แนะนำ 10 มือถือราคาไม่เกิน 5000 ปี 2024 สเปคดี ใช้คุ้ม ฟังก์ชันครบ

COVER-512-Smartphones-Under-5000

มือถือราคาไม่เกิน 5000 บาท เป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์สำหรับผู้ที่มองหาสมาร์ทโฟนที่ครบครันในราคาย่อมเยา ปัจจุบันสมาร์ทโฟนในช่วงราคานี้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านขนาดหน้าจอที่ใหญ่ คมชัด และเหมาะสำหรับการดูหนัง ท่องอินเทอร์เน็ต หรือเล่นเกมเบา ๆ ได้อย่างสบาย ชิปเซ็ตที่ทรงพลังในกลุ่มมือถือราคาไม่เกิน 5000 บาท ยังช่วยให้การใช้งานแอปพลิเคชันต่าง ๆ เป็นไปอย่างลื่นไหล พร้อม RAM และ ROM ที่เพียงพอสำหรับการเก็บข้อมูล รูปภาพ และแอปพลิเคชันจำเป็น นอกจากนี้ กล้องถ่ายรูป ทั้งหน้าและหลังในช่วงราคานี้ยังมาพร้อมความละเอียดที่ตอบโจทย์การถ่ายภาพและวิดีโอได้อย่างคมชัด โดยแบตเตอรี่ความจุสูงยังช่วยให้ใช้งานได้ยาวนานตลอดวัน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานแบบไม่สะดุด ในบทความนี้ เราได้คัดเลือก 10 อันดับมือถือราคาไม่เกิน 5000 บาท ที่น่าสนใจในปีนี้ พร้อมรายละเอียดสำคัญของแต่ละรุ่น เช่น ขนาดหน้าจอ ชิปเซ็ต RAM ROM ความละเอียดของกล้อง และความจุแบตเตอรี่ รวมถึงคำแนะนำในการเลือกให้เหมาะกับการใช้งานของคุณ ไม่ว่าจะเป็นการดูหนัง เล่นเกม ถ่ายภาพ หรือการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน บทความนี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายและคุ้มค่าที่สุด

หลักเกณฑ์ที่ใช้ในการจัดอันดับสินค้า

  • ขนาดหน้าจอ: เราให้ความสำคัญกับขนาดหน้าจอที่เหมาะกับการใช้งานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการดูหนัง เล่นเกม หรือการใช้งานทั่วไป เราเลือกมือถือที่มีหน้าจอที่คมชัดและมีขนาดที่หลากหลาย ตั้งแต่หน้าจอขนาดเล็กที่พกพาสะดวก ไปจนถึงหน้าจอขนาดใหญ่ที่เหมาะสำหรับการใช้งานแบบเต็มตา
  • ชิปเซ็ต: ประสิทธิภาพของชิปเซ็ตเป็นอีกปัจจัยสำคัญในการจัดอันดับ เราได้เลือกมือถือที่ใช้ชิปเซ็ตที่มีความสามารถในการประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถใช้งานแอปพลิเคชันต่างๆ ได้อย่างลื่นไหล โดยเราพิจารณาทั้งชิปเซ็ตควอดคอร์สำหรับการใช้งานทั่วไป และชิปเซ็ตอ็อกตาคอร์ที่รองรับการใช้งานที่ต้องการประสิทธิภาพสูง
  • RAM และ ROM: สำหรับการเก็บข้อมูลและการใช้งานหลายแอปพร้อมกัน เราเลือกมือถือที่มี RAM และ ROM ที่เพียงพอ อย่างน้อย 3GB สำหรับ RAM และ 32GB สำหรับ ROM เพื่อให้ผู้ใช้สามารถจัดเก็บข้อมูล รูปภาพ วิดีโอ และแอปพลิเคชันได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องพื้นที่จัดเก็บ
  • ความละเอียดกล้อง: กล้องหน้าและกล้องหลังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่เราให้ความสำคัญ เราเลือกมือถือที่มีกล้องความละเอียดสูง และมีฟีเจอร์เสริม เช่น โหมดถ่ายภาพบุคคลหรือโหมดถ่ายกลางคืน เพื่อให้ผู้ใช้ได้ภาพที่คมชัดและสวยงาม
  • แบตเตอรี่: เราเลือกมือถือที่มีความจุแบตเตอรี่อย่างน้อย 4000 mAh ขึ้นไป เพื่อให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้ตลอดวันโดยไม่ต้องชาร์จบ่อย รวมถึงมีฟีเจอร์การชาร์จเร็วและโหมดประหยัดพลังงานเพื่อเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน

10 อันดับ มือถือราคาไม่เกิน 5000

1. SAMSUNG Galaxy A04s

1 SAMSUNG Galaxy A04s

SAMSUNG Galaxy A04s เป็นสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมหน้าจอ 6.50 นิ้ว ชิปเซต Exynos 850 และกล้องหลัง 50 MP พร้อมแบตเตอรี่ 5000 mAh

ขนาดจอ 6.50 นิ้ว
ชิปเซ็ต Exynos 850
RAM 4 GB
ROM 64 GB
ความละเอียดกล้องหน้า 5 MP
ความละเอียดกล้องหลัง 50 + 2 + 2 MP
แบตเตอรี่ 5000 mAh

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

SAMSUNG Galaxy A04s มาพร้อมหน้าจอขนาด 6.50 นิ้ว ชนิด PLS LCD ความละเอียด HD+ (720 x 1600) และมี Refresh Rate 90Hz ซึ่งช่วยให้การใช้งานจอลื่นไหลและตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว ตัวเครื่องใช้ชิปเซต Exynos 850 และมาพร้อม RAM 4 GB และ ROM 64 GB รองรับการขยายพื้นที่จัดเก็บข้อมูลได้สูงสุดถึง 1 TB สำหรับกล้องหลังมีความละเอียด 50 MP (กล้องหลัก), 2 MP (กล้อง Depth) และ 2 MP (กล้อง Macro) สามารถถ่ายภาพที่มีความคมชัดได้ดี พร้อมฟีเจอร์โหมด Portrait สำหรับละลายฉากหลัง ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 5 MP มีเอฟเฟกต์โบเก้สำหรับการถ่ายเซลฟี่ แบตเตอรี่มีความจุ 5000 mAh รองรับการใช้งานได้ยาวนานตลอดทั้งวัน นอกจากนี้ Galaxy A04s ยังรองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด และ MicroSD โดยรองรับเครือข่าย 4G LTE และมี Bluetooth v5.0 การเชื่อมต่อ USB Type-C และฟีเจอร์ Fast charge 15W สำหรับขนาดตัวเครื่องมีความยาว 164.7 มิลลิเมตร กว้าง 76.7 มิลลิเมตร หนา 9.1 มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 195 กรัม ราคาอยู่ที่ 4,999 บาท

