10 รองเท้าเซฟตี้ ยี่ห้อไหนดี แข็งแรง ทนทาน เพิ่มความปลอดภัย 2024

Cover-526-รองเท้าเซฟตี้

ในงานก่อสร้างและงานช่าง ความปลอดภัยเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญสูงสุด โดยเฉพาะการปกป้องเท้าจากอันตรายที่อาจเกิดขึ้นในสภาพแวดล้อมที่มีความเสี่ยง เช่น การถูกวัตถุหนักตกใส่ การเหยียบของมีคม หรือการลื่นล้มในพื้นที่เปียกหรือมัน รองเท้าเซฟตี้ จึงกลายเป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับผู้ที่ต้องทำงานในสภาพแวดล้อมเหล่านี้ ไม่เพียงช่วยลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุ แต่ยังช่วยเพิ่มความมั่นใจให้ผู้สวมใส่สามารถปฏิบัติงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และนอกจากเรื่องความปลอดภัยแล้ว รองเท้าเซฟตี้ที่ดีควรตอบโจทย์ในด้านความสบายและความทนทาน เพื่อให้สามารถสวมใส่ได้ตลอดทั้งวันโดยไม่ทำให้เกิดความอึดอัดหรือเมื่อยล้า ดังนั้นในบทความนี้เราจะช่วยแนะนำ 10 รองเท้าเซฟตี้ ยี่ห้อไหนดี แข็งแรง ทนทาน พร้อมวิธีการเลือกรองเท้าเซฟตี้ที่เหมาะสมสำหรับงานก่อสร้างและงานช่าง โดยเน้นปัจจัยสำคัญ เช่น คุณสมบัติการป้องกัน วัสดุที่ใช้ ความสามารถในการระบายอากาศ การกันลื่น และมาตรฐานความปลอดภัย เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่ารองเท้าที่เลือกจะให้การปกป้องที่ดีที่สุด พร้อมทั้งความสะดวกสบายและความคุ้มค่าในการใช้งานระยะยาว

หลักเกณฑ์ที่ใช้ในการจัดอันดับสินค้า

  • ความปลอดภัยและการป้องกัน : รองเท้าเซฟตี้ที่ดีต้องออกแบบมาเพื่อปกป้องเท้าจากอันตรายหลากหลายรูปแบบ เช่น การกระแทกจากวัตถุหนักที่ตกใส่ การป้องกันการเหยียบของมีคม หรือสารเคมีที่อาจพบในบางงาน นอกจากนี้ หัวรองเท้าควรผลิตจากวัสดุที่แข็งแรง เช่น เหล็กหรือคอมโพสิต เพื่อช่วยป้องกันการกระแทกและการกดทับที่อาจเกิดขึ้นได้
  • ความทนทานของวัสดุ : วัสดุที่ใช้ในการผลิตรองเท้าเซฟตี้มีผลโดยตรงต่อความทนทานและอายุการใช้งาน วัสดุอย่างหนังแท้หรือยางสังเคราะห์ที่มีคุณภาพสูงสามารถทนต่อการใช้งานหนัก การสัมผัสน้ำ ความร้อน หรือสารเคมีได้ดี รองเท้าที่ทนทานช่วยลดความเสียหายและยังคงรูปทรงแม้จะใช้งานในระยะยาว
  • ความสบายและการระบายอากาศ : การใส่รองเท้าเซฟตี้ตลอดทั้งวันอาจทำให้เท้าเกิดความอับชื้นและไม่สบาย ดังนั้น รองเท้าควรมีการออกแบบที่ช่วยระบายอากาศได้ดี เพื่อลดความร้อนและความชื้นภายใน ป้องกันกลิ่นไม่พึงประสงค์หรือการเกิดเชื้อรา อีกทั้งรองเท้าควรมีน้ำหนักเบาและพื้นรองเท้าที่นุ่มสบาย ช่วยลดอาการเมื่อยล้าระหว่างการทำงาน
  • คุณสมบัติการกันลื่น : พื้นที่ในการทำงาน เช่น ไซต์ก่อสร้างหรือพื้นที่ที่มีน้ำมันและของเหลว สามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อการลื่นล้มได้ รองเท้าที่มีดอกยางลึกและพื้นรองเท้าที่ออกแบบมาเพื่อการยึดเกาะที่ดี ช่วยลดความเสี่ยงเหล่านี้และเพิ่มความมั่นใจในทุกการก้าวเดิน
  • มาตรฐานความปลอดภัย : รองเท้าเซฟตี้ที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน เช่น มาตรฐานยุโรป (EN) หรือมาตรฐานญี่ปุ่น (JSAA) ถือเป็นตัวเลือกที่มั่นใจได้ในเรื่องคุณภาพและความปลอดภัย การได้รับการรับรองหมายถึงรองเท้าได้ผ่านการทดสอบและปฏิบัติตามข้อกำหนดที่เข้มงวด ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการใช้งาน

10 อันดับ รองเท้าเซฟตี้ ยี่ห้อไหนดี แนะนำรองเท้าคุณภาพสูง ปลอดภัย เหมาะกับทุกการใช้งาน

1. CAT P90800

1 CAT P90800

รองเท้าเซฟตี้ CATERPILLAR รุ่น Outline Steel Toe P90800 ผลิตจากหนังแท้คุณภาพสูงพร้อมหัวโลหะเสริมความปลอดภัย ทนทาน และสวมใส่สบาย เหมาะสำหรับงานก่อสร้างและช่างมืออาชีพ

ขนาด41 – 45 EU
วัสดุหนัง Full Grain
ระดับป้องกันไฟฟ้า600 โวลต์
งานที่เหมาะสมงานก่อสร้าง
ราคา3,100 บาท

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

รองเท้าเซฟตี้ CATERPILLAR รุ่น Outline Steel Toe P90800 เป็นรองเท้าที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์งานก่อสร้างและงานช่างอย่างมืออาชีพ ผลิตจากหนังแท้ Full Grain คุณภาพสูง ให้ความทนทานและป้องกันได้อย่างดีเยี่ยม หัวรองเท้าเสริมโลหะชนิดพิเศษตามมาตรฐาน ASTM F2413-18 สามารถทนแรงกระแทกและการบีบอัดได้อย่างปลอดภัยสูงสุด นอกจากนี้ ยังมีคุณสมบัติป้องกันไฟฟ้าสถิต สามารถทนแรงดันไฟฟ้าได้สูงสุดถึง 600 โวลต์ พร้อมพื้นรองเท้ายาง T1260 ที่กันลื่น ทำให้เหมาะกับการใช้งานในทุกสภาพพื้นผิว ข้อรองเท้าบุนุ่มด้วยผ้าตาข่ายและซับในไมโครไฟเบอร์ ช่วยเพิ่มความสบายในการสวมใส่ระหว่างทำงาน โครงสร้างรองเท้าแบบ Cement Construction เพิ่มความแข็งแรงทนทาน รองเท้ารุ่นนี้ถือเป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับงานที่ต้องการความปลอดภัยและความทนทานในราคาที่คุ้มค่า

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?

