10 เมล็ดกาแฟอาราบิก้า สำหรับคอกาแฟ เลือกซื้ออย่างไรให้ได้คุณภาพ

เมล็ดกาแฟอาราบิก้า

ในโลกของกาแฟ เมล็ดกาแฟอาราบิก้า เป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นหนึ่งในเมล็ดกาแฟที่มีคุณภาพและรสชาติที่ยอดเยี่ยมที่สุด สำหรับผู้ที่หลงใหลในรสชาติของกาแฟ การเลือกเมล็ดกาแฟอาราบิก้าที่มีคุณภาพสูงสุดจึงเป็นสิ่งสำคัญ แต่การเลือกซื้อเมล็ดกาแฟอาจเป็นเรื่องที่ท้าทายเนื่องจากมีหลายปัจจัยที่ต้องพิจารณา ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปเลือกดู 10 เมล็ดกาแฟอาราบิก้าที่เหมาะสำหรับคอกาแฟ พร้อมแนะนำหลักเกณฑ์ที่ใช้ในการจัดอันดับสินค้า เพื่อให้คุณได้เมล็ดกาแฟที่มีคุณภาพดีที่สุดสำหรับการชงกาแฟที่บ้าน ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบคุณภาพของเมล็ดกาแฟ การพิจารณาแหล่งที่มา รสชาติและกลิ่นหอม รวมถึงการคั่วเมล็ดกาแฟ ทุกสิ่งนี้จะถูกนำเสนออย่างละเอียดเพื่อช่วยให้คุณทำการเลือกซื้อได้อย่างมั่นใจ

หลักเกณฑ์ที่ใช้ในการจัดอันดับสินค้า

  • คุณภาพของเมล็ดกาแฟ: การตรวจสอบคุณภาพของเมล็ดกาแฟอาราบิก้าในด้านความสดใหม่ ความสมบูรณ์ของเมล็ด และการเก็บรักษา
  • แหล่งที่มาของเมล็ดกาแฟ: การพิจารณาแหล่งปลูกเมล็ดกาแฟที่มีชื่อเสียง เช่น เอธิโอเปีย โคลัมเบีย บราซิล ซึ่งเป็นแหล่งที่ให้เมล็ดกาแฟอาราบิก้าที่มีคุณภาพสูง
  • รสชาติและกลิ่นหอม: การประเมินรสชาติและกลิ่นหอมของกาแฟที่ได้จากเมล็ดกาแฟอาราบิก้า โดยใช้การทดสอบชิมเพื่อหาความซับซ้อนของรสชาติและความหอมที่น่าหลงใหล
  • การคั่วเมล็ดกาแฟ: การพิจารณาวิธีการคั่วและระดับการคั่วของเมล็ดกาแฟ เพื่อให้ได้รสชาติที่ตรงตามความต้องการของคอกาแฟ เช่น คั่วอ่อน คั่วกลาง คั่วเข้ม
  • ความหลากหลายของผลิตภัณฑ์: การพิจารณาความหลากหลายของผลิตภัณฑ์เมล็ดกาแฟอาราบิก้าที่มีให้เลือก เช่น การคั่วในระดับต่าง ๆ หรือการผสมผสานเมล็ดกาแฟจากแหล่งปลูกที่ต่างกัน
  • รีวิวและความคิดเห็นจากผู้ใช้: การวิเคราะห์ความคิดเห็นและรีวิวจากผู้ใช้จริงเกี่ยวกับเมล็ดกาแฟอาราบิก้าในแต่ละยี่ห้อ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์และตรงตามความจริง
  • ราคาและความคุ้มค่า: การเปรียบเทียบราคาและความคุ้มค่าของเมล็ดกาแฟอาราบิก้าในแต่ละยี่ห้อ โดยพิจารณาจากคุณภาพและปริมาณที่ได้รับ
  • การเข้าถึงและความสะดวกในการซื้อ: การพิจารณาความสะดวกในการหาซื้อเมล็ดกาแฟอาราบิก้าในแต่ละยี่ห้อ ทั้งทางออนไลน์และร้านค้าทั่วไป
  • บรรจุภัณฑ์และการเก็บรักษา: การตรวจสอบบรรจุภัณฑ์ที่ช่วยรักษาความสดใหม่ของเมล็ดกาแฟ เช่น การใช้ถุงที่มีวาล์วกันอากาศและการปิดผนึกที่แน่นหนา
  • การสนับสนุนจากผู้ผลิต: การพิจารณาบริการหลังการขายและการสนับสนุนจากผู้ผลิต เช่น การให้คำแนะนำในการชงกาแฟหรือการแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวกับสินค้า

10 เมล็ดกาแฟอาราบิก้า

1. Pangkhon Coffee Roaster

Pangkhon-Coffee-Roaster

“Pangkhon Coffee Roaster เป็นกาแฟอาราบิก้าแท้จากดอยปางขอนที่คั่วบดสดใหม่ทุกออร์เดอร์ มีกลิ่นหอมสดชื่นและรสชาตินุ่มไม่ขมเกินไป”

พันธุ์ของเมล็ดกาแฟอาราบิก้า
ระดับการคั่วกลาง
ปริมาณ500 กรัม
สามารถชงได้30 แก้ว (สำหรับกาแฟเย็น)
ราคา447 บาท

