รอกตกปลา ยี่ห้อไหนดี ? คำถามนี้อาจอยู่ในใจของนักตกปลาหลายคน ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หรือมือโปร เพราะรอกตกปลาไม่ได้เป็นแค่เครื่องมือ แต่ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้การตกปลาประสบความสำเร็จ การตกปลาเป็นกิจกรรมที่เต็มไปด้วยความท้าทายและความสนุก และการมีรอกที่เหมาะสมกับวิธีการตกปลาจะช่วยเพิ่มโอกาสในการจับปลาได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ การดูแลรักษารอกตกปลาอย่างถูกต้องยังช่วยยืดอายุการใช้งาน ทำให้อุปกรณ์ของคุณอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานเสมอ
ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักกับรอกตกปลาประเภทต่าง ๆ พร้อมทั้งแนะนำวิธีเลือกซื้อและการดูแลรักษาแบบมืออาชีพ ไม่ว่าคุณจะเพิ่งเริ่มต้นเส้นทางของนักตกปลา หรือเป็นมือโปรที่กำลังมองหารอกตัวใหม่ ข้อมูลนี้จะช่วยให้คุณใช้อุปกรณ์ได้อย่างคุ้มค่าและเพิ่มความสนุกให้กับการตกปลาของคุณอย่างแน่นอน
หลักเกณฑ์ที่ใช้ในการจัดอันดับสินค้า
- วัสดุและความทนทาน: เราพิจารณาวัสดุที่ใช้ในการผลิต เช่น อลูมิเนียม กราไฟต์ หรือสแตนเลส เพราะวัสดุเหล่านี้ส่งผลต่อความแข็งแรงและอายุการใช้งานของรอก โดยเฉพาะเมื่อต้องใช้งานในสภาพแวดล้อมที่แตกต่าง เช่น น้ำจืดหรือน้ำเค็ม รวมถึงความสามารถในการต้านทานการกัดกร่อน
- ระบบการทำงานและประสิทธิภาพ: ระบบเบรก (Drag System) และอัตราทดเกียร์ (Gear Ratio) เป็นตัวชี้วัดสำคัญในเรื่องประสิทธิภาพของรอก เช่น ความราบรื่นในการหมุน ความแม่นยำในการดึงสาย และความสามารถในการรองรับแรงดึงที่มากขึ้นเมื่อเจอกับปลาขนาดใหญ่
- ความเหมาะสมกับการใช้งาน: รอกแต่ละประเภทถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการตกปลาที่แตกต่างกัน เราจึงพิจารณาความเหมาะสมกับการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการตกปลาขนาดเล็กในน้ำจืด การตกปลาขนาดกลางที่ชายฝั่ง หรือการตกปลาขนาดใหญ่ในทะเลลึก รวมถึงความสะดวกในการใช้งานสำหรับมือใหม่และมืออาชีพ
- น้ำหนักและการพกพา: น้ำหนักของรอกมีผลต่อความสะดวกสบายในการใช้งานระยะยาว รอกที่น้ำหนักเบาและสมดุลดีกับคันเบ็ดจะช่วยลดความเมื่อยล้า และเหมาะสำหรับการตกปลาในสถานการณ์ต่าง ๆ
- ราคาและความคุ้มค่า: เราเปรียบเทียบราคากับคุณสมบัติและคุณภาพของรอก เพื่อให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์ที่แนะนำนั้นคุ้มค่ากับการลงทุน และสามารถตอบโจทย์ผู้ใช้งานในทุกงบประมาณ
- รีวิวจากผู้ใช้งานจริง: ความคิดเห็นและประสบการณ์ของผู้ใช้งานจริงช่วยสะท้อนคุณภาพของรอกในสถานการณ์ที่หลากหลาย เรานำข้อมูลเหล่านี้มาประกอบการตัดสินใจ เพื่อให้เห็นถึงข้อดีและข้อเสียของแต่ละรุ่น
- แบรนด์และความน่าเชื่อถือ: เราคำนึงถึงชื่อเสียงของแบรนด์ในการผลิตรอกตกปลา รวมถึงมาตรฐานการรับประกันและบริการหลังการขาย เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ใช้งานจะได้รับสินค้าที่มีคุณภาพพร้อมการสนับสนุนที่ดี
- ความง่ายในการดูแลรักษา: การทำความสะอาดและบำรุงรักษารอกตกปลาเป็นสิ่งสำคัญ เราจึงประเมินความสะดวกในการดูแล เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถรักษารอกให้อยู่ในสภาพดีและใช้งานได้ยาวนาน
10 รอกตกปลา ยี่ห้อไหนดี ? รีวิวรุ่นยอดฮิตสำหรับมือใหม่และมือโปร
1. Shimano Stella
Shimano Stella คือรอกสปินนิ่งระดับพรีเมียมที่ผสานดีไซน์หรูหรา ความลื่นไหล และความทนทาน เพื่อประสิทธิภาพการตกปลาสูงสุด
ประเภทรอก | Spinning |
ระบบรอก | แมนนวล |
แรงเบรค | 9 กก. |
แรงลาก | 9 กก. |
ความจุสาย | 10/300 |
วัสดุหลัก | อะลูมิเนียม |
ข้อดี
- ดีไซน์หรูหรา แข็งแรงทนทาน พร้อมระบบลูกปืน 12+1 ที่ลื่นไหล
- รองรับแรงเบรกสูงสุดถึง 9 กิโลกรัม เหมาะสำหรับการตกปลาหนัก
- น้ำหนักเบา ใช้งานสะดวก พร้อมประกันศูนย์ไทย มั่นใจในคุณภาพ
ข้อควรพิจารณา
- ราคาสูงกว่าเมื่อเทียบกับรอกตกปลารุ่นทั่วไป
- อาจมีฟีเจอร์ที่เกินความจำเป็นสำหรับนักตกปลามือใหม่
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?
