10 อันดับ สว่านกระแทกยอดนิยม ได้รับการยอมรับในคุณภาพและใช้วัสดุระดับพรีเมียม

Cover-366-สว่านกระแทก

สว่านกระแทกเป็นเครื่องมือที่สำคัญและจำเป็นสำหรับงานเจาะที่ต้องการพลังและความแม่นยำ ไม่ว่าจะเป็นงานเจาะผนัง ปูน หรือเหล็ก สว่านกระแทกสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ การเลือกใช้สว่านกระแทกที่มีคุณภาพจะช่วยให้การทำงานเป็นไปอย่างรวดเร็วและสะดวกมากยิ่งขึ้น เราเลยจะมาแนะนำ 10 แบรนด์ สว่านกระแทกยอดนิยม ซึ่งแต่ละแบรนด์มีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป แต่ยังคงมีคุณสมบัติหลักที่เหมือนกัน ได้แก่ ความแข็งแรงของวัสดุ ความสามารถในการปรับระดับความเร็วและแรงกระแทก ความสะดวกในการใช้งาน และการรับประกันที่น่าเชื่อถือ

นอกจากนี้ยังมีหัวข้อที่มีประโยชน์เพิ่มเติมที่ช่วยให้คุณเข้าใจความแตกต่างระหว่างสว่านกระแทกและสว่านไฟฟ้าทั่วไป วิธีการปรับแต่งสว่านกระแทกให้เหมาะสมกับวัสดุที่ใช้งาน และเคล็ดลับในการบำรุงรักษาสว่านกระแทกเพื่อให้อายุการใช้งานยาวนานขึ้น ซึ่งข้อมูลทั้งหมดนี้จะช่วยให้คุณเลือกใช้และดูแลรักษาสว่านกระแทก เพื่อให้คุณมั่นใจว่าคุณได้เลือกสว่านที่ดีที่สุดสำหรับการทำงานของคุณ

หลักเกณฑ์ที่ใช้ในการจัดอันดับสินค้า

ในการเลือกและจัดอันดับแบรนด์สว่านกระแทก 10 อันดับแรก เราได้ใช้เกณฑ์หลายประการเพื่อให้แน่ใจว่าแบรนด์ที่เราแนะนำนั้นมีคุณภาพและเหมาะสมกับความต้องการของผู้ใช้งานทั่วไป เกณฑ์ที่เราใช้มีดังนี้

  1. คุณภาพของวัสดุ: วัสดุที่ใช้ผลิตสว่านกระแทกต้องแข็งแรงและทนทาน สามารถทนต่อการใช้งานหนักได้โดยไม่เสื่อมสภาพเร็ว
  2. ประสิทธิภาพในการทำงาน: เราประเมินจากความสามารถในการเจาะวัสดุแข็ง เช่น คอนกรีตและอิฐ รวมถึงความสามารถในการปรับระดับความเร็วและแรงกระแทกให้เหมาะสมกับงานแต่ละประเภท
  3. ความสะดวกในการใช้งาน: สว่านกระแทกที่ดีต้องมีการออกแบบที่ใช้งานง่าย น้ำหนักเบา และมีการควบคุมที่สะดวกสบาย ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนหัวสว่านหรือการปรับระดับแรงกระแทก
  4. ระบบความปลอดภัย: เราให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของผู้ใช้งาน โดยพิจารณาว่ามีฟังก์ชันป้องกันการเกิดอุบัติเหตุหรือไม่ เช่น ระบบเบรกทันทีเมื่อปล่อยปุ่มใช้งาน
  5. การรับประกันและบริการหลังการขาย: เราพิจารณาแบรนด์ที่มีการรับประกันสินค้าที่ครอบคลุมและมีบริการหลังการขายที่น่าเชื่อถือ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญเมื่อผู้ใช้ต้องการความมั่นใจในคุณภาพของผลิตภัณฑ์
  6. ราคาและความคุ้มค่า: เราเปรียบเทียบราคาของสว่านกระแทกแต่ละแบรนด์กับคุณสมบัติและประสิทธิภาพที่ได้รับ เพื่อให้แน่ใจว่าผู้ใช้จะได้รับสินค้าที่มีความคุ้มค่าในราคาที่เหมาะสม
  7. รีวิวและความคิดเห็นจากผู้ใช้งานจริง: เรารวบรวมข้อมูลจากรีวิวและความคิดเห็นของผู้ใช้งานจริง เพื่อดูว่าแบรนด์ใดได้รับความนิยมและเป็นที่พึงพอใจของผู้ใช้มากที่สุด

1.DEWALT DCD805E1T-B1

1-DEWALT-DCD805E1T-B1

DEWALT สว่านกระแทกไร้สายรุ่น DCD805E1T-B1 มาพร้อมมอเตอร์ไร้แปรงถ่าน แรงบิดสูง 90 นิวตันเมตร ปรับความเร็วได้ 2 ระดับ และมีไฟ LED ปรับได้ 3 ระดับ เหมาะสำหรับงานหนักและต่อเนื่อง

ประเภทไร้สาย
วัสดุพลาสติก, โลหะ
น้ำหนัก1.2 กิโลกรัม
ความเร็วรอบสูงสุด1,650 รอบ/นาที
อัตรากระแทก34,000 ครั้ง/นาที

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

DEWALT รุ่น DCD805E1T-B1 สว่านกระแทกไร้สายที่มาพร้อมกับมอเตอร์ไร้แปรงถ่าน ให้กำลังในการทำงานสูงสุดที่ 850 วัตต์ และมีแรงบิดสูงถึง 90 นิวตันเมตร (Nm) อัตราการเจาะกระแทกอยู่ที่ 34,000 ครั้งต่อนาที (BPM) ซึ่งทำให้เครื่องนี้เหมาะสำหรับงานหนักและต่อเนื่อง นอกจากนี้ สว่านรุ่นนี้ยังสามารถปรับความเร็วได้ 2 ระดับ ได้แก่ 0-450 รอบต่อนาที และ 0-1,650 รอบต่อนาที เหมาะสำหรับการเจาะวัสดุต่างๆ เช่น ไม้ โลหะ และอิฐ ตัวเครื่องมาพร้อมกับแบตเตอรี่ Powerstack ขนาด 1.7 แอมแปร์-ชั่วโมง (Ah) ซึ่งมีขนาดเล็กแต่ให้พลังงานสูงกว่าแบตเตอรี่ 2.0Ah รุ่นปกติถึง 50% และมาพร้อมแท่นชาร์จและกล่อง TSTAK สำหรับการจัดเก็บและพกพา หัวจับดอกเจาะมีขนาด 13 มิลลิเมตร (mm) ทำจากโลหะที่ทนทาน

ไฟ LED ที่ติดตั้งในเครื่องสามารถปรับมุมแสงได้ 3 ระดับ และเปิดค้างได้นานถึง 20 นาที ทำให้การใช้งานในพื้นที่มืดเป็นไปอย่างสะดวก DEWALT รุ่นนี้มีการรับประกัน 3 ปี โดยการรับประกันครอบคลุมคุณภาพในการผลิต ยกเว้นชิ้นส่วนที่สึกหรอตามการใช้งานปกติ รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถตรวจสอบได้จากบัตรรับประกันที่มาพร้อมกับผลิตภัณฑ์

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?