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

SAMSUNG Galaxy A04s เหมาะสำหรับผู้ที่มองหาสมาร์ทโฟนในราคาย่อมเยา แต่ยังคงมีคุณสมบัติครบครัน เช่น หน้าจอลื่นไหลด้วย Refresh Rate 90Hz กล้องหลังความละเอียด 50 MP และแบตเตอรี่ 5000 mAh ที่รองรับการใช้งานได้ตลอดทั้งวัน ทำให้คุ้มค่ากับราคา 4,999 บาท

2. POCO M5s

2 POCO M5s

POCO M5s เป็นสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมหน้าจอ AMOLED ความละเอียด FHD+ กล้องหลัง 4 ตัว ความละเอียดสูงสุด 64 MP และแบตเตอรี่ 5,000 mAh รองรับการชาร์จไว 33W

ขนาดจอ 6.43 นิ้ว
ชิปเซ็ต MediaTek Helio G95
RAM 4 GB
ROM 64 GB, 128 GB
ความละเอียดกล้องหน้า 13 MP
ความละเอียดกล้องหลัง 64 + 8 + 2 + 2 MP
แบตเตอรี่ 5000 mAh

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

POCO M5s มาพร้อมหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.43 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2400 x 1080) มีความหนาแน่นของพิกเซล 409 ppi และรองรับการแสดงผลสีสันระดับ DCI-P3 ที่ 100% พร้อมความสว่างสูงสุดถึง 1,100 nits ซึ่งช่วยให้ใช้งานในที่แสงจ้าได้ดี ตัวเครื่องใช้ชิปเซ็ต MediaTek Helio G95 Octa Core ความเร็ว 2.05 GHz พร้อม GPU Mali-G76 MC4 ทำงานบนระบบปฏิบัติการ MIUI 13 ที่พัฒนาบนพื้นฐานของ Android 12 มี RAM 4 GB และตัวเลือก ROM ขนาด 64 GB หรือ 128 GB รองรับการเพิ่มหน่วยความจำผ่าน microSD ได้สูงสุดถึง 256 GB สำหรับกล้องหลังมีทั้งหมด 4 ตัว ประกอบด้วย กล้องหลัก 64 MP, กล้อง Ultra-Wide 8 MP, กล้อง Macro 2 MP และกล้อง Depth 2 MP ซึ่งสามารถบันทึกวิดีโอระดับ 4K ที่ 30 เฟรมต่อวินาทีได้ ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 13 MP รองรับการบันทึกวิดีโอระดับ Full HD ที่ 30 เฟรมต่อวินาที แบตเตอรี่ความจุ 5,000 mAh รองรับการชาร์จไว 33W ทำให้สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้อย่างรวดเร็วภายในเวลาไม่นาน ตัวเครื่องมีน้ำหนัก 180 กรัม ขนาด 6.43 นิ้ว และมีคุณสมบัติการทนน้ำและฝุ่นตามมาตรฐาน IP53 ราคาอยู่ที่ 4,599 บาท

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

POCO M5s เป็นตัวเลือกที่ดีเพราะมีหน้าจอ AMOLED ความละเอียด FHD+ ที่ให้สีสันสดใสและคมชัด พร้อมกล้องหลัง 4 ตัวที่มีความละเอียดสูงสุด 64 MP และแบตเตอรี่ 5,000 mAh รองรับการชาร์จไว 33W ทำให้ใช้งานได้นานและชาร์จเร็ว ในราคาเพียง 4,599 บาท

3. TECNO POVA 5

3 TECNO POVA 5

TECNO POVA 5 เป็นสมาร์ทโฟนที่เน้นการเล่นเกมด้วยหน้าจอ FHD+ ขนาด 6.78 นิ้ว Refresh Rate 120Hz ชิปเซ็ต MediaTek Helio G99 และแบตเตอรี่ 6,000 mAh รองรับการชาร์จไว 45W

ขนาดจอ 6.78 นิ้ว
ชิปเซ็ต MediaTek Helio G99
RAM 8 GB
ROM 128 GB
ความละเอียดกล้องหน้า 8 MP
ความละเอียดกล้องหลัง 50 MP
แบตเตอรี่ 6000 mAh

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

TECNO POVA 5 มาพร้อมหน้าจอขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2400 x 1080) และ Refresh Rate สูงถึง 120Hz ทำให้การแสดงผลลื่นไหล รองรับการใช้งานที่ต้องการความรวดเร็ว ชิปเซ็ตที่ใช้คือ MediaTek Helio G99 ซึ่งเป็นชิปเซ็ตระดับกลางที่ออกแบบมาเพื่อการเล่นเกมโดยเฉพาะ พร้อม RAM ขนาด 8 GB และ ROM 128 GB สามารถเพิ่มพื้นที่จัดเก็บเพิ่มเติมได้ มีฟังก์ชัน Dual Game Engines ที่ประกอบด้วย Panther Engine และ Hyper Engine 2.0 สำหรับเพิ่มประสบการณ์การเล่นเกม กล้องหลังความละเอียด 50 MP และกล้องหน้าความละเอียด 8 MP ทำให้การถ่ายภาพมีคุณภาพสูง สำหรับแบตเตอรี่มีความจุ 6,000 mAh รองรับการชาร์จไว 45W ซึ่งช่วยให้สามารถชาร์จได้อย่างรวดเร็วและใช้งานได้นาน ตัวเครื่องมีน้ำหนัก 200 กรัม ขนาด 168.61 x 76.61 x 9.00 มิลลิเมตร และรองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดในรูปแบบ Nano-SIM ราคาอยู่ที่ 4,999 บาท

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

TECNO POVA 5 เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเล่นเกม ด้วยหน้าจอ FHD+ ขนาด 6.78 นิ้ว Refresh Rate 120Hz และชิปเซ็ต MediaTek Helio G99 ที่ออกแบบมาเพื่อการเล่นเกมโดยเฉพาะ พร้อมแบตเตอรี่ 6,000 mAh ที่รองรับการชาร์จไว 45W ทำให้ใช้งานได้นานและชาร์จได้อย่างรวดเร็ว

4. Infinix HOT 30

4 Infinix HOT 30

Infinix HOT 30 เป็นสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมหน้าจอ FHD+ ขนาด 6.78 นิ้ว ชิปเซ็ต MediaTek Helio G88 กล้องหลัง 50 MP และแบตเตอรี่ 5,000 mAh รองรับการชาร์จไว 33W

ขนาดจอ 6.78 นิ้ว
ชิปเซ็ต MediaTek Helio G88
RAM 8 GB
ROM 256 GB
ความละเอียดกล้องหน้า 8 MP
ความละเอียดกล้องหลัง 50 MP
แบตเตอรี่ 5000 mAh

