สวัสดีครับ! ลำโพงคอมพิวเตอร์นี่ถือว่าเป็นอุปกรณ์สำคัญเลยนะครับสำหรับการใช้คอมในยุคนี้ ไม่ว่าจะดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม หรือประชุมออนไลน์ก็ตาม ลำโพงดีๆ จะช่วยให้ประสบการณ์การใช้งานของคุณมันส์ขึ้นเยอะเลยล่ะครับ ตอนนี้ในตลาดมีลำโพงให้เลือกเยอะมากๆ ทั้งดีไซน์ ขนาด ฟีเจอร์ และคุณภาพเสียง เหมาะกับทุกการใช้งานเลยครับ ตั้งแต่ใช้ในบ้านธรรมดาๆ ยันระดับโปรในสตูดิโอเลยทีเดียว ถ้าใครกำลังหาลำโพงดีๆ สักตัวอยู่ล่ะก็
บทความนี้ช่วยคุณได้แน่นอนครับ ผมได้รวบรวม 10 แบรนด์ ลำโพงคอมพิวเตอร์ สุดฮิต ที่ใครๆ ก็ชอบมาให้ดูกัน แต่ละแบรนด์มีจุดเด่นต่างกันไป ทั้งคุณภาพเสียง ความแข็งแรง ดีไซน์ และความคุ้มค่า พร้อมคำอธิบายแบบเข้าใจง่ายๆ ให้เปรียบเทียบกันได้เลย แถมยังมีความรู้เสริม 3 เรื่องที่ต้องรู้ด้วยนะครับ ทั้งเทคนิควางลำโพงให้เสียงดีสุดๆ, วิธีเลือกประเภทลำโพงให้เหมาะกับการใช้งาน และการดูแลรักษาให้ใช้ได้นานๆ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้คุณไม่พลาดทุกประเด็นสำคัญในการเลือกลำโพงที่ใช่สำหรับคุณครับ
หลักเกณฑ์ที่ใช้ในการจัดอันดับสินค้า
จาก 10 อันดับลำโพงคอมพิวเตอร์ ที่น่าใช้ที่สุดในปีนี้ที่เราเลือกมาจัดอันดับให้ทุกคนได้รู้จัก ผมได้รวบรวมข้อมูลมาอย่างละเอียด เพื่อให้ทุกคนเลือกซื้อได้ตรงใจที่สุด มาดูกันเลยว่าผมใช้เกณฑ์อะไรบ้างในการจัดอันดับครับ
- คุณภาพเสียง (Sound Quality): แน่นอนว่าต้องมาเป็นอันดับแรกครับ ผมตรวจสอบทั้งความชัดของเสียง รายละเอียดต่างๆ เสียงพูดต้องฟังชัด เบสต้องแน่นไม่บวม และเสียงทุกย่านความถี่ต้องสมดุลกัน จะได้ฟังสนุกสุดๆ
- ความคุ้มค่า (Value for Money): ผมเทียบให้ดูหมดเลยว่าจ่ายเท่าไหร่ได้อะไรบ้าง ทั้งคุณภาพเสียง ฟีเจอร์ และความทนทาน รับรองว่าคุ้มค่าแน่นอน
- ความทนทาน (Durability): ผมดูทั้งวัสดุ การประกอบ ความแข็งแรง และทดสอบการใช้งานจริงด้วยครับ จะได้ใช้ได้นานๆ คุ้มค่าเงินที่เสียไป
- ดีไซน์ (Design): นอกจากฟังดีแล้ว ต้องดูดีด้วยครับ เลือกมาแต่ดีไซน์สวยๆ ทันสมัย วางบนโต๊ะแล้วดูดี ประหยัดพื้นที่ด้วย
- การเชื่อมต่อ (Connectivity): ผมตรวจสอบการเชื่อมต่อเลยครับ ทั้ง USB, AUX, Bluetooth ดูว่าเสถียรไหม เชื่อมต่อง่ายไหม เพื่อการใช้งานที่สะดวกที่สุด
- รีวิวจากคนใช้จริง (User Reviews): ผมรวบรวมความเห็นจากคนใช้จริงมาให้ด้วยครับ ทั้งข้อดี ปัญหาที่เจอ จะได้เห็นภาพชัดๆ ว่าใช้งานจริงเป็นยังไง
- ใช้งานง่าย (Ease of Use): ลำโพงต้องใช้ง่ายครับ ติดตั้งไม่ยุ่งยาก ปุ่มกดใช้สะดวก เสียบปุ๊บใช้ได้เลย ไม่ต้องลงโปรแกรมอะไรให้วุ่นวาย
10 ลําโพงคอมพิวเตอร์ เสียงดังฟังชัด ในงบที่คุ้มค่า ปี 2024
1.CREATIVE Speaker Pebble Pro | Pebble Pro
Common Ground Naturally Balanced and Reconditioned Conditioner ครีมนวดผมสูตรออร์แกนิก ที่อุดมด้วยสารสกัดน้ำมันอะโวคาโดและวิตามิน B, E ช่วยฟื้นฟูเส้นผมให้นุ่มลื่น เงางาม
ประเภท | แบบมีสายและเชื่อมต่อ Bluetooth ได้ |
ขนาด | 12.30 x 12.30 x 11.80 ซม. |
กำลังขับ | 10W RMS |
พอร์ตเชื่อมต่อ | USB-C |
ข้อดี
-
การเชื่อมต่อ: ต่อได้ครบเลย ทั้ง USB-C, Bluetooth 5.3, AUX แถมมีช่องเสียบหูฟังและไมค์ด้วยนะ - เสียงดีเกินตัว: ใส่แอมป์ดิจิตอลมาให้คู่เลย พร้อมระบบประมวลผลเสียงในตัว เปิดดังแค่ไหนก็ไม่เพี้ยนครับ
- ขนาดกำลังดี: ไม่เปลืองพื้นที่เลย วางโต๊ะได้สบายๆ เหมาะกับการใช้งานจริงครับ
- มุมเสียงเทพ: เอียง 45 องศาแบบนี้เสียงมันพุ่งมาหาเราพอดีเลย ฟังชัดมากครับ
- สีสันสวยงาม: มีไฟ RGB ปรับได้หลายแบบ จะเปลี่ยนสีหรือลูกเล่นก็ได้ตามใจชอบเลยครับ
ข้อควรพิจารณา
- ใช้อะแดปเตอร์แยก: อยากได้พลังเสียงสุดๆ 20W ต้องควักตังค์ซื้ออะแดปเตอร์ USB PD 30W เพิ่มนะครับ
- เบสไม่ลึกมาก: ไม่มีซับวูฟเฟอร์แยก เลยอาจจะไม่ถูกใจคนที่ชอบฟังเพลงแนวเบสหนักๆ ครับ
- เสียงไม่รอบทิศทาง: เป็นลำโพง 2.0 ธรรมดา ไม่รองรับระบบเสียง 2.1 หรือ 5.1 นะครับ
- ต้องต่อไฟตลอด: ไม่มีแบตในตัว ต้องเสียบสาย USB ไว้ตลอดเวลาที่ใช้งานครับ
- ไม่มีรีโมต: ต้องเดินไปปรับที่ตัวลำโพงอย่างเดียวเลยครับ สะดวกบ้างไม่สะดวกบ้าง
Creative Speaker Pebble Pro ตัวนี้เป็นลำโพง 2.0 ที่เชื่อมต่อได้ทั้งแบบมีสายและไร้สายผ่าน Bluetooth 5.3 ครับ มีพอร์ต USB Type-C ที่ใช้ทั้งส่งเสียงและจ่ายไฟในตัวเดียว สะดวกมากๆ แถมยังมีช่อง AUX 3.5 มม. ช่องเสียบหูฟัง และไมค์ด้วยนะครับ ตัวลำโพงไซส์กำลังดีเลยครับ 12.30 x 12.30 x 11.80 ซม. ดีไซน์เก๋มาก เอียง 45 องศาให้เสียงพุ่งตรงมาที่หูเราพอดี มีไฟ RGB ปรับได้หลายแบบ สวยงามมากๆ เหมาะกับการแต่งโต๊ะสุดๆ ครับ
ส่วนเรื่องเสียงนี่ไม่ต้องห่วงเลยครับ ใส่ไดรเวอร์มาขนาด 2.25 นิ้ว กำลังขับ 10 วัตต์ RMS ถ้าต่อกับอะแดปเตอร์ USB PD 30W เสียงขึ้นได้ถึง 20 วัตต์เลยนะครับ (แต่ต้องซื้อแยกนะ) สามารถใช้แอมป์ดิจิตอลคู่พร้อมระบบประมวลผลเสียงในตัว ทำให้เสียงชัดแจ๋วแม้เปิดดังๆ ไม่มีเพี้ยนเลยครับ เบสนี่แน่นกว่าลำโพงทั่วไปถึง 3.5 เท่า! คุณภาพเสียงดีครบทุกย่านความถี่เลยครับ ไม่ว่าจะฟังแนวไหนก็มันส์! ผมว่าลำโพงตัวนี้เหมาะมากๆ สำหรับคนที่อยากได้ลำโพงกะทัดรัด แต่เสียงต้องดี เชื่อมต่อได้หลายแบบ และเปิดดังได้โดยไม่เพี้ยนครับ
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?