รองเท้าเซฟตี้ CATERPILLAR รุ่น Outline Steel Toe P90800 เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมเพราะมอบความปลอดภัยสูงสุดด้วยหัวรองเท้าโลหะที่ทนแรงกระแทกและพื้นกันลื่น อีกทั้งยังสวมใส่สบายและทนทานเหมาะสำหรับงานก่อสร้างหรือช่างมืออาชีพในทุกสภาพแวดล้อม

2. ASICS Winjob CP201

2 ASICS Winjob CP201

รองเท้านิรภัย Skechers Work™ รุ่น Arch Fit® SR - Angis Comp Toe มาพร้อมกับเทคโนโลยีรองรับแรงกระแทก กันลื่น และป้องกันอันตรายจากไฟฟ้า เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการทั้งความปลอดภัยและความสบาย

ขนาด 35 – 50.5 EU
วัสดุ หนังสังเคราะห์, ผ้า
ระดับป้องกันไฟฟ้า ไม่กันไฟฟ้า
งานที่เหมาะสม งานช่างในร่ม
ราคา 3,290 บาท

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

รองเท้านิรภัย Skechers Work™ รุ่น Arch Fit® SR – Angis Comp Toe สีดำ ถูกออกแบบมาเพื่อการสวมใส่ที่สบายและปลอดภัยสูงสุด ด้วยเทคโนโลยี Arch Fit® ที่รองรับส่วนโค้งของเท้าและช่วยลดแรงกระแทก พร้อมกับพื้นรองเท้าชั้นในที่สามารถถอดได้เพื่อความสะดวกในการทำความสะอาด ระบบระบายอากาศ Air-Cooled ช่วยให้เท้ารู้สึกเย็นสบายแม้ใส่ในระยะเวลานาน หัวรองเท้า Composite ที่ไม่ใช่โลหะได้รับมาตรฐานความปลอดภัย ASTM F2413 ซึ่งทนต่อแรงกระแทกและการบีบอัด พื้นรองเท้า Arch Fit® SR กันลื่นได้ดีเยี่ยม เหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่ที่มีคราบน้ำมันหรือสารลื่น นอกจากนี้ ยังป้องกันอันตรายจากไฟฟ้าด้วยมาตรฐาน Electrical Hazard (EH) พื้นรองเท้าชั้นกลางประกอบด้วย Alpha Gel และ fuzeGEL ที่ดูดซับแรงกระแทกได้ดี ช่วยเสริมความปลอดภัยและความสบายในทุกย่างก้าว

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?

รองเท้านิรภัย Skechers Work™ รุ่น Arch Fit® SR – Angis Comp Toe เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความปลอดภัยและความสบายในทุกย่างก้าว ด้วยเทคโนโลยีรองรับแรงกระแทกและกันลื่นที่ได้รับมาตรฐาน พร้อมการป้องกันอันตรายจากไฟฟ้าและความทนทานสูง

3. Safety Jogger RUSH

3 Safety Jogger RUSH

รองเท้าเซฟตี้ Safety Jogger รุ่น RUSH S3 เป็นรองเท้านิรภัยที่ทันสมัย สวมใส่สบาย พร้อมคุณสมบัติป้องกันน้ำ กันลื่น และการกระแทก เหมาะสำหรับการใช้งานในทุกสภาพแวดล้อม

ขนาด 36 – 48 EU
วัสดุ ผ้า, หนังกลับ
ระดับป้องกันไฟฟ้า 1,000 โอห์ม
งานที่เหมาะสม งานช่างภายนอก
ราคา 1,930 บาท

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

รองเท้าเซฟตี้ Safety Jogger รุ่น RUSH S3 เป็นรองเท้าหุ้มข้อที่ออกแบบมาอย่างทันสมัยและสวมใส่สบาย โดดเด่นด้วยซิปด้านข้างที่ช่วยให้สวมใส่ง่าย มาพร้อมกับความปลอดภัยขั้นสูงสุดตามมาตรฐาน S3 พื้นรองเท้าผลิตจากพียูทนทานต่อแรงกระแทกและการเจาะทะลุ เสริมแผ่นเหล็กที่พื้นเพื่อป้องกันการทะลุได้อย่างดีเยี่ยม หัวรองเท้าเป็นหัวเหล็กที่สามารถรองรับแรงกระแทกได้ถึง 200 จูล พื้นรองเท้ามีปุ่มกันลื่นช่วยเพิ่มความปลอดภัยในทุกสภาวะการทำงาน วัสดุผิวรองเท้าทำจากผ้าใบและหนังกลับคุณภาพสูง สามารถกันน้ำและระบายอากาศได้ดี ช่วยให้เท้าของคุณสบายตลอดการใช้งาน เหมาะสำหรับการทำงานในสภาวะแวดล้อมที่ต้องการความปลอดภัยสูงสุด

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?