สว่านกระแทกไร้สาย DEWALT รุ่น DCD805E1T-B1 เป็นตัวเลือกที่ดีเพราะมาพร้อมมอเตอร์ไร้แปรงถ่านที่มีประสิทธิภาพสูง ให้แรงบิดถึง 90 นิวตันเมตร ทำให้สามารถเจาะและกระแทกวัสดุต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังมีไฟ LED ปรับได้ 3 ระดับ ช่วยให้ทำงานในพื้นที่มืดได้อย่างสะดวก แบตเตอรี่ Powerstack ขนาด 1.7Ah ที่ให้พลังงานสูงกว่าแบตเตอรี่ทั่วไป และการออกแบบที่ทนทาน พร้อมการรับประกัน 3 ปี จึงทำให้สว่านรุ่นนี้เหมาะสำหรับงานหนักและต่อเนื่อง

2.Milwaukee M18 FPD3-0

2-Milwaukee-M18-FPD3-0

สว่านกระแทกไร้สาย M18 FPD3-0 มาพร้อมมอเตอร์ไร้แปรงถ่านแรงบิดสูง 158 นิวตันเมตร ใช้งานได้ดีในงานหนักและมีระบบป้องกันการทำงานเกินพิกัดเพื่อความปลอดภัย

ประเภทไร้สาย
วัสดุพลาสติก, โลหะ
น้ำหนัก0.95 กิโลกรัม
ความเร็วรอบสูงสุด2,100 รอบ/นาที
อัตรากระแทก33,000 ครั้ง/นาที

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

สว่านกระแทกไร้สาย M18 FPD3-0 สว่านที่มาพร้อมกับมอเตอร์ไร้แปรงถ่าน POWERSTATE™ ซึ่งให้พลังงานที่เสถียรและเหมาะสำหรับการทำงานหนัก โดยมีแรงบิดสูงสุดถึง 158 นิวตันเมตร (Nm) และอัตราการกระแทกสูงสุดที่ 32,000 ครั้งต่อนาที (BPM) สว่านรุ่นนี้มีการออกแบบที่กะทัดรัดด้วยความยาวเพียง 175 มิลลิเมตร (mm) ช่วยให้สามารถเข้าถึงพื้นที่จำกัดได้ดี นอกจากนี้ ตัวเครื่องยังมาพร้อมกับไฟ LED เพื่อการมองเห็นที่ดีขึ้นในสภาพแสงน้อย หัวจับดอกเจาะมีขนาด 13 มิลลิเมตร ทำจากโลหะทั้งหมดพร้อมฟันคาร์ไบด์เพื่อความทนทานและการยึดเกาะที่ดี นอกจากนี้ยังมีคลิปหนีบเข็มขัดโลหะเพื่อความสะดวกในการพกพา การใช้งานในโหมดสว่านกระแทกทำให้สามารถเจาะอิฐ บล็อก หรือคอนกรีตได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ตัวสว่านสามารถใช้งานได้อย่างยาวนานด้วยแบตเตอรี่ที่มีขนาด 5.0 แอมแปร์-ชั่วโมง (Ah) ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่มีให้ และตัวเครื่องยังมีระบบ REDLINK PLUS™ ที่ช่วยป้องกันการทำงานเกินพิกัด ทำให้การใช้งานปลอดภัยมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีโหมดควบคุมการหยุดอัตโนมัติที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยอีกด้วย สว่านรุ่นนี้มีน้ำหนัก 2.1 กิโลกรัม (kg) ซึ่งทำให้การใช้งานสะดวกสบายในระยะยาว

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?

สว่านกระแทกไร้สาย M18 FPD3-0 เป็นตัวเลือกที่ดีเพราะมีมอเตอร์ไร้แปรงถ่านที่ให้พลังแรงบิดสูงถึง 158 นิวตันเมตร ทำให้สามารถใช้งานได้ในงานหนักและทนทานต่อการใช้งานยาวนาน นอกจากนี้ยังมีระบบป้องกันการทำงานเกินพิกัด REDLINK PLUS™ ที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยขณะใช้งาน อีกทั้งยังมีการออกแบบที่กะทัดรัดและมาพร้อมกับไฟ LED ที่ช่วยให้การทำงานในพื้นที่แคบหรือแสงน้อยเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3.STANLEY STDH7213K-B1

3-STANLEY-STDH7213K-B1

STANLEY สว่านกระแทก 13 มม. รุ่น STDH7213K-B1 มีกำลังไฟ 720 วัตต์ เหมาะสำหรับงานหนักและงานทั่วไป มาพร้อมกล่องเก็บและรับประกัน 2 ปี

ประเภทไฟฟ้า
วัสดุพลาสติก, โลหะ
น้ำหนัก2.4 กิโลกรัม
ความเร็วรอบสูงสุด3,000 รอบ/นาที
อัตรากระแทก54,000 ครั้ง/นาที

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

สว่านกระแทก STANLEY รุ่น STDH7213K-B1 สว่านกระแทกที่มาพร้อมกำลังไฟ 720 วัตต์ ทำให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพในการเจาะวัสดุต่าง ๆ เช่น ไม้ เหล็ก และคอนกรีต โดยมีขนาดการเจาะสูงสุดที่ 32 มิลลิเมตร (ไม้), 13 มิลลิเมตร (เหล็ก), และ 16 มิลลิเมตร (คอนกรีต) หัวจับดอกสว่านมีขนาด 13 มิลลิเมตร ซึ่งเหมาะสมสำหรับการใช้งานทั่วไปและงานที่ต้องการความแม่นยำ สว่านรุ่นนี้ออกแบบมาให้มีความทนทานด้วยห้องเกียร์ที่ทำจากโลหะ ซึ่งช่วยเพิ่มอายุการใช้งานและความทนทานในการใช้งานหนัก สวิตช์สามารถปรับความเร็วได้อย่างแปรผันตามความต้องการ ซึ่งทำให้ควบคุมการใช้งานได้ง่ายขึ้น

นอกจากนี้ สว่านรุ่นนี้ยังมาพร้อมกล่องเก็บที่ช่วยให้การพกพาและจัดเก็บเป็นระเบียบเรียบร้อย แต่ด้วยน้ำหนัก 2.4 กิโลกรัม สว่านรุ่นนี้อาจมีน้ำหนักพอสมควรสำหรับการใช้งานเป็นเวลานาน และอาจทำให้รู้สึกเมื่อยล้า สินค้านี้มีการรับประกัน 2 ปี โดยการรับประกันครอบคลุมความเสียหายจากการผลิต แต่ไม่ครอบคลุมชิ้นส่วนที่สึกหรอจากการใช้งานตามปกติ เช่น แปรงถ่าน สายไฟ หรือหัวจับดอกสว่าน และจะไม่รับประกันหากมีการซ่อมแซมที่ไม่ได้รับการอนุญาตจากบริษัท

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?

