สวัสดีครับ เลื่อยองศาถือว่าเป็นเครื่องมือที่ช่างอย่างเรามักใช้กันบ่อย ๆ เชื่อว่าใครที่เป็นช่างต้องรู้จักเครื่องมือตัวนี้ดี ไม่ว่าจะเป็นช่างไม้ ช่างโลหะ หรือแม้แต่คนที่ชอบทำงาน DIY ที่บ้าน ถ้าอยากได้งานที่สวยเป๊ะ มุมตัดที่แม่นยำ เลื่อยองศาก็เป็นตัวช่วยที่ดีมากๆ เลยครับ จะตัดตรง ตัดเฉียง หรือจะทำงานอะไรที่ต้องเข้ามุมพิเศษ เช่น ทำกรอบรูป ติดบัวเพดาน หรือทำเฟอร์นิเจอร์ เลื่อยองศาก็จัดการได้หมด ที่สำคัญคือช่วยให้ทำงานได้เร็วขึ้น ประหยัดเวลา ไม่ต้องมานั่งปวดหัวกับการตั้งค่าเครื่องมือให้ยุ่งยากครับ
ในบทความนี้ ผมจะพาทุกคนไปดูกัน 10 อันดับ เลื่อยองศา ยี่ห้อไหนดี ตัดแม่นยำ ไร้เสี้ยน เหมาะกับทุกงานช่าง ที่ผมได้คัดมาแล้วว่าใช้งานได้จริง เหมาะกับทุกงาน ไม่ว่าคุณจะเป็นช่างมืออาชีพหรือมือใหม่หัดใช้ก็ตาม รับรองว่าถ้าได้เลื่อยองศาที่ใช่และเหมาะกับงาน คุณจะสามารถสร้างผลงานคุณภาพได้อย่างมั่นใจ และทำงานได้เพอร์เฟคทุกองศาตามที่ต้องการเลยครับ
หลักเกณฑ์ที่ใช้ในการจัดอันดับสินค้า
- แบบของเลื่อย: ผมแบ่งเป็น 2 แบบหลักๆ นะครับ คือ แบบคานตายกับแบบรางสไลด์ แบบคานตายเหมาะกับงานทั่วไปที่ต้องการความแน่นอน ส่วนแบบรางสไลด์เหมาะกับงานที่ต้องตัดชิ้นงานกว้างๆ หรืองานที่ต้องการความพิเศษหน่อย ใช้งานง่ายดีครับ
- ฐานกับใบเลื่อย: ผมมองหาเลื่อยที่มีฐานกว้างๆ เพราะจะได้ตั้งมั่นคง ไม่โยกไปมาตอนใช้งาน แล้วก็ดูที่ใบเลื่อยด้วย ถ้าฟันถี่ๆ หน่อยจะตัดได้เนี้ยบ ไม่มีเสี้ยน ทำงานได้เร็วขึ้นด้วยครับ
- ขนาดใบเลื่อย: เรื่องนี้สำคัญมากครับ ผมเลือกใบเลื่อยที่คมๆ ตัดฉากได้ดี โดยเฉพาะถ้าต้องตัดอะลูมิเนียม จะได้งานที่เป๊ะ ไม่มีรอยเสียหาย สวยงามครับ
- ความเร็วรอบ: ยิ่งความเร็วรอบสูง งานยิ่งเสร็จไว ตัดได้แม่นยำ ประหยัดเวลาในการทำงาน ทำให้เราจัดการงานได้เยอะขึ้นในเวลาที่น้อยลงครับ
- ฟีเจอร์พิเศษ: นอกจากฟังก์ชันพื้นฐานแล้ว ผมชอบเลื่อยที่มีของแถม เช่น มีเลเซอร์ช่วยกะแนว หรือจอดิจิตอลที่ช่วยให้ตั้งค่าได้ง่ายและแม่นยำ ทำให้ใช้งานสะดวกและปลอดภัยมากขึ้นครับ
1.CLINTON MS-255
CLINTON MS-255 เลื่อยตัดองศาที่แม่นยำ ทนทาน ทำมุมได้หลากหลาย เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความละเอียดสูงและผลลัพธ์ที่เรียบสวยไร้เสี้ยน
| ประเภท | เลื่อยองศารางสไลด์ |
| เหมาะสำหรับงาน | ตัดไม้ |
| กำลังไฟฟ้า | 2000วัตต์ |
| ความเร็วรอบสูงสุด | 5000รอบ/นาที |
ข้อดี
- ระบบเลเซอร์ช่วยเพิ่มความแม่นยำในการตัด ทำให้ได้ชิ้นงานที่ตรงตามสเปค
- สามารถปรับเอียงได้ทั้งซ้ายและขวาถึง 45 องศา ทำให้การตัดมุมเป็นไปอย่างยืดหยุ่น
- รอยตัดออกมาเรียบสวยไม่เป็นเสี้ยน เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความละเอียด
- กำลังไฟ 2,000 วัตต์ และความเร็วรอบ 5,000 รอบต่อนาที ช่วยให้การตัดเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
- ท่อสไลด์ขนาดใหญ่ 30 มิลลิเมตร ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการตัดมุมเอียง
ข้อควรพิจารณา
- สินค้ามีน้ำหนักค่อนข้างมาก อาจทำให้การเคลื่อนย้ายไม่สะดวกสำหรับบางคน
- การตั้งค่าระบบเลเซอร์อาจต้องการความแม่นยำสูง และต้องทำความเข้าใจวิธีการใช้ให้ถูกต้อง
CLINTON MS-255 เลื่อยตัดองศาแบบรางสไลด์ที่มีกำลังไฟฟ้า 2,000 วัตต์ ความเร็วรอบการหมุนสูงถึง 5,000 รอบต่อนาที ใบเลื่อยขนาด 10 นิ้ว สามารถตัดไม้ได้อย่างแม่นยำทั้งในมุมตรงและมุมเอียง โดยสามารถปรับเอียงซ้ายและขวาได้ถึง 45 องศา จุดเด่นของ CLINTON MS-255 คือ ระบบเลเซอร์ที่ช่วยเพิ่มความแม่นยำในการวางแนวตัด นอกจากนี้ ท่อสไลด์ยังถูกออกแบบให้มีขนาดใหญ่ขึ้นจาก 25 มิลลิเมตร เป็น 30 มิลลิเมตร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการตัดมุมเอียง ทำให้ชิ้นงานออกมาเรียบสวยไม่มีเสี้ยน
ความสามารถในการตัดของเลื่อยรุ่นนี้ค่อนข้างหลากหลาย เช่น การตัดที่มุม 45 องศา สามารถตัดชิ้นงานที่มีขนาด 40 x 210 มิลลิเมตรได้ ส่วนการตัดที่มุม 90 องศา สามารถตัดชิ้นงานที่มีขนาด 70 x 310 มิลลิเมตรได้ สำหรับการตัดที่มุม 45×90 องศา เลื่อยสามารถตัดชิ้นงานขนาด 40 x 310 มิลลิเมตรได้ และการตัดที่มุม 90×45 องศา สามารถตัดชิ้นงานขนาด 70 x 210 มิลลิเมตรได้ ทำให้เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความละเอียดและความแม่นยำสูง เช่น งานเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งต้องการรอยตัดที่เรียบสวยและไม่มีเสี้ยน
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?
