10 อันดับ เรตินอล ยี่ห้อไหนดี หน้าสวยใส ลดริ้วรอย ลดการอุดตัน

เรตินอล

เรตินอล (Retinol) สารอนุพันธ์ของวิตามินเอที่นิยมใช้ในผลิตภัณฑ์บำรุงผิว มีคุณสมบัติช่วยลดเลือนริ้วรอย จุดด่างดำ และความหมองคล้ำ กระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ลดการอุดตันของรูขุมขน และช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิว ทำให้ผิวดูเรียบเนียนและกระจ่างใสขึ้น ในบทความนี้เราจะแนะนำ 10 อันดับ เรตินอล ยี่ห้อไหนดี หน้าสวยใส ลดริ้วรอย ลดการอุดตัน ซึ่งมีการคัดสรรมาอย่างดีตามเกณฑ์สำคัญ ได้แก่ รูปแบบของผลิตภัณฑ์ ปริมาณ และส่วนผสมหลัก พร้อมคำอธิบายสั้นๆ สำหรับแต่ละแบรนด์ เพื่อช่วยให้ผู้อ่านสามารถเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับความต้องการของตนเองได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ยังมีหัวข้อสนับสนุนเพิ่มเติม 3 หัวข้อ ได้แก่ ประโยชน์ของการใช้เรตินอล วิธีใช้เรตินอลอย่างถูกต้อง และเรตินอลสำหรับผิวแพ้ง่าย เพื่อให้ข้อมูลที่ครบถ้วนและเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านทุกคน สุดท้ายนี้จะมีสรุปเกี่ยวกับเนื้อหาทั้งหมดในบทความ เพื่อให้ผู้อ่านได้เข้าใจถึงความสำคัญและประโยชน์ของการใช้เรตินอลในการดูแลผิวพรรณอย่างถูกวิธี ให้คุณได้มีผิวสวยใส ไร้ริ้วรอย และดูอ่อนเยาว์เสมอ

หลักเกณฑ์ที่ใช้ในการจัดอันดับสินค้า

  • รูปแบบของผลิตภัณฑ์

เราพิจารณารูปแบบของผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย เช่น เซรั่ม ครีม โลชั่น และเจล เพื่อให้ผู้อ่านสามารถเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับความต้องการและสะดวกในการใช้งาน

  • ปริมาณ

ปริมาณของผลิตภัณฑ์เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญ เราพิจารณาจากปริมาณที่เหมาะสมกับการใช้งานในระยะยาว ซึ่งสามารถใช้ได้อย่างเพียงพอและคุ้มค่า

  • ส่วนผสมหลัก

เราตรวจสอบส่วนผสมหลักของผลิตภัณฑ์เรตินอลแต่ละแบรนด์ โดยคำนึงถึงความเข้มข้นของเรตินอล รวมถึงส่วนผสมอื่นๆ ที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพ เช่น ไฮยาลูรอนิคแอซิด เซราไมด์ และสารสกัดจากธรรมชาติ ที่ช่วยให้ผิวได้รับการบำรุงอย่างเต็มที่

  • คุณภาพและความปลอดภัย

เราพิจารณาจากการทดสอบคุณภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ โดยเลือกเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการรับรองจากผู้เชี่ยวชาญและองค์กรที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์นั้นๆ ปลอดภัยต่อการใช้งาน

  • ความเห็นและรีวิวจากผู้ใช้

เรานำความเห็นและรีวิวจากผู้ใช้มาประกอบการพิจารณา โดยพิจารณาจากความพึงพอใจของผู้ใช้จริง ซึ่งช่วยให้เรามีข้อมูลที่ครบถ้วนและสามารถคัดเลือกผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมและมีผลลัพธ์ที่ดี

  • ราคาและความคุ้มค่า

ราคาเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่เราคำนึงถึง เราพิจารณาจากราคาของผลิตภัณฑ์และความคุ้มค่าที่ผู้ใช้จะได้รับ เพื่อให้ผู้อ่านสามารถเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับงบประมาณของตนเอง

  • การบรรจุภัณฑ์และการออกแบบ

การบรรจุภัณฑ์และการออกแบบเป็นสิ่งที่ช่วยให้ผลิตภัณฑ์มีความน่าสนใจและใช้งานได้ง่าย เราพิจารณาจากการออกแบบที่สวยงามและการบรรจุภัณฑ์ที่สามารถรักษาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ได้ดี

10 อันดับ เรตินอล

1.Gravich Retinol Complex Concentrate Serum

Gravich-Retinol-Complex-Concentrate-Serum

Gravich Retinol Complex Concentrate Serum เป็นเซรั่มที่มีเรตินอล 3 รูปแบบ ในความเข้มข้น 1.7% ช่วยลดเลือนริ้วรอย ทำให้ผิวกระชับและยืดหยุ่น ด้วยระบบนำส่งสาร Double Encapsulated Delivery System พร้อมเติมความชุ่มชื้นและปรับผิวให้กระจ่างใส

รูปแบบแบบเซรั่ม
ปริมาณ1.7%
ส่วนผสมหลักPro-Retinol (Retinol Ester), Retinol, Retinal (Retinaldehyde)