สว่านกระแทก STANLEY รุ่น STDH7213K-B1 เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการเครื่องมือที่มีความทนทานและประสิทธิภาพสูง มาพร้อมกับมอเตอร์กำลังไฟ 720 วัตต์ ซึ่งสามารถเจาะวัสดุได้หลากหลาย เช่น ไม้ เหล็ก และคอนกรีต ด้วยขนาดการเจาะสูงสุดที่รองรับการใช้งานทั่วไปได้อย่างครอบคลุม ห้องเกียร์ของสว่านรุ่นนี้ทำจากโลหะคุณภาพสูง เพิ่มความทนทานและอายุการใช้งานในงานหนัก นอกจากนี้ยังมีสวิตช์แปรผันความเร็วที่ช่วยให้ควบคุมการทำงานได้อย่างแม่นยำตามความต้องการ

4.MAKITA M8100B

4-MAKITA-M8100B

MAKITA M8100B สว่านกระแทก 710 วัตต์ที่มีน้ำหนักเบา แข็งแรงทนทาน และเหมาะสำหรับงานเจาะไม้ โลหะ และคอนกรีตด้วยการออกแบบที่ทันสมัยและด้ามจับหุ้มยางเพื่อความสะดวกในการใช้งาน

ประเภทไฟฟ้า
วัสดุพลาสติก, โลหะ
น้ำหนัก1.7 กิโลกรัม
ความเร็วรอบสูงสุด3,200 รอบ/นาที
อัตรากระแทก48,000 ครั้ง/นาที

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

สว่านกระแทก MAKITA รุ่น M8100B สว่านที่ออกแบบมาให้มีรูปทรงทันสมัย แข็งแรงทนทาน พร้อมกับการปรับปรุงให้น้ำหนักเบาลงเพียง 1.7 กิโลกรัม สว่านรุ่นนี้ใช้กำลังไฟฟ้า 710 วัตต์ และมีความสามารถในการเจาะที่หลากหลาย เช่น เจาะคอนกรีตได้สูงสุด 16 มิลลิเมตร เจาะโลหะได้ 13 มิลลิเมตร และเจาะไม้ได้สูงสุด 30 มิลลิเมตร อัตราการเจาะกระแทกสูงสุดอยู่ที่ 48,000 ครั้งต่อนาที (IPM) และความเร็วรอบตัวเปล่าสูงสุด 3,200 รอบต่อนาที (RPM) ตัวสว่านมีด้ามจับหุ้มยางที่ออกแบบมาเพื่อให้ถือใช้งานได้อย่างสะดวกและมั่นคง พร้อมฉนวนป้องกัน 2 ชั้นเพื่อความปลอดภัย สว่านรุ่นนี้ยังมาพร้อมกับสวิทช์ไกที่ช่วยเพิ่มความเร็วของเครื่องมือ และมีปุ่มล็อคสำหรับการทำงานต่อเนื่อง โดยสามารถเลือกใช้งานได้ทั้งโหมดขันและโหมดเจาะ

สว่านรุ่นนี้มีสายไฟยาว 2 เมตร ซึ่งเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป และมีการปรับหมุนซ้าย-ขวาได้อย่างสะดวก เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความคล่องตัวสูง นอกจากนี้ MAKITA M8100B ยังมีน้ำหนักรวมอยู่ที่ 2.1 กิโลกรัม ซึ่งแม้ว่าจะเบาลงแต่ยังคงความแข็งแรงทนทาน ผลิตภัณฑ์นี้มีการรับประกัน 6 เดือนจากศูนย์บริการ

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?

สว่านกระแทก MAKITA M8100B เป็นตัวเลือกที่ดีเพราะมีน้ำหนักเบาเพียง 1.7 กิโลกรัม ทำให้ใช้งานได้สะดวกโดยไม่รู้สึกเมื่อยล้า นอกจากนี้ยังมีกำลังไฟ 710 วัตต์ ซึ่งเพียงพอสำหรับการเจาะวัสดุต่าง ๆ เช่น ไม้ โลหะ และคอนกรีต อีกทั้งยังมาพร้อมด้ามจับหุ้มยางที่ช่วยให้การจับถือมั่นคงและใช้งานได้อย่างปลอดภัย ด้วยอัตราการเจาะกระแทกสูงถึง 48,000 ครั้งต่อนาที และความเร็วรอบสูงสุด 3,200 รอบต่อนาที สว่านรุ่นนี้จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพและความทนทานในงานเจาะต่าง ๆ

5.Black & Decker EVO185B1-B1

5-Black&Decker-EVO185B1-B1

Black & Decker รุ่น EVO185B1-B1 สว่านกระแทกไร้สายที่สามารถเปลี่ยนหัวได้หลากหลาย รวมถึงหัวเลื่อยจิ๊กซอว์และหัวขัดกระดาษทราย ทำให้เหมาะสำหรับงานช่างทั่วไปภายในบ้าน

ประเภทไร้สาย
วัสดุพลาสติก, โลหะ
น้ำหนัก1.3 กิโลกรัม
ความเร็วรอบสูงสุด1,600 รอบ/นาที
อัตรากระแทก24,000 ครั้ง/นาที

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

Black & Decker รุ่น EVO185B1-B1 สว่านกระแทกไร้สายที่มาพร้อมกับความสามารถในการเปลี่ยนหัวสว่านเพื่อใช้งานในรูปแบบต่าง ๆ ได้ หัวสว่านที่มาพร้อมกับเซตเริ่มต้นนี้ได้แก่ หัวสว่านกระแทก หัวเลื่อยจิ๊กซอว์ และหัวขัดกระดาษทราย ซึ่งทำให้เครื่องมือนี้มีความยืดหยุ่นในการใช้งานหลากหลายภายในบ้าน นอกจากนี้ยังมีหัวอื่น ๆ ที่สามารถซื้อเพิ่มเติมได้ เช่น หัวตกแต่งพุ่มไม้ กรรไกรตัดกิ่ง และหัวเติมลมไฟฟ้า สว่านรุ่นนี้มีกำลังไฟฟ้า 18 โวลต์ (20V Max) และมีแรงบิดสูงสุดที่ 46 นิวตันเมตร ซึ่งเพียงพอสำหรับการเจาะวัสดุต่าง ๆ เช่น เหล็ก 10 มิลลิเมตร ไม้ 25 มิลลิเมตร และอิฐ 10 มิลลิเมตร ความเร็วในการทำงานของสว่านสามารถปรับได้ 2 ระดับ คือ 0-500 รอบต่อนาที และ 0-1,600 รอบต่อนาที ทำให้สามารถปรับใช้งานได้ตามความเหมาะสม

นอกจากนี้ แบตเตอรี่ขนาด 20V ที่มาพร้อมกับสว่านรุ่นนี้ยังสามารถใช้งานร่วมกับเครื่องมือไร้สายอื่น ๆ ของ Black & Decker ได้ เช่น เครื่องมือทำสวนหรือเครื่องดูดฝุ่นไร้สาย ทำให้เครื่องมือนี้มีความคุ้มค่าและสะดวกต่อการใช้งานในบ้าน ระยะเวลารับประกันสินค้าคือ 1 ปี โดยครอบคลุมความเสียหายจากการผลิตแต่ไม่รวมถึงชิ้นส่วนที่สึกหรอตามการใช้งานปกติ

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?