CLINTON MS-255 เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในตลาดเลื่อยตัดองศา โดยเฉพาะสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการเครื่องมือที่สามารถตัดไม้ได้อย่างแม่นยำและมีคุณภาพสูง มีคุณสมบัติเด่นหลายประการ ทั้งในเรื่องของความแม่นยำในการตัดที่สูงด้วยระบบเลเซอร์ การตัดชิ้นงานที่เรียบสวยไม่เป็นเสี้ยน และความสามารถในการปรับองศาการตัดได้ถึง 45 องศา ทั้งซ้ายและขวา นอกจากนี้ ตัวเครื่องยังมีความแข็งแรง ทนทาน เหมาะสำหรับการใช้งานในงานเฟอร์นิเจอร์หรืองานที่ต้องการความละเอียดสูง
2.BOSCH GCM 254 SD
BOSCH GCM 254 SD แท่นตัดองศาที่มาพร้อมระบบเลเซอร์เพื่อความแม่นยำสูง รองรับการตัดวัสดุขนาดใหญ่ และเหมาะอย่างยิ่งสำหรับงานที่ต้องการความละเอียดและความสะดวกสบายในการใช้งาน
| ประเภท | เลื่อยองศารางสไลด์ |
| เหมาะสำหรับงาน | ตัดโลหะ, อะลูมิเนียม, ตัดไม้ |
| กำลังไฟฟ้า | 1800 วัตต์ |
| ความเร็วรอบสูงสุด | 4800 รอบ/นาที |
ข้อดี
- ระบบเลเซอร์ช่วยเพิ่มความแม่นยำในการตัด ทำให้ชิ้นงานมีคุณภาพสูง
- สามารถตัดวัสดุขนาดใหญ่ได้ถึง 310 มิลลิเมตร สามารถตัดวัสดุขนาดใหญ่ได้ถึง 310 มิลลิเมตร ทำให้ใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ
- มีเกจวัดความยาวที่ช่วยให้การตัดซ้ำเป็นไปได้อย่างสะดวก ไม่ต้องตั้งค่าใหม่ทุกครั้ง
- การปรับมุมในแนวระนาบและมุมเอียงทำได้อย่างยืดหยุ่น ทำให้การตัดมุมต่างๆ เป็นไปอย่างแม่นยำ
ข้อควรพิจารณา
- น้ำหนัก 17.9 กิโลกรัม อาจหนักเกินไปสำหรับผู้ที่ต้องการเครื่องมือที่เบากว่า
- ระดับเสียงขณะทำงานค่อนข้างสูงที่ 98-109 dB(A) อาจจะต้องการการป้องกันเสียงขณะใช้งาน
BOSCH GCM 254 SD แท่นตัดองศาแบบรางสไลด์ที่มีกำลังไฟ 1,800 วัตต์ ซึ่งสามารถรองรับการตัดวัสดุได้หลากหลายชนิด โดยมาพร้อมกับระบบเลเซอร์ที่ช่วยเพิ่มความแม่นยำในการตัด เส้นเลเซอร์ที่ชัดเจนทำให้สามารถทำงานได้อย่างแม่นยำและสม่ำเสมอ นอกจากนี้ รุ่นนี้ยังมีส่วนต่อเสริมแบบถอดได้ที่ช่วยให้สามารถตัดวัสดุที่มีขนาดใหญ่ได้อย่างแม่นยำมากยิ่งขึ้น ความสามารถในการสไลด์ของเครื่องทำให้สามารถตัดชิ้นงานขนาดใหญ่ได้ถึง 310 มิลลิเมตร
ตัวเครื่องน้ำหนัก 17.9 กิโลกรัม ซึ่งถือว่าเป็นน้ำหนักที่พอดีสำหรับการยกย้ายและจัดเก็บ ความเร็วรอบในการทำงานอยู่ที่ 4,800 รอบต่อนาที ซึ่งเพียงพอสำหรับการตัดวัสดุในงานต่างๆ ขนาดการตัดที่มุม 0° คือ 90 x 310 มิลลิเมตร และที่มุม 45° สามารถตัดชิ้นงานที่มีขนาด 45 x 310 มิลลิเมตรได้ นอกจากนี้ ยังมีเกจวัดความยาวที่ช่วยให้สามารถทำงานตัดซ้ำได้อย่างสะดวก โดยไม่ต้องตั้งค่าใหม่ทุกครั้ง ความสามารถในการปรับมุมในแนวระนาบทำได้ทั้งซ้าย 47 องศา และขวา 52 องศา ส่วนการปรับมุมเอียงสามารถทำได้ทั้งซ้ายและขวาที่ 45 องศา นอกจากนี้ ตัวเครื่องยังมีขนาด 574 x 779 x 645 มิลลิเมตร ทำให้เป็นเครื่องมือที่มีขนาดพอเหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่จำกัด
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?
โดยรวมแล้ว BOSCH GCM 254 SD เป็นแท่นตัดองศาที่มาพร้อมกับคุณสมบัติที่ครบครัน เช่น ระบบเลเซอร์ที่ช่วยให้การตัดมีความแม่นยำสูง สามารถตัดวัสดุขนาดใหญ่ได้ถึง 310 มิลลิเมตร และรองรับการตัดวัสดุได้หลากหลายชนิด อีกทั้งยังมีเกจวัดความยาวที่ช่วยให้การตัดซ้ำเป็นไปอย่างสะดวก ไม่ต้องตั้งค่าใหม่ทุกครั้ง ความสามารถในการปรับมุมในแนวระนาบและการปรับมุมเอียงยังช่วยให้การตัดมุมต่างๆ เป็นไปได้อย่างยืดหยุ่น ด้วยน้ำหนักที่เหมาะสมและขนาดเครื่องที่ไม่ใหญ่เกินไป
3.InnTech IMS-255T
InnTech รุ่น IMS-255T เลื่อยตัดองศากำลังสูง ที่ออกแบบมาสำหรับงานหนัก รองรับการตัดวัสดุหลากหลายชนิด ด้วยระบบเซฟตี้การ์ดบังใบเลื่อยและความแม่นยำสูง
| ประเภท | เลื่อยองศาคานตาย |
| เหมาะสำหรับงาน | ตัดโลหะ, อะลูมิเนียม, ตัดไม้ |
| กำลังไฟฟ้า | 2200 วัตต์ |
| ความเร็วรอบสูงสุด | 6000 รอบ/นาที |
ข้อดี
- มอเตอร์กำลังสูง 2,200 วัตต์ ทำจากทองแดงแท้ 100% รองรับงานหนักและการใช้งานอย่างต่อเนื่อง
- สามารถตัดวัสดุหลากหลายชนิดได้ทั้งไม้ เหล็ก และอะลูมิเนียม ทำให้มีความยืดหยุ่นในการใช้งาน
- มีระบบเบรกที่ช่วยหยุดใบเลื่อยได้อย่างรวดเร็ว เพิ่มความปลอดภัยในการใช้งาน
- ระบบล็อคแกนช่วยให้การเปลี่ยนใบเลื่อยเป็นไปได้อย่างรวดเร็วและสะดวก
- การ์ดบังใบเลื่อยช่วยป้องกันการสัมผัสใบเลื่อยโดยไม่ได้ตั้งใจ เพิ่มความปลอดภัยในการทำงาน
- ฐานรองตัดชิ้นงานที่กว้างและแข็งแรง ช่วยให้การใช้งานเป็นไปอย่างมั่นคงและไม่ลื่นไถล
ข้อควรพิจารณา
- ความเร็วในการหมุนที่สูงถึง 6,000 รอบต่อนาที อาจทำให้เกิดเสียงดังขณะใช้งาน
- อุปกรณ์เสริมเช่นใบเลื่อยเพิ่มเติมอาจต้องซื้อแยกต่างหาก ขึ้นอยู่กับความต้องการในการใช้งาน
InnTech รุ่น IMS-255T มีขนาด 10 นิ้ว ที่ออกแบบมาสำหรับการตัดวัสดุหลากหลายชนิด ทั้งไม้ เหล็ก และอะลูมิเนียม ตัวเครื่องมีมอเตอร์กำลังสูงถึง 2,200 วัตต์ ซึ่งทำจากทองแดงแท้ 100% ทำให้สามารถรองรับงานหนักและการใช้งานอย่างต่อเนื่องได้อย่างมีประสิทธิภาพ ความเร็วการหมุนอยู่ที่ 0-6,000 รอบต่อนาที ซึ่งเป็นความเร็วที่สูงเพียงพอสำหรับการตัดวัสดุที่หลากหลาย นอกจากนี้ สวิตช์ไกปืนที่ใช้งานง่ายยังช่วยลดความเมื่อยล้าระหว่างการใช้งาน ฐานรองตัดชิ้นงานมีขนาดกว้างและแข็งแรง ช่วยให้การใช้งานเป็นไปอย่างสะดวกและปลอดภัย ไม่ลื่นไถลขณะใช้งาน
หนึ่งในจุดเด่นของเลื่อยรุ่นนี้ คือ มีระบบเบรกที่ช่วยหยุดการทำงานของใบเลื่อยได้อย่างรวดเร็ว เพิ่มความปลอดภัยในการใช้งาน นอกจากนี้ยังมีระบบล็อคแกนที่ช่วยให้การเปลี่ยนใบเลื่อยเป็นไปได้อย่างรวดเร็วและสะดวกยิ่งขึ้น ระบบเซฟตี้ได้รับการพัฒนาขึ้นด้วยการ์ดบังใบเลื่อยที่เปิดทุกครั้งเมื่อต้องการตัดชิ้นงาน เพื่อป้องกันการสัมผัสใบเลื่อยโดยไม่ได้ตั้งใจ ตัวเครื่องยังมีฉากกั้นชิ้นงานด้านข้างที่หนาพิเศษ ช่วยให้การตัดชิ้นงานเป็นไปอย่างมั่นคงและแม่นยำ โดยมีสเกลบอกระยะที่คมชัดและอ่านง่าย รวมถึงในชุดยังมาพร้อมกับถุงเก็บฝุ่นและใบเลื่อยตัดไม้ขนาด 10 นิ้ว 60 ฟัน ทำให้ผู้ใช้สามารถเริ่มงานได้ทันที
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?