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

Gravich Retinol Complex Concentrate Serum เป็นเซรั่มที่มีส่วนผสมของเรตินอล 3 รูปแบบ ได้แก่ Pro-Retinol (Retinol Ester), Retinol และ Retinal (Retinaldehyde) ในความเข้มข้นระดับ 1.7% ช่วยลดเลือนริ้วรอย ทำให้ผิวแลดูกระชับและยืดหยุ่น เซรั่มนี้ใช้นวัตกรรมการนำส่งสาร Double Encapsulated Delivery System ที่ห่อหุ้มสารถึงสองชั้น เพื่อให้สารออกฤทธิ์บำรุงผิวได้อย่างค่อยเป็นค่อยไปและเพิ่มระยะเวลาในการออกฤทธิ์ ส่งผลให้สารดูแลผิวหน้าได้อย่างทั่วถึง นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมของ Panthenol และ Hya Complex ที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิว กระตุ้นการผลิตคอลลาเจน ปรับผิวให้ดูกระจ่างใส พร้อมฟื้นฟูร่องลึกจากริ้วรอยให้ตื้นขึ้น มีปริมาณบรรจุ 30 มิลลิลิตร ในราคา 490 บาท ผู้ที่เคยใช้กลุ่มเรตินอลมาก่อนสามารถใช้เป็นประจำได้ทั้งเช้าและเย็น ส่วนผู้ที่ไม่เคยใช้ ควรเริ่มต้นอย่างช้าๆ โดยใช้ปริมาณน้อย วันเว้นวันในช่วง 1-2 อาทิตย์แรก จากนั้นจึงปรับมาใช้ได้ทุกวัน พร้อมทั้งแนะนำให้ใช้ครีมกันแดดควบคู่ด้วยเสมอในตอนเช้า เพื่อปกป้องผิวจากแสงแดด

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?

Gravich Retinol Complex Concentrate Serum เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดเลือนริ้วรอยและปรับผิวให้ดูกระชับ ด้วยการใช้เรตินอล 3 รูปแบบในความเข้มข้น 1.7% พร้อมนวัตกรรม Double Encapsulated Delivery System ที่ช่วยให้สารออกฤทธิ์บำรุงผิวได้อย่างค่อยเป็นค่อยไป เพิ่มความชุ่มชื้นและกระจ่างใสในราคาเพียง 490 บาท

2.Boots Ingredients Retinol Serum

Boots-Ingredients-Retinol-Serum

Boots Ingredients Retinol Serum เป็นเซรั่มเรตินอลปราศจากน้ำหอม แอลกอฮอล์ และน้ำมันหอมระเหย มีส่วนผสมของวิตามินเอ, Glycerin และว่านหางจระเข้ ช่วยให้ผิวยืดหยุ่นและชุ่มชื้น เหมาะสำหรับผู้ที่ทานมังสวิรัติ

รูปแบบแบบเซรั่ม
ปริมาณ30 มล.
ส่วนผสมหลักเรตินอล

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

Boots Ingredients Retinol Serum เป็นเซรั่มเรตินอลที่มีปริมาณบรรจุ 30 มิลลิลิตร ในราคา 139 บาท เป็นผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากน้ำหอม แอลกอฮอล์ และน้ำมันหอมระเหย เหมาะสำหรับผู้ที่ทานมังสวิรัติ มีส่วนผสมของวิตามินเอในรูปแบบเรตินอล ช่วยทำให้ผิวรู้สึกยืดหยุ่น พร้อมด้วย Glycerin และว่านหางจระเข้ ที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้กับผิว เนื้อสัมผัสเป็นแบบเซรั่มที่ซึมเข้าสู่ผิวได้ไว ไม่เหนอะหนะ สามารถใช้ได้ทั้งเช้าและกลางคืน มาในบรรจุภัณฑ์แบบขวดหัวปั๊มพร้อมฝาปิด แต่ทางแบรนด์ไม่ได้ระบุความเข้มข้นของส่วนผสมเรตินอล ข้อแนะนำเรื่องการทดสอบการแพ้ การหลีกเลี่ยงบริเวณผิวที่บอบบาง เช่น รอบดวงตาและริมฝีปาก การใช้ครีมกันแดดควบคู่ในตอนเช้า เนื่องจากเรตินอลอาจทำให้ผิวไวต่อแสงแดด และไม่ควรใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์ที่มีสารออกฤทธิ์ชนิดอื่น เช่น กรดวิตามินเอ AHA หรือ BHA อีกทั้งไม่แนะนำให้ใช้ระหว่างตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร รวมถึงเด็กอายุต่ำกว่า 3 ปี

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?

Boots Ingredients Retinol Serum เหมาะสำหรับผู้ที่มองหาผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีเรตินอลในราคาเข้าถึงได้ ปราศจากน้ำหอม แอลกอฮอล์ และน้ำมันหอมระเหย พร้อมด้วย Glycerin และว่านหางจระเข้ที่ช่วยเติมความชุ่มชื้น ให้ผิวรู้สึกยืดหยุ่น โดยไม่เหนอะหนะ

3.Dr.PONG Retinal-X Timeless Anti-Aging Serum

Dr-PONG-Retinal-X-Timeless-Anti-Aging-Serum

Dr.PONG Retinal-X Timeless Anti-Aging Serum เป็นเซรั่มเรตินอลความเข้มข้น 0.04% ที่ช่วยลดเลือนริ้วรอย กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว เหมาะสำหรับผิวบอบบางแพ้ง่าย

รูปแบบแบบเซรั่ม
ปริมาณ15 มล.
ส่วนผสมหลักRetinal, sh-Pentapetide-5, Niacinamide

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

Dr.PONG Retinal-X Timeless Anti-Aging Serum เป็นเซรั่มเรตินอลความเข้มข้น 0.04% ในรูปแบบ Retinal ปริมาณบรรจุ 15 มิลลิลิตร ราคา 399 บาท นอกจากส่วนผสมหลักอย่าง Retinal แล้ว ยังประกอบด้วยสารบำรุงอื่นๆ เช่น sh-Pentapetide-5 ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน, Xanthophylls ที่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ, Glycerin ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว, Niacinamide และสารสกัดจากถั่วเหลือง ที่ช่วยให้ผิวกระจ่างใส รวมถึง Allantoin ที่ช่วยปลอบประโลมผิว ลดการระคายเคือง จึงเหมาะสำหรับผิวบอบบางแพ้ง่าย

ทางแบรนด์ระบุว่ามีงานวิจัยรองรับ ผลิตภัณฑ์ตัวนี้สามารถช่วยให้ผิวเรียบเนียนขึ้น ริ้วรอยดูจางลง และผิวดูกระชับขึ้น โดยแนะนำให้ใช้เป็นประจำทุกวันทั้งเช้าและเย็น ต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 28 วัน จึงจะเห็นผลลัพธ์ตามงานวิจัย อย่างไรก็ตาม ประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล เซรั่มตัวนี้จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดเลือนริ้วรอย ชะลอการเกิดริ้วรอย และปรับผิวให้ดูเรียบเนียนกระชับ โดยสามารถใช้ได้กับผิวบอบบางแพ้ง่าย

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?