Shimano Stella เป็นรอกตกปลาระดับพรีเมียมที่มอบความลื่นไหล ทนทาน และน้ำหนักเบา พร้อมระบบฟันเกียร์และลูกปืน 12+1 ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานหนักและตอบโจทย์นักตกปลาทุกระดับอย่างสมบูรณ์แบบ2. Okuma AZORES
รอกตกปลา Okuma AZORES BLUE 2024 แข็งแรง ทนทาน รองรับแรงเบรกสูงสุด 20 กิโลกรัม พร้อมฟังก์ชันครบครันและดีไซน์สวยงามในราคาคุ้มค่า
ประเภทรอก | Spinning |
ระบบรอก | แมนนวล |
แรงเบรค | 13 – 20 กก. |
แรงลาก | 13 – 20 กก. |
ความจุสาย | 0.30/180, 0.35/135, 0.40/105 |
วัสดุหลัก | อะลูมิเนียม |
ข้อดี
- แข็งแรง ทนทาน ด้วยบอดี้อะลูมิเนียมเคลือบเทคนิคอะโนไดซ์
- รองรับแรงเบรกสูงสุดถึง 20 กิโลกรัม ด้วยระบบเบรก Dual Force
- มีให้เลือกหลายขนาด ตอบโจทย์การใช้งานทั้งในน้ำจืดและน้ำเค็ม
ข้อควรพิจารณา
- น้ำหนักอาจมากกว่ารอกรุ่นอื่นในช่วงราคาเดียวกัน
- อาจไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรอกน้ำหนักเบาสำหรับการใช้งานระยะยาว
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?
รอกตกปลา Okuma AZORES BLUE 2024 เป็นตัวเลือกที่ดีเยี่ยมเพราะให้ความแข็งแรง ทนทาน รองรับแรงเบรกสูงสุดถึง 20 กิโลกรัม พร้อมฟังก์ชันครบครันในราคาคุ้มค่า ตอบโจทย์ทั้งนักตกปลามือใหม่และมืออาชีพ3. Shimano Curado DC
Shimano Curado DC คือรอกตกปลาประสิทธิภาพสูง ดีไซน์กะทัดรัด พร้อมเทคโนโลยี DC System ที่ลื่นไหลและตอบโจทย์การใช้งานในทุกสภาพน้ำ
ประเภทรอก | Overhead |
ระบบรอก | ไฟฟ้า |
แรงเบรค | 5 กก. |
แรงลาก | 5 กก. |
ความจุสาย | 20/150, 30/135, 40/105 |
วัสดุหลัก | อะลูมิเนียม |
ข้อดี
- เทคโนโลยี DC System ให้การเหวี่ยงเบ็ดลื่นไหลและเสียงการทำงานที่เป็นเอกลักษณ์
- น้ำหนักเบาเพียง 220 กรัม พร้อมระบบเบรกที่รองรับน้ำหนักได้สูงสุดถึง 5 กิโลกรัม
- มีอัตราทดให้เลือกถึง 3 ระดับ เหมาะกับการตกปลาหลายรูปแบบ
ข้อควรพิจารณา
- รองรับการตกปลาขนาดกลางและขนาดเล็กเท่านั้น
- การเลือกซื้อขึ้นอยู่กับล็อตสินค้า อาจต้องตรวจสอบผู้ให้การรับประกัน
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?
