10 ตู้เย็น 4 ประตู ยี่ห้อไหนดี ? ขนาดใหญ่ จุของได้เยอะ ดีไซน์สวย และฟังก์ชันครบครัน

ตู้เย็น 4 ประตู

ตู้เย็น 4 ประตูเป็นตู้เย็นขนาดใหญ่ที่ออกแบบมา เพื่อรองรับความต้องการของครอบครัวขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ ในการเลือกซื้อตู้เย็น 4 ประตูสำหรับบ้านของคุณ การเข้าใจถึงลักษณะและคุณสมบัติที่แตกต่างกันของแต่ละยี่ห้อจะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ดีขึ้น บทความนี้ได้คัดเลือก ตู้เย็น 4 ประตู 10 แบรนด์ที่มีคุณภาพ ได้รับความนิยม ดีไซน์สวย และฟังก์ชันครบครัน โดยพิจารณาจากขนาดคิว ปริมาณความจุช่องแช่แข็ง ช่องแช่เย็น และระบบทำความเย็นที่ตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้งานอย่างครอบคลุม แต่ละยี่ห้อที่แนะนำล้วนมาพร้อมกับรายละเอียดที่ชัดเจน เพื่อให้คุณเห็นภาพการใช้งานได้ง่ายขึ้น

นอกจากนี้ ยังมีหัวข้อสนับสนุนที่จะแนะนำวิธีการเลือกขนาดตู้เย็นที่เหมาะสมกับครัวของคุณ คำแนะนำในการเลือกระบบทำความเย็น และวิธีการจัดเก็บอาหารให้คงความสดใหม่ หัวข้อเหล่านี้จะช่วยให้คุณใช้งานตู้เย็นได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และตอบโจทย์ความต้องการใช้งานภายในครัวของคุณ ทั้งในเรื่องของการประหยัดพลังงาน, การจัดเก็บอาหารให้สดใหม่ และความเหมาะสมกับพื้นที่ที่มี บทความนี้จะเป็นแนวทางที่ดีในการช่วยคุณตัดสินใจเลือกตู้เย็นที่ดีที่สุดได้

หลักเกณฑ์ที่ใช้ในการจัดอันดับสินค้า

แนวทางในการเลือกและจัดอันดับตู้เย็น 4 ประตูที่ดีที่สุด 10 รุ่นจากหลากหลายแบรนด์ เพื่อให้คุณสามารถเลือกซื้อได้อย่างเหมาะสมและตอบโจทย์ความต้องการของการใช้งานในครัวได้ดีที่สุด ได้พิจารณาจากคุณสมบัติต่าง ๆ อย่างละเอียด โดยมีหลักเกณฑ์การเลือก ดังนี้

  • ขนาดคิว: พิจารณาขนาดของตู้เย็น เพื่อให้เหมาะสมกับพื้นที่ใช้สอยในครัวและจำนวนสมาชิกในครอบครัว เลือกตู้เย็นที่มีขนาดความจุที่ตรงกับความต้องการใช้งานต่าง ๆ
  • ปริมาณความจุช่องแช่แข็งและช่องแช่เย็น: คำนึงถึงความจุของช่องแช่ เพื่อให้มีพื้นที่เพียงพอสำหรับการจัดเก็บอาหารทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
  • ระบบทำความเย็น: เลือกตู้เย็นที่มีระบบทำความเย็นที่เหมาะสม ทั้งระบบทำความเย็นโดยตรงและระบบ No Frost เพื่อให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้ใช้งาน ตัวเลือกนี้ช่วยให้คุณสามารถเลือกระบบที่จะช่วยประหยัดพลังงาน และลดความยุ่งยากในการละลายน้ำแข็ง
  • คุณสมบัติและฟังก์ชันการใช้งาน: ตู้เย็นที่มีคุณสมบัติต่างๆ เช่น การควบคุมความชื้น ฟิลเตอร์ลดกลิ่น และตัวเลือกการแช่แข็งแบบด่วน มักได้รับการจัดอันดับที่สูง เทคโนโลยีสมาร์ท อย่าง Wi-Fi ที่ให้คุณสามารถควบคุมและตรวจสอบตู้เย็นจากระยะไกลก็เป็นข้อได้เปรียบ
  • การออกแบบ: การออกแบบที่ทันสมัยและสามารถใช้งานได้อย่างง่ายดาย รวมถึงความจุของตู้เย็นที่ตอบโจทย์ความต้องการของครัวเรือนยังเป็นปัจจัยสำคัญในการจัดอันดับ
  • ประสิทธิผลด้านพลังงาน: ตู้เย็นที่มีประสิทธิภาพด้านพลังงานสูง มีป้าย Energy Star หรือเครื่องหมายประหยัดพลังงานของประเทศนั้น ๆ จะได้รับการจัดอันดับที่ดีเพราะช่วยลดต้นทุนพลังงานและมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยลง
  • การใช้งานที่เป็นมิตรกับผู้ใช้: ตู้เย็นที่มีระบบการควบคุมที่เข้าใจง่ายและอินเทอร์เฟสที่ใช้งานสะดวกสบายจะได้รับการพิจารณาเพิ่มเติม
  • ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา: การจัดอันดับยังคำนึงถึงความคุ้มค่าของตู้เย็นเมื่อเทียบกับราคา หมายถึงการที่ผู้บริโภคได้รับคุณสมบัติและประสิทธิภาพที่เหมาะสมกับเงินที่จ่ายไป
  • คุณภาพและความน่าเชื่อถือของแบรนด์: พิจารณาถึงความน่าเชื่อถือและประสบการณ์จากผู้ใช้จริง รวมถึงการรับประกันที่มากับผลิตภัณฑ์ เพื่อให้คุณมั่นใจในคุณภาพและบริการหลังการขาย