สว่านกระแทกไร้สาย Black & Decker รุ่น EVO185B1-B1 เป็นตัวเลือกที่ดีเพราะมีความยืดหยุ่นสูงในการใช้งาน ด้วยความสามารถในการเปลี่ยนหัวได้หลากหลาย เช่น หัวเลื่อยจิ๊กซอว์และหัวขัดกระดาษทราย ทำให้สามารถใช้งานในงานช่างต่าง ๆ ภายในบ้านได้อย่างครบครัน นอกจากนี้ยังมีกำลังไฟฟ้า 18 โวลต์ แรงบิดสูงสุด 46 นิวตันเมตร และปรับความเร็วได้ 2 ระดับ ซึ่งเพียงพอสำหรับงานเจาะวัสดุต่าง ๆ อีกทั้งแบตเตอรี่ที่ใช้ยังสามารถใช้งานร่วมกับเครื่องมือไร้สายอื่น ๆ ของ Black & Decker ได้ เพิ่มความสะดวกและความคุ้มค่าในการลงทุนเครื่องมือช่างสำหรับบ้าน

6.BOSCH GSB 550

6-BOSCH-GSB-550

Black & Decker รุ่น EVO185B1-B1 สว่านกระแทกไร้สายที่สามารถเปลี่ยนหัวได้หลากหลาย เหมาะสำหรับการใช้งานช่างทั่วไปภายในบ้านด้วยกำลังไฟ 18 โวลต์และแรงบิดสูงสุด 46 นิวตันเมตร

ประเภทไฟฟ้า
วัสดุพลาสติก, โลหะ
น้ำหนัก1.8 กิโลกรัม
ความเร็วรอบสูงสุด2,800 รอบ/นาที
อัตรากระแทก44,800 ครั้ง/นาที

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

Black & Decker รุ่น EVO185B1-B1 สว่านกระแทกไร้สายที่มีความยืดหยุ่นสูง เนื่องจากสามารถเปลี่ยนหัวสว่านเพื่อใช้งานเป็นเครื่องมือช่างหลากหลายประเภท ในเซตเริ่มต้นนี้มาพร้อมกับหัวเลื่อยจิ๊กซอว์และหัวขัดกระดาษทราย นอกจากนี้ยังมีหัวอื่น ๆ ที่สามารถซื้อเพิ่มเติมได้ เช่น หัวตกแต่งพุ่มไม้ กรรไกรตัดกิ่ง และหัวเติมลมไฟฟ้า ทำให้สว่านรุ่นนี้เหมาะสำหรับงานซ่อมแซมทั่วไปภายในบ้านและการใช้งานที่หลากหลาย สว่านรุ่นนี้มีกำลังไฟ 18 โวลต์ (20V Max) และมีความเร็วในการทำงานที่ 0-500 / 0-1,600 รอบต่อนาที ให้แรงบิดสูงสุดที่ 46 นิวตันเมตร ซึ่งเพียงพอสำหรับการเจาะวัสดุต่าง ๆ เช่น เหล็ก 10 มิลลิเมตร ไม้ 25 มิลลิเมตร และอิฐ 10 มิลลิเมตร หัวจับสามารถจับดอกสว่านได้สูงสุด 10 มิลลิเมตร

สว่านรุ่นนี้ยังสามารถใช้แบตเตอรี่ร่วมกับเครื่องมือไร้สายอื่น ๆ ของ Black & Decker ได้ เช่น เครื่องมือทำสวน หรือเครื่องดูดฝุ่นไร้สาย ซึ่งเพิ่มความสะดวกและคุ้มค่าในการใช้งาน แบตเตอรี่ 20V ที่มาพร้อมกับสว่านนี้สามารถให้พลังงานที่ต่อเนื่องและเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป สินค้านี้มีการรับประกัน 1 ปี โดยการรับประกันครอบคลุมความเสียหายที่เกิดจากการผลิต ยกเว้นชิ้นส่วนที่สึกหรอตามการใช้งานปกติ และไม่ครอบคลุมการซ่อมแซมที่ไม่ได้รับอนุญาตจากบริษัท

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?

สว่านกระแทกไร้สาย Black & Decker รุ่น EVO185B1-B1 เป็นตัวเลือกที่ดีเพราะมีความยืดหยุ่นสูง สามารถเปลี่ยนหัวเพื่อใช้งานเป็นเครื่องมือช่างหลายรูปแบบในเครื่องเดียว เช่น หัวเลื่อยจิ๊กซอว์ หัวขัดกระดาษทราย และอื่น ๆ ซึ่งเหมาะสำหรับงานซ่อมแซมภายในบ้านหรือใช้งานทั่วไป นอกจากนี้ยังมีกำลังไฟ 18 โวลต์ และแรงบิดสูงถึง 46 นิวตันเมตร ทำให้สามารถเจาะวัสดุต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงสามารถใช้แบตเตอรี่ร่วมกับเครื่องมือไร้สายอื่น ๆ ของ Black & Decker ได้อีกด้วย ทำให้เป็นเครื่องมือที่คุ้มค่าและตอบโจทย์การใช้งานหลากหลายประเภท

7.IMAX IMCD-20BL

7-IMAX-IMCD-20BL

IMAX รุ่น IMCD-20BL สว่านกระแทกไร้สายที่มาพร้อมมอเตอร์ไร้แปรงถ่าน แรงบิดสูงสุด 70 นิวตันเมตร ปรับความเร็วได้ 2 ระดับ และใช้งานได้หลากหลายด้วยการควบคุมแรงบิดที่ละเอียดถึง 21 ระดับ

ประเภทไร้สาย
วัสดุพลาสติก, โลหะ
น้ำหนัก1.5 กิโลกรัม
ความเร็วรอบสูงสุด2,000 รอบ/นาที
อัตรากระแทก30,000 ครั้ง/นาที

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

สว่านกระแทกไร้สาย IMAX รุ่น IMCD-20BL สว่านที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของช่างมืออาชีพ ด้วยมอเตอร์ไร้แปรงถ่านที่มีประสิทธิภาพสูงและมีอายุการใช้งานยาวนานกว่ามอเตอร์ทั่วไป สว่านรุ่นนี้มีกำลังไฟฟ้า 20 โวลต์ และแรงบิดสูงสุด 70 นิวตันเมตร ทำให้สามารถเจาะวัสดุต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นงานเจาะไม้ที่มีความสามารถในการเจาะได้สูงสุด 38 มิลลิเมตร งานเจาะเหล็กที่รองรับได้สูงสุด 13 มิลลิเมตร หรือการเจาะปูน

สว่านรุ่นนี้สามารถปรับความเร็วได้ 2 ระดับ โดยมีความเร็วรอบหมุนสูงสุดที่ 2,000 รอบต่อนาที และอัตราการกระแทกสูงสุดที่ 30,000 ครั้งต่อนาที นอกจากนี้ยังสามารถควบคุมแรงบิดได้ละเอียดถึง 21 ระดับ และมีตัวเลือกเพิ่มเติมอีก 3 ระดับสำหรับการใช้งานที่หลากหลาย ตัวสว่านมีขนาดกระชับ น้ำหนักเบาเพียง 1.5 กิโลกรัม ทำให้สะดวกต่อการใช้งานเป็นเวลานาน และสามารถควบคุมความเร็วในการหมุนตามน้ำหนักมือที่กดสวิตช์ได้อย่างง่ายดาย IMAX รุ่นนี้ยังมาพร้อมกับไฟ LED 3 ดวง ที่ควบคุมด้วยเซ็นเซอร์ ซึ่งจะเปิดอัตโนมัติเมื่ออยู่ในที่มืดและปิดเมื่ออยู่ในที่สว่าง ช่วยประหยัดพลังงานแบตเตอรี่ นอกจากนี้ในกล่องยังแถมดอกสว่านและดอกไขควงให้พร้อมใช้งาน สว่านนี้มีแบตเตอรี่ Li-ion ขนาด 2.0 แอมแปร์-ชั่วโมง ซึ่งสามารถชาร์จและใช้งานได้นาน

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?