Dr.PONG Retinal-X Timeless Anti-Aging Serum เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดเลือนริ้วรอยและปรับผิวให้เรียบเนียนกระชับ ด้วยส่วนผสมของ Retinal 0.04% และสารบำรุงอื่นๆ ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และลดการระคายเคือง ทำให้เหมาะกับผิวบอบบางแพ้ง่าย ในราคาเพียง 399 บาท

4.The Skinlist Retinal Booster Night Perfecting Lotion

The-Skinlist-Retinal-Booster-Night-Perfecting-Lotion

The Skinlist Retinal Booster Night Perfecting Lotion เป็นเซรั่มเรตินอลที่มีประสิทธิภาพสูงในการลดเลือนริ้วรอยและปัญหาสิวอุดตัน ด้วยส่วนผสมสำคัญถึง 14 ชนิด ไม่มีส่วนผสมของซิลิโคน น้ำมันแร่ แอลกอฮอล์ พาราเบน สี และน้ำหอม

รูปแบบแบบเซรั่ม
ปริมาณ30 กรัม
ส่วนผสมหลักRetinaldehyde, Retinol, Niacinamide

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

The Skinlist Retinal Booster Night Perfecting Lotion เป็นเซรั่มเรตินอลในรูปแบบ Retinaldehyde ความเข้มข้น 0.1% และ Retinol ความเข้มข้น 0.3% ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงในการแปลงเป็น Retionic Acid มีปริมาณบรรจุ 30 กรัม ราคา 799 บาท สูตรปรับปรุงใหม่ไม่มีกลิ่น เนื้อบางเบากว่าเดิม และเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระ อุดมไปด้วยส่วนผสมสำคัญถึง 14 ชนิด ได้แก่ สารสกัดจากถั่วลันเตาที่ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอย, Niacinamide ช่วยลดการอักเสบของสิวและให้ผิวกระจ่างใส, Panthenol ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและลดรอยแดง, Centella Asiatica Extract ช่วยปลอบประโลมผิว นอกจากนี้ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระอย่าง CoQ10, สารสกัดจากเมล็ดองุ่น, Madecassoside, สารสกัดจากเลือดมังกร และสารสกัดจากชะเอมเทศ

เซรั่มนี้ไม่มีส่วนผสมของซิลิโคน น้ำมันแร่ แอลกอฮอล์ พาราเบน สี และน้ำหอม จึงเหมาะสำหรับผิวทุกประเภท มีคุณสมบัติช่วยลดเลือนริ้วรอย ทำให้ผิวแลดูอ่อนเยาว์ ลดปัญหาสิวอุดตัน สิวเสี้ยน และรอยสิว แนะนำให้ทาเป็นประจำทุกคืนก่อนนอน สำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มใช้ควรค่อยๆ ปรับผิวโดยทาสัปดาห์ละ 3 ครั้ง แล้วค่อยเพิ่มความถี่ขึ้นเรื่อยๆ โดยต้องสังเกตอาการผิวไม่ให้แห้ง แสบ แดง หรือลอก หลีกเลี่ยงการใช้ร่วมกับกรด AHA, BHA และไม่แนะนำสำหรับหญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?

The Skinlist Retinal Booster Night Perfecting Lotion เป็นเซรั่มเรตินอลที่มีประสิทธิภาพสูงในการลดเลือนริ้วรอยและปัญหาสิว ด้วยส่วนผสมสำคัญถึง 14 ชนิด และไม่มีส่วนผสมของซิลิโคน น้ำมันแร่ แอลกอฮอล์ พาราเบน สี และน้ำหอม จึงเหมาะสำหรับผิวทุกประเภท ช่วยให้ผิวแลดูอ่อนเยาว์และกระจ่างใส ในราคา 799 บาท

5.Innisfree Retinol Cica Repair Ampoule

Innisfree-Retinol-Cica-Repair-Ampoule

Innisfree Retinol Cica Repair Ampoule เป็นแอมพูลเรตินอลสูตรอ่อนโยนที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่า ลดปัญหาผิวหมองคล้ำ จุดด่างดำ รอยสิว และลดการเกิดสิว พร้อมฟื้นฟูและเสริมเกราะปกป้องผิวด้วย Jeju Cica Liposomlogy

รูปแบบแบบแอมพูล
ปริมาณ30 มล.
ส่วนผสมหลักRetinol, Cica

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

Innisfree Retinol Cica Repair Ampoule เป็นแอมพูลเรตินอลสูตรอ่อนโยนที่มีส่วนผสมของเรตินอลบริสุทธิ์ปริมาณ 0.015% หรือ 500 IU/g มีปริมาณบรรจุ 30 มิลลิลิตร ราคา 1,300 บาท มีคุณสมบัติช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าที่เสื่อมสภาพ เพื่อขจัดปัญหาผิวหมองคล้ำ จุดด่างดำ และรอยสิว ช่วยฟื้นฟูผิวที่ขรุขระให้เรียบเนียน กระชับรูขุมขนให้ดูเล็กลง ลดความมันบนผิว และลดการเกิดสิว ผลลัพธ์จะเห็นได้ชัดเมื่อใช้ติดต่อกันนานกว่า 4 สัปดาห์

นอกจากเรตินอลแล้ว ยังมีส่วนผสมสำคัญอย่าง Jeju Cica Liposomlogy ซึ่งเป็นไลโปโซมจากใบบัวบก ที่อุดมไปด้วยเซราไมด์ ใบบัวบก และกรดไฮยาลูรอน ช่วยปลอบประโลมผิว ควบคุมความมันส่วนเกิน เติมความชุ่มชื้น และเสริมเกราะปกป้องผิวให้แข็งแรง เหมาะสำหรับทุกสภาพผิวแม้ผิวแพ้ง่าย หากเพิ่งเริ่มใช้ควรใช้ปริมาณน้อยๆ แล้วตามด้วยมอยส์เจอไรเซอร์ทับ โดยให้ทาเบาๆ แล้วปล่อยให้ซึมเข้าสู่ผิวอย่างเพียงพอ สามารถปรับลำดับการใช้ตามความเข้มข้นของเนื้อสัมผัสได้ตามความเหมาะสม

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?