10 ตู้เย็น 4 ประตู ยอดนิยม

1. HITACHI รุ่น R-WB640VF

HITACHI-รุ่น-R-WB640VF

ตู้เย็น HITACHI รุ่น R-WB640VF คือตู้เย็นขนาด 20.1 คิวที่มาพร้อมระบบทำความเย็นแบบ Inverter และ Dual Fan Cooling ช่องแช่สุญญากาศ เพื่อรักษาความสดของอาหาร ทำน้ำแข็งอัตโนมัติ ระบบกำจัดกลิ่น

ขนาดคิว20.1 คิว
ปริมาณความจุช่องแช่แข็ง103 ลิตร
ปริมาณความจุช่องแช่เย็น357 ลิตร
ระบบทำความเย็นINVERTER

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

ตู้เย็น HITACHI รุ่น R-WB640VF ขนาด 20.1 คิว มาพร้อมระบบทำความเย็นแบบ Inverter และระบบกระจายความเย็นแบบ Dual Fan Cooling ช่วยประหยัดพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภายในมีช่องจัดเก็บอาหารที่หลากหลาย ทั้งช่องแช่แข็ง ช่องแช่เย็น และช่องแช่แบบปรับอุณหภูมิได้ โดยเฉพาะช่องแช่สุญญากาศ (Vacuum Compartment) ที่ช่วยรักษาความสดของอาหารได้ดีกว่าช่องแช่ธรรมดา

นอกจากนี้ ยังมีระบบทำน้ำแข็งอัตโนมัติ แผงฉนวน VIP และระบบกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ถึง 7 ชนิด ตู้เย็นรุ่นนี้มีขนาด 900 x 720 x 1,840 มม. (กว้าง x ลึก x สูง) ปริมาณความจุช่องแช่แข็ง 103 ลิตร และช่องแช่เย็น 357 ลิตร รับประกันคอมเพรสเซอร์ 10 ปี และตัวเครื่อง 1 ปี ในราคา 41,990 บาท

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?

ตู้เย็น HITACHI รุ่น R-WB640VF มีคุณสมบัติเด่นในการประหยัดพลังงานด้วยระบบ Inverter และ Dual Fan Cooling ที่ช่วยกระจายความเย็นอย่างเท่าเทียม นอกจากนี้ยังมีช่องแช่สุญญากาศซึ่งช่วยรักษาความสดของอาหารได้ยาวนานขึ้น และมาพร้อมระบบกำจัดกลิ่นและการทำน้ำแข็งอัตโนมัติ

2. SHARP รุ่น SJ-FX79T-SL

SHARP-รุ่น-SJ-FX79T-SL

ตู้เย็น SHARP รุ่น SJ-FX79T-SL มีขนาดใหญ่ 18.5 คิว พร้อมระบบทำความเย็นแบบ J-TECH Inverter ที่ประหยัดไฟและเงียบ เทคโนโลยีกำจัดแบคทีเรียและกลิ่น Ag+ Nano Deodorizer

ขนาดคิว18.5 คิว
ปริมาณความจุช่องแช่แข็ง206 ลิตร
ปริมาณความจุช่องแช่เย็น319 ลิตร
ระบบทำความเย็นJ-TECH Inverter with Double Smartfan

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

ตู้เย็น SHARP รุ่น SJ-FX79T-SL ขนาด 18.5 คิว มีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง ด้วยขนาดตู้ 89.2 x 172.0 x 76.8 ซม. (กว้าง x สูง x ลึก) ภายในแบ่งเป็นช่องแช่แข็ง 206 ลิตร และช่องแช่เย็น 319 ลิตร พร้อมชั้นวางกระจกนิรภัย (Tempered Glass) ระบบทำความเย็นแบบ J-TECH Inverter with Double Smartfan ช่วยประหยัดไฟและเงียบ มาพร้อมเทคโนโลยี Ag+ Nano Deodorizer ช่วยกำจัดแบคทีเรียและกลิ่น, โหมด Express Freezing ช่วยแช่แข็งอาหารภายใน 2 ชั่วโมง และแผงควบคุมอุณหภูมิแบบสัมผัส (Touch Control Panel)

ตู้เย็นรุ่นนี้ได้รับฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 มีน้ำหนักตัวเครื่อง 107 กก. ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 28,990 บาท และรับประกันคอมเพรสเซอร์นาน 10 ปี

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?

ตู้เย็น SHARP รุ่น SJ-FX79T-SL นี้เป็นตัวเลือกที่ดีเนื่องจากมีเทคโนโลยี J-TECH Inverter ที่ช่วยประหยัดพลังงานและทำงานอย่างเงียบสงบ, มาพร้อมกับระบบกำจัดแบคทีเรียและกลิ่นไม่พึงประสงค์, และยังมีโหมด Express Freezing ที่ช่วยให้แช่แข็งอาหารได้อย่างรวดเร็วภายใน 2 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังมีการรับประกันคอมเพรสเซอร์ถึง 10 ปี

