10 ยากําจัดเห็บหมัดสุนัข ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 ที่ปลอดภัยกับสัตว์เลี้ยง

COVER-605-ยากําจัดเห็บหมัดสุนัข

เห็บหมัดเป็นปัญหาที่เจ้าของสุนัขต้องเจออยู่บ่อย ๆ ถ้าปล่อยไว้ ไม่ใช่แค่ทำให้น้องคันหรือรำคาญใจเท่านั้น แต่ยังอาจเป็นพาหะนำโรค หรือทำให้เกิดการติดเชื้อทางผิวหนังได้ การเลือกยากำจัดเห็บหมัดที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะแต่ละตัวมีรูปแบบการใช้งานและส่วนผสมที่แตกต่างกัน บางตัวใช้แบบหยด บางตัวเป็นยาเม็ด บางตัวออกฤทธิ์ได้นานหลายเดือน บางตัวเน้นกำจัดเห็บหมัดอย่างรวดเร็ว บทความนี้จะช่วยให้การเลือกง่ายขึ้น ด้วยการแนะนำ 10 ยากําจัดเห็บหมัดสุนัข ยี่ห้อไหนดี ที่ปลอดภัยกับสัตว์เลี้ยง ที่ได้รับความนิยม พร้อมข้อมูลที่ต้องรู้ เช่น ปริมาณ รูปแบบยา และส่วนผสม นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลเกี่ยวกับส่วนผสมสำคัญในยากำจัดเห็บหมัด เทคนิคป้องกันเห็บหมัดนอกเหนือจากการใช้ยา และข้อดีข้อเสียของยาแบบกินและแบบหยด เพื่อให้เจ้าของเลือกสิ่งที่เหมาะกับน้องหมาที่สุด เพราะสุขภาพของสุนัขเป็นเรื่องสำคัญ และการดูแลอย่างถูกต้องจะช่วยให้น้องมีชีวิตที่สบายและปลอดภัยจากเห็บหมัดมากขึ้น

หลักเกณฑ์ที่ใช้ในการจัดอันดับสินค้า

  • ประสิทธิภาพของยา: ยากำจัดเห็บหมัดที่ดีต้องสามารถฆ่าเห็บหมัดได้อย่างมีประสิทธิภาพและป้องกันการกลับมาติดซ้ำได้ ยาบางชนิดออกฤทธิ์ได้นาน 1 เดือน ในขณะที่บางชนิดสามารถป้องกันได้นาน 2-3 เดือน การออกฤทธิ์ที่ยาวนานช่วยลดภาระของเจ้าของในการให้ยา ยาที่ดีต้องสามารถกำจัดเห็บหมัดได้ครบทุกระยะ ทั้งตัวเต็มวัย ตัวอ่อน และไข่ เพื่อป้องกันการแพร่พันธุ์และกลับมาติดใหม่ นอกจากนี้ เราพิจารณาจากรีวิวของผู้ใช้จริงและผลการทดลองทางสัตวแพทย์ เพื่อให้แน่ใจว่ายาทำงานได้ตามที่โฆษณา
  • ความปลอดภัยต่อสุนัข: สุขภาพของสุนัขเป็นสิ่งสำคัญ ยากำจัดเห็บหมัดต้องไม่มีผลข้างเคียงที่รุนแรงและปลอดภัยต่อสุนัขทุกขนาด เราดูส่วนผสมหลักของยา โดยพิจารณาว่ามีสารที่อาจก่อให้เกิดการแพ้หรือระคายเคืองหรือไม่ เช่น ฟิโพรนิล ไอเวอร์เมกติน หรือไอโซไซอะไซน์ ซึ่งบางสายพันธุ์อาจแพ้ได้ นอกจากนี้ เรายังพิจารณาว่าผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น เช่น อาการคัน ผื่น หรืออาเจียน มีอัตราการเกิดต่ำหรือไม่ รวมถึงการได้รับการรับรองจากหน่วยงานด้านสัตวแพทย์
  • ความสะดวกในการใช้: เจ้าของสุนัขแต่ละคนมีความสะดวกในการใช้ยาต่างกัน เราจึงพิจารณาว่ายากำจัดเห็บหมัดใช้งานง่ายเพียงใด ยามีหลายรูปแบบ เช่น แบบหยดที่ใช้โดยการหยดลงบริเวณต้นคอหรือกลางหลัง แบบกินที่ต้องให้สุนัขกินเข้าไปโดยตรง และแบบสเปรย์ที่ต้องฉีดพ่นให้ทั่วตัว ข้อจำกัดหลังใช้ยาก็เป็นปัจจัยสำคัญ เช่น ยาหยดอาจต้องหลีกเลี่ยงการอาบน้ำภายใน 48 ชั่วโมงหลังใช้ ในขณะที่ยาแบบกินไม่มีข้อจำกัดเรื่องน้ำ การให้ยาง่ายหรือยากก็มีผลต่อการเลือกใช้ เช่น หากสุนัขไม่ยอมกินยาเม็ด อาจต้องเลือกใช้แบบหยดแทน
  • ความคุ้มค่า: การเลือกยากำจัดเห็บหมัดต้องคำนึงถึงความคุ้มค่าระหว่างราคาและประสิทธิภาพ เราพิจารณาว่ายามีราคาสมเหตุสมผลหรือไม่ เมื่อเทียบกับปริมาณและระยะเวลาออกฤทธิ์ ยาที่มีราคาสูงกว่าแต่สามารถป้องกันเห็บหมัดได้นานกว่าหรือมีประสิทธิภาพดีกว่า อาจเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่ากว่ายาที่ราคาถูกแต่ต้องใช้บ่อย นอกจากนี้ เรายังพิจารณาคุณภาพโดยอิงจากรีวิวของผู้ใช้จริงและข้อมูลจากสัตวแพทย์ เพื่อให้แน่ใจว่ายาที่แนะนำให้มีคุณภาพเหมาะสมกับราคาที่จ่ายไป

1. Frontguard

1 FRONTLINE PLUS CAT

Frontguard เป็นยาหยดกำจัดเห็บหมัดสำหรับสุนัขที่มีส่วนผสมของสารฟิโพรนิลและเอส-เมโทพรีน ออกฤทธิ์นาน 1 เดือน ใช้ได้กับสุนัขอายุ 8 สัปดาห์ขึ้นไป และยังคงมีประสิทธิภาพแม้หลังอาบน้ำ

ปริมาณ 0.67 มล.
รูปแบบยา แบบยาหยอด
ส่วนผสม สารฟิโพรนิล, เอส – เมโทพรีน

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

Frontguard เป็นยาหยดกำจัดเห็บหมัดสำหรับสุนัขที่มีปริมาณสุทธิ 0.67 มิลลิลิตร ประกอบด้วยสารฟิโพรนิลและเอส-เมโทพรีน ซึ่งช่วยกำจัดเห็บหมัดได้ครบวงจรตั้งแต่ระยะไข่ ตัวอ่อน จนถึงตัวเต็มวัย มีประสิทธิภาพนาน 1 เดือน และสามารถใช้งานกับสุนัขที่มีอายุ 8 สัปดาห์ขึ้นไป โดยวิธีใช้คือหยดผลิตภัณฑ์ลงบนผิวหนังของสุนัข 1 ตัว จนหมด 1 หลอด ควรใช้เป็นประจำทุกเดือนเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของหมัด ตัวยาเริ่มออกฤทธิ์ภายใน 24 ชั่วโมงและยังคงมีประสิทธิภาพแม้สุนัขจะอาบน้ำ โดยสารฟิโพรนิลจะสะสมอยู่ในน้ำมันบนผิวหนังและรูขุมขน แล้วค่อยๆ ปล่อยออกมาเพื่อเคลือบเส้นขน คำเตือนในการใช้รวมถึงห้ามรับประทาน ระวังไม่ให้ตัวยาเข้าตา จมูก ปาก หรือหูด้านในของสุนัข และไม่ควรใช้กับสุนัขที่ป่วย อ่อนแอ กำลังตั้งท้อง หรือให้นมลูก นอกจากนี้ควรสวมถุงมือขณะใช้ผลิตภัณฑ์และล้างมือให้สะอาดหลังใช้งาน หลอดบรรจุที่ใช้หมดแล้วควรทิ้งอย่างเหมาะสมเพื่อหลีกเลี่ยงการปนเปื้อนต่อแหล่งน้ำ ราคาอยู่ที่ 79 บาท และสามารถหาซื้อได้จากแพลตฟอร์มออนไลน์เช่น Lazada และ Shopee