ผมว่าลำโพง Creative Speaker Pebble Pro น่าสนใจมากนะครับ เพราะเชื่อมต่อได้ครบเลย ทั้ง USB-C, Bluetooth 5.3, AUX แถมยังมีช่องเสียบหูฟังและไมค์ด้วย ใช้งานได้สารพัดเลยครับ ตัวลำโพงเองก็กะทัดรัดดี แต่เสียงไม่เล็กนะครับ ให้กำลังขับมาถึง 10W RMS เลย แถมถ้าใช้กับอะแดปเตอร์ที่ถูกตัว เสียงขึ้นได้ถึง 20W เลยล่ะ ที่เจ๋งไปกว่านั้นคือมันมีแอมป์ดิจิตอลคู่พร้อมระบบประมวลผลเสียงในตัว ทำให้เสียงชัดแจ๋วแม้เปิดดังๆ ไม่มีเพี้ยนเลยครับ ดีไซน์ก็เก๋ไก๋ เอียง 45 องศาให้เสียงพุ่งตรงมาที่หูเราพอดี แถมมีไฟ RGB ปรับได้หลายแบบ วางบนโต๊ะแล้วดูดีมากๆ เลยครับ
2.JBL Gaming Speakers ลำโพงเกมมิ่งสำหรับ PC | Quantum Duo
แพนทีน โปร-วี คอลลาเจน รีแพร์ คอนดิชันเนอร์ ครีมนวดบำรุงล้ำลึกด้วย Pro-V และคอลลาเจนแท้ ฟื้นฟูผมแห้งเสียให้กลับมาแข็งแรง นุ่มลื่น และสุขภาพดีภายใน 3 นาที
ประเภท | แบบมีสายและเชื่อมต่อ Bluetooth ได้ |
ขนาด | 8.90 x 21.00 x 17.60 ซม. |
กำลังขับ | 20W RMS |
พอร์ตเชื่อมต่อ | 3.5 mm |
ข้อดี
- เสียงเกมสมจริง: ระบบเสียง QuantumSOUND นี่แจ๋วมากครับ ได้ยินทุกดีเทลชัดเจน ทั้งเสียงปืน เสียงตัวละครเลยล่ะ
- ไฟสวยซิงค์กับเสียง: มีไฟ RGB ที่ปรับให้เต้นตามจังหวะได้ด้วยนะครับ เวลาเล่นเกมหรือฟังเพลงมันส์ๆ สุดยอดไปเลย
- เสียงครบรอบทิศ: มาพร้อมซับวูฟเฟอร์และทวีตเตอร์ในตัว เบสแน่น เสียงแหลมใส ไม่ต้องซื้อซับแยกให้เปลืองเงินครับ
- ควบคุมง่าย: จะปรับไฟ RGB แบบไหนก็กดที่ลำโพงได้เลย ไม่ต้องลงโปรแกรมอะไรให้วุ่วายครับ
- ใช้ได้กับทุกเครื่อง: เล่นอะไรก็ได้หมดเลยครับ ทั้ง PC, Mac หรือจะต่อกับเครื่องเกมคอนโซลก็ยังได้
ข้อควรพิจารณา
- BBluetooth รุ่นเก่า: ใช้ Bluetooth 4.2 ครับ ซึ่งจะช้ากว่ารุ่นใหม่ๆ ที่ใช้ 5.0 ขึ้นไปนิดหน่อย
- พอร์ตแบบเดิม: ยังใช้ USB แบบธรรมดาอยู่ครับ ไม่มี USB-C มาให้
- ตัวใหญ่หน่อย: ขนาด 8.90 x 21.00 x 17.60 ซม. อาจกินที่บนโต๊ะเยอะกว่าลำโพงทั่วไปนะครับ
- ไม่มีพอร์ตเสริม: อยากเสียบหูฟังหรือไมค์ตรงที่ลำโพงไม่ได้นะครับ ต้องต่อที่เครื่องแทน
- ปรับไฟได้ไม่ละเอียด: เลือกได้แค่รูปแบบไฟกับการซิงค์เสียงเท่านั้นครับ จะปรับสีเฉพาะจุดไม่ได้
ลำโพง JBL Quantum Duo ลำโพงเกมมิ่งที่เชื่อมต่อได้ทั้งแบบมีสายและบลูทูธ ใช้ได้กับทั้ง PC, Mac, Windows หรือจะเป็นเกมคอนโซลก็ได้หมดเลยครับ ตัวลำโพงมีขนาด 8.90 x 21.00 x 17.60 เซนติเมตร พร้อมด้วยเทคโนโลยี JBL QuantumSOUND Signature ที่ทำให้ได้ยินเสียงในเกมชัดแจ๋วมากๆ ไม่ว่าจะเป็นเสียงปืนหรือเสียงตัวละครเลยล่ะครับ ในเรื่องของสเปคนี่ก็แน่นปึ้กเลยนะครับ รองรับความถี่ตั้งแต่ 60Hz ถึง 20kHz มี Signal-to-Noise Ratio ที่ 80dB กำลังขับ 20 วัตต์ RMS ด้านในมีทั้งซับวูฟเฟอร์ 2.5 นิ้ว และทวีตเตอร์ 0.75 นิ้ว เบสก็แน่น เสียงแหลมก็ชัด ครบเครื่องสุดๆ ครับ
ที่เด็ดไปกว่านั้นคือมีไฟ RGB ที่ปรับแต่งได้หลายแบบ จะควบคุมจากตัวลำโพงเลยก็ได้ มีฟีเจอร์เจ๋งๆ อย่างการซิงค์ไฟตามจังหวะเพลงด้วยนะครับ ส่วนการเชื่อมต่อแบบไร้สายก็ใช้ Bluetooth 4.2 เสถียรดี ไม่มีดีเลย์ ใช้งานง่ายแบบ Plug-and-play เลย สรุปคือมันเป็นลำโพงเกมมิ่งที่ครบเครื่องมากๆ ทั้งเรื่องไฟ เสียง และการเชื่อมต่อ ได้ครบจบในตัวเดียวเลยครับ
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?
ผมขอบอกเลยว่า JBL Quantum Duo นี่มันดีงามมากครับ เสียงชัดเจนสะใจด้วยเทคโนโลยี JBL QuantumSOUND Signature มาพร้อมซับวูฟเฟอร์ 2.5 นิ้ว และทวีตเตอร์ 0.75 นิ้ว ที่รองรับความถี่ตั้งแต่ 60Hz – 20kHz กำลังขับ 20W RMS แน่นๆ เลยครับ เรื่องการเชื่อมต่อก็ครบครันทั้ง USB, AUX และ Bluetooth 4.2 ใช้ได้กับทุกอุปกรณ์เลยนะครับ ไม่ว่าจะเป็น PC, Mac, Windows หรือเกมคอนโซล แถมยังมีไฟ RGB สวยๆ ที่ปรับรูปแบบได้ตามใจชอบ ซิงค์กับจังหวะเพลงได้ด้วยนะครับ ควบคุมง่ายๆ จากตัวลำโพงได้เลย สะดวกสุดๆ
3.Edifier ลำโพงมอนิเตอร์สตูดิโอ | MR4
ครีมนวดผม เขาค้อทะเลภู ช่วยลดผมขาดหลุดร่วง บำรุงรากผมให้แข็งแรง พร้อมฟื้นฟูเส้นผมให้นุ่มลื่นและสุขภาพดีด้วยพลังจากสมุนไพรธรรมชาติและเทคโนโลยีล้ำสมัย ปราศจากซิลิโคน อ่อนโยนต่อหนังศีรษะ
ประเภท | แบบมีสาย |
ขนาด | 14.00 x 22.80 x 19.75 ซม. |
กำลังขับ | 42W RMS |
พอร์ตเชื่อมต่อ | TRS Balanced / RCA / AUX |
ข้อดี
- โหมดเสียงคู่: มีให้เลือกใช้ทั้ง Monitor Mode สำหรับมอนิเตอร์เสียงแบบเที่ยงตรง กับ Music Mode สำหรับฟังเพลงสบายๆ ครับ
- รองรับ TRS Balanced: เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ระดับโปรได้เลยนะครับ ไม่ว่าจะเป็นมิกเซอร์หรือออดิโออินเตอร์เฟส
- ปรับความถี่แยกได้: มีปุ่มแยกปรับเสียงสูง-ต่ำ ช่วยให้ปรับแต่งเสียงได้ตามใจชอบเลยครับ
- ตัวเครื่องวัสดุไม้ MDF: ช่วยลดเสียงก้องได้ดีมากๆ เลยครับ ทำให้เสียงที่ออกมาสะอาดและแม่นยำ
- การตอบสนองความถี่กว้าง: รองรับตั้งแต่ 52Hz ถึง 40kHz เลยนะครับ เหมาะมากสำหรับงานมอนิเตอร์เสียงแบบจริงจัง
ข้อควรพิจารณา
- ไม่มีไฟ RGB : สำหรับคนที่ชอบแต่งไฟคอมคงต้องอดนะครับ เพราะรุ่นนี้ไม่มีไฟ RGB มาให้เล่นเลย
- เรื่อง Bluetooth ต้องเช็คให้ดี: แม้สเปคจะบอกว่ามี Bluetooth 5.4 แต่บางร้านอาจไม่มีฟีเจอร์นี้มาให้ ต้องถามร้านค้าก่อนซื้อครับ
- ตัวใหญ่ไปหน่อย: ด้วยขนาด 14 x 22.8 x 19.75 ซม. และน้ำหนัก 3.85 กิโล ถ้าโต๊ะคอมแคบๆ อาจจะต้องจัดพื้นที่กันหน่อยครับ
- ไม่มีพอร์ต USB : ต้องใช้พอร์ตแบบอื่นแทน จะเชื่อมต่อผ่าน USB เหมือนลำโพงทั่วไปไม่ได้ครับ
- เน้นคุณภาพเสียงอย่างเดียว: ไม่มีระบบซิงค์ไฟหรือเอฟเฟกต์สวยๆ มาให้ เอาจริงๆ เรื่องเสียงอย่างเดียวเลยครับ
Edifier MR4 ลำโพงแบบมีสายที่ออกแบบมาสำหรับใช้ในสตูดิโอนะครับ มีพอร์ตให้เชื่อมต่อครบเลย ทั้ง TRS แบบบาลานซ์ขนาด 1/4 นิ้ว, RCA แบบอันบาลานซ์ และ AUX ขนาด 3.5 มม. แถมยังมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. อยู่ด้านหน้าด้วยนะครับ สะดวกมากๆ ตัวลำโพงมาพร้อมกับวูฟเฟอร์คอมโพสิตขนาด 4 นิ้ว และทวีตเตอร์ซิลค์โดมขนาด 1 นิ้วครับ ให้การตอบสนองความถี่ตั้งแต่ 52Hz ถึง 40kHz เลยทีเดียว กำลังขับรวมก็แรงพอตัวที่ 42 วัตต์ RMS (ข้างละ 18W) ให้ระดับเสียงดังสูงสุดที่ 92.5 dB ที่ระยะ 1 เมตร และมีค่า SNR มากกว่า 85 dB(A) ด้วยนะครับ
ลำโพงรุ่นนี้มีฟีเจอร์เจ๋งๆ นะครับ สามารถเลือกใช้งานได้ 2 โหมดเลย มี Monitor Mode สำหรับคนที่ต้องการฟังเสียงแบบเที่ยงตรงในการทำเพลง กับ Music Mode สำหรับฟังเพลงทั่วๆ ไปครับ ตัวตู้ทำจากไม้ MDF ช่วยลดเสียงก้องได้ดีเลย ทำให้เสียงที่ออกมาตรงต้นฉบับมากขึ้น มีปุ่มควบคุมเสียงอยู่ด้านหน้าเครื่องเลยครับ แถมยังแยกปรับเสียงสูง-ต่ำได้ด้วย ปรับได้ละเอียดตามที่เราต้องการเลย ตัวลำโพงมีขนาด 14 x 22.8 x 19.75 ซม. หนักประมาณ 3.85 กิโล ที่เด็ดไปกว่านั้นคือมี Bluetooth 5.4 ในตัวด้วยนะครับ เชื่อมต่อแบบไร้สายได้สบายๆ ส่วนพอร์ตเชื่อมต่อก็ครบครัน ทั้ง TRS, RCA และ AUX เลยครับ คุณภาพเสียงก็ดีไม่แพ้ลำโพงในสตูดิโอเลย โดยเฉพาะย่านเสียงกลางที่ชัดมาก ใช้งานได้กับทั้งมิกเซอร์ คอม แท็บเล็ต สารพัดเลยครับ
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?
ทำไมเราถึงแนะนำ Edifier MR4 ก็เพราะว่าคุณภาพเสียงมันดีระดับสตูดิโอเลยนะครับ มีให้เลือกใช้ทั้งโหมด Monitor สำหรับทำเพลง กับโหมด Music สำหรับฟังเพลงทั่วไปเลย ตัวลำโพงใช้วูฟเฟอร์ขนาด 4 นิ้ว กับทวีตเตอร์ซิลค์โดม 1 นิ้ว ให้ย่านความถี่ตั้งแต่ 52Hz ถึง 40kHz เลยครับ แถมยังให้กำลังขับแรงๆ 42W RMS ด้วย ที่เจ๋งไปกว่านั้นคือตัวตู้ทำจากไม้ MDF ช่วยลดเสียงก้องได้ดีมากครับ เสียงที่ออกมาเลยตรงและแม่นยำ การเชื่อมต่อก็ครบครันทั้ง TRS Balanced, RCA, AUX และ Bluetooth 5.4 มีปุ่มปรับเสียงสูง-ต่ำที่ตัวเครื่องด้วย
4.Microlab Bluetooth Speaker | M108BT
OLAPLEX No.5 Bond Maintenance™ Conditioner ครีมนวดผมสูตรเข้มข้นที่ช่วยซ่อมแซมและฟื้นฟูเส้นผมที่แห้งเสียจากเคมีและความร้อน พร้อมคืนความชุ่มชื้น เงางาม และช่วยให้ผมแข็งแรง จัดทรงง่าย โดยไม่ทำให้ลีบแบน
ประเภท | แบบมีสายและเชื่อมต่อ Bluetooth ได้ |
ขนาด | ลำโพง : 9.60 x 13.60 x 9.40 ซม. / ซับวูฟเฟอร์ : 14.90 x 21.00 x 19.00 ซม. |
กำลังขับ | 11W RMS |
พอร์ตเชื่อมต่อ | AUX 3.5 mm. |
ข้อดี
- ระบบเสียง 2.1 พร้อมซับวูฟเฟอร์ในชุด: ให้เสียงเบสแน่น ๆ ชัดกว่าแบบที่ไม่มีซับ ช่วยเพิ่มมิติให้เสียงดูมีพลังขึ้นเยอะครับ
- ปรับระดับเสียงเบสได้: มีปุ่มหมุนแยกให้เลย จะชอบเบสหนักหรือเบาสบายหูก็เลือกได้ตามใจเลยครับ
- ขนาดกะทัดรัด: ลำโพงกับซับวูฟเฟอร์ขนาดเล็ก ไม่เกะกะ ประหยัดพื้นที่โต๊ะดีครับ
- รองรับ Bluetooth และ AUX: ใช้ได้ทั้งแบบมีสายและไร้สาย จะต่อมือถือ คอม หรือทีวีก็สะดวกครับ
- แยกเสียงซ้ายขวาได้ดี: ค่า Separation เกิน 40 dB เสียงแต่ละด้านชัดเจน แยกทิศทางได้ดี ฟังเพลินครับ
ข้อควรพิจารณา
- Bluetooth เวอร์ชันไม่ได้ระบุ: อาจไม่รองรับฟีเจอร์ใหม่ ๆ เหมือนรุ่นที่ใช้ Bluetooth 5.0 ขึ้นไป ถ้าใครเน้นความเสถียรหรือระยะไกล อันนี้อาจไม่ตอบโจทย์เท่าไหร่ครับ
- ไม่มีไฟ RGB หรือฟีเจอร์ตกแต่ง: ตัวนี้มาแบบเรียบ ๆ ไม่มีแสงไฟหรือลูกเล่นเหมือนลำโพงเกมมิ่ง ใครชอบแนวเรียบง่ายน่าจะโอเคครับ
- ไม่มีพอร์ต USB-C: ใช้พอร์ตทั่วไปอย่าง AUX กับ USB Type-A อยู่ ถ้าหวังเสียบพวก Type-C ตรง ๆ คงต้องหาอะแดปเตอร์เพิ่มครับ
- อัตราส่วนสัญญาณต่อเสียงรบกวนต่ำกว่ารุ่นอื่นบางรุ่น: อยู่ที่มากกว่า 70 dB ซึ่งก็ถือว่าใช้ได้ แต่ยังไม่ถึงระดับลำโพงมอนิเตอร์ที่เน้นความเคลียร์แบบสุด ๆ ครับ
- ไม่มีปุ่มควบคุมที่ด้านหน้า: ต้องไปปรับเสียงจากตัวซับวูฟเฟอร์โดยตรง ถ้าวางไว้ใต้โต๊ะหรือมุมอับก็อาจจะลำบากนิดนึงครับ
ลำโพง M108BT เป็นระบบเสียง 2.1 ที่เชื่อมต่อได้ทั้งแบบมีสายผ่าน AUX 3.5 มม. และไร้สายผ่าน Bluetooth เลยครับ ตัวลำโพงมีขนาดกะทัดรัดดีเลย โดยลำโพงข้างละ 9.60 x 13.60 x 9.40 ซม. ส่วนซับวูฟเฟอร์ก็ขนาด 14.90 x 21.00 x 19.00 ซม. น้ำหนักทั้งชุดประมาณ 2.3 กิโลกรัมครับ กำลังขับรวมอยู่ที่ 11 วัตต์ RMS แบ่งเป็นลำโพงข้างละ 2.5 วัตต์ และซับวูฟเฟอร์ 6 วัตต์ เสียงออกมาครบรายละเอียดดีครับ โดยเฉพาะเสียงเบสที่ได้จากซับวูฟเฟอร์ขนาด 4 นิ้ว ส่วนลำโพงข้างเป็นดอก 3 นิ้ว อิมพิแดนซ์ 4 โอห์ม ซับวูฟเฟอร์อยู่ที่ 6 โอห์มครับ
ในส่วนของสเปคเสียงนะครับ มันตอบสนองความถี่ได้ตั้งแต่ 50Hz ถึง 20kHz เลย อัตราส่วนสัญญาณต่อเสียงรบกวนก็ดีกว่า 70 เดซิเบล แถมแยกเสียงซ้ายขวาได้เกิน 40 เดซิเบลด้วย ทำให้ฟังเพลงมันส์ๆ ได้สบายๆ ครับ มีปุ่มปรับเบสแยกด้วยนะ เหมาะมากสำหรับคนชอบฟังเพลงแนวร็อคหรือ R&B ที่ต้องการเบสหนักๆ และที่สำคัญคือมีพอร์ต USB Type-A ด้วย เชื่อมต่อง่ายสุดๆ ครับ ไม่ว่าจะต่อกับคอมหรืออุปกรณ์อื่นๆ ก็ทำได้หมด ระบบเสียง 2.1 แบบนี้ใช้งานสะดวกมากๆ เลยครับ
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?
ผมอยากแนะนำให้เลือก Microlab M108BT เพราะรุ่นนี้มีระบบเสียง 2.1 มาพร้อมซับวูฟเฟอร์ขนาด 4 นิ้ว ทำให้เสียงเบสมันส์ๆ ได้ดี แถมปรับระดับเสียงเบสได้ตามใจชอบด้วยครับ กำลังขับ 11W RMS ก็พอเหมาะกับการใช้งานทั่วไปเลย ต่อได้ทั้งสาย AUX 3.5 มม. และบลูทูธ สะดวกมากๆ ครับ ตัวลำโพงเองก็กะทัดรัดดี ไม่เปลืองพื้นที่ แถมค่า SNR มากกว่า 70dB กับค่าแยกเสียง 40dB ทำให้เสียงออกมาคมชัดทุกย่านความถี่เลยล่ะครับ
5.Klipsch ลำโพงคอมพิวเตอร์ | ProMedia 2.1
Smooth E Anti Hair Loss Hair Thickening Conditioner ครีมนวดผมสูตรอ่อนโยนที่ช่วยลดปัญหาผมร่วง ฟื้นบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะด้วยสารสกัดธรรมชาติ ปราศจาก SLS, Silicone และ Paraben
ประเภท | แบบมีสายและเชื่อมต่อ Bluetooth ได้ |
ขนาด | ตัวลำโพง : 21.59 x 10.67 x 14.40 ซม. / ซับวูฟเฟอร์ : 24.13 x 24.90 x 25.90 ซม. |
กำลังขับ | 100W RMS |
พอร์ตเชื่อมต่อ | AUX 3.5 mm. |
ข้อดี
- กำลังขับสูงถึง 100W RMS: เสียงดังสะใจมากครับ แรงกว่าลำโพงในระดับราคาเดียวกันหลายรุ่นเลย
- ซับวูฟเฟอร์ขนาดใหญ่ 6.5 นิ้ว: เบสหนักๆ เอาอยู่ครับ ลึกและชัดเจนกว่าลำโพงที่ใช้ซับตัวเล็กๆ เยอะเลย
- มีภาคขยายเสียง (Amp) ในตัว: เร่งเสียงได้ดังสุดๆ แต่คุณภาพเสียงยังดีเหมือนเดิมครับ
- ใช้ไดรเวอร์แบบ Horn MicroTractrix: เสียงกลางแหลมคมชัดมากๆ ฟังสบายหูครับ
- ควบคุมได้ด้วยรีโมท: สะดวกมากครับ นั่งห่างแค่ไหนก็ปรับเสียงได้สบายๆ
ข้อควรพิจารณา
- บลูทูธรุ่นเก่าหน่อย: ใช้บลูทูธเวอร์ชัน 4.2 นะครับ ถือว่าเก่าไปนิดเมื่อเทียบกับรุ่นใหม่ๆ ที่มาพร้อม 5.0 แล้วล่ะ
- ซับวูฟเฟอร์ตัวใหญ่: ด้วยขนาด 24.13 x 24.90 x 25.90 ซม. อาจจะต้องเตรียมพื้นที่วางให้ดีหน่อยนะครับ
- ไม่มีพอร์ต USB: เชื่อมต่อได้แค่ AUX กับบลูทูธเท่านั้นนะครับ
- ปรับแต่งเสียงไม่ได้ที่ตัวเครื่อง: ไม่มีปุ่มปรับเสียงทุ้มแหลมแยกออกมาให้ปรับโดยตรงครับ
- ไม่มีไฟประดับ: ถ้าใครชอบไฟ RGB แบบลำโพงเกมมิ่งอาจจะผิดหวังนิดนึงนะครับ
ลำโพง Klipsch ProMedia 2.1 ใช้ระบบเสียงแบบ Stereo 2.1 ที่เชื่อมต่อได้ทั้งแบบมีสายผ่าน AUX 3.5 มม. และบลูทูธ 4.2 เลยครับ ตัวลำโพงมีขนาดกำลังดี ไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไป ประมาณ 21.59 x 10.67 x 14.40 ซม. ส่วนซับวูฟเฟอร์ก็ขนาด 24.13 x 24.90 x 25.90 ซม. ระบบเสียงมาในแบบ 2.1 มีลำโพงซ้าย-ขวา พร้อมซับวูฟเฟอร์ขนาด 6.5 นิ้ว กำลังขับแรงๆ 100 วัตต์ RMS เลยนะครับ รองรับความถี่ตั้งแต่ 31Hz ถึง 20,000Hz มาพร้อมไดรเวอร์แบบ Horn ขนาด 90° x 40° รุ่น MicroTractrix ที่ช่วยให้เสียงคมชัดมากขึ้น ยังมีท่อเบสด้านหน้าและดอกลำโพงด้านข้างช่วยกระจายเสียงได้ดีด้วยครับ
ที่เด็ดไปกว่านั้นคือมาพร้อมภาคขยายเสียงในตัวเลย ช่วยให้เร่งเสียงได้ดังโดยคุณภาพไม่ตก เบสก็แน่น ชัดทุกย่านความถี่ ไม่ว่าจะเสียงต่ำ กลาง สูง ก็ครบถ้วนหมดครับ ควบคุมง่ายผ่านบลูทูธหรือจะใช้รีโมทที่แถมมาก็ได้ ในกล่องมีครบทั้งลำโพงซ้าย-ขวา ซับวูฟเฟอร์ ตะแกรง สายไฟ จุกยางรอง และคู่มือการใช้งานเลยครับ สรุปง่ายๆ คือเป็นลำโพงคอมที่ตอบโจทย์สุดๆ ทั้งเรื่องความดังและความชัดของเสียงเลยล่ะครับ
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?
Klipsch ProMedia 2.1 เป็นตัวเลือกที่ดีเพราะใช้ลำโพงระบบ 2.1 ที่มาพร้อมซับวูฟเฟอร์ตัวใหญ่ขนาด 6.5 นิ้ว กำลังขับแรงๆ 100W RMS เลยนะครับ เสียงเบสมันส์สะใจมาก รองรับความถี่ตั้งแต่ 31Hz ถึง 20,000Hz ครบทุกย่านเสียง ที่เจ๋งไปกว่านั้นคือมีภาคขยายเสียงในตัว ทำให้เร่งเสียงได้ดังๆ โดยคุณภาพไม่ตกเลยครับ ตัวลำโพงใช้ไดรเวอร์แบบ Horn ขนาด 90° x 40° รุ่น MicroTractrix ช่วยให้เสียงคมชัดขึ้นอีก เชื่อมต่อได้ทั้งแบบ AUX 3.5 มม. และบลูทูธ 4.2 สะดวกมากๆ ควบคุมง่ายด้วยรีโมทจากระยะไกล ใช้งานได้กับทั้งคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อื่นๆ ได้หมดเลยครับ
6.FANTECH ลำโพงเกมมิ่ง RGB Gaming Speaker Stereo | Sonar GS202
Restore Conditioner ครีมนวดผมสูตรธรรมชาติ 100% ปราศจากซิลิโคน ฟื้นบำรุงผมแห้งเสีย ลดผมร่วง ควบคุมความมัน และช่วยให้เส้นผมแข็งแรง เงางาม อย่างเป็นธรรมชาติ
ประเภท | แบบมีสาย |
ขนาด | 8.00 x 8.00 x 10.00 ซม. |
กำลังขับ | 6W RMS |
พอร์ตเชื่อมต่อ | AUX 3.5 mm. |
ข้อดี
- ขนาดกะทัดรัด: วางได้สบายๆ เลยนะ ไม่ว่าจะโต๊ะเล็กแค่ไหนก็จัดวางได้ง่าย ไม่เกะกะเลย
- ไฟ RGB สวยๆ: เปิด-ปิดได้ตามใจชอบครับ ถ้าอยากได้บรรยากาศแบบไหนก็ปรับได้ ไม่รบกวนสายตาด้วย
- เสียงกระจายรอบทิศ 360 องศา: ฟังสนุกมากครับ เสียงกระจายทั่วห้องแบบสเตอริโอ แม้จะไม่มีซับก็ยังให้เสียงดีเลย
- ไม่มีแม่เหล็กรบกวน: ใช้งานได้สบายใจครับ ไม่ต้องกังวลเรื่องคลื่นแม่เหล็กมารบกวนอุปกรณ์อื่นๆ
- ปรับเสียงง่ายๆ: มีปุ่มควบคุมที่ตัวลำโพงเลยครับ จะเร่งจะลดก็แค่กดปุ่มเดียว ไม่ต้องไปวุ่นวายกับซอฟต์แวร์หรือรีโมท
ข้อควรพิจารณา
- ข้อจำกัดเรื่องการเชื่อมต่อ: ใช้งานได้แค่แบบมีสายผ่าน USB กับ AUX นะครับ ไม่มี Bluetooth ให้ใช้งาน
- เสียงไม่ดังมาก: กำลังขับ 6W RMS แค่พอฟังในห้องเล็กๆ ได้สบายๆ ครับ แต่ถ้าจะเอาไปใช้ในห้องใหญ่ๆ คงไม่เหมาะ
- เบสไม่ลึกเท่าไหร่: ความถี่ต่ำสุดอยู่ที่ 130Hz ครับ ถ้าใครชอบฟังแนวเบสหนักๆ อาจจะไม่ถูกใจ
- ไม่มีซับให้: เป็นลำโพง 2.0 ครับ เสียงต่ำอาจจะไม่หนักแน่นเท่าระบบที่มีซับ
- USB ใช้ชาร์จอย่างเดียว: ต้องต่อสาย AUX แยกเพื่อส่งเสียงครับ USB ใช้จ่ายไฟอย่างเดียว
FANTECH Sonar GS202 เป็นลำโพงเกมมิ่งแบบมีสายที่มีดีไซน์กะทัดรัด มาพร้อมไฟ RGB สวยๆ ด้วยนะครับ เชื่อมต่อได้ทั้ง USB และ AUX 3.5 มม. ในตัวเดียว ตัวลำโพงไซส์กำลังดีเลยครับ ขนาด 8x8x10 ซม. ใช้ดอกลำโพงขนาด 52 มม. กำลังขับรวม 6W RMS ฟังเพลงสบายๆ เลยล่ะครับ ที่เจ๋งสุดคือมันให้เสียงรอบทิศทาง 360 องศา รองรับความถี่ 130Hz – 18kHz เลยทีเดียว และไม่มีแม่เหล็กในตัว ช่วยลดสัญญาณรบกวนได้ดี สายยาว 1.2 เมตร ติดตั้งสะดวกมากครับ
ไฟ RGB สวยๆ ปรับแต่งได้ตามใจชอบเลยครับ จะเปิดหรือปิดก็ได้ มีปุ่มปรับเสียงที่ตัวลำโพงด้วย สะดวกมากๆ ใช้ได้กับทุกอุปกรณ์เลยนะครับ ทั้งคอม โน้ตบุ๊ก เครื่องเกม มือถือ แค่เสียบ AUX กับ USB ก็เล่นได้เลย จ่ายไฟผ่าน USB ได้ด้วย เสียงดีมากครับ ระบบสเตอริโอรอบทิศทาง มีวอลลุ่มปรับที่ตัวลำโพง ใช้งานง่าย ไม่กินที่ แถมยังต่อได้กับอุปกรณ์หลายแบบ คุ้มค่าสุดๆ ครับ
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?
เราเลือก FANTECH Sonar GS202 ลำโพงตัวนี้เพราะดีตรงที่ตัวเล็กกะทัดรัด วางได้สบายๆ ไม่เปลืองที่เลย แถมกำลังขับ 6W RMS ก็เพียงพอสำหรับใช้งานทั่วไปครับ ที่เจ๋งคือมีไฟ RGB ในตัว จะเปิดหรือปิดก็ได้ตามชอบเลย เชื่อมต่อง่ายมากครับ มีทั้ง USB และ AUX 3.5 มม. ใช้ได้กับทุกอุปกรณ์เลยนะ ไม่ว่าจะเป็นคอม โน้ตบุ๊ก เครื่องเกม หรือมือถือ เสียงดีด้วยครับ กระจายรอบทิศทาง 360 องศา แถมมีปุ่มปรับเสียงที่ตัวลำโพงด้วย สะดวกสุดๆ ไปเลย
7.Sherman ลำโพง Active 2.1 Ch | SB-33B3B Plus
L'Oreal Paris EverPure Brass Toning Purple Conditioner ครีมนวดผมสูตรเข้มข้นสำหรับผมทำสีอ่อนหรือฟอกสี ช่วยลดประกายเหลือง รักษาสีผมให้ติดทนนาน พร้อมบำรุงเส้นผมให้ชุ่มชื้นและเงางาม
ประเภท | แบบมีสายและเชื่อมต่อ Bluetooth ได้ |
ขนาด | 27.10 x 31.00 x 28.80 ซม. |
กำลังขับ | 35W RMS |
พอร์ตเชื่อมต่อ | USB / SD Card |
ข้อดี
- รองรับ USB และ SD Card: เสียบการ์ดเล่นเพลง MP3 ได้เลยครับ ไม่ต้องต่ออุปกรณ์อื่นให้ยุ่งยาก
- ปรับเสียงเบสได้โดยตรง: มีปุ่มหมุนแยกปรับเบสเลยนะครับ เร่งเบสมันส์ๆ ได้ตามต้องการ
- ระบบเสียง Active 2.1 แชนแนล: มาพร้อมภาคขยายในตัวและซับวูฟเฟอร์ตัวใหญ่ 4 นิ้ว เสียงแน่นมากครับ
- เชื่อมต่อได้หลายรูปแบบ: ใช้ได้ทั้ง Bluetooth, USB, SD Card และ RCA ครบจบในตัวเดียวเลยครับ
- มีระบบป้องกันสนามแม่เหล็ก: ไม่ต้องกังวลเรื่องสัญญาณรบกวนจากอุปกรณ์ข้างๆ เลยครับ
ข้อควรพิจารณา
- ขนาดใหญ่นิดนึง: ตัวลำโพงขนาด 27.10 x 31.00 x 28.80 ซม. ถ้าโต๊ะเล็กๆ อาจจะวางลำบากหน่อยครับ
- ไม่มีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม.: ถ้าอยากต่อกับอุปกรณ์ที่ใช้แจ็คแบบนี้ก็ทำไม่ได้เลยครับ
- เล่นได้แค่ไฟล์ MP3: ถ้าจะเล่นผ่าน USB หรือ SD Card ต้องแปลงไฟล์เป็น MP3 ก่อนนะครับ
- ไม่มีรีโมท: ต้องเดินไปปรับที่ตัวลำโพงอย่างเดียวเลยครับ สะดวกน้อยหน่อย
- ไม่มีไฟประดับ: ถ้าใครชอบแต่งโต๊ะด้วยไฟ RGB หรือเล่นเกมแล้วอยากได้แสงสีสันก็คงผิดหวังนะครับ
ลำโพง Sherman SB-33B3B Plus นี่เป็นล้ำโพงแบบมีสายที่เชื่อมต่อ Bluetooth ได้ด้วยนะครับ ระบบเสียงเป็นแบบ Active 2.1 แชนแนล มีล้ำโพงแยกซ้ายขวาและซับวูฟเฟอร์ตรงกลางขนาด 4 นิ้ว ที่ให้เสียงเบสแน่นๆ ปรับระดับได้ด้วยปุ่มหมุนที่ตัวเครื่องเลยครับ กำลังขับรวม 35 วัตต์ RMS มาพร้อมภาคขยายในตัว ใช้งานได้หลากหลายเลยครับ เสียบ USB หรือ SD Card เล่น MP3 ได้เลย มีปุ่มปรับเสียงทั้งวอลลุ่มและเบสให้ด้วยนะ
เรื่องการเชื่อมต่อก็ครบครันครับ จับคู่ Bluetooth กับมือถือหรืออุปกรณ์อื่นๆ ได้เลย ชื่ออุปกรณ์ก็จะขึ้นว่า “Sherman SB-33B3B” มีช่อง RCA (ขาว-แดง) ให้ต่อแหล่งเสียงเพิ่มได้ด้วย ที่เจ๋งคือมีระบบป้องกันสนามแม่เหล็กมาให้ ช่วยลดสัญญาณรบกวนได้ดีเลย สวิตช์เปิด-ปิดอยู่ด้านหลังใช้งานง่ายครับ ตัวล้ำโพงขนาด 27.10 x 31.00 x 28.80 ซม. ให้เสียงครบทั้งเบส กลาง แหลม แบบมินิโฮมเธียเตอร์เลยทีเดียว เอาไว้ใช้กับคอม มือถือ หรืออุปกรณ์เล่นเพลงอื่นๆ ได้หมดครับ
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?
Sherman SB-33B3B Plus ตัวนี้น่าสนใจเพราะว่าเป็นระบบ Active 2.1 แชนแนล ให้เสียงครบทั้งเบส กลาง แหลม แถมมีซับวูฟเฟอร์ตัวใหญ่ 4 นิ้ว ปรับเสียงเบสได้ตามใจชอบด้วยครับ กำลังขับ 35W RMS ก็ถือว่าแรงพอตัว เชื่อมต่อได้หลายแบบเลยครับ จะใช้ Bluetooth, USB, SD Card หรือ RCA ก็ได้หมด สะดวกมากๆ ที่เจ๋งไปกว่านั้นคือมีภาคขยายเสียงในตัว มีปุ่มหมุนปรับเสียงแยกซ้ายขวาและเบส แถมยังมีระบบป้องกันสัญญาณรบกวนจากแม่เหล็กด้วยนะครับ ใช้งานสบายๆ เลย
8.PreSonus ลำโพงมอนิเตอร์ | PreSonus Eris 3.5 BT
เทรซาเม่ เคราติน สมูท คอนดิชันเนอร์ ครีมนวดผมสูตรเข้มข้นที่ผสานเคราตินเพื่อฟื้นบำรุงเส้นผมอย่างล้ำลึก ลดผมชี้ฟู ให้ผมนุ่มลื่น เงางาม และจัดทรงง่ายเหมือนดูแลจากซาลอนทุกวัน
ประเภท | แบบมีสายและเชื่อมต่อ Bluetooth ได้ |
ขนาด | 14.10 x 16.20 x 21.00 ซม. |
กำลังขับ | 50W RMS |
พอร์ตเชื่อมต่อ | RCA / TRS / AUX 3.5 mm. |
ข้อดี
- ปรับแต่งเสียงได้ตามใจชอบ: มีฟังก์ชัน Acoustic Tuning ให้ปรับความถี่สูง-ต่ำได้ตามสภาพห้องเลยนะครับ สะดวกมากๆ
- เชื่อมต่อไร้สายผ่าน Bluetooth 5.0: สัญญาณเสถียร ดีเลย์ต่ำ ไม่มีสะดุดเหมือนบลูทูธรุ่นเก่าๆ เลยครับ
- ช่องเสียบหูฟังอยู่ด้านหน้า: อยากฟังคนเดียวก็แค่เสียบหูฟังได้เลย ไม่ต้องไปเอื้อมเสียบด้านหลังให้ยุ่งยากครับ
- แอมป์ Class AB คุณภาพสูง: เสียงออกมาคมชัด กระชับ เบสส์แน่น ทุ้มกำลังดีครับ
- มาพร้อมระบบป้องกันครบครัน: ทั้งกันสัญญาณรบกวน กรองความถี่ต่ำ ควบคุมกระแสไฟ และระบบกันร้อนครับ ใช้งานได้อย่างสบายใจ
ข้อควรพิจารณา
- ไม่มีซับวูฟเฟอร์ในชุด: ถ้าใครชอบฟังเพลงแนวเบสหนักๆ อาจจะรู้สึกว่ายังไม่สะใจเท่าไหร่นะครับ
- เสียงความถี่ต่ำเริ่มที่ 80Hz: ลงเบสได้ไม่ลึกเท่าลำโพงบางรุ่นที่ลงได้ถึง 40-50Hz ครับ
- ไม่มีไฟประดับสวยๆ: สำหรับสายเกมที่ชอบแต่งห้องด้วยไฟ RGB อาจจะรู้สึกขาดอะไรไปหน่อยนะครับ
- ต้องเสียบปลั๊กตลอด: ไม่มีแบตในตัว เอาไปใช้นอกสถานที่ไม่ได้เลยครับ
- ไม่มีรีโมท: ต้องเดินไปปรับที่ตัวลำโพงอย่างเดียว ไม่สะดวกเท่าไหร่ถ้าวางไว้ไกลๆ ครับ
PreSonus Eris 3.5 BT ลำโพงตัวนี้เป็นมอนิเตอร์สตูดิโอที่เชื่อมต่อได้ทั้งแบบมีสายและไร้สายผ่าน Bluetooth 5.0 เลยนะครับ ตัวลำโพงมีขนาดกะทัดรัด แค่ 14x16x21 ซม. แต่ให้กำลังขับแรงถึง 50 วัตต์ RMS เลยทีเดียว ใช้ระบบเสียงแบบ Class AB คุณภาพสูง ที่ให้เสียงดังสุดถึง 98 dB ที่ระยะ 1 เมตร ครับ ด้านสเปคนั้นมาครบครับ มีทั้งวูฟเฟอร์ขนาด 3.5 นิ้ว และทวีตเตอร์ซิลค์โดม 1 นิ้ว ตอบสนองความถี่ได้ตั้งแต่ 80Hz ถึง 20kHz เลยครับ เรื่องการเชื่อมต่อก็จัดเต็ม มีทั้ง RCA, TRS ขนาด ¼ นิ้ว, AUX 3.5 มม. และ Bluetooth 5.0 ใช้ได้กับอุปกรณ์แทบทุกอย่างเลยล่ะครับ
ตัวเครื่องมีแอมป์หูฟังในตัว พร้อมช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. ที่ด้านหน้าเครื่องเลย สะดวกมากๆ ครับ ปรับแต่งเสียงได้ด้วยนะ มีปุ่มควบคุมเสียงทั้งซ้าย-ขวา และปรับความถี่สูง-ต่ำได้ในช่วง ±6 dB ด้วยครับ เรื่องความปลอดภัยก็ใส่มาให้ครบ ทั้งระบบป้องกัน RF, ระบบจำกัดกระแส, ระบบกันความร้อน และฟิลเตอร์ความถี่ต่ำ มีระบบปิดอัตโนมัติด้วยนะถ้าไม่ได้ใช้งาน 40 นาที ประหยัดไฟดีครับ ตัวตู้ทำจากไม้ MDF เคลือบไวนิล แถมอุปกรณ์มาให้ครบทั้งสายลำโพงและสายแปลงต่างๆ ใช้งานได้หลากหลายมากครับ ทั้งฟังเพลง ทำเพลง หรือจะใช้ในสตูดิโอก็ได้ ปรับแต่งเสียงให้เข้ากับห้องผ่านฟังก์ชัน Acoustic Tuning ได้ด้วยครับ
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?
จุดเด่นของ PreSonus Eris 3.5 BT ก็คือความเป็นลำโพงมอนิเตอร์ที่ให้เสียงแม่นยำครับ เชื่อมต่อได้หลายแบบเลย ทั้งแบบมีสายผ่าน RCA, TRS, AUX 3.5 มม. และแบบไร้สายผ่าน Bluetooth 5.0 ที่เสถียรมากๆ ตัวลำโพงให้กำลังขับ 50W RMS นะครับ มาพร้อมวูฟเฟอร์ 3.5 นิ้ว และทวีตเตอร์ซิลค์โดม 1 นิ้ว ตอบสนองความถี่ได้ตั้งแต่ 80Hz ถึง 20kHz เลยล่ะครับ ที่เจ๋งไปกว่านั้นคือมีฟังก์ชัน Acoustic Tuning ให้ปรับแต่งเสียงสูง-ต่ำได้ละเอียด แถมยังมีช่องเสียบหูฟังที่แผงด้านหน้าด้วย สะดวกมากๆ เวลาอยากฟังคนเดียวครับ
9. EGA ลำโพงเกมมิ่ง Speaker Gaming | TYPE S9
ซึบากิ พรีเมียม วอลลุ่ม แอนด์ รีแพร์ คอนดิชันเนอร์ ช่วยฟื้นบำรุงผมเสีย ลีบแบน ให้กลับมามีวอลลุ่ม เงางาม และแข็งแรง ด้วยเทคโนโลยี ShineLock และสารบำรุงเข้มข้นจาก Camellia Oil, รอยัล เจลลี่ และซอย โปรตีน
ประเภท | แบบมีสาย |
ขนาด | 16.50 x 18.80 x 11.20 ซม. |
กำลังขับ | 16W RMS |
พอร์ตเชื่อมต่อ | USB / AUX 3.5 mm. |
ข้อดี
- ไดรเวอร์ Superdeep Bass ขนาด 4 นิ้ว: เสียงเบสแน่นๆ ดังกว่าลำโพงเกมมิ่งทั่วไปเลยนะครับ
- มีไฟ Spectrum RGB ปรับโหมดได้: ไฟสวยๆ จะเปลี่ยนโหมด หรือจะปิดไฟเลยก็ได้ครับ
- ควบคุมเสียงได้ละเอียด: ปรับได้ทั้งเบส เสียงแหลม และระดับเสียงแยกกันเลยครับ สะดวกมากๆ
- ระบบเสียง 2.1 แบบมีสาย: เสียงแยกซ้าย-ขวาชัดเจน มิติเสียงดีกว่าแบบ 2.0 เยอะเลยครับ
- รองรับพอร์ต USB และ AUX 3.5 มม.: เสียบใช้ได้กับอุปกรณ์หลายแบบเลยครับ ทั้งชาร์จไฟและต่อเสียง
ข้อควรพิจารณา
- ไม่มีบลูทูธ: ต้องเสียบสายตลอด ไม่สามารถเชื่อมต่อไร้สายได้
- เบสอาจจะไม่หนักมาก: แม้จะมีลำโพงเบสในตัว แต่ก็ไม่ได้แยกซับวูฟเฟอร์ออกมา เลยอาจจะไม่กระหึ่มเท่าที่ควรนะครับ
- ตัวลำโพงใหญ่นิดนึง: ถ้าโต๊ะคุณไม่ได้กว้างมาก อาจจะต้องจัดสรรพื้นที่กันหน่อยครับ
- ไม่มีช่องเสียบหูฟัง: ถ้าอยากใช้หูฟัง ต้องเสียบที่เครื่องคอมโดยตรงเลยครับ
- ไม่มีรีโมท: ต้องเดินไปปรับที่ตัวลำโพงอย่างเดียวเลยครับ ถ้าอยู่ไกลๆ อาจจะไม่สะดวก
EGA TYPE S9 ลำโพงเกมมิ่งแบบมีสาย เชื่อมต่อได้ทั้ง USB และ AUX 3.5 มิลลิเมตร ระบบเสียงเป็นแบบสเตอริโอ 2.1 มีลำโพงตัวใหญ่ขนาด 4 นิ้วที่ให้เสียงเบสแน่นๆ และลำโพงเล็ก 2 นิ้วอีก 2 ตัว กำลังขับรวมอยู่ที่ 16 วัตต์ RMS ครับ (5 วัตต์ + 3 วัตต์ x 2) ขนาดตัวลำโพงก็กำลังดีเลย 16.50 x 18.80 x 11.20 เซนติเมตร ใช้ได้กับทั้งคอมและอุปกรณ์อื่นๆ เลย มาพร้อมไฟ RGB สวยๆ ปรับโหมดได้ จะปิดก็ได้ถ้าไม่ชอบ ที่ตัวเครื่องมีปุ่มปรับเสียงแยกเป็นโวลุ่ม เบส และเสียงแหลม ปรับได้ตามใจชอบเลย ระบบเสียงแยกซ้าย-ขวาให้มิติเสียงดีมากๆ ใช้ไฟ 5 โวลต์นะครับ ไฟ RGB ก็สว่างสวยงาม ดูเท่มาก ส่วนลำโพงเบสขนาด 4 นิ้วนี่ขับเสียงได้หนักแน่นจริงๆ เบสแน่น กระแทกดี แถมยังปรับแต่งย่านความถี่อื่นๆ ได้ด้วย ตั้งโต๊ะใช้งานสบายๆ ควบคุมง่าย ไม่ต้องลงโปรแกรมอะไรเพิ่ม ปรับได้หมดจากตัวลำโพงเลย ทั้งเสียงและไฟเลยครับ
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?
ผมขอแนะนำ EGA TYPE S9 เลยครับ ลำโพงตัวนี้ใช้ระบบเสียง 2.1 มาพร้อมไดรเวอร์ตัวใหญ่ขนาด 4 นิ้วแบบ Superdeep Bass เสียงเบสแน่นๆ เชื่อมต่อได้ทั้ง USB และ AUX 3.5 มิลลิเมตรเลยนะครับ ใช้ได้กับอุปกรณ์เยอะแยะมากมาย ที่เจ๋งไปกว่านั้นคือมีไฟ Spectrum RGB สวยๆ จะปรับโหมดหรือจะปิดก็ได้ตามใจชอบ แถมยังมีปุ่มปรับแยกทั้งเสียง เบส และเสียงแหลมบนตัวเครื่องเลย ปรับง่ายมากๆ ครับ
10.SAAG ลำโพงคอมพิวเตอร์ รุ่น D72 ARROW
mise en scène Perfect Serum Original Conditioner ครีมนวดผมสูตรเข้มข้นที่อุดมด้วยน้ำมันธรรมชาติ 7 ชนิดและไมโครโปรตีน ช่วยฟื้นบำรุงผมแห้งเสีย ลดชี้ฟู
ประเภท | แบบมีสาย |
ขนาด | 6.20 x 6.40 x 10.40 ซม. |
กำลังขับ | 6W RMS |
พอร์ตเชื่อมต่อ | USB |
ข้อดี
- รองรับการเชื่อมต่อทั้ง USB และ AUX 3.5 มม.: เสียบใช้งานได้หลากหลายเครื่องเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นคอม โน้ตบุ๊ก หรือมือถือก็ได้หมด
- ขนาดเล็กกะทัดรัด: ตัวลำโพงไซส์กำลังดีเลยครับ 6.20 x 6.40 x 10.40 เซนติเมตร วางบนโต๊ะได้สบายๆ ไม่เกะกะ
- ไฟ RGB ในตัว: มีไฟ RGB สวยๆ ช่วยเพิ่มบรรยากาศบนโต๊ะคอมได้ดีเลยครับ
- ใช้พลังงานจาก USB 5V: สะดวกมากครับ แค่เสียบ USB ก็ใช้ได้เลย ไม่ต้องเสียบปลั๊กให้วุ่นวาย
- มีการรับประกันสินค้า: อุ่นใจได้เลยครับ มีประกันจากผู้ผลิตให้ด้วย
ข้อควรพิจารณา
- กำลังขับไม่สูงมาก: 6W RMS ฟังในห้องทั่วๆ ไป สบายๆ แต่ถ้าอยากได้เสียงดังๆ หรือใช้ในห้องใหญ่ๆ อาจจะไม่พอนะครับ
- SNR แค่ 8dB: ค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับรุ่นอื่นในท้องตลาดครับ อาจจะมีเสียงรบกวนบ้างตอนฟัง
- ไม่มี Bluetooth : ต้องเสียบสายอย่างเดียวเลย ใครชอบแบบไร้สายอาจจะไม่สะดวก
- ปรับแต่งเสียงไม่ได้: ไม่มีปุ่มปรับเบส/แหลมแยกครับ ต้องปรับผ่านคอมอย่างเดียว
ลำโพง SAAG D72 ARROW มีกำลังขับ 6 วัตต์ RMS แบ่งเป็นข้างละ 3 วัตต์ มาพร้อมดอกลำโพง 2 นิ้ว 2 ตัว ตัวเครื่องมีขนาดกะทัดรัด 6.20 x 6.40 x 10.40 เซนติเมตร วางบนโต๊ะได้พอดีๆ เลยครับ ไม่เกะกะพื้นที่ใช้งานเลย เสียบใช้งานง่ายผ่าน USB 5V/1A ส่วนการเชื่อมต่อมีให้ 2 แบบ คือ USB Type-A กับ AUX 3.5 มม. ใช้ได้กับทั้งคอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ก หรือเครื่องเล่นเพลงต่างๆ ได้หมดเลยครับ ส่วนคุณภาพเสียงนี่ก็ไม่ธรรมดานะครับ รองรับความถี่ตั้งแต่ 100Hz – 18kHz เลยทีเดียว ให้เสียงครบย่านความถี่ ทั้งเสียงต่ำ กลาง สูง ฟังสบายหูมากๆ ค่า SNR ที่ 8 เดซิเบลช่วยให้เสียงออกมาชัดเจน ไม่มีเสียงรบกวน ดอกลำโพงขนาด 52 มิลลิเมตรทั้งสองข้างให้เสียงที่สมดุล แยกซ้ายขวาได้ชัดเจน เหมาะกับการฟังเพลง ดูหนัง หรือเล่นเกมมากๆ ครับ
จุดเด่นที่ผมชอบมากๆ คือมีไฟ RGB สวยๆ ในตัวครับ ช่วยเพิ่มบรรยากาศบนโต๊ะคอมได้ดีเลย ไม่ต้องลงโปรแกรมอะไรเพิ่ม แค่เสียบ USB ก็ใช้ได้เลย สะดวกมากๆ ไม่ต้องเสียบปลั๊กไฟแยกด้วยนะครับ แถมยังประหยัดพลังงานด้วย เพราะใช้ไฟจากพอร์ต USB ของคอมพิวเตอร์ได้เลย ในกล่องมีลำโพงมาให้ครบทั้งซ้ายขวา พร้อมรับประกันจากผู้ผลิตด้วย ถือว่าเป็นลำโพงที่คุ้มค่ามากๆ ครับ ใช้งานง่าย ดีไซน์สวย มีไฟ RGB เท่ๆ เสียงดี ราคาไม่แพง เหมาะกับการใช้งานทั่วไปสุดๆ เลยครับ ถ้าใครกำลังมองหาลำโพงคอมพิวเตอร์สักคู่ แนะนำรุ่นนี้เลยครับ คุ้มค่าคุ้มราคาแน่นอน
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?
เหตุผลที่น่าเลือก SAAG รุ่น D72 ARROW ก็คือเรื่องขนาดที่กะทัดรัดดีครับ วางบนโต๊ะคอมฯ แล้วไม่เกะกะ ไม่กินพื้นที่ แถมให้กำลังขับรวม 6W RMS ซึ่งก็เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม สบาย ๆ เลยครับ ตัวลำโพงมีไฟ RGB ในตัวด้วย เพิ่มบรรยากาศให้ดูมีสีสันขึ้นเวลาใช้งาน ต่อได้ทั้งผ่าน USB กับ AUX 3.5 มม. จะใช้กับคอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ก หรืออุปกรณ์อื่น ๆ ก็ง่าย ไม่ต้องยุ่งยากครับ แล้วที่สะดวกอีกอย่างคือมันใช้พลังงานผ่านพอร์ต USB 5V ไม่ต้องใช้อะแดปเตอร์แยกให้วุ่นวายครับ
เคล็ดลับวางลำโพงยังไงให้เสียงดีที่สุดในห้องของคุณ
สำหรับเรื่องการวางลำโพงนี่สำคัญมากเลยครับ ไม่ใช่แค่เรื่องความสวยงามนะ แต่มันส่งผลโดยตรงต่อคุณภาพเสียงที่เราจะได้ยินเลย ไม่ว่าจะฟังเพลง ดูหนัง หรือเล่นเกม ถ้าวางถูกวิธีรับรองว่าเสียงจะออกมาดีเกินคาดครับ มาดูกันว่าควรวางลำโพงยังไงให้เสียงออกมาเสียงดีสุดๆ
1. วางให้อยู่ระดับหู
ง่ายๆ เลยครับ วางลำโพงให้อยู่ระดับหูตอนนั่งฟัง โดยเฉพาะเสียงกลางกับเสียงแหลม จะได้ยินชัดที่สุด ปรับขาตั้งหรือชั้นวางให้พอดีกับความสูงตรงนี้ครับ
2. จัดวางแบบสามเหลี่ยม
สำหรับลำโพงสเตอริโอ ผมแนะนำให้วางลำโพงซ้าย-ขวาห่างกันเท่ากับระยะที่เรานั่งฟังครับ แล้วหันลำโพงเข้าหาตัวเรา แบบนี้จะได้มิติเสียงที่เต็มๆ เลย
3. เว้นระยะจากผนัง
อย่าเอาลำโพงไปแปะติดผนังนะครับ โดยเฉพาะถ้ามีช่องเบสอยู่หลังตู้ เว้นระยะซัก 20-50 ซม. ไว้ เสียงจะได้ไม่อืดหรือก้องจนเกินไป
4. จัดการเสียงก้อง
ถ้าห้องมีพื้นผิวแข็งๆ เยอะ อย่างกระจกหรือกระเบื้อง เสียงจะก้องมากครับ ลองหาพรม ผ้าม่าน หรือแผ่นซับเสียงมาช่วย รับรองว่าฟังสบายหูขึ้นเยอะ
5. ใช้ขาตั้งดีๆ
ลำโพงที่วางบนโต๊ะอาจจะสั่นได้ ทำให้เสียงไม่ชัด แนะนำให้ใช้ขาตั้งหรือแผ่นรองกันสั่นคุณภาพดีครับ เสียงจะออกมาคมชัดกว่าเดิมเยอะ
6. ลองปรับดูเรื่อยๆ
แต่ละห้องมีลักษณะทางกายภาพที่แตกต่างกันครับ ทั้งขนาด วัสดุ และการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ ผมแนะนำให้ลองขยับลำโพงไปตามจุดต่างๆ ในห้อง แล้วทดสอบฟังเสียงในแต่ละตำแหน่ง สังเกตว่าตรงไหนที่เสียงชัดเจน ไม่มีเสียงสะท้อนรบกวน และให้มิติเสียงที่สมดุลที่สุด จากนั้นค่อยเลือกจุดที่ให้คุณภาพเสียงถูกใจที่สุดเป็นตำแหน่งถาวร
ถ้าจัดวางลำโพงให้ดีๆ รับรองว่าเสียงจะออกมาชัด มีมิติ และสมจริงสุดๆ ครับ ไม่ว่าจะเป็นลำโพงเล็กหรือใหญ่ แค่เข้าใจหลักการพื้นฐานพวกนี้ก็ช่วยให้เราได้เสียงที่ดีที่สุดจากลำโพงที่มีอยู่แล้วครับ
เพิ่มความสนุกและความเป็นส่วนตัวหูฟังเกมมิ่ง
สำหรับใครที่ต้องการความเป็นส่วนตัวหูฟังเกมมิ่งก้เป็นคัวเลือกที่ดีครับ โดยช่วยสร้างบรรยากาศที่สมจริงได้ดีมากๆ ครับ ไม่ว่าจะเป็นเสียงปืน เสียงฝีเท้า หรือเสียงรอบๆ ตัวในเกม ทุกอย่างชัดเจนแจ๋วเลย ทำให้เรามีสมาธิในการเล่นและมีโอกาสเอาชนะเกมได้มากขึ้นด้วยนะครับ โดยเฉพาะเกม FPS หรือเกมแอ็คชั่นที่ต้องฟังเสียงเพื่อหาว่าศัตรูอยู่ตรงไหน หูฟังเกมมิ่งแยกเสียงซ้าย-ขวาได้แม่นมาก เหมือนเราอยู่ในเกมจริงๆ เลยล่ะครับ และที่สำคัญ หูฟังเกมมิ่งยี่ห้อที่ดีที่สุดยังช่วยให้เราเล่นเกมได้แบบไม่กวนใครด้วยนะครับ จะเล่นดึกดื่นหรืออยู่ที่ไหนก็ได้ เพราะเสียงไม่รบกวนคนรอบข้าง แถมยังคุยกับเพื่อนในทีมผ่านไมค์ในตัวได้ชัดๆ โดยไม่ต้องเปิดลำโพงให้ดังรบกวนใครด้วยครับ
รู้จักประเภทของลำโพงคอมพิวเตอร์ ?
ลำโพงคอมพิวเตอร์มีหลากหลายประเภทให้เลือกใช้งานตามความต้องการครับ แต่ละแบบก็มีจุดเด่นและการใช้งานที่แตกต่างกันไป บางรุ่นเน้นความกะทัดรัด บางรุ่นเน้นคุณภาพเสียงระดับโปร บางรุ่นก็มาพร้อมระบบเสียงรอบทิศทางสำหรับความบันเทิงเต็มรูปแบบ มาดูกันว่าแต่ละประเภทมีความพิเศษอะไรบ้าง
1. ลำโพง 2.0 (Stereo)
ลำโพงแบบนี้ง่ายที่สุดและเป็นที่นิยมมากที่สุดเลยนะครับ มีแค่ตัวซ้าย-ขวาเท่านั้น ไม่มีซับวูฟเฟอร์ให้ต้องกังวลเรื่องการจัดวางหรือการปรับแต่งเสียงให้ยุ่งยาก เหมาะมากๆ สำหรับการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวันเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นการฟังเพลงเบาๆ ระหว่างทำงาน ดูซีรีส์หรือภาพยนตร์ในยามว่าง หรือแม้แต่การประชุมออนไลน์ก็ตาม ที่เด่นมากๆ คือมันมีขนาดกะทัดรัด ไม่กินพื้นที่บนโต๊ะทำงาน สามารถจัดวางได้อย่างลงตัวในทุกพื้นที่ แถมการติดตั้งก็แสนจะง่ายดาย เพียงแค่เสียบสายไม่กี่เส้นก็พร้อมใช้งานได้ทันทีเลยครับ
2. ลำโพง 2.1
ลำโพงแบบนี้มาพร้อมกับซับวูฟเฟอร์ที่ช่วยเพิ่มพลังเสียงเบสให้หนักแน่นและลึกกว่าระบบ 2.0 อย่างเห็นได้ชัด เสียงต่ำจะมีความอิ่มและกระหึ่มมากขึ้น ทำให้คุณสัมผัสได้ถึงแรงสั่นสะเทือนของเบสที่ทรงพลัง เหมาะสำหรับคนที่ชอบฟังเพลงแนวอิเล็กทรอนิกส์ ฮิปฮอป หรือเพลงที่เน้นจังหวะหนักๆ และยิ่งถ้าเอาไว้ดูหนังแอ็คชั่นที่มีฉากระเบิด การต่อสู้ หรือไล่ล่าสุดมันส์ เสียงเบสจากซับวูฟเฟอร์จะยิ่งเพิ่มอรรถรสให้สมจริงและน่าตื่นเต้นมากยิ่งขึ้นครับ
3. ลำโพง 5.1 / 7.1 (Surround Sound)
ถ้าคุณต้องการประสบการณ์เสียงรอบทิศทางที่สมจริงเหมือนในโรงภาพยนตร์ ลำโพงระบบนี้คือคำตอบที่ดีที่สุดครับ ด้วยการจัดวางลำโพงหลายตัวอย่างลงตัว ทั้งด้านหน้า ด้านหลัง ตรงกลาง และมีซับวูฟเฟอร์ที่ให้เสียงเบสหนักแน่น ทำให้คุณรู้สึกเหมือนอยู่ท่ามกลางฉากในภาพยนตร์เลยทีเดียว เสียงทุกรายละเอียดจะถูกส่งผ่านลำโพงแต่ละตัวอย่างแม่นยำ ไม่ว่าจะเป็นเสียงฝนตก เสียงระเบิด หรือเสียงบทสนทนา สมบูรณ์แบบสำหรับการดูหนัง เล่นเกมที่ต้องการความสมจริงสูง หรือการสร้างห้องโฮมเธียเตอร์ส่วนตัวในบ้านของคุณ
4. ลำโพงพกพา (Portable Speakers)
ลำโพงขนาดกะทัดรัดที่ออกแบบมาเพื่อความสะดวกในการพกพา มาพร้อมแบตเตอรี่ในตัวที่ชาร์จได้ และส่วนใหญ่รองรับการเชื่อมต่อผ่านลําโพงบลูทูธยอดนิยม เพื่อความสะดวกในการใช้งาน ด้วยน้ำหนักเบาและขนาดที่พอดีมือ คุณสามารถนำติดตัวไปใช้งานได้ทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทาง ท่องเที่ยว หรือจะใช้คู่กับโน้ตบุ๊กเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านเสียงก็ทำได้อย่างลงตัว
5. ลำโพง USB
ลำโพง USB นั้นให้ความสะดวกสบายในการใช้งานอย่างมาก เพียงแค่เสียบพอร์ต USB เข้ากับคอมพิวเตอร์ก็สามารถใช้งานได้ทันที โดยไม่จำเป็นต้องเสียบสายแจ็คเสียงให้ยุ่งยาก คุณภาพเสียงที่ได้อยู่ในระดับที่น่าพอใจสำหรับการใช้งานทั่วไป นอกจากนี้ยังไม่ต้องกังวลเรื่องการชาร์จแบตเตอรี่หรือที่ชาร์จแยก เพราะรับไฟผ่าน USB โดยตรง จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวก รวดเร็ว และง่ายดายในการใช้งาน
6. ลำโพง Studio Monitor
อันนี้เป็นลำโพงระดับมืออาชีพที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อการใช้งานในสตูดิโอโดยเฉพาะครับ จุดเด่นของลำโพงประเภทนี้คือการให้เสียงที่เที่ยงตรง ตรงไปตรงมา และไม่มีการปรับแต่งใดๆ เพิ่มเติม ทำให้คุณได้ยินเสียงที่แท้จริงของดนตรีหรือเสียงที่กำลังทำงานอยู่ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ทำงานด้านการผลิตเพลง มิกซ์เสียง ตัดต่อเสียงในวิดีโอ หรือทำงานที่ต้องการความแม่นยำในการได้ยินเสียงทุกรายละเอียด
สำหรับการเลือกลำโพงคอมพิวเตอร์ ถ้าเป็นการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน ระบบ 2.0 หรือ 2.1 ก็เพียงพอแล้วครับ ให้คุณภาพเสียงที่ดีคุ้มค่ากับการใช้งาน แต่ถ้าคุณเป็นคนที่ชื่นชอบประสบการณ์เสียงระดับพรีเมียม อยากได้ระบบเสียงรอบทิศทางที่สมจริง ก็แนะนำให้พิจารณาระบบ 5.1 หรือ 7.1 ครับ จะให้อรรถรสในการรับชมภาพยนตร์หรือเล่นเกมที่เหนือกว่า ส่วนสำหรับคนที่ต้องเดินทางบ่อยหรือชอบความคล่องตัว ลำโพงพกพาก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากๆ ด้วยขนาดกะทัดรัดแต่ให้คุณภาพเสียงที่น่าประทับใจเลยทีเดียวครับ
วิธีดูแลลำโพงคอมพิวเตอร์ให้ใช้งานได้นานขึ้น
การดูแลรักษาลำโพงคอมพิวเตอร์อย่างถูกวิธีเป็นสิ่งสำคัญมากๆ ครับ เพราะนอกจากจะช่วยยืดอายุการใช้งานแล้ว ยังช่วยให้คุณภาพเสียงคงความคมชัดสดใสไว้ได้นานๆ ด้วย ผมได้รวบรวมเทคนิคการดูแลลำโพงที่ทำได้ง่ายๆ มาฝากกันครับ ลองทำตามกันดูนะครับ รับรองว่าลำโพงของคุณจะอยู่กับคุณไปได้อีกนาน พร้อมคุณภาพเสียงที่ยังคงความไพเราะเหมือนวันแรกที่ซื้อมาเลยทีเดียว
1. วางลำโพงให้ถูกที่
อย่าวางลำโพงใกล้แหล่งความร้อนนะครับ ไม่ว่าจะเป็นด้านหลังคอมพิวเตอร์ที่ระบายความร้อน พัดลมที่กำลังทำงาน เครื่องปรับอากาศที่เป่าลมร้อนออกมา หรือบริเวณที่โดนแสงแดดส่องถึง เพราะความร้อนอาจทำให้วงจรภายในเสียหายได้ นอกจากนี้ควรเลือกวางบนพื้นผิวที่มั่นคง เรียบเสมอกัน ไม่โยกคลอน เพื่อป้องกันการสั่นสะเทือนที่อาจทำให้เสียงแกว่งหรือผิดเพี้ยน เมื่อวางถูกต้องตามหลักการนี้ คุณภาพเสียงที่ได้จะชัดเจน สมบูรณ์แบบ ไม่มีเสียงรบกวนที่ไม่พึงประสงค์ครับ
2. ทำความสะอาดบ่อยๆ
ทำความสะอาดสัปดาห์ละครั้งด้วยผ้าแห้งที่สะอาดหรือผ้าไมโครไฟเบอร์คุณภาพดี โดยเช็ดเบาๆ อย่างระมัดระวังเพื่อกำจัดฝุ่นและคราบสกปรก ห้ามใช้น้ำหรือน้ำยาทำความสะอาดทุกชนิดโดยเด็ดขาด เพราะของเหลวเหล่านี้อาจซึมเข้าไปทำลายวงจรอิเล็กทรอนิกส์ภายในและทำให้ลำโพงเสียหายอย่างถาวรได้ครับ
3. ระวังเรื่องเสียง
การเปิดเสียงดังเกินไปเป็นเวลานานอาจทำให้ลำโพงเสียหายได้ครับ ควรปรับระดับเสียงให้เหมาะสมกับขนาดของห้องและสภาพแวดล้อม เพื่อถนอมลำโพงและยืดอายุการใช้งาน นอกจากนี้ การเปิดเสียงดังเกินไปยังอาจรบกวนผู้อื่นและส่งผลเสียต่อการได้ยินของคุณในระยะยาว แนะนำให้ปรับระดับเสียงที่พอดี ฟังสบายๆ จะทำให้ทั้งลำโพงและหูของคุณอยู่กับคุณไปได้นานๆ ครับ
4. ถอดปลั๊กเมื่อไม่ใช้
เวลาที่คุณไม่ได้ใช้งานลำโพงเป็นระยะเวลานาน ผมขอแนะนำให้ถอดปลั๊กหรือปิดสวิตช์การทำงานเลยนะครับ เพราะนอกจากจะช่วยป้องกันความเสียหายจากไฟกระชากที่อาจเกิดขึ้นได้แล้ว ยังเป็นการช่วยประหยัดพลังงานไฟฟ้าและลดค่าใช้จ่ายในบิลค่าไฟของคุณได้อีกด้วย อีกทั้งยังช่วยยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ให้ยาวนานขึ้นอีกต่างหาก
5. เช็คสายต่อบ่อยๆ
หมั่นตรวจสอบสายลำโพงอย่างสม่ำเสมอนะครับว่ามีการหักงอหรือชำรุดหรือไม่ เพราะถ้าสายมีปัญหา นอกจากจะส่งผลให้คุณภาพเสียงแย่ลงแล้ว ยังอาจทำให้ลำโพงเสียหายได้ในระยะยาว ควรจัดการสายให้เป็นระเบียบ หลีกเลี่ยงการวางในจุดที่อาจถูกทับหรือดึงรั้ง และตรวจดูการเชื่อมต่อให้แน่นหนาอยู่เสมอครับ
6. ระวังน้ำกับความชื้น
อย่าวางลำโพงในที่ชื้นๆ หรือใกล้น้ำโดยเด็ดขาดนะครับ ไม่ว่าจะเป็นแก้วน้ำ น้ำอัดลม หรือแม้แต่บริเวณที่อาจโดนละอองฝนได้ เพราะความชื้นและน้ำเป็นศัตรูตัวร้ายของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิด หากน้ำเพียงเล็กน้อยเข้าไปในวงจร อาจทำให้เกิดการลัดวงจร ส่งผลให้ลำโพงเสียหายอย่างถาวร หรือในกรณีที่ร้ายแรงอาจเกิดอันตรายจากไฟฟ้าลัดวงจรได้ครับ
7. ใช้อุปกรณ์ดีๆ
ในการเชื่อมต่อลำโพงกับคอมพิวเตอร์หรือเครื่องเสียง ให้เลือกใช้อุปกรณ์ที่ได้มาตรฐานและผ่านการรับรองคุณภาพเท่านั้นนะครับ ตรวจสอบระบบไฟฟ้าและการต่อสายดินให้ถูกต้องและปลอดภัย เพราะการใช้อุปกรณ์ที่ไม่ได้มาตรฐานหรือการต่อระบบไฟฟ้าที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้เกิดปัญหาไฟช็อต ไฟกระชาก หรือความเสียหายต่อตัวลำโพงและอุปกรณ์อื่นๆ ที่เชื่อมต่ออยู่ได้
จริงๆ แล้วการดูแลรักษาลำโพงไม่ใช่เรื่องยากเลยนะครับ แค่ใส่ใจเอาใจใส่ในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ และทำตามคำแนะนำที่กล่าวมาข้างต้นอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการทำความสะอาด การจัดวาง การใช้งานที่เหมาะสม และการตรวจสอบอุปกรณ์เป็นประจำ ผมรับรองได้เลยว่าลำโพงของคุณจะมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน คุณภาพเสียงยังคงความคมชัดและทรงพลังเหมือนวันแรกที่ซื้อมาแน่นอนครับ
สำหรับคนที่ชอบดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม หรือทำงานด้านเสียงครับ การเลือกลำโพงคอมพิวเตอร์ที่ดีและเหมาะกับการใช้งานเป็นเรื่องสำคัญมากๆ เลย ผมหวังว่า 10 แบรนด์ลำโพงที่คัดสรรมาในบทความนี้จะช่วยให้คุณเลือกได้ตรงใจมากขึ้นนะครับ ส่วนข้อมูลเสริมเรื่องการจัดวาง การเลือกประเภท และวิธีดูแลรักษา ก็จะช่วยให้ใช้งานได้เต็มที่และใช้ได้นานๆ ด้วย ถ้าเลือกได้ถูกใจแล้ว ก็เปิดเพลงโปรดหรือหนังที่ชอบ แล้วดื่มด่ำไปกับเสียงคมชัดทรงพลังจากลำโพงคู่ใจของคุณได้เลยครับ
คำถามที่บ่อย
1. ลำโพงคอมพิวเตอร์กับลำโพงทั่วไปต่างกันยังไง?
คือลำโพงคอมมันถูกออกแบบมาเพื่อต่อกับอุปกรณ์ดิจิทัลโดยเฉพาะเลยนะครับ ไม่ว่าจะเป็น PC, โน้ตบุ๊ก หรือจอมอนิเตอร์ ตัวลำโพงจะมีขนาดกะทัดรัด ใช้งานง่าย ส่วนใหญ่ก็ไม่ต้องต่อแอมป์แยกให้ยุ่งยาก ต่างจากลำโพงเครื่องเสียงทั่วไปที่จะเน้นความแรงของเสียงและต้องมีอุปกรณ์เสริมในการต่อครับ
2. ลำโพง 2.0 กับ 2.1 ต่างกันยังไง?
ลำโพง 2.0 จะมีแค่ตัวลำโพงซ้าย-ขวาเท่านั้นนะครับ ไม่มีซับวูฟเฟอร์ ส่วนแบบ 2.1 จะมีซับวูฟเฟอร์เพิ่มเข้ามาให้เสียงเบสหนักแน่นขึ้น เหมาะมากสำหรับคนที่ชอบดูหนังหรือเล่นเกมที่ต้องการความสมจริงของเสียงครับ
3. มีเทคนิคดูแลรักษาลำโพงคอมยังไงบ้าง?
ง่ายๆ เลยครับ วางไว้ในที่แห้งๆ อย่าให้โดนความชื้นหรือฝุ่นเยอะ เลิกใช้ก็อย่าลืมปิดเครื่องด้วย แล้วก็หมั่นเช็ดทำความสะอาดบ้างนะครับ แค่นี้ก็จะช่วยให้ลำโพงอยู่กับเราไปได้นานๆ แล้วครับ
4. งบน้อยควรเลือกลำโพงแบบไหนดี?
ผมแนะนำให้ดูรีวิวก่อนเลยครับ เลือกแบรนด์ที่คนพูดถึงเรื่องความคุ้มค่า เสียงชัดใสแม้จะไม่ได้แรงมาก แล้วก็มีฟีเจอร์ครบๆ ในราคาที่จ่ายได้ ถ้างบจำกัดจริงๆ ลำโพง 2.0 ก็น่าสนใจนะครับ ราคาไม่แพงแต่ก็ใช้งานทั่วไปได้สบายๆ ครับ