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

Infinix HOT 30 มาพร้อมหน้าจอขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (1080 x 2460) และมี Refresh Rate 90Hz ทำให้การแสดงผลลื่นไหล และใช้งานได้ดีในหลากหลายสถานการณ์ ตัวเครื่องใช้ชิปเซ็ต MediaTek Helio G88 พร้อม RAM ขนาด 8 GB และ ROM 256 GB ซึ่งรองรับการใช้งานพื้นที่จัดเก็บข้อมูลได้อย่างจุใจ แบตเตอรี่มีความจุ 5,000 mAh รองรับการชาร์จไวที่กำลังไฟ 33W ช่วยให้การชาร์จแบตเตอรี่เสร็จรวดเร็ว และใช้งานได้นานขึ้น กล้องหลังมีความละเอียด 50 MP พร้อม AI Lens และโหมดถ่ายภาพกลางคืน (Super Night Film) ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 8 MP พร้อมแฟลชคู่ด้านหน้า (Front Flash) ช่วยให้การถ่ายเซลฟี่ในสภาวะแสงน้อยทำได้อย่างดี ตัวเครื่องรองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดแบบ Nano-SIM และรองรับการเชื่อมต่อ 4G ขนาดตัวเครื่องอยู่ที่ 168.7 x 76.6 x 8.4 มิลลิเมตร น้ำหนัก 200 กรัม และยังคงมีรูหูฟัง 3.5 มิลลิเมตรให้ใช้งาน ราคาอยู่ที่ 5,000 บาท

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

Infinix HOT 30 เป็นตัวเลือกที่ดีเพราะมีหน้าจอ FHD+ ขนาดใหญ่ 6.78 นิ้ว พร้อม Refresh Rate 90Hz ช่วยให้การแสดงผลลื่นไหล รวมถึงมี RAM 8 GB และ ROM 256 GB ที่รองรับการใช้งานได้หลากหลาย พร้อมแบตเตอรี่ 5,000 mAh ที่รองรับการชาร์จไว 33W ช่วยให้ใช้งานได้ยาวนานและชาร์จได้อย่างรวดเร็ว

5. Xiaomi Redmi 12

5 Xiaomi Redmi 12

Xiaomi Redmi 12 เป็นสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมหน้าจอ FHD+ ขนาด 6.79 นิ้ว ชิปเซ็ต MediaTek Helio G88 กล้องหลัง 50 MP และแบตเตอรี่ 5,000 mAh รองรับการชาร์จเร็ว 18W

ขนาดจอ 6.79 นิ้ว
ชิปเซ็ต MediaTek Helio G88
RAM 8 GB
ROM 128 GB
ความละเอียดกล้องหน้า 8 MP
ความละเอียดกล้องหลัง 50 + 8 + 2 MP
แบตเตอรี่ 5000 mAh

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

Xiaomi Redmi 12 มาพร้อมหน้าจอขนาด 6.79 นิ้ว แบบ FHD+ DotDisplay ความละเอียด 2460 x 1080 พิกเซล มี Refresh Rate 90Hz ทำให้การแสดงผลลื่นไหล นอกจากนี้ตัวเครื่องยังบางเพียง 8.17 มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 200 กรัม ใช้ชิปเซ็ต MediaTek Helio G88 ที่มีความเร็วและประสิทธิภาพดีสำหรับการใช้งานทั่วไป รวมถึงการเล่นเกมระดับกลาง มาพร้อม RAM 8 GB และ ROM 128 GB ที่รองรับการเพิ่มพื้นที่จัดเก็บข้อมูลผ่าน microSD สูงสุดถึง 1 TB กล้องหลังมี 3 ตัว ประกอบด้วยกล้องหลัก 50 MP กล้อง Ultra-Wide 8 MP และกล้อง Macro 2 MP พร้อม AI ที่ช่วยประมวลผลภาพถ่ายให้สวยงาม กล้องหน้าความละเอียด 8 MP รองรับการบันทึกวิดีโอระดับ 1080p ที่ 30 เฟรมต่อวินาที แบตเตอรี่มีความจุ 5,000 mAh รองรับการชาร์จเร็ว 18W ตัวเครื่องยังรองรับการเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth 5.3, NFC และมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. พร้อมมาตรฐานการกันน้ำและฝุ่นระดับ IP53 ราคาอยู่ที่ 5,999 บาท

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

Xiaomi Redmi 12 เป็นตัวเลือกที่ดีเพราะมีหน้าจอ FHD+ ขนาดใหญ่ 6.79 นิ้ว พร้อม Refresh Rate 90Hz ที่ให้การแสดงผลลื่นไหล มาพร้อมกล้องหลัง 3 ตัวที่มีความละเอียดสูงสุด 50 MP และแบตเตอรี่ 5,000 mAh รองรับการชาร์จเร็ว 18W ทำให้ใช้งานได้ยาวนานและคุ้มค่าในราคา 5,999 บาท

6. OPPO A18

6 OPPO โทรศัพท์ OPPO A18

OPPO A18 เป็นสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมหน้าจอ HD+ ขนาด 6.56 นิ้ว ชิปเซ็ต MediaTek Helio G85 กล้องหลัง 8 MP และแบตเตอรี่ 5,000 mAh

ขนาดจอ 6.56 นิ้ว
ชิปเซ็ต MediaTek Helio G85
RAM 4 GB
ROM 128 GB
ความละเอียดกล้องหน้า 8 MP
ความละเอียดกล้องหลัง 8 + 2 MP
แบตเตอรี่ 5000 mAh

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

OPPO A18 มาพร้อมหน้าจอขนาด 6.56 นิ้ว ชนิด HD+ LCD และมี Refresh Rate 90Hz ทำให้การแสดงผลลื่นไหล แม้ว่าจะเป็นหน้าจอ LCD แต่สามารถมีความสว่างสูงสุดถึง 720 นิต ตัวเครื่องใช้ชิปเซ็ต MediaTek Helio G85 ซึ่งเป็นชิปเซ็ตระดับเริ่มต้นที่เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไป RAM ขนาด 4 GB และ ROM 128 GB ซึ่งเพียงพอสำหรับการเก็บข้อมูลและใช้งานแอปพลิเคชันต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ กล้องหลังมีความละเอียด 8 MP + 2 MP ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 5 MP แบตเตอรี่ขนาด 5,000 mAh รองรับการชาร์จ 10W ผ่านพอร์ต Type-C ตัวเครื่องมีน้ำหนัก 188 กรัม ขนาด 163.74 x 75.03 x 8.16 มิลลิเมตร และยังคงมีรูหูฟังขนาด 3.5 มม. สำหรับการเชื่อมต่อหูฟังเพิ่มเติม ระบบปฏิบัติการใช้ ColorOS 13.1 ที่พัฒนาบนพื้นฐาน Android 13 ราคาอยู่ที่ 5,799 บาท