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

Frontguard เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการกำจัดเห็บหมัดสุนัขเพราะสามารถกำจัดได้ครบวงจรตั้งแต่ระยะไข่จนถึงตัวเต็มวัย และออกฤทธิ์ยาวนาน 1 เดือนโดยยังคงมีประสิทธิภาพแม้หลังอาบน้ำ ทำให้สะดวกต่อการใช้งานและช่วยลดการแพร่ระบาดของเห็บหมัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2. FRONTLINE Spray for Dog & Cat

2 FRONTLINE SPRAY FOR DOG&CAT

FRONTLINE Spray for Dog & Cat เป็นสเปรย์กำจัดเห็บหมัดสำหรับสุนัขและแมวที่ออกฤทธิ์ทันทีหลังฉีดพ่น ใช้ได้กับสัตว์ทุกขนาด รวมถึงลูกสุนัขและลูกแมว อายุ 8 สัปดาห์ขึ้นไป และยังคงมีประสิทธิภาพแม้หลังอาบน้ำ

ปริมาณ 250 มล.
รูปแบบยา แบบสเปรย์
ส่วนผสม สารฟิโพรนิล

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

FRONTLINE Spray for Dog & Cat เป็นผลิตภัณฑ์กำจัดเห็บหมัดสำหรับสุนัขและแมว ขนาด 250 มิลลิลิตร มีสารฟิโพรนิลเป็นส่วนผสมหลัก ใช้ในรูปแบบสเปรย์ ออกฤทธิ์ทันทีที่ฉีดพ่น สามารถใช้ได้กับสุนัขและแมวทุกขนาด รวมถึงลูกสุนัขและลูกแมวที่มีอายุ 8 สัปดาห์ขึ้นไป ปริมาณการใช้แนะนำอยู่ที่ 2-4 ปั๊มต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ขึ้นอยู่กับความหนาของขน ผลิตภัณฑ์นี้สามารถกันน้ำได้ ทำให้ยังคงมีประสิทธิภาพแม้สัตว์เลี้ยงจะถูกอาบน้ำ วิธีใช้คือฉีดพ่นให้ทั่วตัวสัตว์เลี้ยง โดยเน้นบริเวณอุ้งเท้าและโคนหางเพื่อการป้องกันที่ดีขึ้น คำแนะนำในการใช้งานระบุว่าเจ้าของควรใส่ถุงมือก่อนฉีดพ่น และล้างมือให้สะอาดหลังใช้งาน ราคาอยู่ที่ 700 บาท และสามารถหาซื้อได้ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น Lazada และ Shopee ผลิตภัณฑ์นี้ขึ้นทะเบียนภายใต้เลขทะเบียน วอส.456/2554

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

FRONTLINE Spray for Dog & Cat เป็นตัวเลือกที่ดีเพราะออกฤทธิ์ทันทีหลังฉีดพ่น ช่วยกำจัดเห็บหมัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ใช้ได้กับสุนัขและแมวทุกขนาด รวมถึงลูกสุนัขและลูกแมว อายุ 8 สัปดาห์ขึ้นไป และยังคงมีประสิทธิภาพแม้หลังอาบน้ำ ทำให้สะดวกต่อการใช้งานและช่วยป้องกันเห็บหมัดได้อย่างต่อเนื่อง

3. Fiproline ผลิตภัณฑ์ป้องกันและกำจัดเห็บสำหรับสุนัขและแมว

3 หมอไทยทำเอง

Fiproline เป็นยาหยดกำจัดเห็บหมัดสำหรับสุนัขและแมวที่มีส่วนผสมของสารฟิโพรนิล ออกฤทธิ์ได้นาน 1 เดือน ใช้ได้กับสัตว์เลี้ยงหลายขนาด และช่วยป้องกันโรคที่เกี่ยวข้องกับเห็บหมัด

ปริมาณ 2.68 มล.
รูปแบบยา แบบยาหยอด
ส่วนผสม สารฟิโพรนิล

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

Fiproline เป็นผลิตภัณฑ์ยาหยดกำจัดเห็บหมัดสำหรับสุนัขและแมว ปริมาณ 2.68 มิลลิลิตร มีสารฟิโพรนิลเป็นส่วนผสมหลัก ใช้สำหรับกำจัดเห็บหมัดตัวเต็มวัยและป้องกันโรคที่เกี่ยวข้องกับเห็บหมัด เช่น โรคลายม์ และโรคพยาธิเม็ดเลือด ประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์อยู่ได้นาน 1 เดือน วิธีใช้คือหยดลงบนผิวหนังบริเวณหลังคอหรือหัวไหล่ของสัตว์เลี้ยง ควรเว้นระยะอย่างน้อย 48 ชั่วโมงก่อนหรือหลังอาบน้ำเพื่อให้ตัวยากระจายตัวได้เต็มที่ มีตัวเลือกสำหรับสัตว์เลี้ยงหลายขนาด โดยแมวทุกขนาดสามารถใช้กล่องสีชมพู ส่วนสุนัขขนาดเล็ก (น้ำหนักน้อยกว่า 10 กิโลกรัม) ใช้กล่องสีเหลือง สุนัขขนาดกลาง (น้ำหนัก 10.1 – 20 กิโลกรัม) ใช้กล่องสีฟ้า และสุนัขขนาดใหญ่ (น้ำหนัก 20.1 – 40 กิโลกรัม) ใช้กล่องสีม่วง หนึ่งกล่องบรรจุ 2 หลอด และใช้ 1 หลอดต่อสัตว์เลี้ยง 1 ตัวต่อเดือน ข้อควรระวังคือห้ามใช้กับลูกสุนัขและลูกแมวที่มีอายุต่ำกว่า 8 สัปดาห์ ราคาอยู่ที่ 235 บาท และสามารถซื้อผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น Lazada และ Shopee ผลิตภัณฑ์นี้ขึ้นทะเบียนภายใต้เลขทะเบียน วอส. 477/2558 และ วอส. 466/2556

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

Fiproline เป็นตัวเลือกที่ดีเพราะสามารถกำจัดเห็บหมัดตัวเต็มวัยและช่วยป้องกันโรคที่เกี่ยวข้องกับเห็บหมัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ออกฤทธิ์ได้นาน 1 เดือน มีตัวเลือกสำหรับสัตว์เลี้ยงหลายขนาด และยังสามารถใช้ได้ทั้งสุนัขและแมว ทำให้สะดวกต่อการใช้งาน

4. BEARING Tick & Flea Dog Powder

4 B&K Natural Tick & Flea-Free

BEARING Tick & Flea Dog Powder เป็นแป้งกำจัดเห็บหมัดสำหรับสุนัขที่มีส่วนผสมของคาร์บาริล ช่วยลดความมันบนขน ใช้งานโดยโรยบนตัวสุนัขหรือบริเวณที่อยู่ของสัตว์เลี้ยง และต้องทำความสะอาดหลังใช้เพื่อป้องกันการตกค้างของผลิตภัณฑ์