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

Pangkhon Coffee Roaster เป็นแบรนด์กาแฟที่คอกาแฟหลายคนชื่นชอบ เพราะนอกจากราคาที่ย่อมเยาแล้ว รสชาติและกลิ่นของกาแฟยังทำออกมาได้น่าประทับใจ ทางแบรนด์มีให้เลือกหลายระดับการคั่ว ตั้งแต่คั่วอ่อน คั่วกลาง คั่วกลางเข้ม และคั่วเข้มมาก โดยกาแฟทุกระดับการคั่วนั้นมีความหอมสดชื่น ไม่มีรสขมจนเกินไป และเป็นกาแฟสายพันธุ์อาราบิก้าแท้ 100% ที่ปลูกบนที่สูงจากดอยปางขอนเชียงราย คุณภาพของกาแฟนั้นถูกคั่วบดแบบสด ๆ ทุกออร์เดอร์ไม่มีค้างสต๊อก ทำให้มีคุณภาพสมบูรณ์จนถึงมือผู้สั่ง ไม่ว่าจะนำไปผสมกับนม ผงโกโก้ หรือชงเป็นกาแฟเย็น ก็สามารถทำได้อย่างหลากหลาย โดยลูกค้ามากกว่า 90% กลับมาซื้อซ้ำเพราะความโดดเด่นของกลิ่นหอมและรสชาติเข้มข้นแต่นุ่ม ตั้งแต่โทนเปรี้ยวผลไม้ หวานฉ่ำคอ ทานง่าย ไปจนถึงรสชาติเข้มข้นที่เหมาะสำหรับทำลาเต้ คาปูชิโน่ หรืออเมริกาโน่ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบกาแฟนม กาแฟเย็น ทางร้านยังมีระดับการคั่วเข้มมากพิเศษที่เพิ่มโรบัสต้า 20% เพื่อเพิ่ม body ให้กาแฟเข้มข้นถึงใจอีกด้วย

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?

Pangkhon Coffee Roaster เป็นกาแฟอาราบิก้าแท้จากดอยปางขอนที่มีกลิ่นหอมสดชื่น รสชาตินุ่มไม่ขมเกินไป เหมาะสำหรับการชงกาแฟหลากหลายเมนู และคั่วบดสดใหม่ทุกออร์เดอร์ ทำให้คุณมั่นใจได้ในคุณภาพที่สมบูรณ์แบบในทุกแก้ว

2. Pacamara Napoli II Blend

Pacamara-Napoli-II-Blend

“กาแฟ Pacamara Napoli II Blend เป็นกาแฟอาราบิก้า 100% คั่วกลางเข้ม มีกลิ่นหอมของโกโก้และคาราเมล เหมาะสำหรับชงดื่มทั้งกาแฟดำและกาแฟนม”

พันธุ์ของเมล็ดกาแฟอาราบิก้า
ระดับการคั่วกลางค่อนเข้ม
ปริมาณ250 กรัม
สามารถชงได้15 แก้วขึ้นไป (สำหรับกาแฟเย็น)
ราคา160 บาท

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

กาแฟ Pacamara Napoli II Blend เป็นกาแฟอาราบิก้า 100% ที่คัดสรรจากแหล่งเพาะปลูกคุณภาพสูงในจังหวัดเชียงราย ผ่านการคั่วด้วยโปรไฟล์เฉพาะของโรงคั่ว Pacamara Coffee Roasters ด้วยเครื่องคั่วคุณภาพระดับโลกอย่าง Giesen ทำให้กาแฟมีกลิ่นหอมของโกโก้ ความหวานจากคาราเมล และรสสัมผัสของถั่วคั่วอ่อนๆ รสชาติที่ได้มีความกลมกล่อมลงตัวเหมาะสำหรับผู้ที่ชอบดื่มกาแฟที่มีความเข้มแต่ไม่ขมจนเกินไป สามารถชงดื่มได้ทั้งกาแฟดำและกาแฟนม และเหมาะสำหรับการชงด้วยเครื่องชงเอสเพรสโซ่ ไม่ว่าจะชงเป็นกาแฟร้อนหรือกาแฟเย็น เมื่อสั่งซื้อเมล็ดกาแฟจากร้านพาคามาร่าทุกสาขา ลูกค้าสามารถแจ้งบาริสต้าให้บดเมล็ดกาแฟได้ตามความต้องการเพื่อให้เหมาะกับอุปกรณ์การชงของลูกค้า เช่น บดหยาบหรือบดละเอียดตามต้องการ เมล็ดกาแฟของเรามีคุณภาพสูงและผ่านกระบวนการผลิตที่มีมาตรฐานสูงสุด ได้แก่ HACCP, GMP และได้รับตราเครื่องหมาย HALAL อีกด้วย เพื่อรักษาคุณภาพของกาแฟ ควรเก็บกาแฟให้หลีกเลี่ยงอากาศ ความชื้น ความร้อน และแสง และควรพักกาแฟไว้อย่างน้อย 7-14 วันนับจากวันคั่วบนฉลากเพื่อให้ได้รสชาติที่ดีที่สุด

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?

กาแฟ Pacamara Napoli II Blend เป็นตัวเลือกที่ดีเพราะมีรสชาติเข้มข้นกลมกล่อม มีกลิ่นหอมของโกโก้และคาราเมล อีกทั้งยังสามารถเลือกระดับการบดให้เหมาะสมกับการชงของคุณได้หลากหลาย

3. Bluekoff Premium เกรด A

Bluekoff-Premium-เกรด-A

“Bluekoff A5 ถุงสีน้ำเงิน เมล็ดกาแฟไทย อาราบิก้า 100% เกรด A คั่วเข้ม เป็นกาแฟคุณภาพพรีเมียมจากดอยช้างที่มีกลิ่นหอมและรสชาติที่เข้มข้น ได้รับการการันตีคุณภาพจากผู้เชี่ยวชาญ”

พันธุ์ของเมล็ดกาแฟอาราบิก้า
ระดับการคั่วเข้ม
ปริมาณ50 กรัม
สามารถชงได้15 แก้วขึ้นไป (สำหรับกาแฟเย็น)
ราคา175 บาท

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

Bluekoff A5 ถุงสีน้ำเงิน เมล็ดกาแฟไทย อาราบิก้า 100% เกรด A คั่วเข้ม (Dark Roast) ขนาด 250 กรัม เป็นกาแฟที่คัดสรรมาอย่างพิถีพิถันจากดอยช้าง อ.แม่สรวย จ.เชียงราย เมล็ดกาแฟอาราบิก้าคุณภาพระดับพรีเมียม ผ่านการควบคุมทุกขั้นตอนการผลิตเพื่อให้ได้กลิ่นและรสชาติที่สม่ำเสมอ ได้รับการันตีคุณภาพจากการรีวิว Coffee Review ด้วยคะแนน 93, 92 และ 91 คะแนนจากผู้เชี่ยวชาญ เป็นกาแฟที่มีความเข้มข้น มีกลิ่นหอมของกาแฟคั่วสด ผสานกับรสหวานคาราเมล ช็อกโกแลต และโทนถั่ว รสชาติละมุนดื่มง่าย และมีความเปรี้ยวอมหวานฉ่ำของผลไม้ เหมาะสำหรับการชงด้วยเครื่องชง Espresso, Moka pot, Filter หรือวิธีการอื่น ๆ นอกจากนี้ ยังมีมาตรฐานการผลิตที่ได้รับการยอมรับจาก GHP และ HACCP ทำให้มั่นใจในความสะอาดและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ แนะนำให้เก็บรักษาเมล็ดกาแฟให้หลีกเลี่ยงจากความร้อน ความชื้น แสงแดด และการสัมผัสอากาศโดยตรง เพื่อรักษาคุณภาพของกาแฟให้นานที่สุด

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?

