ครีมทาผิว ถือเป็นตัวช่วยสำคัญที่สาว ๆ ขาดไม่ได้ เพราะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น บำรุงผิวให้เนียนนุ่มและกระจ่างใส หากเลือกครีมที่เหมาะกับสภาพผิวของตัวเองได้ดี ก็จะช่วยป้องกันปัญหาผิวแห้งกร้านและลดโอกาสการเกิดริ้วรอยได้อีกด้วย ในบทความนี้ เราจึงได้รวบรวม 10 อันดับครีมทาผิวยอดนิยม ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของผิว โดยแต่ละแบรนด์มีคุณสมบัติเด่นแตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นปริมาณ รูปแบบบรรจุภัณฑ์ เนื้อสัมผัส และส่วนผสมสำคัญ เช่น วิตามิน E, เชียบัตเตอร์ หรือกรดไฮยาลูรอนิค ที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นและฟื้นบำรุงผิวอย่างล้ำลึก
นอกจากนี้ เรายังมีคำแนะนำในการเลือกครีมที่เหมาะกับสภาพผิว ไม่ว่าคุณจะมีผิวแห้ง ผิวมัน หรือผิวแพ้ง่าย พร้อมเคล็ดลับการใช้ครีมทาผิวให้ได้ผลสูงสุด เพื่อให้คุณได้ดูแลผิวพรรณได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลองเลือกครีมทาผิวที่ใช่สำหรับคุณ แล้วเปลี่ยนทุกวันให้เป็นวันดี ๆ ที่ผิวของคุณจะสวยสุขภาพดีอย่างที่ฝันไว้
หลักเกณฑ์ที่ใช้ในการจัดอันดับสินค้า
- ส่วนผสมที่ช่วยบำรุงผิวอย่างล้ำลึก: เราพิจารณาส่วนประกอบสำคัญ เช่น วิตามิน E, เชียบัตเตอร์, กรดไฮยาลูรอนิค, เซราไมด์ และสารสกัดจากธรรมชาติ เช่น อโลเวร่า หรือน้ำมันอาร์แกน ที่มีคุณสมบัติช่วยเติมความชุ่มชื้น บำรุงผิวให้อิ่มน้ำ และลดความแห้งกร้าน
- เหมาะสำหรับสภาพผิวที่หลากหลาย: ผลิตภัณฑ์ที่ดีควรเหมาะกับทุกสภาพผิว หรือมีสูตรเฉพาะสำหรับผิวแห้ง ผิวมัน หรือผิวแพ้ง่าย โดยเน้นความอ่อนโยน ปราศจากสารที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง เช่น พาราเบน แอลกอฮอล์ หรือสีสังเคราะห์
- เนื้อสัมผัสและความสบายในการใช้งาน: เราพิจารณาเนื้อสัมผัสของครีม เช่น ครีมเข้มข้น โลชั่นบางเบา หรือเจลที่ซึมซาบเร็ว เพื่อให้เหมาะกับการใช้งานในแต่ละไลฟ์สไตล์และสภาพอากาศ
- ผลลัพธ์ในการใช้งานจริง: ความสามารถในการปรับสภาพผิวให้ดูชุ่มชื้น อิ่มฟู และกระจ่างใสขึ้นหลังการใช้ โดยพิจารณาจากรีวิวของผู้ใช้จริง รวมถึงผลลัพธ์ที่สังเกตได้เมื่อใช้งานต่อเนื่อง
- ความปลอดภัยและมาตรฐานการผลิต: ผลิตภัณฑ์ควรได้รับการรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น อย. หรือมีมาตรฐานการผลิต GMP เพื่อให้มั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัย
- ราคาและความคุ้มค่า: เราพิจารณาความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับปริมาณและประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ โดยเลือกสินค้าที่เหมาะกับงบประมาณหลากหลาย และตอบโจทย์ผู้บริโภคในระยะยาว
