รีวิว 10 อายครีม ยี่ห้อไหนดี ผิวใต้ตาอิ่มฟูดูเปล่งประกายประจำปี 2024

Cover-501-อายครีม

ผิวรอบดวงตาแม้เป็นจุดเล็กๆ แต่บอบบางที่สุดบนใบหน้า แถมยังเป็นบริเวณแรกที่บอกอายุเราได้ เพราะฉะนั้น “อายครีม” จึงเป็นตัวช่วยสำคัญที่ถูกออกแบบมาเพื่อดูแลเฉพาะจุดนี้โดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นการเติมความชุ่มชื้น ลดเลือนริ้วรอยเล็กๆ ปรับสีผิวให้สว่างขึ้น หรือช่วยป้องกันปัญหาในอนาคต

ด้วยความละเอียดอ่อนของผิวรอบดวงตา การเลือกอายครีมที่เหมาะสมจึงสำคัญสุดๆ บางคนอาจกังวลเรื่อง รอยคล้ำใต้ตา บางคนอาจต้องการฟื้นฟูความแห้งกร้าน หรือเน้นลดริ้วรอยก่อนวัย เราจึงรวบรวม 10 อายครีมตัวเด็ด ที่เนื้อครีมเข้มข้นแต่ไม่หนักผิว ให้ความชุ่มชื้นแบบจัดเต็ม และช่วยฟื้นฟูใต้ตาให้อิ่มฟู ดูเปล่งประกายอย่างมั่นใจ

แถมในบทความนี้ยังมีเคล็ดลับการใช้ อายครีมอย่างถูกวิธี ไม่ว่าจะเป็นการแตะเบาๆ ด้วยปลายนิ้วเพื่อกระตุ้นการไหลเวียนเลือด หรือการใช้ปริมาณที่เหมาะสมเพื่อหลีกเลี่ยงความมันส่วนเกิน อ่านจบปุ๊บ คุณจะเลือกอายครีมที่ตรงใจและรู้วิธีดูแลใต้ตาให้สวยปิ๊งได้แน่นอน

หลักเกณฑ์ที่ใช้ในการจัดอันดับสินค้า

ถ้าพูดถึงการเลือกอายครีมดีๆ สักตัว เราต้องมองลึกกว่าคำว่า “บำรุงรอบดวงตา” เพราะผิวบริเวณนี้บอบบางที่สุดและต้องการการดูแลพิเศษ นี่คือหลักเกณฑ์ที่เราใช้ในการจัดอันดับอายครีม เพื่อช่วยคุณเลือกสิ่งที่เหมาะกับความต้องการของตัวเองที่สุด

  • การเติมความชุ่มชื้น: ผิวรอบดวงตามักแห้งง่ายกว่าส่วนอื่น การเลือกอายครีมที่มีส่วนผสมเติมความชุ่มชื้น เช่น ไฮยาลูรอนิค แอซิด, กลีเซอรีน หรือสารสกัดธรรมชาติ อย่างว่านหางจระเข้ จะช่วยให้ผิวเนียนนุ่ม ยืดหยุ่น และลดโอกาสการเกิดริ้วรอย
  • ส่วนผสมที่ตอบโจทย์ปัญหาผิว: ผิวของแต่ละคนไม่เหมือนกัน หากคุณมีริ้วรอย เลือกสูตรที่มี เปปไทด์ หรือเรตินอล แต่ถ้าผิวแพ้ง่าย ควรหลีกเลี่ยงน้ำหอมและสารกันเสีย เพราะเราให้ความสำคัญกับการเลือกผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยและตรงกับปัญหาของแต่ละคน
  • ปราศจากสารระคายเคือง: ด้วยความที่ผิวรอบดวงตาบอบบางสุดๆ เราจึงคัดเฉพาะอายครีมที่ไม่มีสารก่อการระคายเคือง เช่น แอลกอฮอล์ น้ำหอม หรือพาราเบน เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่าใช้แล้วจะไม่แพ้หรือแสบตา
  • เนื้อสัมผัสที่ซึมง่าย: เนื้อเจลหรือเนื้อเซรั่มเป็นตัวเลือกที่ดี เพราะซึมซาบไว ไม่ทิ้งความเหนอะหนะ เหมาะสำหรับการใช้ในชีวิตประจำวันหรือก่อนแต่งหน้า ช่วยให้ผิวรอบดวงตาสดชื่น ดูอิ่มฟู และสบายผิว

1. Estee Lauder Advanced Night Repair Eye

1 Estee Lauder Advanced Night Repair Eye

ฟื้นฟูผิวรอบดวงตาให้สดใสและยืดหยุ่น ด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงพร้อมแอพลิเคเตอร์ ด้วยอายครีมจาก Estee Lauder Advanced Night Repair Eye

เนื้อสัมผัส ครีม
ปริมาณ 15 มล.
เวลาที่เหมาะสำหรับการทา กลางคืน
ส่วนผสมหลัก Tripeptide-32, Sodium Hyaluronate, Morus Bombycis Root Extract, Garcinia Mangostana Peel Extract

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

Estee Lauder Advanced Night Repair Eye มีเทคโนโลยีเฉพาะ Chronolux Power Signal ที่ช่วยฟื้นฟูผิวรอบดวงตาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาถุงใต้ตา รอยคล้ำ หรือริ้วรอยรอบดวงตา ผลิตภัณฑ์นี้มาพร้อมกับ 360° Mesh Matrix Technology ที่ทำหน้าที่เสมือนเป็นเบาะรองรับผิวรอบดวงตาจากผลกระทบของการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อ ทำให้ผิวรอบดวงตายืดหยุ่นขึ้น นอกจากนี้ ยังมีแอพลิเคเตอร์ Cryo-Steel Wand ที่มอบสัมผัสเย็นสดชื่นขณะใช้งาน ช่วยเสริมความผ่อนคลายให้กับผิวรอบดวงตา มีสารสกัดจากธรรมชาติ อ่อนโยนต่อผิว และปราศจากสารอันตราย เช่น พาราเบน พาลาเลต ซัลเฟต น้ำหอม และน้ำมันแร่ ทำให้เหมาะกับทุกสภาพผิวและทุกช่วงอายุ ผลิตภัณฑ์นี้ได้รับการทดสอบจากแพทย์ผิวหนังและจักษุแพทย์ รวมถึงเหมาะกับทุกเชื้อชาติ