InnTech รุ่น IMS-255T เป็นเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการเลื่อยตัดองศาที่มีประสิทธิภาพสูง และมีความทนทานสำหรับงานหนัก ด้วยมอเตอร์กำลังสูง 2,200 วัตต์ ซึ่งทำจากทองแดงแท้ 100% ทำให้รองรับการใช้งานได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังมีระบบเบรกที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งาน โดยสามารถหยุดการทำงานของใบเลื่อยได้อย่างรวดเร็ว ตัวเครื่องยังมาพร้อมกับระบบล็อคแกนที่ช่วยให้การเปลี่ยนใบเลื่อยเป็นไปได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว ระบบเซฟตี้ได้รับการพัฒนาขึ้นด้วยการ์ดบังใบเลื่อยที่ช่วยป้องกันการสัมผัสใบเลื่อยโดยไม่ได้ตั้งใจ ทั้งนี้ยังมีฉากกั้นชิ้นงานที่แข็งแรง พร้อมกับสเกลบอกระยะที่คมชัด อ่านง่าย
4.FEMI TR1030DB
FEMI รุ่น TR1030DB มาพร้อมมอเตอร์กำลังสูง 2,000 วัตต์ และระบบเลเซอร์ Double Laser ที่ช่วยให้การตัดวัสดุมีความแม่นยำและรองรับงานหนักได้ดี
| ประเภท | เลื่อยองศารางสไลด์ |
| เหมาะสำหรับงาน | ตัดไม้ |
| กำลังไฟฟ้า | 2000 วัตต์ |
| ความเร็วรอบสูงสุด | 5500รอบ/นาที |
ข้อดี
- มอเตอร์กำลังสูง 2,000 วัตต์ ทำให้สามารถรองรับงานหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ระบบเลเซอร์ Double Laser ช่วยเพิ่มความแม่นยำในการตัด ทำให้การทำงานเป็นไปได้อย่างเที่ยงตรง
- สามารถตัดวัสดุได้หลากหลายชนิด ทั้งไม้ อะลูมิเนียม และเหล็ก
- ใบเลื่อยขนาด 305 มิลลิเมตร รองรับการตัดชิ้นงานขนาดใหญ่ได้ดี
- สามารถตัดเอียงซ้ายและขวาได้ถึง 45 องศา เพิ่มความยืดหยุ่นในการทำงาน
- น้ำหนักตัวเครื่อง 23 กิโลกรัม ทำให้สามารถติดตั้งและใช้งานกับโต๊ะได้อย่างมั่นคง
ข้อควรพิจารณา
- การปรับตั้งองศาและการตัดมุมอาจต้องใช้เวลาและความระมัดระวัง เนื่องจากระบบควบคุมอาจไม่สะดวกเท่ากับรุ่นอื่นๆ ที่มีระบบปรับอัตโนมัติ
- มอเตอร์สายพานอาจต้องการการดูแลรักษาและการปรับตั้งเป็นระยะ เพื่อรักษาประสิทธิภาพการทำงานให้อยู่ในระดับสูงสุด
FEMI รุ่น TR1030DB เป็นเลื่อยตัดองศาสำหรับงานหนักที่มีประสิทธิภาพสูง ด้วยมอเตอร์ขนาด 2,000 วัตต์ และระบบสายพานขับเคลื่อน ทำให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีความเร็วรอบในการหมุนที่ 5,500 รอบต่อนาที ตัวเลื่อยสามารถรองรับการตัดวัสดุได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นไม้ อะลูมิเนียม หรือเหล็ก นอกจากนี้ยังมีระบบเลเซอร์ Double Laser ที่ช่วยเพิ่มความแม่นยำในการตัด โดยเส้นเลเซอร์จะเป็นตัวนำทางสำหรับการตัด ทำให้การทำงานเป็นไปได้อย่างเที่ยงตรง
ขนาดใบเลื่อยของอยู่ที่ 305 มิลลิเมตร ซึ่งสามารถตัดชิ้นงานขนาดใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การตัดเอียงซ้ายและขวาทำได้ถึง 45 องศา โดยสามารถตัดมุมและเอียงได้หลากหลายแบบ เช่น การตัดไม้ที่มุม 0° สามารถตัดได้สูงสุดถึง 105 มิลลิเมตร ส่วนการตัดเอียงซ้ายที่ 45° สามารถตัดได้สูงสุดที่ 65 มิลลิเมตร และการตัดมุมซ้าย-ขวาที่ 45° สามารถตัดได้สูงสุดถึง 105 มิลลิเมตร ตัวเครื่องน้ำหนัก 23 กิโลกรัม ทำให้สามารถติดตั้งและใช้งานกับโต๊ะได้อย่างมั่นคง
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?
FEMI รุ่น TR1030DB เป็นเลื่อยตัดองศาที่เหมาะสำหรับงานหนัก สามารถตัดวัสดุหลากหลายชนิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นไม้ อะลูมิเนียม หรือเหล็ก อีกทั้งยังมาพร้อมระบบเลเซอร์ Double Laser ที่ช่วยเพิ่มความแม่นยำในการตัด ทำให้สามารถทำงานได้อย่างเที่ยงตรง ตัวเลื่อยสามารถตัดเอียงซ้ายและขวาได้ถึง 45 องศา และรองรับการตัดชิ้นงานขนาดใหญ่ด้วยใบเลื่อยขนาด 305 มิลลิเมตร
5.MIXPRO 23-005-003
MIXPRO รุ่น MP1013A2 เป็นแท่นตัดองศาแบบรางสไลด์ ที่มาพร้อมกำลังมอเตอร์สูง 2,000 วัตต์ มีจำนวน 40 ฟัน และระบบเลเซอร์นำตัด ช่วยให้การตัดไม้เป็นไปอย่างแม่นยำและสะดวกสบาย
| ประเภท | เลื่อยองศารางสไลด์ |
| เหมาะสำหรับงาน | ตัดไม้ |
| กำลังไฟฟ้า | 2000วัตต์ |
| ความเร็วรอบสูงสุด | 4500รอบ/นาที |
ข้อดี
- กำลังมอเตอร์สูงถึง 2,000 วัตต์ ทำให้การตัดไม้มีประสิทธิภาพและรวดเร็ว
- มาพร้อมระบบเลเซอร์นำตัดที่ช่วยเพิ่มความแม่นยำในการตัดชิ้นงาน
- ใบเลื่อยขนาด 10 นิ้ว (254 มิลลิเมตร) ที่มีจำนวน 40 ฟัน รองรับการตัดไม้ได้อย่างเรียบเนียน
- ถุงผ้าเก็บฝุ่นในตัว ช่วยให้การทำความสะอาดหลังการใช้งานเป็นไปอย่างสะดวก
- สามารถตัดชิ้นงานในหลากหลายมุม ทั้งมุม 90 องศา และ 45 องศา
- การรับประกันสินค้านาน 1 ปี เพิ่มความมั่นใจในคุณภาพและการใช้งาน
ข้อควรพิจารณา
- สามารถเอียงตัดได้เฉพาะด้านซ้ายเท่านั้น ทำให้มีข้อจำกัดในการตัดบางมุม
- ความเร็วรอบ 4,500 รอบต่อนาที อาจจะไม่เพียงพอสำหรับการตัดวัสดุที่หนามาก
MIXPRO รุ่น MP1013A2 เป็นแท่นตัดองศาแบบรางสไลด์ที่ออกแบบมาเพื่อการตัดไม้โดยเฉพาะ มาพร้อมกับใบเลื่อยขนาด 10 นิ้ว (254 มิลลิเมตร) ที่มีจำนวน 40 ฟัน ทำให้สามารถตัดไม้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ กำลังมอเตอร์ของเครื่องนี้อยู่ที่ 2,000 วัตต์ ซึ่งเพียงพอสำหรับการตัดชิ้นงานไม้ขนาดใหญ่ ความเร็วรอบในการหมุนสูงสุดอยู่ที่ 4,500 รอบต่อนาที ทำให้การตัดเป็นไปอย่างรวดเร็วและแม่นยำ
ตัวเครื่องมีระบบเลเซอร์นำตัด ช่วยให้การตัดมีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น แม้จะสามารถเอียงได้เฉพาะด้านซ้าย สามารถตัดชิ้นงานได้ในหลากหลายมุม โดยสามารถตัดได้ถึงขนาด 70×310 มิลลิเมตร สำหรับการตัดที่มุม 45- 90 องศา แต่เครื่องนี้สามารถทำมุมการตัดได้อย่างเรียบเนียนและสม่ำเสมอ นอกจากนี้ยังมีถุงผ้าสำหรับเก็บฝุ่นในตัว ทำให้การทำความสะอาดพื้นที่หลังการใช้งานเป็นไปอย่างสะดวก โดยเฉพาะเมื่อนำเครื่องไปใช้งานนอกสถานที่
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?