- แบรนด์ที่น่าเชื่อถือและความนิยม: สินค้าในอันดับได้รับการเลือกจากแบรนด์ที่มีความน่าเชื่อถือ มีประวัติด้านคุณภาพที่ดี และได้รับการรีวิวจากผู้ใช้จริงในเชิงบวก
1. Cerave Moisturising Lotion
CeraVe Moisturising Lotion เป็นโลชั่นบำรุงผิวที่เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว ด้วยส่วนผสมของเซราไมด์และกรดไฮยาลูโรนิก ที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นและฟื้นฟูปราการปกป้องผิวอย่างล้ำลึก ทำให้ผิวเนียนนุ่มและสุขภาพดี
| ปริมาณ | 88 มล. |
| รูปแบบบรรจุภัณฑ์ | ขวดบีบ |
| เนื้อสัมผัส | เนื้อโลชั่น |
| เหมาะสำหรับสภาพผิว | ผิวแห้ง、ผิวผสม、ผิวแพ้ง่าย |
| ส่วนผสมหลัก | Hyaluronic Acid, Ceramide |
| ราคา | 275 บาท |
ข้อดี
- เนื้อสัมผัสบางเบา ซึมซาบเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ
- ปราศจากน้ำหอมและน้ำมัน ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน
- เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว รวมถึงผิวบอบบางและแพ้ง่าย
ข้อควรพิจารณา
- อาจใช้เวลาสักระยะในการฟื้นฟูผิวแห้งมาก
- เนื้อครีมอาจไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความเข้มข้นมาก
CeraVe Moisturising Lotion เป็นโลชั่นบำรุงผิวที่มีเนื้อสัมผัสบางเบาและสามารถใช้ได้ทั้งกับผิวหน้าและผิวกาย เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว รวมถึงผิวบอบบางและแพ้ง่าย ด้วยส่วนผสมสำคัญอย่างเซราไมด์ 3 ชนิดและกรดไฮยาลูโรนิก ซึ่งช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นและฟื้นฟูปราการปกป้องผิวอย่างมีประสิทธิภาพ เทคโนโลยี MVE ของ CeraVe ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นยาวนานถึง 24 ชั่วโมง โดยค่อยๆ ปล่อยสารบำรุงลงสู่ผิวอย่างต่อเนื่อง โลชั่นสูตรนี้ปราศจากน้ำหอมและน้ำมัน ทำให้ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน เนื้อครีมบางเบา ซึมซาบเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่เหนียวเหนอะหนะ ช่วยให้ผิวนุ่มเนียนน่าสัมผัสตลอดทั้งวัน นอกจากนี้ยังเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวแห้งหรือผิวขาดความชุ่มชื้น ผลิตภัณฑ์นี้ถูกพัฒนาโดยผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง เพื่อให้สามารถใช้ได้ทั้งในผู้ใหญ่และเด็ก สามารถทาได้บ่อยครั้งตามต้องการ หรือปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ CeraVe Moisturising Lotion ไม่เพียงแค่ช่วยฟื้นฟูผิว แต่ยังเสริมสร้างปราการปกป้องผิวให้แข็งแรงยิ่งขึ้น ทำให้ผิวแลดูสุขภาพดี
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?