Shimano Curado DC เป็นรอกตกปลาที่โดดเด่นด้วยเทคโนโลยี DC System ที่ให้ความลื่นไหลและเสียงการทำงานที่เป็นเอกลักษณ์ พร้อมดีไซน์กะทัดรัด ทนทาน และประสิทธิภาพสูง เหมาะสำหรับนักตกปลาทุกระดับในทุกสภาพน้ำ4. Daiwa Steez A TW HLC
Daiwa Steez A TW HLC คือรอกหยดน้ำระดับพรีเมียม น้ำหนักเบา แข็งแรง ทนทาน พร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัย เหมาะสำหรับงานตกปลาทุกประเภท
ประเภทรอก | Overhead |
ระบบรอก | แมนนวล |
แรงเบรค | 6 กก. |
แรงลาก | 6 กก. |
ความจุสาย | 16-100, 20-80 |
วัสดุหลัก | อะลูมิเนียม |
ข้อดี
- น้ำหนักเบาเพียง 190 กรัม ใช้งานสะดวกและไม่เมื่อยล้า
- เฟรมอะลูมิเนียมอัลลอยและแกน G1 Duralumin แข็งแรง ทนทานต่อการใช้งานหนัก
- ระบบเบรก MAG Z-BOOST ช่วยควบคุมการใช้งานอย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพ
ข้อควรพิจารณา
- ราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับรอกรุ่นอื่นในตลาด
- เหมาะสำหรับนักตกปลาที่มีประสบการณ์มากกว่าผู้เริ่มต้น
Daiwa Steez A TW HLC รอกหยดน้ำระดับพรีเมียมจาก Daiwa ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์นักตกปลามืออาชีพและผู้ที่มองหารอกที่รองรับงานหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยน้ำหนักเบาเพียง 190 กรัม แต่เปี่ยมด้วยความแข็งแรงจากเฟรมอะลูมิเนียมอัลลอยและแกนม้วนสาย G1 Duralumin ที่แข็งแกร่ง ทนต่อแรงกดและแรงดึงสูงสุดถึง 6 กิโลกรัม พร้อมระบบเบรก MAG Z-BOOST ที่ช่วยควบคุมความแม่นยำในการใช้งาน เพิ่มความสมูทด้วยเฟืองที่ออกแบบด้วยเทคโนโลยี HYPERDRIVE มาพร้อมลูกปืน 8+1 ตลับที่เพิ่มความลื่นไหลในทุกการหมุน มีให้เลือกทั้งรุ่นรอบ 6.3 และ 7.1 ที่เหมาะกับการใช้งานที่หลากหลาย และยังตอบสนองทั้งผู้ใช้งานมือซ้ายและมือขวา ด้วยดีไซน์ที่กะทัดรัดและสมดุลอย่างลงตัว ทำให้ Steez A TW HLC ไม่เพียงแค่เป็นรอกที่ดูโดดเด่น แต่ยังเป็นตัวเลือกที่เชื่อถือได้สำหรับการตกปลาทุกสถานการณ์ อีกทั้งยังมาพร้อมการรับประกันศูนย์ไทย 1 ปี สร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้งานอย่างแท้จริง
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?
Daiwa Steez A TW HLC เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับนักตกปลาที่ต้องการรอกที่มีน้ำหนักเบา แข็งแรง ทนทาน พร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัยที่ให้การใช้งานสมูทและแม่นยำ เหมาะกับงานหนักและทุกสภาพการตกปลา
5. PENN SLAMMER IV
รอกตกปลา PENN SLAMMER IV ผสานความทนทานขั้นสูง กันน้ำ IPX6 และระบบเบรกทรงพลัง เหมาะสำหรับการตกปลาทั้งน้ำจืดและน้ำทะเลในทุกสถานการณ์
ประเภทรอก | Spinning |
ระบบรอก | แมนนวล |
แรงเบรค | 27.20 กก. |
แรงลาก | 27.20 กก. |
ความจุสาย | 240/10, 220/15, 160/20 |
วัสดุหลัก | เหล็ก |
ข้อดี
- ทนทานต่อการใช้งานหนักด้วยบอดี้เหล็กและมาตรฐานกันน้ำ IPX6
- ระบบเบรก HT-100 คาร์บอนรองรับแรงเบรกสูงสุดถึง 22.6 กิโลกรัม
- มีรุ่นย่อยหลากหลายให้เลือกตามความต้องการ
ข้อควรพิจารณา
- ราคาสูงเมื่อเทียบกับรอกรุ่นอื่นในตลาด
- น้ำหนักมากขึ้นในรุ่นที่รองรับการตกปลาขนาดใหญ่
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?
รอกตกปลา PENN SLAMMER IV เป็นตัวเลือกที่ดีเยี่ยมสำหรับนักตกปลาที่ต้องการความทนทานสูงสุดและประสิทธิภาพการใช้งานที่มั่นใจได้ในทุกสภาพแวดล้อม ด้วยมาตรฐานกันน้ำ IPX6 วัสดุคุณภาพ และระบบเบรกทรงพลัง รองรับทั้งปลาน้ำจืดและน้ำทะเล6. POSEIDON 50SJ
รอกเบท POSEIDON รุ่น 50SJ คือรอกคาสติ้งทรงกลมสำหรับงานตกปลาหนัก รองรับแรงเบรกสูงถึง 25 กิโลกรัม ด้วยลูกปืนคุณภาพสูง ดีไซน์ทันสมัย และเหมาะสำหรับตกปลาทั้งน้ำจืดและน้ำเค็ม
ประเภทรอก | Baitcasting |
ระบบรอก | แมนนวล |
แรงเบรค | 25 กก. |
แรงลาก | 25 กก. |
ความจุสาย | PE2 390m / PE3 340m / PE4 280m |
วัสดุหลัก | อะลูมิเนียม |
ข้อดี
- รองรับแรงเบรกสูงถึง 25 กิโลกรัม เหมาะสำหรับงานตกปลาหนัก
- ใช้ลูกปืนสเตนเลสคุณภาพสูง 9+2 จาก Toyo พร้อมผ้าเบรกคาร์บอน HT100 เพิ่มความทนทานและประสิทธิภาพ
- มีน้ำหนักเบาเพียง 345 กรัม และมีดีไซน์ให้เลือกหลายสีทั้งหมุนซ้ายและหมุนขวา
ข้อควรพิจารณา
- เหมาะสำหรับงานตกปลาขนาดใหญ่ อาจไม่เหมาะกับงานเบาหรือปลาขนาดเล็ก
- ราคาจัดอยู่ในระดับกลาง อาจไม่เหมาะกับผู้ที่มองหารอกในงบประมาณจำกัด
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?