MIXPRO รุ่น MP1013A2 รองรับการตัดไม้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยกำลังมอเตอร์ 2,000 วัตต์ และใบเลื่อยขนาด 10 นิ้วที่มีจำนวน 40 ฟัน ทำให้สามารถตัดชิ้นงานไม้ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ นอกจากนี้ยังมีระบบเลเซอร์นำตัดที่ช่วยเพิ่มความแม่นยำในการตัดชิ้นงานได้อย่างมาก การที่เครื่องสามารถตัดได้ในหลากหลายมุม ทั้งมุม 90 องศาและ 45 องศา ช่วยให้ผู้ใช้สามารถปรับการใช้งานได้ตามต้องการ ถุงผ้าเก็บฝุ่นในตัวช่วยให้การทำความสะอาดหลังการใช้งานเป็นไปได้อย่างสะดวก เหมาะสำหรับการใช้งานทั้งในสถานที่และนอกสถานที่ และการรับประกันสินค้านาน 1 ปี
6.DEWALT DWS780-KR
DEWALT รุ่น DWS780-KR เลื่อยตัดองศาที่มาพร้อมไฟ LED สุดล้ำ พ่วงความสามารถในการปรับมุมตัดหลายองศา เพื่อความแม่นยำและความสะดวกในการใช้งาน
| ประเภท | เลื่อยองศารางสไลด์ |
| เหมาะสำหรับงาน | ตัดไม้ |
| กำลังไฟฟ้า | 1675 วัตต์ |
| ความเร็วรอบสูงสุด | 3800รอบ/นาที |
ข้อดี
- ไฟ LED ช่วยส่องสว่างแนวตัด ทำให้การตัดชิ้นงานมีความแม่นยำสูง
- สามารถปรับองศาการตัดได้หลากหลายมุม เช่น 15 องศา, 30 องศา, และ 45 องศา เพื่อความยืดหยุ่นในการใช้งาน
- ฐานรองตัดมีความมั่นคง ช่วยให้การทำงานเป็นไปอย่างราบรื่นและแม่นยำ
- ใบเลื่อยขนาด 12 นิ้ว 60 ฟัน สามารถตัดไม้ได้หนาสูงสุดถึง 125 มิลลิเมตร
- ด้ามจับออกแบบตามหลักสรีระศาสตร์ ช่วยให้ควบคุมเครื่องมือได้สะดวกและปลอดภัย
- มอเตอร์มีช่องระบายความร้อนขนาดใหญ่ ช่วยให้เครื่องทำงานต่อเนื่องได้โดยไม่เกิดปัญหาความร้อนสะสม
ข้อควรพิจารณา
- การบังใบที่คลุมใบเลื่อยเกือบเต็ม อาจทำให้การมองเห็นในบางมุมตัดถูกจำกัด
- การบำรุงรักษาและจัดการสายไฟหุ้มฉนวนอาจเพิ่มความซับซ้อนในการใช้งานระยะยาว
DEWALT รุ่น DWS780-KR ออกแบบมาเพื่อการใช้งานที่ต้องการความแม่นยำสูง พร้อมฟีเจอร์พิเศษอย่าง ไฟ LED ที่ช่วยส่องสว่างแนวตัด ทำให้การตัดชิ้นงานเป็นไปได้อย่างเที่ยงตรง ตัวเครื่องสามารถปรับองศาการตัดได้หลายมุม เช่น 15 องศา, 30 องศา, และ 45 องศา ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถเลือกการตัดมุมตามความต้องการได้อย่างสะดวก ฐานรองตัวเครื่องมีความกว้างและมั่นคง ช่วยเพิ่มความเสถียรในการตัดชิ้นงาน นอกจากนี้ยังมีการออกแบบด้ามจับตามหลักสรีระศาสตร์ ทำให้จับถนัดมือและควบคุมการทำงานได้ง่าย
ใบเลื่อยขนาด 12 นิ้ว 60 ฟันของ DEWALT รุ่น DWS780-KR สามารถตัดไม้ได้หนาสูงสุดถึง 125 มิลลิเมตร เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการความแม่นยำในการตัด นอกจากนี้ เครื่องยังมีบังใบที่คลุมใบเลื่อยเกือบเต็ม ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งาน มอเตอร์ของเครื่องมีช่องระบายความร้อนขนาดใหญ่ ทำให้สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่เกิดความร้อนสูงจนเกินไป และยังมาพร้อมกับสายไฟที่มีการหุ้มฉนวนอย่างดี ช่วยให้การใช้งานในพื้นที่ต่าง ๆ เป็นไปได้อย่างสะดวก
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?