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

Estee Lauder Advanced Night Repair Eye ช่วยฟื้นฟูผิวรอบดวงตาอย่างมีประสิทธิภาพ ลดปัญหาถุงใต้ตา รอยคล้ำ และริ้วรอยได้ในขั้นตอนเดียว พร้อมทั้งเสริมความยืดหยุ่นให้ผิวรอบดวงตาด้วย 360° Mesh Matrix Technology นอกจากนี้ยังมาพร้อมแอพพลิเคเตอร์ Cryo-Steel Wand ที่ช่วยเพิ่มความรู้สึกสดชื่นและผ่อนคลายขณะใช้งาน อีกทั้งยังปราศจากสารที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองที่ทำให้เหมาะกับทุกสภาพผิวและทุกช่วงอายุ

2. Eucerin HYALURON-FILLER + ELASTICITY EYE CREAM

2 Eucerin HYALURON-FILLER + ELASTICITY EYE CREAM

Eucerin HYALURON-FILLER + ELASTICITY EYE CREAM ฟื้นบำรุงผิวรอบดวงตาให้กระชับ ยืดหยุ่น และดูอ่อนเยาว์ด้วยเอกสิทธิ์เฉพาะของยูเซอริน

เนื้อสัมผัส ครีม
ปริมาณ 15 มล.
เวลาที่เหมาะสำหรับการทา กลางคืน
ส่วนผสมหลัก Arctiin, Hyaluronic Acid

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

Eucerin HYALURON-FILLER + ELASTICITY EYE CREAM เติมความชุ่มชื้นและเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิวรอบดวงตา ด้วยนวัตกรรมที่ช่วยฟื้นฟูปัญหาผิวที่เกิดจากวัย ด้วย Hyaluron Acid ที่มาในทั้งสองรูปแบบ คือ โมเลกุลใหญ่และโมเลกุลเล็ก โมเลกุลใหญ่ช่วยเติมริ้วรอยตื้น ส่วนโมเลกุลเล็กช่วยเติมริ้วรอยลึก เพื่อผิวรอบดวงตาดูอ่อนเยาว์และยืดหยุ่น นอกจากนี้ มี Arctiin ซึ่งเป็นสารแอนตี้ออกซิแดนท์ ช่วยยับยั้งเอ็นไซม์ Elastase ที่ทำลายคอลลาเจนและอีลาสตินในผิว ช่วยให้ผิวรอบดวงตายกกระชับมากขึ้น อีกทั้งยังมี Creatine ที่ทำหน้าที่ให้พลังงานกับเซลล์ผิว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินตามธรรมชาติ ทำให้ผิวรอบดวงตาดูมีความกระชับ นอกจากนี้ มีสารกันแดด SPF 20 เพื่อปกป้องผิวรอบดวงตาจากแสงแดด เหมาะกับทุกสภาพผิว โดยมีคำแนะนำการใช้งานให้ทาบริเวณรอบดวงตาทุกเช้าและก่อนนอน นอกจากนี้ยังมีคำเตือนเพื่อป้องกันการใช้งานผิดวิธี เช่น ควรระวังอย่าให้เข้าตาและเก็บผลิตภัณฑ์ที่อุณหภูมิต่ำกว่า 25°C

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

Eucerin HYALURON-FILLER + ELASTICITY EYE CREAM ดูแลผิวรอบดวงตาอย่างล้ำลึก ด้วยส่วนผสมของ Hyaluron Acid ทั้งโมเลกุลใหญ่และเล็ก ช่วยเติมเต็มริ้วรอยทั้งตื้นและลึก ทำให้ผิวรอบดวงตาดูอ่อนเยาว์และยืดหยุ่นมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมของ Arctiin และ Creatine ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินในผิว อีกทั้งยังมาพร้อมสารกันแดด SPF 20 เพื่อปกป้องผิวบอบบางจากแสงแดด

3. No7 Pure Retinol Eye Cream

3 No7 Pure Retinol Eye Cream

No7 Pure Retinol Eye Cream ลดเลือนริ้วรอยรอบดวงตาอย่างเห็นผลด้วย เพื่อผิวกระชับและชุ่มชื้นด้วยเทคโนโลยี MATRIXYL 3000 PLUS™ ผสานกับเรตินอล

เนื้อสัมผัส ครีม
ปริมาณ 15 มล.
เวลาที่เหมาะสำหรับการทา กลางคืน
ส่วนผสมหลัก Glycerin, Butyrospermum Parkii (Shea) Butter, Bisabolol, Retinol

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

No7 Pure Retinol Eye Cream ผสานเทคโนโลยี MATRIXYL 3000 PLUS™ และ Pure Retinol เพื่อช่วยลดเลือนริ้วรอยและฟื้นฟูผิวรอบดวงตาได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีส่วนผสมของ Shea Butter และ Bisabolol ที่ช่วยบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น และ Retinol Optimiser ที่ทำให้เรตินอลซึมเข้าสู่ผิวอย่างช้า ๆ เพิ่มประสิทธิภาพในการบำรุงและความกระชับของผิว นอกจากนี้ยังผ่านการทดสอบจากผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง เหมาะกับทุกสภาพผิว รวมถึงผิวแพ้ง่าย สินค้าไม่มีน้ำหอม ช่วยลดเลือนสัญญาณแห่งวัยทั้ง 7 ประการ ทำให้ริ้วรอย ร่องต่าง ๆ และความหมองคล้ำรอบดวงตาดูลดเลือนลง ผิวรอบดวงตาดูเรียบเนียนและสม่ำเสมอมากขึ้น จากการทดสอบกับผู้ใช้ พบว่า 93% รู้สึกถึงความชุ่มชื้นทันทีหลังใช้ และภายใน 2 สัปดาห์ ริ้วรอยและร่องต่าง ๆ ดูลดลง ผลิตภัณฑ์มีขนาด 15 มิลลิลิตร