แบรนด์ Bluekoff A5 ถุงสีน้ำเงิน เป็นเมล็ดกาแฟไทย อาราบิก้า 100% เกรด A คั่วเข้ม มีคุณภาพระดับพรีเมียมและได้รับการันตีคุณภาพจากผู้เชี่ยวชาญ ทำให้มั่นใจได้ในความหอมอร่อยและรสชาติที่สม่ำเสมอจากเมล็ดกาแฟคัดพิเศษจากดอยช้าง

4. UCC Roast Master (Ground Coffee)

UCC-Roast-Master-(Ground Coffee)

“ยูซีซี โรสต์ มาสเตอร์ คาเฟ่ อาราบิก้า คั่วอ่อน 250 กรัม เป็นกาแฟคุณภาพสูงที่ใช้เมล็ดอาราบิก้า 100% คั่วอ่อนเพื่อรสชาติเปรี้ยวสดชื่น ดื่มง่าย และเหมาะสำหรับทุกคน”

พันธุ์ของเมล็ดกาแฟอาราบิก้า
ระดับการคั่วอ่อน
ปริมาณ250 กรัม
สามารถชงได้15 แก้วขึ้นไป (สำหรับกาแฟเย็น)
ราคา155 บาท

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

UCC Roast Master เป็นแบรนด์กาแฟที่มีชื่อเสียงด้วยมาตรฐานการผลิตสูงและรสชาติที่เข้มข้น ยูซีซี โรสต์ มาสเตอร์ นำเสนอเมล็ดกาแฟคุณภาพสูงหลายสูตรที่คัดสรรมาอย่างพิถีพิถัน โดยมีหลายระดับการคั่วให้เลือกตามความชอบ สูตรที่แนะนำในที่นี้คือ ยูซีซี โรสต์ มาสเตอร์ คาเฟ่ อาราบิก้า คั่วอ่อน ขนาด 250 กรัม ซึ่งใช้เมล็ดอาราบิก้า 100% ผ่านการคั่วอ่อน ทำให้มีรสชาติขมเพียงเล็กน้อยแต่เปรี้ยวสดชื่น เหมาะสำหรับการชงเมนูกาแฟร้อนหรือกาแฟเย็น เช่น อเมริกาโน่ และไม่เหมาะกับการชงผสมนม สูตรนี้ดื่มง่ายแม้มือใหม่ก็สามารถเพลิดเพลินกับรสชาติที่ไม่ขมมาก ใครที่เป็นคอกาแฟสายผลไม้ไม่ควรพลาด นอกจากนี้ยังมีสูตรอื่น ๆ เช่น เฮาส์เบลนด์ คั่วกลาง และ เอสเพรสโซ่ คั่วเข้ม แต่ละสูตรใช้เมล็ดกาแฟเกรดพรีเมี่ยมแท้ที่คัดสรรมาอย่างดีเยี่ยม มาพร้อมกับหมายเลขอย.ที่รับรองความปลอดภัยและคุณภาพระดับสากล

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?

ยูซีซี โรสต์ มาสเตอร์ เป็นตัวเลือกที่ดีเพราะใช้เมล็ดกาแฟอาราบิก้า 100% คัดสรรคุณภาพสูง ผ่านการคั่วอ่อนทำให้ได้รสชาติเปรี้ยวสดชื่น ดื่มง่ายและเหมาะสำหรับมือใหม่

5. Boncafe Morning Classic Ground

Boncafe-Morning-Classic-Ground

“กาแฟคั่วบด Boncafe Morning ผสมผสานอราบิก้าและโรบัสต้า คั่วเข้มระดับ 5 ให้รสชาติขมเข้ม หอมละมุน เหมาะสำหรับการปลุกตื่นและเพิ่มความสดชื่นในทุกเช้า”

พันธุ์ของเมล็ดกาแฟอาราบิก้า
ระดับการคั่วเข้มมาก
ปริมาณ250 กรัม
สามารถชงได้15 แก้วขึ้นไป (สำหรับกาแฟเย็น)
ราคา133 บาท

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

Boncafe เป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศไทย สำหรับผู้ที่รักในการดื่มกาแฟคุณภาพ ด้วยกาแฟคั่วบดชนิดคลาสสิค เบลนด์ มอร์นิ่ง ในถุงสีแดง ขนาด 250 กรัม ที่ใช้เมล็ดกาแฟสายพันธุ์อราบิก้าและโรบัสต้า นำมาคั่วแบบเข้มข้นระดับ 5 (Very dark) ทำให้ได้รสชาติที่ขมเข้ม หอมละมุน เหมาะสำหรับการชงเมนูกาแฟผสมนม หรือผสมโกโก้เพื่อเพิ่มความกลมกล่อม เป็นกาแฟที่เหมาะสำหรับนักดื่มกาแฟสายเข้ม ที่ต้องการปลุกตื่นจากความง่วงเหงาในตอนเช้า และเพิ่มความกระปรี้กระเปร่า ให้พร้อมรับเช้าวันใหม่อย่างสดใส กลิ่นหอมไหม้จากการคั่วที่รุนแรงจะทำให้คุณหลงใหลในรสชาติของกาแฟที่แท้จริง แต่มีข้อแนะนำคือรสชาติที่เข้มนี้อาจจะไม่เหมาะกับมือใหม่ที่เพิ่งหัดดื่มกาแฟ สินค้าของ Boncafe ยังเป็นที่รู้จักในวงกว้างทั้งในการซื้อสำหรับชงรับประทานเองหรือร้านกาแฟทั่วไปอีกด้วย

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?