Innisfree Retinol Cica Repair Ampoule เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลัดเซลล์ผิวเก่า ลดปัญหาผิวหมองคล้ำ จุดด่างดำ และรอยสิว ด้วยสูตรอ่อนโยนที่มีเรตินอลบริสุทธิ์และ Jeju Cica Liposomlogy ซึ่งช่วยปลอบประโลมผิว ควบคุมความมัน เติมความชุ่มชื้น และเสริมเกราะปกป้องผิว เหมาะสำหรับทุกสภาพผิวแม้ผิวแพ้ง่าย

6.CERAVE Resurfacing Retinol Serum

CERAVE-Resurfacing-Retinol-Serum

CERAVE Resurfacing Retinol Serum เป็นเซรั่มเรตินอลความเข้มข้น 0.1% ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว ลดเลือนรอยสิวและจุดด่างดำ พร้อมเติมความชุ่มชื้นและทำให้ผิวแข็งแรง ด้วยเซราไมด์ 3 ชนิดและ Niacinamide

รูปแบบแบบเซรั่ม
ปริมาณ30
ส่วนผสมหลักRetinol, Ceramide 1, 3, 6-ll

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

CERAVE Resurfacing Retinol Serum เป็นเซรั่มเรตินอลความเข้มข้น 0.1% ที่ได้รับการพัฒนาร่วมกับแพทย์ผิวหนัง มีปริมาณบรรจุ 30 มิลลิลิตร ราคา 755 บาท มีคุณสมบัติช่วยผลัดเซลล์ผิวและลดเลือนรอยสิว โดยผลลัพธ์จะเห็นได้ชัดหลังใช้ไปแล้ว 4 สัปดาห์ ทำให้สีผิวดูสม่ำเสมอขึ้น นอกจากส่วนผสมหลักอย่างเรตินอลแล้ว ยังมีเซราไมด์ 3 ชนิด ได้แก่ Ceramide 1, 3, 6-II ที่ช่วยลดการสูญเสียน้ำในผิว เติมความชุ่มชื้น และทำให้ผิวแข็งแรง อีกทั้งยังมี Niacinamide ที่ช่วยปลอบประโลมผิว และสารสกัดลิโคริซ ที่ช่วยลดเลือนจุดด่างดำ

เซรั่มนี้เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผิวเป็นสิว เนื่องจากผ่านการทดสอบแล้วว่าไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน ปราศจากน้ำหอม น้ำมัน และพาราเบน เนื้อเซรั่มซึมเข้าสู่ผิวได้ไว แนะนำให้ใช้ก่อนนอน โดยทาให้ทั่วใบหน้า ยกเว้นบริเวณรอบดวงตาและริมฝีปาก แล้วตามด้วยครีมบำรุงผิว ในช่วงกลางวันควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีค่า SPF และหลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดโดยตรงเป็นเวลานาน

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?

CERAVE Resurfacing Retinol Serum เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดเลือนรอยสิวและจุดด่างดำ พร้อมช่วยผลัดเซลล์ผิวให้สีผิวดูสม่ำเสมอขึ้น ด้วยเรตินอลความเข้มข้น 0.1% และเซราไมด์ 3 ชนิดที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นและทำให้ผิวแข็งแรง อีกทั้งยังปราศจากน้ำหอม น้ำมัน และพาราเบน จึงเหมาะสำหรับทุกสภาพผิว

7.INGU Green Tea Retinol Repair Shot

INGU-Green-Tea-Retinol-Repair-Shot

INGU Green Tea Retinol Repair Shot เป็นเซรั่มลดเลือนริ้วรอยที่มี Encapsulated Retinol 3% และสารสกัดจากชาเขียวป่าออร์แกนิก ช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว

รูปแบบแบบเซรั่ม
ปริมาณ40 มล.
ส่วนผสมหลักEncapsulated Retinol

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

INGU Green Tea Retinol Repair Shot เป็นเซรั่มลดเลือนริ้วรอยที่มีส่วนผสมหลักของ Encapsulated Retinol ความเข้มข้น 3% ซึ่งเป็นเรตินอลในรูปแบบแคปซูลที่มีความคงทนและซึมลึกเข้าสู่ผิวได้ดีกว่าเรตินอลทั่วไป มีปริมาณบรรจุ 40 มิลลิลิตร ราคา 890 บาท นอกจากนี้ ยังมีส่วนผสมของ Matrixyl Synthe’6 MBAL 2% หรือ Palmitoyl Tripeptide-38 ซึ่งเป็นเปปไทด์ที่ช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและลดเลือนริ้วรอย ทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น

เซรั่มนี้ยังมีสารสกัดจากยอดใบชาเขียวป่าออร์แกนิกอายุกว่า 200 ปี ในปริมาณ 3% ที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันคอลลาเจนในชั้นผิวไม่ให้ถูกทำลายจากแสงแดดและมลภาวะ พร้อมด้วยสารสกัดจากดอกไม้ไมราบิส จาลาปา 2% ที่ช่วยลดการระคายเคือง และ Aquaxyl 2% ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว แนะนำให้ใช้หลังล้างหน้าโดยทาทั่วใบหน้ายกเว้นรอบดวงตา เริ่มจากสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง แล้วค่อยๆ เพิ่มเป็นวันละครั้งเมื่อผิวปรับตัวได้ ควรใช้ร่วมกับมอยเจอร์ไรเซอร์และกันแดด SPF 30 ขึ้นไป และควรใช้อย่างระมัดระวังหากใช้ร่วมกับสารออกฤทธิ์อื่นๆ เช่น AHA, BHA, หรือวิตามินซี

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?