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

No7 Pure Retinol Eye Cream โดดเด่นด้วยส่วนผสมของ Pure Retinol และเทคโนโลยี MATRIXYL 3000 PLUS™ ที่ช่วยลดเลือนริ้วรอยและฟื้นฟูผิวรอบดวงตาได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อม Shea Butter และ Bisabolol ที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวอย่างเต็มที่ อีกทั้ง Retinol Optimiser ยังช่วยให้เรตินอลซึมเข้าสู่ผิวอย่างช้า ๆ เพิ่มประสิทธิภาพในการบำรุง ทำให้ผิวรอบดวงตาดูกระชับและสม่ำเสมอมากขึ้น ผลิตภัณฑ์นี้ไม่มีน้ำหอม จึงเหมาะสำหรับทุกสภาพผิว รวมถึงผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย

4. Vichy Mineral 89 Eyes

4 Vichy Mineral 89 Eyes

อายครีมจากแบรนด์ Vichy Mineral 89 Eyes เติมเต็มความชุ่มชื้น ลดเลือนริ้วรอย ให้ผิวรอบดวงตาดูกระจ่างใสราวกับนอน 8 ชั่วโมง

เนื้อสัมผัส เซรั่ม
ปริมาณ 15 มล.
เวลาที่เหมาะสำหรับการทา กลางวันและกลางคืน
ส่วนผสมหลัก น้ำแร่ภูเขาไฟ, สาหร่ายเดอโมคลอเรลลา

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

Vichy Mineral 89 Eyes เซรั่มบำรุงผิวรอบดวงตาที่มีส่วนผสมของแร่ธาตุ 15 ชนิดจากน้ำแร่ภูเขาไฟในประเทศฝรั่งเศส ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับผิวรอบดวงตาและปรับสมดุล pH ของผิว มีส่วนผสมของไฮยาลูรอนจากธรรมชาติที่ช่วยเก็บกักความชุ่มชื้นและลดเลือนริ้วรอย รวมทั้งยังมีคาเฟอีนบริสุทธิ์และสาหร่ายเดอโมคลอเรลลาที่ช่วยให้ผิวรอบดวงตาเรียบเนียน ลดความหมองคล้ำจากถุงใต้ตา พร้อมกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวดูกระจ่างใสและอ่อนเยาว์ขึ้น ผลิตภัณฑ์นี้ปราศจากน้ำหอม ซิลิโคน สารให้สี พาราเบน และแอลกอฮอล์ ทำให้เหมาะกับทุกสภาพผิวรวมถึงผิวที่บอบบางและระคายเคืองง่าย ผ่านการทดสอบทางคลินิกโดยผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณ ผลการทดลองใช้แสดงให้เห็นว่าผู้ใช้รู้สึกได้ว่าผิวรอบดวงตาชุ่มชื้นและริ้วรอยแห่งวัยดูจางลงใน 4 สัปดาห์

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

Vichy Mineral 89 Eyes เป็นเซรั่มบำรุงผิวรอบดวงตาที่เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผู้ที่มีผิวบอบบางและระคายเคืองง่าย ด้วยส่วนผสมของแร่ธาตุ 15 ชนิดจากน้ำแร่ภูเขาไฟฝรั่งเศส ที่ช่วยเสริมความแข็งแรงและปรับสมดุล pH ของผิวรอบดวงตา นอกจากนี้ยังมีไฮยาลูรอนจากธรรมชาติที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ลดเลือนริ้วรอย และสารสกัดคาเฟอีนบริสุทธิ์ที่ช่วยให้ผิวรอบดวงตาดูเรียบเนียน ลดความหมองคล้ำจากถุงใต้ตา พร้อมกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนเพื่อให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้น ผลิตภัณฑ์นี้ปราศจากน้ำหอม ซิลิโคน พาราเบน และแอลกอฮอล์ ทำให้เหมาะกับผู้ที่ต้องการบำรุงผิวรอบดวงตาอย่างล้ำลึกโดยไม่ต้องกังวลเรื่องการระคายเคือง

5. The Ordinary Caffeine Solution 5% + EGCG

5 The Ordinary Caffeine Solution 5_ + EGCG

ลดรอยคล้ำและอาการบวมใต้ตาด้วย The Ordinary Caffeine Solution 5% + EGCG เพื่อผิวรอบดวงตาดูกระชับและสดใส

เนื้อสัมผัส เซรั่ม
ปริมาณ 30 มล.
เวลาที่เหมาะสำหรับการทา กลางวันและกลางคืน
ส่วนผสมหลัก Caffeien, EGCG Tea Polyphenols

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

The Ordinary Caffeine Solution 5% + EGCG เซรั่มบำรุงผิวรอบดวงตาที่มีส่วนผสมหลักของคาเฟอีนและสารสกัดจากใบชาเขียว (EGCG) ที่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดอาการบวมและรอยคล้ำใต้ตา เซรั่มนี้ประกอบด้วยคาเฟอีนเข้มข้น 5% ซึ่งช่วยกระชับผิวรอบดวงตา ลดการเกิดถุงใต้ตา และช่วยปรับผิวให้ดูสดใส ส่วนสารสกัดจากชาเขียวมีคุณสมบัติในการปกป้องผิวจากแสง UV และมลภาวะ ช่วยลดริ้วรอยและฟื้นฟูผิวรอบดวงตาให้กระจ่างใสขึ้น สูตรนี้มีค่า pH ระหว่าง 4.50-5.00 ซึ่งใกล้เคียงกับสมดุลผิว ปราศจากแอลกอฮอล์ ซิลิโคน น้ำมัน และกลูเตน นอกจากนี้ยังเป็นผลิตภัณฑ์ Vegan และไม่ได้ผ่านการทดลองกับสัตว์ เหมาะกับทุกสภาพผิว รวมถึงผู้ที่มีผิวบอบบางและแพ้ง่าย