รอกเบท POSEIDON รุ่น 50SJ เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับนักตกปลาที่ต้องการความทนทานและประสิทธิภาพสูง ด้วยแรงเบรกที่มหาศาลถึง 25 กิโลกรัม ดีไซน์ทันสมัย น้ำหนักเบา และความจุสายหลากหลาย รองรับทั้งการตกปลาน้ำจืดและน้ำเค็มได้อย่างมีประสิทธิภาพ7. ABU Garcia MAX4 PRO
รอกเบท ABU Garcia MAX PRO เป็นรอกหยดน้ำดีไซน์ล้ำสมัย แข็งแรง น้ำหนักเบา พร้อมเทคโนโลยีที่ช่วยให้ใช้งานง่ายและตีสายได้ไกล เหมาะสำหรับนักตกปลาทุกระดับ
ประเภทรอก | Baitcasting |
ระบบรอก | แมนนวล |
แรงเบรค | 6.80 กก. |
แรงลาก | 6.80 กก. |
ความจุสาย | 155/20, 120/30, 80/50 |
วัสดุหลัก | อะลูมิเนียม / แกรไฟต์ |
ข้อดี
- ดีไซน์ทันสมัย แข็งแรงทนทาน ผลิตจากวัสดุแกรไฟต์น้ำหนักเบา
- ระบบเบรก Power Disk Drag และผ้าเบรกคาร์บอนช่วยหยุดสายได้มั่นคง
- ระบบแม่เหล็กหน่วงสปูล MaxTrac ช่วยให้ตีสายได้ไกลและควบคุมง่าย
ข้อควรพิจารณา
- รองรับการจุสายได้ในปริมาณจำกัดเมื่อเทียบกับรอกขนาดใหญ่
- อาจไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานในน้ำเค็มหรือสภาพแวดล้อมที่สมบุกสมบันมาก
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?
รอกเบท ABU Garcia MAX PRO เป็นตัวเลือกที่ดีเยี่ยมเพราะผสานดีไซน์ทันสมัยกับความแข็งแรงทนทาน พร้อมด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยที่ช่วยให้ตีสายได้ไกลและควบคุมง่าย เหมาะสำหรับนักตกปลาทุกระดับที่ต้องการอุปกรณ์คุณภาพสูงในราคาที่คุ้มค่า8. WEEBASS CD 100/101
รอกตกปลา WEEBASS รุ่น CD 100/101 โดดเด่นด้วยดีไซน์คลาสสิก วัสดุแข็งแรงทนทาน ระบบขับเคลื่อนแม่นยำ และรองรับการตกปลาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ประเภทรอก | Baitcasting |
ระบบรอก | แมนนวล |
แรงเบรค | 5.40 กก. |
แรงลาก | 5.40 กก. |
ความจุสาย | 8lb/140yds, 10lb/120yds, 12lb/102yds |
วัสดุหลัก | อะลูมิเนียม |
ข้อดี
- ดีไซน์คลาสสิกและวัสดุแข็งแรงทนทาน เช่น สเตนเลสสตีลและอะลูมิเนียม
- ระบบเบรกไฮคาร์บอนที่นุ่มนวลและรองรับแรงกระชากได้ดี
- น้ำหนักเบาเพียง 250 กรัม ใช้งานสะดวกและพกพาง่าย
ข้อควรพิจารณา
- เป็นรอกแบบ Baitcasting ที่ต้องใช้เทคนิคในการใช้งาน อาจไม่เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น
- ไม่มีเสียงกิ๊กในรุ่นสีเงิน ซึ่งอาจไม่ตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการเสียงระหว่างการใช้งาน
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?
รอกตกปลา WEEBASS รุ่น CD 100/101 เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการอุปกรณ์ตกปลาคุณภาพสูง ด้วยวัสดุที่แข็งแรง ดีไซน์สวยงาม และระบบขับเคลื่อนที่แม่นยำ ช่วยให้การตกปลามีประสิทธิภาพและราบรื่นยิ่งขึ้น9. KastKing Zephyr
KastKing Zephyr รอกฟลายรุ่นท็อปคุณภาพสูงจาก Ross มาพร้อมระบบเบรกทรงพลัง น้ำหนักเบา และวัสดุทนทาน เหมาะสำหรับการตกปลาทั้งน้ำจืดและน้ำทะเล
ประเภทรอก | Spinning |
ระบบรอก | BFS |
แรงเบรค | 4.5 กก. |
แรงลาก | 4.5 กก. |
ความจุสาย | 0.165 มม. 70 ม. 0.205 มม. 60 ม. 0.235 มม. 50 ม. |
วัสดุหลัก | คาร์บอนไฟเบอร์ |
ข้อดี
- ระบบเบรกทรงพลังและปรับได้อย่างแม่นยำ เหมาะสำหรับเหยื่อขนาดเล็กและใหญ่
- วัสดุอะลูมิเนียมเกรดพรีเมียม แข็งแรง น้ำหนักเบา ทนต่อการใช้งานหนัก
- รองรับการตกปลาในน้ำจืดและน้ำทะเล พร้อมดีไซน์สวยงามและทนทาน
ข้อควรพิจารณา
- ราคาสูงเมื่อเทียบกับรุ่นทั่วไปในตลาด
- การปรับระบบอาจต้องใช้เวลาเรียนรู้สำหรับผู้เริ่มต้นใช้งาน
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?