ปริมาณ 150 มล.
รูปแบบยา แบบผงแป้ง
ส่วนผสม คาร์บาริล

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

BEARING Tick & Flea Dog Powder เป็นแป้งกำจัดเห็บหมัดสำหรับสุนัข ขนาด 150 มิลลิลิตร มีส่วนผสมของคาร์บาริล ใช้โรยบนตัวสุนัขและบริเวณที่อยู่ของสัตว์เลี้ยง ช่วยลดความมันบนขนและทำให้ขนสะอาด วิธีใช้คือโรยแป้งลงบนตัวสุนัขให้ทั่ว ลูบให้แป้งสัมผัสกับผิวหนัง โดยเฉพาะบริเวณอุ้งเท้าและง่ามเท้า จากนั้นทิ้งไว้ 1 ชั่วโมง แล้วแปรงขนออกเพื่อกำจัดเห็บหมัด และล้างทำความสะอาดเพื่อป้องกันการตกค้างของผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้สามารถใช้โรยภายในกรงเพื่อป้องกันเห็บหมัดกลับมาติดใหม่ โดยต้องทำความสะอาดกรงหลังจากใช้ คำเตือนในการใช้งานรวมถึงห้ามรับประทาน ควรใช้ถุงมือและผ้าปิดจมูกขณะใช้งาน และล้างมือให้สะอาดหลังจากใช้ ระวังไม่ให้ผลิตภัณฑ์เข้าตา จมูก หรือปากของสัตว์เลี้ยง และไม่ควรใช้กับสัตว์เลี้ยงที่ป่วย อ่อนแอ ตั้งท้อง หรือให้นมลูก ไม่ควรใช้ติดต่อกันเป็นประจำ และต้องปิดฝาให้สนิท เก็บให้พ้นจากความร้อนและแสงแดด ราคาอยู่ที่ 60 บาท และสามารถหาซื้อได้จากแพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น Lazada และ Shopee

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

BEARING Tick & Flea Dog Powder เป็นตัวเลือกที่ดีเพราะใช้งานง่าย สามารถโรยบนตัวสุนัขหรือบริเวณที่อยู่ของสัตว์เลี้ยงเพื่อกำจัดเห็บหมัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังช่วยลดความมันบนขน ทำให้ขนสะอาด เหมาะสำหรับการใช้เป็นประจำเมื่อพบร่องรอยของเห็บหมัด

5. Virbac EFFITIX Spot - on L

5 Frontguard Plus

Virbac EFFITIX Spot-on L เป็นยาหยอดสำหรับสุนัขที่ช่วยกำจัดเห็บ หมัด และไล่ยุง ออกฤทธิ์นาน 4 สัปดาห์ ใช้ได้กับสุนัขน้ำหนัก 4 - 40 กิโลกรัม และผลิตในประเทศฝรั่งเศส

ปริมาณ 4.4 มล.
รูปแบบยา แบบยาหยอด
ส่วนผสม สารฟิโพรนิล, สารเพอร์เมทริน

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

Virbac EFFITIX Spot-on L เป็นยาหยอดสำหรับกำจัดเห็บ หมัด และไล่ยุงในสุนัข มีปริมาณ 4.4 มิลลิลิตร ประกอบด้วยสารฟิโพรนิลและสารเพอร์เมทริน เหมาะสำหรับสุนัขที่มีน้ำหนัก 4 – 40 กิโลกรัม และอายุตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไป ตัวยามีประสิทธิภาพในการป้องกันและกำจัดเห็บหมัด รวมถึงช่วยไล่ยุงได้ยาวนาน 4 สัปดาห์ หลังจากหยอดยา 1 ชั่วโมง สามารถกระจายตัวบนตัวสุนัขและยังคงประสิทธิภาพอยู่ได้นาน หนึ่งหลอดสามารถใช้ได้กับสุนัข 1 ตัว และหนึ่งกล่องบรรจุ 4 หลอด ผลิตภัณฑ์นี้ผลิตในประเทศฝรั่งเศสและมีความจำเพาะต่อสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง ทำให้ปลอดภัยต่อตัวสุนัข คำเตือนในการใช้งานคือห้ามใช้กับสุนัขที่มีอายุน้อยกว่า 2 เดือน ราคาอยู่ที่ 705 บาท และสามารถซื้อผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น Lazada และ Shopee

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

Virbac EFFITIX Spot-on L เป็นตัวเลือกที่ดีเพราะสามารถกำจัดเห็บ หมัด และไล่ยุงได้ในหนึ่งเดียว โดยออกฤทธิ์นาน 4 สัปดาห์ เหมาะสำหรับสุนัขที่มีน้ำหนัก 4 – 40 กิโลกรัม และยังคงมีประสิทธิภาพหลังจากหยอดเพียง 1 ชั่วโมง ทำให้สะดวกต่อการใช้งานและช่วยปกป้องสุนัขจากแมลงรบกวนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

6. BAYER Seresto tick and flea collar

6 Virbac Effipro Duo Spot-On

BAYER Seresto tick and flea collar เป็นปลอกคอกำจัดเห็บหมัดสำหรับสุนัขที่ออกฤทธิ์ยาวนาน 8 เดือน ให้การปกป้องตลอด 24 ชั่วโมง และผลิตด้วยนวัตกรรมจากเยอรมนี

ปริมาณ ขนาดยาว 70 ซม.
รูปแบบยา แบบปลอกคอ
ส่วนผสม สารอิมิดาโคลพริด, สารฟลูเมทริน

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

BAYER Seresto tick and flea collar เป็นปลอกคอกำจัดเห็บหมัดสำหรับสุนัข ขนาดความยาว 70 เซนติเมตร มีส่วนผสมของสารอิมิดาโคลพริดและสารฟลูเมทริน ออกแบบเพื่อช่วยป้องกันและกำจัดเห็บหมัด โดยออกฤทธิ์ได้นาน 8 เดือน ปลอกคอผลิตด้วยนวัตกรรมจากเยอรมนี ให้การปกป้องสัตว์เลี้ยงตลอด 24 ชั่วโมง และช่วยลดโอกาสเกิดโรคที่เกิดจากเห็บหมัดเป็นพาหะ วิธีใช้คือสวมปลอกคอให้สัตว์เลี้ยง โดยต้องให้สัมผัสกับขนและผิวหนังของสุนัข และไม่ควรรัดแน่นหรือหลวมจนเกินไป ราคาอยู่ที่ 1,085 บาท และสามารถหาซื้อได้จากแพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น Lazada และ Shopee ผลิตภัณฑ์นี้ขึ้นทะเบียนภายใต้เลขทะเบียน วอส.549/2564 และ วอส.550/2564

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

BAYER Seresto tick and flea collar เป็นตัวเลือกที่ดีเพราะช่วยป้องกันและกำจัดเห็บหมัดได้นานถึง 8 เดือนโดยไม่ต้องใช้ผลิตภัณฑ์ซ้ำบ่อย ๆ ให้การปกป้องตลอด 24 ชั่วโมง และออกแบบให้ใช้งานง่ายเพียงสวมปลอกคอ ทำให้สะดวกสำหรับเจ้าของสัตว์เลี้ยงที่ต้องการการดูแลอย่างต่อเนื่อง

7. Provet ผลิตภัณฑ์ป้องกันและกำจัดเห็บหมัดชนิดหยดหลัง

7 Cleartix Cat

Provet เป็นยาหยอดหลังสำหรับกำจัดเห็บหมัดในสุนัขที่มีสารฟิโพรนิลเป็นส่วนผสม ออกฤทธิ์ได้นาน 1 เดือน และช่วยป้องกันการเกิดเห็บหมัดรุ่นถัดไป โดยได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัย

ปริมาณ 1.34 มล.
รูปแบบยา แบบยาหยอด
ส่วนผสม สารฟิโพรนิล

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

Provet เป็นผลิตภัณฑ์ยาหยอดหลังสำหรับป้องกันและกำจัดเห็บหมัดในสุนัข ขนาด 1.34 มิลลิลิตร มีส่วนผสมของสารฟิโพรนิลที่ออกฤทธิ์รบกวนการส่งกระแสประสาทของเห็บหมัด ช่วยกำจัดเห็บหมัดตั้งแต่ตัวอ่อนไปจนถึงตัวเต็มวัย และป้องกันการเกิดเห็บหมัดรุ่นถัดไป ตัวยาสะสมอยู่บริเวณต่อมขนของสุนัขและออกฤทธิ์ได้นาน 1 เดือน โดยแนะนำให้ใช้ 1 หลอดต่อเดือน และไม่ควรอาบน้ำก่อนหรือหลังหยดยาเป็นเวลา 2 วันเพื่อให้ตัวยากระจายตัวได้เต็มที่ สามารถใช้กับสุนัขอายุ 8 สัปดาห์ขึ้นไป ผลิตภัณฑ์ผ่านกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐานและมีผลการทดสอบรับรอง ปลอดภัยต่อการใช้งาน และได้รับทะเบียนประเภท วอส. จากคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เลขทะเบียน วอส. 69/2561 ราคาอยู่ที่ 46 บาท และสามารถหาซื้อได้จากแพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น Lazada และ Shopee

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

Provet เป็นตัวเลือกที่ดีเพราะสามารถกำจัดเห็บหมัดได้ครบวงจรตั้งแต่ตัวอ่อนจนถึงตัวเต็มวัย ออกฤทธิ์นาน 1 เดือน และได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัย อีกทั้งยังมีราคาประหยัดเมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์กำจัดเห็บหมัดชนิดอื่น ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานเป็นประจำทุกเดือน

8. N-Tick ยาหยดกำจัดเห็บหมัด สำหรับสุนัข

8 Yana Spray

N-Tick เป็นยาหยดกำจัดเห็บหมัดสำหรับสุนัขที่มีสารฟิโพรนิลเป็นส่วนผสม ออกฤทธิ์ภายใน 20 ชั่วโมง และช่วยหยุดวงจรการฟักตัวของเห็บหมัด โดยเหมาะสำหรับสุนัขน้ำหนัก 10 - 20 กิโลกรัม และอายุ 6 เดือนขึ้นไป

ปริมาณ 0.67 มล.
รูปแบบยา แบบยาหยอด
ส่วนผสม สารฟิโพรนิล

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

N-Tick เป็นผลิตภัณฑ์ยาหยดกำจัดเห็บหมัดสำหรับสุนัข ปริมาณ 0.67 มิลลิลิตร มีส่วนผสมของสารฟิโพรนิล เหมาะสำหรับสุนัขที่มีน้ำหนัก 10 – 20 กิโลกรัม และอายุ 6 เดือนขึ้นไป ตัวยาออกฤทธิ์หลังจากหยอด 20 ชั่วโมง และช่วยกำจัดเห็บหมัดพร้อมหยุดวงจรการฟักตัวใหม่ เพื่อให้ได้ผลที่ดีแนะนำให้หยอดเป็นประจำทุกเดือน คำแนะนำในการใช้งานระบุว่าควรงดอาบน้ำสุนัขชั่วคราวหลังหยอดยา และไม่ควรใช้ซ้ำภายในระยะเวลา 1 เดือน ควรเก็บผลิตภัณฑ์ไว้ในที่มิดชิด ห่างจากแสงแดด และอุณหภูมิไม่สูงเกินไป ราคาอยู่ที่ 405 บาท และสามารถซื้อผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น Lazada และ Shopee ผลิตภัณฑ์นี้ขึ้นทะเบียนภายใต้เลขทะเบียน วอส. 583/2560

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

N-Tick เป็นตัวเลือกที่ดีเพราะออกฤทธิ์กำจัดเห็บหมัดภายใน 20 ชั่วโมงและช่วยหยุดวงจรการฟักตัวใหม่ ทำให้สามารถควบคุมปัญหาเห็บหมัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังเหมาะสำหรับสุนัขที่มีน้ำหนัก 10 – 20 กิโลกรัม และใช้เป็นประจำทุกเดือนเพื่อป้องกันการติดซ้ำได้ดี

9. SmartHeart Tick & Flea Dog Shampoo

9 BEARING Tick & Flea Dog

SmartHeart Tick & Flea Dog Shampoo เป็นแชมพูอาบน้ำสำหรับกำจัดเห็บหมัดในสุนัขที่มีส่วนผสมของสารไซเพอร์เมทริน ใช้งานง่ายโดยฟอกให้ทั่วตัวและล้างออก ช่วยควบคุมเห็บหมัดได้เมื่อใช้อย่างสม่ำเสมอ

ปริมาณ 200 มล.
รูปแบบยา แบบใช้อาบน้ำ
ส่วนผสม ไซเพอร์เมทริน

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

SmartHeart Tick & Flea Dog Shampoo เป็นแชมพูสำหรับอาบน้ำกำจัดเห็บหมัดสำหรับสุนัข ขนาด 200 มิลลิลิตร มีส่วนผสมของสารไซเพอร์เมทริน วิธีใช้คือผสมแชมพูกับน้ำในอัตราส่วน 1:1 จากนั้นฟอกให้ทั่วตัวสุนัขที่เปียกน้ำ โดยเน้นบริเวณอุ้งเท้าและง่ามเท้า ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด คำแนะนำในการใช้งานคือควรใช้เป็นประจำทุกสัปดาห์หรือเมื่อพบร่องรอยของเห็บหมัด คำเตือนระบุว่าห้ามรับประทาน ควรสวมถุงมือยางหรือถุงมือพลาสติกขณะใช้ ระวังไม่ให้แชมพูเข้าตา จมูก หรือปากของสุนัข รวมถึงควรหลีกเลี่ยงการใช้กับสุนัขที่ป่วย อ่อนแอ ตั้งท้อง หรือให้นมลูก หลังใช้งานควรล้างมือ อาบน้ำ และซักเสื้อผ้าให้สะอาด ห้ามทิ้งภาชนะบรรจุภัณฑ์ลงในแหล่งน้ำสาธารณะ ราคาอยู่ที่ 140 บาท และสามารถหาซื้อได้จากแพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น Lazada และ Shopee

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

SmartHeart Tick & Flea Dog Shampoo เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการกำจัดเห็บหมัดขณะอาบน้ำสุนัข เพราะใช้งานง่าย เพียงผสมกับน้ำและฟอกให้ทั่วตัวสุนัข นอกจากนี้ยังสามารถใช้เป็นประจำทุกสัปดาห์เพื่อช่วยควบคุมปัญหาเห็บหมัดได้อย่างต่อเนื่อง

10. Green Vetz ผลิตภัณฑ์กำจัดเห็บสุนัข

10 Fiproline Spot on Cat

Green Vetz เป็นยาหยดกำจัดเห็บหมัดสำหรับสุนัขที่มีสารฟิโพรนิลเป็นส่วนผสม ออกแบบให้เหมาะกับสุนัขขนาดต่างๆ ใช้งานง่ายโดยหยดลงบนผิวหนังและมีประสิทธิภาพยาวนาน 1 เดือนต่อการใช้ 1 ครั้ง