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

The Ordinary Caffeine Solution 5% + EGCG เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดอาการบวมและรอยคล้ำใต้ตา ด้วยส่วนผสมของคาเฟอีนเข้มข้น 5% และสารสกัดจากใบชาเขียว (EGCG) ที่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ช่วยกระชับผิวและลดถุงใต้ตาอย่างมีประสิทธิภาพ สูตรนี้ไม่มีแอลกอฮอล์ ซิลิโคน น้ำมัน และกลูเตน ทำให้เหมาะกับทุกสภาพผิว รวมถึงผู้ที่มีผิวบอบบางหรือแพ้ง่าย อีกทั้งยังเป็นผลิตภัณฑ์ Vegan และไม่ได้ทดลองกับสัตว์

6. Olay Ultimate Eye Cream

6 Olay Ultimate Eye Cream

Olay Ultimate Eye Cream จัดการทุกปัญหารอบดวงตา พร้อมมอบความกระจ่างใส ด้วยเทคโนโลยี Color-Correcting ปรับรอยคล้ำให้ดูสดใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ

เนื้อสัมผัส ครีม
ปริมาณ 15 มล.
เวลาที่เหมาะสำหรับการทา กลางคืน
ส่วนผสมหลัก Glycerin, Niacinamide, Palmitoyl Pentapeptide -4

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

Olay Ultimate Eye Cream ครีมที่ออกแบบมาเพื่อลดปัญหารอบดวงตา ไม่ว่าจะเป็นรอยคล้ำใต้ตา ริ้วรอย หรือถุงใต้ตา ด้วยเทคโนโลยี Color-Correcting ช่วยปรับรอยหมองคล้ำให้กระจ่างใสขึ้นตามธรรมชาติ นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมของ Peptide, Vitamin B5 และ Niacinamide ที่ช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวและลดการเกิดจุดด่างดำใต้ตา พร้อมทั้ง Glycerin ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ทำให้ผิวรอบดวงตาดูอ่อนนุ่มและกระจ่างใสขึ้น เนื้อครีมบางเบา สามารถซึมซาบเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็วและไม่เหนียวเหนอะหนะ เหมาะกับทุกสภาพและโทนสีผิว โดยทาเช้าและเย็นบนผิวที่ทำความสะอาดแล้ว และนวดเบา ๆ บริเวณใต้ตา หางตา และหนังตาจนครีมซึมเข้าสู่ผิว โดยมีการทดสอบจากผู้ใช้จริง พบว่า 86% รู้สึกว่ารอยคล้ำใต้ตาดูกระจ่างใสขึ้น และ 89% รู้สึกว่าผิวรอบดวงตาเนียนนุ่มขึ้น

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

Olay Ultimate Eye Cream เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการจัดการปัญหารอบดวงตาอย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นรอยคล้ำใต้ตา ริ้วรอย หรือถุงใต้ตา ด้วยเทคโนโลยี Color-Correcting ที่ช่วยปรับรอยหมองคล้ำใต้ตาให้กระจ่างใส พร้อมส่วนผสมของ Peptide, Vitamin B5 และ Niacinamide ที่ช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวและลดการเกิดจุดด่างดำ นื้อครีมบางเบา ซึมซาบเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ จึงเหมาะกับทุกสภาพผิว รวมถึงการใช้งานทั้งเช้าและเย็นเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด

7. Innisfree Green tea seed eye & face ball

7 Innisfree Green tea seed eye & face ball

Innisfree Green tea seed eye & face ball มอบผิวรอบดวงตาสดชื่น กระชับ และกระจ่างใส พร้อมหัวลูกกลิ้งนวดผิว

เนื้อสัมผัส เซรั่ม
ปริมาณ 10 มล.
เวลาที่เหมาะสำหรับการทา กลางวันและกลางคืน
ส่วนผสมหลัก Green Tea Extract

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

Innisfree Green tea seed eye & face ball นำเข้าจากประเทศเกาหลีที่มีจุดเด่น คือ บรรจุภัณฑ์แบบแท่งพร้อมกับหัวลูกกลิ้งสำหรับนวด ช่วยให้ตัวครีมซึมเข้าสู่ผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมอบสัมผัสที่ผ่อนคลายขณะใช้งาน มีเทคโนโลยี Fresh Green Tea Water 2.0™ ซึ่งเป็นสารสกัดจากใบชาเขียวสด อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและกรดอะมิโนมากกว่า 16 ชนิด ช่วยสร้างเกราะป้องกันให้ผิวพร้อมกับกักเก็บความชุ่มชื้นอย่างยาวนาน นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี Dual Moisture-Rising ที่ช่วยฟื้นฟูผิวรอบดวงตาและลดปัญหาความหย่อนคล้อยของถุงใต้ตา เติมเต็มความชุ่มชื้นและช่วยให้ผิวกระจ่างใสและกระชับขึ้น เนื้อเซรั่มเข้มข้นนี้เหมาะสำหรับนวดใบหน้าและรอบดวงตา เพื่อบรรเทาความเหนื่อยล้า ทำให้ผิวดูสดชื่น มีชีวิตชีวา

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

Innisfree Green tea seed eye & face ball ด้วยสารสกัดจากใบชาเขียวสดในเทคโนโลยี Fresh Green Tea Water 2.0™ ที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและกรดอะมิโนมากกว่า 16 ชนิด ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและสร้างเกราะป้องกันผิว นอกจากนี้ยังมาพร้อมหัวลูกกลิ้งที่ช่วยนวดผิวรอบดวงตาและใบหน้า ทำให้ผิวรู้สึกผ่อนคลายและกระตุ้นการซึมซาบของเนื้อเซรั่มอย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี Dual Moisture-Rising ที่ช่วยฟื้นฟูผิวใต้ตาและลดความหย่อนคล้อยของถุงใต้ตาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

8. Her Hyness Royal Lift White Anti-Wrinkle Eye Cream

8 Her Hyness Royal Lift White Anti-Wrinkle Eye Cream

Her Hyness Royal Lift White Anti-Wrinkle Eye Cream ลดเลือนริ้วรอย พร้อมบำรุงผิวแพ้ง่ายให้กระจ่างใสอย่างอ่อนโยน