กาแฟคั่วบด Boncafe มอร์นิ่ง เป็นตัวเลือกที่ดีเพราะใช้เมล็ดกาแฟคุณภาพสูงจากอราบิก้าและโรบัสต้า คั่วเข้มระดับ 5 ทำให้ได้รสชาติขมเข้ม หอมละมุน และเหมาะสำหรับการชงเมนูผสมเพิ่มความกลมกล่อมในทุกเช้าวันใหม่

6. HILLKOFF

HILLKOFF

“HILLKOFF เมล็ดกาแฟอาราบิก้าคั่วเข้มที่มีกลิ่นหอมอโรม่าหอมเข้มข้นและรสสัมผัสนุ่มนวล เหมาะสำหรับทุกเมนูกาแฟโดยเฉพาะกาแฟนมและเอสเปรสโซ่”

พันธุ์ของเมล็ดกาแฟอาราบิก้า
ระดับการคั่วเข้ม
ปริมาณ250 กรัม
สามารถชงได้15 แก้วขึ้นไป (สำหรับกาแฟเย็น)
ราคา135 บาท

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

HILLKOFF เมล็ดกาแฟอาราบิก้าคั่วเข้มแบบพิเศษที่มีกลิ่นหอมอโรม่าจากการคั่วเข้มที่เป็นเอกลักษณ์ เมล็ดกาแฟมีผิวเงางามจากการคั่วสดใหม่ ทำให้มีกลิ่นหอมโดดเด่นและรสชาติที่เข้มข้น สำหรับผู้ที่ชื่นชอบกาแฟรสขมพิเศษ HILLKOFF เป็นตัวเลือกที่เหมาะสม นอกจากนี้ กาแฟสูตรนี้ยังมีสัมผัสที่นุ่มนวล ทำให้เหมาะกับการนำมาชงเป็นเมนูกาแฟนมซึ่งจะเพิ่มความนวลและเข้มข้นของรสชาติได้อย่างเต็มที่ หากนำมาชงเป็นเอสเปรสโซ่ก็จะได้รสชาติกาแฟที่ครบรสเต็มอรรถรส แต่ควรทราบว่ากาแฟสูตรนี้ไม่ได้ผ่านการบดมาให้ จึงไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการกาแฟแบบบดสำเร็จแล้ว กาแฟ HILLKOFF คั่วเข้มนี้ทำจากกาแฟอาราบิก้าแท้ 100% โดยผ่านกระบวนการ Wet Process และปลูกที่ความสูง 1,100-1,200 เมตร ทำให้ได้รสชาติและกลิ่นที่มีเอกลักษณ์ ด้วยรสชาติที่หลากหลาย เช่น Pecan, Honey, Sugar Cane, Hazelnut, Soya Sauce, Pandan และ Steam Bamboo Leaf น้ำหนักสุทธิ 250 กรัม สำหรับการเก็บรักษาควรปิดถุงให้มิดชิดหรือเก็บในภาชนะที่แน่นหนาหลังจากเปิดถุงและควรเก็บในที่ที่มีความชื้นต่ำเพื่อรักษาคุณภาพและรสชาติที่ดีที่สุด

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?

ผลิตภัณฑ์นี้เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบกาแฟรสขมเข้มและหอมอโรม่าที่โดดเด่น อีกทั้งยังมีรสสัมผัสนุ่มนวลที่เพิ่มความนวลและเข้มข้นในทุกเมนูกาแฟ

7. Doi Chaang Supreme

Doi-Chaang-Supreme

“กาแฟดอยช้าง เป็นกาแฟอราบิก้าคุณภาพสูงจากแหล่งเพาะปลูกชั้นนำในประเทศไทย คั่วระดับกลางค่อนเข้ม มีกลิ่นหอมและรสชาติเข้มข้นที่เป็นเอกลักษณ์”

พันธุ์ของเมล็ดกาแฟอาราบิก้า
ระดับการคั่วค่อนเข้ม
ปริมาณ250 กรัม
สามารถชงได้15 แก้วขึ้นไป (สำหรับกาแฟเย็น)
ราคา319 บาท

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

กาแฟจากดอยช้างเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะของกาแฟคุณภาพสูงจากแหล่งเพาะปลูกชั้นนำในประเทศไทย ด้วยสภาพอากาศหนาวและความชื้นที่เหมาะสม ทำให้ได้เมล็ดกาแฟที่มีกลิ่นหอมและรสชาติเข้มข้นอันเป็นเอกลักษณ์ เมล็ดกาแฟดอยช้างคั่วระดับกลางค่อนเข้ม (Medium to Dark) สูตรนี้เน้นความลงตัวและสามารถนำมาชงได้หลากหลายเมนู โดยเฉพาะเอสเพรสโซ่ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความเข้มข้นของรสชาติและบอดี้กาแฟที่สูง ผลิตจากเมล็ดกาแฟอราบิก้าเกรด A น้ำหนักสุทธิ 250 กรัมต่อถุง ผ่านการรับรองมาตรฐานการผลิตจากสถาบันที่เชี่ยวชาญ ให้คุณมั่นใจในคุณภาพกาแฟดอยช้างในทุกแก้วที่คุณชง เป็นเอกลักษณ์ของกาแฟไทยที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?

กาแฟดอยช้างเป็นตัวเลือกที่ดีเพราะใช้เมล็ดกาแฟอราบิก้าคุณภาพสูงจากแหล่งเพาะปลูกชั้นนำที่มีสภาพอากาศเหมาะสม ทำให้ได้รสชาติและกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ที่ยากจะหาได้จากที่อื่น

8. The Coffee Bean

The-Coffee-Bean

“The Coffee Bean กาแฟอาราบิก้า 100% คั่วกลางเกือบเข้ม มีกลิ่นหอมของดอกไม้ป่าและคาราเมล ให้รสชาตินุ่มนวลและสมดุลจากแหล่งเพาะปลูกคุณภาพในภาคเหนือของไทย”

พันธุ์ของเมล็ดกาแฟอาราบิก้า
ระดับการคั่วกลางค่อนเข้ม
ปริมาณ200 กรัม
สามารถชงได้10 แก้วขึ้นไป (สำหรับกาแฟเย็น)
ราคา161 บาท