3. HITACHI รุ่น R-W550PDX

HITACHI-รุ่น-R-W550PDX

ตู้เย็น HITACHI รุ่น R-W550PDX ขนาด 19.1 คิว เป็นตู้เย็นที่มีคุณสมบัติการทำความเย็นแบบ Inverter Dual Fan Cooling พร้อมช่องชิลเลอร์และชั้นวางกระจกนิรภัย มีระบบกดน้ำและทำน้ำแข็งอัตโนมัติ

ขนาดคิว19.1 คิว
ปริมาณความจุช่องแช่แข็ง144 ลิตร
ปริมาณความจุช่องแช่เย็น396 ลิตร
ระบบทำความเย็นInverter DUAL FAN COOLING

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

ตู้เย็น HITACHI รุ่น R-W550PDX ขนาด 19.1 คิว มีขนาดตู้ 85.5 x 73.7 x 183.5 ซม. (กว้าง x ลึก x สูง) ภายในแบ่งเป็นช่องแช่แข็ง 144 ลิตร และช่องแช่เย็น 396 ลิตร ใช้ระบบทำความเย็นแบบ Inverter Dual Fan Cooling มีช่องชิลเลอร์ที่ปรับอุณหภูมิได้ตามประเภทอาหาร ช่องแช่ผักขนาดใหญ่ถึง 2 ชั้น และชั้นวางทำจากกระจกนิรภัยที่รับน้ำหนักได้ถึง 100 กก.

นอกจากนี้ ยังมีระบบกดน้ำดื่มพร้อมแทงค์น้ำในตัว ระบบทำน้ำแข็งอัตโนมัติ แผงควบคุมระบบสัมผัสบนตัวตู้ และสัญญาณเตือนเมื่อประตูเปิดค้าง ตู้เย็นรุ่นนี้ได้รับฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 มีน้ำหนักตัวเครื่อง 103 กก. จำหน่ายในราคา 32,790 บาท และรับประกันคอมเพรสเซอร์นาน 10 ปี

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?

ตู้เย็น HITACHI รุ่น R-W550PDX เป็นตัวเลือกที่ดีเนื่องจากมีระบบทำความเย็นแบบ Inverter Dual Fan Cooling ที่ช่วยประหยัดพลังงานและกระจายความเย็นได้เป็นอย่างดี พร้อมด้วยช่องชิลเลอร์และช่องแช่ผักขนาดใหญ่ที่ตอบโจทย์การจัดเก็บอาหารหลากหลายประเภท

4. Samsung รุ่น RF48A4010B4/ST

Samsung-รุ่น-RF48A4010B4-ST

ตู้เย็น Samsung รุ่น RF48A4010B4/ST ขนาด 16.6 คิว มีคุณสมบัติเด่นที่ระบบทำความเย็นแบบ Power Cool และ All-around Cooling ไม่เกิดน้ำแข็งเกาะ มีระบบกดน้ำดื่มและกรองกลิ่นด้วย Deodorizing Filter รวมถึงการควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ

ขนาดคิว16.6 คิว
ปริมาณความจุช่องแช่แข็ง180 ลิตร
ปริมาณความจุช่องแช่เย็น340 ลิตร
ระบบทำความเย็นPower Cool

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

ตู้เย็น Samsung รุ่น RF48A4010B4/ST ขนาด 16.6 คิว หรือ 488 ลิตร มีขนาดตู้ 83.30 x 179.30 x 74.00 ซม. (กว้าง x สูง x ลึก) แบ่งเป็นช่องแช่แข็ง 180 ลิตร และช่องแช่เย็น 340 ลิตร ใช้ระบบทำความเย็นแบบ Power Cool และกระจายความเย็นด้วย All-around Cooling ไม่เกิดน้ำแข็งเกาะ (No Frost)

มาพร้อมระบบกดน้ำดื่มโดยไม่ต้องเปิดตู้ กรองกลิ่นด้วย Deodorizing Filter ภายในมีชั้นวางกระจกนิรภัย ควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ มีสัญญาณเตือนเมื่อปิดประตูไม่สนิท และมีไฟส่องสว่างในช่องแช่แข็ง มีน้ำหนักตัวเครื่อง 99 กก. ได้รับฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 รับประกันคอมเพรสเซอร์ 10 ปี และตัวเครื่อง 1 ปี ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 36,990 บาท

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?

ตู้เย็น Samsung รุ่น RF48A4010B4/ST เป็นตัวเลือกที่ดีเนื่องจากมีระบบทำความเย็นแบบ Power Cool และ All-around Cooling ที่ช่วยกระจายความเย็นได้ทั่วถึงและป้องกันน้ำแข็งเกาะ นอกจากนี้ยังมีระบบกดน้ำดื่มที่สะดวกในการใช้งานและกรองกลิ่นได้ดีเยี่ยม พร้อมด้วยระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติและฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ทำให้มั่นใจได้ถึงการใช้งานที่ประหยัดพลังงาน

5. SHARP รุ่น SJ-FX74T-SL

SHARP-รุ่น-SJ-FX74T-SL

ตู้เย็น SHARP รุ่น SJ-FX74T-SL ขนาด 20.5 คิว มีระบบทำความเย็นแบบ J-TECH Inverter และ Hybrid Cooling ที่ช่วยรักษาความสดของอาหาร เทคโนโลยี AG+ Nano Deodorizer กำจัดกลิ่นและแบคทีเรีย

ขนาดคิว20.5 คิว
ปริมาณความจุช่องแช่แข็ง224 ลิตร
ปริมาณความจุช่องแช่เย็น355 ลิตร
ระบบทำความเย็นJ-TECH INVERTER