DEWALT รุ่น DWS780-KR สินค้ามาพร้อมกับคุณสมบัติที่ตอบโจทย์การใช้งานอย่างมืออาชีพ ด้วยไฟ LED ที่ช่วยส่องสว่างแนวตัด ทำให้การตัดชิ้นงานมีความแม่นยำสูง อีกทั้งตัวเครื่องยังสามารถปรับองศาการตัดได้หลากหลายมุม เช่น 15 องศา, 30 องศา, และ 45 องศา เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการในการตัดที่แตกต่างกัน ด้ามจับของเครื่องถูกออกแบบตามหลักสรีระศาสตร์ ช่วยให้การควบคุมเครื่องมือเป็นไปอย่างสะดวกและปลอดภัย ฐานรองตัดมีความมั่นคง ช่วยให้การทำงานเป็นไปอย่างราบรื่นและแม่นยำ
7.TOMA JAPAN TMS-255T
TOMA JAPAN รุ่น TMS-255T มีกำลังสูง 2,200 วัตต์ และระบบเซฟตี้มีระบบเบรคใบเลื่อย เหมาะสำหรับงานหนักที่ต้องการความแม่นยำและความปลอดภัยสูง
| ประเภท | เลื่อยองศาคานตาย |
| เหมาะสำหรับงาน | ตัดโลหะ, อะลูมิเนียม, ตัดไม้ |
| กำลังไฟฟ้า | 2200 วัตต์ |
| ความเร็วรอบสูงสุด | 6000รอบ/นาที |
ข้อดี
- มอเตอร์ทองแดงแท้ 100% กำลังสูงถึง 2,200 วัตต์ ทำให้รองรับงานหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ระบบเบรคใบเลื่อยช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งาน โดยหยุดใบเลื่อยได้อย่างรวดเร็ว
- ระบบล็อคแกนช่วยให้การเปลี่ยนใบเลื่อยเป็นไปได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว
- การ์ดบังใบเลื่อยช่วยป้องกันการสัมผัสใบเลื่อยโดยไม่ได้ตั้งใจ เพิ่มความปลอดภัยในการทำงาน
- ฉากกั้นที่แข็งแรงและสเกลบอกระยะที่ชัดเจนช่วยให้การตัดเป็นไปได้อย่างแม่นยำ
- ฐานรองขนาดกว้างและแข็งแรง ช่วยให้การใช้งานเป็นไปอย่างมั่นคงและไม่ลื่นไถล
ข้อควรพิจารณา
- การตัดในมุมเอียงอาจมีข้อจำกัด เนื่องจากตัวเครื่องอาจไม่สามารถปรับเอียงได้ทุกมุมที่ต้องการ
- ระบบความปลอดภัยอาจทำให้การใช้งานซับซ้อนขึ้นสำหรับผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับเครื่องมือชนิดนี้
TOMA JAPAN รุ่น TMS-255T สินค้าออกแบบมาเพื่อการใช้งานหนัก มาพร้อมมอเตอร์ทองแดงแท้ 100% ที่มีกำลังสูงถึง 2,200 วัตต์ ทำให้สามารถตัดชิ้นงานได้ทั้งไม้ เหล็ก และอะลูมิเนียม ความเร็วในการหมุนของเครื่องนี้อยู่ที่ 0-6,000 รอบต่อนาที ทำให้สามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ มีระบบเบรคใบเลื่อยที่ช่วยหยุดการทำงานของใบเลื่อยได้อย่างรวดเร็ว เพิ่มความปลอดภัยในการใช้งาน นอกจากนี้ยังมีระบบล็อคแกนที่ช่วยให้การเปลี่ยนใบเลื่อยเป็นไปได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว รวมถึงการ์ดบังใบที่ช่วยป้องกันการสัมผัสใบเลื่อยโดยไม่ได้ตั้งใจ
เครื่องนี้มาพร้อมกับฉากกั้นชิ้นงานที่หนาและแข็งแรง ช่วยให้การตัดชิ้นงานเป็นไปอย่างแม่นยำและปลอดภัย สเกลบอกระยะมีความคมชัดและอ่านง่าย ทำให้สามารถตั้งค่าการตัดได้อย่างแม่นยำ ฐานรองตัดชิ้นงานมีขนาดกว้างและแข็งแรง ช่วยให้การใช้งานเป็นไปอย่างมั่นคงและไม่ลื่นไถล ส่วนสวิตช์ไกปืนออกแบบมาให้ใช้งานง่าย ลดความเมื่อยล้าระหว่างการใช้งาน พิเศษสุด! สินค้ามาพร้อมถุงเก็บฝุ่นที่ช่วยให้การทำความสะอาดหลังใช้งานเป็นไปอย่างสะดวก และใบเลื่อยตัดไม้ขนาด 10 นิ้ว 60 ฟัน ติดมากับเครื่อง ทำให้คุณสามารถเริ่มใช้งานได้ทันทีที่แกะกล่อง
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?
TOMA JAPAN รุ่น TMS-255T มีมอเตอร์ทองแดงแท้ 100% กำลังสูงถึง 2,200 วัตต์ ทำให้สามารถตัดชิ้นงานได้ทั้งไม้ เหล็ก และอะลูมิเนียม เครื่องนี้มาพร้อมระบบเบรคใบเลื่อยที่หยุดการทำงานได้อย่างรวดเร็ว เพิ่มความปลอดภัยในการใช้งาน ระบบล็อคแกนช่วยให้เปลี่ยนใบเลื่อยได้สะดวก และการ์ดบังใบช่วยป้องกันการสัมผัสใบเลื่อยโดยไม่ตั้งใจ ตัวเครื่องมาพร้อมฉากกั้นแข็งแรงและสเกลบอกระยะชัดเจน ทำให้ตัดได้แม่นยำและปลอดภัย ฐานรองกว้างและแข็งแรงช่วยให้ใช้งานได้อย่างมั่นคง ไม่ลื่นไถล นอกจากนี้ ยังมีถุงเก็บฝุ่นที่ช่วยให้ทำความสะอาดหลังใช้งานได้สะดวก
8.MAKITA LS1040
MAKITA รุ่น LS1040 มาพร้อมถุงเก็บฝุ่นที่ช่วยลดการฟุ้งกระจายของเศษไม้ มีระบบเบรกไฟฟ้า และสามารถปรับเอียงซ้ายได้ถึง 45 องศา เหมาะสำหรับงานตัดที่ต้องการความแม่นยำและความปลอดภัยสูง
| ประเภท | เลื่อยองศาคานตาย |
| เหมาะสำหรับงาน | ตัดโลหะ, อะลูมิเนียม, ตัดไม้ |
| กำลังไฟฟ้า | 1650 วัตต์ |
| ความเร็วรอบสูงสุด | 4600รอบ/นาที |
ข้อดี
- ระบบเบรคไฟฟ้าช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งาน โดยสามารถหยุดการทำงานอัตโนมัติเมื่อเกิดความร้อนสูงหรือมีความผิดปกติ
- ความสามารถในการปรับเอียงซ้ายได้ถึง 45 องศา ช่วยให้สามารถตัดชิ้นงานในมุมเอียงได้ง่ายขึ้น
- มาพร้อมระบบล็อกชิ้นงานที่ช่วยป้องกันการลื่นไหลขณะตัด ทำให้การตัดเป็นไปอย่างมั่นคงและแม่นยำ
- ระบบเก็บฝุ่นช่วยลดการฟุ้งกระจายของเศษไม้และขี้เลื่อย ทำให้พื้นที่ทำงานสะอาดและปลอดภัยยิ่งขึ้น
- กำลังไฟฟ้า 1,650 วัตต์ และความเร็วรอบ 4,600 รอบต่อนาที ทำให้สามารถตัดชิ้นงานได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
ข้อควรพิจารณา
- ความสามารถในการตัดมุมที่ 45 องศาอาจไม่เหมาะสำหรับชิ้นงานที่มีขนาดใหญ่เกินไป
- ระยะเวลาการรับประกันอาจไม่เพียงพอสำหรับการใช้งานระยะยาว
MAKITA รุ่น LS1040 เป็นแท่นเลื่อยตัดองศาขนาด 10 นิ้ว กำลังไฟฟ้า 1,650 วัตต์ และความเร็วรอบที่ 4,600 รอบต่อนาที ทำให้สามารถตัดชิ้นงานได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว ตัวเครื่องสามารถปรับเอียงซ้ายได้สูงสุด 45 องศา ซึ่งเหมาะสำหรับการตัดเฉียงชิ้นงานที่ต้องการความละเอียดและความแม่นยำ ระบบเบรคไฟฟ้าของเครื่องช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งาน โดยจะหยุดการทำงานอัตโนมัติเมื่อเกิดความร้อนสูงหรือมีความผิดปกติ นอกจากนี้ เครื่องยังมีระบบล็อกชิ้นงานที่ช่วยป้องกันการลื่นไหลขณะตัด ทำให้การตัดไม้เป็นไปอย่างมั่นคงและปลอดภัย
สินค้ามาพร้อมกับถุงเก็บฝุ่นที่ช่วยลดการฟุ้งกระจายของเศษไม้และขี้เลื่อย ทำให้พื้นที่ทำงานสะอาดยิ่งขึ้น ความสามารถในการตัดสูงสุดของเครื่องนี้อยู่ที่ 90.5 มิลลิเมตร x 95 มิลลิเมตรสำหรับการตัดที่มุม 0 องศา และ 90.5 มิลลิเมตร x 67 มิลลิเมตรสำหรับการตัดที่มุม 45 องศา ตัวเครื่องมีความแข็งแรงสูงและสามารถรองรับการทำงานหนักได้อย่างดี ด้วยคุณสมบัติต่างๆ เช่น ระบบเบรคไฟฟ้า ระบบล็อกชิ้นงาน และระบบเก็บฝุ่นที่มีประสิทธิภาพ ทำให้แบรนด์นี้ เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการแท่นเลื่อยตัดองศาที่มีความแม่นยำ ปลอดภัย และทนทาน
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?