รองเท้าเซฟตี้ Safety Jogger รุ่น RUSH S3 เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการความปลอดภัยสูงสุดในการทำงาน ด้วยดีไซน์ที่ทันสมัย สวมใส่สบาย และคุณสมบัติป้องกันการกระแทกและการเจาะทะลุ ช่วยเพิ่มความมั่นใจในทุกสภาพการทำงาน

4. SAFETY GOODS PUA

4 SAFETY GOODS PUA

รองเท้าเซฟตี้ SAFETY GOODS รุ่น PUA ผลิตจากหนังแท้และหัวเหล็กที่ได้มาตรฐาน ISO 20345 ป้องกันการกระแทกและทะลุได้ดี เหมาะสำหรับงานอุตสาหกรรมในราคาที่คุ้มค่า

ขนาด 35 – 47 EU
วัสดุ หนังวัว
ระดับป้องกันไฟฟ้า ไม่กันไฟฟ้า
งานที่เหมาะสม งานช่างทั่วไป
ราคา 469 บาท

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

รองเท้าเซฟตี้ยี่ห้อ SAFETY GOODS รุ่น PUA ออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานในงานอุตสาหกรรม ด้วยมาตรฐานการทดสอบ ISO 20345 หัวเหล็กกันสนิมสามารถรับแรงกระแทกได้ถึง 200 จูล ป้องกันอันตรายจากการกระแทกอย่างมีประสิทธิภาพ ตัวรองเท้าทำจากหนังวัวแท้ที่มีความทนทานต่อสารเคมีและทนความร้อนได้ดี พร้อมด้วยพื้นรองเท้า PU น้ำหนักเบา ป้องกันการลื่นและน้ำมันได้ดี เพิ่มความแข็งแกร่งด้วยแผ่นเหล็กเสริมในพื้นรองเท้าช่วยป้องกันการทะลุจากตะปูหรือวัตถุแหลมคม ด้านในบุด้วยผ้าแคมแบลเพื่อเพิ่มความนุ่มสบายในการสวมใส่ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรองเท้าเซฟตี้ที่มีคุณภาพสูง ราคาย่อมเยา และมั่นใจได้ในความปลอดภัยทุกครั้งที่ใช้งาน

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?

รองเท้าเซฟตี้ SAFETY GOODS รุ่น PUA เป็นตัวเลือกที่ดีเพราะมีความทนทานสูงจากการผลิตด้วยหนังแท้และหัวเหล็กที่ผ่านมาตรฐาน ISO 20345 ช่วยป้องกันอันตรายจากการกระแทกและทะลุได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในราคาที่คุ้มค่าและเหมาะกับงานอุตสาหกรรม

5. PANGOLIN 2001

5 PANGOLIN 2001

รองเท้าเซฟตี้ Pangolin รุ่น 2001 เป็นรองเท้านิรภัยหัวเหล็กดีไซน์สปอร์ต ผลิตจากหนังแท้ ทนทานต่อสารเคมีและความร้อนสูง พร้อมพื้นกันลื่นและมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด

ขนาด 37 – 45 EU
วัสดุ หนังแท้
ระดับป้องกันไฟฟ้า 100,000 โอห์ม
งานที่เหมาะสม งานทุกชนิด
ราคา 1,420 บาท

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

รองเท้าเซฟตี้ Pangolin รุ่น 2001 โดดเด่นด้วยดีไซน์ทรงสปอร์ตสุดเท่ เหมาะทั้งสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมการทำงานที่ต้องการความปลอดภัย และยังสามารถสวมใส่ในชีวิตประจำวันได้อย่างสบาย ผลิตจากหนังวัวแท้ Full Grain ฟอกนิ่มพิเศษที่มีความหนาระหว่าง 2.0 – 2.2 มม. ช่วยเพิ่มความทนทานและความสบายในการสวมใส่ หัวรองเท้าเสริมเหล็กที่สามารถรับแรงกระแทกได้สูงถึง 200 จูล ผ่านการรับรองมาตรฐาน มอก. 523-2554 ทำให้มั่นใจในความปลอดภัย พื้นรองเท้าผลิตด้วยเทคโนโลยี CEMENTING ทำให้พื้นรองเท้ามีคุณสมบัติกันลื่น ทนต่อน้ำมัน สารเคมี และทนความร้อนได้สูงถึง 350°C เหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีความเสี่ยงต่อการสัมผัสความร้อนหรือสารเคมี นอกจากนี้ รองเท้า Pangolin รุ่นนี้ยังมีคุณสมบัติพิเศษในการต้านทานไฟฟ้าสูงกว่า 100,000 โอห์ม ซึ่งเหมาะสำหรับงานที่ต้องมีการป้องกันไฟฟ้าสถิต

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?

รองเท้าเซฟตี้ Pangolin รุ่น 2001 เป็นตัวเลือกที่ดีเพราะให้ความปลอดภัยสูงด้วยหัวเหล็กรับแรงกระแทกและพื้นรองเท้ากันลื่น ทนต่อสารเคมีและความร้อนสูง พร้อมทั้งดีไซน์สปอร์ตทันสมัยที่สวมใส่สบายในทุกสถานการณ์

6. KRUSHERS TEXAS

6 KRUSHERS TEXAS

รองเท้าบู๊ทเซฟตี้ KRUSHERS รุ่น Texas สีน้ำตาล ผลิตจากหนังแท้ หัวเหล็กรับแรงกระแทกได้ 200 จูล พื้นรองเท้าทนทานต่อสารเคมี กันลื่นและความร้อนได้ เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการความปลอดภัยสูงสุด

ขนาด 37 – 46 EU
วัสดุ หนังแท้
ระดับป้องกันไฟฟ้า ป้องกันไฟฟ้าสถิต
งานที่เหมาะสม งานอุตสาหกรรมปิโตรเคมี
ราคา 1,749 บาท

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

รองเท้าบู๊ทเซฟตี้ยี่ห้อ KRUSHERS รุ่น Texas สีน้ำตาล มาพร้อมกับหัวเหล็กที่สามารถรับแรงกระแทกได้สูงถึง 200 จูล ผลิตจากหนังวัวแท้ที่ทนทานต่อแรงฉีกขาดได้มากกว่า 120 นิวตัน และยังทนต่อสารเคมี น้ำมัน และกรดด่างได้ดี พื้นรองเท้าชั้นนอกทำจากวัสดุ PU/TPU ที่ทนทานต่อแรงฉีกขาดได้ไม่น้อยกว่า 8,000 นิวตันเมตร พร้อมคุณสมบัติป้องกันไฟฟ้าสถิตย์และช่วยป้องกันการลื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังสามารถทนความร้อนได้สูงกว่า 130 องศาเซลเซียสในระยะเวลา 1 นาที และสามารถดูดซับแรงกดที่ส้นเท้าได้ 20 จูล เหมาะสำหรับทั้งผู้ชายและผู้หญิงที่ต้องการความปลอดภัยในการทำงาน สินค้านำเข้าจากประเทศออสเตรเลีย คุณภาพมาตรฐานสูงสุด

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?