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

ตู้เย็น SHARP รุ่น SJ-FX74T-SL ขนาด 20.5 คิว หรือ 579 ลิตร แบ่งเป็นช่องแช่แข็ง 224 ลิตร และช่องแช่เย็น 355 ลิตร ใช้ระบบทำความเย็นแบบ J-TECH Inverter ประหยัดไฟ เงียบ ไม่เกิดน้ำแข็งเกาะ (No Frost) มีระบบ Hybrid Cooling ช่วยรักษาความสดของอาหาร และเทคโนโลยี AG+ Nano Deodorizer กำจัดแบคทีเรียและกลิ่นอาหาร มีระบบ Touch Control Panel ที่ใช้งานง่าย และระบบแจ้งเตือนเมื่อประตูเปิดทิ้งไว้ ภายในมีชั้นวางกระจกนิรภัย มีระบบไฟ LED ประหยัดไฟและให้แสงสว่างกว่าหลอดธรรมดา

ตู้เย็นรุ่นนี้มีขนาด 89.2 x 172 x 77.1 ซม. (กว้าง x สูง x ลึก) และน้ำหนัก 100 กก. ได้รับฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 รับประกันคอมเพรสเซอร์ 10 ปี และตัวเครื่อง 1 ปี ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 27,400 บาท

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?

ตู้เย็น SHARP รุ่น SJ-FX74T-SL เป็นตัวเลือกที่ดีเพราะมีระบบทำความเย็นแบบ J-TECH Inverter ที่ช่วยประหยัดไฟและทำงานอย่างเงียบสงบ, รวมถึงเทคโนโลยี Hybrid Cooling และ AG+ Nano Deodorizer ที่ช่วยรักษาความสดและป้องกันกลิ่นไม่พึงประสงค์ของอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ

6. Hisense รุ่น RQ758N4TBV

Hisense-รุ่น-RQ758N4TBV

ตู้เย็น Hisense รุ่น RQ758N4TBV ขนาด 21.8 คิว ให้ความจุมากถึง 617.9 ลิตร มีระบบทำความเย็น Dual-Tech Cooling ที่แยกการควบคุมความชื้นและกลิ่น พร้อมไฟ LED และระบบกระจายความเย็นที่ทั่วถึง

ขนาดคิว21.8 คิว
ปริมาณความจุช่องแช่แข็ง217 ลิตร
ปริมาณความจุช่องแช่เย็น409 ลิตร
ระบบทำความเย็นDual – Tech Cooling

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

ตู้เย็น Hisense รุ่น RQ758N4TBV ขนาด 21.8 คิว หรือ 617.9 ลิตร มีขนาดตู้ 178.50 x 91.20 x 72.50 ซม. แบ่งเป็นช่องแช่แข็ง 217 ลิตร และช่องแช่เย็น 409 ลิตร ใช้ระบบทำความเย็นแบบ Dual-Tech Cooling ที่ช่วยรักษาความชื้นและกลิ่นให้แยกกันระหว่างช่องแช่เย็นและช่องแช่แข็ง มีระบบ My Fresh Choice ที่สามารถปรับอุณหภูมิช่องแช่แข็งได้ตามประเภทอาหาร และช่องเก็บ Moisture Fresh Pantry ที่แบ่งสัดส่วนสำหรับเก็บอาหารแห้งและสด

นอกจากนี้ ยังมีระบบ Metal Cooling และ Air Flow Cooling ช่วยกระจายความเย็นอย่างทั่วถึง มีไฟ LED ให้ความสว่างในทุกระดับชั้นวาง ตู้เย็นรุ่นนี้มีน้ำหนัก 118.5 กก. ได้รับฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 รับประกันคอมเพรสเซอร์ 12 ปี และตัวเครื่อง 3 ปี ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 41,990 บาท

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?

ตู้เย็น Hisense รุ่น RQ758N4TBV เป็นตัวเลือกที่ดีเนื่องจากมีระบบทำความเย็นแบบ Dual-Tech Cooling ที่ช่วยรักษาความชื้นและควบคุมกลิ่นอย่างแยกส่วน, พร้อมช่องเก็บ Moisture Fresh Pantry สำหรับเก็บอาหารแห้งและสดได้อย่างเหมาะสม, และยังมีการรับประกันคอมเพรสเซอร์นานถึง 12 ปี ทำให้มั่นใจได้ถึงความคงทนและเชื่อถือได้ในการใช้งานระยะยาว

7. Haier รุ่น HRF-MD456GB

Haier-รุ่น-HRF-MD456GB

ตู้เย็น Haier รุ่น HRF-MD456GB ขนาด 16.3 คิว มีระบบทำความเย็น Dynamic Inverter ที่ประหยัดไฟได้ถึง 39% ไม่เกิดน้ำแข็งเกาะ ระบบกระจายความเย็น Multi Air-Flow และมีช่องแยกสำหรับเก็บอาหารแห้งและชื้น

ขนาดคิว16.3 คิว
ปริมาณความจุช่องแช่แข็ง140 ลิตร
ปริมาณความจุช่องแช่เย็น316 ลิตร
ระบบทำความเย็นDynamic Inverter

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

ตู้เย็น Haier รุ่น HRF-MD456GB ขนาด 16.3 คิว หรือ 456 ลิตร มีขนาดตู้ 83.3 x 180.4 x 66.0 ซม. (กว้าง x สูง x ลึก) แบ่งเป็นช่องแช่แข็ง 140 ลิตร และช่องแช่เย็น 316 ลิตร ใช้ระบบทำความเย็นแบบ Dynamic Inverter ช่วยประหยัดไฟได้ถึง 39% ไม่เกิดน้ำแข็งเกาะ (No Frost) ระบบกระจายความเย็นแบบ Multi Air-Flow ให้ความเย็นทั่วถึงทั้งตู้