ปริมาณ 2.68 มล.
รูปแบบยา แบบยาหยอด
ส่วนผสม สารฟิโพรนิล

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

Green Vetz เป็นผลิตภัณฑ์ยาหยดสำหรับกำจัดเห็บหมัดในสุนัข ขนาด 2.68 มิลลิลิตร มีส่วนผสมของสารฟิโพรนิล มาในรูปแบบหยด ใช้งานโดยหยดลงบนผิวหนังบริเวณต้นคอหรือกลางหลังของสุนัข คำแนะนำในการใช้งานระบุว่าควรงดอาบน้ำสุนัขก่อนและหลังหยดยาเป็นเวลา 2 วัน เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ออกฤทธิ์ได้เต็มที่ มีตัวเลือกสำหรับสุนัขขนาดต่างๆ ได้แก่ สีเหลืองสำหรับสุนัขน้ำหนักไม่เกิน 10 กิโลกรัม สีฟ้าสำหรับสุนัขน้ำหนัก 10.1-20 กิโลกรัม และสีแดงสำหรับสุนัขน้ำหนัก 20.1-40 กิโลกรัม ผลิตภัณฑ์นี้ควรใช้เดือนละครั้งโดยหยดลงบนผิวหนัง 1-2 ตำแหน่งตามแนวสันหลังเพื่อป้องกันไม่ให้สุนัขเลีย คำแนะนำในการเก็บรักษาระบุว่าควรเก็บในที่แห้ง มิดชิด ห่างจากเด็ก อาหาร และสัตว์เลี้ยง ราคาอยู่ที่ 48 บาท และสามารถซื้อผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น Lazada และ Shopee ผลิตภัณฑ์นี้ขึ้นทะเบียนภายใต้เลขทะเบียน วอส.329/2567

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

Green Vetz เป็นยาหยดกำจัดเห็บหมัดที่ใช้งานง่าย เพียงหยดลงบนผิวหนังของสุนัข และออกฤทธิ์ได้นาน 1 เดือน ช่วยควบคุมเห็บหมัดได้อย่างมีประสิทธิภาพในทุกขนาดของสุนัข ในราคาที่เข้าถึงได้ง่าย

ทำความเข้าใจกับส่วนผสมในยากําจัดเห็บหมัด

Support-Topic-1-ทำความเข้าใจกับส่วนผสมในยากําจัดเห็บหมัด
เมื่อเลือกยากำจัดเห็บหมัดให้สุนัข ไม่ใช่แค่ดูยี่ห้อหรือประเภทของยา แต่สิ่งสำคัญคือการทำความเข้าใจส่วนผสมที่อยู่ในยา เพราะสารแต่ละชนิดมีวิธีการออกฤทธิ์ที่แตกต่างกัน บางตัวสามารถฆ่าเห็บหมัดโดยตรง ขณะที่บางตัวช่วยควบคุมการเจริญเติบโตของตัวอ่อนเพื่อลดการแพร่พันธุ์ การเข้าใจว่าสารแต่ละตัวทำงานอย่างไร จะช่วยให้เลือกยาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และเหมาะกับสุนัขมากที่สุด นอกจากนี้ การรู้จักส่วนผสมของยาแต่ละชนิดยังช่วยลดความเสี่ยงจากอาการแพ้ หรือผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นกับสุนัขบางตัว ในปัจจุบัน ยากำจัดเห็บหมัดมีหลายรูปแบบ ทั้งแบบหยดหลัง ยากิน สเปรย์ และแชมพู ซึ่งแต่ละชนิดก็มีส่วนผสมหลักที่แตกต่างกัน โดยบางชนิดใช้สารสังเคราะห์เพื่อกำจัดเห็บหมัดอย่างรวดเร็ว ขณะที่บางชนิดใช้สารที่ออกฤทธิ์ได้นานและเหมาะกับการป้องกันในระยะยาว เจ้าของสุนัขควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมกับปัญหาและสุขภาพของสุนัข เพื่อให้ได้ผลดีที่สุด

ส่วนผสมสำคัญในยากำจัดเห็บหมัด

  • ฟิโพรนิล (Fipronil) เป็นสารที่ออกฤทธิ์ทำลายระบบประสาทของเห็บหมัดโดยตรง ทำให้เกิดอัมพาตและตายในที่สุด ยาชนิดนี้มักใช้ในรูปแบบหยดหลังและสเปรย์ มีประสิทธิภาพในการกำจัดเห็บหมัดตัวเต็มวัยได้ดี และมักใช้เป็นตัวเลือกแรกเมื่อสุนัขมีเห็บหมัดจำนวนมาก
  • ไอเวอร์เมกติน (Ivermectin) เป็นสารที่สามารถกำจัดพยาธิภายใน เช่น พยาธิหัวใจ และยังมีผลต่อเห็บหมัดด้วย ยาชนิดนี้มักอยู่ในรูปแบบยากิน ข้อดีคือสามารถป้องกันพยาธิหัวใจได้พร้อมกัน อย่างไรก็ตาม สุนัขบางสายพันธุ์ เช่น คอลลี่ อาจมีอาการแพ้สารนี้อย่างรุนแรง จึงควรตรวจสอบให้แน่ใจก่อนใช้
  • ไพริพรอกซีเฟน (Pyriproxyfen) เป็นสารที่ทำงานโดยควบคุมการเจริญเติบโตของตัวอ่อนเห็บหมัด ทำให้ไม่สามารถเติบโตเป็นตัวเต็มวัยได้ และช่วยลดโอกาสการแพร่พันธุ์ของเห็บหมัด สารนี้มักใช้ร่วมกับยากำจัดเห็บหมัดตัวเต็มวัยเพื่อให้ได้ผลดีที่สุด พบได้ในรูปแบบหยดหลังและสเปรย์
  • เซลาเมกติน (Selamectin) เป็นสารที่สามารถฆ่าเห็บหมัด พยาธิภายใน และไรในหู ใช้ได้ในสุนัขที่มีผิวแพ้ง่ายเพราะไม่ทำให้ระคายเคือง มักอยู่ในรูปแบบยาหยดหลัง และต้องใช้เป็นประจำเพื่อให้มีประสิทธิภาพต่อเนื่อง
  • ไอโซไซอะไซน์ (Isoxazoline) เป็นสารที่กำจัดเห็บหมัดโดยออกฤทธิ์กับระบบประสาทของแมลง เหมาะสำหรับสุนัขที่มีปัญหาเห็บหมัดเรื้อรัง เพราะสามารถป้องกันได้ยาวนานหลายสัปดาห์ มักอยู่ในรูปแบบยาเม็ดที่ต้องกินเข้าไป
ตารางเปรียบเทียบส่วนผสมในยากำจัดเห็บหมัด
ส่วนผสม การออกฤทธิ์ ข้อดี ข้อควรระวัง รูปแบบยา
ฟิโพรนิล (Fipronil) ฆ่าเห็บหมัดโดยทำลายระบบประสาท ออกฤทธิ์เร็ว ฆ่าเห็บหมัดตัวเต็มวัยได้ดี อาจระคายเคืองผิวหนัง หยดหลัง, สเปรย์
ไอเวอร์เมกติน (Ivermectin) ฆ่าเห็บหมัดและพยาธิภายใน ป้องกันพยาธิหัวใจได้ด้วย อาจเป็นอันตรายในสุนัขบางสายพันธุ์ ยากิน
ไพริพรอกซีเฟน (Pyriproxyfen) ป้องกันตัวอ่อนเห็บหมัดโตเป็นตัวเต็มวัย ลดการแพร่พันธุ์ของเห็บหมัด ไม่ฆ่าตัวเต็มวัย ต้องใช้ร่วมกับยาอื่น หยดหลัง, สเปรย์
เซลาเมกติน (Selamectin) ฆ่าเห็บหมัดและพยาธิภายใน อ่อนโยนต่อผิวหนัง เหมาะสำหรับสุนัขแพ้ง่าย ต้องใช้เป็นประจำทุกเดือน หยดหลัง
ไอโซไซอะไซน์ (Isoxazoline) ฆ่าเห็บหมัดที่ดูดเลือด ออกฤทธิ์ได้นานหลายสัปดาห์ อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงในบางตัว ยากิน