MAKITA รุ่น LS1040 มีความแข็งแรงและทนทานสูง ตัวเครื่องมาพร้อมกับระบบเบรคไฟฟ้าที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งาน โดยสามารถหยุดการทำงานอัตโนมัติเมื่อเกิดความร้อนสูงหรือมีความผิดปกติ นอกจากนี้ เครื่องยังมีระบบล็อกชิ้นงานที่ช่วยให้การตัดเป็นไปอย่างมั่นคงและแม่นยำ การปรับเอียงซ้ายได้ถึง 45 องศาช่วยให้สามารถตัดชิ้นงานที่ต้องการมุมเอียงได้ง่ายขึ้น และระบบเก็บฝุ่นที่มีประสิทธิภาพช่วยให้พื้นที่ทำงานสะอาดและปลอดภัยยิ่งขึ้น
9.PUMPKIN J-M109
PUMPKIN รุ่น J-M109 เป็นเลื่อยตัดองศาประสิทธิภาพสูง ใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นงานไม้หรืองานเหล็กก็รับมือได้อย่างสบาย อีกทั้งยังออกแบบมาเพื่อความสะดวกสบายในการใช้งาน
| ประเภท | เลื่อยองศารางสไลด์ |
| เหมาะสำหรับงาน | ตัดโลหะ อะลูมิเนียม、ตัดไม้ |
| กำลังไฟฟ้า | 1800 วัตต์ |
| ความเร็วรอบสูงสุด | 6000รอบ/นาที |
ข้อดี
- กำลังไฟฟ้า 1,800 วัตต์ และความเร็วรอบ 6,000 รอบต่อนาที ทำให้การตัดชิ้นงานเป็นไปอย่างรวดเร็วและแม่นยำ
- สามารถปรับมุมการตัดได้หลากหลายองศา ทั้งมุมตรงและมุมเฉียง โดยเอียงได้ตั้งแต่ 0 ถึง 45 องศา
- มอเตอร์แบบไม่ใช้แปรงถ่าน ทำให้เครื่องเดินเงียบและลดปัญหาจุกจิกในการบำรุงรักษา
- ขนาดเครื่องกะทัดรัด ทำให้สะดวกในการจัดเก็บและเคลื่อนย้าย
- การเปลี่ยนใบเลื่อยทำได้อย่างสะดวก ช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการทำงาน
ข้อควรพิจารณา
- การตัดวัสดุที่มีความหนาและแข็งมากอาจต้องใช้กำลังและความแม่นยำสูง อาจไม่เหมาะสำหรับงานที่ต้องการการตัดที่ละเอียดมาก
- เครื่องอาจไม่เหมาะกับงานที่ต้องการการปรับเอียงในหลายมุมพร้อมกัน
PUMPKIN รุ่น J-M109 ตอบสนองความต้องการในการตัดวัสดุหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นไม้ เหล็ก หรืออะลูมิเนียม ด้วยกำลังไฟฟ้า 1,800 วัตต์ และความเร็วรอบ 6,000 รอบต่อนาที ทำให้การตัดเป็นไปอย่างแม่นยำและรวดเร็ว สามารถปรับมุมการตัดได้หลากหลายองศา ทั้งมุมตรงและมุมเฉียง โดยการเอียงสามารถปรับได้ตั้งแต่ 0 ถึง 45 องศา ทำให้เลื่อยรุ่นนี้เหมาะสำหรับการใช้งานที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นงานตกแต่งภายใน งานผลิตเฟอร์นิเจอร์ หรือการทำงาน D.I.Y.
ตัวเครื่องมีความแข็งแรงทนทานและออกแบบมาเพื่อความสะดวกสบายในการใช้งาน มอเตอร์แบบไร้แปรงถ่านและไม่ใช้เฟืองช่วยให้เครื่องทำงานเงียบและลดปัญหาในการบำรุงรักษา นอกจากนี้ ด้วยขนาดกะทัดรัด จึงสะดวกในการจัดเก็บและเคลื่อนย้าย เครื่องสามารถตัดชิ้นงานที่มุม 0 องศาได้ขนาดสูงสุด 85 x 300 มิลลิเมตร และที่มุม 45 องศาได้ขนาดสูงสุด 85 x 210 มิลลิเมตร อีกทั้งยังสามารถเปลี่ยนใบเลื่อยได้อย่างง่ายดาย ซึ่งช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้งานยิ่งขึ้น
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?
PUMPKIN รุ่น J-M109 เหมาะสำหรับงานหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นงานตกแต่งภายใน งานผลิตเฟอร์นิเจอร์ หรือการทำงาน D.I.Y. ด้วยกำลังไฟฟ้า 1,800 วัตต์ และความเร็วรอบ 6,000 รอบต่อนาที ทำให้การตัดชิ้นงานเป็นไปอย่างรวดเร็วและแม่นยำ สามารถปรับมุมการตัดได้หลากหลายองศา ทั้งมุมตรงและมุมเฉียง โดยสามารถเอียงได้ตั้งแต่ 0 ถึง 45 องศา นอกจากนี้ ตัวเครื่องยังออกแบบให้มีความแข็งแรงทนทาน พร้อมมอเตอร์ที่ทำงานเงียบและไม่ต้องการการบำรุงรักษามาก
10.Berala BL-1040
Berala รุ่น BL-1040 เป็นเลื่อยตัดองศาที่มาพร้อมมอเตอร์ทองแดงแท้ 100% และระบบความปลอดภัยครบครัน ด้วยฐานรองลื่นไถลกับระบบแกนล็อคใบเลื่อย
| ประเภท | เลื่อยองศาคานตาย |
| เหมาะสำหรับงาน | ตัดโลหะ, อะลูมิเนียม, ตัดไม้ |
| กำลังไฟฟ้า | 1650 วัตต์ |
| ความเร็วรอบสูงสุด | 4600รอบ/นาที |
ข้อดี
- มอเตอร์ทองแดงแท้ 100% กำลังสูงถึง 1,650 วัตต์ ทำให้รองรับงานหนักและการใช้งานต่อเนื่องได้ดี
- ระบบเบรกใบเลื่อยช่วยหยุดการทำงานได้อย่างรวดเร็ว เพิ่มความปลอดภัยในการใช้งาน
- การ์ดใสบังใบเลื่อยช่วยป้องกันการสัมผัสใบเลื่อยโดยไม่ได้ตั้งใจ ลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ
- สามารถตัดวัสดุได้หลากหลายชนิด ทั้งไม้ เหล็ก และอะลูมิเนียม ทำให้ใช้งานได้หลากหลาย
- ฐานรองตัดชิ้นงานมีความกว้างและแข็งแรง ทำให้การตัดเป็นไปอย่างมั่นคงและไม่ลื่นไถล
- ระบบล็อกแกนช่วยให้การเปลี่ยนใบเลื่อยเป็นไปได้อย่างรวดเร็วและสะดวก
ข้อควรพิจารณา
- กำลังไฟ 1,650 วัตต์ อาจไม่เพียงพอสำหรับการตัดวัสดุที่มีความหนาหรือแข็งมาก
- การปรับมุมตัดอาจมีข้อจำกัดในบางกรณีที่ต้องการมุมเฉียงมากขึ้น
Berala รุ่น BL-1040 เป็นเลื่อยตัดองศาที่มาพร้อมกับใบเลื่อยขนาด 10 นิ้ว ที่สามารถตัดวัสดุได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นไม้ เหล็ก หรืออะลูมิเนียม เครื่องนี้ใช้มอเตอร์ทองแดงแท้ 100% ที่มีกำลังไฟฟ้าสูงถึง 1,650 วัตต์ ทำให้รองรับงานหนักและการใช้งานอย่างต่อเนื่องได้อย่างมีประสิทธิภาพ ความเร็วรอบของเครื่องอยู่ที่ 4,600 รอบต่อนาที ทำให้การตัดเป็นไปอย่างรวดเร็วและแม่นยำ
ระบบความปลอดภัยขอแบรนด์นี้ เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง โดยเครื่องมีระบบเบรกที่สามารถหยุดใบเลื่อยได้อย่างรวดเร็ว ลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุระหว่างการใช้งาน นอกจากนี้ยังมีการ์ดใสบังใบเลื่อยที่ช่วยป้องกันการสัมผัสใบเลื่อยโดยไม่ได้ตั้งใจ การ์ดนี้จะเปิดทุกครั้งเมื่อต้องการตัดชิ้นงาน ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในระหว่างการทำงาน ฐานรองตัดชิ้นมีความกว้างและแข็งแรง ช่วยให้การตัดเป็นไปอย่างมั่นคงและไม่ลื่นไถล นอกจากนี้ยังมีระบบล็อกแกนที่ช่วยให้การเปลี่ยนใบเลื่อยเป็นไปได้อย่างรวดเร็วและสะดวก ช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการทำงาน
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?