มีระบบกำจัดกลิ่นด้วย Charcoal Filter และมีช่องแยกสำหรับเก็บอาหารแห้งและชื้น (HCS: Dry & Humidity Zone) ภายในมีชั้นวางกระจกนิรภัย สามารถปรับอุณหภูมิได้ตั้งแต่ -15 ถึง -24 องศาเซลเซียส มีระบบแผงควบคุมแบบดิจิตอลพร้อมล็อกป้องกันเด็ก ตู้เย็นรุ่นนี้มีน้ำหนัก 115 กก. ได้รับฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 18,490 บาท

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?

ตู้เย็น Haier รุ่น HRF-MD456GB เป็นตัวเลือกที่ดีเพราะมีระบบทำความเย็นแบบ Dynamic Inverter ที่ช่วยประหยัดพลังงานได้ถึง 39%, พร้อมด้วยระบบ No Frost และ Multi Air-Flow ที่ให้ความเย็นกระจายทั่วถึงตลอดทั้งตู้และช่วยลดปัญหาน้ำแข็งเกาะ นอกจากนี้ ยังมีฟังก์ชันเก็บอาหารแยกตามชนิดความชื้นและระบบกำจัดกลิ่นที่ช่วยให้ตู้เย็นของคุณสะอาดและปลอดกลิ่นไม่พึงประสง

8. Hisense รุ่น RQ560N4AW1

Hisense-รุ่น-RQ560N4AW1

ตู้เย็น Hisense รุ่น RQ560N4AW1 ขนาด 16 คิว ให้ความจุ 455 ลิตร มีระบบทำความเย็นแบบ Dual-Tech Cooling สำหรับควบคุมความชื้นและอุณหภูมิอย่างแยกส่วน รวมถึงระบบ Metal Cooling และ Air Flow Cooling สำหรับกระจายความเย็นอย่างทั่วถึง

ขนาดคิว16 คิว
ปริมาณความจุช่องแช่แข็ง75+75 ลิตร
ปริมาณความจุช่องแช่เย็น305 ลิตร
ระบบทำความเย็นDual – Tech Cooling

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

ตู้เย็น Hisense รุ่น RQ560N4AW1 ขนาด 16 คิว หรือ 455 ลิตร มีขนาดตู้ 181.20 x 79.40 x 70.60 ซม. แบ่งเป็นช่องแช่แข็ง 2 ช่อง รวม 150 ลิตร และช่องแช่เย็น 305 ลิตร ใช้ระบบทำความเย็นแบบ Dual-Tech Cooling ที่ควบคุมความชื้นและอุณหภูมิแยกกันระหว่างช่องแช่เย็นและช่องแช่แข็ง มีระบบ My Fresh Choice ที่สามารถปรับอุณหภูมิได้ตั้งแต่ 18 ถึง -5 องศาเซลเซียส และช่อง Moisture Fresh Pantry แบ่งสัดส่วนสำหรับเก็บอาหารแห้งและสด

นอกจากนี้ ยังมีระบบ Metal Cooling และ Air Flow Cooling ช่วยกระจายความเย็นได้รวดเร็วและทั่วถึง ภายในมีไฟ LED ส่องสว่างชัดเจนในทุกชั้นวาง ตู้เย็นรุ่นนี้มีน้ำหนัก 105 กก. ได้รับฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 รับประกันคอมเพรสเซอร์ 12 ปี และตัวเครื่อง 3 ปี ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 24,990 บาท

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?

ตู้เย็น Hisense รุ่น RQ560N4AW1 เป็นตัวเลือกที่ดีเนื่องจากระบบทำความเย็นแบบ Dual-Tech Cooling ที่ควบคุมอุณหภูมิและความชื้นได้อย่างแม่นยำ ช่วยให้อาหารสดใหม่นานขึ้น มีระบบ My Fresh Choice และ Moisture Fresh Pantry ที่ช่วยแบ่งสัดส่วนการเก็บอาหารได้อย่างเหมาะสมตามความต้องการ และยังได้รับฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ซึ่งทำให้ประหยัดพลังงานได้อย่างมากในราคาที่คุ้มค่า

9. TCL รุ่น P475CDS

TCL-รุ่น-P475CDS

ตู้เย็น TCL รุ่น P475CDS ขนาด 16.3 คิว มีความจุ 470 ลิตร ใช้ระบบทำความเย็น Multi-airflow ที่กระจายความเย็นอย่างทั่วถึง มีฟังก์ชันพิเศษเช่น โหมดเร่งความเย็นแช่แข็ง และระบบ Auto-Anion กำจัดกลิ่นและแบคทีเรีย

ขนาดคิว16.3 คิว
ปริมาณความจุช่องแช่แข็ง170 ลิตร
ปริมาณความจุช่องแช่เย็น300 ลิตร
ระบบทำความเย็นMuti-airflow