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

The Coffee Bean เป็นแบรนด์กาแฟที่ให้ความสำคัญกับรายละเอียดของผู้ดื่ม โดยเมล็ดกาแฟอาราบิก้าจากแบรนด์นี้เป็นชนิดคั่วกลางเกือบเข้มที่ออกแบบรสชาติเน้นไปในเรื่องของความสมดุล ทั้งกลิ่นหอม รสสัมผัสนุ่มนวล และรสชาติที่ไม่ขมเข้มจนเกินไป เมล็ดกาแฟมีกลิ่นหอมของดอกไม้ป่าและคาราเมลที่มาจากคุณภาพของอากาศและดินที่เพาะปลูกโดยตรง ซึ่งคัดคุณภาพเมล็ดกาแฟเกรด A จากแหล่งกาแฟภาคเหนือของไทย เพื่อให้ได้กาแฟที่มีรสชาติออกมานุ่มๆ แต่แฝงความดุดัน นอกจากนี้บรรจุภัณฑ์ยังมีรายละเอียดข้อมูลของกาแฟแบบครบถ้วน ทั้งในเรื่องของการคั่วระดับ Full City Roast บดระดับ Medium Fine ที่เหมาะสำหรับการชงแบบ Pour Over, Aero Press, และ Siphon โดยคั่วตามออเดอร์เพื่อรับประกันความสดใหม่ กาแฟอาราบิก้า 100% เหมาะสำหรับดื่มในตอนเช้าหรือตอนบ่ายเพื่อปลุกความกระตือรือร้นในแต่ละวันของท่าน

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?

The Coffee Bean กาแฟอาราบิก้า 100% คั่วกลางเกือบเข้ม มีกลิ่นหอมและรสชาติสมดุล ให้ประสบการณ์การดื่มกาแฟที่นุ่มนวลและคุณภาพสูงจากแหล่งเพาะปลูกชั้นเยี่ยมในภาคเหนือของไทย

9. Cherd Chai

Cherd-Chai

“เมล็ดกาแฟอาราบิก้า Cherd Chai จากอำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย มีกลิ่นหอมสดชื่นของผลไม้และดอกไม้ พร้อมให้เลือกหลายระดับการคั่วเพื่อความลงตัวในทุกถ้วย”

พันธุ์ของเมล็ดกาแฟอาราบิก้า
ระดับการคั่วอ่อน
ปริมาณ500 กรัม
สามารถชงได้30 แก้วขึ้นไป (สำหรับกาแฟเย็น)
ราคา399 บาm

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

เมล็ดกาแฟอาราบิก้าของ Cherd Chai ปลูกจากอำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย ซึ่งมีสภาพภูมิอากาศที่เหมาะสมสำหรับการปลูกกาแฟ ทำให้เมล็ดกาแฟนี้มีกลิ่นหอมสดชื่นของผลไม้และดอกไม้ที่เด่นชัด ความพิเศษของกาแฟนี้คือสามารถเลือกได้หลายระดับการคั่ว ทั้งคั่วอ่อนที่ให้กลิ่นหอมและรสเปรี้ยวกำลังดี คั่วกลางที่ให้บอดี้ปานกลางและความสดชื่น หรือคั่วเข้มที่มีบอดี้มากและรสชาติอบอวล เมล็ดกาแฟนี้ใช้กระบวนการผลิตแบบ Washed Process ที่คงไว้ซึ่งรสชาติธรรมชาติของเมล็ด โดยไม่ใส่สารแต่งกลิ่น ทำให้คุณได้ลิ้มรสชาติดั้งเดิมของกาแฟอย่างแท้จริง เมล็ดกาแฟนี้เหมาะสำหรับการดริปหรือฟิลเตอร์ และสามารถทานเป็นกาแฟดำหรือกาแฟนมได้ตามความชอบ นอกจากนี้ ยังมีบริการบดฟรีเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าอีกด้วย

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?

เมล็ดกาแฟอาราบิก้า Cherd Chai คัดสรรจากอำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย มีกลิ่นหอมของผลไม้และดอกไม้ที่สดชื่น พร้อมให้เลือกหลายระดับการคั่ว เพื่อให้คุณได้รับรสชาติดั้งเดิมของกาแฟอย่างแท้จริงและสดใหม่ในทุกถ้วยดื่ม

10. Caffe Passalacqua

Caffe-Passalacqua

“Passalacqua Alambra เป็นกาแฟคั่วบดพรีเมียมจากอิตาลีที่ผสมผสานเมล็ดอาราบิก้าและโรบัสต้าอย่างลงตัว ให้รสชาติเข้มข้นและหอมกรุ่น เหมาะสำหรับการชงกาแฟแบบ Moka Pot”

พันธุ์ของเมล็ดกาแฟอาราบิก้า, โรบัสต้า
ระดับการคั่วกลางค่อนเข้ม
ปริมาณ250 กรัม
สามารถชงได้15 แก้วขึ้นไป (สำหรับกาแฟเย็น)
ราคา190 บาท

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

Passalacqua Alambra กาแฟคั่วบดระดับพรีเมียมจากอิตาลี เป็นการผสมผสานระหว่างเมล็ดกาแฟอาราบิก้าและโรบัสต้าชั้นเลิศที่ผ่านการคั่วอย่างพิถีพิถัน ทำให้ได้รสชาตินุ่มนวลและกลมกล่อม หอมกรุ่นด้วยกลิ่นคั่วแบบธรรมชาติที่มีกลิ่นอายของดาร์กช็อกโกแลตและคุกกี้ รสชาติขมระดับปานกลาง เหมาะสำหรับการดื่มแบบกาแฟดำ กาแฟเย็น หรือผสมนม แต่ถ้าต้องการสัมผัสรสชาติแท้ ๆ ของกาแฟ ควรใช้หม้อชงกาแฟแบบ Moka Pot ซึ่งจะสกัดเอสเปรสโซออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ Passalacqua Alambra เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับผู้ที่หลงใหลในกาแฟและต้องการให้การดื่มกาแฟในแต่ละวันเป็นประสบการณ์สุดพิเศษที่สามารถทำได้ที่บ้าน ด้วยกลิ่นหอมและรสชาติเข้มข้นที่ลงตัว น้ำหนักสุทธิ 250 กรัม

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?