INGU Green Tea Retinol Repair Shot เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดเลือนริ้วรอยและเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ด้วย Encapsulated Retinol 3% ที่มีประสิทธิภาพสูงในการซึมลึกเข้าสู่ผิวและกระตุ้นการผลิตคอลลาเจน พร้อมสารสกัดจากชาเขียวป่าออร์แกนิกและดอกไม้ไมราบิส จาลาปา ที่ช่วยลดการระคายเคืองและป้องกันคอลลาเจนในผิวไม่ให้ถูกทำลาย ในราคา 890 บาท

8.HERBITAGE The Concentrate 25.8 Serum Booster

HERBITAGE-The-Concentrate-25-8-Serum-Booster

HERBITAGE The Concentrate 25.8 Serum Booster เป็นเซรั่มที่มีส่วนผสมหลักของ Retinaldehyde 0.1% และ Bakuchiol 1% ช่วยลดเลือนริ้วรอยและเหมาะกับผิวที่เป็นสิว พร้อมสารบำรุงผิวอื่นๆ ในราคา 890 บาท ปราศจากแอลกอฮอล์ สี น้ำหอม ซิลิโคน และพาราเบน

รูปแบบแบบเซรั่ม
ปริมาณ15 มล.
ส่วนผสมหลักRetinaldehyde

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

HERBITAGE The Concentrate 25.8 Serum Booster เป็นเซรั่มที่มีส่วนผสมหลักของ Retinaldehyde ความเข้มข้น 0.1% ซึ่งเป็นอนุพันธ์วิตามินเอที่มีงานวิจัยรองรับว่าช่วยลดเลือนริ้วรอยและเหมาะกับผิวที่เป็นสิว มีปริมาณบรรจุ 15 มิลลิลิตร ราคา 890 บาท ผลิตภัณฑ์นี้เป็นผลจากการวิจัยร่วมกับสถาบันอุดมศึกษาชั้นนำของไทย ผ่านการทดสอบว่าอ่อนโยนต่อผิวบอบบาง

นอกจากเรตินาลดีไฮด์แล้ว ยังมีส่วนผสมของ Bakuchiol 1% ซึ่งเป็นสารสกัดจากธรรมชาติที่มีคุณสมบัติคล้ายเรตินอลในการลดเลือนริ้วรอย, Purified Bromelain หรือเอนไซม์จากสับปะรดไทยที่ช่วยให้ผิวกระจ่างใสอย่างอ่อนโยน, Niacinamide 10% ที่ช่วยให้ผิวแข็งแรงและกระจ่างใส, และ Ascorbyl Glucoside 4% ซึ่งเป็นอนุพันธ์วิตามินซีที่อ่อนโยน ทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยฟื้นฟูผิวจากแสงแดดและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน

เซรั่มนี้ปราศจากแอลกอฮอล์ สี น้ำหอม ซิลิโคน และพาราเบน แนะนำให้ผสมกับมอยส์เจอไรเซอร์แล้วทาทั่วใบหน้าและลำคอเป็นประจำทุกคืนก่อนนอน โดยควรใช้คู่กับเซรั่ม HERBITAGE BE-Barrier 24.7 เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด และควรใช้ร่วมกับกันแดด SPF 30 ขึ้นไปในตอนเช้า ระหว่างใช้ควรหยุดใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรดผลัดเซลล์ผิวและวิตามินเอชนิดอื่นๆ ไม่แนะนำสำหรับสตรีมีครรภ์ ให้นมบุตร หรือผู้ที่เป็นโรคผิวหนังบางชนิด

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?

HERBITAGE The Concentrate 25.8 Serum Booster เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดเลือนริ้วรอยและฟื้นฟูผิวอย่างอ่อนโยน ด้วยส่วนผสมหลักของ Retinaldehyde 0.1% และ Bakuchiol 1% ที่มีคุณสมบัติเหมือนเรตินอล พร้อมสารบำรุงจากธรรมชาติ เช่น Niacinamide และ Ascorbyl Glucoside ช่วยให้ผิวแข็งแรงและกระจ่างใส โดยปราศจากแอลกอฮอล์ สี น้ำหอม ซิลิโคน และพาราเบน

9.COSRX The Retinol 0.5 Oil Serum

COSRX-The-Retinol-0-5-Oil-Serum

COSRX The Retinol 0.5 Oil Serum เป็นเซรั่มเรตินอลจากเกาหลีที่มีความเข้มข้น 0.5% ในรูปแบบออยล์บางเบา ช่วยลดเลือนริ้วรอย กระจ่างใส และเติมความชุ่มชื้นให้ผิว

รูปแบบแบบเซรั่ม
ปริมาณ20 มล.
ส่วนผสมหลักRetinol

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

COSRX The Retinol 0.5 Oil Serum เป็นเซรั่มเรตินอลจากแบรนด์เกาหลี ที่มีส่วนผสมของเรตินอลความเข้มข้น 0.5% ในรูปแบบเนื้อออยล์บางเบา เหมาะสำหรับผิวแห้ง มีปริมาณบรรจุ 20 มิลลิลิตร ราคา 620 บาท มีคุณสมบัติช่วยลดเลือนริ้วรอย ทำให้ผิวดูกระจ่างใส เปล่งปลั่ง และอ่อนเยาว์ขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาริ้วรอย รอยสิว ผิวขาดน้ำ และผิวขาดความกระชับ

