สวัสดีค่ะคุณแม่บ้านทุกท่าน วันนี้เรามีบทความดีๆ มาฝากกันค่ะ เราได้รวบรวม 10 อันดับจักรเย็บผ้าไฟฟ้าที่น่าสนใจมาให้เลือกกัน พร้อมทั้งเคล็ดลับดีๆ ในการเลือกจักรเย็บผ้าให้เหมาะกับการใช้งานของคุณ เราจะมาดูกันว่าควรพิจารณาอะไรบ้างในการเลือกซื้อ ทั้งเรื่องฟังก์ชันการใช้งานและงบประมาณที่เหมาะสม ในยุคนี้จักรเย็บผ้าไฟฟ้าเป็นเพื่อนคู่ครัวที่ขาดไม่ได้เลยนะคะ ไม่ว่าจะซ่อมเสื้อผ้า ทำผ้าปูโต๊ะ หรือจะทำงานฝีมือน่ารักๆ ก็ทำได้สบายๆ ด้วยจักรเย็บผ้าไฟฟ้าค่ะ
สำหรับคุณแม่บ้านที่กำลังมองหาจักรเย็บผ้าไฟฟ้าตัวใหม่อยู่ ไม่ว่าจะเพิ่งหัดเย็บผ้าหรือเย็บเก่งแล้ว เราอยากให้คุณได้เครื่องที่ใช้งานง่ายและคุ้มค่าที่สุดค่ะ เรามาดูกันเลยดีกว่าว่าจักรเย็บผ้ารุ่นไหนจะเหมาะกับคุณ เราได้เลือกมาแต่รุ่นที่ใช้งานดี เย็บผ้าได้หลายชั้น มีลายเย็บให้เลือกเยอะ ควบคุมง่าย และมีการรับประกันที่อุ่นใจ เพื่อให้คุณได้จักรเย็บผ้าที่ใช้งานได้สารพัดประโยชน์และคุ้มค่าเงินที่สุดค่ะ
หลักเกณฑ์ที่ใช้ในการจัดอันดับสินค้า
- คุณภาพต้องมาเป็นอันดับหนึ่ง: แม่บ้านอย่างเราต้องการจักรเย็บผ้าที่ใช้งานได้ยาวนาน ทนทานต่อการใช้งานหนัก ไม่พังง่าย เลือกที่ทำจากวัสดุคุณภาพสูง มีการรับประกันที่ครอบคลุมและอุ่นใจ จะได้ไม่ต้องกังวลเวลาใช้งานหนักๆ ค่ะ
- ฟังก์ชันครบครัน: มีลายให้เลือกมากมายหลากหลายรูปแบบ ทั้งแบบตรง ซิกแซก และลายสวยงามต่างๆ สามารถปรับความเร็วได้หลายระดับตามความถนัด มีฟังก์ชันอัตโนมัติที่ช่วยอำนวยความสะดวก ทั้งการเย็บกระดุม ทำรังดุม และลวดลายพิเศษอื่นๆ สะดวกสบายสุดๆ เลยค่ะ
- ใช้งานง่าย: ไม่จำเป็นต้องมีทักษะมากก็สามารถใช้งานได้ค่ะ แบรนด์ที่เราเลือกมาพร้อมคู่มือภาษาไทยที่อธิบายแบบละเอียดทุกขั้นตอน ทำความสะอาดและบำรุงรักษาง่าย เหมาะสำหรับคุณแม่บ้านมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มหัดเย็บผ้าโดยเฉพาะเลยค่ะ
- เย็บได้ทุกแบบ: รองรับการเย็บผ้าได้หลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นผ้าเนื้อบางเบาอย่างผ้าฝ้าย ผ้าลินิน หรือผ้าหนาอย่างยีนส์ ผ้าแคนวาส ก็เย็บได้อย่างสบาย รวมไปถึงผ้ายืดที่ใช้ทำชุดกีฬาหรือชุดลำลองก็สามารถจัดการได้อย่างง่ายดายค่ะ
- ราคาคุ้มค่า: เราคัดสรรรุ่นที่มีราคาสมเหตุสมผล ไม่แพงจนเกินไป แต่ได้ฟังก์ชันการใช้งานที่ครบถ้วน คุณภาพดีเยี่ยม คุ้มค่ากับการลงทุนอย่างแท้จริง เหมาะสำหรับการใช้งานในครัวเรือนค่ะ
- รีวิวจากคนใช้จริง: เราได้รวบรวมและวิเคราะห์รีวิวจากคนที่ใช้งานจริง ทั้งข้อดีและข้อควรพิจารณา จากแพลตฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์ชื่อดังอย่าง Lazada รวมถึงเว็บไซต์รีวิวต่างๆ เพื่อให้คุณได้ข้อมูลที่ครบถ้วนที่สุดค่ะ
- บริการหลังการขายดี: มีศูนย์บริการและซ่อมบำรุงที่ได้มาตรฐาน น่าเชื่อถือ กระจายอยู่ทั่วประเทศ การรับประกันที่ครอบคลุมทุกชิ้นส่วนสำคัญ หากพบปัญหาการใช้งานสามารถติดต่อขอคำปรึกษาได้ตลอด 24 ชั่วโมงค่ะ
- พกพาสะดวก: เลือกขนาดที่กำลังพอเหมาะ ไม่ใหญ่หรือเล็กจนเกินไป สามารถยกหรือเคลื่อนย้ายได้สะดวก จัดเก็บง่าย ประหยัดพื้นที่ในบ้าน เหมาะสำหรับบ้านทุกขนาดค่ะ
- แบรนด์น่าเชื่อถือ: เราเลือกสรรแต่แบรนด์ที่มีชื่อเสียงและประสบการณ์ในการผลิตจักรเย็บผ้ามายาวนาน มีความเชี่ยวชาญเป็นที่ยอมรับในระดับสากล เพื่อให้คุณได้ใช้งานอย่างมั่นใจและไว้วางใจได้ค่ะ
- ประหยัดไฟ: คัดเลือกรุ่นที่มีประสิทธิภาพในการประหยัดพลังงานสูง มีระบบอัจฉริยะช่วยประหยัดไฟ มอเตอร์ประสิทธิภาพสูง ช่วยลดค่าไฟฟ้าในระยะยาว เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมค่ะ
10 อันดับ จักรเย็บผ้าไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี ? ฟังก์ชันการทำงานครบครัน เหมาะทุกงานตัดเย็บ
1. Brother GS2700
“จักรเย็บผ้าไฟฟ้าระบบแมคคานิค Brother รุ่น GS2700 ออกแบบให้ใช้งานง่ายเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มีพื้นฐานการเย็บผ้า น้ำหนักเบา ทนทาน ไม่เป็นสนิม พร้อมฟังก์ชั่นเย็บหลากหลายและการควบคุมที่สะดวก”
ขนาด | 30 x 38 x 15 cm. |
น้ำหนัก | 6.4 kg. |
ประเภทจักร | จักรเย็บผ้าเย็บผ้าทั่วไป ระบบ Mechanic |
วัสดุเครื่อง | อะลูมิเนียม |
ประเภทเข็มที่รองรับ | เข็มคู่ |
ความเร็วในการเย็บสูงสุด | 850 ตะเข็บ/นาที |
ราคา | 5,490 บาท |
ข้อดี
- ใช้งานง่ายแม้ไม่มีพื้นฐานมาก่อนด้วยฟังก์ชั่นที่เข้าใจง่าย
- มาพร้อมลวดลายเย็บถึง 27 แบบและที่สนเข็มอัตโนมัติ
- มีไฟ LED ให้แสงสว่างขณะเย็บและถนอมสายตา
ข้อควรพิจารณา
- น้ำหนักค่อนข้างมากที่ 6.4 กิโลกรัม อาจทำให้เคลื่อนย้ายไม่สะดวก
- ราคาสูงกว่าเครื่องเย็บผ้าระดับเริ่มต้นทั่วไป
จักรเย็บผ้าไฟฟ้าระบบแมคคานิค Brother รุ่น GS2700 ออกแบบมาให้ใช้งานง่ายแม้ไม่มีพื้นฐานมาก่อน สามารถเย็บได้ทั้งผ้ายีนส์ ผ้ายืดและหนัง เพียงเปลี่ยนเข็มจักรให้เหมาะสมกับเนื้อผ้า จักรเย็บนี้มาพร้อมลวดลายถึง 27 แบบ พร้อมที่สนเข็มอัตโนมัติช่วยให้การเย็บเป็นเรื่องง่าย ตัวเครื่องผลิตจากอะลูมิเนียมอัลลอย น้ำหนัก 6.4 กิโลกรัม แข็งแรงทนทานและไม่เป็นสนิม ติดตั้งหลอดไฟ LED ให้แสงสว่างขณะเย็บและถนอมสายตา ความเร็วในการเย็บสูงสุดที่ 850 ตะเข็บต่อนาที มีฟังก์ชั่นเย็บรังดุมอัตโนมัติในขั้นตอนเดียว ควบคุมความตึงด้ายและการร้อยด้ายบน-ล่างด้วยลูกศรกำกับทิศทางชัดเจน มีปุ่มหมุนเลือกแบบลายตะเข็บที่ชัดเจน และระบบกรอด้ายใส่กระสวยอัตโนมัติ F.A.S.T จักรเย็บนี้ยังมีฟันจักรเย็บ 6 แถว ช่วยลดการประคองผ้า มีฟรีอาร์มสำหรับเย็บผ้าทรงกระบอก เช่น ข้อมือเสื้อและขากางเกง พร้อมช่องใส่อุปกรณ์ภายในเครื่องให้การจัดเก็บสะดวก นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่นเย็บถอยหลังเพื่อเสริมความแข็งแรงของตะเข็บและป้องกันด้ายหลุด เหมาะสำหรับการเย็บผ้าหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการตัดเย็บเสื้อผ้า กระเป๋า หรือการซ่อมแซมเสื้อผ้าเก่า ๆ
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?