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

ตู้เย็น TCL รุ่น P475CDS ขนาด 16.3 คิว หรือ 470 ลิตร มีขนาดตู้ 833 x 678 x 1850 มม. แบ่งเป็นช่องแช่แข็ง 170 ลิตร และช่องแช่เย็น 300 ลิตร ใช้ระบบทำความเย็นแบบ Multi-airflow ที่กระจายความเย็นได้ทั่วถึงและคงที่ ภายนอกตู้ทำจากเมทัลลิกเคลือบป้องกันลายนิ้วมือและคราบสกปรก ภายในมีระบบควบคุมอุณหภูมิแบบแม่นยำ ช่วยยืดอายุความสดของอาหาร พร้อมระบบ Auto-Anion ที่ช่วยกำจัดกลิ่นและแบคทีเรีย มีไฟ LED ส่องสว่างภายใน

จอแสดงผลแบบ LED พร้อมระบบควบคุมแบบสัมผัส มีฟังก์ชันพิเศษ เช่น ฟังก์ชันวันหยุด โหมดเร่งความเย็นแช่แข็ง และระบบแจ้งเตือน ตู้เย็นรุ่นนี้มีน้ำหนัก 106 กก. ใช้สารทำความเย็น R600a ปริมาณ 77 กรัม ได้รับฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 มีอัตราการสิ้นเปลืองพลังงานไฟฟ้า 590 กิโลวัตต์ต่อปี ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 16,890 บาท

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?

ตู้เย็น TCL รุ่น P475CDS นับเป็นตัวเลือกที่ดีเนื่องจากมีระบบทำความเย็นแบบ Multi-airflow ที่ช่วยกระจายความเย็นอย่างทั่วถึงและคงที่ และยังมีระบบ Auto-Anion ที่ช่วยกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์และแบคทีเรียภายในตู้, ทำให้อาหารสดใหม่ยาวนานขึ้น พร้อมด้วยฟังก์ชันต่าง ๆ ที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ทันสมัยและความต้องการของผู้ใช้ในราคาที่เหมาะสม

10. Haier รุ่น HRF-MD350 STL

Haier-รุ่น-HRF-MD350-STL

ตู้เย็น Haier รุ่น HRF-MD350 STL ขนาด 13.6 คิว ใช้ระบบทำความเย็นแบบ Inverter และมีระบบกำจัดกลิ่นและฆ่าเชื้อโรค ดีไซน์สวยงามด้วยกระจกสีดำและสแตนเลส พร้อมฟังก์ชันประหยัดพื้นที่

ขนาดคิว13.6 คิว
ปริมาณความจุช่องแช่แข็ง120 ลิตร
ปริมาณความจุช่องแช่เย็น217 ลิตร
ระบบทำความเย็นInverter Digital Panel

ข้อดี

ข้อควรพิจารณา

ตู้เย็น Haier รุ่น HRF-MD350 STL ขนาด 13.6 คิว หรือ 337 ลิตร มีขนาดตู้ 79.5 x 180 x 59.5 ซม. (กว้าง x สูง x ลึก) แบ่งเป็นช่องแช่แข็ง 120 ลิตร และช่องแช่เย็น 217 ลิตร ใช้ระบบทำความเย็นแบบ Inverter พร้อมแผงควบคุมอุณหภูมิแบบดิจิตอล ภายในแบ่งช่องจัดเก็บได้ถึง 7 ช่อง มีระบบกำจัดกลิ่นและฆ่าเชื้อโรค (Deodorize & Sterilize) ไม่มีระบบทำน้ำแข็งอัตโนมัติ แต่มีที่ทำน้ำแข็งแบบบิด ภายนอกเป็นกระจกสีดำและสแตนเลส ตัวตู้มีความลึกเพียง 620 มม. ช่วยประหยัดพื้นที่

ตู้เย็นรุ่นนี้มีน้ำหนักเฉพาะตัวเครื่อง 86 กก. และน้ำหนักรวมบรรจุภัณฑ์ 94 กก. ใช้ไฟฟ้า 220-240 โวลต์ ความถี่ 50 เฮิร์ตซ์ ได้รับฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 รับประกันตัวเครื่อง 3 ปี และคอมเพรสเซอร์ 10 ปี ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 16,790 บาท

ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?

ตู้เย็น Haier รุ่น HRF-MD350 STL เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมเนื่องจากมีระบบทำความเย็นแบบ Inverter ที่ช่วยประหยัดพลังงานและมีแผงควบคุมอุณหภูมิแบบดิจิตอลสำหรับการตั้งค่าที่แม่นยำ รวมถึงระบบกำจัดกลิ่นและฆ่าเชื้อโรคภายในตู้เพื่อรักษาความสดและความปลอดภัยของอาหาร ทำให้เหมาะสำหรับครัวที่ต้องการเก็บอาหารให้สะอาดและสดใหม่นานยิ่งขึ้นในราคาที่เอื้อมถึงได้

วิธีการเลือกขนาดตู้เย็น 4 ประตูที่เหมาะสมกับครัวของคุณ

วิธีการเลือกขนาดตู้เย็น 4 ประตูที่เหมาะสมกับครัวของคุณ

การเลือกตู้เย็น 4 ประตูที่เหมาะสมกับครัว ไม่เพียงแค่เลือกจากแบรนด์หรือรูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงขนาด, ความจุ และการประเมินพื้นที่ในครัวของคุณด้วย การทำความเข้าใจเกี่ยวกับเหตุผลและวิธีการเลือกขนาดตู้เย็นอย่างเหมาะสมจะช่วยให้ใช้งานตู้เย็นได้อย่างมีประสิทธิภาพ และตอบโจทย์ทุกการใช้งานในครัวของคุณ

วิธีการเลือกขนาดตู้เย็น 4 ประตูที่เหมาะสมกับครัว

  • ตรวจสอบขนาดพื้นที่ที่ตั้งตู้เย็นให้มีขนาดเพียงพอและเหมาะสม
  • ประเมินจากความสูงและความกว้างของพื้นที่ว่างในครัว