Passalacqua Alambra เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมเพราะผสมผสานระหว่างอาราบิก้าและโรบัสต้าชั้นเลิศที่ให้รสชาติเข้มข้น หอมกรุ่น และเหมาะสำหรับการชงกาแฟแบบ Moka Pot เพื่อสัมผัสรสชาติแท้ ๆ ของกาแฟอิตาลี

เลือกซื้อเมล็ดกาแฟอาราบิก้าอย่างไรให้ได้คุณภาพดี

เลือกซื้อเมล็ดกาแฟอาราบิก้าอย่างไรให้ได้คุณภาพดี

การเลือกซื้อเมล็ดกาแฟอาราบิก้าที่มีคุณภาพดีเป็นขั้นตอนสำคัญสำหรับผู้ที่หลงใหลในรสชาติและกลิ่นหอมของกาแฟอาราบิก้า ไม่ว่าจะเป็นการชงกาแฟที่บ้านหรือในร้านกาแฟ การมีเมล็ดกาแฟที่ดีจะช่วยให้กาแฟของคุณมีรสชาติที่สมบูรณ์แบบ บทความนี้จะแนะนำเคล็ดลับในการเลือกซื้อเมล็ดกาแฟอาราบิก้า การตรวจสอบคุณภาพของเมล็ดกาแฟ และแนะนำแบรนด์เมล็ดกาแฟอาราบิก้ายอดนิยมในตลาด

เคล็ดลับการเลือกเมล็ดกาแฟอาราบิก้าในตลาด

  1. ดูวันที่คั่ว: วันที่คั่วของเมล็ดกาแฟมีความสำคัญอย่างยิ่ง เมล็ดกาแฟที่สดใหม่จะมีรสชาติและกลิ่นหอมที่ดีที่สุด ควรเลือกซื้อเมล็ดกาแฟที่มีวันที่คั่วไม่เกินหนึ่งเดือน
  2. ตรวจสอบบรรจุภัณฑ์: เลือกเมล็ดกาแฟที่บรรจุในถุงที่มีวาล์วกันอากาศ (One-way valve) เพื่อรักษาความสดของกาแฟและป้องกันไม่ให้อากาศเข้าไปทำลายรสชาติ
  3. พิจารณาสายพันธุ์และแหล่งปลูก: เมล็ดกาแฟอาราบิก้ามีหลายสายพันธุ์และแหล่งปลูกที่แตกต่างกัน การเลือกซื้อเมล็ดกาแฟจากแหล่งปลูกที่มีชื่อเสียง เช่น โคลัมเบีย เอธิโอเปีย หรือบราซิล จะช่วยให้ได้เมล็ดกาแฟที่มีคุณภาพสูง

การตรวจสอบคุณภาพของเมล็ดกาแฟอาราบิก้า

  1. ดูสีและความสม่ำเสมอของเมล็ด: เมล็ดกาแฟที่มีคุณภาพดีจะมีสีที่สม่ำเสมอและไม่มีรอยแตกหรือจุดด่างดำ เมล็ดที่มีรอยแตกหรือสีที่ไม่สม่ำเสมออาจเป็นเมล็ดกาแฟที่มีคุณภาพต่ำหรือถูกเก็บไว้นานเกินไป
  2. การสัมผัสและการบด: เมล็ดกาแฟที่ดีจะมีความแข็งแรงและไม่แตกง่ายเมื่อถูกกด เมื่อบดเมล็ดกาแฟควรมีความละเอียดและสม่ำเสมอ ซึ่งจะช่วยให้การชงกาแฟได้รสชาติที่ดี
  3. กลิ่น: เมล็ดกาแฟอาราบิก้าที่ดีจะมีกลิ่นหอมที่ชัดเจนและมีความซับซ้อน ควรหลีกเลี่ยงเมล็ดกาแฟที่มีกลิ่นเหม็นหืนหรือกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์

การใช้ชุดดริปกาแฟสำหรับการชงกาแฟ

การใช้งานชุดดริปกาแฟเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีในการชงกาแฟอาราบิก้าให้ได้รสชาติที่สมบูรณ์แบบ ชุดดริปกาแฟแบรนด์ที่ดีที่สุด ช่วยให้การชงกาแฟเป็นเรื่องง่ายและสนุกมากยิ่งขึ้น ด้วยการออกแบบที่ใช้งานง่ายและสามารถควบคุมอุณหภูมิและปริมาณน้ำได้อย่างแม่นยำ การใช้ชุดดริปกาแฟช่วยให้สามารถควบคุมการสกัดกาแฟได้ตามความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการชงแบบเข้มหรืออ่อน การเลือกใช้ชุดดริปกาแฟที่มีคุณภาพดีจะช่วยให้กาแฟที่ชงออกมามีรสชาติและกลิ่นหอมที่ดีที่สุด ดังนั้น ควรลงทุนในการซื้อชุดดริปกาแฟที่มีคุณภาพเพื่อให้ได้ประสบการณ์การดื่มกาแฟที่ดีที่สุด


เปรียบเทียบระหว่างกาแฟอาราบิก้าและโรบัสต้า

เปรียบเทียบระหว่างกาแฟอาราบิก้าและโรบัสต้า

การดื่มกาแฟเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายทั่วโลก และเมล็ดกาแฟที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือกาแฟอาราบิก้าและกาแฟโรบัสต้า ทั้งสองชนิดมีความแตกต่างกันอย่างมากทั้งในด้านกายภาพ รสชาติ และกลิ่นหอม รวมถึงข้อดีและข้อเสียของการดื่มกาแฟแต่ละชนิด ในบทความนี้ เราจะมาทำความรู้จักและเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างกาแฟอาราบิก้าและกาแฟโรบัสต้าให้ละเอียดมากขึ้น