รอกฟลายรุ่นนี้โดดเด่นด้วยระบบเบรกที่ทรงพลัง น้ำหนักเบา และวัสดุคุณภาพสูง ทนทานต่อการใช้งานทั้งน้ำจืดและน้ำทะเล เหมาะสำหรับนักตกปลาที่ต้องการประสิทธิภาพและความแม่นยำในทุกสถานการณ์10. ZERO BG15
ZERO BG15 รอกสปินนิ่งบอดี้อะลูมิเนียมสีทอง แข็งแรงทนทาน พร้อมลูกปืน 5+1 ตลับ เหมาะสำหรับตกปลาทั้งในแหล่งน้ำธรรมชาติและบ่อตกปลา
ประเภทรอก | Spinning |
ระบบรอก | แมนนวล |
แรงเบรค | 4.5 กก. |
แรงลาก | 4.5 กก. |
ความจุสาย | 6lb-370m / 8lb-250m / 10lb – 175m / 12lb – 135m / 14lb – 110m |
วัสดุหลัก | อะลูมิเนียม |
ข้อดี
- บอดี้อลูมิเนียมแข็งแรงทนทาน ใช้งานได้ยาวนาน
- ลูกปืน 5+1 ตลับ ช่วยเพิ่มความลื่นไหลและประสิทธิภาพในการใช้งาน
- ดีไซน์สีทองพรีเมียม เพิ่มความหรูหราและโดดเด่น
ข้อควรพิจารณา
- สีทองมีเฉพาะในรุ่น BG15 เท่านั้น
- น้ำหนักรอกอาจไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการอุปกรณ์เบาเป็นพิเศษ
ZERO BG15 รอกตกปลาแบบสปินนิ่งในตำนานที่ได้รับการยกย่องจากนักตกปลามืออาชีพและมือสมัครเล่น ด้วยคุณสมบัติเด่นด้านความแข็งแรงและความทนทาน บอดี้อลูมิเนียมทั้งตัวที่ผ่านการออกแบบอย่างพิถีพิถัน ให้ความหรูหราด้วยสีทองพรีเมียมซึ่งมีเฉพาะในรุ่น BG15 เท่านั้น มาพร้อมลูกปืนคุณภาพสูง 5 ตลับและลูกปืนกันกลับอีก 1 ตลับ มอบประสิทธิภาพที่เหนือระดับในทุกการใช้งาน รองรับการตกปลาทั้งในแหล่งน้ำธรรมชาติและบ่อตกปลา ด้วยความจุสายที่หลากหลาย รองรับตั้งแต่ 6lb ถึง 14lb ในรุ่น BG15 จึงเหมาะสำหรับนักตกปลาที่ต้องการความอเนกประสงค์และสมรรถนะที่เชื่อถือได้ น้ำหนักเพียง 415 กรัม ช่วยลดความเมื่อยล้าในการใช้งานระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นการตกปลาแบบจริงจังหรือการพักผ่อนในวันหยุด ZERO BG15 พร้อมเติมเต็มทุกความต้องการของนักตกปลาด้วยความลงตัวระหว่างดีไซน์และคุณภาพ
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?
ZERO BG15 เป็นรอกตกปลาที่ผสานความแข็งแกร่ง ทนทาน และดีไซน์หรูหราในสีทองพรีเมียม พร้อมสมรรถนะสูงด้วยลูกปืน 5+1 ตลับ ใช้งานได้ทั้งในแหล่งน้ำธรรมชาติและบ่อตกปลา เหมาะสำหรับนักตกปลาทุกระดับที่ต้องการอุปกรณ์คุณภาพในราคาคุ้มค่า
ทำความรู้จักกับ รอกตกปลา ประเภทต่าง ๆ
1. รอกเบส (Baitcasting Reel)
รอกเบส เป็นรอกที่มีความแม่นยำสูง เหมาะสำหรับการตกปลาที่ต้องการความแม่นยำและการควบคุมที่ดี เช่น การตกปลาตามแนวไม้ หิน หรือพื้นที่ซับซ้อน
- ข้อดี: รอกเบสมีความแม่นยำในการโยนเหยื่อสูง รองรับสายเบ็ดที่มีแรงดึงสูง และเหมาะสำหรับตกปลาขนาดใหญ่หรือปลานักล่า เช่น ปลากะพงและปลาชะโด
- ข้อเสีย: การใช้งานยากสำหรับมือใหม่ เนื่องจากต้องปรับความตึงของสายให้เหมาะสม หากปรับไม่ดีอาจเกิดสายพันกันได้ง่าย (“Backlash”)
- การใช้งานที่เหมาะสม: เหมาะสำหรับการตกปลาในน้ำจืด เช่น แม่น้ำหรือบึง โดยเฉพาะนักตกปลาที่มีประสบการณ์หรือผู้ที่ต้องการความแม่นยำ
2. รอกสปินนิ่ง (Spinning Reel)
รอกสปินนิ่ง เป็นรอกที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในกลุ่มนักตกปลา โดยเฉพาะมือใหม่ เนื่องจากใช้งานง่ายและไม่ซับซ้อน