เนื้อสัมผัส ครีม
ปริมาณ 15 มล.
เวลาที่เหมาะสำหรับการทา กลางคืน
ส่วนผสมหลัก Methylsilanol Mannuronate, Plankton Extract, Royal Jelly, Morus Alba Root Extract, Marine Fossil

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

Her Hyness Royal Lift White Anti-Wrinkle Eye Cream โดดเด่นด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติและเหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย เนื่องจากปราศจากสารที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคียงกว่า 18 ชนิด เช่น แอลกอฮอล์ น้ำหอม สารกันเสีย พาราเบน และมิเนอรัลออย ทำให้ปลอดภัยและอ่อนโยนต่อผิว สูตรนี้มีส่วนผสมหลักจากนมผึ้ง สารสกัดจากรากมัลเบอร์รี สาหร่ายสีน้ำตาล แพลงก์ตอน และสารแซคคาไรด์ไอโซเมอเรท ที่ช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นรอบดวงตา ลดเลือนริ้วรอยและร่องลึกใต้ดวงตา อีกทั้งยังช่วยปรับสีผิวใต้ตาให้สม่ำเสมอมากขึ้นเนื้อเจลครีมที่ไม่เหนียวเหนอะหนะ สามารถซึมซาบเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว ผ่านการทดสอบโดยแพทย์ผิวหนัง (Dermatologically-Tested) และไม่ก่อให้เกิดการอุดตันของสิว (Non-Comedogenic) จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวบอบบางและแพ้ง่าย

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

Her Hyness Royal Lift White Anti-Wrinkle Eye Cream เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายและต้องการดูแลผิวรอบดวงตาอย่างล้ำลึก ปราศจากสารเคมีที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองถึง 18 ชนิด ช่วยลดความเสี่ยงในการระคายเคือง อีกทั้งมีส่วนผสมจากธรรมชาติ ช่วยเติมความชุ่มชื้น ลดเลือนริ้วรอย และปรับสีผิวใต้ตาให้ดูสม่ำเสมอ เนื้อเจลครีมบางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ ซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ดี ผ่านการทดสอบจากแพทย์ผิวหนังและไม่ก่อให้เกิดการอุดตันของสิว

9. SHISEIDO Ultimune Power Infusing Eye Concentrate

9 SHISEIDO Ultimune Power Infusing Eye Concentrate

Shiseido Ultimune Eye Concentrate มีสารสกัดจาก ImuGenerationRED Technology™ ฟื้นฟูผิวรอบดวงตาให้กระจ่างใส แข็งแรง และดูสุขภาพดี

เนื้อสัมผัส เซรั่ม
ปริมาณ 15 มล.
เวลาที่เหมาะสำหรับการทา กลางวันและกลางคืน
ส่วนผสมหลัก DIMETHICONE, GLYCERIN

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

Shiseido Ultimune Power Infusing Eye Concentrate เป็นอายเซรั่มที่ผสานด้วยเทคโนโลยี The Lifeblood™ และสารสกัดจาก ImuGenerationRED Technology™ ทำให้สูตรนี้เข้มข้นมากขึ้นถึง 10 เท่าเมื่อเทียบกับเซรั่มรุ่นก่อน ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและลดการเกิดริ้วรอยบริเวณผิวรอบดวงตา พร้อมฟื้นฟูผิวที่มีความหมองคล้ำให้กลับมาดูสดใส อีกทั้งยังมีส่วนผสมของ Hyaluronic ช่วยให้ผิวรอบดวงตาดูเรียบเนียนและมีความชุ่มชื้นมากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีสารสกัดจากเห็ด Reishi และราก Iris ที่ช่วยฟื้นฟูผิวและเสริมสร้างเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรง นอกจากนี้ยังช่วยลดปัญหาผิวรอบดวงตาที่เหนื่อยล้าและถุงใต้ตาคล้ำ ทำให้ผิวรอบดวงตาดูสุขภาพดีและเปล่งประกาย

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

Shiseido Ultimune Power Infusing Eye Concentrate ด้วยเทคโนโลยี The Lifeblood™ และสารสกัดจาก ImuGenerationRED Technology™ ที่เพิ่มความเข้มข้นถึง 10 เท่า ช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นให้กับผิวรอบดวงตา ลดการเกิดริ้วรอยและฟื้นฟูผิวที่หมองคล้ำให้กลับมาดูกระจ่างใส นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมของ Hyaluronic ที่ช่วยให้ผิวเรียบเนียนและชุ่มชื้นมากยิ่งขึ้น เสริมด้วยสารสกัดจากเห็ด Reishi และราก Iris ที่ช่วยฟื้นฟูผิวและสร้างเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรง

10. GRAVICH Retinol Concentrate Eye Cream

10 GRAVICH Retinol Concentrate Eye Cream

GRAVICH Retinol Concentrate Eye Cream ลดเลือนริ้วรอย เติมเต็มความชุ่มชื้น ให้ผิวใต้ตาดูกระจ่างใสแบบครบจบในหลอดเดียว

เนื้อสัมผัส ครีม
ปริมาณ 15 มล.
เวลาที่เหมาะสำหรับการทา กลางวันและกลางคืน
ส่วนผสมหลัก Pro-Retinol (Retinol Ester), Retinol, Retinal (Retinaldehyde)