Berala รุ่น BL-1040 มาพร้อมกับคุณสมบัติที่ตอบโจทย์การใช้งานอย่างมืออาชีพ มอเตอร์ทองแดงแท้ 100% กำลังสูงถึง 1,650 วัตต์ ทำให้สามารถตัดวัสดุได้หลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นไม้ เหล็ก หรืออะลูมิเนียม เครื่องนี้ยังมีระบบเบรกที่ช่วยหยุดใบเลื่อยได้อย่างรวดเร็ว เพิ่มความปลอดภัยในการใช้งาน อีกทั้งยังมีการ์ดใสบังใบเลื่อยที่ช่วยป้องกันการสัมผัสใบเลื่อยโดยไม่ได้ตั้งใจ ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานในหลากหลายสภาพแวดล้อม
วิธีเลือกเลื่อยองศาที่เหมาะกับงานของคุณ
ประเภทของเลื่อยมีอะไรบ้าง ?
เลื่อยองศานี่มีหลายแบบเลยนะครับ แต่ละแบบก็ถูกออกแบบมาให้เหมาะกับงานต่างๆ กัน ที่เราเจอกันบ่อยๆ ก็จะมีสองแบบหลักๆ คือ แบบคานตายกับแบบรางสไลด์ครับ
- เลื่อยองศาแบบคานตาย (Standard Miter Saw): ตัวนี้เป็นรุ่นพื้นฐานที่ใช้ตัดงานตามมุมที่เราต้องการครับ เหมาะมากสำหรับงานไม้ทั่วๆ ไป ที่ไม่ต้องซับซ้อนอะไรมาก เช่น ตัดตรงๆ หรือตัดมุมง่ายๆ ข้อดีคือน้ำหนักเบา ยกไปไหนมาไหนง่าย ราคาก็ไม่แพงมาก เลยเหมาะกับคนที่อยากได้เครื่องมือใช้งานง่ายๆ ไม่ยุ่งยากครับ
- เลื่อยองศาแบบรางสไลด์ (Sliding Compound Miter Saw): ส่วนตัวนี้จะพิเศษหน่อยครับ มีรางให้เลื่อนใบเลื่อยไปมาได้ เลยตัดงานที่กว้างๆ ได้สบาย เหมาะกับงานที่ต้องการความแม่นยำสูง หรืองานชิ้นใหญ่ๆ อย่างเช่น ทำเฟอร์นิเจอร์ ตัดอะลูมิเนียม หรือโลหะบางๆ ที่เจ๋งคือมันมีฟังก์ชันสไลด์ ทำให้เราตัดงานกว้างๆ ได้ในครั้งเดียว ไม่ต้องมาพลิกชิ้นงานไปมาให้วุ่นวายครับ
ควรเลือกเลื่อยองศาแบบไหนดี ?
- งานไม้: ถ้าต้องตัดไม้ให้เนี้ยบ ผมแนะนำเลื่อยองศาแบบรางสไลด์เลยครับ ตัวนี้ตัดไม้หนาๆ กว้างๆ ได้สบาย แถมตัดออกมาเรียบ ไม่มีเสี้ยนด้วย อ้อ! อย่าลืมดูฟันเลื่อยให้ละเอียดหน่อยนะครับ จะได้ตัดออกมาคมๆ สวยๆ
- งานโลหะ: สำหรับพวกอะลูมิเนียมหรือเหล็กบางๆ เราต้องใช้เลื่อยที่แข็งแรงหน่อยครับ ผมชอบใช้แบบรางสไลด์เหมือนกัน ปรับมุมได้หลายแบบ ตัดได้แม่นๆ แต่ต้องใช้ใบเลื่อยสำหรับโลหะโดยเฉพาะนะครับ จะได้งานออกมาดี
- งาน DIY: สำหรับใครที่อยากทำงานเล็กๆ น้อยๆ ที่บ้าน เช่น ทำชั้นวางของ หรือของใช้ในบ้าน แบบคานตายก็พอแล้วครับ ใช้ง่าย ราคาไม่แพง ไม่ต้องมีอะไรเยอะแยะ แต่ถ้าใครคิดว่าจะทำงานชิ้นใหญ่ๆ บ้าง ก็ลองดูแบบรางสไลด์ดูครับ จะได้ทำงานได้หลากหลายกว่า
การดูแลรักษาเลื่อยองศาเพื่อให้ใช้งานได้ยาวนาน
หลังจากใช้งานเลื่อยองศาเสร็จ อย่าลืมทำความสะอาดกันด้วยนะครับ เพราะนี่เป็นขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยให้เครื่องของเราใช้งานได้นานๆ และทำงานได้ดีเหมือนเดิม
- ปิดเครื่องและถอดปลั๊กก่อนทำความสะอาด: เรื่องความปลอดภัยต้องมาก่อนนะครับ ก่อนจะเริ่มทำความสะอาด อย่าลืมปิดเครื่องแล้วถอดปลั๊กไฟออกทุกครั้งเลยนะครับ
- ใช้แปรงขนนุ่มหรือเครื่องเป่าลม: ผมแนะนำให้ใช้แปรงขนนุ่มๆ หรือเครื่องเป่าลมเพื่อเอาเศษไม้ ฝุ่น หรือสิ่งสกปรกที่ติดตามร่องใบเลื่อยออกให้หมด โดยเฉพาะตรงฟันเลื่อยกับฐานรองนี่สำคัญมากครับ
- เช็ดทำความสะอาดภายนอก: ส่วนตัวเครื่องด้านนอก ผมจะใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำหมาดๆ เช็ดเป็นระยะๆ ครับ จะได้ไม่มีคราบน้ำมันหรือสารเคมีสะสม
- ทำความสะอาดสม่ำเสมอ: ถ้าเราหมั่นทำความสะอาดหลังใช้งานทุกครั้ง รับรองว่าเครื่องจะไม่พังง่ายๆ และใช้งานได้ยาวนานขึ้นแน่นอนครับ
มาดูเรื่องใบเลื่อยกันบ้าง
- ดูความคมใบเลื่อยบ่อยๆ: ผมแนะนำให้ตรวจดูความคมทุก 3-6 เดือนครับ หรือถ้ารู้สึกว่าตัดไม่ค่อยดีเหมือนเดิม ก็ควรเช็คดูได้เลย เพราะใบเลื่อยที่คมๆ จะช่วยให้ตัดได้เนี้ยบแม่นยำ
- เปลี่ยนใบเลื่อยเมื่อไม่คมแล้ว: พอเริ่มรู้สึกว่าใบเลื่อยไม่ค่อยคมแล้ว ผมจะรีบเปลี่ยนใหม่เลยครับ จะได้ไม่เสียคุณภาพงาน
- วิธีเปลี่ยนใบเลื่อย: ไม่ยากเลยครับ แค่ถอดล็อกตรงแกน ใช้ประแจคลายสกรู แล้วก็ใส่ใบใหม่ตามที่คู่มือบอก ทำตามขั้นตอนง่ายๆ แค่นี้เองครับ
- ป้องกันเสี้ยนไม้: ถ้าใบเลื่อยคมดี งานที่ออกมาก็จะเรียบ ไม่มีเสี้ยน ไม่ต้องมานั่งแก้งานทีหลังให้เสียเวลาครับ
เรื่องความปลอดภัยสำคัญนะครับ มาดูกันว่าต้องเช็คอะไรบ้าง
- ดูระบบเบรกให้ดี: พี่ๆ ครับ ระบบเบรกนี่สำคัญมากเลยนะ มันจะช่วยหยุดใบเลื่อยทันทีที่เราปล่อยปุ่ม เพื่อความปลอดภัยของเราเอง อย่าลืมเช็คบ่อยๆ ว่ายังทำงานดีอยู่มั้ย
- เจอปัญหาอย่าฝืนใช้: ถ้าสังเกตว่าเบรกมันไม่ค่อยดีแล้ว รีบเอาไปให้ช่างดูเลยนะครับ จะได้ใช้งานได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องกังวล