ความแตกต่างทางกายภาพระหว่างอาราบิก้าและโรบัสต้า

  1. รูปร่างของเมล็ดกาแฟ:
    • กาแฟอาราบิก้า: เมล็ดกาแฟมีรูปร่างยาวและเรียว มีร่องตรงกลางที่โค้งเล็กน้อย
    • กาแฟโรบัสต้า: เมล็ดกาแฟมีรูปร่างกลมและสั้น มีร่องตรงกลางที่ตรง
  2. ระดับความสูงในการปลูก:
    • กาแฟอาราบิก้า: ปลูกในพื้นที่สูง ตั้งแต่ 600 เมตรขึ้นไปจากระดับน้ำทะเล สภาพอากาศเย็นและมีความชื้นสูง
    • กาแฟโรบัสต้า: ปลูกในพื้นที่ต่ำ ตั้งแต่ 0-600 เมตรจากระดับน้ำทะเล สภาพอากาศร้อนและแห้ง
  3. ความทนทานต่อโรคและแมลง:
    • กาแฟอาราบิก้า: มีความทนทานต่อโรคและแมลงต่ำ จึงต้องการการดูแลรักษาที่มากกว่า
    • กาแฟโรบัสต้า: มีความทนทานต่อโรคและแมลงสูงกว่า สามารถปลูกได้ง่ายและให้ผลผลิตมากกว่า

รสชาติและกลิ่นหอมที่แตกต่างกัน

  1. รสชาติ:
    • กาแฟอาราบิก้า: มีรสชาติที่หลากหลายและซับซ้อน มีรสหวานและเปรี้ยวเล็กน้อย รวมถึงมีรสชาติผลไม้และดอกไม้
    • กาแฟโรบัสต้า: มีรสชาติที่เข้มข้นและขม มีรสชาติโทนดินและถั่ว รวมถึงรสชาติช็อกโกแลตเข้ม
  2. กลิ่นหอม:
    • กาแฟอาราบิก้า: มีกลิ่นหอมที่หอมหวานและซับซ้อน มีความหอมของดอกไม้ ผลไม้ และถั่ว
    • กาแฟโรบัสต้า: มีกลิ่นหอมที่เข้มข้นและแรง มีกลิ่นโทนดินและถั่ว

ข้อดีและข้อเสียของการดื่มกาแฟทั้งสองชนิด

  1. ข้อดีของกาแฟอาราบิก้า:
    • รสชาติหลากหลายและซับซ้อน
    • มีกลิ่นหอมหวานและน่าหลงใหล
    • มีปริมาณคาเฟอีนต่ำกว่า ทำให้ดื่มได้มากกว่าโดยไม่รู้สึกตื่นเต้นมาก
  2. ข้อเสียของกาแฟอาราบิก้า:
    • ราคาแพงกว่าเนื่องจากกระบวนการปลูกที่ต้องการการดูแลมาก
    • มีความทนทานต่อโรคและแมลงต่ำ ทำให้ต้องใช้สารเคมีและยาฆ่าแมลงในการปลูก
  3. ข้อดีของกาแฟโรบัสต้า:
    • มีรสชาติที่เข้มข้นและขม ทำให้เหมาะสำหรับการชงเอสเปรสโซ
    • มีกลิ่นหอมที่แรงและมีเอกลักษณ์
    • มีปริมาณคาเฟอีนสูงกว่า ทำให้มีความกระตุ้นและตื่นเต้นมากขึ้น
  4. ข้อเสียของกาแฟโรบัสต้า:
    • รสชาติและกลิ่นหอมไม่หลากหลายและซับซ้อนเท่ากาแฟอาราบิก้า
    • มักมีรสขมและเข้มข้นเกินไปสำหรับบางคน

วิธีการคั่วและการบดเมล็ดกาแฟอาราบิก้า

วิธีการคั่วและการบดเมล็ดกาแฟอาราบิก้า

การทำกาแฟให้อร่อยและมีคุณภาพดีนั้นไม่ใช่เพียงแค่การเลือกเมล็ดกาแฟที่ดีเท่านั้น แต่ยังรวมถึงกระบวนการคั่วและการบดที่เหมาะสม บทความนี้จะมาแนะนำวิธีการคั่วและการบดเมล็ดกาแฟอาราบิก้า รวมถึงเทคนิคการเก็บรักษาเมล็ดกาแฟให้คงความสด

กระบวนการคั่วเมล็ดกาแฟอาราบิก้าให้ได้รสชาติที่สมบูรณ์แบบ

  1. เลือกเมล็ดกาแฟคุณภาพ:
    • การเริ่มต้นด้วยเมล็ดกาแฟที่มีคุณภาพดีเป็นสิ่งสำคัญ ควรเลือกเมล็ดกาแฟอาราบิก้าที่สดใหม่และผ่านการตรวจสอบคุณภาพ
  2. การเตรียมอุปกรณ์คั่ว:
    • การคั่วเมล็ดกาแฟสามารถทำได้ด้วยอุปกรณ์หลากหลาย เช่น เครื่องคั่วกาแฟไฟฟ้า หรือกระทะคั่วกาแฟแบบดั้งเดิม
  3. กระบวนการคั่ว:
    • เริ่มคั่วเมล็ดกาแฟด้วยอุณหภูมิที่ไม่สูงเกินไปและค่อย ๆ เพิ่มอุณหภูมิ
    • ระยะเวลาการคั่วขึ้นอยู่กับระดับความเข้มที่ต้องการ เช่น คั่วอ่อน (Light Roast) ใช้เวลาสั้น รสชาติจะออกเปรี้ยวและมีกลิ่นหอมของผลไม้ คั่วกลาง (Medium Roast) ใช้เวลาปานกลาง รสชาติจะสมดุลและกลิ่นหอม คั่วเข้ม (Dark Roast) ใช้เวลานาน รสชาติจะขมและเข้มข้น
    • ฟังเสียง “crack” ที่เกิดขึ้นในกระบวนการคั่ว เสียงแรก (First Crack) เป็นสัญญาณว่ากาแฟเริ่มสุก เสียงที่สอง (Second Crack) เป็นสัญญาณว่ากาแฟเริ่มเข้าสู่ระดับคั่วเข้ม