ปัจจัยที่ควรพิจารณาเมื่อเลือกยากำจัดเห็บหมัด

  • ระดับการติดเชื้อของเห็บหมัด หากสุนัขมีเห็บหมัดเยอะ ควรเลือกยาที่ออกฤทธิ์เร็ว เช่น ฟิโพรนิล หรือเซลาเมกติน
  • ความปลอดภัยสำหรับสุนัข สุนัขบางสายพันธุ์อาจแพ้สารบางชนิด เช่น ไอเวอร์เมกติน อาจเป็นอันตรายต่อสายพันธุ์ที่ไวต่อยา
  • วิธีการใช้ หากสุนัขไม่ชอบให้ทายาหรือฉีดสเปรย์ อาจเลือกใช้ยาแบบกิน เช่น ไอโซไซอะไซน์
  • ประสิทธิภาพในการป้องกัน ยาบางชนิดสามารถกำจัดเห็บหมัดตัวเต็มวัยได้เท่านั้น แต่ไม่สามารถป้องกันการแพร่พันธุ์ จึงควรใช้ร่วมกับสารควบคุมวงจรชีวิตของเห็บหมัด
การเข้าใจส่วนผสมในยากำจัดเห็บหมัดจะช่วยให้เจ้าของสามารถเลือกใช้ได้อย่างถูกต้อง ลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น และทำให้สุนัขมีสุขภาพที่ดีขึ้น การเลือกใช้ยาให้เหมาะสมกับสุขภาพและพฤติกรรมของสุนัขจะช่วยให้การกำจัดเห็บหมัดมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากการใช้ยาแล้ว การดูแลความสะอาดของที่อยู่อาศัย และการตรวจเช็กขนของสุนัขเป็นประจำ ก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยลดการเกิดเห็บหมัดในระยะยาว

วิธีป้องกันเห็บหมัดนอกเหนือจากการใช้ยา

Support-Topic-2-วิธีป้องกันเห็บหมัดนอกเหนือจากการใช้ยา

1. อาบน้ำและดูแลขนของสุนัข

ควรอาบน้ำให้สุนัขเป็นประจำ โดยเลือกใช้แชมพูสุนัขที่ดีที่สุด ช่วยลดเห็บหมัด และหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่อาจทำให้ผิวหนังสุนัขแห้งหรือเกิดการระคายเคือง หลังอาบน้ำ ควรใช้หวีสางเห็บหมัดเพื่อตรวจดูว่ามีเห็บหมัดติดอยู่ที่ขนหรือไม่ หวีสำหรับสางเห็บหมัดจะมีซี่ที่ถี่กว่าหวีทั่วไป ทำให้สามารถดักจับเห็บหมัดได้ง่ายขึ้น หากพบเห็บหมัด ควรกำจัดอย่างถูกวิธี เช่น ใช้คีมคีบออกให้หมด และหลีกเลี่ยงการบีบตัวเห็บ เพราะอาจทำให้ไข่หรือสารคัดหลั่งจากเห็บแพร่กระจายในสิ่งแวดล้อม

2. ทำความสะอาดที่นอนและของใช้ของสุนัข

การทำความสะอาดที่นอนของสุนัขเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เห็บหมัดสามารถวางไข่และเจริญเติบโตในที่นอนของสุนัขได้ หากปล่อยให้สุนัขนอนบนที่นอนที่มีไข่เห็บหมัดปะปนอยู่ สุนัขอาจติดเห็บหมัดซ้ำได้ง่าย ควรซักที่นอน ผ้าห่ม และของใช้ของสุนัขด้วยน้ำร้อนทุกสัปดาห์ เพราะความร้อนสามารถฆ่าไข่และตัวอ่อนของเห็บหมัดได้ดี นอกจากนี้ ควรใช้เครื่องดูดฝุ่นทำความสะอาดพรม โซฟา และพื้นบ้านเป็นประจำ เพราะไข่และตัวอ่อนของเห็บหมัดอาจหลุดจากตัวสุนัขและตกอยู่ตามพื้นผิวต่าง ๆ หากพบเห็บหมัดในบ้าน อาจใช้สเปรย์กำจัดเห็บหมัดที่ปลอดภัยสำหรับสัตว์เลี้ยงเพื่อช่วยควบคุมปัญหา

3. ควบคุมเห็บหมัดในสนามหญ้าและพื้นที่รอบบ้าน

พื้นที่กลางแจ้ง เช่น สนามหญ้าและสวน เป็นแหล่งที่เห็บหมัดสามารถอาศัยและแพร่พันธุ์ได้ดี หากบ้านมีสนามหญ้า ควรหมั่นตัดหญ้าให้สั้นและกำจัดใบไม้แห้งที่ร่วงสะสม เพราะเป็นจุดที่เห็บหมัดชอบซ่อนตัว นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงการปล่อยสุนัขเล่นในบริเวณที่มีหญ้ารกหรือพื้นที่ที่มีสัตว์อื่นอยู่เยอะ เพราะอาจเป็นแหล่งที่มีเห็บหมัดแฝงอยู่ หากต้องการใช้สารป้องกันเห็บหมัดในสนามหญ้า ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยสำหรับสัตว์เลี้ยง เช่น ไดอะทอมาเซียสเอิร์ธ (Diatomaceous Earth) ซึ่งเป็นสารจากธรรมชาติที่ช่วยกำจัดแมลงโดยไม่เป็นอันตรายต่อสุนัข การใช้ไส้เดือนฝอย (Beneficial Nematodes) ก็เป็นอีกทางเลือกที่ดี เพราะไส้เดือนฝอยสามารถช่วยกำจัดตัวอ่อนของเห็บหมัดที่อยู่ในดินได้

4. ใช้วิธีธรรมชาติในการไล่เห็บหมัด

การใช้วิธีธรรมชาติเป็นอีกทางเลือกในการป้องกันเห็บหมัดโดยไม่ต้องใช้สารเคมี น้ำมันหอมระเหยจาก ตะไคร้หอม ลาเวนเดอร์ หรือมะกรูด เป็นตัวช่วยที่ดี เพราะมีกลิ่นที่เห็บหมัดไม่ชอบ สามารถใช้ผสมน้ำเปล่าแล้วฉีดพ่นบริเวณที่สุนัขอยู่ หรือเช็ดตัวสุนัขหลังอาบน้ำเพื่อช่วยลดการเกาะติดของเห็บหมัด อีกวิธีที่สามารถทำได้คือการผสมน้ำส้มสายชู 1 ส่วน กับน้ำเปล่า 1 ส่วน แล้วใช้เช็ดตัวสุนัขหลังอาบน้ำ ซึ่งช่วยไล่เห็บหมัดได้ดี นอกจากนี้ การนำใบสะระแหน่ โรสแมรี่ หรือดอกเบญจมาศ ไปวางไว้ในบริเวณที่สุนัขนอน ก็สามารถช่วยลดจำนวนเห็บหมัดได้ในระยะยาว