สว่านกระแทกไร้สาย IMAX รุ่น IMCD-20BL เป็นตัวเลือกที่ดีเพราะมาพร้อมมอเตอร์ไร้แปรงถ่านที่มีประสิทธิภาพสูงและทนทาน มีแรงบิดสูงถึง 70 นิวตันเมตร ทำให้สามารถใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการเจาะไม้ เหล็ก หรือปูน รวมถึงการขันสกรู นอกจากนี้ยังสามารถปรับความเร็วได้ 2 ระดับและควบคุมแรงบิดได้ถึง 21 ระดับ ซึ่งช่วยให้ทำงานได้อย่างแม่นยำและตอบสนองต่อความต้องการในงานช่างที่หลากหลาย สว่านรุ่นนี้ยังมีน้ำหนักเบาเพียง 1.5 กิโลกรัม ทำให้สะดวกต่อการใช้งานเป็นเวลานาน และมาพร้อมกับแบตเตอรี่ 20V ที่สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องและชาร์จใหม่ได้อย่างรวดเร็ว

8.BOSCH GSB120-LI #06019G81K0

8-BOSCH-GSB120-LI-06019G81K0

BOSCH รุ่น GSB120-LI สว่านกระแทกไร้สาย 12V ที่มาพร้อมแรงบิดสูงสุด 30 นิวตันเมตร ปรับความเร็วได้ 2 ระดับ ขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา เหมาะสำหรับงานช่างทั่วไป

ประเภทไร้สาย
วัสดุพลาสติก, โลหะ
น้ำหนัก0.9 กิโลกรัม
ความเร็วรอบสูงสุด1,500 รอบ/นาที
อัตรากระแทก22,500 ครั้ง/นาที

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

BOSCH รุ่น GSB120-LI สว่านกระแทกไร้สายที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานที่หลากหลายและตอบโจทย์งานช่างทั่วไป ตัวเครื่องได้รับการอัปเกรดเป็น Gen ที่ 3 โดยมีมอเตอร์ที่มีประสิทธิภาพสูง พร้อมแรงบิดสูงสุด 30 นิวตันเมตร ทำให้สามารถใช้งานได้ทั้งในงานเจาะและขันสกรู สว่านรุ่นนี้มีการปรับความเร็วได้ 2 ระดับ โดยความเร็วรอบขณะเดินเครื่องเปล่าสูงสุดอยู่ที่ 1,500 รอบต่อนาที และมีอัตราการกระแทกสูงสุดที่ 22,500 ครั้งต่อนาที

สว่านรุ่นนี้มีขนาดกะทัดรัดและน้ำหนักเบาเพียง 0.9 กิโลกรัม (ไม่รวมแบตเตอรี่) ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่จำกัดและสามารถถือใช้งานได้สะดวก ขนาดหัวจับดอกของสว่านนี้สามารถจับดอกได้ตั้งแต่ 1.5 มม. ถึง 10 มม. รองรับการเจาะวัสดุหลากหลายประเภท เช่น เจาะไม้สูงสุด 20 มม. เจาะโลหะสูงสุด 10 มม. และเจาะปูนสูงสุด 8 มม. ภายในชุดประกอบด้วย แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 12V ขนาด 2.0Ah จำนวน 2 ก้อน พร้อมแท่นชาร์จ GAL1210CV และกล่องพลาสติกสำหรับเก็บเครื่องมือ สินค้านี้มีการรับประกันศูนย์ 1 ปี โดยครอบคลุมความเสียหายจากการผลิต

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?

สว่านกระแทกไร้สาย BOSCH รุ่น GSB120-LI เป็นตัวเลือกที่ดีเพราะมีขนาดกะทัดรัดและน้ำหนักเบาเพียง 0.9 กิโลกรัม ทำให้สะดวกต่อการใช้งานในพื้นที่จำกัดและลดความเมื่อยล้าขณะใช้งาน นอกจากนี้ยังมาพร้อมแรงบิดสูงสุด 30 นิวตันเมตร และปรับความเร็วได้ 2 ระดับ ทำให้สามารถเจาะวัสดุต่าง ๆ เช่น ไม้ โลหะ และปูนได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังมีการรับประกัน 1 ปีจากศูนย์บริการ BOSCH เพิ่มความมั่นใจในการใช้งาน

9.PUMPKIN 50260

9-PUMPKIN-50260

Pumpkin รุ่น 50260 เป็นสว่านกระแทกไร้สายที่มาพร้อมมอเตอร์ไร้แปรงถ่าน ปรับแรงบิดได้ 20+3 ระดับ ชาร์จแบตเตอรี่ได้รวดเร็ว และเหมาะสำหรับงานช่างทั่วไป

ประเภทไร้สาย
วัสดุพลาสติก, โลหะ
น้ำหนัก1.7 กิโลกรัม
ความเร็วรอบสูงสุด2,000 รอบ/นาที
อัตรากระแทก30,000 ครั้ง/นาที

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

Pumpkin รุ่น 50260 สว่านกระแทกไร้สายที่มาพร้อมกับมอเตอร์ไร้แปรงถ่านที่มีประสิทธิภาพสูง และสามารถปรับแรงบิดได้ถึง 20+3 ระดับ โดยมีแรงบิดสูงสุดถึง 62 นิวตันเมตร และแรงบิดต่ำสุดที่ 31.3 นิวตันเมตร ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานช่างหลากหลายประเภท ทั้งการเจาะเหล็ก ไม้ และปูน ตัวเครื่องสามารถปรับความเร็วได้ 2 ระดับ คือ 0-600 รอบต่อนาที และ 0-2,000 รอบต่อนาที อัตราการกระแทกสูงสุดอยู่ที่ 30,000 ครั้งต่อนาที สว่านรุ่นนี้มาพร้อมกับหัวจับดอกสว่านขนาด 13 มิลลิเมตร ที่ทำจากเหล็กทั้งชิ้น ซึ่งทนทานและสามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน นอกจากนี้ยังมีไฟ LED ที่ช่วยให้สามารถทำงานในที่แสงน้อยได้สะดวกยิ่งขึ้น ส่วนแบตเตอรี่ Li-ion ขนาด 20V 2.0Ah จำนวน 2 ก้อน ช่วยให้สามารถใช้งานได้ต่อเนื่อง โดยใช้เวลาในการชาร์จเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น

Pumpkin รุ่นนี้ยังมีคุณสมบัติพิเศษที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถปรับความเร็วได้ 4 ระดับ พร้อมแสดงสถานะของแบตเตอรี่ ทำให้ควบคุมการใช้งานได้อย่างแม่นยำ นอกจากนี้ แบตเตอรี่ยังสามารถใช้งานร่วมกับเครื่องมือยี่ห้ออื่น ๆ เช่น Makita ทำให้เพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้งาน ภายในชุดประกอบด้วยตัวสว่าน แบตเตอรี่ 2 ก้อน ที่ชาร์จ และกล่องพลาสติกแข็งพร้อมหูหิ้ว สินค้านี้ยังมีการรับประกัน 2 ปี และบริการซ่อมบำรุงฟรี 3 ปี

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?