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

OPPO A18 เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนในราคาย่อมเยา ด้วยหน้าจอ 90Hz ที่ลื่นไหลและแบตเตอรี่ 5,000 mAh ที่ใช้งานได้นาน พร้อมชิปเซ็ต MediaTek Helio G85 ที่เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไปและแอปพลิเคชันต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน

7. Realme C53

7 realme C53

Realme C53 เป็นสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมหน้าจอ 6.74 นิ้ว Refresh Rate 90Hz กล้องหลัง 50 MP และแบตเตอรี่ 5,000 mAh รองรับการชาร์จไว 33W

ขนาดจอ 6.74 นิ้ว
ชิปเซ็ต Unisoc T612
RAM 6 GB
ROM 128 GB
ความละเอียดกล้องหน้า 8 MP
ความละเอียดกล้องหลัง 50 MP
แบตเตอรี่ 5000 mAh

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

Realme C53 มาพร้อมหน้าจอขนาด 6.74 นิ้ว ชนิด LCD ความละเอียด HD+ (720 x 1600) และ Refresh Rate 90Hz ช่วยให้การแสดงผลลื่นไหล ชิปเซ็ตที่ใช้คือ Unisoc T612 พร้อม RAM ขนาด 6 GB และ ROM 128 GB รองรับการเพิ่มพื้นที่จัดเก็บข้อมูลผ่าน microSD ได้สูงสุดถึง 512 GB นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Dynamic RAM ที่สามารถเพิ่ม RAM ได้สูงสุดถึง 12 GB โดยการดึงหน่วยความจำจาก ROM มาใช้ กล้องหลังมีความละเอียด 50 MP และกล้องหน้ามีความละเอียด 8 MP แบตเตอรี่ขนาด 5,000 mAh รองรับการชาร์จไวที่กำลังไฟ 33W ซึ่งทำให้ชาร์จแบตเตอรี่ได้อย่างรวดเร็ว ตัวเครื่องมีน้ำหนัก 190 กรัม ขนาด 168 x 77 x 7.5 มิลลิเมตร ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 13 ที่ครอบทับด้วย realme UI T Edition ราคาอยู่ที่ 4,299 บาท

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

Realme C53 เป็นตัวเลือกที่ดีเพราะมีหน้าจอขนาดใหญ่ 6.74 นิ้ว และ Refresh Rate 90Hz ช่วยให้การแสดงผลลื่นไหล พร้อม RAM ขนาด 6 GB ที่สามารถเพิ่มได้ถึง 12 GB และแบตเตอรี่ 5,000 mAh ที่รองรับการชาร์จไว 33W ทำให้ใช้งานได้อย่างยาวนานและชาร์จได้รวดเร็ว ในราคาเพียง 4,299 บาท

8. Realme narzo 50A PRIME

8 realme narzo 50A PRIME

Realme narzo 50A PRIME เป็นสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมหน้าจอ FHD+ ขนาด 6.6 นิ้ว ชิปเซ็ต Unisoc T612 กล้องหลัง 50 MP และแบตเตอรี่ 5,000 mAh รองรับการชาร์จไว 18W

ขนาดจอ 6.6 นิ้ว
ชิปเซ็ต Unisoc T612
RAM 4 GB
ROM 128 GB
ความละเอียดกล้องหน้า 8 MP
ความละเอียดกล้องหลัง 50 MP
แบตเตอรี่ 5000 mAh

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

Realme narzo 50A PRIME มาพร้อมหน้าจอขนาด 6.6 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (1080 x 2408) แบบ TFT-LTPS ซึ่งมี Refresh Rate 60Hz ตัวเครื่องใช้ชิปเซ็ต Unisoc T612 พร้อม RAM ขนาด 4 GB และ ROM 128 GB รองรับการเพิ่มหน่วยความจำผ่าน microSD ได้สูงสุดถึง 512 GB สำหรับกล้องหลังมีความละเอียด 50 MP พร้อมเลนส์เสริม 2 MP และ VGA ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 8 MP แบตเตอรี่มีความจุ 5,000 mAh รองรับการชาร์จไว 18W ผ่านพอร์ต USB-C และยังคงมีฟีเจอร์การเชื่อมต่อครบครัน เช่น Bluetooth 5.0, Wi-Fi 802.11a/b/g/n/ac รองรับการใช้งานสองซิมการ์ดแบบ Nano-SIM พร้อมช่องแยกสำหรับการ์ด microSD ขนาดตัวเครื่องอยู่ที่ 164.4 x 75.6 x 8.1 มิลลิเมตร น้ำหนัก 192.5 กรัม ระบบปฏิบัติการ Android 11 ครอบทับด้วย realme UI R Edition ราคาอยู่ที่ 6,199 บาท

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

Realme narzo 50A PRIME เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนราคาย่อมเยา ด้วยหน้าจอ FHD+ ขนาด 6.6 นิ้ว กล้องหลัง 50 MP และแบตเตอรี่ 5,000 mAh รองรับการชาร์จไว 18W ทำให้ใช้งานได้ยาวนานและมีประสิทธิภาพ ในราคาเพียง 6,199 บาท

9. Nokia C32

9 Nokia C32

Nokia C32 เป็นสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมหน้าจอ 6.52 นิ้ว กล้องหลัง 50 MP แบตเตอรี่ 5,000 mAh และระบบปฏิบัติการ Android 13

ขนาดจอ 6.52 นิ้ว
ชิปเซ็ต Unisoc SC9863A
RAM 4 GB
ROM 128 GB
ความละเอียดกล้องหน้า 8 MP
ความละเอียดกล้องหลัง 50 + 2 MP
แบตเตอรี่ 5000 mAh

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

Nokia C32 มาพร้อมหน้าจอขนาด 6.52 นิ้ว ความละเอียด HD+ และ Refresh Rate 60Hz ตัวเครื่องใช้ชิปเซ็ต Unisoc SC9863A แบบ Octa-core ความเร็วสูงสุด 1.6 GHz พร้อม RAM ขนาด 4 GB และ ROM 128 GB รองรับการเพิ่มพื้นที่จัดเก็บข้อมูลผ่าน MicroSD ได้สูงสุด 256 GB สำหรับกล้องหลังมีความละเอียด 50 MP + 2 MP และกล้องหน้ามีความละเอียด 8 MP พร้อมฟีเจอร์โหมดกลางคืนและโหมดภาพถ่ายบุคคล แบตเตอรี่ขนาด 5,000 mAh รองรับการชาร์จที่กำลังไฟ 10W ผ่านพอร์ต USB-C มีฟีเจอร์การเชื่อมต่อครบครัน เช่น Bluetooth 5.2 และ Wi-Fi 802.11 b/g/n พร้อมรองรับการใช้งานสองซิมการ์ดแบบ Nano-SIM ระบบปฏิบัติการที่ใช้คือ Android 13 ตัวเครื่องมีขนาด 164.6 x 75.9 x 8.55 มิลลิเมตร น้ำหนัก 199.4 กรัม มีฟีเจอร์ปลดล็อกด้วยลายนิ้วมือด้านข้างและการปลดล็อกด้วยใบหน้า ราคาอยู่ที่ 4,129 บาท