การดูแลอย่างต่อเนื่องเพื่อป้องกันเห็บหมัด

ควรดูแลสุนัขให้สะอาดอยู่เสมอ และหมั่นตรวจดูขนว่ามีเห็บหมัดหรือไม่ หากพบเห็บหมัดบนตัวสุนัข ควรรีบกำจัดเพื่อป้องกันการแพร่พันธุ์ การดูแลสุขภาพสุนัขให้แข็งแรงเป็นอีกหนึ่งวิธีสำคัญในการป้องกันเห็บหมัด ซึ่งอาหารที่มีคุณภาพดีสามารถช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับสุนัขได้ 10 อาหารเปียกสุนัขยอดนิยม ก็เป็นตัวเลือกที่ดี เนื่องจากมีความชุ่มชื้นสูง ช่วยให้สุนัขได้รับน้ำเพียงพอ ลดปัญหาผิวแห้งที่อาจทำให้เกิดอาการคันและการเกา ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เห็บหมัดเข้ามาเกาะติดได้ง่าย นอกจากนี้ อาหารเปียกยังมีส่วนช่วยให้ระบบขับถ่ายของสุนัขทำงานได้ดีขึ้น ลดความเสี่ยงของปัญหาสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นจากการขาดสารอาหาร หรือภาวะขาดน้ำ การเลือกอาหารเปียกที่มีโปรตีนคุณภาพสูงและไม่มีสารปรุงแต่งที่เป็นอันตราย เมื่อมีการดูแลที่เหมาะสม จะช่วยให้สุนัขมีสุขภาพแข็งแรง ผิวหนังและขนมีความชุ่มชื้น ซึ่งส่งผลให้สามารถต้านทานปัญหาเห็บหมัดได้ดีขึ้น

ยากําจัดเห็บหมัดแบบกิน vs. แบบหยด แบบไหนดีกว่ากัน

Support-Topic-3-ยากําจัดเห็บหมัดแบบกิน-vs.-แบบหยด-แบบไหนดีกว่ากัน
การเลือกยากำจัดเห็บหมัดให้สุนัขต้องพิจารณาหลายปัจจัย หนึ่งในนั้นคือการเลือกระหว่างยาแบบกินและแบบหยด ซึ่งทั้งสองประเภทมีวิธีการออกฤทธิ์ที่แตกต่างกัน ยาแบบกินทำงานโดยการซึมเข้าสู่กระแสเลือดของสุนัข และเมื่อเห็บหมัดกัดสุนัข สารออกฤทธิ์จะเข้าสู่ร่างกายของเห็บหมัดและทำให้มันตาย ส่วนยาแบบหยดออกฤทธิ์ผ่านผิวหนัง โดยกระจายไปทั่วผิวหนังและชั้นไขมันใต้ผิวหนัง ทำให้เห็บหมัดตายเมื่อสัมผัสกับสารออกฤทธิ์ ข้อดีของยาแบบกินคือใช้งานง่าย เจ้าของไม่ต้องกังวลว่าสุนัขจะเลียยาหรือโดนน้ำ ซึ่งช่วยลดปัญหายาหลุดออกก่อนออกฤทธิ์ อย่างไรก็ตาม สุนัขบางตัวอาจไม่ชอบกินยา และอาจต้องซ่อนยาไว้ในอาหารเพื่อให้สุนัขกินเข้าไป ในขณะที่ยาแบบหยดมีข้อดีในเรื่องความสะดวกในการใช้งาน ไม่ต้องให้สุนัขกินเข้าไปโดยตรง และออกฤทธิ์ได้รวดเร็ว อย่างไรก็ตาม อาจมีข้อจำกัดบางอย่าง เช่น การเลียบริเวณที่หยดยา หรือการหลีกเลี่ยงไม่ให้สุนัขเปียกน้ำภายใน 48 ชั่วโมงหลังการใช้ยา

ยากำจัดเห็บหมัดแบบกิน

ยาแบบกินมีประสิทธิภาพในการกำจัดเห็บหมัดโดยออกฤทธิ์จากภายใน เมื่อเห็บหมัดกัดสุนัขและดูดเลือด สารออกฤทธิ์ในตัวยาจะเข้าไปทำลายระบบประสาทของเห็บหมัด ทำให้มันตายในที่สุด ข้อดีของยาแบบกินคือสามารถควบคุมเห็บหมัดได้จากภายในร่างกายของสุนัข และไม่ต้องกังวลว่ายาจะหลุดออกจากตัวสุนัขเมื่อโดนน้ำ นอกจากนี้ยังช่วยลดปัญหาการแพ้สารที่ใช้ทาผิวหนัง อย่างไรก็ตาม ยาแบบกินต้องให้สุนัขกินเข้าไป ซึ่งอาจเป็นปัญหาหากสุนัขไม่ยอมกินยา บางตัวอาจต้องซ่อนยาไว้ในอาหารหรือขนมเพื่อกระตุ้นให้กินเข้าไป อีกทั้งยาแบบกินมักมีราคาสูงกว่าแบบหยด และอาจไม่ได้ป้องกันเห็บหมัดได้รวดเร็วเท่ากับยาแบบหยด

ยากำจัดเห็บหมัดแบบหยด

ยาแบบหยดเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับเจ้าของสุนัข เนื่องจากใช้งานง่าย เพียงหยดลงบริเวณต้นคอหรือกลางหลังของสุนัข สารออกฤทธิ์จะกระจายไปทั่วชั้นไขมันใต้ผิวหนัง และฆ่าเห็บหมัดที่สัมผัสกับสารออกฤทธิ์โดยตรง ทำให้สามารถกำจัดเห็บหมัดได้อย่างรวดเร็ว ข้อดีของยาแบบหยดคือออกฤทธิ์เร็ว และไม่ต้องให้สุนัขกินยาเข้าไปโดยตรง ซึ่งเหมาะสำหรับสุนัขที่กินยายาก อย่างไรก็ตาม การใช้ยาแบบหยดต้องระมัดระวังไม่ให้สุนัขเลียบริเวณที่หยดยา และต้องหลีกเลี่ยงไม่ให้สุนัขเปียกน้ำภายใน 48 ชั่วโมงหลังการใช้ยา นอกจากนี้ สุนัขบางตัวอาจแพ้สารที่ใช้ในยาแบบหยด ทำให้เกิดอาการคันหรือระคายเคืองบริเวณที่ทายา ตารางเปรียบเทียบยาแบบกินและแบบหยด
ประเภทของยา วิธีการออกฤทธิ์ ข้อดี ข้อควรระวัง
ยาแบบกิน ฆ่าเห็บหมัดจากภายใน เมื่อเห็บหมัดกัดสุนัข ใช้งานสะดวก ไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำ สุนัขบางตัวอาจไม่ชอบกิน
ยาแบบหยด ฆ่าเห็บหมัดจากภายนอก ผ่านการสัมผัสกับยา ออกฤทธิ์เร็ว ฆ่าเห็บหมัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ต้องระวังการเลียและเปียกน้ำ

ปัจจัยในการเลือกใช้ยาแบบกินหรือแบบหยด

การเลือกใช้ยากำจัดเห็บหมัดขึ้นอยู่กับลักษณะของสุนัขและความสะดวกของเจ้าของ หากสุนัขไม่ชอบกินยา การใช้ยาแบบหยดอาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าเพราะใช้งานง่ายและออกฤทธิ์เร็ว แต่หากต้องการหลีกเลี่ยงปัญหาสุนัขเลียยา หรือต้องการความสะดวกในการใช้งาน ยาแบบกินก็เป็นตัวเลือกที่ดี เนื่องจากไม่ต้องกังวลเรื่องการสัมผัสกับน้ำหรือการเลียยาที่ผิวหนัง สุนัขบางตัวอาจแพ้สารที่ใช้ในยาแบบหยด ทำให้เกิดอาการคันหรือระคายเคือง ดังนั้น หากสุนัขมีผิวแพ้ง่าย ควรพิจารณาใช้ยาแบบกินแทน นอกจากนี้ สุนัขที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีฝนตกบ่อย หรือชอบเล่นน้ำ อาจเหมาะกับยาแบบกินมากกว่า เพราะไม่ต้องกังวลว่ายาจะถูกชะล้างออก

