเอียดและซับซ้อน นอกจากนี้ เลื่อยองศาบางรุ่นยังมาพร้อมกับระบบดิจิตอลที่สามารถปรับค่ามุมตัดได้อย่างแม่นยำในระดับ 0.1 องศา ซึ่งจะช่วยให้การตัดชิ้นงานเป็นไปตามความต้องการอย่างแท้จริง

แนะนำ ปากกาจับชิ้นงานและตลับเมตร—เครื่องมือช่างที่เพิ่มความแม่นยำ

การทำงานร่วมกันของทั้งสามสิ้งนี้ เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งในการตัดชิ้นงานให้ได้ความแม่นยำและประสิทธิภาพสูงสุด กระบวนการเริ่มจากการใช้ตลับเมตรยี่ห้อคุณภาพวัดขนาดและมุมที่ต้องการตัดอย่างละเอียด เพื่อให้ได้ชิ้นงานตามที่กำหนดไว้ จากนั้นใช้ 10 ปากกาจับชิ้นงานที่ดีที่สุดยึดชิ้นงานให้แน่นและมั่นคง เพื่อป้องกันการขยับหรือเลื่อนของชิ้นงานในระหว่างการตัด ซึ่งจะช่วยลดโอกาสเกิดความผิดพลาด เช่น การตัดไม่ตรงหรือการเกิดเสี้ยนที่ขอบชิ้นงาน สุดท้ายใช้เลื่อยองศาในการตัดชิ้นงานตามมุมที่ตั้งค่าไว้อย่างแม่นยำ ซึ่งการใช้เครื่องมือทั้งสามนี้ร่วมกันจะช่วยให้ได้ชิ้นงานที่มีคุณภาพสูง และตรงตามความต้องการทุกประการ

การเลือกเลื่อยองศาที่เหมาะสมกับงานช่า งเป็นขั้นตอนที่สำคัญอย่างยิ่ง เพราะเครื่องมือที่ดีจะช่วยให้งานของคุณมีความแม่นยำ สะดวก และปลอดภัยมากขึ้น อีกทั้งการทำความเข้าใจเกี่ยวกับประเภทของเลื่อยองศาที่แตกต่างกัน การเลือกขนาดและรูปแบบของใบเลื่อยที่เหมาะสมกับงาน รวมถึงการเลือกฟังก์ชันเสริมต่าง ๆ เช่น ระบบเลเซอร์หรือระบบดิจิตอล จะทำให้คุณสามารถเลือกเครื่องมือที่ตรงกับความต้องการได้อย่างแท้จริง สุดท้ายนี้ เมื่อได้ซื้อสินค้าที่พึงพอใจแล้ว อย่ามองข้ามการดูแลรักษาเลื่อยองศา เพราะจะช่วยให้เครื่องมือช่างของคุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดความเสี่ยงจากการเกิดอุบัติเหตุ การบำรุงรักษาเครื่องมืออย่างสม่ำเสมอยังช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องมือ ทำให้คุณไม่ต้องเปลี่ยนเครื่องมือบ่อยครั้ง ซึ่งประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายในระยะยาว

คำถามที่พบบ่อย

  1. เลื่อยองศาคืออะไร และมีประโยชน์อย่างไรในงานช่าง?

    เลื่อยองศาเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการตัดวัสดุต่าง ๆ เช่น ไม้ เหล็ก หรืออะลูมิเนียม ให้ได้มุมองศาตามต้องการ ช่วยให้การตัดมีความแม่นยำและสวยงาม เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความละเอียด เช่น การทำเฟอร์นิเจอร์ การติดตั้งพื้นไม้ หรือการทำงาน DIY ต่าง ๆ

  2. เลื่อยองศาแบบคานตายกับเลื่อยองศาแบบรางสไลด์ ทั้งสองแตกต่างกันอย่างไร?

    เลื่อยองศาแบบคานตายเหมาะสำหรับการตัดชิ้นงานที่ต้องการความมั่นคงและมีความเที่ยงตรงสูง ส่วนเลื่อยองศาแบบรางสไลด์สามารถตัดชิ้นงานที่มีขนาดใหญ่และกว้างได้ง่ายขึ้น โดยสามารถเลื่อนใบเลื่อยไปมาเพื่อตัดวัสดุที่มีความกว้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  3. เราควรเลือกใบเลื่อยขนาดเท่าไรสำหรับการใช้งานทั่วไป?

    ใบเลื่อยขนาด 10 นิ้วเป็นขนาดที่ได้รับความนิยมและเหมาะสมสำหรับการใช้งานทั่วไป เช่น งานตัดไม้หรืออะลูมิเนียม สำหรับการใช้งานที่ต้องการตัดชิ้นงานที่ใหญ่ขึ้น ควรพิจารณาใช้ใบเลื่อยขนาด 12 นิ้ว ซึ่งสามารถตัดชิ้นงานที่หนาและกว้างได้มากกว่า

  4. มีวิธีการดูแลรักษาเลื่อยองศาอย่างไรเพื่อให้ใช้งานได้ยาวนาน?

    การทำความสะอาดใบเลื่อยหลังใช้งานทุกครั้ง การตรวจสอบความคมของใบเลื่อยอย่างสม่ำเสมอ และการบำรุงรักษาระบบเบรกและส่วนต่าง ๆ ของเครื่อง จะช่วยยืดอายุการใช้งานของเลื่อยองศาและทำให้เครื่องทำงานได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

Scroll to Top