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

Nokia C32 เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่มองหาสมาร์ทโฟนในราคาประหยัด ด้วยกล้องหลัง 50 MP ที่ถ่ายภาพได้ชัดเจน แบตเตอรี่ 5,000 mAh ที่ใช้งานได้นาน และระบบปฏิบัติการ Android 13 ที่ทันสมัย ในราคาเพียง 4,129 บาท

10. Infinix HOT 30i

10 infinix HOT 30i

Infinix HOT 30i เป็นสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมหน้าจอ 6.56 นิ้ว Refresh Rate 90Hz ชิปเซ็ต Unisoc T606 RAM 8 GB แบตเตอรี่ 5,000 mAh รองรับการชาร์จไว 18W

ขนาดจอ 6.56 นิ้ว
ชิปเซ็ต Unisoc T606
RAM 8 GB
ROM 128 GB
ความละเอียดกล้องหน้า 8 MP
ความละเอียดกล้องหลัง 13 MP
แบตเตอรี่ 5000 mAh

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

Infinix HOT 30i มาพร้อมหน้าจอขนาด 6.56 นิ้ว ความละเอียด HD+ และ Refresh Rate 90Hz ทำให้การใช้งานจอลื่นไหล ชิปเซ็ตที่ใช้คือ Unisoc T606 Octa-core ความเร็วสูงสุด 1.6GHz พร้อม RAM ขนาด 8 GB และ ROM 128 GB รองรับการเพิ่ม RAM ได้สูงสุด 16 GB และรองรับการเพิ่มหน่วยความจำผ่าน microSD สำหรับกล้องหลังมีความละเอียด 13 MP พร้อมเลนส์ AI ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 8 MP พร้อมแฟลชคู่ แบตเตอรี่ขนาด 5,000 mAh รองรับการชาร์จไวที่กำลังไฟ 18W ทำให้การชาร์จแบตเตอรี่เสร็จเร็วและใช้งานได้นานขึ้น ตัวเครื่องรองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดแบบ Nano-SIM และรองรับการเชื่อมต่อ 4G มีน้ำหนัก 190 กรัม และยังรองรับฟังก์ชัน NFC สำหรับการชำระเงินผ่านมือถือ ราคาอยู่ที่ 4,499 บาท

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?

Infinix HOT 30i เป็นตัวเลือกที่ดีเพราะมาพร้อมกับ RAM ขนาด 8 GB ที่เพิ่มได้สูงสุดถึง 16 GB และแบตเตอรี่ 5,000 mAh รองรับการชาร์จไว 18W ทำให้ใช้งานได้นานและชาร์จเร็ว อีกทั้งยังมีฟังก์ชัน NFC สำหรับการชำระเงินผ่านมือถือ ในราคาเพียง 4,499 บาท

วิธีเลือกขนาดหน้าจอที่เหมาะสมสำหรับสมาร์ทโฟนของคุณ

01-วิธีเลือกขนาดหน้าจอที่เหมาะสม

สำหรับคนที่กำลังมองหามือถือราคาไม่เกิน 5000 การเลือกขนาดหน้าจอที่เหมาะสมเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะขนาดหน้าจอไม่เพียงแค่มีผลต่อการใช้งาน แต่ยังส่งผลต่อความสะดวกในการพกพาอีกด้วย ดังนั้น การเลือกขนาดหน้าจอที่ตอบโจทย์การใช้งานจะช่วยให้ประสบการณ์การใช้สมาร์ทโฟนดีขึ้นและเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน ซึ่งมีหลักการเลือกดังนี้

หน้าจอขนาดเล็ก (ต่ำกว่า 5.5 นิ้ว)

  • เหมาะกับผู้ที่ชอบพกพามือถือที่ขนาดกระทัดรัด และสามารถใช้งานด้วยมือเดียวได้อย่างสะดวก
  • การใช้งานทั่วไป เช่น รับสาย โทรเข้า-ออก การแชทผ่านแอปต่างๆ จะสะดวกมากกับขนาดหน้าจอแบบนี้
  • ข้อดีคือ พกพาสะดวก ใส่ในกระเป๋าเสื้อหรือกระเป๋ากางเกงได้ง่าย
  • ข้อจำกัดคือ หน้าจออาจเล็กเกินไปสำหรับการดูวิดีโอหรือเล่นเกมที่ต้องการรายละเอียดสูง รวมถึงการพิมพ์ข้อความอาจทำได้ยากขึ้นเพราะแป้นพิมพ์มีขนาดเล็ก

หน้าจอขนาดกลาง (5.5 – 6.5 นิ้ว)

  • เป็นขนาดหน้าจอที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะสามารถใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการท่องเว็บ ดูวิดีโอ เล่นเกม หรืออ่านข่าว
  • เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการมือถือที่ใช้งานได้ครอบคลุม แต่ยังสามารถพกพาได้สะดวก
  • การแสดงผลของวิดีโอและเกมจะชัดเจนขึ้นเมื่อเทียบกับหน้าจอขนาดเล็ก ทำให้การใช้งานเพื่อความบันเทิงเป็นไปอย่างราบรื่น
  • อาจจะใหญ่สำหรับบางคนที่มีมือเล็ก ทำให้การใช้งานด้วยมือเดียวอาจไม่สะดวกเท่าที่ควร

หน้าจอขนาดใหญ่ (มากกว่า 6.5 นิ้ว)

  • เหมาะกับผู้ที่ต้องการประสบการณ์การใช้งานที่เต็มตา เหมาะกับการดูหนัง เล่นเกม หรือแม้แต่การทำงานที่ต้องการพื้นที่หน้าจอมาก เช่น การแก้ไขเอกสารหรือรูปภาพ
  • สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการดูซีรีส์หรือสตรีมวิดีโอบนมือถือ หน้าจอขนาดใหญ่นี้จะทำให้การรับชมเต็มอรรถรสและสบายตา
  • ข้อเสียคือความไม่สะดวกในการพกพา เพราะขนาดที่ใหญ่เกินไปอาจไม่สามารถใส่ในกระเป๋าเสื้อหรือกางเกงได้ง่าย อีกทั้งการใช้งานด้วยมือเดียวจะยากขึ้น
  • แบตเตอรี่อาจหมดเร็วกว่ารุ่นที่มีหน้าจอเล็ก เนื่องจากการแสดงผลบนหน้าจอใหญ่ต้องใช้พลังงานมากขึ้น