สว่านกระแทกไร้สาย Pumpkin รุ่น 50260 เป็นตัวเลือกที่ดีเพราะมาพร้อมมอเตอร์ไร้แปรงถ่านที่มีประสิทธิภาพสูงและทนทาน สามารถปรับแรงบิดได้ละเอียดถึง 20+3 ระดับ ทำให้เหมาะกับการใช้งานหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นการเจาะเหล็ก ไม้ หรือปูน นอกจากนี้ยังมีแบตเตอรี่ 20V 2.0Ah จำนวน 2 ก้อน ที่สามารถชาร์จได้รวดเร็วในเวลาเพียง 1 ชั่วโมง ทำให้ไม่ต้องหยุดงานนาน และยังสามารถใช้งานร่วมกับแบตเตอรี่ของยี่ห้ออื่นอย่าง Makita ได้ เพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้งาน อีกทั้งยังมีการรับประกัน 2 ปี พร้อมบริการซ่อมบำรุงฟรี 3 ปี

10.OSUKA OCD-40-S2

10-OSUKA-OCD-40-S2

OSUKA รุ่น OCD-40-S2 สว่านกระแทกไร้สายราคาย่อมเยาที่มาพร้อมมอเตอร์ไร้แปรงถ่าน แรงบิดสูงสุด 40 นิวตันเมตร และแบตเตอรี่ 20V 2 ก้อน เหมาะสำหรับงานช่างทั่วไป

ประเภทไร้สาย
วัสดุพลาสติก, โลหะ
น้ำหนัก1.7 กิโลกรัม
ความเร็วรอบสูงสุด1,350 รอบ/นาที
อัตรากระแทกv

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

OSUKA รุ่น OCD-40-S2 สว่านกระแทกไร้สายที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีงบประมาณจำกัด แต่ยังต้องการคุณภาพและประสิทธิภาพในการทำงาน สว่านรุ่นนี้มาพร้อมกับมอเตอร์ไร้แปรงถ่านที่ช่วยลดการบำรุงรักษาและเพิ่มความทนทานในการใช้งาน แรงบิดสูงสุดของสว่านรุ่นนี้อยู่ที่ 40 นิวตันเมตร และสามารถปรับความเร็วได้ 2 ระดับ คือ 0 – 400 รอบต่อนาที และ 0 – 1,350 รอบต่อนาที แม้ว่าทางแบรนด์จะไม่ได้ระบุอัตราการกระแทก แต่สว่านรุ่นนี้ยังคงรองรับการใช้งานกับดอกสว่านขนาดตั้งแต่ 0.8 มิลลิเมตรถึง 10 มิลลิเมตร ทำให้สามารถใช้กับงานหลากหลายประเภทได้

ภายในชุดประกอบด้วยแบตเตอรี่ขนาด 20V 2.0Ah จำนวน 2 ก้อน พร้อมแท่นชาร์จ ซึ่งแบตเตอรี่เหล่านี้สามารถชาร์จใหม่ได้อย่างรวดเร็ว ทำให้คุณสามารถใช้งานต่อเนื่องได้โดยไม่ต้องรอนาน นอกจากนี้ ขนาดกะทัดรัดของสว่านยังช่วยให้การใช้งานในพื้นที่แคบหรือจำกัดเป็นไปได้อย่างสะดวก

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?

สว่านกระแทกไร้สาย OSUKA รุ่น OCD-40-S2 เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการเครื่องมือคุณภาพในราคาย่อมเยา มาพร้อมมอเตอร์ไร้แปรงถ่านที่ทนทานและบำรุงรักษาง่าย แรงบิดสูงสุด 40 นิวตันเมตรเพียงพอสำหรับงานช่างทั่วไป และสามารถปรับความเร็วได้ 2 ระดับ เพื่อความเหมาะสมกับงานที่แตกต่างกัน นอกจากนี้ยังมีแบตเตอรี่ขนาด 20V 2 ก้อนที่ชาร์จได้รวดเร็ว ช่วยให้การทำงานไม่สะดุด ทำให้ OSUKA รุ่นนี้เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าและน่าใช้งาน

ความแตกต่างของสว่านกระแทก vs สว่านไฟฟ้าทั่วไป

366-ความแตกต่างของสว่านกระแทก vs สว่านไฟฟ้าทั่วไป

สว่านกระแทกและสว่านไฟฟ้าทั่วไปเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการเจาะรูในวัสดุต่าง ๆ แต่ทั้งสองประเภทมีคุณสมบัติและการใช้งานที่แตกต่างกัน ซึ่งควรพิจารณาให้เหมาะสมกับงานที่ต้องการทำ ดังนี้

1. สว่านกระแทก (Hammer Drill)

สว่านกระแทกถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในงานเจาะที่ต้องการแรงกระแทกสูง เช่น การเจาะคอนกรีต อิฐ หรือหิน โดยสว่านกระแทกจะมีระบบกระแทกที่ช่วยเพิ่มแรงในการเจาะ ทำให้สามารถเจาะผ่านวัสดุที่มีความแข็งได้ง่ายขึ้น การใช้งานสว่านกระแทกจึงเหมาะสำหรับงานก่อสร้างหรือซ่อมแซมที่ต้องการความแข็งแรงทนทาน แต่สว่านประเภทนี้มักมีน้ำหนักมากและใช้งานยากกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับสว่านไฟฟ้าทั่วไป

2. สว่านไฟฟ้าทั่วไป (Standard Electric Drill)

สว่านไฟฟ้าทั่วไปเป็นเครื่องมือที่ใช้งานได้หลากหลาย เหมาะสำหรับการเจาะวัสดุที่มีความแข็งน้อยกว่า เช่น ไม้ พลาสติก หรือโลหะเบา สว่านไฟฟ้าทั่วไปจะไม่มีระบบกระแทกเหมือนกับสว่านกระแทก แต่จะเน้นความเร็วและความแม่นยำในการเจาะเป็นหลัก จึงเหมาะสำหรับงานที่ต้องการการควบคุมและความละเอียด เช่น งานช่างฝีมือหรืองานติดตั้งภายในบ้าน

ข้อแตกต่างหลัก

สว่านกระแทกเน้นการเจาะวัสดุที่แข็งด้วยแรงกระแทกสูง เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความแข็งแรง ส่วนสว่านไฟฟ้าทั่วไปจะเน้นความแม่นยำและความเร็ว เหมาะสำหรับงานเบาและการใช้งานทั่วไปในบ้าน