การเลือกยากำจัดเห็บหมัดที่เหมาะสมกับสุนัขเป็นสิ่งสำคัญ เพราะเห็บหมัดสามารถทำให้สุนัขมีอาการคัน ติดเชื้อ และเสี่ยงต่อโรคร้ายแรง บทความนี้แนะนำ 10 ยากําจัดเห็บหมัดสุนัข ยี่ห้อไหนดี ที่ให้ปลอดภัยกับสัตว์เลี้ยง ที่ได้รับความนิยม โดยให้ข้อมูลเกี่ยวกับปริมาณ รูปแบบยา และส่วนผสมของแต่ละแบรนด์ พร้อมคำอธิบายสั้น ๆ เพื่อช่วยให้เจ้าของสามารถเลือกใช้ได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังมีข้อมูลเกี่ยวกับส่วนผสมหลักในยากำจัดเห็บหมัด อธิบายว่าส่วนผสมแต่ละชนิดทำงานอย่างไรและมีข้อควรระวังอะไรบ้าง รวมถึงเคล็ดลับป้องกันเห็บหมัดเพิ่มเติม เช่น การดูแลความสะอาดของสุนัขและที่อยู่อาศัย เพื่อช่วยลดจำนวนเห็บหมัดในระยะยาว บทความยังเปรียบเทียบข้อดีและข้อเสียของยากำจัดเห็บหมัดแบบกินและแบบหยด เพื่อให้เจ้าของสามารถเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสม การเลือกใช้ยากำจัดเห็บหมัดให้เหมาะสมกับพฤติกรรมของสุนัขและสภาพแวดล้อมจะช่วยให้การควบคุมเห็บหมัดมีประสิทธิภาพมากขึ้น และช่วยให้สุนัขมีสุขภาพที่ดีขึ้น

คำถามที่พบบ่อย

1. ยากำจัดเห็บหมัดแบบกินและแบบหยดแตกต่างกันอย่างไร?

ยากำจัดเห็บหมัดแบบกินทำงานโดยซึมเข้าสู่กระแสเลือดของสุนัข เมื่อเห็บหมัดกัดสุนัข สารออกฤทธิ์จะเข้าสู่ร่างกายของเห็บหมัดและทำให้มันตาย ยาแบบนี้มีข้อดีตรงที่ไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำหรือการเลียยา อย่างไรก็ตาม สุนัขบางตัวอาจไม่ชอบกินยาและต้องซ่อนยาในอาหาร ส่วนยาแบบหยดออกฤทธิ์ผ่านผิวหนัง โดยกระจายไปทั่วผิวหนังและชั้นไขมันใต้ผิวหนัง ทำให้เห็บหมัดตายเมื่อสัมผัสกับสารออกฤทธิ์ ยาแบบหยดมักออกฤทธิ์เร็ว แต่ต้องหลีกเลี่ยงไม่ให้สุนัขเลียบริเวณที่หยดยาหรือเปียกน้ำภายใน 48 ชั่วโมงหลังจากใช้ยา

2. ควรใช้ยากำจัดเห็บหมัดบ่อยแค่ไหน?

ความถี่ในการใช้ยากำจัดเห็บหมัดขึ้นอยู่กับประเภทของยา ยาแบบกินและแบบหยดส่วนใหญ่จะมีฤทธิ์ป้องกันประมาณ 1 เดือนต่อการใช้หนึ่งครั้ง บางตัวที่มีสูตรออกฤทธิ์นานสามารถใช้ได้ทุก 2-3 เดือน อ่านฉลากผลิตภัณฑ์เพื่อดูคำแนะนำของผู้ผลิตและเลือกใช้ให้เหมาะสมกับสุนัข

3. มีวิธีป้องกันเห็บหมัดที่ไม่ต้องใช้ยาไหม?

การป้องกันเห็บหมัดสามารถทำได้โดยการดูแลความสะอาดของสุนัขและสภาพแวดล้อม ควรอาบน้ำให้สุนัขเป็นประจำ ใช้แชมพูที่ช่วยลดเห็บหมัด ทำความสะอาดที่นอน ผ้าห่ม และของใช้ของสุนัขด้วยน้ำร้อนทุกสัปดาห์ หมั่นดูดฝุ่นพรมและพื้นบ้านเพื่อลดการสะสมของไข่เห็บหมัด ควบคุมพื้นที่รอบบ้าน เช่น ตัดหญ้าให้สั้น และใช้สารไล่เห็บหมัดจากธรรมชาติ เช่น น้ำมันตะไคร้หอม หรือน้ำส้มสายชู

4. ใช้ยากำจัดเห็บหมัดร่วมกับการป้องกันวิธีอื่นได้ไหม?

สามารถใช้ยากำจัดเห็บหมัดร่วมกับวิธีป้องกันอื่นได้ เช่น การดูแลความสะอาด การควบคุมเห็บหมัดในสนามหญ้า และการใช้สารจากธรรมชาติร่วมด้วย วิธีนี้ช่วยลดจำนวนเห็บหมัดในสิ่งแวดล้อม และลดโอกาสที่เห็บหมัดจะกลับมาติดสุนัขได้อีก

ผู้เขียน

หมวดหมู่ผลิตภัณฑ์

icon-Grey_1-อิเล็กทรอนิกส์

อิเล็กทรอนิกส์

icon-Grey_2-เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน

เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน

icon-Grey_3-แฟชั่นและเสื้อผ้า

แฟชั่นและเสื้อผ้า

icon-Grey_4-ความงามและสุขอนามัย

ความงามและสุขอนามัย

icon-Grey_5-สุขภาพและเวชภัณฑ์

สุขภาพและเวชภัณฑ์

icon-Grey_6-ของใช้ในบ้านและห้องครัว

ของใช้ในบ้านและห้องครัว

icon-Grey_7-อาหารและเครื่องดื่ม

อาหารและเครื่องดื่ม

icon-Grey_8-กีฬาและกิจกรรมกลางแจ้ง

กีฬาและกิจกรรมกลางแจ้ง

icon-Grey_9-ของเล่นและเกม

ของเล่นและเกม

icon-Grey_10-ยานยนต์

ยานยนต์

icon-Grey_11-ผลิตภัณฑ์สำหรับแม่และเด็ก

ผลิตภัณฑ์สำหรับแม่และเด็ก

icon-Grey_12-อุปกรณ์สำนักงาน

อุปกรณ์สำนักงาน

icon-Grey_13-อุปกรณ์สัตว์เลี้ยง

อุปกรณ์สัตว์เลี้ยง

icon-Grey_14-เฟอร์นิเจอร์และตกแต่งบ้าน

เฟอร์นิเจอร์และตกแต่งบ้าน

icon-Grey_15-อุปกรณ์ทำสวนและเกษตร

อุปกรณ์ทำสวนและเกษตร

icon-Grey_16-เครื่องดนตรีและการดนตรี

เครื่องดนตรีและการดนตรี

icon-Grey_17-เครื่องมือช่างและวัสดุก่อสร้าง

เครื่องมือช่างและวัสดุก่อสร้าง

icon-Grey_18-ศิลปะและงานฝีมือ

ศิลปะและงานฝีมือ

icon-Grey_19-งานปาร์ตี้และสันทนาการ

งานปาร์ตี้และสันทนาการ

icon-Grey_20-บรรจุภัณฑ์และการจัดเก็บ

บรรจุภัณฑ์และการจัดเก็บ

icon-Grey_21-สื่อและภาพยนต์

สื่อและภาพยนต์

icon-Grey_22-เครื่องจักรและอุตสาหกรรม

เครื่องจักรและอุตสาหกรรม

icon-Grey_7-อาหารและเครื่องดื่ม

อาหารและเครื่องดื่ม

icon-Grey_24-การท่องเที่ยวและอุปกรณ์การเดินทาง

ท่องเที่ยว/อุปกรณ์การเดินทาง

Scroll to Top