การเลือกขนาดหน้าจอจึงเป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ ควรคำนึงถึงการใช้งานประจำวันของตัวเองเป็นหลัก หากใช้งานเพื่อความบันเทิงหรือทำงานมาก การเลือกหน้าจอขนาดใหญ่จะช่วยให้ใช้งานได้เต็มที่ แต่ถ้าต้องการพกพาง่ายและเน้นการใช้งานทั่วไป หน้าจอขนาดกลางหรือเล็กอาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า

ชิปเซ็ตของสมาร์ทโฟน ทำไมถึงสำคัญในมือถือราคาประหยัด

02-ชิปเซ็ตของสมาร์ทโฟน

ชิปเซ็ตเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดของสมาร์ทโฟน เพราะมันทำหน้าที่ประมวลผลทุกสิ่งที่คุณทำกับมือถือ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดแอป การเล่นเกม การท่องเว็บ หรือการใช้งานกล้องถ่ายรูป ในมือถือราคาไม่เกิน 5000 ชิปเซ็ตเป็นตัวกำหนดประสิทธิภาพการทำงานทั้งหมด ดังนั้นการเลือกชิปเซ็ตที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณได้มือถือที่คุ้มค่ากับราคาและสามารถใช้งานได้ดีในระยะยาว

ชิปเซ็ตควอดคอร์ (Quad-core)

  • ชิปเซ็ตควอดคอร์มีแกนประมวลผลทั้งหมด 4 แกน ซึ่งเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป เช่น การโทรเข้า-ออก การแชทผ่านแอป และการท่องเว็บ
  • เหมาะสำหรับคนที่ต้องการมือถือใช้งานทั่วไปโดยไม่เน้นการเล่นเกมหรือดูวิดีโอความละเอียดสูง
  • ข้อดีของชิปเซ็ตนี้คือ ประหยัดพลังงาน ช่วยให้แบตเตอรี่ใช้งานได้นาน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องใช้งานมือถือตลอดวันโดยไม่ต้องชาร์จบ่อย
  • อย่างไรก็ตาม ข้อจำกัดของชิปเซ็ตควอดคอร์คือ ประสิทธิภาพที่ต่ำกว่า เมื่อเทียบกับชิปเซ็ตที่มีแกนประมวลผลมากกว่า ทำให้การใช้งานแอปที่ต้องการประมวลผลสูง เช่น การเล่นเกม อาจไม่ลื่นไหลเท่าที่ควร

ชิปเซ็ตอ็อกตาคอร์ (Octa-core)

  • ชิปเซ็ตอ็อกตาคอร์มีแกนประมวลผล 8 แกน จึงสามารถจัดการกับงานที่ซับซ้อนและการใช้งานหลายแอปพร้อมกัน (Multitasking) ได้ดีขึ้น
  • เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการประสิทธิภาพสูง เช่น การเล่นเกมที่มีกราฟิกหนัก การดูวิดีโอความละเอียดสูง และการถ่ายรูปหรือถ่ายวิดีโอ
  • ข้อดีคือ ทำให้การใช้งานแอปลื่นไหลและตอบสนองได้รวดเร็ว ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ใช้มือถือหลายคนต้องการ
  • แต่ข้อเสียของชิปเซ็ตอ็อกตาคอร์คือ การใช้พลังงานมากขึ้น เนื่องจากมีแกนประมวลผลหลายแกน ทำให้แบตเตอรี่หมดเร็วกว่า นอกจากนี้ ในมือถือราคาประหยัดบางรุ่น การใช้งานชิปเซ็ตอ็อกตาคอร์อาจทำให้เครื่องร้อนขึ้นเมื่อใช้งานต่อเนื่องเป็นเวลานาน

ชิปเซ็ตแบบไฮเอนด์ในมือถือราคาประหยัด

  • ปัจจุบันมีสมาร์ทโฟนราคาประหยัดบางรุ่นที่มาพร้อมกับชิปเซ็ตที่มีประสิทธิภาพสูง โดยมุ่งเน้นการประมวลผลที่รวดเร็วและการจัดการพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ
  • ชิปเซ็ตเหล่านี้อาจมีแกนประมวลผลมากกว่า 8 แกน และมีเทคโนโลยีการจัดการพลังงานที่ช่วยให้เครื่องทำงานได้ลื่นไหล แม้จะอยู่ในช่วงราคาประหยัด
  • เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการมือถือที่สามารถใช้งานหนัก เช่น การเล่นเกม 3D การแก้ไขวิดีโอ หรือการใช้งานแอปที่ต้องการประสิทธิภาพสูง แต่ยังคงอยู่ในงบประมาณที่จำกัด
  • อย่างไรก็ตาม สมาร์ทโฟนที่ใช้ชิปเซ็ตแบบไฮเอนด์อาจมีราคาสูงกว่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับรุ่นที่ใช้ชิปเซ็ตควอดคอร์หรืออ็อกตาคอร์

ชิปเซ็ตที่ดีจะช่วยให้มือถือทำงานได้อย่างราบรื่น ไม่ว่าจะเป็นการเปิดแอป การเล่นเกม หรือการถ่ายรูป นอกจากนี้ ชิปเซ็ตยังมีผลต่อการใช้งานแบตเตอรี่ด้วย ดังนั้นการเลือกมือถือราคาไม่เกิน 5000 ที่มีชิปเซ็ตเหมาะสมจะทำให้คุณได้รับประสบการณ์ที่ดีจากการใช้งานและคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป

วิธีหาแบตเตอรี่สมาร์ทโฟนที่ใช้งานได้นานในราคาไม่เกิน 5000

03-วิธีหาแบตเตอรี่สมาร์ทโฟนที่ใช้งานได้นาน

สำหรับผู้ที่กำลังมองหามือถือราคาไม่เกิน 5000 บาท สิ่งหนึ่งที่ควรให้ความสำคัญคือแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้นาน เพราะการใช้งานมือถือในชีวิตประจำวัน เช่น การเล่นโซเชียลมีเดีย ดูวิดีโอ หรือแม้แต่เล่นเกม ล้วนแต่ใช้พลังงานแบตเตอรี่ทั้งสิ้น หากแบตหมดไวจะทำให้การใช้งานไม่ราบรื่น ดังนั้นการเลือกมือถือที่มีแบตเตอรี่ที่ดีและมีระบบจัดการพลังงานที่มีประสิทธิภาพจึงเป็นเรื่องสำคัญ

ความจุแบตเตอรี่ (mAh)