หัวข้อสว่านกระแทก (Hammer Drill)สว่านไฟฟ้าทั่วไป (Standard Electric Drill)
การใช้งานหลักเจาะคอนกรีต อิฐ หรือหินที่ต้องการแรงกระแทกสูงเจาะไม้ พลาสติก หรือโลหะเบา ที่ไม่ต้องการแรงกระแทกสูง
ระบบกระแทกมีระบบกระแทกช่วยเพิ่มแรงในการเจาะไม่มีระบบกระแทก เน้นความแม่นยำและความเร็วในการเจาะ
ความเหมาะสมกับงานเหมาะสำหรับงานก่อสร้างหรือซ่อมแซมที่ต้องการความแข็งแรงเหมาะสำหรับงานเบาและงานติดตั้งภายในบ้าน
น้ำหนักและการควบคุมมักมีน้ำหนักมากและใช้งานยากกว่ามีน้ำหนักเบากว่าและควบคุมง่ายกว่า
ตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับการเจาะวัสดุแข็งสำหรับการเจาะวัสดุทั่วไปและงานที่ต้องการความละเอียด

การใช้งานที่เหมาะสมสว่านกระแทกและสว่านไฟฟ้าทั่วไป

การใช้งานสว่านกระแทกและสว่านไฟฟ้าทั่วไปจำเป็นต้องพิจารณาประเภทงานที่ต้องการใช้งาน หากต้องการเจาะวัสดุที่มีความแข็ง เช่น คอนกรีตหรือหิน สว่านกระแทกจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม เนื่องจากมีความสามารถในการส่งแรงกระแทกเพื่อช่วยให้การเจาะเป็นไปอย่างราบรื่นและรวดเร็ว ในขณะที่สว่านไฟฟ้าทั่วไปเหมาะสำหรับงานเจาะไม้ โลหะ หรือพลาสติก ซึ่งไม่ต้องการแรงกระแทกสูง สำหรับการเลือกซื้อ ควรพิจารณากำลังวัตต์และฟังก์ชันที่เหมาะสมกับงาน อีกทั้งยังควรเลือกสว่านที่มีการรับประกันและบริการหลังการขายที่ดีเพื่อให้มั่นใจในคุณภาพและความทนทาน หากกำลังมองหาสว่านไฟฟ้ายี่ห้อไหนดี แนะนำให้ตรวจสอบรีวิวและความคิดเห็นจากผู้ใช้งานจริงเพื่อช่วยในการตัดสินใจ

การเลือกใช้สว่านทั้งสองประเภทจึงขึ้นอยู่กับลักษณะงานที่ต้องการทำ หากต้องเจาะวัสดุที่แข็งและต้องการแรงกระแทก ควรเลือกใช้สว่านกระแทก แต่ถ้าเป็นงานที่ต้องการความละเอียดหรือเจาะวัสดุที่ไม่แข็งมาก สว่านไฟฟ้าทั่วไปจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกว่า


วิธีการปรับแต่งสว่านกระแทกให้เหมาะสมกับวัสดุที่แตกต่างกัน

366-วิธีการปรับแต่งสว่านกระแทกให้เหมาะสมกับวัสดุที่แตกต่างกัน

การปรับแต่งสว่านกระแทกให้เหมาะสมกับวัสดุที่แตกต่างกันเป็นสิ่งสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพการเจาะและป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับทั้งสว่านและวัสดุ โดยมีวิธีการปรับแต่งดังนี้

1. เลือกหัวสว่านที่เหมาะสม

การเลือกหัวสว่านที่ถูกต้องเป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญ หัวสว่านสำหรับวัสดุแต่ละประเภทมีลักษณะที่แตกต่างกัน เช่น หัวสว่านสำหรับเจาะไม้จะมีปลายแหลมและคม หัวสว่านสำหรับเจาะโลหะจะมีปลายที่แข็งแรงเพื่อให้ทนทานต่อการเจาะวัสดุที่แข็งกว่า และหัวสว่านสำหรับเจาะคอนกรีตจะมีปลายที่แข็งพิเศษและออกแบบมาเพื่อให้ทนทานต่อการเจาะกระแทก

2. ปรับความเร็วรอบให้เหมาะสม

การปรับความเร็วรอบของสว่านกระแทกเป็นสิ่งที่สำคัญ การเจาะวัสดุที่แข็ง เช่น คอนกรีตหรือโลหะ ควรใช้ความเร็วรอบที่ต่ำเพื่อป้องกันไม่ให้หัวสว่านร้อนเกินไปและสึกหรอเร็ว ขณะที่การเจาะไม้หรือวัสดุที่นิ่มควรใช้ความเร็วรอบที่สูงขึ้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเจาะ

3. ใช้โหมดกระแทกหรือโหมดเจาะธรรมดาให้เหมาะสม

สว่านกระแทกส่วนใหญ่จะมีโหมดการทำงานให้เลือก ระหว่างโหมดกระแทกและโหมดเจาะธรรมดา หากคุณต้องการเจาะคอนกรีตหรือวัสดุที่แข็ง ควรใช้โหมดกระแทกเพื่อเพิ่มแรงในการเจาะ แต่หากคุณเจาะไม้หรือโลหะที่บาง ควรใช้โหมดเจาะธรรมดาเพื่อป้องกันความเสียหาย

4. ใช้น้ำมันหล่อลื่นในการเจาะโลหะ

เมื่อเจาะโลหะ ควรใช้น้ำมันหล่อลื่นเพื่อช่วยลดความร้อนและป้องกันการสึกหรอของหัวสว่าน การใช้น้ำมันจะช่วยให้การเจาะเป็นไปอย่างราบรื่นและยืดอายุการใช้งานของหัวสว่าน

5. ตรวจสอบและปรับแรงกด

การปรับแรงกดให้เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ ควรใช้แรงกดที่เหมาะสมกับวัสดุที่กำลังเจาะ หากใช้แรงกดมากเกินไปอาจทำให้หัวสว่านหักหรือวัสดุเสียหาย ขณะที่แรงกดน้อยเกินไปอาจทำให้เจาะไม่เข้าและต้องใช้เวลานาน

หัวข้อคำอธิบาย
เลือกหัวสว่านที่เหมาะสมเลือกหัวสว่านที่ตรงกับวัสดุ เช่น หัวสว่านสำหรับไม้ โลหะ และคอนกรีต
ปรับความเร็วรอบให้เหมาะสมปรับความเร็วรอบตามวัสดุ วัสดุแข็งใช้ความเร็วต่ำ วัสดุนิ่มใช้ความเร็วสูง
เลือกโหมดการเจาะใช้โหมดกระแทกสำหรับวัสดุแข็ง และโหมดเจาะธรรมดาสำหรับวัสดุทั่วไป
ใช้น้ำมันหล่อลื่นในการเจาะโลหะใช้น้ำมันเพื่อลดความร้อนและป้องกันการสึกหรอเมื่อเจาะโลหะ
ปรับแรงกดให้เหมาะสมใช้แรงกดที่พอดีเพื่อป้องกันหัวสว่านและวัสดุเสียหาย