นอกจากเรตินอลแล้ว ยังประกอบด้วยสาร Squalane ที่ช่วยเติมเต็มและกักเก็บความชุ่มชื้นให้ผิว และ Tocotrienol หรือวิตามิน E ที่ช่วยบำรุงผิวให้ดูอ่อนเยาว์ โดยทั้งสองสารนี้ยังมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดปัญหาผิวหย่อนคล้อย จุดด่างดำ และริ้วรอย ผ่านการยับยั้งกลไกการผลิตเม็ดสีเมลานิน พร้อมปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระที่เกิดจากแสงแดด ทำให้ผิวแลดูกระชับ เรียบเนียน และมีสุขภาพดี

แนะนำให้ใช้เฉพาะเวลากลางคืนก่อนนอน สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง เริ่มต้นโดยทาเพียง 1-2 หยดเฉพาะบริเวณที่ต้องการในช่วง 2 สัปดาห์แรก แล้วจึงค่อยๆ เพิ่มความถี่และปริมาณจนทาได้ทั่วใบหน้าในสัปดาห์ที่ 3 ผลลัพธ์จะเริ่มเห็นอย่างชัดเจนหลังใช้อย่างต่อเนื่องเป็นเวลาอย่างน้อย 1 เดือน

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?

COSRX The Retinol 0.5 Oil Serum เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดเลือนริ้วรอยและเพิ่มความกระจ่างใสให้ผิว ด้วยเรตินอลความเข้มข้น 0.5% และสารบำรุงอย่าง Squalane และ Tocotrienol ที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นและต้านอนุมูลอิสระ ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์ กระชับ และสุขภาพดี ในราคาเพียง 620 บาท

10.Kiehl's Retinol Skin Renewing Daily Micro Dose Serum

Kiehl-s-Retinol-Skin-Renewing-Daily-Micro-Dose-Serum

Kiehl's Retinol Skin Renewing Daily Micro Dose Serum เป็นเซรั่มเรตินอลที่ใช้เทคโนโลยี Micro-Dose ผสาน Pure Retinol, Peptide และ Ceramide เพื่อลดเลือนริ้วรอยและทำให้ผิวดูกระชับ เรียบเนียน

รูปแบบแบบเซรั่ม
ปริมาณ1.5 มล
ส่วนผสมหลักPure Retinol, Peptide, Ceramide

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

Kiehl’s Retinol Skin Renewing Daily Micro Dose Serum เป็นเซรั่มเรตินอลที่ใช้เทคโนโลยี Micro-Dose ผสานกับส่วนประกอบสำคัญ 3 ชนิด ได้แก่ Pure Retinol ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวและลดเลือนริ้วรอย ทำให้ผิวดูกระชับและเรียบเนียนขึ้น, Peptide ที่ช่วยบำรุงและเสริมความแข็งแรงให้ผิว และ Ceramide ที่ช่วยลดอาการระคายเคืองจากการใช้เรตินอล มีปริมาณบรรจุ 1.5 มิลลิลิตร ราคา 4,250 บาท

นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมอื่นๆ เช่น Niacinamide, สารสกัดจากเมล็ดทานตะวัน, Glycerin และสารสกัดจากถั่วเหลือง เหมาะสำหรับทุกสภาพผิวแม้ผิวบอบบางแพ้ง่าย โดยอ้างอิงผลการทดสอบทางคลินิกว่าสามารถลดริ้วรอย ทำให้ผิวกระชับ และผิวเนียนละเอียดขึ้นภายใน 12 สัปดาห์ที่ใช้ผลิตภัณฑ์ แนะนำให้ใช้ทั่วใบหน้ารวมถึงใต้ตาและหางตา โดยหลีกเลี่ยงบริเวณเปลือกตาและริมฝีปาก สามารถใช้เป็นประจำทั้งเช้าและเย็น โดยตอนเช้าควรใช้ร่วมกับกันแดด อย่างไรก็ตาม ผลิตภัณฑ์นี้ไม่ได้ระบุความเข้มข้นของเรตินอล

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?

Kiehl’s Retinol Skin Renewing Daily Micro Dose Serum เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดเลือนริ้วรอยและทำให้ผิวดูกระชับเรียบเนียน ด้วยเทคโนโลยี Micro-Dose ที่ผสาน Pure Retinol, Peptide และ Ceramide ช่วยให้ผิวแข็งแรงและลดอาการระคายเคือง เหมาะสำหรับทุกสภาพผิวแม้ผิวบอบบางแพ้ง่าย ในราคา 4,250 บาท

ประโยชน์ของการใช้เรตินอล

ประโยชน์ของการใช้เรตินอล

การใช้เรตินอลมีประโยชน์มากมายสำหรับผิวพรรณ การที่คุณรู้ถึงประโยชน์ของเรตินอลจะช่วยให้คุณเลือกผลิตภัณฑ์ได้อย่างมั่นใจมากขึ้น นอกจากนี้ การใช้เรตินอลยังเป็นส่วนสำคัญในขั้นตอนการดูแลผิวที่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำ เนื่องจากประโยชน์หลากหลายที่สามารถทำให้ผิวของคุณดูดีขึ้นได้

  • ลดริ้วรอยและเส้นบางๆ: เรตินอลช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนในผิว ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์และลดริ้วรอย
  • รักษาสิว: เรตินอลช่วยลดการอุดตันของรูขุมขนและลดการอักเสบ ทำให้สิวหายเร็วขึ้น
  • เพิ่มความกระจ่างใส: เรตินอลช่วยเพิ่มการผลัดเซลล์ผิว ทำให้ผิวดูกระจ่างใสและมีสีผิวสม่ำเสมอ
  • ลดจุดด่างดำ: เรตินอลช่วยลดการเกิดจุดด่างดำและฝ้ากระ ทำให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น
  • เพิ่มความยืดหยุ่นของผิว: การใช้เรตินอลช่วยให้ผิวยืดหยุ่นและกระชับมากขึ้น
ประโยชน์รายละเอียด
ลดริ้วรอยและเส้นบางๆกระตุ้นการผลิตคอลลาเจน ลดริ้วรอย
รักษาสิวลดการอุดตันของรูขุมขน ลดการอักเสบ
เพิ่มความกระจ่างใสเพิ่มการผลัดเซลล์ผิว ผิวดูกระจ่างใส
ลดจุดด่างดำลดจุดด่างดำและฝ้ากระ
เพิ่มความยืดหยุ่นของผิวทำให้ผิวยืดหยุ่นและกระชับมากขึ้น