- ข้อดี: รอกสปินนิ่งใช้งานง่าย ไม่ต้องปรับแต่งมาก เหมาะสำหรับการตกปลาขนาดเล็กถึงกลาง และสามารถใช้เหยื่อเบาได้ดี เช่น เหยื่อปลอม
- ข้อเสีย: ไม่เหมาะกับการตกปลาที่ต้องการแรงดึงสูง และมีอายุการใช้งานที่สั้นกว่ารอกประเภทอื่นในบางรุ่น
- การใช้งานที่เหมาะสม: ใช้ได้ทั้งในน้ำจืดและน้ำเค็ม เช่น ทะเลสาบหรือชายฝั่ง เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นหรือผู้ที่ต้องการอุปกรณ์ที่ใช้งานง่าย
3. รอกทรอลลิ่ง (Trolling Reel)
รอกทรอลลิ่ง ถูกออกแบบมาเพื่อการตกปลาขณะเรือเคลื่อนที่ เหมาะสำหรับการตกปลาขนาดใหญ่ในน้ำลึก เช่น ทูน่า หรือมาร์ลิน
- ข้อดี: รอกทรอลลิ่งทนทานและรองรับสายเบ็ดขนาดใหญ่ เหมาะสำหรับการตกปลาที่ต้องการแรงดึงสูง และมีระบบลากสาย (Drag System) ที่มีประสิทธิภาพสูง
- ข้อเสีย: มีน้ำหนักมากและขนาดใหญ่ ใช้งานเฉพาะในสถานการณ์ที่ต้องการการลากสายเท่านั้น
- การใช้งานที่เหมาะสม: ใช้สำหรับการตกปลาในทะเลลึกหรือมหาสมุทร และการตกปลาขณะเรือเคลื่อนที่อย่างช้า ๆ
4. รอกฟลาย (Fly Fishing Reel)
รอกฟลาย เป็นรอกที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับการตกปลาแบบฟลาย ซึ่งใช้เหยื่อเบาและเทคนิคการควบคุมสายเบ็ดเป็นหลัก
- ข้อดี: รอกฟลายเหมาะสำหรับการตกปลาบริเวณน้ำตื้น เช่น ลำธาร ใช้เทคนิคการควบคุมสายที่นุ่มนวล
- ข้อเสีย: ใช้งานยากสำหรับผู้เริ่มต้น และต้องการทักษะเฉพาะในการควบคุม
- การใช้งานที่เหมาะสม: เหมาะสำหรับการตกปลาในน้ำจืด เช่น แม่น้ำหรือลำธาร และสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการตกปลาแบบดั้งเดิม
มือใหม่ต้องรู้ วิธีเลือกซื้อรอกตกปลาอย่างไรให้คุ้มค่า
1. เลือกวัสดุที่ทนทาน
วัสดุที่ใช้ผลิตรอกตกปลามีผลต่อความแข็งแรงและอายุการใช้งาน โดยทั่วไปแล้ว รอกตกปลามักทำจาก:- อลูมิเนียม: มีความแข็งแรง ทนทานต่อการกัดกร่อน เหมาะสำหรับตกปลาในน้ำเค็ม
- กราไฟต์: น้ำหนักเบา ทนทานปานกลาง แต่เหมาะสำหรับตกปลาในน้ำจืดหรือการใช้งานที่ไม่หนักเกินไป
- สแตนเลส: มีความทนทานสูงสุด แต่ราคามักสูงกว่าวัสดุอื่น
2. พิจารณาขนาดและน้ำหนัก
ขนาดและน้ำหนักของรอกตกปลาควรสอดคล้องกับประเภทปลาที่คุณต้องการตก รวมถึงความถนัดในการใช้งาน:- รอกขนาดเล็ก: เหมาะสำหรับปลาขนาดเล็กในน้ำจืด เช่น ปลานิล หรือปลาตะเพียน
- รอกขนาดกลาง: ใช้สำหรับปลาขนาดกลาง เช่น ปลากะพงขาว หรือปลาช่อน
- รอกขนาดใหญ่: สำหรับปลาขนาดใหญ่ในน้ำเค็ม เช่น ปลาทูน่า หรือปลากะมง การเลือกน้ำหนักควรคำนึงถึงความสะดวกในการถือใช้งานเป็นเวลานาน น้ำหนักเบาจะช่วยลดความเมื่อยล้าได้
3. ระบบเบรก (Drag System)
ระบบเบรกเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่มือใหม่ควรใส่ใจ ระบบเบรกที่ดีช่วยให้คุณควบคุมการดึงสายและป้องกันสายขาดเมื่อปลาดิ้นแรง:- เลือกรอกที่มีระบบเบรกแบบ Smooth Drag เพื่อการควบคุมที่ราบรื่น
- ตรวจสอบแรงดึงสูงสุด (Maximum Drag) ให้เหมาะสมกับขนาดปลาเป้าหมาย
4. อัตราทดเกียร์ (Gear Ratio)
อัตราทดเกียร์บ่งบอกถึงความเร็วในการหมุนสาย:- อัตราทดต่ำ (4.5:1 หรือต่ำกว่า): เหมาะสำหรับการตกปลาขนาดใหญ่ที่ต้องการแรงหมุนสูง