CeraVe Moisturising Lotion เป็นโลชั่นที่เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว รวมถึงผิวบอบบางและแพ้ง่าย ด้วยส่วนผสมสำคัญอย่างเซราไมด์และกรดไฮยาลูโรนิก ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวอย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง เทคโนโลยี MVE ยังช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นได้ยาวนานโดยไม่เหนียวเหนอะหนะ ปราศจากน้ำหอมและน้ำมัน ทำให้เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวแห้ง
2. MizuMi B3 AHA Intense White Body Booster
MizuMi B3 AHA Intense White Body Booster ช่วยฟื้นฟูผิวหมองคล้ำด้วย Vitamin B3 และ AHA ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าอย่างอ่อนโยน พร้อมปรับสีผิวให้เนียนสม่ำเสมอและกระจ่างใส เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวให้เรียบเนียนและชุ่มชื้น
| ปริมาณ | 250 กรัม |
| รูปแบบบรรจุภัณฑ์ | ขวดฝาปั๊ม |
| เนื้อสัมผัส | เนื้อเซรั่ม |
| เหมาะสำหรับสภาพผิว | ทุกสภาพผิว |
| ส่วนผสมหลัก | ทาได้ตามต้องการ |
| ราคา | 345 บาท |
ข้อดี
- ช่วยฟื้นฟูผิวหมองคล้ำและลดเลือนจุดด่างดำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- มีส่วนผสม AHA ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน
- ผิวกระจ่างใสและเนียนนุ่มเมื่อใช้ต่อเนื่อง
ข้อควรพิจารณา
- อาจทำให้ผิวไวต่อแสงแดด ต้องใช้ร่วมกับกันแดด
- ผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายอาจต้องทดสอบก่อนใช้
MizuMi B3 AHA Intense White Body Booster เป็นเซรั่มบำรุงผิวกายที่ช่วยฟื้นฟูผิวหมองคล้ำและจุดด่างดำให้กลับมากระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ ด้วยส่วนผสมหลักอย่าง Vitamin B3 เข้มข้น 10% ที่ช่วยลดเลือนจุดด่างดำและปรับสีผิวให้เนียนสม่ำเสมอ รวมถึง AHA 5% ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าออกอย่างอ่อนโยน ทำให้ผิวดูกระจ่างใสและเรียบเนียนยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังมีส่วนผสมของ Ceramide Complex ที่ประกอบด้วยเซราไมด์ถึง 5 ชนิด ซึ่งช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับชั้นผิวและปกป้องผิวจากการระคายเคืองจากสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วย Vitamin B5 ที่มีคุณสมบัติในการเพิ่มและรักษาความชุ่มชื้นของผิว ทำให้ผิวเนียนนุ่มน่าสัมผัส เมื่อใช้เป็นประจำจะเห็นความเปลี่ยนแปลงใน 14 วัน ผิวจะดูสว่างกระจ่างใสและเนียนนุ่ม เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูสภาพผิวให้เรียบเนียนและกระจ่างใส วิธีใช้คือทาเซรั่มลงบนผิวกายทั่วเรือนร่างเป็นประจำทุกวันทั้งเช้าและเย็น เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?
MizuMi B3 AHA Intense White Body Booster เซรั่มบำรุงผิวกาย MizuMi B3 AHA Intense White Body Booster ช่วยให้ผิวหมองคล้ำกลับมากระจ่างใส ด้วยส่วนผสม Vitamin B3 และ AHA ที่ช่วยลดเลือนจุดด่างดำและผลัดเซลล์ผิวเก่าอย่างอ่อนโยน นอกจากนี้ยังมี Ceramide ที่เสริมความแข็งแรงให้ชั้นผิว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวให้เรียบเนียนและกระจ่างใส
3. Vaseline Healthy Bright UV Extra Brightening
Vaseline Healthy Bright UV Extra Brightening ฟื้นฟูผิวหมองคล้ำให้กลับมากระจ่างใสด้วยเทคโนโลยี Gluta Glow พร้อมส่วนผสมของ Niacinamide และ Glutathione ที่ช่วยปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ โลชั่นนี้ยังมี SPF 11 ช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวีและมลภาวะ
| ปริมาณ | 500 มล. |
| รูปแบบบรรจุภัณฑ์ | ขวดฝาปั๊ม |
| เนื้อสัมผัส | เนื้อโลชั่น |
| เหมาะสำหรับสภาพผิว | ทุกสภาพผิว |
| ส่วนผสมหลัก | Niacinamide, Glycerin, Tocopheryl Acetate, Sodium Ascorbyl Phosphate, Titanium Dioxide |
| ราคา | 598 บาท |
ข้อดี
- ช่วยฟื้นฟูผิวหมองคล้ำและปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ
- มีสารกันแดดและ Antioxidant ปกป้องผิวจากแสงแดดและมลภาวะ
- เนื้อโลชั่นบางเบา ซึมเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ
ข้อควรพิจารณา
- ค่ากันแดด SPF 11 อาจไม่เพียงพอสำหรับแสงแดดแรง
- ผู้ที่มีผิวแห้งมากอาจต้องใช้โลชั่นเพิ่มเติม
Vaseline Healthy Bright UV Extra Brightening เป็นโลชั่นบำรุงผิวที่ออกแบบมาเพื่อช่วยฟื้นฟูผิวหมองคล้ำให้กลับมากระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ ด้วยเทคโนโลยี Gluta Glow ที่มีสาร Antioxidant ช่วยปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระที่เกิดจากแสงแดดและมลภาวะต่าง ๆ นอกจากนี้ ยังมีส่วนผสมของ Niacinamide หรือวิตามิน B3 ที่ช่วยลดเลือนความหมองคล้ำ และ Glutathione ที่ช่วยปรับสีผิวให้สม่ำเสมอมากขึ้น โลชั่นนี้ยังมีทริปเปิ้ลซันสกรีนที่ผสมสารกันแดดพร้อมค่ากันแดด SPF 11 ช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวี เพื่อป้องกันผิวเสียจากแสงแดดและรังสีที่เป็นอันตราย นอกจากนี้ นวัตกรรมวาสลีนเจลลี่ยังช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นให้กับผิวได้อย่างล้ำลึก โดยไม่ทำให้เหนียวเหนอะหนะ เนื้อโลชั่นบางเบาและซึมซาบเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว เมื่อใช้เป็นประจำคุณจะเริ่มเห็นผลลัพธ์ของผิวที่กระจ่างใสขึ้นภายใน 2 สัปดาห์ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูและบำรุงผิวให้แลดูสุขภาพดี
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?
Vaseline Healthy Bright UV Extra Brightening Vaseline Healthy Bright UV Extra Brightening ช่วยฟื้นฟูผิวหมองคล้ำให้กระจ่างใส ด้วยส่วนผสมของ Niacinamide และ Glutathione ที่ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ พร้อมด้วยสารกันแดด SPF 11 ที่ปกป้องผิวจากรังสียูวีและมลภาวะต่าง ๆ เนื้อโลชั่นบางเบา ซึมเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ
4. Biore UV Anti-Pollution Body Care Serum Intensive Aura SPF50+ PA+++
Biore UV Anti-Pollution Body Care Serum ปกป้องผิวจากรังสียูวีด้วย SPF50+ PA+++ และเทคโนโลยี Anti-Pollution Shield ที่ช่วยลดความหมองคล้ำและจุดด่างดำ เนื้อโลชั่นบางเบาและซึมง่าย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปกป้องผิวจากแสงแดดและมลภาวะ
| ปริมาณ | 150 มล. |
| รูปแบบบรรจุภัณฑ์ | หลอดบีบ |
| เนื้อสัมผัส | เนื้อเซรั่ม |
| เหมาะสำหรับสภาพผิว | ทุกสภาพผิว |
| ส่วนผสมหลัก | Vitamin B3, Moisturizing Pack, Yuzu Extract |
| ราคา | 229 บาท |
ข้อดี
- ปกป้องผิวจากรังสียูวีด้วย SPF50+ PA+++
- มีเทคโนโลยี Anti-Pollution Shield ปกป้องผิวจากมลภาวะ
- เนื้อบางเบา ซึมซาบเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ
ข้อควรพิจารณา
- อาจต้องใช้ซ้ำบ่อยในระหว่างวันสำหรับผู้ที่ทำกิจกรรมกลางแจ้ง
- ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแห้งมาก
Biore UV Anti-Pollution Body Care Serum Intensive Aura SPF50+ PA+++ เป็นโลชั่นบำรุงผิวที่มาพร้อมกับ 3 นวัตกรรมในการปกป้องและฟื้นฟูผิวจากรังสียูวีและมลภาวะ ด้วยสารสกัดจากส้มยูซุ วิตามินบี 3 และน้ำแร่ธรรมชาติจากญี่ปุ่น ช่วยให้ผิวดูกระจ่างใสและชุ่มชื้น พร้อมปกป้องผิวไม่ให้แห้งกร้าน สูตรนี้มีเทคโนโลยี Ultra UV Protection ที่ป้องกันผิวจากรังสียูวีด้วย SPF50+ PA+++ พร้อมกับเทคโนโลยี Anti-Pollution Shield ที่ทำหน้าที่เป็นเกราะปกป้องผิวจากมลภาวะ ฝุ่น ควัน และสิ่งสกปรกต่าง ๆ จึงช่วยลดปัญหาความหมองคล้ำ จุดด่างดำ และสีผิวไม่สม่ำเสมอ นอกจากนี้ยังเป็นสูตรกันน้ำและกันเหงื่อ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องทำกิจกรรมกลางแจ้งหรือใช้ในชีวิตประจำวัน โลชั่นนี้เนื้อบางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ ซึมเข้าสู่ผิวได้รวดเร็ว สามารถออกแดดได้ทันทีโดยไม่ต้องกังวลว่าจะทำให้ผิวแห้งเสีย ทำให้ผิวดูสุขภาพดี กระจ่างใสและนุ่มนวลยิ่งขึ้น
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?