จักรเย็บผ้าไฟฟ้า Brother GS2700 ใช้งานง่ายด้วยฟังก์ชั่นหลากหลาย แม้มือใหม่ก็สามารถเย็บผ้าได้หลากหลายประเภทและลวดลายถึง 27 แบบ พร้อมไฟ LED ที่ถนอมสายตาและความแข็งแรงทนทานของตัวเครื่อง
2. Brother JA1450NT
“จักรเย็บผ้าไฟฟ้า Brother รุ่น JA1450NT มาพร้อมฟังก์ชันการทำงานครบครัน สนเข็มอัตโนมัติ ไฟ LED และวัสดุแข็งแรง ทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการเย็บผ้าที่หลากหลายและสะดวกสบาย”
ขนาด | 39.2 x 30.8 x 14.6 cm. |
น้ำหนัก | 5.7 kg. |
ประเภทจักร | จักรเย็บผ้าทั่วไป ระบบ Mechanic |
วัสดุเครื่อง | อะลูมิเนียม |
ประเภทเข็มที่รองรับ | เข็มคู่ |
ความเร็วในการเย็บสูงสุด | 750 ตะเข็บ / นาที |
ราคา | 4,162 บาท |
ข้อดี
- มีฟังก์ชันการทำงานที่ครบครันรวมถึงระบบสนเข็มอัตโนมัติและการกรอด้ายแบบ F.A.S.T
- มีไฟ LED ที่ถนอมสายตาช่วยให้สามารถเย็บงานได้แม้ในเวลากลางคืน
- ตัวเครื่องทำจากวัสดุอะลูมิเนียมที่แข็งแรงและไม่เป็นสนิมพร้อมขนาดกะทัดรัดและดีไซน์สวยงาม
ข้อควรพิจารณา
- น้ำหนักของตัวเครื่องอาจหนักเกินไปสำหรับบางคนที่ต้องการพกพา
- สินค้าเป็นพรีออเดอร์อาจต้องรอการจัดส่งนานกว่าเฉลี่ย
จักรเย็บผ้าไฟฟ้า Brother รุ่น JA1450NT เป็นอุปกรณ์ครบชุดที่มาพร้อมคู่มือการใช้งาน มีลวดลายให้เลือกถึง 14 แบบ ใช้งานง่ายด้วยปุ่มหมุน สามารถตัดเย็บเสื้อผ้า กระเป๋า และหมวกได้อย่างหลากหลาย มาพร้อมกับที่สนเข็มอัตโนมัติและระบบกรอด้ายแบบ F.A.S.T รวมถึงฟังก์ชันการเย็บที่ครบครันทั้งการเย็บย้ำตะเข็บและการเปลี่ยนตีนผีโดยไม่ต้องขันสกรู ตัวเครื่องทำจากวัสดุอะลูมิเนียมที่แข็งแรงและไม่เป็นสนิม ดีไซน์สวยงาม ขนาดกะทัดรัดพร้อมช่องใส่อุปกรณ์อย่างเป็นระเบียบ มีไฟ LED ถนอมสายตาช่วยให้สามารถเย็บงานได้แม้ในเวลากลางคืน รองรับการเย็บผ้าหลากหลายชนิด ทั้งผ้าฝ้าย ผ้ายืด ผ้ายีนส์ หรือผ้าหนา 2-3 ชั้น เพียงเปลี่ยนเข็มให้เหมาะสม นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติเพิ่มเติมที่ช่วยให้การใช้งานสะดวกยิ่งขึ้น เช่น ระบบฟันจักรเย็บผ้า 6 แถว ที่ตัดหางด้าย และปุ่มเย็บถอยหลังเพื่อป้องกันด้ายหลุดเมื่อเริ่มและจบการเย็บ
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?
จักรเย็บผ้าไฟฟ้า Brother รุ่น JA1450NT เป็นตัวเลือกที่ดีเพราะมีฟังก์ชันการทำงานที่ครบครัน ใช้งานง่าย และมาพร้อมอุปกรณ์เสริมครบชุด รวมถึงไฟ LED ที่ถนอมสายตาและระบบสนเข็มอัตโนมัติที่ช่วยให้การเย็บเป็นเรื่องง่ายและสะดวกสบาย
3. Singer Heavy Duty 4411
“จักรเย็บผ้ากระเป๋าหิ้ว Singer รุ่น Heavy Duty 4411 เป็นจักรเย็บผ้าที่ทนทานและสามารถเย็บผ้าหนาได้หลากหลายชนิด พร้อมฟังก์ชันเลือกลายเย็บอัตโนมัติถึง 11 ลาย เหมาะสำหรับงาน D.I.Y.”
ขนาด | 45.5 x 22 x 34 cm. |
น้ำหนัก | 6.5 kg. |
ประเภทจักร | จักรเย็บผ้ากระเป๋าหิ้ว |
วัสดุเครื่อง | โลหะ, พลาสติก |
ประเภทเข็มที่รองรับ | เข็มเดี่ยว |
ความเร็วในการเย็บสูงสุด | 1100 ตะเข็บ/นาที |
ราคา | 7,990 บาท |
ข้อดี
- เย็บผ้าหนาได้หลากหลายชนิด เช่น ผ้ายีนส์ ผ้ายืด และผ้าแคนวาส
- ฟังก์ชันเลือกลายเย็บอัตโนมัติ 11 ลายและรังดุมอัตโนมัติ 4 ขั้นตอน
- ตัวเครื่องแข็งแรงแต่มีน้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายสะดวก
ข้อควรพิจารณา
- ราคาอาจสูงกว่าจักรเย็บผ้ารุ่นทั่วไป
- ฟังก์ชันบางอย่างอาจต้องการการเรียนรู้เพิ่มเติมสำหรับผู้ใช้ใหม่
จักรเย็บผ้ากระเป๋าหิ้ว Singer รุ่น Heavy Duty 4411 เป็นเครื่องมือที่เหมาะสำหรับผู้ที่รักงาน D.I.Y. ด้วยความสามารถในการเย็บผ้าหนาได้สูงสุดถึง 7 มิลลิเมตร ซึ่งสามารถเย็บผ้ายีนส์ ผ้ายืด และผ้าแคนวาสได้อย่างง่ายดาย ตัวเครื่องมาพร้อมกับฟังก์ชันการใช้งานที่สามารถเลือกลายเย็บได้อัตโนมัติถึง 11 ลาย และยังสามารถทำรังดุมอัตโนมัติได้ถึง 4 ขั้นตอน นอกจากนี้จักรเย็บผ้ารุ่นนี้ยังมีรูปทรงที่สวยงาม แผ่นพื้นทำจากสแตนเลสที่มีความแข็งแรง แต่น้ำหนักเบา ทำให้สามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวก สำหรับผู้ที่สนใจเริ่มต้นใช้งาน ทาง Singer ยังแถมฟรี VDO สอนเบื้องต้นเพื่อให้ผู้ใช้สามารถเรียนรู้วิธีการใช้งานได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย ทั้งนี้จักรเย็บผ้ารุ่นนี้ยังมีขนาดเล็ก พกพาสะดวก และมีอุปกรณ์ช่วยเย็บที่หลากหลาย ทำให้เป็นที่นิยมในกลุ่มผู้ที่รักการสร้างสรรค์งานฝีมือด้วยตัวเอง
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?