- อัตราทดกลาง (5.1:1 ถึง 6.4:1): ใช้งานได้หลากหลาย
- อัตราทดสูง (6.5:1 ขึ้นไป): เหมาะสำหรับการตกปลาที่ต้องการความเร็ว เช่น ปลาที่ว่ายน้ำเร็ว
5. ตั้งงบประมาณ
การตั้งงบประมาณเป็นสิ่งที่สำคัญ โดยเฉพาะสำหรับมือใหม่ที่ยังไม่แน่ใจว่าจะใช้งานรอกตกปลาบ่อยเพียงใด:- งบประมาณต่ำกว่า 1,000 บาท: เหมาะสำหรับมือใหม่ที่ต้องการลองเริ่มต้น อาจเลือกซื้อรอกสปินนิ่งราคาย่อมเยา
- งบประมาณ 1,000-3,000 บาท: เหมาะสำหรับนักตกปลาทั่วไป ที่ต้องการรอกคุณภาพดีและใช้งานได้หลากหลาย
- งบประมาณ 3,000 บาทขึ้นไป: สำหรับนักตกปลาที่จริงจังและต้องการอุปกรณ์ที่มีความทนทานสูง
6. อุปกรณ์เสริมที่ควรรู้จักสำหรับนักตกปลา
การตกปลาเป็นกิจกรรมที่ต้องเตรียมอุปกรณ์หลากหลายเพื่อความสะดวกสบายและปลอดภัย หนึ่งในอุปกรณ์ที่สำคัญสำหรับนักตกปลามือใหม่คือการเลือก ไฟฉายแรงสูง แบรนด์ดัง เพราะไฟฉายแรงสูงช่วยให้การตกปลาช่วงกลางคืนหรือในพื้นที่แสงน้อยเป็นไปได้ง่ายขึ้น มีความสามารถในการให้แสงสว่างครอบคลุมพื้นที่กว้างและปรับระดับความสว่างได้ตามต้องการ โดยควรเลือกไฟฉายที่มีคุณสมบัติทนทานต่อการกระแทก กันน้ำ และใช้แบตเตอรี่ที่มีอายุการใช้งานยาวนาน นอกจากไฟฉายแรงสูงแล้ว ยังควรพกถุงนอนหรือ 10 แบรนด์เก้าอี้สนาม หากวางแผนค้างคืนริมฝั่งน้ำเพื่อความสะดวกสบายและลดความเมื่อยล้าจากการนั่งนาน ๆ การมีอุปกรณ์ที่ครบถ้วนจะช่วยให้นักตกปลามือใหม่เพลิดเพลินกับกิจกรรมได้เต็มที่และปลอดภัยยิ่งขึ้น!วิธีบำรุงรักษารอกตกปลาให้ใช้งานได้นาน
1. ทำความสะอาดหลังการใช้งาน
รอกตกปลาควรได้รับการทำความสะอาดทุกครั้งหลังใช้งาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้งานในน้ำเค็ม เนื่องจากน้ำเค็มอาจทำให้รอกเกิดการกัดกร่อนหรือเสียหายได้ง่าย- ล้างด้วยน้ำสะอาด: ใช้สายยางหรือผ้าชุบน้ำสะอาดเช็ดล้างคราบเกลือและสิ่งสกปรกที่ติดอยู่บนรอก หลีกเลี่ยงการใช้น้ำแรงดันสูงเพราะอาจทำให้น้ำเข้าไปในส่วนกลไก
- หลีกเลี่ยงการแช่น้ำ: การแช่รอกในน้ำอาจทำให้น้ำซึมเข้าไปในชิ้นส่วนภายในและส่งผลให้เกิดสนิม
- เช็ดให้แห้ง: หลังล้างน้ำควรใช้ผ้านุ่มเช็ดให้แห้งสนิท เพื่อลดความชื้นที่อาจสะสมและนำไปสู่การกัดกร่อน
2. การหล่อลื่นรอกตกปลา
การหล่อลื่นเป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้รอกทำงานได้อย่างราบรื่นและลดการสึกหรอของชิ้นส่วนภายใน- เลือกใช้น้ำมันหล่อลื่นคุณภาพดี: น้ำมันสำหรับรอกตกปลาควรเป็นชนิดที่มีความบางเบาและไม่ทำลายวัสดุ เช่น น้ำมันซิลิโคนหรือน้ำมันเฉพาะสำหรับรอก
- จุดที่ควรหล่อลื่น: หยอดน้ำมันเล็กน้อยในบริเวณเฟือง หมุนวงล้อ และจุดหมุนต่าง ๆ
- ระวังอย่าใช้มากเกินไป: การใช้น้ำมันมากเกินไปอาจทำให้เกิดคราบเหนียวสะสมในระยะยาว
3. ตรวจสอบและเปลี่ยนชิ้นส่วนเมื่อจำเป็น
รอกตกปลาที่ใช้งานมานานอาจมีบางชิ้นส่วนที่สึกหรอ เช่น ลูกปืน เฟือง หรือสายเบรก ควรตรวจสอบและเปลี่ยนใหม่เมื่อพบปัญหา- ตรวจสอบสายเบรก (Drag System): หากระบบเบรกไม่แน่นหรือมีเสียงผิดปกติ อาจต้องปรับตั้งหรือเปลี่ยนชุดเบรกใหม่