รองเท้าบู๊ทเซฟตี้ KRUSHERS รุ่น Texas สีน้ำตาลเป็นตัวเลือกที่ดีเพราะมีความทนทานสูง ป้องกันการกระแทก การลื่น และสารเคมีได้ดี พร้อมทั้งสามารถทนความร้อนและไฟฟ้าสถิตย์ ช่วยให้คุณทำงานได้อย่างปลอดภัยในทุกสภาวะแวดล้อม

7. PANGOLIN 0204U

7 PANGOLIN 0204U

รองเท้าบู๊ทเซฟตี้ PANGOLIN รุ่น 0204U ผลิตจากหนังแท้ เสริมหัวเหล็ก กันลื่น ทนน้ำมัน สารเคมี และความร้อน เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความปลอดภัยสูงสุด

ขนาด 38 – 45 EU
วัสดุ หนังแท้
ระดับป้องกันไฟฟ้า 100,000 โอห์ม
งานที่เหมาะสม งานอุตสาหกรรมปิโตรเคมี, งานเกี่ยวกับไฟฟ้า
ราคา 1,560 บาท

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

รองเท้าบู๊ทเซฟตี้ PANGOLIN รุ่น 0204U ผลิตจากหนังวัวแท้ฟอกนิ่มคุณภาพสูง มีความหนาประมาณ 2.0 – 2.2 มิลลิเมตร เสริมหัวเหล็กที่สามารถทนแรงกระแทกได้สูงสุดถึง 200 จูล มาพร้อมพื้นรองเท้า PU ที่สามารถกันลื่นได้ดีและทนทานต่อสารเคมี น้ำมัน และความร้อนได้สูงสุดถึง 160 องศาเซลเซียส นอกจากนี้ยังต้านทานไฟฟ้าได้มากกว่าหรือเท่ากับ 100,000 โอห์ม ได้มาตรฐาน มอก. 523-2554 และมาตรฐานสากล EN 12568:2010 มีให้เลือกทั้งสีดำและสีน้ำตาล โดยรองเท้ารุ่นนี้เหมาะสำหรับใช้งานในโรงงานหรือสถานที่ที่ต้องการความปลอดภัยสูง ร้าน safetycenter ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายหลักของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รับประกันสินค้าของแท้ 100% จัดส่งสินค้าทุกวันจันทร์-เสาร์ พร้อมให้บริการออกใบกำกับภาษีตามต้องการ

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?

รองเท้าบู๊ทเซฟตี้ PANGOLIN รุ่น 0204U เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับความปลอดภัยในการทำงาน เพราะผลิตจากหนังแท้คุณภาพสูง เสริมความแข็งแกร่งด้วยหัวเหล็ก ทนทานต่อสารเคมี น้ำมัน และความร้อน พร้อมทั้งมีพื้นกันลื่นที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการใช้งาน

8. YAMADA PLS5

8 YAMADA PLS5

รองเท้าเซฟตี้รุ่น PLS5 YAMADA มาพร้อมหัวรองเท้าเสริมเหล็ก พื้นยางกันลื่น และวัสดุกันน้ำที่ทนทาน เหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่ต้องการความปลอดภัยสูงสุด

ขนาด 35 – 46 EU
วัสดุ หนังสังเคราะห์
ระดับป้องกันไฟฟ้า ไม่กันไฟฟ้า
งานที่เหมาะสม งานช่างทั่วไป
ราคา 338  บาท

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

รองเท้าเซฟตี้รุ่น PLS5 YAMADA ถออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการด้านความปลอดภัยสูงสุดของผู้ใช้งาน โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ หัวรองเท้าเสริมเหล็กมีความแข็งแรงเป็นพิเศษ สามารถรองรับแรงกระแทกได้ถึง 200 จูล ป้องกันเท้าจากการบาดเจ็บที่อาจเกิดขึ้นจากวัตถุหนักตกหล่นหรือแรงกดทับ พื้นรองเท้าทำจากยางคุณภาพสูงที่มีคุณสมบัติกันลื่นและดูดซับแรงกระแทกได้ดีเยี่ยม ลดความเสี่ยงในการลื่นล้มแม้ในพื้นที่เปียกหรือมีคราบน้ำมัน ทำให้ผู้ใช้งานสามารถยืนหรือเดินได้ทั้งวันโดยไม่รู้สึกเมื่อยล้าและไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นงานก่อสร้าง โรงงานอุตสาหกรรม หรือครัวร้านอาหารที่มีความเสี่ยงสูงต่อการลื่น รองเท้ารุ่นนี้ก็ตอบโจทย์ได้อย่างครบถ้วน วัสดุหนัง PU ที่ใช้ผลิตส่วนอัปเปอร์ของรองเท้ามีความทนทานและสามารถกันน้ำได้

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?

รองเท้าเซฟตี้รุ่น PLS5 YAMADA เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการความปลอดภัยสูงสุด ด้วยหัวรองเท้าเสริมเหล็กที่แข็งแรง พื้นยางกันลื่น และวัสดุกันน้ำที่ทนทาน ช่วยปกป้องเท้าได้ดีในทุกสภาพแวดล้อมการทำงาน

9. Footniks Safety Shoes 27-0001

9 Footniks Safety Shoes 27-0001

Footniks รุ่น 27-0001 เป็นรองเท้าเซฟตี้ที่มีหัวเหล็กและพื้นกันลื่น พร้อมเสริมเหล็กป้องกันการทะลุ เหมาะสำหรับการทำงานที่ต้องการความปลอดภัยสูงและสวมใส่สบายตลอดวัน

ขนาด 37 – 46 EU
วัสดุ หนังสังเคราะห์
ระดับป้องกันไฟฟ้า ไม่กันไฟฟ้า
งานที่เหมาะสม งานช่างทั่วไป
ราคา 459 บาท