Biore UV Anti-Pollution Body Care Serum Intensive Aura SPF50+ PA+++ Biore UV Anti-Pollution Body Care Serum มี SPF50+ PA+++ ที่ช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวีและมลภาวะ ด้วยเทคโนโลยี Anti-Pollution Shield ทำให้ผิวดูกระจ่างใส ลดปัญหาจุดด่างดำและความหมองคล้ำ เนื้อบางเบา ซึมง่าย และกันน้ำ เหมาะสำหรับการใช้งานกลางแจ้ง
5. Eucerin Spotless Brightening Body Lotion
Eucerin Spotless Brightening Body Lotion ช่วยลดเลือนจุดด่างดำและฟื้นฟูผิวหมองคล้ำ ด้วย Thiamidol ที่ช่วยลดจุดด่างดำอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อม Hyaluronic Acid ที่เติมความชุ่มชื้นให้ผิวยาวนาน ทำให้ผิวดูกระจ่างใสและเนียนนุ่ม
| ปริมาณ | 250 มล. |
| รูปแบบบรรจุภัณฑ์ | ขวดบีบ |
| เนื้อสัมผัส | เนื้อโลชั่น |
| เหมาะสำหรับสภาพผิว | ทุกสภาพผิว |
| ส่วนผสมหลัก | Thiamidol, Licochalcone A, Hyaluronic Acid, Glycerin |
| ราคา | 531 บาท |
ข้อดี
- ช่วยลดเลือนจุดด่างดำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- เติมน้ำและความชุ่มชื้นให้ผิวได้ยาวนาน
- เนื้อบางเบา ซึมเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ
ข้อควรพิจารณา
- อาจใช้เวลานานกว่าจุดด่างดำจะจางลง
- ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ทันที
Eucerin Spotless Brightening Body Lotion เป็นโลชั่นบำรุงผิวกายที่ช่วยลดเลือนจุดด่างดำและฟื้นฟูผิวจากความหมองคล้ำ ด้วยสารสำคัญอย่าง Thiamidol ซึ่งมีคุณสมบัติในการลดเลือนจุดด่างดำได้อย่างมีประสิทธิภาพ เสริมด้วย Licochalcone A สารสกัดจากธรรมชาติที่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระและช่วยลดการอักเสบ ป้องกันการเกิดจุดด่างดำใหม่ อีกทั้งยังมี Hyaluronic Acid และ Glycerin ที่ช่วยเติมน้ำและกักเก็บความชุ่มชื้นให้ผิวได้ยาวนาน ทำให้ผิวเนียนนุ่มและชุ่มชื้น โดยเนื้อโลชั่นมีความบางเบา ซึมเข้าสู่ผิวได้รวดเร็วและไม่เหนียวเหนอะหนะ เหมาะสำหรับการใช้บำรุงผิวทั้งเช้าและก่อนนอน การใช้อย่างต่อเนื่องจะช่วยให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้น จุดด่างดำจางลง และสีผิวสม่ำเสมอมากขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวจากการถูกทำร้ายโดยมลภาวะหรือแสงแดด อีกทั้งยังช่วยบำรุงให้ผิวดูสุขภาพดีและสดใส
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?