  • ควรเลือกมือถือที่มีความจุแบตเตอรี่ตั้งแต่ 4000 mAh ขึ้นไป ซึ่งเป็นความจุที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานทั่วไป เช่น ดูวิดีโอ เล่นเกม หรือใช้งานแอปโซเชียลมีเดีย โดยไม่ต้องกังวลว่าแบตจะหมดเร็ว
  • ถ้าใช้งานมือถือในการทำงานหรือเดินทางบ่อยๆ ความจุที่สูงกว่า 5000 mAh จะเหมาะสมยิ่งขึ้น เพราะสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องทั้งวันโดยไม่ต้องชาร์จบ่อย

เทคโนโลยีการชาร์จเร็ว (Fast Charging)

  • ปัจจุบันมือถือราคาไม่เกิน 5000 หลายรุ่นมาพร้อมกับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว เช่น 15W, 18W หรือมากกว่า ซึ่งจะช่วยให้สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ในเวลาสั้นๆ เหมาะสำหรับผู้ที่มีเวลาจำกัดและต้องการชาร์จแบตระหว่างวัน
  • ควรตรวจสอบว่าในกล่องมีที่ชาร์จที่รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็วมาให้ด้วยหรือไม่ เพราะบางรุ่นอาจรองรับการชาร์จเร็ว แต่ต้องซื้อที่ชาร์จแยกต่างหาก

การจัดการพลังงานภายในเครื่อง

  • สมาร์ทโฟนในปัจจุบันมักมาพร้อมกับ โหมดประหยัดพลังงาน ซึ่งจะช่วยลดการใช้พลังงานของแอปที่ทำงานเบื้องหลังหรือการตั้งค่าบางอย่างที่ไม่จำเป็น เช่น ลดความสว่างหน้าจอ หรือปิดการใช้งานเครือข่ายข้อมูลเมื่อไม่ได้ใช้
  • นอกจากนี้ ควรตรวจสอบว่ามือถือที่เลือกใช้ชิปเซ็ตที่มีการจัดการพลังงานที่ดี เช่น ชิปเซ็ตที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีขนาด 7nm หรือ 8nm ที่ใช้พลังงานน้อยกว่าและช่วยให้แบตเตอรี่ใช้งานได้นานขึ้น แม้จะมีความจุแบตเตอรี่ไม่สูงมาก
  • บางรุ่นยังมีฟีเจอร์เพิ่มเติม เช่น การปิดแอปที่ไม่ได้ใช้งานอัตโนมัติ หรือการปรับการทำงานของแอปเพื่อให้ใช้พลังงานน้อยลง

การใช้งานทั่วไปและการตั้งค่า

  • ปรับการตั้งค่าการใช้งาน เช่น ลดความสว่างหน้าจอ เปิดโหมดเครื่องบินเมื่อไม่ได้ใช้สัญญาณเครือข่าย และปิดแอปพลิเคชันที่ไม่ได้ใช้งาน ซึ่งจะช่วยยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ได้มากขึ้น
  • การใช้งานในระยะยาว ควรคำนึงถึงการดูแลแบตเตอรี่ เช่น ไม่ควรชาร์จแบตเตอรี่จนเต็ม 100% ตลอดเวลา และหลีกเลี่ยงการใช้มือถือในขณะที่กำลังชาร์จ เพื่อป้องกันแบตเตอรี่เสื่อมเร็ว

การใช้อุปกรณ์เสริมเพื่อยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่

นอกจากการเลือกสมาร์ทโฟนที่มีแบตเตอรี่ความจุสูงและระบบจัดการพลังงานที่ดีแล้ว การใช้อุปกรณ์เสริมอย่าง พาวเวอร์แบงค์ ****ก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำคัญ โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ใช้งานมือถือบ่อยครั้งนอกบ้านหรือในสถานที่ที่ไม่มีปลั๊กไฟ การพกพาพาวเวอร์แบงค์ติดตัวจะช่วยให้สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ทุกที่ทุกเวลา หากคุณกำลังมองหาพาวเวอร์แบงค์ยี่ห้อไหนดี ควรเลือกที่มีความจุอย่างน้อย 10,000 mAh ขึ้นไป เพื่อให้สามารถชาร์จสมาร์ทโฟนได้หลายรอบต่อวัน อีกทั้งยังควรเลือกพาวเวอร์แบงค์ที่รองรับการชาร์จเร็ว เพื่อให้สามารถเติมพลังให้มือถือได้รวดเร็วขึ้น

นอกจากพาวเวอร์แบงค์แล้ว การเลือกสายชาร์จ micro usb ที่มีคุณภาพ ก็สำคัญเช่นกัน สำหรับสมาร์ทโฟนที่ยังรองรับการเชื่อมต่อแบบ micro USB ควรเลือกสายชาร์จที่ทำจากวัสดุที่ทนทาน ไม่ขาดง่าย และรองรับการส่งกระแสไฟที่เสถียร การเลือกใช้สายชาร์จคุณภาพต่ำอาจทำให้การชาร์จช้าลงหรือแบตเตอรี่เสื่อมเร็วได้ การใช้อุปกรณ์เสริมที่เหมาะสมจะช่วยยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ และทำให้สามารถใช้งานสมาร์ทโฟนได้ยาวนานขึ้นในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นการดูหนัง ฟังเพลง หรือเล่นเกม โดยไม่ต้องกังวลว่าแบตเตอรี่จะหมดเร็ว

บทความนี้นำเสนอ 10 อันดับมือถือราคาไม่เกิน 5000 บาท ที่ครบครันด้วยฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์หลากหลายประเภท โดยระบุข้อมูลสำคัญของแต่ละรุ่น เช่น ขนาดหน้าจอ ชิปเซ็ต RAM, ROM ความละเอียดของกล้องหน้า-หลัง และความจุแบตเตอรี่ พร้อมคำอธิบายสั้น ๆ เพื่อช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจถึงจุดเด่นและข้อดีของแต่ละรุ่นได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ ยังมีเนื้อหาสนับสนุนเกี่ยวกับวิธีการเลือกมือถือที่เหมาะสม เช่น การเลือกขนาดหน้าจอที่ตอบสนองการใช้งานได้ดี การเข้าใจบทบาทของชิปเซ็ตที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการใช้งาน และการพิจารณาความจุแบตเตอรี่ที่ช่วยให้ใช้งานได้ยาวนาน ข้อมูลเหล่านี้ถือเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการตัดสินใจซื้อสมาร์ทโฟนในงบประมาณจำกัด เพื่อช่วยให้ผู้อ่านสามารถเลือกมือถือที่ตอบโจทย์ความต้องการ ทั้งในแง่ของประสิทธิภาพ การถ่ายภาพ และการใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างคุ้มค่าที่สุด

คำถามที่พบบ่อย

1. ขนาดหน้าจอสำคัญแค่ไหนในการเลือกสมาร์ทโฟนราคาไม่เกิน 5000?