จักรเย็บผ้ากระเป๋าหิ้ว Singer รุ่น Heavy Duty 4411 เป็นตัวเลือกที่ดีเพราะมีความสามารถในการเย็บผ้าหนาได้หลากหลายชนิด พร้อมฟังก์ชันเลือกลายเย็บอัตโนมัติถึง 11 ลายและรังดุมอัตโนมัติ 4 ขั้นตอน เหมาะสำหรับผู้ที่รักงาน D.I.Y. และต้องการความสะดวกสบายในการใช้งาน
4. Matrix TR-3705
“จักรเย็บผ้าไฟฟ้ามินิ Matrix รุ่น TR - 3705 ขนาดเล็ก น้ำหนักเบา พกพาสะดวก พร้อมฟังก์ชั่นหลากหลายเพื่อการซ่อมแซมและตัดเย็บเสื้อผ้าในบ้านอย่างมืออาชีพ”
ขนาด | 30.3 x 19.2 x 27.3 cm. |
น้ำหนัก | 1.9 Kg. |
ประเภทจักร | จักรเย็บผ้าไฟฟ้ามินิ |
วัสดุเครื่อง | โลหะ, พลาสติก |
ประเภทเข็มที่รองรับ | เข็มเดี่ยว |
ความเร็วในการเย็บสูงสุด | 1000 ตะเข็บ/นาที |
ราคา | 1,750 บาท |
ข้อดี
- ขนาดเล็ก น้ำหนักเบา พกพาสะดวก
- มีลวดลายเย็บ 37 แบบ พร้อมระบบกรอกระสวยอัตโนมัติ
- ปรับความเร็วได้ 2 ระดับ และสามารถเย็บเดินหน้าและถอยหลังเพื่อย้ำตะเข็บได้
ข้อควรพิจารณา
- อาจไม่เหมาะสำหรับงานเย็บที่ต้องการความแม่นยำสูงหรือใช้งานหนัก
- ใช้กำลังไฟ 6V 1000mA ซึ่งอาจจำกัดการใช้งานในบางพื้นที่ที่ไม่มีแหล่งจ่ายไฟที่เหมาะสม
จักรเย็บผ้าไฟฟ้ามินิ Matrix รุ่น TR – 3705 ขนาดเล็กกะทัดรัด น้ำหนักเบาเพียง 1.9 กก. พร้อมหูหิ้วสะดวกในการพกพา เหมาะสำหรับงานซ่อมแซมเสื้อผ้า หรือตัดเย็บของใช้ในบ้านอย่างมืออาชีพ ด้วยลวดลายเย็บ 37 แบบ และฐานเพิ่มพื้นที่การเย็บเสมือนใช้งานจักรขนาดใหญ่ นอกจากนี้ยังมีระบบกรอกระสวยอัตโนมัติ และสามารถปรับความเร็วได้ 2 ระดับ โดยควบคุมการเย็บได้ทั้งแป้นเท้าเหยียบหรือกดปุ่มเย็บอัตโนมัติ จักรนี้ยังสามารถเย็บเดินหน้าและถอยหลังเพื่อย้ำตะเข็บได้ พร้อมทำรังดุมได้ใน 4 ขั้นตอน มีปุ่มปรับความตึงด้ายและไฟ LED แสงขาวส่องสว่างขณะเย็บ อีกทั้งยังมีที่ตัดหางด้ายและฟรีอาร์มสำหรับเย็บผ้าทรงกระบอก เช่น ข้อมือเสื้อหรือขากางเกง อุปกรณ์ครบครัน ได้แก่ อะแดปเตอร์ 6V 1000mA ปลั๊กไฟ เท้าเหยียบ ที่สนเข็ม เข็มเย็บผ้า ไส้กระสวย ด้ายเย็บ และตีนผีสำหรับทำรังดุม จักรเย็บผ้ารุ่นนี้ใช้งานง่ายและเคลื่อนย้ายสะดวก เหมาะสำหรับทุกครัวเรือน
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?
จักรเย็บผ้าไฟฟ้ามินิ Matrix รุ่น TR – 3705 เป็นตัวเลือกที่ดีเนื่องจากมีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา และพกพาสะดวก พร้อมฟังก์ชั่นหลากหลาย เช่น ระบบกรอกระสวยอัตโนมัติและการปรับความเร็วได้ 2 ระดับ ทำให้ใช้งานง่ายและเหมาะสำหรับการซ่อมแซมและตัดเย็บเสื้อผ้าในบ้านอย่างมืออาชีพ
5. ATOMIC AT 40
“จักรเย็บผ้ากระเป๋าหิ้ว ATOMIC รุ่น AT-40 เป็นเครื่องเย็บผ้าที่ใช้งานง่าย เสียงเงียบ มีระบบเย็บอัตโนมัติและฟังก์ชันการเย็บครบครัน เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นและผู้มีประสบการณ์”
ขนาด | 11 x 30 x 25 cm. |
น้ำหนัก | 3 kg. |
ประเภทจักร | จักรเย็บผ้ากระเป๋าหิ้ว |
วัสดุเครื่อง | อะลูมิเนียม |
ประเภทเข็มที่รองรับ | เข็มเดี่ยว |
ความเร็วในการเย็บสูงสุด | 1000 ตะเข็บ/นาที |
ราคา | 2,050 บาท |
ข้อดี
- ใช้งานง่ายด้วยระบบเย็บอัตโนมัติ ไม่ต้องเหยียบแป้น
- ฟังก์ชันการเย็บครบครัน ทั้งเย็บตรง เย็บซิกแซก และแซกรังกระดุม
- ทำงานเงียบ ไม่รบกวนคนข้างเคียง เหมาะสำหรับการใช้งานในห้องพักหรือคอนโด
ข้อควรพิจารณา
- ขนาดค่อนข้างเล็ก อาจไม่เหมาะกับการเย็บผ้าขนาดใหญ่
- ความเร็วเย็บปรับได้เพียง 2 ระดับ อาจไม่เพียงพอสำหรับการเย็บที่ต้องการความเร็วสูง
จักรเย็บผ้ากระเป๋าหิ้ว ATOMIC รุ่น AT-40 เป็นเครื่องเย็บผ้าที่ออกแบบมาเพื่อความสะดวกสบายและการใช้งานที่หลากหลายด้วยระบบเย็บอัตโนมัติ ไม่ต้องเหยียบแป้น สามารถปรับความเร็วได้ 2 ระดับ ทำให้การเย็บผ้าเป็นเรื่องง่ายสำหรับทั้งผู้เริ่มต้นและผู้มีประสบการณ์ ฟังก์ชันการเย็บครบครัน ทั้งเย็บตรง เย็บซิกแซก แซกรังกระดุม และติดกระดุม ลายเย็บกว่า 40 แบบให้เลือกใช้ ตัวเครื่องทำงานเงียบ ไม่รบกวนคนข้างเคียง เหมาะสำหรับการใช้งานในห้องพักหรือคอนโด มีปุ่มปรับความตึง-หย่อนของด้ายตามชนิดของผ้า ฐานจักรขนาด 28 x 19 ซม. ช่วยเพิ่มพื้นที่การทำงาน พร้อมไฟ LED ส่องสว่างบริเวณเข็ม มีแป้นย้ำเดินหน้า-ถอยหลังขณะเย็บ ใบมีดตัดด้ายในตัว และระบบกรอด้ายอัตโนมัติ ขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา 2.4 กก. แต่แข็งแรง ใช้งานได้จริง มาพร้อมปลั๊กไฟอะแดปเตอร์ DC 6V 1.5A และใช้กำลังไฟฟ้า 9 วัตต์ สำหรับผู้ที่สนใจซื้อ จักรเย็บผ้ารุ่นนี้เป็นโฉมใหม่ที่ได้รับการพัฒนาให้ร้อยด้ายง่ายขึ้นโดยไม่ต้องถอดหน้ากากด้านหน้าออกและไม่มีห่วงตะขอที่บริเวณเข็ม ลดขั้นตอนการทำงานเพื่อเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?
จักรเย็บผ้ากระเป๋าหิ้ว ATOMIC รุ่น AT-40 เป็นตัวเลือกที่ดีเพราะใช้งานง่ายด้วยระบบเย็บอัตโนมัติ เสียงเงียบ และมีฟังก์ชันครบครันทั้งการเย็บตรง เย็บซิกแซก และแซกรังกระดุม เหมาะสำหรับทั้งผู้เริ่มต้นและผู้มีประสบการณ์
6. bernette b38
“จักรเย็บผ้าคอมพิวเตอร์ Bernette รุ่น b38 มาพร้อมฟังก์ชันอัตโนมัติ ลวดลายเย็บ 394 แบบ และการเย็บตัวอักษร ทำให้การเย็บผ้าง่ายและสะดวกสบายสำหรับผู้ใช้ทุกระดับทักษะ”
ขนาด | 17 x 40 x 30 cm. |
น้ำหนัก | 6.4 kg. |
ประเภทจักร | จักรระบบคอมพิวเตอร์ |
วัสดุเครื่อง | โลหะ, พลาสติก |
ประเภทเข็มที่รองรับ | เข็มคู่, เข็มเดี่ยว |
ความเร็วในการเย็บสูงสุด | 820 ตะเข็บ / นาที |
ราคา | 29,900 บาท |
ข้อดี
- ใช้งานง่ายด้วยฟังก์ชันอัตโนมัติและหน้าจอ LCD
- มีลวดลายเย็บถึง 394 แบบ พร้อมฟังก์ชันเย็บตัวอักษร
- มาพร้อมกล่องครอบจักรแบบ Hardcase ป้องกันฝุ่นและการกระแทก
ข้อควรพิจารณา
- ราคาสูงกว่าเครื่องจักรเย็บผ้ารุ่นพื้นฐาน
- ขนาดและน้ำหนักอาจไม่สะดวกสำหรับการพกพาบ่อยๆ
จักรเย็บผ้าคอมพิวเตอร์แบรนด์สวิส Bernette รุ่น b38 เป็นเครื่องจักรที่ทันสมัยและใช้งานง่าย ด้วยฟังก์ชันการทำงานอัตโนมัติเพียงกดปุ่มเลือกและสั่งการผ่านหน้าจอ LCD จักรรุ่นนี้มีลวดลายให้เลือกถึง 394 แบบ รวมถึงการเย็บรังดุมอัตโนมัติ 8 แบบและสามารถปักตัวอักษรภาษาอังกฤษได้ 3 แบบ พร้อมตัวเลขและสัญลักษณ์ นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่นการผสมลายเย็บและตัวอักษร สามารถจัดเก็บลายสูงสุดได้ถึง 50 ลายในตัวจักรเอง และมีฟังก์ชั่นการกลับลายซ้าย-ขวาและการใช้เข็มคู่เพื่อความปลอดภัยไม่ให้เข็มหักระหว่างการเย็บ นอกจากนี้ยังมีระบบกรรไกรตัดหางด้ายอัตโนมัติ ปุ่มเย็บโดยไม่ต้องใช้ขาเหยียบ (start-stop button) และสามารถใช้เข็มคู่และเข็มพายในการเย็บตกแต่งได้ มีฟังก์ชั่น Free Arm สำหรับเย็บชิ้นงานทรงกระบอก เช่น ปลายแขนเสื้อ ปลายขากางเกง ควบคุมความเร็วในการเย็บได้อย่างแม่นยำด้วยขาเหยียบระบบอิเลคทรอนิคส์
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?