การประเมินพื้นที่ในครัวเพื่อการติดตั้งตู้เย็นขนาดใหญ่

  • ใช้เมตรวัดพื้นที่จริงในครัวที่ต้องการติดตั้งตู้เย็น
  • พิจารณาพื้นที่เปิดประตูตู้เย็นว่าต้องใช้พื้นที่เพิ่มเติมเท่าไหร่

พิจารณาความจุตู้เย็นที่เหมาะสมกับขนาดครัวหรือจำนวนสมาชิกในครอบครัว

  • คำนวณจากปริมาณอาหารที่จำเป็นต้องจัดเก็บอย่างสม่ำเสมอ
  • พิจารณาความจำเป็นในการใช้งานช่องแช่เย็นและช่องแช่แข็ง

ตารางประเมินขนาดและความจุตู้เย็น

ขนาดครัวขนาดตู้เย็น (คิว)ปริมาณความจุช่องแช่เย็น (ลิตร)ปริมาณความจุช่องแช่แข็ง (ลิตร)
ขนาดเล็ก18 – 20 คิว200 – 300 ลิตร50 – 100 ลิตร
ขนาดกลาง21 – 25 คิว300 – 400 ลิตร100 – 150 ลิตร
ขนาดใหญ่มากกว่า 25 คิวมากกว่า 400 ลิตรมากกว่า 150 ลิตร


คำแนะนำในการเลือกตู้เย็นที่มีระบบทำความเย็นที่เหมาะสม

คำแนะนำในการเลือกตู้เย็นที่มีระบบทำความเย็นที่เหมาะสม

การเลือกระบบทำความเย็นสำหรับตู้เย็น 4 ประตูเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ซื้อควรพิจารณาเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพการใช้งานและการประหยัดพลังงานที่ดีที่สุด ระบบทำความเย็นที่เหมาะสมไม่เพียงช่วยให้อาหารคงสภาพสดใหม่ได้นานขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในการจ่ายค่าไฟฟ้าและยืดอายุการใช้งานของตู้เย็น

ประเภทของระบบทำความเย็นในตู้เย็น 4 ประตู

  • ระบบทำความเย็นโดยตรง (Direct Cooling): ให้ความเย็นสม่ำเสมอแต่อาจมีน้ำแข็งเกาะตามช่องแช่
  • ระบบทำความเย็นแบบไม่มีน้ำแข็ง (No Frost): ป้องกันน้ำแข็งเกาะทำให้อาหารไม่ถูกทำลายด้วยคริสตัลน้ำแข็ง

วิธีการเลือกระบบทำความเย็น

  • ประเมินจากปริมาณและชนิดของอาหารที่คุณจัดเก็บ: อาหารที่ต้องการความเย็นสูง ควรเลือก No Frost
  • พิจารณาถึงการใช้งาน: ถ้าต้องการความสะดวกในการไม่ต้องถอดน้ำแข็งบ่อย ควรเลือก No Frost

ตู้เย็น 2 vs. 4 ประตู เปรียบเทียบความคุ้มค่าในการเลือกซื้อ

การเลือกซื้อตู้เย็น 2 หรือ 4 ประตู ขึ้นอยู่กับความต้องการและงบประมาณของคุณ ตู้เย็น 4 ประตูเหมาะสำหรับครอบครัวใหญ่หรือผู้ที่ต้องการพื้นที่เก็บของมาก ด้วยการแบ่งสัดส่วนที่ชัดเจนและเทคโนโลยีที่ทันสมัย ในทางกลับกัน ตู้เย็น 2 ประตูแบรนด์ดังเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับครอบครัวขนาดเล็กถึงกลาง เพราะมีพื้นที่เก็บของเพียงพอ ราคาไม่แพง ประหยัดพลังงาน และดูแลรักษาง่าย ทั้งนี้ การมีตู้เย็นมินิบาร์ที่ดีก็เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการเก็บเครื่องดื่มหรือของขบเคี้ยวเล็กๆ ในห้องพักหรือสำนักงาน การเลือกซื้อตู้เย็นที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณจัดการพื้นที่เก็บของและพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ตารางเปรียบเทียบระบบทำความเย็นของตู้เย็น 4 ประตู

ระบบทำความเย็น ข้อดี ข้อเสีย
Direct Cooling เย็นเร็ว, ช่วยให้อาหารสดนาน มีน้ำแข็งเกาะ, ต้องละลายน้ำแข็งบ่อย
No Frost ไม่มีน้ำแข็งเกาะ, ความเย็นกระจายทั่ว ราคาแพงกว่า, ใช้พลังงานสูงกว่าเล็กน้อย

วิธีการจัดเก็บอาหารสดในช่องแช่เย็นเพื่อคงความสดใหม่

วิธีการจัดเก็บอาหารสดในช่องแช่เย็นเพื่อคงความสดใหม่

การจัดเก็บอาหารสดในช่องแช่เย็นของตู้เย็นเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้อาหารของคุณคงความสดใหม่และมีคุณภาพเหมือนเดิมนานขึ้น การจัดเรียงอย่างเหมาะสมและการควบคุมอุณหภูมิอย่างถูกต้องมีส่วนช่วยให้คุณสามารถรักษาคุณค่าทางโภชนาการและรสชาติของอาหารได้ดียิ่งขึ้น