Eucerin Spotless Brightening Body Lotion Eucerin Spotless Brightening Body Lotion ช่วยลดเลือนจุดด่างดำและความหมองคล้ำ ด้วยสาร Thiamidol และ Licochalcone A ที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระและป้องกันการเกิดจุดด่างดำใหม่ พร้อมเติมความชุ่มชื้นให้ผิวด้วย Hyaluronic Acid ทำให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้น
6. NIVEA Extra White 10 Super Vitamins & Skin Food
NIVEA Extra White 10 Super Vitamins & Skin Food ช่วยฟื้นฟูผิวคล้ำเสียด้วยส่วนผสมของวิตามิน 10 ชนิด และ SPF 15 ที่ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด พร้อมเพิ่มความชุ่มชื้นโดยไม่เหนียวเหนอะหนะ เหมาะสำหรับใช้ทุกวัน
| ปริมาณ | 180 มล. |
| รูปแบบบรรจุภัณฑ์ | หลอดบีบ |
| เนื้อสัมผัส | เนื้อเซรั่ม |
| เหมาะสำหรับสภาพผิว | ทุกสภาพผิว |
| ส่วนผสมหลัก | Vitamin C, A, B3, Pro B5, B9, E, Glycerin, Goji Berry, Pomegranate, Avocado Oil, Lemon |
| ราคา | 152 บาท |
ข้อดี
- อุดมด้วยวิตามินกว่า 10 ชนิด ช่วยฟื้นฟูผิว
- ช่วยลดเลือนจุดด่างดำและปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ
- มีค่ากันแดด SPF 15 เหมาะสำหรับใช้งานในร่ม
ข้อควรพิจารณา
- ไม่เหมาะสำหรับการปกป้องผิวจากแสงแดดแรง
- อาจต้องใช้เวลานานกว่าจะเห็นผล
NIVEA Extra White 10 Super Vitamins & Skin Food เป็นเซรั่มบำรุงผิวกายที่อุดมไปด้วยสารอาหารและวิตามินกว่า 10 ชนิด ด้วยเทคโนโลยี 100x Super Vitamins ที่รวมพลังของวิตามิน A, C, E, B3, B9, Pro B5 และสารสกัดจาก Goji Berry, Pomegranate, Avocado Oil และ Lemon ซึ่งช่วยฟื้นฟูผิวคล้ำเสียและลดเลือนจุดด่างดำฝังลึกที่แก้ยากให้จางลง พร้อมทั้งปรับสีผิวให้ดูกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ สูตรนี้ยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวโดยไม่ทำให้เหนียวเหนอะหนะ และมาพร้อมกับค่ากันแดด SPF 15 ที่ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดอ่อนๆ เหมาะสำหรับผู้ที่ใช้ชีวิตอยู่ภายในอาคารหรือโดนแสงแดดเล็กน้อย NIVEA Extra White ช่วยให้ผิวดูสุขภาพดีจากภายใน สัมผัสบางเบา ซึมเข้าสู่ผิวได้รวดเร็ว และสามารถใช้ได้ทุกวัน เพื่อให้ผิวดูเนียนนุ่มและกระจ่างใสอย่างต่อเนื่อง
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?