การเลือกอุปกรณ์และวิธีการบดเมล็ดกาแฟ

  1. เลือกอุปกรณ์บดกาแฟ:
    • เครื่องบดมือ (Manual Grinder): เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมความละเอียดของการบดและต้องการความประหยัด
    • เครื่องบดไฟฟ้า (Electric Grinder): เหมาะสำหรับการใช้งานที่รวดเร็วและต้องการความสะดวกสบาย
  2. การบดเมล็ดกาแฟให้เหมาะสมกับวิธีการชง:
    • บดหยาบ (Coarse Grind): เหมาะสำหรับการชงแบบ French Press หรือ Cold Brew
    • บดปานกลาง (Medium Grind): เหมาะสำหรับการชงแบบ Drip Coffee Maker หรือ Pour Over
    • บดละเอียด (Fine Grind): เหมาะสำหรับการชงแบบ Espresso หรือ Aeropress
    • บดละเอียดมาก (Extra Fine Grind): เหมาะสำหรับการชงแบบ Turkish Coffee

เทคนิคการเก็บรักษาเมล็ดกาแฟอาราบิก้าให้คงความสด

  1. เก็บในภาชนะที่ปิดสนิท:
    • ควรเก็บเมล็ดกาแฟในภาชนะที่ปิดสนิทเพื่อป้องกันอากาศและความชื้นไม่ให้เข้าสู่เมล็ดกาแฟ
  2. หลีกเลี่ยงแสงและความร้อน:
    • เก็บเมล็ดกาแฟในที่มืดและเย็นเพื่อป้องกันการเสื่อมสภาพของเมล็ดกาแฟ
  3. ไม่เก็บในตู้เย็น:
    • การเก็บเมล็ดกาแฟในตู้เย็นอาจทำให้เมล็ดกาแฟดูดกลิ่นอื่น ๆ และความชื้นจากตู้เย็น
  4. บดเมล็ดกาแฟก่อนการชง:
    • เพื่อรักษาความสดและกลิ่นหอม ควรบดเมล็ดกาแฟเฉพาะเมื่อจะชงกาแฟเท่านั้น

การเลือกใช้เครื่องบดกาแฟให้เหมาะสม

การเลือกใช้เครื่องบดกาแฟเป็นสิ่งสำคัญที่ส่งผลต่อรสชาติของกาแฟอย่างมาก 10 แบรนด์เครื่องบดกาแฟ ในปัจจุบันนี้มีหลายประเภทให้เลือก ตั้งแต่เครื่องบดมือที่ให้ความละเอียดที่ควบคุมได้จนถึงเครื่องบดไฟฟ้าที่สะดวกและรวดเร็ว ควรเลือกเครื่องบดที่สามารถปรับระดับความละเอียดได้ตามความต้องการ เช่น การบดหยาบสำหรับการชงแบบ French Press หรือการบดละเอียดสำหรับการชงแบบ Espresso นอกจากนี้ ควรเลือกเครื่องบดที่มีคุณภาพและมีวัสดุที่ทนทาน เพื่อให้สามารถใช้งานได้นานและรักษาความสดของเมล็ดกาแฟได้ดี

สรุปได้ว่า การเลือก เมล็ดกาแฟอาราบิก้า ยี่ห้อไหนดี ที่มีคุณภาพสูงสำหรับการชงกาแฟที่บ้านไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ด้วยความรู้และหลักเกณฑ์ที่เราได้แบ่งปันในบทความนี้ คุณจะสามารถตัดสินใจเลือกซื้อได้อย่างมั่นใจ ไม่ว่าจะเป็นการพิจารณาคุณภาพของเมล็ดกาแฟ แหล่งที่มา รสชาติและกลิ่นหอม หรือการคั่วเมล็ดกาแฟ ล้วนมีความสำคัญในการสร้างสรรค์กาแฟที่ดีที่สุดสำหรับคุณ หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์และทำให้การเลือกซื้อเมล็ดกาแฟของคุณเป็นเรื่องที่ง่ายและสนุกยิ่งขึ้น เพลิดเพลินกับการชงและดื่มกาแฟที่มีคุณภาพและรสชาติที่คุณชื่นชอบ

คำถามที่พบบ่อย

1. ทำไมเมล็ดกาแฟอาราบิก้าถึงมีคุณภาพดีกว่าเมล็ดกาแฟสายพันธุ์อื่น? เมล็ดกาแฟอาราบิก้ามีคุณภาพดีกว่าเพราะมีความซับซ้อนของรสชาติและกลิ่นหอมที่โดดเด่น รวมถึงมีความเป็นกรดที่สมดุล และมีความหวานที่เป็นธรรมชาติ ทำให้กาแฟที่ได้มีรสชาติที่หลากหลายและน่าลิ้มลองมากกว่า

2. วิธีการคั่วเมล็ดกาแฟมีผลต่อรสชาติของกาแฟอย่างไร? วิธีการคั่วเมล็ดกาแฟมีผลอย่างมากต่อรสชาติของกาแฟ เช่น การคั่วอ่อนจะให้รสชาติที่สดชื่นและมีความเป็นกรดสูง การคั่วกลางจะมีรสชาติที่สมดุลระหว่างความหวานและความขม ส่วนการคั่วเข้มจะให้รสชาติที่เข้มข้นและมีความขมมากขึ้น

3. ควรเก็บรักษาเมล็ดกาแฟอย่างไรให้คงความสดใหม่? เมล็ดกาแฟควรเก็บในภาชนะที่ปิดสนิทและเก็บในที่แห้งและเย็น หลีกเลี่ยงการเก็บในที่ที่มีแสงแดดส่องถึงและมีความชื้นสูง นอกจากนี้ การใช้ถุงที่มีวาล์วกันอากาศจะช่วยรักษาความสดใหม่ของเมล็ดกาแฟได้ดี

4. เมล็ดกาแฟจากแหล่งปลูกที่ต่างกันมีรสชาติแตกต่างกันอย่างไร? เมล็ดกาแฟจากแหล่งปลูกที่ต่างกันจะมีรสชาติที่แตกต่างกันเนื่องจากสภาพภูมิอากาศ ดิน และวิธีการปลูกที่แตกต่างกัน เช่น เมล็ดกาแฟจากเอธิโอเปียมักจะมีรสชาติผลไม้และดอกไม้ ในขณะที่เมล็ดกาแฟจากโคลัมเบียมักจะมีรสชาติที่กลมกล่อมและมีความเป็นกรดต่ำกว่า

Scroll to Top