การใช้งานเครื่องเป่าลมเพื่อเก็บงานหลังใช้สว่านกระแทก

การใช้งานเครื่องเป่าลมเพื่อเก็บงานหลังจากใช้สว่านกระแทกเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการทำความสะอาดพื้นที่ที่มีเศษฝุ่นหรือวัสดุที่ถูกเจาะออกมา เครื่องเป่าลมช่วยให้การเก็บงานทำได้ง่ายและรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อทำงานในพื้นที่ที่เข้าถึงยาก เช่น มุมห้องหรือพื้นที่เล็ก ๆ การเลือกเครื่องเป่าลมที่มีแรงลมสูงจะช่วยให้การทำความสะอาดมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น สำหรับเครื่องเป่าลมยี่ห้อไหนดี ควรพิจารณาจากกำลังวัตต์ ความแรงลม และฟังก์ชันการปรับระดับความแรง นอกจากนี้ ควรเลือกยี่ห้อที่มีการรับประกันและรีวิวดีจากผู้ใช้งานจริง เพื่อให้มั่นใจว่าเครื่องเป่าลมนั้นมีคุณภาพและใช้งานได้ยาวนาน

ด้วยการปรับแต่งสว่านกระแทกอย่างถูกต้อง คุณจะสามารถเจาะวัสดุต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและยืดอายุการใช้งานของสว่านและหัวสว่านได้อย่างยาวนาน

เคล็ดลับในการบำรุงรักษาสว่านกระแทกเพื่ออายุการใช้งานที่ยาวนาน

366-เคล็ดลับในการบำรุงรักษาสว่านกระแทกเพื่ออายุการใช้งานที่ยาวนาน

การบำรุงรักษาสว่านกระแทกอย่างถูกวิธีเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้เครื่องมือของคุณมีอายุการใช้งานที่ยาวนานและสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด สำหรับเคล็ดลับที่ควรปฏิบัติมีดังนี้

  1. ทำความสะอาดสว่านหลังใช้งาน: หลังจากใช้งานสว่านกระแทกเสร็จ ควรทำความสะอาดเครื่องมือทันทีเพื่อกำจัดฝุ่นและเศษวัสดุที่อาจเข้าไปสะสมภายในเครื่อง ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อระบบภายในได้ การใช้แปรงหรือผ้าแห้งในการทำความสะอาดก็เพียงพอแล้ว
  2. หยอดน้ำมันหล่อลื่นเป็นประจำ: การหยอดน้ำมันหล่อลื่นในส่วนที่เคลื่อนที่ของสว่านกระแทก เช่น หัวจับสว่านและชุดเกียร์ จะช่วยลดการเสียดสีและการสึกหรอ ทำให้เครื่องมือทำงานได้ราบรื่นและไม่เกิดความร้อนสะสมที่อาจทำให้ส่วนประกอบเสียหาย
  3. ตรวจสอบและเปลี่ยนแปรงถ่านเมื่อจำเป็น: แปรงถ่านเป็นส่วนประกอบที่สึกหรอง่าย หากพบว่าแปรงถ่านเริ่มสึกหรือหมด ควรเปลี่ยนใหม่ทันทีเพื่อป้องกันการทำงานที่ไม่เสถียรและความเสียหายต่อมอเตอร์
  4. เก็บรักษาในที่แห้งและปลอดฝุ่น: ควรเก็บสว่านกระแทกในที่แห้งและปลอดฝุ่นเพื่อป้องกันการเกิดสนิมและการสะสมของฝุ่นละอองที่อาจเข้าสู่ภายในเครื่องมือ นอกจากนี้ การเก็บในกล่องหรือกระเป๋าเฉพาะก็จะช่วยป้องกันการกระแทกและความเสียหายจากการจัดเก็บ
  5. ใช้สว่านให้เหมาะสมกับงาน: ควรใช้งานสว่านกระแทกให้เหมาะสมกับประเภทของวัสดุและขนาดของงาน เพื่อป้องกันการใช้งานที่หนักเกินไป ซึ่งอาจทำให้มอเตอร์หรือส่วนอื่น ๆ ของสว่านเสียหายได้
เคล็ดลับรายละเอียด
ทำความสะอาดหลังใช้งานกำจัดฝุ่นและเศษวัสดุเพื่อป้องกันความเสียหายต่อระบบภายใน
หยอดน้ำมันหล่อลื่นเป็นประจำลดการเสียดสีและการสึกหรอ ช่วยให้การทำงานราบรื่น
ตรวจสอบและเปลี่ยนแปรงถ่านเปลี่ยนแปรงถ่านเมื่อสึกหรอเพื่อป้องกันการทำงานที่ไม่เสถียร
เก็บรักษาในที่แห้งและปลอดฝุ่นป้องกันการเกิดสนิมและการสะสมของฝุ่นละอองที่อาจทำให้เครื่องมือเสียหาย
ใช้สว่านให้เหมาะสมกับงานป้องกันการใช้งานที่หนักเกินไปซึ่งอาจทำให้มอเตอร์เสียหาย

การดูแลรักษาสว่านกระแทกอย่างถูกวิธีจะช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องมือและลดโอกาสการเสียหายลง ทำให้คุณสามารถใช้งานสว่านได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและยาวนาน

การเลือกสว่านกระแทกที่เหมาะสมไม่เพียงแต่ช่วยให้การทำงานของคุณมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความทนทานของเครื่องมือด้วย แบรนด์ที่เราแนะนำแต่ละแบรนด์มีคุณสมบัติและข้อดีที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลายได้อย่างดี นอกจากนี้ การทำความเข้าใจความแตกต่างระหว่างสว่านกระแทกและสว่านไฟฟ้าทั่วไป การปรับแต่งให้เหมาะสมกับวัสดุ และการบำรุงรักษาอย่างถูกวิธี ก็เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยยืดอายุการใช้งานของสว่านกระแทกได้อย่างมาก

คำถามที่พบบ่อย

1. สว่านกระแทกต่างจากสว่านไฟฟ้าทั่วไปอย่างไร?

สว่านกระแทกมีความสามารถในการสร้างแรงกระแทกเพื่อเจาะวัสดุแข็งเช่นคอนกรีตหรือหิน ซึ่งต่างจากสว่านไฟฟ้าทั่วไปที่เน้นการเจาะวัสดุที่อ่อนกว่า เช่น ไม้หรือโลหะเบา

2. ควรเลือกสว่านกระแทกยี่ห้อไหนดี?

ควรเลือกสว่านกระแทกที่มีชื่อเสียงในด้านคุณภาพและความทนทาน โดยควรพิจารณาความต้องการใช้งานของคุณด้วย เช่น การเจาะวัสดุประเภทไหน และความสะดวกในการพกพา

3. สว่านกระแทกเหมาะกับการใช้งานประเภทใดบ้าง?

สว่านกระแทกเหมาะสำหรับงานเจาะวัสดุแข็ง เช่น คอนกรีต หิน หรืออิฐ รวมถึงงานที่ต้องการแรงเจาะที่สูงและความแม่นยำในการเจาะ

4. มีวิธีการบำรุงรักษาสว่านกระแทกอย่างไรบ้าง?

การบำรุงรักษาสว่านกระแทกควรทำความสะอาดเป็นประจำ เช็คและเปลี่ยนชิ้นส่วนที่สึกหรอ และเก็บรักษาในที่ที่แห้งและปลอดภัยจากความชื้น เพื่อให้เครื่องมือมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น

Scroll to Top