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

GRAVICH Retinol Concentrate Eye Cream ครีมบำรุงรอบดวงตาที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาใต้ตาหมองคล้ำและริ้วรอยก่อนวัย ด้วยนวัตกรรม Double Encapsulate ที่ช่วยส่งสารบำรุงเข้าสู่ผิวอย่างตรงจุด พร้อมผสานการทำงานร่วมกับ Biomimetic Botox-Like Peptide ที่ช่วยลดร่องรอยแห่งวัย ทำให้ผิวรอบดวงตาดูกระจ่างใสขึ้น ครีมสูตรนี้ยังมีการทำงานแบบ Triple Action โดยประกอบด้วย Panthenol, Hyaluronic Acid และ Bisabolol ช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้น ลดความหมองคล้ำ ลดริ้วรอย และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้กับผิวรอบดวงตา นอกจากนี้ บรรจุภัณฑ์ยังออกแบบมาอย่างพิเศษด้วยหัวนวดที่ช่วยลดอุณหภูมิ ช่วยนวดผิวรอบดวงตาได้อย่างเบามือ ทำให้รู้สึกผ่อนคลายและช่วยให้ครีมซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ดีขึ้น เนื้อครีมเป็นเนื้อกำมะหยี่นุ่ม บางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ ซึมไว และไม่มีส่วนผสมที่ทำให้เกิดไอระเหยซึ่งอาจก่อการระคายเคือง

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

GRAVICH Retinol Concentrate Eye Cream ด้วยนวัตกรรม Double Encapsulate ที่ช่วยส่งสารบำรุงเข้าสู่ผิวได้อย่างตรงจุด ผสานกับ Biomimetic Botox-Like Peptide ที่ช่วยลดร่องรอยแห่งวัย ทำให้ริ้วรอยดูลดเลือนและผิวใต้ตาดูกระจ่างใสมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ครีมสูตรนี้ยังมีการทำงานแบบ Triple Action ที่มี Panthenol, Hyaluronic Acid และ Bisabolol ช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้น ลดความหมองคล้ำ และกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนในผิวรอบดวงตา อีกทั้งหัวนวดที่ออกแบบมาพิเศษยังช่วยลดอุณหภูมิรอบดวงตา

คุณสมบัติสำคัญที่ควรพิจารณาในอายครีม

501-คุณสมบัติสำคัญที่ควรพิจารณาในอายครีมเพื่อความชุ่มชื้น

ส่วนผสมที่ควรมองหาในผลิตภัณฑ์

  • Hyaluronic Acid: มีคุณสมบัติในการเก็บกักความชุ่มชื้นได้มากถึง 1,000 เท่าของน้ำหนักตัวเอง จึงช่วยเติมเต็มผิวรอบดวงตาให้ดูอิ่มฟูและมีความยืดหยุ่นมากขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยลดเลือนริ้วรอยเล็กๆ ที่เกิดจากการขาดความชุ่มชื้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • Glycerin: สารนี้ช่วยดึงความชื้นจากอากาศเข้าสู่ผิว ช่วยให้ผิวรอบดวงตาคงความชุ่มชื้นไว้ได้นาน ทั้งยังมีความปลอดภัยสำหรับผิวบอบบางและแพ้ง่าย เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว
  • Ceramides: เป็นสารที่มีอยู่ตามธรรมชาติในผิว ทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันความชุ่มชื้นในชั้นผิวหนัง การเลือกอายครีมที่มีสารนี้ จะช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับผิวรอบดวงตา ป้องกันการสูญเสียน้ำ และทำให้ผิวดูสุขภาพดีมากขึ้น

เลือกเนื้อสัมผัสบางเบา ซึมซาบง่าย และไม่ทิ้งความเหนอะหนะ

การเลือกที่มีเนื้อสัมผัสบางเบาและซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ง่ายเป็นสิ่งสำคัญ เพราะผิวรอบดวงตามีความบอบบางและไวต่อการระคายเคือง ผลิตภัณฑ์ที่เนื้อหนาและทิ้งความเหนอะหนะอาจทำให้รู้สึกไม่สบายตัวและอาจก่อให้เกิดปัญหาผิวในระยะยาว เช่น การอุดตันของรูขุมขนหรือเกิดความมันบริเวณรอบดวงตา ควรเลือกอายครีมที่มีเนื้อเจลหรือครีมสูตรน้ำที่สามารถซึมเข้าสู่ผิวได้รวดเร็ว และควรใช้เพียงปริมาณเล็กน้อย เพื่อให้เนื้อครีมกระจายตัวได้ดี

ผลลัพธ์เมื่อใช้อย่างต่อเนื่อง

การใช้อายครีมที่มีคุณสมบัติให้ความชุ่มชื้นอย่างสม่ำเสมอ จะทำให้ผิวรอบดวงตาอิ่มฟู ดูเปล่งประกาย และมีความยืดหยุ่นมากขึ้น สามารถลดเลือนริ้วรอยเล็กๆ และลดความแห้งกร้านได้ทันทีหลังใช้ นอกจากนี้ การเติมเต็มความชุ่มชื้นให้กับผิวยังช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอยในอนาคต ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์และสุขภาพดีขึ้น หากใช้ต่อเนื่องเป็นเวลา 4-8 สัปดาห์ คาดหวังได้ว่าผิวรอบดวงตาจะดูสว่างใสขึ้นและมีความยืดหยุ่นที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน

วิธีใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด

501-วิธีใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด

ขั้นตอนการใช้ที่ถูกต้อง

  • ควรใช้นิ้วนางในการทาครีม เนื่องจากนิ้วนางเป็นนิ้วที่มีแรงกดน้อยที่สุด ช่วยให้ทาครีมได้อย่างอ่อนโยนโดยไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองหรือดึงรั้งผิวรอบดวงตา ซึ่งเป็นบริเวณที่บอบบางมาก
  • เริ่มด้วยการแตะอายครีมปริมาณเท่าเมล็ดถั่วเขียวลงบนปลายนิ้วนาง จากนั้นค่อยๆ แตะเบาๆ บริเวณใต้ตา เริ่มจากมุมด้านใน แล้วไล่ไปยังมุมด้านนอก หลีกเลี่ยงการทาใกล้ขอบตาหรือดวงตามากเกินไป
  • สามารถใช้ครีมแตะบริเวณเปลือกตาและหางตาได้ โดยควรแตะและนวดวนเบาๆ เพื่อช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดบริเวณรอบดวงตา เพิ่มความกระชับและลดอาการบวม
  • หลังจากแตะครีมเสร็จแล้ว ควรรอให้ครีมซึมเข้าสู่ผิวสักครู่ก่อนที่จะทาครีมบำรุงอื่นๆ เพื่อให้เนื้อครีมทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ

ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการทาครีม

การใช้วันละ 2 ครั้ง คือ ช่วงเช้าและก่อนนอน เป็นวิธีที่เหมาะสมและได้ผลมากที่สุด เพื่อให้ผิวรอบดวงตาชุ่มชื้นและได้รับการฟื้นฟูตลอดทั้งวัน

  • ช่วงเช้า: การทาอายครีมก่อนแต่งหน้าช่วยให้ผิวรอบดวงตามีความชุ่มชื้น พร้อมลดปัญหาการแต่งหน้าติดไม่ทน นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์บางสูตรยังมีสารกันแดด ช่วยปกป้องจากแสงยูวีและมลภาวะ
  • ช่วงก่อนนอน: การทาก่อนนอนช่วยให้ส่วนผสมซึมเข้าสู่ผิวและทำงานได้เต็มที่ในระหว่างที่เรานอนหลับ ซึ่งเป็นช่วงที่ผิวได้รับการฟื้นฟูตามธรรมชาติ และเสริมสร้างการฟื้นฟูผิวในระยะยาว

ปริมาณการใช้

  • การใช้อายครีมในปริมาณที่เหมาะสมมีความสำคัญอย่างยิ่ง ควรใช้ปริมาณที่เท่าเมล็ดถั่วเขียว (ประมาณ 0.5 กรัม) สำหรับแต่ละข้าง ไม่ควรใช้มากเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดการอุดตันและไม่สบายผิวรอบดวงตา
  • การใช้ในปริมาณที่พอดีจะช่วยให้เนื้อครีมซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ดีและไม่ทิ้งคราบเหนอะหนะ อีกทั้งยังช่วยประหยัดปริมาณผลิตภัณฑ์

การดูแลรอบดวงตาเพิ่มเติมเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

501-การดูแลรอบดวงตาเพิ่มเติมเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

พักผ่อนให้เพียงพอและบริโภคอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ

  • การพักผ่อนที่เพียงพอ เป็นกุญแจสำคัญในการดูแลผิวรอบดวงตา โดยควรนอนหลับอย่างน้อย 7-9 ชั่วโมงต่อคืน เพื่อให้ร่างกายได้ฟื้นฟูเซลล์ผิว รวมถึงผิวบริเวณรอบดวงตา การนอนหลับไม่เพียงพอสามารถทำให้เกิดปัญหาความหมองคล้ำและถุงใต้ตาได้
  • ดื่มน้ำให้เพียงพออย่างน้อย 8 แก้วต่อวัน จะช่วยให้ผิวรอบดวงตามีความชุ่มชื้นจากภายใน ช่วยลดความแห้งกร้านและริ้วรอยที่อาจเกิดขึ้นได้
  • ควรบริโภคอาหารที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามิน C และ E พบได้ในผลไม้และผักใบเขียว เช่น บลูเบอร์รี สตรอว์เบอร์รี และผักโขม ซึ่งช่วยในการฟื้นฟูและปกป้องผิวจากความเสียหายที่เกิดจากรังสี UV และมลภาวะ

หลีกเลี่ยงการขยี้ตาและสัมผัสผิวรอบดวงตาอย่างรุนแรง

  • การขยี้ตาหรือสัมผัสผิวรอบดวงตาอย่างรุนแรง อาจทำให้เกิดริ้วรอยและความแห้งกร้าน เนื่องจากผิวบริเวณรอบดวงตาเป็นส่วนที่บอบบางและละเอียดอ่อนมากที่สุด ดังนั้นควรระมัดระวังในการสัมผัส
  • เมื่อจำเป็นต้องสัมผัสผิวรอบดวงตา เช่น การทาอายครีม ควรใช้นิ้วนางแตะครีมเบา ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการดึงรั้งผิว
  • หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์รที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์, น้ำหอม, หรือสารเคมีที่ระคายเคือง เพราะอาจทำให้ผิวรอบดวงตาแห้งและเกิดริ้วรอยได้ง่ายขึ้น

การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงอื่น ๆ ที่สามารถใช้ร่วมกับอายครีม

การทาครีมกันแดดเพื่อป้องกันดวงตา เป็นสิ่งที่หลายคนอาจมองข้าม แต่ความจริงแล้วเป็นสิ่งสำคัญมาก ผิวรอบดวงตามีความบอบบางและไวต่อแสงแดดมากที่สุด เมื่อสัมผัสกับรังสี UV เป็นเวลานาน ๆ อาจทำให้เกิดปัญหาผิวต่าง ๆ เช่น ริ้วรอยก่อนวัย ความหมองคล้ำ และการเกิดฝ้าหรือกระใต้ผิวหนังบริเวณรอบดวงตา นอกจากการทา 10 ครีมกันแดดยอดนิยมที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป ซึ่งออกแบบมาสำหรับผิวบอบบางบริเวณรอบดวงตาแล้ว การใช้มอยเจอร์ไรเซอร์แนะนำยี่ห้อคุณภาพก็เป็นส่วนสำคัญในการดูแลผิวรอบดวงตา เพราะจะช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นให้ผิว ไม่ให้แห้งกร้าน ซึ่งการมีผิวรอบดวงตาที่ชุ่มชื้นจะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดริ้วรอยและความหมองคล้ำได้ หากใช้ผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ร่วมกับอายครีม เช่น เซรั่มหรือเอสเซนส์ ควรเลือกสูตรที่เข้ากันได้กับอายครีมและเหมาะกับสภาพผิวรอบดวงตา เพื่อให้การบำรุงมีประสิทธิภาพสูงสุด

สรุปแล้ว การเลือกใช้อายครีมที่ให้ความชุ่มชื้นและเหมาะสมกับสภาพผิว เป็นสิ่งสำคัญในการดูแลผิวรอบดวงตา ผิวในบริเวณนี้มีความบอบบางและละเอียดอ่อน จึงจำเป็นต้องได้รับการบำรุงที่ถูกต้อง การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติและส่วนผสมที่เหมาะสม เช่น Hyaluronic Acid, Peptides หรือสารสกัดจากธรรมชาติ จะช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้น ทำให้ผิวรอบดวงตาดูอิ่มฟูและเปล่งประกายมากยิ่งขึ้น นอกจากการเลือกใช้แล้ว การดูแลผิวรอบดวงตาด้วยวิธีที่ถูกต้องและการใช้ผลิตภัณฑ์อื่น ๆ อย่างสม่ำเสมอก็มีส่วนสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพของการบำรุง ดังนั้น ลองเริ่มต้นดูแลผิวรอบดวงตาด้วยการเลือกใช้อายครีมที่เหมาะกับตัวเองและปฏิบัติตามวิธีการดูแลอย่างถูกต้อง เพื่อให้ผิวรอบดวงตาของคุณดูสุขภาพดี อิ่มฟู และเปล่งประกายได้ในระยะยาว

คำถามที่พบบ่อย

1. เราควรใช้อายครีมเมื่ออายุเท่าไหร่ถึงจะเหมาะสม?

โดยทั่วไปการใช้สามารถเริ่มต้นได้ตั้งแต่อายุ 20 ปีขึ้นไป เพื่อเป็นการป้องกันและดูแลผิวรอบดวงตาก่อนที่จะเกิดริ้วรอยและความหมองคล้ำ อย่างไรก็ตาม หากเริ่มสังเกตเห็นปัญหาผิวรอบดวงตาเร็วขึ้น ก็สามารถเริ่มใช้ได้เช่นกัน

2. อายครีมควรใช้เวลาไหนถึงจะเห็นผลดีที่สุด?

ควรใช้วันละ 2 ครั้ง ในช่วงเช้าและก่อนนอน เพื่อให้ผิวรอบดวงตาได้รับการบำรุงอย่างเต็มที่ การใช้อายครีมในช่วงเช้าจะช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะและแสงแดด ส่วนการใช้อายครีมในช่วงกลางคืนจะช่วยฟื้นฟูและซ่อมแซมผิวในระหว่างที่เรานอนหลับ

3. ควรใช้ผลิตภัณฑ์ในปริมาณเท่าใดต่อครั้ง?

การใช้ในปริมาณที่พอเหมาะสำคัญมาก ควรใช้เพียงเล็กน้อยเท่ากับเมล็ดถั่วเขียวในแต่ละข้าง เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้งานที่มากเกินไป ซึ่งอาจทำให้ผิวรู้สึกเหนอะหนะและไม่สบาย ควรใช้นิ้วนางในการแตะและทาอายครีม เพื่อให้น้ำหนักการกดเบาที่สุดและไม่ทำให้ผิวรอบดวงตาเกิดริ้วรอย

4. หากเรามีผิวแพ้ง่าย ควรเลือกใช้อายครีมอย่างไร?

ผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายควรเลือกอายครีมที่ปราศจากน้ำหอม แอลกอฮอล์ และสารกันเสียที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง รวมถึงเลือกผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการทดสอบจากแพทย์ผิวหนัง (Dermatologically-Tested) เพื่อความปลอดภัยและลดความเสี่ยงในการเกิดการแพ้

ผู้เขียน

หมวดหมู่ผลิตภัณฑ์

icon-Grey_1-อิเล็กทรอนิกส์

อิเล็กทรอนิกส์

icon-Grey_2-เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน

เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน

icon-Grey_3-แฟชั่นและเสื้อผ้า

แฟชั่นและเสื้อผ้า

icon-Grey_4-ความงามและสุขอนามัย

ความงามและสุขอนามัย

icon-Grey_5-สุขภาพและเวชภัณฑ์

สุขภาพและเวชภัณฑ์

icon-Grey_6-ของใช้ในบ้านและห้องครัว

ของใช้ในบ้านและห้องครัว

icon-Grey_7-อาหารและเครื่องดื่ม

อาหารและเครื่องดื่ม

icon-Grey_8-กีฬาและกิจกรรมกลางแจ้ง

กีฬาและกิจกรรมกลางแจ้ง

icon-Grey_9-ของเล่นและเกม

ของเล่นและเกม

icon-Grey_10-ยานยนต์

ยานยนต์

icon-Grey_11-ผลิตภัณฑ์สำหรับแม่และเด็ก

ผลิตภัณฑ์สำหรับแม่และเด็ก

icon-Grey_12-อุปกรณ์สำนักงาน

อุปกรณ์สำนักงาน

icon-Grey_13-อุปกรณ์สัตว์เลี้ยง

อุปกรณ์สัตว์เลี้ยง

icon-Grey_14-เฟอร์นิเจอร์และตกแต่งบ้าน

เฟอร์นิเจอร์และตกแต่งบ้าน

icon-Grey_15-อุปกรณ์ทำสวนและเกษตร

อุปกรณ์ทำสวนและเกษตร

icon-Grey_16-เครื่องดนตรีและการดนตรี

เครื่องดนตรีและการดนตรี

icon-Grey_17-เครื่องมือช่างและวัสดุก่อสร้าง

เครื่องมือช่างและวัสดุก่อสร้าง

icon-Grey_18-ศิลปะและงานฝีมือ

ศิลปะและงานฝีมือ

icon-Grey_19-งานปาร์ตี้และสันทนาการ

งานปาร์ตี้และสันทนาการ

icon-Grey_20-บรรจุภัณฑ์และการจัดเก็บ

บรรจุภัณฑ์และการจัดเก็บ

icon-Grey_21-สื่อและภาพยนต์

สื่อและภาพยนต์

icon-Grey_22-เครื่องจักรและอุตสาหกรรม

เครื่องจักรและอุตสาหกรรม

icon-Grey_7-อาหารและเครื่องดื่ม

อาหารและเครื่องดื่ม

icon-Grey_24-การท่องเที่ยวและอุปกรณ์การเดินทาง

ท่องเที่ยว/อุปกรณ์การเดินทาง

Scroll to Top