คำแนะนำเกี่ยวกับการจัดเรียงอาหารในช่องแช่เย็น

  • แยกอาหารตามประเภท : จัดเก็บผักและผลไม้ในลิ้นชักที่ออกแบบมาเพื่อผักและผลไม้ เพื่อรักษาความสด
  • อาหารที่ต้องการอุณหภูมิต่ำกว่า : เช่น เนื้อสัตว์และอาหารทะเล ควรจัดเก็บในส่วนที่เย็นที่สุดของตู้เย็น

ประโยชน์ของช่องแช่เย็นที่มีความจุใหญ่และการควบคุมอุณหภูมิที่เหมาะสม

  • ความจุใหญ่ : ช่วยให้สามารถจัดเก็บอาหารได้มากขึ้นโดยไม่ทับถมกัน อาหารจึงไม่เสียหาย
  • ควบคุมอุณหภูมิ : รักษาอุณหภูมิให้สม่ำเสมอทั่วทั้งช่อง ช่วยให้อาหารไม่เสียสภาพง่าย

ตารางการจัดเก็บอาหารในตู้เย็นเพื่อคงความสด

ประเภทอาหารตำแหน่งในตู้เย็นอุณหภูมิแนะนำ
ผักและผลไม้ลิ้นชักผักผลไม้8-10°C
เนื้อสัตว์ชั้นล่างสุด0-4°C
อาหารปรุงสำเร็จชั้นกลาง4-5°C

การเลือกตู้เย็นที่มีระบบจัดเก็บอาหารที่เหมาะสมและการรู้วิธีจัดเรียงอาหารอย่างถูกต้องเป็นสิ่งจำเป็นที่จะช่วยให้คุณสามารถรักษาคุณภาพและความสดของอาหารได้ดียิ่งขึ้น การใช้ตู้เย็นให้เหมาะสมไม่เพียงช่วยให้คุณประหยัดพลังงานและเงินในกระเป๋า แต่ยังรักษาสุขภาพของคุณและคนในครอบครัวให้ดีต่อไป

ในบทความนี้ได้นำเสนอ ตู้เย็น 4 ประตู ที่ดีที่สุด 10 รุ่นจากหลายแบรนด์ ซึ่งแต่ละรุ่นได้ถูกคัดเลือกมาอย่างพิถีพิถันโดยพิจารณาจากขนาดคิว ปริมาณความจุช่องแช่แข็งและช่องแช่เย็น รวมถึงระบบทำความเย็นที่แตกต่างกันไป เพื่อตอบสนองความต้องการและการใช้งานในครัวของแต่ละบ้านได้อย่างเหมาะสมที่สุด

นอกจากนี้ ยังให้คำแนะนำวิธีการเลือกขนาดตู้เย็น, การเลือกระบบทำความเย็น และวิธีการจัดเก็บอาหารในช่องแช่เย็นเพื่อคงความสดใหม่ของอาหาร คำแนะนำเหล่านี้มีประโยชน์และช่วยให้คุณใช้ประโยชน์จากตู้เย็นได้อย่างเต็มที่ การจัดเลือกและใช้งานตู้เย็นที่เหมาะสมจะทำให้รู้สึกว่าการลงทุนในเครื่องใช้ไฟฟ้านี้คุ้มค่าและเหมาะสมกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน

คำถามที่พบบ่อย

1. ตู้เย็น 4 ประตูมีความแตกต่างจากตู้เย็นประเภทอื่นอย่างไร?

ตู้เย็น 4 ประตูมักจะมีพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวางกว่าตู้เย็นประเภทอื่น ๆ โดยมีลักษณะเด่น คือ มีช่องแช่แข็งและช่องแช่เย็นที่แยกกัน ช่วยให้การจัดเก็บและการเข้าถึงอาหารสะดวกมากยิ่งขึ้น

2. ควรพิจารณาอะไรบ้างเมื่อเลือกขนาดของตู้เย็น 4 ประตู?

สิ่งสำคัญในการเลือกขนาด คือ ต้องวัดพื้นที่ในครัว เพื่อให้แน่ใจว่าตู้เย็นจะติดตั้งได้อย่างเหมาะสม ควรตรวจสอบทั้งความกว้างและความสูงของพื้นที่ที่จะวางตู้เย็น และพิจารณาถึงความจุที่ต้องการ เพื่อรองรับจำนวนอาหารที่ต้องจัดเก็บ

3. ระบบทำความเย็นประเภทใดที่เหมาะสมกับตู้เย็น 4 ประตู?

ถ้าคุณต้องการความสะดวกในการใช้งานและไม่ต้องการละลายน้ำแข็งบ่อยครั้ง ระบบ No Frost คือ ตัวเลือกที่ดีที่สุด เพราะช่วยป้องกันน้ำแข็งเกาะภายในตู้เย็น ทำให้การบำรุงรักษาน้อยลงและช่วยให้อาหารคงสภาพได้ดี

4. อุณหภูมิในช่องแช่เย็นควรตั้งไว้ที่เท่าไหร่เพื่อคงความสดของอาหาร?

ควรตั้งอุณหภูมิช่องแช่เย็นให้อยู่ที่ประมาณ 4-5°C เพื่อรักษาคุณภาพของอาหารที่เก็บไว้ ผักและผลไม้ควรเก็บในลิ้นชักที่ออกแบบมาเพื่อเก็บผักผลไม้โดยเฉพาะ ซึ่งจะช่วยให้อาหารเหล่านี้คงความสดได้นานยิ่งขึ้น

Scroll to Top