- เปลี่ยนลูกปืนที่เสื่อมสภาพ: ลูกปืนที่มีเสียงดังหรือหมุนไม่ลื่นควรถูกเปลี่ยนเพื่อรักษาประสิทธิภาพของรอก
4. การจัดเก็บรอกตกปลา
การเก็บรักษารอกตกปลาอย่างถูกต้องช่วยลดความเสียหายและยืดอายุการใช้งานได้อย่างมาก- เก็บในที่แห้ง: รอกตกปลาควรเก็บในพื้นที่ที่ไม่มีความชื้น เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดสนิม
- ใส่กล่องเก็บเฉพาะ: ใช้กล่องหรือซองเก็บรอกที่มีวัสดุกันกระแทก เพื่อป้องกันการกระแทกและรอยขีดข่วน
- คลายสายก่อนเก็บ: ก่อนเก็บรอก ควรปล่อยสายเบ็ดให้คลายออกเล็กน้อยเพื่อลดแรงตึงที่อาจทำให้ระบบเบรกเสียหาย
5. หลีกเลี่ยงการสัมผัสสารเคมี
หลีกเลี่ยงการใช้งานรอกตกปลาในบริเวณที่มีสารเคมี เช่น น้ำมันเชื้อเพลิง หรือสารละลายที่อาจทำลายวัสดุของรอก6. การบำรุงรักษารอกประจำปี
นอกจากการดูแลหลังการใช้งาน ควรส่งรอกตกปลาไปบำรุงรักษาโดยผู้เชี่ยวชาญอย่างน้อยปีละครั้ง เพื่อทำความสะอาดภายในและตรวจสอบระบบทั้งหมดสรุปแล้ว การเลือกใช้และดูแลรักษา รอกตกปลา ยี่ห้อไหนดี อย่างถูกวิธี เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการตกปลาและยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ รอกตกปลามีหลายประเภท ทั้งรอกเบส รอกสปินนิ่ง รอกทรอลลิ่ง และรอกฟลาย ซึ่งแต่ละแบบเหมาะกับสไตล์การตกปลาที่แตกต่างกัน การเลือกซื้อรอกควรคำนึงถึงวัสดุ ขนาด น้ำหนัก ระบบเบรก อัตราทดเกียร์ และงบประมาณ เพื่อให้เหมาะสมกับความต้องการและการใช้งานของคุณ
นอกจากนี้ การดูแลรักษารอกตกปลา เช่น การทำความสะอาดหลังใช้งาน การหล่อลื่น และการเก็บรักษาในที่ที่เหมาะสม จะช่วยให้รอกของคุณอยู่ในสภาพดีพร้อมใช้งานไปอีกหลายปี ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่หรือมือโปร การใส่ใจในรายละเอียดเหล่านี้จะทำให้การตกปลาของคุณสนุกและเต็มไปด้วยประสบการณ์ที่น่าจดจำ
คำถามที่พบบ่อย
1. รอกตกปลาประเภทไหนเหมาะสำหรับมือใหม่?
รอกสปินนิ่ง (Spinning Reel) เหมาะสำหรับมือใหม่ที่สุด เพราะใช้งานง่าย ไม่ต้องปรับแต่งมาก และเหมาะสำหรับตกปลาขนาดเล็กถึงกลาง ทั้งในน้ำจืดและน้ำเค็ม นอกจากนี้ยังสามารถใช้ร่วมกับเหยื่อเบาได้ดี เช่น เหยื่อปลอม
2. ควรเลือกวัสดุของรอกตกปลาแบบไหนดี?
การเลือกวัสดุขึ้นอยู่กับประเภทการตกปลา อลูมิเนียมมีความแข็งแรงและทนต่อการกัดกร่อน เหมาะสำหรับตกปลาในน้ำเค็ม กราไฟต์มีน้ำหนักเบาและเหมาะสำหรับการใช้งานในน้ำจืด ส่วนสแตนเลสมีความทนทานสูงสุด เหมาะสำหรับการตกปลาที่ต้องใช้งานหนักในน้ำลึก
3. จำเป็นต้องทำความสะอาดรอกตกปลาบ่อยแค่ไหน?
ควรทำความสะอาดรอกตกปลาทุกครั้งหลังการใช้งาน โดยเฉพาะเมื่อตกปลาในน้ำเค็ม เพื่อป้องกันการกัดกร่อนจากคราบเกลือ ควรล้างด้วยน้ำสะอาด เช็ดให้แห้ง และหล่อลื่นในจุดหมุนต่าง ๆ เพื่อรักษาประสิทธิภาพของรอก
4. วิธีเก็บรักษารอกตกปลาให้ใช้งานได้นานควรทำอย่างไร?
เก็บรอกตกปลาในที่แห้งและไม่มีความชื้น เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดสนิม ใช้กล่องเก็บที่มีวัสดุกันกระแทก และปล่อยสายเบ็ดให้คลายออกเล็กน้อยก่อนเก็บ เพื่อป้องกันความเสียหายต่อระบบเบรกและสายเบ็ดในระยะยาว