การใช้วิตามินซีและคอลลาเจนแบบชงเสริมการดูแลผิวพรรณ

การใช้เรตินอลเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการดูแลผิวพรรณ ไม่ว่าคุณจะมีปัญหาผิวประเภทใด การใช้อย่างถูกต้องสามารถช่วยให้ผิวของคุณดูดีขึ้นได้ในหลายๆ ด้าน แต่นอกจากการใช้เรตินอลแล้ว วิตามินซีและคอลลาเจนแบบชง ยังเป็นสารอาหารเสริมที่สำคัญที่สามารถเสริมประสิทธิภาพการดูแลผิวพรรณได้อย่างมากมาย โดยวิตามินซีมีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระ ช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนในผิว ทำให้ผิวดูกระจ่างใสและมีความยืดหยุ่น ทั้งยังช่วยลดเลือนจุดด่างดำและริ้วรอยได้ดี การใช้ผลิตภัณฑ์วิตามินซียอดนิยมร่วมกับเรตินอลจะช่วยเสริมสร้างผิวให้แข็งแรงและดูดีขึ้น สำหรับคอลลาเจนเป็นโปรตีนที่สำคัญในการเสริมสร้างความยืดหยุ่นและความชุ่มชื้นของผิว การบริโภคคอลลาเจนแบบชงคุณภาพเยี่ยม สามารถช่วยเติมเต็มคอลลาเจนที่สูญเสียไปจากการเผชิญกับมลภาวะและอายุที่เพิ่มขึ้น ยิ่งเมื่อใช้ร่วมกับเรตินอล จะช่วยเสริมสร้างผิวที่ยืดหยุ่นและกระชับ ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์และสุขภาพดีขึ้น การผสานการใช้เรตินอล วิตามินซี และคอลลาเจนแบบชงแบรนด์ดังที่ได้มาตรฐาน จะช่วยให้คุณได้รับประโยชน์สูงสุดในการดูแลผิวพรรณ ทำให้ผิวของคุณดีขึ้นในทุกๆ ด้าน

วิธีใช้เรตินอลอย่างถูกต้อง

วิธีใช้เรตินอลอย่างถูกต้อง

การใช้เรตินอลอย่างถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญที่คุณควรรู้เมื่อเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ในบทความ Top 10 เรตินอล เพราะว่าการใช้เรตินอลอย่างไม่ถูกวิธีอาจทำให้เกิดการระคายเคืองและไม่ได้ผลลัพธ์ที่ดี การทำความเข้าใจวิธีใช้ที่ถูกต้องจะช่วยให้คุณได้รับประโยชน์สูงสุดจากเรตินอล

  • เริ่มต้นช้าๆ: ในช่วงแรกควรใช้เรตินอลเพียงสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง เพื่อให้ผิวค่อยๆ ปรับตัว
  • ใช้ในตอนกลางคืน: เรตินอลทำให้ผิวไวต่อแสงแดด ควรใช้ในช่วงกลางคืนเท่านั้น
  • ทาผลิตภัณฑ์บางๆ: ทาเรตินอลเพียงบางๆ ทั่วใบหน้า หลีกเลี่ยงบริเวณรอบดวงตาและปาก
  • ใช้มอยส์เจอไรเซอร์: หลังจากทาเรตินอลแล้วควรทามอยส์เจอไรเซอร์เพื่อป้องกันการแห้ง
  • ใช้ครีมกันแดด: ในตอนเช้าควรทาครีมกันแดดทุกครั้ง เพื่อป้องกันผิวจากแสงแดดที่อาจทำให้เกิดการระคายเคือง
ขั้นตอนรายละเอียด
เริ่มต้นช้าๆใช้สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง ให้ผิวปรับตัว
ใช้ในตอนกลางคืนใช้เรตินอลเฉพาะในช่วงกลางคืน
ทาผลิตภัณฑ์บางๆทาบางๆ ทั่วใบหน้า หลีกเลี่ยงรอบดวงตาและปาก
ใช้มอยส์เจอไรเซอร์ทามอยส์เจอไรเซอร์หลังจากทาเรตินอล
ใช้ครีมกันแดดทาครีมกันแดดในตอนเช้าทุกครั้ง

การปฏิบัติตามขั้นตอนเหล่านี้จะช่วยให้คุณใช้เรตินอลได้อย่างถูกวิธี และลดความเสี่ยงที่จะเกิดการระคายเคือง ทั้งนี้จะช่วยให้คุณได้รับผลลัพธ์ที่ดีที่สุดจากการใช้เรตินอล

เรตินอลสำหรับผิวแพ้ง่าย

เรตินอลสำหรับผิวแพ้ง่าย

การใช้เรตินอลสำหรับผิวแพ้ง่ายเป็นสิ่งที่หลายคนกังวล แต่ก็ไม่จำเป็นต้องหลีกเลี่ยงเรตินอลหากคุณมีผิวแพ้ง่าย เพราะมีวิธีการใช้และเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม การทำความเข้าใจเรื่องนี้จะช่วยให้คุณสามารถใช้เรตินอลได้อย่างปลอดภัยและได้รับประโยชน์สูงสุด

  • เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีความเข้มข้นต่ำ: เริ่มต้นด้วยเรตินอลที่มีความเข้มข้นต่ำ เช่น 0.025% ถึง 0.05% เพื่อลดโอกาสการระคายเคือง
  • ใช้สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง: ในช่วงแรกให้ใช้เพียงสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง เพื่อให้ผิวค่อยๆ ปรับตัว
  • ใช้ร่วมกับมอยส์เจอไรเซอร์: หลังจากทาเรตินอลแล้วควรทามอยส์เจอไรเซอร์ทันที เพื่อป้องกันการแห้งและลดการระคายเคือง
  • เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่อ่อนโยน: เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมอ่อนโยน เช่น ไฮยาลูรอนิคแอซิด เซราไมด์ หรือว่านหางจระเข้
  • หลีกเลี่ยงการใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์ที่ระคายเคือง: ไม่ควรใช้เรตินอลร่วมกับผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่อาจทำให้ผิวระคายเคือง เช่น สครับที่มีเม็ดบีดส์ หรือผลิตภัณฑ์ที่มีแอลกอฮอล์สูง
ข้อแนะนำรายละเอียด
เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีความเข้มข้นต่ำเริ่มต้นด้วยความเข้มข้น 0.025% ถึง 0.05%
ใช้สัปดาห์ละ 1-2 ครั้งให้ผิวค่อยๆ ปรับตัว
ใช้ร่วมกับมอยส์เจอไรเซอร์ทามอยส์เจอไรเซอร์ทันทีหลังจากใช้เรตินอล
เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมอ่อนโยนเช่น ไฮยาลูรอนิคแอซิด เซราไมด์ ว่านหางจระเข้
หลีกเลี่ยงการใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์ที่ระคายเคืองเช่น สครับที่มีเม็ดบีดส์ หรือผลิตภัณฑ์ที่มีแอลกอฮอล์สูง

การปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถใช้เรตินอลได้อย่างปลอดภัยแม้ว่าคุณจะมีผิวแพ้ง่าย ทั้งนี้จะทำให้คุณได้รับประโยชน์จากเรตินอลอย่างเต็มที่

บทความนี้แนะนำ10 อันดับ เรตินอล ยี่ห้อไหนดี หน้าสวยใส ลดริ้วรอย ลดการอุดตัน โดยมีการพิจารณาจากรูปแบบ ปริมาณ และส่วนผสมหลักของแต่ละแบรนด์ พร้อมคำอธิบายสั้นๆ เพื่อช่วยให้ผู้อ่านสามารถเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับความต้องการของตนเอง นอกจากนี้ยังมีหัวข้อสนับสนุนเพิ่มเติม 3 หัวข้อ ได้แก่ ประโยชน์ของการใช้เรตินอล วิธีใช้เรตินอลอย่างถูกต้อง และเรตินอลสำหรับผิวแพ้ง่าย เพื่อให้ข้อมูลที่ครบถ้วนและเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านทุกคน การทำความเข้าใจเรื่องเรตินอลอย่างถูกต้องจะช่วยให้คุณได้รับประโยชน์สูงสุดจากการใช้ผลิตภัณฑ์เรตินอลในการดูแลผิวพรรณ

คำถามที่พบบ่อย

1.เรตินอลมีประโยชน์อะไรบ้างสำหรับผิว?

การใช้เรตินอลมีประโยชน์หลายประการ เช่น การลดริ้วรอยและเส้นบางๆ โดยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนในผิว รักษาสิว ลดการอุดตันของรูขุมขนและลดการอักเสบ เพิ่มความกระจ่างใส ทำให้ผิวดูกระจ่างใสและมีสีผิวสม่ำเสมอ ลดจุดด่างดำและฝ้ากระ ทำให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น และเพิ่มความยืดหยุ่นของผิว ทำให้ผิวยืดหยุ่นและกระชับมากขึ้น

2.วิธีการใช้เรตินอลอย่างถูกต้องคืออะไร?

การใช้เรตินอลอย่างถูกต้องมีขั้นตอนดังนี้ เริ่มต้นใช้ช้าๆ โดยใช้สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง เพื่อให้ผิวค่อยๆ ปรับตัว ควรใช้ในตอนกลางคืน เพราะเรตินอลทำให้ผิวไวต่อแสงแดด ทาผลิตภัณฑ์บางๆ ทั่วใบหน้า หลีกเลี่ยงบริเวณรอบดวงตาและปาก หลังจากทาเรตินอลแล้ว ควรใช้มอยส์เจอไรเซอร์เพื่อป้องกันการแห้ง และในตอนเช้าทาครีมกันแดดทุกครั้งเพื่อป้องกันผิวจากแสงแดด

3.ผิวแพ้ง่ายสามารถใช้เรตินอลได้หรือไม่?

ผิวแพ้ง่ายสามารถใช้เรตินอลได้ แต่ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีความเข้มข้นต่ำ เช่น 0.025% ถึง 0.05% และเริ่มต้นใช้สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง เพื่อให้ผิวค่อยๆ ปรับตัว ใช้ร่วมกับมอยส์เจอไรเซอร์ทันทีหลังจากทาเรตินอลเพื่อป้องกันการแห้ง ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมอ่อนโยน เช่น ไฮยาลูรอนิคแอซิด เซราไมด์ หรือว่านหางจระเข้ หลีกเลี่ยงการใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์ที่ระคายเคือง เช่น สครับที่มีเม็ดบีดส์ หรือผลิตภัณฑ์ที่มีแอลกอฮอล์สูง

4.สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงเมื่อใช้เรตินอลคืออะไร?

สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงเมื่อใช้เรตินอล ได้แก่ การใช้เรตินอลในตอนเช้า เพราะเรตินอลทำให้ผิวไวต่อแสงแดด การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่อาจทำให้ผิวระคายเคือง เช่น สครับที่มีเม็ดบีดส์ หรือผลิตภัณฑ์ที่มีแอลกอฮอล์สูง ไม่ควรทาเรตินอลมากเกินไป ควรใช้เพียงบางๆ ทั่วใบหน้า และหลีกเลี่ยงการใช้เรตินอลร่วมกับผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของเรตินอลอื่นๆ หรือผลิตภัณฑ์ที่มีสารระคายเคืองสูง

Scroll to Top