ขนาดหน้าจอมีผลต่อทั้งการใช้งานและความสะดวกในการพกพา หน้าจอขนาดเล็ก (ต่ำกว่า 5.5 นิ้ว) เหมาะกับการใช้งานทั่วไป เช่น รับสาย โทรเข้า-ออก หรือแชท และยังพกพาได้ง่าย หน้าจอขนาดกลาง (5.5 – 6.5 นิ้ว) เป็นขนาดที่นิยมที่สุด เพราะสามารถใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการท่องเว็บ ดูวิดีโอ หรือเล่นเกม ส่วนหน้าจอขนาดใหญ่ (มากกว่า 6.5 นิ้ว) เหมาะกับการใช้งานเพื่อความบันเทิง เช่น ดูหนัง เล่นเกม หรือแม้แต่การทำงาน แต่จะมีความยากในการพกพาและใช้งานด้วยมือเดียวมากกว่า ดังนั้นควรเลือกขนาดหน้าจอที่เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวันของคุณ

2. ทำไมชิปเซ็ตถึงสำคัญในสมาร์ทโฟนราคาประหยัด?

ชิปเซ็ตเปรียบเสมือนสมองของสมาร์ทโฟนที่ควบคุมทุกการทำงาน ตั้งแต่การเปิดแอป การเล่นเกม หรือการท่องเว็บ สำหรับมือถือราคาไม่เกิน 5000 ชิปเซ็ตเป็นตัวกำหนดประสิทธิภาพของเครื่อง ถ้าเป็นชิปเซ็ตควอดคอร์ จะเหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไป เช่น การโทรเข้า-ออก และการท่องเว็บ พร้อมกับประหยัดพลังงานทำให้แบตเตอรี่ใช้งานได้นาน แต่ถ้าเป็นชิปเซ็ตอ็อกตาคอร์ จะจัดการงานที่ซับซ้อนและการใช้งานหลายแอปพร้อมกันได้ดีขึ้น เหมาะสำหรับการเล่นเกมและดูวิดีโอ แต่จะใช้พลังงานมากขึ้น นอกจากนี้ บางรุ่นในกลุ่มราคาประหยัดยังมาพร้อมกับชิปเซ็ตประสิทธิภาพสูง ที่มีการจัดการพลังงานที่ดี ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานที่หนักหน่วงแต่ยังคงอยู่ในงบประมาณ

3. ความจุแบตเตอรี่ที่ควรเลือกสำหรับสมาร์ทโฟนราคาไม่เกิน 5000 คือเท่าไร?

ควรเลือกสมาร์ทโฟนที่มีความจุแบตเตอรี่ไม่น้อยกว่า 4000 mAh ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไป เช่น ดูวิดีโอ เล่นเกม หรือใช้งานแอปโซเชียลมีเดียได้ตลอดวันโดยไม่ต้องชาร์จบ่อย หากต้องใช้งานมือถือในการทำงานหรือเดินทางบ่อยๆ ควรเลือกแบตเตอรี่ที่มีความจุ 5000 mAh ขึ้นไป เพื่อให้ใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ควรตรวจสอบว่ามือถือรุ่นนั้นรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็วและมีโหมดประหยัดพลังงาน เพื่อช่วยยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ให้ยาวนานยิ่งขึ้น

4. สมาร์ทโฟนราคาประหยัดมีกล้องที่ดีได้หรือไม่?

ได้ สมาร์ทโฟนราคาไม่เกิน 5000 หลายรุ่นมีกล้องที่มีความละเอียดที่ดีสำหรับทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง แม้อาจจะไม่ได้มาพร้อมฟีเจอร์กล้องระดับสูงมาก แต่ก็เพียงพอสำหรับการถ่ายรูปและวิดีโอในชีวิตประจำวัน ควรเลือกมือถือที่มีกล้องที่มีความละเอียดสูงและมีฟีเจอร์เสริม เช่น HDR โหมดถ่ายภาพบุคคล หรือโหมดถ่ายกลางคืน เพื่อให้ได้ภาพที่มีคุณภาพมากขึ้น

ผู้เขียน

หมวดหมู่ผลิตภัณฑ์

icon-Grey_1-อิเล็กทรอนิกส์

อิเล็กทรอนิกส์

icon-Grey_2-เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน

เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน

icon-Grey_3-แฟชั่นและเสื้อผ้า

แฟชั่นและเสื้อผ้า

icon-Grey_4-ความงามและสุขอนามัย

ความงามและสุขอนามัย

icon-Grey_5-สุขภาพและเวชภัณฑ์

สุขภาพและเวชภัณฑ์

icon-Grey_6-ของใช้ในบ้านและห้องครัว

ของใช้ในบ้านและห้องครัว

icon-Grey_7-อาหารและเครื่องดื่ม

อาหารและเครื่องดื่ม

icon-Grey_8-กีฬาและกิจกรรมกลางแจ้ง

กีฬาและกิจกรรมกลางแจ้ง

icon-Grey_9-ของเล่นและเกม

ของเล่นและเกม

icon-Grey_10-ยานยนต์

ยานยนต์

icon-Grey_11-ผลิตภัณฑ์สำหรับแม่และเด็ก

ผลิตภัณฑ์สำหรับแม่และเด็ก

icon-Grey_12-อุปกรณ์สำนักงาน

อุปกรณ์สำนักงาน

icon-Grey_13-อุปกรณ์สัตว์เลี้ยง

อุปกรณ์สัตว์เลี้ยง

icon-Grey_14-เฟอร์นิเจอร์และตกแต่งบ้าน

เฟอร์นิเจอร์และตกแต่งบ้าน

icon-Grey_15-อุปกรณ์ทำสวนและเกษตร

อุปกรณ์ทำสวนและเกษตร

icon-Grey_16-เครื่องดนตรีและการดนตรี

เครื่องดนตรีและการดนตรี

icon-Grey_17-เครื่องมือช่างและวัสดุก่อสร้าง

เครื่องมือช่างและวัสดุก่อสร้าง

icon-Grey_18-ศิลปะและงานฝีมือ

ศิลปะและงานฝีมือ

icon-Grey_19-งานปาร์ตี้และสันทนาการ

งานปาร์ตี้และสันทนาการ

icon-Grey_20-บรรจุภัณฑ์และการจัดเก็บ

บรรจุภัณฑ์และการจัดเก็บ

icon-Grey_21-สื่อและภาพยนต์

สื่อและภาพยนต์

icon-Grey_22-เครื่องจักรและอุตสาหกรรม

เครื่องจักรและอุตสาหกรรม

icon-Grey_7-อาหารและเครื่องดื่ม

อาหารและเครื่องดื่ม

icon-Grey_24-การท่องเที่ยวและอุปกรณ์การเดินทาง

ท่องเที่ยว/อุปกรณ์การเดินทาง

Scroll to Top