- สายไฟกับปลั๊กก็สำคัญ: อย่าลืมดูว่าสายไฟยังดีอยู่มั้ย ปลั๊กแน่นดีมั้ย สวิตช์ยังใช้ได้ปกติมั้ย ถ้าเห็นอะไรผิดปกติ รีบจัดการเลยนะครับ
- ดูแลรักษาเป็นประจำ: ผมแนะนำให้หมั่นดูแลเครื่องสม่ำเสมอครับ ยิ่งดูแลดี อายุการใช้งานก็จะยืนยาว ใช้งานได้ปลอดภัยด้วย คุ้มค่าคุ้มราคาแน่นอน
แบ่งปันเคล็ดลับการใช้เลื่อยองศาเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
เทคนิคตั้งองศาและมุมตัดให้แม่นยำ
การตั้งองศาและมุมตัดนี่ค่อนข้างต้องใช้ความชำนาญมากนะเลยทีเดียวถ้าอยากได้งานที่แม่นยำ ผมขอแนะนำเรื่องการเลือกมุมตัดก่อนเลย โดยทั่วไปเราจะใช้มุม 45 องศาในงานที่ต้องเข้ามุมให้สวยๆ อย่างพวกทำกรอบรูปหรือตัดไม้บัว แต่ถ้าใครอยากได้งานที่แม่นยำสุดๆ ผมแนะนำให้ใช้เครื่องวัดองศาที่ละเอียดถึง 0.1 องศาเลยครับ จะได้มั่นใจว่ามุมตัดตรงตามที่เราต้องการจริงๆ และที่สำคัญอย่าลืมเช็คด้วยว่าตัวเลื่อยล็อกแน่นดี ไม่โยกไปมาตอนตัด วิธีนี้จะช่วยลดความคลาดเคลื่อนได้เยอะเลย ประมาณ 90% เลยทีเดียวครับ
ยึดชิ้นงานให้มั่นเพื่อลดการเกิดเสี้ยน
การยึดชิ้นงานให้แน่นๆ นี่ต้องตรวจสอบดี ๆ เพราะถ้าชิ้นงานไม่แน่นพอ มันจะเกิดเสี้ยนได้ง่ายตอนตัด ผมเลยแนะนำให้ใช้แคลมป์จับชิ้นงานให้แน่นๆ กับโต๊ะเลื่อย แล้วก็ใช้ปากกาจับงานที่แรงยึดดีๆ ด้วยนะครับ วิธีนี้ช่วยลดเสี้ยนได้ถึง 70% เลยทีเดียว อ้อ! แล้วถ้าเป็นชิ้นงานใหญ่ๆ หรือยาวๆ อย่าลืมใช้แท่นรองรับเพิ่มด้วยนะครับ จะได้ไม่สั่นตอนตัด
ใช้ฟังก์ชันเสริมเข้าช่วย
ผมขอแนะนำระบบเลเซอร์ในเลื่อยองศานะครับ มันเป็นฟังก์ชันที่เจ๋งมากๆ เลย ช่วยให้ตัดงานได้แม่นยำสุดๆ ระบบนี้จะฉายเส้นเลเซอร์ให้เราเห็นแนวที่จะตัดก่อนเลย เราก็แค่จับชิ้นงานให้ตรงกับเส้นเลเซอร์ แล้วก็ตัดได้เลย สะดวกมากครับ ที่สำคัญคือความแม่นยำสูงถึง 95% เลยทีเดียว โดยเฉพาะงานละเอียดๆ ที่ต้องตัดให้เป๊ะๆ และที่เพิ่มความเจ๋งไปอีกคือ บางรุ่นมีระบบดิจิตอลด้วยนะครับ ปรับมุมได้ละเอียดถึง 0.1 องศาเลย ทำให้เราตัดชิ้นงานได้ตามที่ต้องการจริงๆ ครับ
แนะนำ ปากกาจับชิ้นงานและตลับเมตร—เครื่องมือช่างที่เพิ่มความแม่นยำ
ทำไมเราถึงต้องใช้เครื่องมือทั้งสามอย่างนี้ควบคู่กัน ? เพราะมันช่วยให้งานออกมาเป๊ะมากๆ เลยครับ เริ่มจากใช้ตลับเมตรยี่ห้อคุณภาพวัดขนาดกับมุมให้ชัวร์ก่อน จากนั้นก็เอา10 ปากกาจับชิ้นงานที่ดีที่สุดมาล็อกชิ้นงานให้แน่นๆ เพื่อกันไม่ให้มันขยับไปมาตอนตัด จะได้ไม่มีปัญหาพวกตัดเพี้ยนหรือเกิดเสี้ยนที่ขอบ พอทุกอย่างพร้อมแล้วก็ใช้เลื่อยองศาตัดตามที่เราตั้งมุมไว้ได้เลย รับรองว่าถ้าทำตามขั้นตอนนี้ งานจะออกมาสวยเป๊ะ ตรงใจแน่นอนครับ
จากบทความนี้คงจะเห็นแล้วว่า การเลือกเลื่อยองศาที่เหมาะกับงานนี่สำคัญมาก ๆ เลยนะ เพราะถ้าเราได้เครื่องมือดี ๆ มาใช้ งานเราก็จะแม่น เป๊ะ และปลอดภัยขึ้นเยอะเลย ที่สำคัญคือต้องรู้จักประเภทของเลื่อยองศาให้ดี เลือกขนาดใบเลื่อยให้เหมาะกับงาน แถมตอนนี้มีฟังก์ชันดี ๆ เยอะแยะ ทั้งเลเซอร์ ทั้งดิจิตอล ช่วยให้เราเลือกเครื่องที่ใช่กับงานของเราได้เลย และอย่าลืมนะครับ พอได้เลื่อยมาแล้ว ก็ต้องดูแลรักษาดี ๆ ด้วย จะได้ใช้งานได้นาน ๆ ปลอดภัย ไม่มีอุบัติเหตุ ถ้าเราดูแลเครื่องมือสม่ำเสมอ นอกจากจะใช้ได้ทน ไม่ต้องซื้อใหม่บ่อย ๆ แล้ว ยังช่วยประหยัดทั้งเวลาและเงินในกระเป๋าด้วยนะครับ
คำถามที่พบบ่อย
1.เลื่อยองศาคืออะไร แล้วมันช่วยงานช่างยังไงบ้าง?
ผมจะอธิบายให้ฟังง่ายๆ นะครับ เลื่อยองศาเป็นเครื่องมือที่ใช้ตัดวัสดุต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นไม้ เหล็ก หรืออะลูมิเนียม ให้ได้มุมสวยๆ ตามที่เราต้องการ ตัดได้แม่นยำ สวยงาม เหมาะมากสำหรับงานละเอียดๆ อย่างการทำเฟอร์นิเจอร์ ปูพื้นไม้ หรือทำงาน DIY ที่บ้านครับ
2.แล้วเลื่อยองศาแบบคานตายกับแบบรางสไลด์ต่างกันยังไง?
ง่ายๆ เลยครับ แบบคานตายเหมาะกับงานที่ต้องการความแม่นยำสูงๆ ส่วนแบบรางสไลด์จะเจ๋งตรงที่ตัดชิ้นงานใหญ่ๆ กว้างๆ ได้สบาย เพราะใบเลื่อยเลื่อนไปมาได้ ทำให้ตัดงานได้กว้างขึ้นครับ
3.แนะนำขนาดใบเลื่อยสำหรับใช้งานทั่วๆ ไปหน่อย?
ส่วนใหญ่ผมแนะนำใบเลื่อย 10 นิ้วครับ เพราะใช้ได้หลากหลาย ไม่ว่าจะตัดไม้หรืออะลูมิเนียม แต่ถ้าใครต้องตัดชิ้นงานใหญ่ๆ ก็ลองดูแบบ 12 นิ้วครับ มันจะตัดได้หนาและกว้างกว่าครับ
4.มีเทคนิคดูแลรักษาเลื่อยองศายังไงให้ใช้ได้นานๆ ?
ง่ายมากครับ หลังใช้งานทุกครั้งก็ทำความสะอาดใบเลื่อยให้เรียบร้อย หมั่นเช็คความคมของใบเลื่อย แล้วก็อย่าลืมดูแลระบบเบรกกับอะไหล่ต่างๆ ด้วยนะครับ ทำแบบนี้รับรองว่าเครื่องอยู่กับเราไปนานๆ ใช้งานได้ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพดีครับ