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

Footniks รองเท้าเซฟตี้รุ่น 27-0001 ออกแบบมาเพื่อความปลอดภัยและสวมใส่สบาย วัสดุผลิตจากหนังสังเคราะห์พียูที่มีความทนทาน พร้อมหัวรองเท้าเสริมเหล็กที่รองรับแรงกระแทกได้ถึง 200 จูน ทำให้มั่นใจในความปลอดภัยจากอุบัติเหตุระหว่างการทำงาน พื้นรองเท้ายางกันลื่นที่ออกแบบมาเป็นพิเศษช่วยเพิ่มการยึดเกาะกับพื้นในทุกสภาพแวดล้อม พื้นชั้นในเสริมแผ่นเหล็กเพื่อป้องกันการแทงทะลุจากของมีคม และยังเย็บรอบพื้นชั้นนอกเพื่อเพิ่มความทนทาน ผ้าซับในทนทานและระบายอากาศได้ดี พร้อมทั้งดีไซน์ที่เหมาะกับการใช้งานประจำวัน สามารถใส่ทำงานหรือสวมใส่ในชีวิตประจำวันได้ทุกที่ ขนาดตั้งแต่ 37-46 พร้อมการันตีคืนสินค้าในกรณีไม่พอใจ

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?

รองเท้าเซฟตี้ Footniks รุ่น 27-0001 เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการความปลอดภัยสูง ด้วยหัวเหล็กและพื้นกันลื่นที่ป้องกันการกระแทกและการทะลุจากของมีคม ทำให้มั่นใจได้ทั้งในเรื่องความทนทานและความสบายในการสวมใส่

10. Midori Anzen NHS-600

10 Midori Anzen NHS-600

รองเท้าเซฟตี้ Midori Anzen รุ่น NHS-600 ออกแบบมาเพื่อความปลอดภัยสูงสุดด้วยพื้นกันลื่น หัวรองเท้าเรซินรองรับแรงกระแทก ระบายอากาศได้ดี และเหมาะสำหรับงานในอุตสาหกรรมอาหารและพื้นที่เปียกหรือมีน้ำมัน

ขนาด 22 – 30 JP
วัสดุ หนังสังเคราะห์
ระดับป้องกันไฟฟ้า ไม่กันไฟฟ้า
งานที่เหมาะสม งานอุตสาหกรรมปานกลาง, งานออฟฟิศ, งานด้านอาหาร
ราคา 920 บาท

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

รองเท้าเซฟตี้ Midori Anzen รุ่น NHS-600 ถูกออกแบบมาในสไตล์รองเท้าคัทชูที่ดูสุภาพและเหมาะสำหรับการทำงานในหลากหลายสถานที่ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมอาหาร ร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหาร รวมถึงผู้ที่ทำงานในพื้นที่เปียกหรือมีน้ำมัน เช่น เชฟหรือพนักงานในโรงงาน ตัวรองเท้าผลิตจากหนังสังเคราะห์คุณภาพสูง เสริมด้วยหัวรองเท้าหัวเรซินที่สามารถรับแรงกระแทกได้สูงสุด 70 จูล พื้นรองเท้าทำจากยางสังเคราะห์และ EVA ที่มีความสามารถกันลื่นทุกทิศทาง ดอกยางลึกช่วยป้องกันการลื่นบนทุกพื้นผิว พร้อมฟังก์ชันระบายอากาศเพื่อลดความอับชื้น น้ำหนักเบาเพียง 720 กรัม (อ้างอิงจากขนาด 26.0 ซม.) และมีสัญญาณบอกความสึกหรอที่พื้นรองเท้าเพื่อช่วยเตือนให้เปลี่ยนคู่ใหม่ตามความจำเป็น ผลิตตามมาตรฐานอุตสาหกรรมญี่ปุ่น (JSAA) ทำให้รองเท้ารุ่นนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่ต้องการความปลอดภัยและความสะดวกสบาย

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?

รองเท้าเซฟตี้ Midori Anzen รุ่น NHS-600 เป็นตัวเลือกที่ดีเพราะมีความสามารถกันลื่นทุกทิศทาง พื้นรองเท้าทำความสะอาดง่าย พร้อมด้วยการเสริมความปลอดภัยจากหัวรองเท้าเรซินที่รองรับแรงกระแทกได้สูงสุด เหมาะสำหรับงานในอุตสาหกรรมอาหารและพื้นที่เปียกหรือมีน้ำมัน

วิธีการเลือกรองเท้าเซฟตี้ที่เหมาะกับงานก่อสร้างและงานช่างทั่วไป

526-วิธีการเลือกรองเท้าเซฟตี้ที่เหมาะกับงานก่อสร้างและงานช่างทั่วไป

ในการทำงานในสายงานก่อสร้างและงานช่างทั่วไป การเลือกรองเท้าเซฟตี้ที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งเพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการทำงาน รองเท้าที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุ เช่น การลื่นล้ม การถูกของมีคมทิ่มแทง หรือแม้กระทั่งการบาดเจ็บจากการตกของวัตถุหนัก ดังนั้นการเลือกรองเท้าเซฟตี้จึงควรพิจารณาจากหลายปัจจัยดังต่อไปนี้

1. ความสามารถในการป้องกันแรงกระแทกและการทิ่มแทง

งานก่อสร้างและงานช่างมักเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุจากวัตถุที่ตกลงมาหรือของมีคม การเลือกรองเท้าเซฟตี้ที่มีหัวรองเท้าเหล็กหรือหัวรองเท้าเรซินจึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ หัวรองเท้าควรสามารถรับแรงกระแทกได้อย่างน้อย 200 จูล และต้องมีการเสริมพื้นรองเท้าที่สามารถป้องกันของมีคมจากพื้นได้ เช่น ตะปูหรือเศษเหล็ก

2. ความสามารถในการกันลื่น

ในไซต์งานก่อสร้างและงานช่าง พื้นที่ทำงานมักมีความเปียกหรือมีน้ำมัน การเลือกรองเท้าที่มีดอกยางลึกและออกแบบมาเพื่อกันลื่นในทุกทิศทางจะช่วยป้องกันการลื่นล้มได้ดี รองเท้าที่มีดอกยางที่มีความหนาและใช้วัสดุที่มีคุณสมบัติกันลื่นสูงจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยในสภาพแวดล้อมที่ไม่เสถียร

3. ความสบายในการสวมใส่

รองเท้าเซฟตี้ที่เหมาะสมไม่เพียงแต่ต้องป้องกันอันตราย แต่ยังต้องให้ความสบายขณะสวมใส่ด้วย เนื่องจากการทำงานในสายงานก่อสร้างมักต้องใช้เวลานาน รองเท้าที่มีน้ำหนักเบา มีพื้นรองเท้าที่นุ่มและยืดหยุ่น จะช่วยลดความเมื่อยล้าของเท้า นอกจากนี้ควรมีระบบระบายอากาศที่ดีเพื่อลดความอับชื้น ซึ่งจะช่วยลดโอกาสการเกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์และป้องกันการติดเชื้อราที่เท้า

4. ความทนทานของวัสดุ

รองเท้าเซฟตี้สำหรับงานก่อสร้างและงานช่างควรผลิตจากวัสดุที่มีความทนทานสูง เช่น หนังแท้หรือยางสังเคราะห์ วัสดุเหล่านี้ไม่เพียงแต่ทนทานต่อการฉีกขาดและเสียดสี แต่ยังสามารถทนต่อความร้อน สารเคมี หรือความเปียกชื้นที่อาจเกิดขึ้นในสภาพแวดล้อมการทำงานได้

5. มาตรฐานความปลอดภัย

รองเท้าเซฟตี้ที่เลือกใช้ควรผ่านการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยจากองค์กรที่เชื่อถือได้ เช่น มาตรฐานยุโรป (EN ISO 20345) หรือมาตรฐานญี่ปุ่น (JSAA) เพื่อให้มั่นใจว่ารองเท้านั้นผ่านการทดสอบด้านความปลอดภัยและสามารถป้องกันอันตรายได้จริง

วิธีการดูแลรักษารองเท้าเซฟตี้ให้ใช้งานได้นานขึ้น

526-วิธีการดูแลรักษารองเท้าเซฟตี้ให้ใช้งานได้นานขึ้น

รองเท้าเซฟตี้เป็นหนึ่งในอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลที่มีความสำคัญอย่างมากในงานก่อสร้าง งานช่าง และงานอุตสาหกรรมอื่นๆ การดูแลรักษารองเท้าเซฟตี้ให้อยู่ในสภาพดีตลอดอายุการใช้งานไม่เพียงแต่ช่วยยืดอายุการใช้งาน แต่ยังช่วยให้ประสิทธิภาพการป้องกันคงเดิม ดังนั้นการดูแลรักษารองเท้าเซฟตี้อย่างเหมาะสมจึงเป็นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญ ซึ่งสามารถทำได้ตามวิธีการดังต่อไปนี้

1. ทำความสะอาดรองเท้าอย่างสม่ำเสมอ

การทำความสะอาดรองเท้าเซฟตี้เป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญในการดูแลรักษา หลังจากการใช้งานในพื้นที่ที่มีฝุ่นละออง ดิน หรือสารเคมี ควรเช็ดทำความสะอาดรองเท้าด้วยผ้าชุบน้ำหมาดๆ หรือใช้แปรงขนอ่อนขัดเอาสิ่งสกปรกออก โดยหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีแรง ๆ ที่อาจทำลายวัสดุของรองเท้า

2. ป้องกันไม่ให้รองเท้าถูกน้ำเป็นเวลานาน

แม้ว่ารองเท้าเซฟตี้หลายรุ่นจะออกแบบมาให้กันน้ำได้ แต่การปล่อยให้รองเท้าเปียกน้ำเป็นเวลานานอาจทำให้วัสดุเสื่อมสภาพหรือเกิดการขยายตัวของเชื้อรา ควรหลีกเลี่ยงการแช่รองเท้าในน้ำ หรือถ้ารองเท้าเปียกน้ำควรเช็ดให้แห้งและผึ่งลมในที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก

3. การจัดเก็บรองเท้าอย่างถูกวิธี

หลังจากการใช้งาน ควรเก็บรองเท้าเซฟตี้ในที่ที่แห้งและมีอากาศถ่ายเท หลีกเลี่ยงการเก็บในที่อับชื้นหรือในที่ที่อุณหภูมิสูงเกินไป เนื่องจากความชื้นและความร้อนสามารถทำลายโครงสร้างของวัสดุรองเท้าได้ นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงการเก็บรองเท้าไว้ในที่ที่แสงแดดส่องถึงโดยตรงเพราะอาจทำให้หนังหรือวัสดุอื่น ๆ เสื่อมสภาพเร็วขึ้น

4. ตรวจสอบสภาพรองเท้าอย่างสม่ำเสมอ

การตรวจสอบสภาพของรองเท้าเซฟตี้เป็นระยะ ๆ เป็นสิ่งที่ควรทำ เช่น ตรวจดูว่าหัวรองเท้าเหล็กหรือเรซินยังคงอยู่ในสภาพดี พื้นรองเท้าไม่สึกหรือเสียหาย และไม่มีรอยขาดที่อาจทำให้การป้องกันลดลง หากพบว่ารองเท้ามีการสึกหรอที่อาจทำให้เกิดอันตราย ควรพิจารณาเปลี่ยนรองเท้าคู่ใหม่

5. ใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลรองเท้าที่เหมาะสม

สำหรับรองเท้าเซฟตี้ที่ทำจากหนัง ควรใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลหนัง เช่น ครีมบำรุงหนังหรือน้ำยากันน้ำ เพื่อช่วยรักษาคุณภาพของหนังและป้องกันการแตกร้าว ส่วนรองเท้าที่ทำจากวัสดุสังเคราะห์ควรใช้สเปรย์หรือผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาสำหรับวัสดุนั้น ๆ เพื่อคงสภาพรองเท้าให้อยู่ในสภาพดี

6. หลีกเลี่ยงการซักรองเท้าในเครื่องซักผ้า

การซักรองเท้าเซฟตี้ในเครื่องซักผ้าอาจทำให้โครงสร้างของรองเท้าเสียหายและส่งผลให้ประสิทธิภาพการป้องกันลดลง แทนที่จะซักในเครื่อง ควรใช้วิธีการเช็ดหรือขัดทำความสะอาดด้วยมือเพื่อรักษาสภาพรองเท้า

ข้อควรระวังและข้อแนะนำในการใช้รองเท้าเซฟตี้ในงานก่อสร้าง

526-ข้อควรระวังและข้อแนะนำในการใช้รองเท้าเซฟตี้ในงานก่อสร้าง

รองเท้าเซฟตี้เป็นอุปกรณ์ป้องกันที่สำคัญในงานก่อสร้าง เนื่องจากช่วยปกป้องเท้าจากอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากสภาพแวดล้อมการทำงานที่เสี่ยง เช่น การกระแทกจากวัตถุหนัก การเหยียบของมีคม หรือการลื่นล้มบนพื้นผิวที่ไม่มั่นคง อย่างไรก็ตาม การใช้รองเท้าเซฟตี้ที่ไม่ถูกต้องอาจทำให้เกิดปัญหาด้านความปลอดภัยได้เช่นกัน ดังนั้นการระมัดระวังและการปฏิบัติตามคำแนะนำในการใช้รองเท้าเซฟตี้ในงานก่อสร้างจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม

ข้อควรระวังในการใช้รองเท้าเซฟตี้

1. การเลือกรองเท้าที่ไม่เหมาะสมกับลักษณะงาน

การเลือกรองเท้าเซฟตี้ที่ไม่เหมาะกับประเภทงานที่ทำ อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บได้ เช่น การเลือกรองเท้าที่ไม่มีการป้องกันหัวรองเท้าหรือพื้นรองเท้าที่ไม่กันลื่นในงานก่อสร้างที่มีความเสี่ยงต่อการกระแทกหรือการลื่นล้ม ดังนั้นควรเลือกใช้รองเท้าเซฟตี้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมการทำงาน เช่น หัวเหล็กป้องกันการกระแทก พื้นรองเท้ากันลื่น และวัสดุที่ทนทานต่อการเสียดสี

2. การสึกหรอของรองเท้าเซฟตี้

รองเท้าเซฟตี้ที่ใช้งานมานานอาจเกิดการสึกหรอ โดยเฉพาะพื้นรองเท้าที่อาจเสื่อมสภาพและสูญเสียความสามารถในการกันลื่น หัวรองเท้าเหล็กหรือเรซินอาจได้รับความเสียหาย การใช้งานรองเท้าที่เสื่อมสภาพอาจทำให้ไม่สามารถป้องกันอันตรายได้อย่างเต็มที่ ดังนั้นควรตรวจสอบรองเท้าเป็นประจำ และหากพบว่ารองเท้ามีการเสื่อมสภาพ ควรเปลี่ยนรองเท้าเซฟตี้ใหม่ทันที

3. การไม่สวมใส่รองเท้าเซฟตี้ให้ถูกวิธี

การสวมใส่รองเท้าเซฟตี้ที่ไม่ถูกต้อง เช่น การไม่ผูกเชือกรองเท้าให้แน่นหรือสวมรองเท้าไม่พอดีเท้า อาจทำให้รองเท้าไม่สามารถป้องกันอันตรายได้เต็มที่ นอกจากนี้ยังเพิ่มความเสี่ยงต่อการลื่นล้มหรือการบาดเจ็บอื่น ๆ ดังนั้น ควรตรวจสอบว่ารองเท้าถูกสวมใส่พอดีและผูกเชือกรองเท้าให้แน่นก่อนเริ่มทำงาน

ข้อแนะนำในการใช้รองเท้าเซฟตี้ในงานก่อสร้าง

1. เลือกใช้รองเท้าเซฟตี้ที่มีคุณสมบัติตรงตามมาตรฐาน

รองเท้าเซฟตี้ที่ใช้ในงานก่อสร้างควรได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยจากหน่วยงานที่เชื่อถือได้ เช่น มาตรฐานยุโรป (EN ISO 20345) หรือมาตรฐานญี่ปุ่น (JSAA) ซึ่งมาตรฐานเหล่านี้รับประกันได้ว่ารองเท้าเซฟตี้นั้นได้รับการทดสอบด้านความทนทาน การกันกระแทก การป้องกันของมีคม และการกันลื่นในสภาพแวดล้อมต่าง ๆ

2. เลือกใช้รองเท้าเซฟตี้ที่มีการป้องกันหลายชั้น

ในการทำงานก่อสร้าง ควรเลือกรองเท้าเซฟตี้ที่มีการป้องกันหลายชั้น เช่น หัวรองเท้าเหล็กหรือเรซินสำหรับการป้องกันการกระแทก พื้นรองเท้าที่เสริมด้วยวัสดุป้องกันการทิ่มแทง และพื้นรองเท้าดอกยางลึกที่สามารถกันลื่นได้ดี รองเท้ารูปแบบนี้จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยในสภาพแวดล้อมที่เสี่ยงสูง

3. การดูแลรักษารองเท้าเซฟตี้อย่างสม่ำเสมอ

หลังจากการใช้งาน ควรทำความสะอาดรองเท้าเซฟตี้เป็นประจำ และตรวจสอบว่าสภาพรองเท้ายังสมบูรณ์ดีหรือไม่ โดยเฉพาะในส่วนของพื้นรองเท้าและหัวรองเท้า หากพบว่ารองเท้ามีความเสียหาย ควรพิจารณาเปลี่ยนทันทีเพื่อรักษาความปลอดภัยในงานก่อสร้าง

4. สวมใส่รองเท้าเซฟตี้ให้พอดีและเหมาะสมกับลักษณะงาน

การสวมใส่รองเท้าที่พอดีกับเท้าและเหมาะสมกับลักษณะงานจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุได้ ควรเลือกขนาดรองเท้าที่ไม่เล็กหรือใหญ่เกินไป และเลือกชนิดของรองเท้าที่เหมาะสมกับลักษณะการทำงาน เช่น รองเท้ากันน้ำหรือรองเท้ากันสารเคมีในงานที่ต้องสัมผัสกับสารเหล่านี้

การเลือกสว่านกระแทกและเครื่องเจียรไฟฟ้าเพื่อความปลอดภัยสำหรับงานก่อสร้าง

นอกจากรองเท้าเซฟตี้แล้ว การเลือกเครื่องมือที่เหมาะสม เช่น สว่านกระแทก และ เครื่องเจียรไฟฟ้า ก็สำคัญไม่แพ้กันในงานก่อสร้าง 10 แบรนด์สว่านกระแทก เหมาะสำหรับการเจาะปูนหรือคอนกรีต ซึ่งจำเป็นต้องมีกำลังไฟสูงและสามารถปรับความเร็วรอบได้ตามความเหมาะสมของวัสดุ ในขณะที่ เครื่องเจียรไฟฟ้ายี่ห้อที่ดีที่สุด มักใช้สำหรับงานขัด เจียร และตัดวัสดุต่าง ๆ เช่น โลหะ หรือไม้ การเลือกเครื่องเจียรไฟฟ้าที่มีขนาดและกำลังไฟที่เหมาะสม จะช่วยให้การทำงานมีความราบรื่นและปลอดภัยมากขึ้น นอกจากนี้ การดูแลรักษาเครื่องมือหลังการใช้งานก็เป็นสิ่งที่ควรใส่ใจ เพื่อให้เครื่องมือใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพและยาวนาน

สรุปแล้ว การเลือกรองเท้าเซฟตี้ที่เหมาะสมสำหรับงานก่อสร้างและงานช่างทั่วไปไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ปฏิบัติงาน แต่ยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุจากสภาพแวดล้อมที่ท้าทาย การเลือกรองเท้าที่มีคุณสมบัติครบถ้วน เช่น การป้องกันแรงกระแทก การกันลื่น และการระบายอากาศที่ดี รวมถึงการดูแลรักษารองเท้าอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้รองเท้าเซฟตี้มีอายุการใช้งานยาวนานและคงประสิทธิภาพในการป้องกันอันตรายได้อย่างเต็มที่

คำถามที่พบบ่อย

1. รองเท้าเซฟตี้สำหรับงานก่อสร้างควรมีคุณสมบัติอะไรบ้าง?

รองเท้าเซฟตี้สำหรับงานก่อสร้างควรมีคุณสมบัติในการป้องกันแรงกระแทกที่หัวรองเท้า พื้นรองเท้าควรกันลื่นได้ดี มีความทนทานต่อการฉีกขาดและเสียดสี รวมถึงควรมีการระบายอากาศที่ดีเพื่อลดความอับชื้นขณะสวมใส่

2. ควรเปลี่ยนรองเท้าเซฟตี้เมื่อใด?

ควรเปลี่ยนรองเท้าเซฟตี้ทันทีเมื่อพบว่าพื้นรองเท้าสึกหรอหรือหัวรองเท้าเสียหาย รวมถึงหากรองเท้าสูญเสียความสามารถในการกันลื่นหรือมีรอยขาดที่อาจลดประสิทธิภาพในการป้องกัน

3. ทำไมการกันลื่นจึงสำคัญในรองเท้าเซฟตี้สำหรับงานก่อสร้าง?

การกันลื่นเป็นคุณสมบัติสำคัญในรองเท้าเซฟตี้ เนื่องจากสภาพแวดล้อมในงานก่อสร้างมักมีพื้นผิวเปียกหรือมัน ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงในการลื่นล้ม ดังนั้นรองเท้าควรมียางดอกลึกและออกแบบมาเพื่อยึดเกาะพื้นผิวที่หลากหลายได้ดี

4. วิธีการดูแลรักษารองเท้าเซฟตี้ให้ใช้งานได้นานมีอะไรบ้าง?

ควรทำความสะอาดรองเท้าเซฟตี้เป็นประจำ ป้องกันไม่ให้รองเท้าถูกน้ำหรือความชื้นนานเกินไป เก็บในที่แห้งและมีอากาศถ่ายเท รวมถึงตรวจสอบสภาพรองเท้าและเปลี่ยนทันทีเมื่อสึกหรอ

ผู้เขียน

หมวดหมู่ผลิตภัณฑ์

icon-Grey_1-อิเล็กทรอนิกส์

อิเล็กทรอนิกส์

icon-Grey_2-เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน

เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน

icon-Grey_3-แฟชั่นและเสื้อผ้า

แฟชั่นและเสื้อผ้า

icon-Grey_4-ความงามและสุขอนามัย

ความงามและสุขอนามัย

icon-Grey_5-สุขภาพและเวชภัณฑ์

สุขภาพและเวชภัณฑ์

icon-Grey_6-ของใช้ในบ้านและห้องครัว

ของใช้ในบ้านและห้องครัว

icon-Grey_7-อาหารและเครื่องดื่ม

อาหารและเครื่องดื่ม

icon-Grey_8-กีฬาและกิจกรรมกลางแจ้ง

กีฬาและกิจกรรมกลางแจ้ง

icon-Grey_9-ของเล่นและเกม

ของเล่นและเกม

icon-Grey_10-ยานยนต์

ยานยนต์

icon-Grey_11-ผลิตภัณฑ์สำหรับแม่และเด็ก

ผลิตภัณฑ์สำหรับแม่และเด็ก

icon-Grey_12-อุปกรณ์สำนักงาน

อุปกรณ์สำนักงาน

icon-Grey_13-อุปกรณ์สัตว์เลี้ยง

อุปกรณ์สัตว์เลี้ยง

icon-Grey_14-เฟอร์นิเจอร์และตกแต่งบ้าน

เฟอร์นิเจอร์และตกแต่งบ้าน

icon-Grey_15-อุปกรณ์ทำสวนและเกษตร

อุปกรณ์ทำสวนและเกษตร

icon-Grey_16-เครื่องดนตรีและการดนตรี

เครื่องดนตรีและการดนตรี

icon-Grey_17-เครื่องมือช่างและวัสดุก่อสร้าง

เครื่องมือช่างและวัสดุก่อสร้าง

icon-Grey_18-ศิลปะและงานฝีมือ

ศิลปะและงานฝีมือ

icon-Grey_19-งานปาร์ตี้และสันทนาการ

งานปาร์ตี้และสันทนาการ

icon-Grey_20-บรรจุภัณฑ์และการจัดเก็บ

บรรจุภัณฑ์และการจัดเก็บ

icon-Grey_21-สื่อและภาพยนต์

สื่อและภาพยนต์

icon-Grey_22-เครื่องจักรและอุตสาหกรรม

เครื่องจักรและอุตสาหกรรม

icon-Grey_7-อาหารและเครื่องดื่ม

อาหารและเครื่องดื่ม

icon-Grey_24-การท่องเที่ยวและอุปกรณ์การเดินทาง

ท่องเที่ยว/อุปกรณ์การเดินทาง

Scroll to Top