จักรเย็บผ้าคอมพิวเตอร์ Bernette รุ่น b38 เป็นตัวเลือกที่ดีเพราะใช้งานง่ายด้วยฟังก์ชันอัตโนมัติและมีลวดลายหลากหลายถึง 394 แบบ พร้อมฟังก์ชันเย็บตัวอักษรและระบบป้องกันการกระแทกที่ช่วยให้ใช้งานได้อย่างมั่นใจและสะดวกสบาย
7. JUKI HZL12Z
“จักรเย็บผ้า JUKI รุ่น HZL-12Z เป็นจักรเย็บผ้าคุณภาพเยี่ยมที่ใช้งานง่าย ทนทาน มีฟังก์ชันครบครันและมีระบบสนเข็มอัตโนมัติพร้อมไฟ LED ประหยัดพลังงาน”
ขนาด | 35 X 27 X 16 cm. |
น้ำหนัก | 4.4 Kg. |
ประเภทจักร | จักรเย็บซิกแซกกระเป๋าหิ้ว |
วัสดุเครื่อง | อะลูมิเนียม, พลาสติก |
ประเภทเข็มที่รองรับ | เข็มเดี่ยว |
ความเร็วในการเย็บสูงสุด | 800 ตะเข็บ / นาที |
ราคา | 4,900 บาท |
ข้อดี
- ใช้งานง่ายด้วยระบบสนเข็มอัตโนมัติ
- มีลวดลายฝีเข็มให้เลือกหลากหลายถึง 10 ลาย
- ขนาดเล็ก น้ำหนักเบา และทนทานสูง
ข้อควรพิจารณา
- อาจไม่เหมาะสำหรับการเย็บผ้าที่มีความหนามาก
- ต้องมีการศึกษาและฝึกฝนในการปรับตั้งค่าต่าง ๆ ให้เหมาะสม
จักรเย็บผ้าซิกแซกกระเป๋าหิ้ว JUKI รุ่น HZL-12Z สีขาว เป็นจักรเย็บผ้าคุณภาพเยี่ยมที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองทุกความต้องการในการตัดเย็บ ไม่ว่าจะเป็นการเย็บเสื้อผ้า การผลิตชิ้นงาน D.I.Y. หรือการซ่อมแซมเสื้อผ้า ตัวเครื่องมีขนาดเล็กและน้ำหนักเบา แต่ยังคงมีความทนทานสูง ใช้งานง่ายด้วยระบบสนเข็มอัตโนมัติ และมีลวดลายฝีเข็มให้เลือกถึง 10 ลาย รวมถึงลายถักรังดุม นอกจากนี้ยังมีปุ่มปรับความกว้างและความยาวของฝีเข็มได้ง่ายด้วยปุ่มหมุนแบบหน้าปัด มีปุ่มย้ำตะเข็บทั้งในตอนเริ่มต้นและปิดงาน ช่วยถนอมสายตาด้วยหลอด LED ชนิดประหยัดพลังงาน จักรเย็บผ้ารุ่นนี้มาพร้อมกับคู่มือการใช้งานในรูปแบบ DVD ที่อธิบายเข้าใจง่าย ทำให้คุณสามารถใช้งานได้อย่างมืออาชีพ ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่หรือมือเก๋า จักรเย็บผ้า JUKI รุ่น HZL-12Z เป็นตัวเลือกที่ไม่ควรพลาดในครัวเรือน
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?
จักรเย็บผ้า JUKI รุ่น HZL-12Z เป็นตัวเลือกที่ดีเพราะใช้งานง่าย มีความทนทานสูง และมีฟังก์ชันครบครันสำหรับการตัดเย็บหลากหลายรูปแบบ ทั้งยังมีระบบสนเข็มอัตโนมัติและไฟ LED ประหยัดพลังงานช่วยให้ทำงานได้สะดวกยิ่งขึ้น
8. ELVIRA ANITA
“จักรเย็บผ้าไฟฟ้าระบบคอมพิวเตอร์ Elvira Anita เป็นจักรเย็บผ้าที่ใช้งานง่าย มีฟังก์ชันครบครันและฝีเข็มหลากหลายรูปแบบ พร้อมระบบอัตโนมัติที่เพิ่มความสะดวกในการเย็บทุกชิ้นงาน”
ขนาด | 26 X 50 X 39 cm. |
น้ำหนัก | 5 kg. |
ประเภทจักร | จักรเย็บผ้าระบบ Mechanic |
วัสดุเครื่อง | โลหะ |
ประเภทเข็มที่รองรับ | เข็มเดี่ยว |
ความเร็วในการเย็บสูงสุด | 750 ตะเข็บ / นาที |
ราคา | 16,900 บาท |
ข้อดี
- ใช้งานง่ายด้วยระบบอัตโนมัติที่ครบครัน
- มีฝีเข็มให้เลือกถึง 40 รูปแบบและระบบรังดุมอัตโนมัติ 3 แบบ
- ปุ่ม Start-Stop และปุ่มปักเข็มช่วยเพิ่มความสะดวกและความละเอียดในการเย็บ
ข้อควรพิจารณา
- ราคาสูงกว่าจักรเย็บผ้าแบบธรรมดา
- อาจต้องใช้เวลาในการเรียนรู้การใช้งานฟังก์ชันที่ซับซ้อน
จักรเย็บผ้าไฟฟ้าระบบคอมพิวเตอร์ Elvira Anita เป็นเครื่องมือที่ถูกออกแบบมาให้ใช้งานง่ายและครบทุกฟังก์ชั่นการใช้งาน มีฝีเข็มให้เลือกถึง 40 รูปแบบ พร้อมกับระบบรังดุมอัตโนมัติ 3 แบบ ที่สามารถปรับขนาดและเย็บเสร็จในขั้นตอนเดียว การใช้งานสะดวกด้วยระบบกระสวยแนวนอนและการตัดเก็บปลายด้ายอัตโนมัติที่ช่วยให้การเริ่มเย็บทำได้ทันทีโดยไม่ต้องคล้องด้ายล่างขึ้น มีฟังก์ชันสนเข็มอัตโนมัติและปุ่ม Start-Stop ที่ทำให้การเย็บและหยุดทำได้โดยไม่ต้องใช้ขาเหยียบ ปุ่มปักเข็มช่วยให้เย็บงาน Applique ได้ละเอียดและปราณีตมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีปุ่มจบลายและผูกหางด้ายอัตโนมัติที่ช่วยให้การเย็บเสร็จสิ้นอย่างสมบูรณ์แบบ เพลทบอกระยะการเผื่อตะเข็บช่วยให้เย็บง่ายและเร็วขึ้นโดยไม่ต้องขีดเส้นเย็บ และปุ่ม Slide ปรับความเร็วตามความต้องการเพื่อให้เย็บเทคนิคต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น พร้อมด้วยอุปกรณ์มาตรฐานและอุปกรณ์พิเศษมากมายที่ทำให้ Elvira Anita เป็นจักรเย็บผ้าที่สมบูรณ์แบบสำหรับการสร้างสรรค์งานเย็บต่าง ๆ
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?
จักรเย็บผ้าไฟฟ้าระบบคอมพิวเตอร์ Elvira Anita เป็นตัวเลือกที่ดีเพราะใช้งานง่าย มีฟังก์ชันครบครันและฝีเข็มหลากหลายรูปแบบ พร้อมทั้งระบบอัตโนมัติที่ช่วยประหยัดเวลาและเพิ่มความสะดวกในการเย็บทุกชิ้นงาน
9. CHALI
“จักรโพ้งเล็ก ยี่ห้อ CHALI รุ่น BL4-434D มาพร้อมอุปกรณ์ครบชุด ใช้งานง่าย มีฝีเข็มสวย เสียงเงียบ และมีไฟส่องสว่าง เพิ่มความสะดวกในการใช้งานทุกประเภทของผ้า”
ขนาด | 24 x 23 x 26 cm. |
น้ำหนัก | 10.5 kg. |
ประเภทจักร | จักรโพ้งกระเป๋าหิ้ว |
วัสดุเครื่อง | โลหะ |
ประเภทเข็มที่รองรับ | เข็มจักรโพ้ง |
ความเร็วในการเย็บสูงสุด | 800 ตะเข็บ / นาที |
ราคา | 5,147 บาท |
ข้อดี
- ฝีเข็มสวยใกล้เคียงจักรอุตสาหกรรม
- มีไฟส่องสว่าง LED ที่หัวเข็มทำให้ใช้งานในที่มืดได้สะดวก
- มียางรองกันสั่นทำให้เครื่องทำงานเงียบและนิ่ม
ข้อควรพิจารณา
- น้ำหนักเบาแต่บางครั้งอาจไม่เหมาะกับการใช้งานหนัก
- ค่าอะไหล่และค่าจัดส่งกลับเพื่อซ่อมแซมอาจต้องชำระเอง
จักรโพ้งเล็ก ยี่ห้อ CHALI รุ่น BL4-434D เป็นจักรโพ้งคุณภาพสูงที่มาพร้อมเซ็ตอุปกรณ์ครบชุดพร้อมใช้งาน เหมาะสำหรับใช้ในครัวเรือนหรือธุรกิจขนาดเล็ก สามารถโพ้งได้ทั้งผ้าบาง ผ้ายืด และผ้าหนาระดับปานกลาง ตะเข็บสวยใกล้เคียงจักรอุตสาหกรรม มีการป้องกันเครื่องสั่นขณะทำงานด้วยยางรองฐานจักร ทำให้เสียงเงียบและนิ่มขณะใช้งาน ตัวจักรมีมอเตอร์พร้อมเสาในตัว ใช้งานง่าย และมีไฟส่องสว่าง LED ที่หัวเข็ม ช่วยให้การทำงานในที่มืดเป็นเรื่องง่าย นอกจากนี้ ยังมีน้ำหนักเบา แข็งแรง และพกพาสะดวก เหมาะสำหรับลูกค้ามือใหม่หรือผู้ที่ต้องการซ่อมเสื้อผ้าหรืองานตัดเย็บหน้าร้าน ทางร้านมีรับประกันสินค้า 1 ปีเต็ม โดยมีการตั้งฝีเข็มโพ้งให้สวยพร้อมใช้งานก่อนจัดส่ง
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?
จักรโพ้งเล็ก ยี่ห้อ CHALI รุ่น BL4-434D เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นและธุรกิจขนาดเล็ก ด้วยคุณภาพสูง ฝีเข็มสวย มีเสียงเงียบ และใช้งานง่าย อีกทั้งยังมีไฟส่องสว่างและยางรองกันสั่น เพิ่มความสะดวกและประสิทธิภาพในการใช้งาน
10. elna eXplore240
“จักรเย็บผ้ากระเป๋าหิ้ว elna รุ่น eXplore 240 มาพร้อมฟังก์ชันครบครัน ใช้งานง่าย พกพาสะดวก และเหมาะสำหรับการเย็บผ้าทุกประเภทด้วยลวดลายเย็บ 25 ลายและฟีเจอร์ที่สะดวกสบาย”
ขนาด | 22.8 x 44.2 x 34.4 cm. |
น้ำหนัก | 8.23 kg. |
ประเภทจักร | จักรกระเป๋าหิ้ว ระบบ Mechanic |
วัสดุเครื่อง | อะลูมิเนียม |
ประเภทเข็มที่รองรับ | เข็มคู่ |
ความเร็วในการเย็บสูงสุด | 800 ตะเข็บ / นาที |
ราคา | 8,900 บาท |
ข้อดี
- มีลวดลายเย็บให้เลือกถึง 25 ลาย รวมถึงการทำรังดุมในขั้นตอนเดียว
- ใช้งานง่ายด้วยฟังก์ชันที่สนเข็มอัตโนมัติและปุ่มย้ำตะเข็บเพื่อความแข็งแรง
- พกพาสะดวกและมีการรับประกันอะไหล่มอเตอร์ตัวเครื่อง 1 ปี พร้อมฟรีค่าบริการเซอร์วิส 2 ปี
ข้อควรพิจารณา
- ราคาสูงกว่าจักรเย็บผ้าทั่วไปในตลาด
- ฟังก์ชันบางอย่างอาจเกินความจำเป็นสำหรับผู้เริ่มต้นใช้งาน
จักรเย็บผ้ากระเป๋าหิ้ว elna รุ่น eXplore 240 เป็นจักรเย็บผ้าที่มีมาตรฐานสูงและใช้งานได้หลากหลาย เหมาะสำหรับงานเย็บทุกประเภทด้วยลวดลายเย็บที่มีให้เลือกถึง 25 ลาย รวมถึงการทำรังดุมในขั้นตอนเดียว สามารถปรับระยะฝีเข็มได้ตั้งแต่ 0-4 มม. และความกว้างฝีเข็มได้ถึง 5 มม. จักรเย็บผ้ารุ่นนี้มีฟังก์ชันที่สะดวกสบาย เช่น ปุ่มกรอกระสวยในตัวเครื่อง ปุ่มย้ำตะเข็บเพื่อความแข็งแรง และปุ่มปรับความตึงด้ายให้เหมาะสมกับเนื้อผ้าแต่ละชนิด พร้อมด้วยที่สนเข็มอัตโนมัติที่ช่วยให้งานเย็บปักถักร้อยเป็นไปอย่างง่ายดายและสวยงาม นอกจากนี้ยังมี Free Arm สำหรับงานเย็บชิ้นทรงกระบอกและที่ตัดปลายด้ายด้านข้างตัวเครื่อง ระบบแมคคานิคและกระสวยตั้งที่เย็บเข็มคู่ได้ทำให้จักรเย็บผ้ารุ่นนี้มีความสมบูรณ์แบบและใช้งานได้ง่าย พกพาสะดวก มีการรับประกันอะไหล่มอเตอร์ตัวเครื่อง 1 ปีและฟรีค่าบริการเซอร์วิส 2 ปี ทำให้ elna รุ่น eXplore 240 เป็นจักรเย็บผ้าที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้ใช้
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้ ?
จักรเย็บผ้ากระเป๋าหิ้ว elna รุ่น eXplore 240 เป็นตัวเลือกที่ดีเพราะมีฟังก์ชันครบครัน ใช้งานง่าย และพกพาสะดวก ตอบโจทย์การเย็บผ้าทุกประเภทด้วยมาตรฐานสูงและความหลากหลายของลวดลายเย็บ
วิธีการเลือกจักรเย็บผ้าไฟฟ้าที่เหมาะสม
การเลือกจักรเย็บผ้าไฟฟ้าที่เหมาะสมและตรงกับความต้องการของเรานั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลยนะคะ เพราะจักรเย็บผ้าที่ดีจะช่วยให้งานเย็บผ้าของเราทำได้ง่ายขึ้น สะดวกสบายมากขึ้น และได้ผลงานที่สวยงามประณีตยิ่งขึ้นด้วยค่ะ เราจะมาแนะนำวิธีการเลือกจักรเย็บผ้าไฟฟ้าให้เหมาะกับรูปแบบการใช้งานและความถนัดของแต่ละท่าน เพื่อให้ได้เครื่องที่ใช้งานได้อย่างคุ้มค่าและตอบโจทย์การใช้งานของเราที่สุดค่ะ
- ฟังก์ชันการเย็บที่น่าสนใจ
- ลายเย็บมีให้เลือกเยอะ: ทั้งลายตรง ลายซิกแซก และลายปักสวยๆ ช่วยให้เราทำงานได้หลากหลายขึ้นค่ะ ทำได้ทั้งซ่อมเสื้อผ้าและงานประดิษฐ์น่ารักๆ
- ปรับแต่งลายได้ตามใจชอบ: ปรับความยาวความกว้างของลายเย็บได้ ทำให้เราสามารถดัดแปลงลายให้เข้ากับชิ้นงานได้พอดีค่ะ
- ปรับความเร็วได้ตามต้องการ: สำคัญมากค่ะ เวลาต้องการความประณีตก็เย็บช้าๆ ได้ แต่ถ้าอยากทำงานให้เสร็จเร็วก็เร่งความเร็วได้เลย
- ระบบกรอด้ายที่สะดวก
- กรอด้ายด้านบน: ใช้งานง่าย สะดวกรวดเร็ว ไม่ต้องงมๆ หาช่องกรอด้ายค่ะ
- ระบบกรอด้ายอัตโนมัติ: สบายสุดๆ เลยค่ะ ประหยัดเวลา ไม่ยุ่งยากเหมือนแต่ก่อน
- จอแสดงผลที่ใช้ง่าย: มองเห็นชัดเจน ปรับตั้งค่าต่างๆ ได้ง่าย ไม่ต้องกังวลว่าจะกดผิดค่ะ
- ใช้งานสะดวกสบาย
- มีไฟส่องสว่าง: ช่วยได้มากเวลาเย็บผ้าตอนกลางคืนหรือในที่แสงน้อยค่ะ
- พื้นที่เย็บผ้ากว้างขวาง: สะดวกมากค่ะ เวลาเย็บผ้าชิ้นใหญ่ๆ อย่างผ้าปูที่นอนหรือผ้าม่าน
งบประมาณและความคุ้มค่าในการซื้อก็สำคัญไม่แพ้กัน
หลังจากที่เราได้พิจารณาเรื่องความสะดวกในการใช้งานและฟังก์ชันต่างๆ ของจักรเย็บผ้าแล้ว อีกปัจจัยสำคัญที่เราต้องคำนึงถึงก็คือเรื่องราคาและความคุ้มค่าค่ะ เพราะการลงทุนซื้อจักรเย็บผ้าสักเครื่องนั้นถือเป็นการลงทุนระยะยาว เราจึงต้องวางแผนงบประมาณให้ดี เพื่อให้ได้เครื่องที่มีคุณภาพเหมาะสมกับการใช้งานและกำลังทรัพย์ของเรา มาดูกันค่ะว่าเราควรวางแผนเรื่องงบประมาณกันอย่างไร
- งบประมาณที่เหมาะกับคุณ
- มือใหม่หัดเย็บ: ถ้าคุณเพิ่งเริ่มต้นหรือเย็บนานๆ ครั้ง แนะนำรุ่นประหยัดราคา 3,000-6,000 บาทค่ะ ใช้งานง่าย เหมาะกับการฝึกฝน
- เย็บเป็นงานอดิเรก: สำหรับคนที่ชอบเย็บผ้าและอยากได้ลายเย็บสวยๆ เพิ่ม ลองดูรุ่นกลางๆ ราคา 7,000-15,000 บาทค่ะ มีฟังก์ชันให้เลือกเยอะขึ้น
- ทำเป็นอาชีพ: คุณแม่บ้านที่รับจ้างเย็บผ้าเป็นรายได้หลัก ควรลงทุนรุ่นคุณภาพดีราคา 15,000 บาทขึ้นไปนะคะ คุ้มค่าในระยะยาว
- จะรู้ได้ยังไงว่าคุ้มค่า
- ดูความแข็งแรง: เลือกรุ่นที่มีการรับประกันนานๆ ลองอ่านรีวิวจากคนที่ใช้จริงดูก่อนค่ะ จะได้มั่นใจว่าใช้ได้ทนจริง
- มีที่ซ่อมไหม: สำคัญมากค่ะ ต้องมีศูนย์บริการใกล้บ้าน หาอะไหล่ง่าย จะได้ไม่ลำบากถ้ามีปัญหา
- ดูแลรักษาง่าย: เลือกรุ่นที่ทำความสะอาดง่าย ไม่ต้องดูแลยุ่งยาก จะได้ใช้ได้นานๆ ค่ะ
สุดท้ายนี้ อยากให้ทุกท่านพิจารณาเลือกจักรเย็บผ้าที่เหมาะกับตัวเองที่สุดนะคะ ขอให้ลองนั่งวางแผนให้ดีก่อนว่าจะนำไปใช้ในงานประเภทไหนบ้าง ทั้งงานซ่อมแซมทั่วไป งานตัดเย็บใหม่ หรืองานประดิษฐ์ต่างๆ พิจารณางบประมาณที่มีอยู่และความคุ้มค่าในระยะยาว แล้วค่อยๆ ศึกษาข้อมูลแต่ละรุ่นอย่างละเอียด ทั้งเรื่องฟังก์ชันการใช้งาน ความทนทาน และการบริการหลังการขาย เพื่อให้ได้เครื่องที่ตอบโจทย์การใช้งานจริงและไม่ต้องเสียดายเงินในภายหลังนะคะ
วิธีการใช้งานจักรเย็บผ้าไฟฟ้าสำหรับผู้เริ่มต้น
เรามาเริ่มต้นเรียนรู้การใช้จักรเย็บผ้าไฟฟ้ากันนะคะ อย่าเพิ่งกังวลหรือท้อใจไปค่ะ ถึงตอนแรกอาจจะดูยากและซับซ้อน แต่พอได้ลงมือทำจริงๆ รับรองว่าสนุกและน่าตื่นเต้นแน่นอนค่ะ มาเริ่มเรียนรู้ขั้นตอนง่ายๆ ที่จะทำให้คุณใช้จักรเย็บผ้าได้อย่างมั่นใจกันเลยดีกว่าค่ะ
- เตรียมจักรให้พร้อมกันก่อนนะคะ
- เสียบปลั๊ก: อันดับแรกเลย เสียบปลั๊กไฟให้แน่นหนา ตรวจสอบว่าสายไฟอยู่ในสภาพดี แล้วกดปุ่มเปิดเครื่องให้พร้อมทำงานค่ะ
- ศึกษาการตั้งค่า: ลองอ่านคู่มือให้ละเอียดนะคะว่าต้องตั้งค่าอะไรบ้าง ทั้งเรื่องความเร็วในการเย็บ ลายเย็บต่างๆ และการปรับระดับตีนกด ให้เข้าใจทุกส่วนก่อนเริ่มใช้งานค่ะ
- จัดการเรื่องเข็มกันค่ะ
- เลือกเข็มให้เหมาะ: ศึกษาประเภทของผ้าที่จะเย็บให้ดีค่ะ ว่าเป็นผ้าบางหรือหนา แล้วเลือกเข็มให้เหมาะสม ต้องใส่เข็มให้ถูกทิศทางตามที่คู่มือระบุไว้ด้วยนะคะ
- เช็คด้าย: ตรวจสอบว่าด้ายที่มีอยู่มีสีและขนาดที่เหมาะกับผ้า และมีปริมาณเพียงพอสำหรับงานเย็บของเราไหม จะได้ไม่ต้องหยุดกลางคันค่ะ
มาเตรียมผ้าและใส่ด้ายกันอย่างละเอียดค่ะ
ขั้นตอนนี้สำคัญมากๆ เลยนะคะ เพราะการเตรียมการที่ดีจะช่วยให้งานเย็บของเราออกมาสวยงามและเรียบร้อย ไม่มีปัญหาระหว่างทางค่ะ
- เตรียมผ้ากันก่อน
- ตัดผ้า: ใช้กรรไกรที่คมกริบและสะอาด ตัดผ้าให้ตรงและเรียบร้อยตามแบบที่ต้องการ อย่าลืมเผื่อระยะตะเข็บด้วยนะคะ
- รีดให้เรียบ: รีดผ้าให้เรียบเนียนก่อนเย็บ ตั้งอุณหภูมิให้เหมาะกับชนิดของผ้า จะช่วยให้งานออกมาสวยและเย็บง่ายขึ้นค่ะ
- ปักหมุด: ใช้เข็มหมุดคุณภาพดีจับผ้าให้อยู่ในตำแหน่งที่ต้องการ วางให้ตรงแนวและห่างจากขอบพอประมาณก่อนเย็บค่ะ
- ขั้นตอนใส่ด้ายอย่างละเอียด
- กรอด้าย: กรอด้ายใส่กระสวยให้เรียบร้อยสม่ำเสมอ ไม่แน่นหรือหลวมเกินไป ทำตามขั้นตอนในคู่มือทุกประการนะคะ
- ใส่กระสวย: นำกระสวยที่กรอด้ายแล้วใส่ลงในช่องให้ถูกทิศทาง ดึงด้ายขึ้นมาตามร่องที่กำหนด ตรวจสอบว่าใส่แน่นดีค่ะ
- ร้อยด้ายด้านบน: ร้อยด้ายผ่านจุดต่างๆ อย่างระมัดระวัง ทั้งแขนกดด้าย คันกระตุก และรูเข็ม ตามลำดับขั้นตอนในคู่มือให้ครบถ้วนค่ะ
- ปรับความตึง: ทดลองตั้งความตึงด้ายให้เหมาะสมกับชนิดและความหนาของผ้า ลองเย็บบนเศษผ้าก่อนเพื่อปรับให้พอดีค่ะ
มาดูวิธีเย็บผ้าแบบง่ายๆ กันนะคะ
- ฝึกเย็บตรงๆ กันก่อน: วางผ้าให้เรียบร้อย แล้วค่อยๆ เหยียบคันเหยียบเบาๆ เพื่อเริ่มเย็บค่ะ ถ้าเพิ่งหัดเย็บ แนะนำให้เย็บช้าๆ ไปก่อนนะคะ พอชำนาญแล้วค่อยเพิ่มความเร็วค่ะ
- ลองเย็บลายซิกแซกกันบ้าง: เลือกลายซิกแซกที่เครื่อง แล้ววางผ้าให้ดีแล้วเย็บตามแนวที่เราต้องการได้เลยค่ะ
- เย็บขอบผ้าให้สวย: พับขอบผ้าแล้วใช้เข็มหมุดยึดไว้ให้แน่นๆ นะคะ เย็บตามรอยพับให้สวย ขอบจะได้ไม่ลุ่ยและดูเรียบร้อยค่ะ
- ปรับแต่งจักรให้เหมาะกับงานค่ะ
- ความยาวฝีเข็ม: ปรับให้พอดีกับงานที่จะเย็บนะคะ
- ความกว้างลาย: เลือกให้เหมาะกับผ้าและงานที่เราจะทำค่ะ
- ความตึงด้าย: ปรับให้พอดีกับผ้า ไม่ตึงหรือหย่อนเกินไปค่ะ
อย่าลืมฝึกฝนการเย็บผ้าอย่างสม่ำเสมอนะคะ เพราะการฝึกฝนเป็นประจำจะช่วยพัฒนาทักษะและความชำนาญของคุณ ยิ่งได้ลงมือทำบ่อยๆ ก็จะยิ่งเก่งขึ้นเรื่อยๆ เองค่ะ หากระหว่างทางมีข้อสงสัยหรือติดขัดตรงไหน แนะนำให้ศึกษาจากคู่มือการใช้งานก่อนเป็นอันดับแรก เพราะในคู่มือจะมีคำแนะนำที่ละเอียดและเป็นประโยชน์มากค่ะ หรือถ้ายังไม่เข้าใจ ก็สามารถขอคำปรึกษาจากผู้ที่มีประสบการณ์ในการเย็บผ้า หรือเพื่อนที่มีความชำนาญได้เลยนะคะ ขอให้มั่นใจได้เลยว่าด้วยความพยายามและการฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง ไม่นานเกินรอคุณจะสามารถเย็บผ้าได้สวยงามและมีคุณภาพอย่างที่ตั้งใจไว้แน่นอนค่ะ
การใช้เตารีดไอน้ำรวมกับการใช้จักรเย็บผ้าไฟฟ้าเพื่อชิ้นงานที่เรียบร้อยยิ่งขึ้น
การใช้เตารีดไอน้ำคู่กับจักรเย็บผ้าไฟฟ้าเรียกได้ว่าเป็นไอเท็มที่ต้องใช้คู่กันแบบขาดไม่ได้เลยทีเดียวค่ะ เคล็ดลับนี้จะช่วยให้งานเย็บของเราดูสวยเป๊ะเหมือนมืออาชีพเลยค่ะ หลังจากเย็บผ้าเสร็จแล้ว แนะนำให้ใช้เตารีดไอน้ำรีดตะเข็บและรอยพับให้เรียบสวย ช่วยลดรอยย่นและทำให้ชิ้นงานดูเนี้ยบมากขึ้น ไอน้ำจะช่วยให้ผ้าจัดทรงง่าย อยู่ทรงสวย และถ้าเรารีดไปด้วยระหว่างเย็บก็จะช่วยให้เย็บได้ง่ายและแม่นยำขึ้นด้วยนะคะ
สำหรับคุณแม่บ้านที่กำลังมองหาเตารีดไอน้ำยี่ห้อไหนดี พี่แนะนำให้ดูที่เครื่องที่ผลิตไอน้ำได้ต่อเนื่อง ทนทาน และใช้งานง่ายๆ ค่ะ ยี่ห้อดังๆ อย่าง Philips, Tefal หรือ Panasonic ก็น่าสนใจนะคะ เพราะเขาออกแบบมาทันสมัยและใช้งานได้ดี เลือกเตารีดไอน้ำดีๆ สักเครื่อง รับรองว่าจะช่วยให้งานเย็บของเราออกมาสวยเป๊ะปังแน่นอนค่ะ ทั้งคนทำและคนใช้ต้องชื่นใจแน่ๆ ค่ะ
การบำรุงรักษาและการดูแลรักษาจักรเย็บผ้าไฟฟ้า
วิธีดูแลรักษาจักรเย็บผ้าไฟฟ้าให้อยู่กับเราไปนานๆ นั้นไม่ยากเลยค่ะแค่ต้องการความใส่ใจ การดูแลรักษาอย่างถูกต้องและสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญมากๆ เพราะถ้าเราดูแลดีๆ เจ้าจักรของเราก็จะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่มีปัญหาติดขัดหรือสะดุดระหว่างใช้งาน และที่สำคัญคือจะช่วยให้เย็บผ้าได้สวยเป๊ะ เรียบร้อยทุกชิ้นงานเลยค่ะ นอกจากนี้ การดูแลที่ดียังช่วยยืดอายุการใช้งานของจักรเย็บผ้าให้อยู่กับเราไปได้อีกนานแสนนาน มาดูกันเลยดีกว่าค่ะว่าเราควรดูแลรักษาจักรเย็บผ้าไฟฟ้าอย่างไรให้ถูกวิธีนะคะ
- ขั้นตอนทำความสะอาดภายนอก
- อย่าลืมถอดปลั๊กก่อนนะคะ: เรื่องความปลอดภัยสำคัญที่สุดเลย ต้องปิดเครื่องและถอดปลั๊กทุกครั้งก่อนทำความสะอาดนะคะ
- เช็ดให้สะอาดหมดจด: ใช้ผ้านุ่มๆ ชุบน้ำบิดหมาดๆ เช็ดตัวเครื่องให้สะอาด ฝุ่นละอองจะได้ไม่เกาะค่ะ
- มาดูภายในเครื่องกัน
- เปิดฝาดูข้างใน: เปิดฝาครอบตรงเข็มกับกระสวยออกมาค่ะ
- ปัดฝุ่นด้วยแปรงเล็กๆ: ใช้แปรงขนนุ่มปัดฝุ่นและเศษด้ายออกให้หมดเลยค่ะ
- อย่าลืมหยอดน้ำมัน: หยดน้ำมันตามจุดที่คู่มือบอกไว้นะคะ จักรจะได้ทำงานลื่นๆ ไม่ติดขัด
- ดูแลเข็มให้ดี
- เปลี่ยนเข็มบ่อยๆ นะคะ: แนะนำให้เปลี่ยนทุก 8-10 ชั่วโมงที่ใช้งาน เข็มจะได้ไม่ทู่ เย็บผ้าออกมาสวยทุกชิ้นค่ะ
วิธีแก้ปัญหาที่มักเจอบ่อยๆ ค่ะ
หลาย ๆ ท่านอาจจะเคยเจอปัญหาเวลาใช้จักรเย็บผ้า เรามีวิธีแก้ไขมาฝากกันค่ะ รับรองว่าช่วยให้งานเย็บของเราราบรื่นขึ้นแน่นอนค่ะ
- ด้ายขาดบ่อยจังเลยค่ะ ทำไงดี
- ลองดูความตึงของด้าย: ปรับให้พอดีๆ นะคะ ไม่ตึงหรือหย่อนเกินไป
- เช็คเข็มด้วยค่ะ: ถ้าเข็มทู่หรือคดงอ ต้องรีบเปลี่ยนใหม่เลยนะคะ
- ทำไมเย็บแล้วดูไม่สวย
- ดูการกรอกกระสวย: กรอให้เรียบร้อย อย่าให้ด้ายพันกันนะคะ
- เช็คด้ายบนล่าง: ปรับความตึงให้เหมาะกับผ้าที่เราจะเย็บค่ะ
- เข็มหักบ่อย
- เลือกเข็มให้เหมาะกับผ้า: ผ้าแต่ละชนิดต้องใช้เข็มไม่เหมือนกันนะคะ
- อย่าเร่งความเร็ว: โดยเฉพาะตอนเย็บผ้าหนาๆ หรือหลายชั้น ค่อยๆ เย็บดีกว่าค่ะ
เก็บรักษาและใช้งานจักรเย็บผ้าให้อยู่กับเราไปนานๆ
เรามาดูกันดีกว่าว่าจะเก็บรักษาและใช้งานจักรเย็บผ้าของเราอย่างไรให้อยู่กับเราไปนานๆ นะคะ
- วิธีเก็บรักษาให้ปลอดภัย
- หาที่แห้งๆ สะอาดๆ ในการจัดเก็บ: อย่าเก็บไว้ในที่ชื้นหรือมีฝุ่นเยอะนะคะ แนะนำให้ใช้ผ้าคลุมหรือเก็บในกล่องจะดีที่สุดค่ะ
- อย่าให้โดนแดดเด็ดขาด: เก็บให้ห่างจากแสงแดดนะคะ เดี๋ยวตัวเครื่องจะเสื่อมเร็วค่ะ
- ใช้งานอย่างถนอม
- อย่าหักโหมจนเกินไป: ลองอ่านคู่มือดูก่อนนะคะว่าจักรของเราเย็บผ้าได้หนาแค่ไหน จะได้ไม่ใช้งานหนักเกินไปค่ะ
- พักบ้างนะคะ: ถ้าต้องเย็บงานเยอะๆ อย่าลืมพักเครื่องเป็นระยะด้วยนะคะ จะได้ไม่ร้อนจนเกินไปค่ะ
ถ้าเราดูแลจักรเย็บผ้าดีๆ เค้าก็จะทำงานได้ดี เย็บผ้าออกมาสวยๆ และอยู่กับเราไปได้อีกนาน อย่าลืมทำตามคู่มือด้วยนะคะ รับรองว่าการเย็บผ้าจะสนุกและราบรื่นแน่นอนค่ะ
การใช้เครื่องดูดฝุ่นมือถือทำความสะอาดจักรเย็บผ้าไฟฟ้า
ใครกำลังมองหาวิธีดูแลจักรดี ๆ เรามีเคล็ดลับดีๆ เรื่องการทำความสะอาดจักรเย็บผ้าด้วยเครื่องดูดฝุ่นมือถือมาฝากกันค่ะ วิธีนี้สะดวกมากๆ เลยนะคะ ช่วยดูดฝุ่นและเศษด้ายที่มักจะสะสมตามซอกมุมต่างๆ ของจักรได้หมดเลย โดยเฉพาะบริเวณกระสวยด้ายที่เรามักจะเช็ดถึงยากๆ การทำความสะอาดแบบนี้จะช่วยให้จักรของเราทำงานได้ดี อายุการใช้งานยาวนานขึ้นด้วยค่ะ สำหรับใครที่กำลังมองหาเครื่องดูดฝุ่นมือถือยี่ห้อไหนดี แนะนำให้เลือกรุ่นที่น้ำหนักเบา ใช้งานง่าย แบตอึด และมีกำลังดูดดีๆ นะคะ มีหลายยี่ห้อที่น่าสนใจ เช่น Dyson, Black+Decker หรือ Philips ค่ะ ทั้งหมดนี้เป็นแบรนด์คุณภาพดี ใช้งานสะดวก การมีเครื่องดูดฝุ่นมือถือดีๆ สักเครื่องไว้ทำความสะอาดจักรเย็บผ้า นอกจากจะช่วยให้จักรของเราสะอาด ทำงานได้ดีแล้ว ยังช่วยลดฝุ่นที่อาจจะทำให้เราแพ้หรือระคายเคืองได้ด้วยนะคะ
การเลือกอุปกรณ์เสริมสำหรับจักรเย็บผ้าไฟฟ้า
การมีอุปกรณ์เสริมสำหรับจักรเย็บผ้าช่วยให้เราทำงานได้ง่ายขึ้นเยอะเลยค่ะ แถมทำให้งานออกมาสวยงามน่าประทับใจ เราเลยอยากมาแนะนำอุปกรณ์เสริมที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับงานเย็บผ้า พร้อมบอกเคล็ดลับดีๆ ในการเลือกอุปกรณ์ให้เหมาะกับงานที่เราชอบทำ และถนัดด้วยค่ะ รับรองว่าถ้ามีอุปกรณ์พร้อม งานเย็บผ้าจะสนุกและได้ผลงานสวยๆ แบบมืออาชีพแน่นอนค่ะ
อุปกรณ์เสริมที่น่าสนใจสำหรับงานเย็บผ้าค่ะ
- เข็มเย็บผ้าน่ารู้
- เข็มเย็บผ้าทั่วไป: เหมาะกับผ้าพื้นๆ อย่างผ้าฝ้าย ผ้าลินิน หรือผ้าธรรมชาติทั้งหลายค่ะ
- เข็มเย็บผ้ายืด: สำหรับผ้ายืดหยุ่นได้ เช่น ผ้ายืด ผ้าไลคร่า หรือผ้าที่มียางยืดค่ะ
- เข็มเย็บผ้าหนา: ถ้าต้องเย็บผ้าหนาๆ อย่างยีนส์ ผ้าสักหลาด หรือผ้ากระสอบ ต้องใช้เข็มแบบนี้เลยค่ะ
- ตีนผีสารพัดประโยชน์
- ตีนผีทั่วไป: ใช้เย็บตรงๆ หรือลายพื้นฐานทั่วไปได้เลยค่ะ
- ตีนผีติดซิป: ช่วยให้เย็บซิปง่ายขึ้น เรียบสวยน่าดูเชียวค่ะ
- ตีนผีเย็บขอบ: ช่วยเย็บขอบผ้าให้เรียบร้อย ไม่หลุดลุ่ยค่ะ
- กระสวยและด้ายคู่ใจ
- กระสวยสำรอง: แนะนำให้มีติดบ้านไว้หลายๆ อันนะคะ จะได้สะดวกตอนเปลี่ยนด้าย
- ด้ายคุณภาพดี: เลือกด้ายดีๆ หน่อยค่ะ จะได้เย็บออกมาสวย ไม่ขาดง่ายด้วย
- อุปกรณ์ตัดเย็บจำเป็น
- กรรไกรตัดผ้า: ต้องเลือกอันที่คมๆ ขนาดกำลังดีนะคะ
- คัตเตอร์และแผ่นรองตัด: ช่วยให้ตัดผ้าได้แม่นยำ สะดวกสบายค่ะ
- อุปกรณ์เสริม
- ที่สนเข็ม: ตัวช่วยดีๆ ที่ทำให้สนเข็มไม่ปวดตาค่ะ
- แปรงทำความสะอาด: ไว้ปัดฝุ่นและเศษด้ายในจักรให้สะอาดน่าใช้ค่ะ
- น้ำมันหล่อลื่น: อย่าลืมดูแลจักรด้วยการหยอดน้ำมันบ้างนะคะ
เคล็ดลับเลือกอุปกรณ์เสริมให้เหมาะกับการใช้งานค่ะ
- ดูก่อนว่าชอบเย็บผ้าแบบไหน: เลือกเข็มกับตีนผีให้เข้ากับผ้าที่เราชอบใช้บ่อยๆ นะคะ เช่น ถ้าชอบเย็บผ้ายืด ก็ต้องเลือกเข็มกับตีนผีแบบพิเศษที่เย็บผ้ายืดได้สวยๆ ค่ะ
- เช็คให้แน่ใจว่าใช้กับจักรเราได้: ก่อนซื้อต้องดูให้ดีนะคะว่าอุปกรณ์เสริมใช้กับจักรของเราได้ไหม ลองเปิดดูในคู่มือหรือถามร้านค้าได้เลยค่ะ
- เลือกของดีมีคุณภาพ: แม้จะแพงกว่านิดหน่อย แต่ของดีๆ จะใช้ได้นานและทำงานได้ดีกว่าค่ะ คุ้มค่าในระยะยาวแน่นอน
- ดูรีวิวจากคนที่ใช้จริง: ลองอ่านรีวิวดูนะคะ จะได้รู้ว่าใช้งานจริงเป็นยังไง มีข้อดีข้อเสียตรงไหนบ้าง
- เลือกตามงานที่ชอบทำ: ดูว่าเราชอบเย็บอะไรบ่อยๆ เช่น ถ้าชอบเย็บซิป ก็ควรมีตีนผีติดซิปดีๆ สักอันไว้ใช้ค่ะ
การเลือกอุปกรณ์เสริมที่ใช่จะช่วยให้งานเย็บผ้าของเราสนุกและได้งานสวยๆ ออกมาค่ะ อย่าลืมศึกษาวิธีใช้และดูแลรักษาด้วยนะคะ จะได้ใช้งานได้นานๆ และได้ผลงานที่น่าประทับใจค่ะ
สรุปแล้วนะคะ การเลือกจักรเย็บผ้าไฟฟ้าที่ใช่สำหรับคุณเป็นเรื่องสำคัญมากๆ เลยค่ะ คุณแม่บ้านควรดูรายละเอียดให้ดีนะคะ ทั้งเรื่องฟังก์ชันการเย็บ ความเร็วในการทำงาน ระบบกรอด้าย และหน้าจอที่ใช้งานง่าย แน่นอนว่าเรื่องราคาก็สำคัญไม่แพ้กัน ต้องเลือกให้คุ้มค่ากับการใช้งานของเราค่ะ ถ้าได้จักรเย็บผ้าที่ถูกใจ รับรองว่าจะช่วยให้คุณสร้างสรรค์งานเย็บได้สวยๆ อย่างที่ใจต้องการเลยค่ะ หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณแม่บ้านทุกท่านเลือกจักรเย็บผ้าได้ถูกใจนะคะ ถ้ามีข้อสงสัยอะไรเพิ่มเติม อย่าเกรงใจที่จะถามร้านค้าหรือหาข้อมูลเพิ่มเติมนะคะ เดี๋ยวเราจะกลับมาแชร์เทคนิคดีๆ เกี่ยวกับการเย็บผ้าอีกแน่นอนค่ะ ขอให้สนุกกับการเย็บผ้า และได้ผลงานสวยๆ ถูกใจกันทุกคนนะคะ
คำถามที่พบบ่อย
1. จักรเย็บผ้าไฟฟ้าที่ดีควรมีลายเย็บอะไรบ้าง?
จักรเย็บผ้าที่ดีควรมีลายเย็บให้เลือกใช้หลายๆ แบบนะคะ ทั้งลายตรง ลายซิกแซก และลายปักสวยๆ จะได้ทำงานได้สารพัดเลยค่ะ แถมถ้าปรับความยาวความกว้างของลายได้ด้วย ก็จะยิ่งทำให้งานของเราสวยเป๊ะปังตามที่ใจต้องการเลยค่ะ
2. ถ้าเพิ่งหัดเย็บผ้า ควรซื้อจักรราคาเท่าไหรดี?
สำหรับมือใหม่หัดเย็บ แนะนำให้เริ่มจากจักรราคาประหยัดก่อนนะคะ ราคาประมาณ 3,000-6,000 บาท กำลังดีเลยค่ะ มีฟังก์ชันครบครันพอใช้ และเรียนรู้ง่ายด้วยค่ะ
3. จะดูแลจักรเย็บผ้าให้ใช้ได้นานๆ ต้องทำยังไงบ้าง?
เรื่องการดูแลสำคัญมากเลยนะคะ อย่าลืมทำความสะอาดทั้งข้างนอกข้างในเป็นประจำ หยอดน้ำมันตามจุดที่คู่มือบอก เปลี่ยนเข็มทุก 8-10 ชั่วโมงที่ใช้งาน และเก็บในที่แห้งๆ สะอาดๆ ไม่มีฝุ่นเยอะนะคะ
4. จะเลือกอุปกรณ์เสริมให้เหมาะกับการใช้งานต้องดูอะไรบ้าง?
เวลาเลือกอุปกรณ์เสริม ลองนึกก่อนนะคะว่าชอบเย็บผ้าแบบไหนบ่อยๆ แล้วก็เช็คให้แน่ใจว่าใช้กับจักรของเราได้ เลือกของดีๆ มีคุณภาพ อ่านรีวิวคนอื่นดูด้วย แล้วก็ดูว่าเราต้องการอะไรพิเศษไหม เช่น ถ้าชอบเย็บซิป ก็ควรมีตีนผีติดซิปดีๆ สักอันไว้ใช้ค่ะ