NIVEA Extra White 10 Super Vitamins & Skin Food ช่วยฟื้นฟูผิวคล้ำเสียและลดเลือนจุดด่างดำ ด้วยสารอาหารและวิตามินกว่า 10 ชนิด เช่น วิตามิน A, C, E ที่ช่วยบำรุงและเพิ่มความชุ่มชื้น พร้อมด้วย SPF 15 ที่ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด โลชั่นนี้ซึมซาบเร็วและไม่เหนียวเหนอะหนะ เหมาะสำหรับใช้ทุกวัน
7. Dr.PONG BarrierX Body Butter Cream
Dr.PONG BarrierX Body Butter Cream เป็นครีมบำรุงผิวเข้มข้นที่ช่วยฟื้นฟูผิวแห้งกร้านด้วยยูเรีย 9% และเซราไมด์ พร้อมลดอาการคันจากปัญหาผิวแพ้ง่าย เนื้อครีมบางเบาและไม่มีสารก่อการระคายเคือง
| ปริมาณ | 100 มล. |
| รูปแบบบรรจุภัณฑ์ | ขวดฝาปั๊ม |
| เนื้อสัมผัส | เนื้อครีม |
| เหมาะสำหรับสภาพผิว | ผิวแห้ง、ผิวแพ้ง่าย |
| ส่วนผสมหลัก | Urea, Glycerin, Ceramide, Phytoshpingosine, Shea Butter, Aloe Barbadensis Leaf Juice Powder, Centella Asiatica Leaf Extract |
| ราคา | 299 บาท |
ข้อดี
- ช่วยฟื้นฟูผิวแห้งกร้านและลดอาการคันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- มีส่วนผสมของเซราไมด์และเชียบัตเตอร์ที่เพิ่มความชุ่มชื้น
- ปราศจากสารก่อการระคายเคือง เหมาะสำหรับผิวแพ้ง่าย
ข้อควรพิจารณา
- เนื้อครีมเข้มข้น อาจรู้สึกหนักผิวสำหรับบางคน
- ต้องใช้เวลาสักระยะเพื่อเห็นผลลัพธ์เต็มที่
Dr.PONG BarrierX Body Butter Cream เป็นครีมบำรุงผิวสูตรเข้มข้นที่ออกแบบมาเพื่อฟื้นฟูผิวจากความแห้งกร้านและลดอาการคันที่เกิดจากปัญหาผิวแพ้ง่ายและขนคุด ด้วยส่วนผสมหลักของยูเรีย 9% ซึ่งช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน และเซราไมด์ เชียบัตเตอร์ และกลีเซอรีน ที่มีคุณสมบัติช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ฟื้นฟูผิวแห้งให้กลับมาเนียนนุ่ม นอกจากนี้ยังมีสารสกัดจากใบบัวบกและว่านหางจระเข้ที่ช่วยบรรเทาอาการคันและอาการระคายเคืองได้อย่างมีประสิทธิภาพ สูตรนี้ปราศจากสารก่อการระคายเคือง เช่น แอลกอฮอล์ พาราเบน น้ำหอม และสีสังเคราะห์ จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวบอบบางหรือผิวแพ้ง่าย ครีมนี้ช่วยเสริมสร้างชั้นผิวให้แข็งแรง ลดการสูญเสียน้ำของผิว และปกป้องผิวจากมลภาวะ อีกทั้งยังช่วยให้ผิวดูสุขภาพดี เนียนนุ่ม และชุ่มชื้นยาวนาน เหมาะสำหรับการใช้บำรุงผิวทั้งเช้าและเย็น สำหรับผู้ที่ต้องการดูแลปัญหาผิวแห้ง ขนคุด หรือผิวที่มีอาการระคายเคือง
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?
Dr.PONG BarrierX Body Butter Cream เป็นครีมที่ช่วยฟื้นฟูผิวแห้งกร้านและปัญหาขนคุด ด้วยยูเรีย 9% ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน และเซราไมด์ที่เพิ่มความชุ่มชื้นอย่างล้ำลึก ปราศจากสารก่อการระคายเคือง ทำให้เหมาะสำหรับผิวบอบบางหรือแพ้ง่าย ครีมนี้ช่วยให้ผิวดูสุขภาพดี เนียนนุ่ม และลดการสูญเสียน้ำของผิว
8. Citra Hydro Collagen Tomato Body Lotion
Citra Hydro Collagen Tomato Body Lotion ช่วยฟื้นฟูผิวหมองคล้ำด้วยสารสกัดจากมะเขือเทศและคอลลาเจน เนื้อเจลบางเบา ซึมซาบเร็ว พร้อมปกป้องผิวจากแสงแดดและแสงสีฟ้า เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผิวกระจ่างใส
| ปริมาณ | 200 มล. |
| รูปแบบบรรจุภัณฑ์ | หลอดบีบ |
| เนื้อสัมผัส | เนื้อเจล |
| เหมาะสำหรับสภาพผิว | ทุกสภาพผิว |
| ส่วนผสมหลัก | Glycerin, Niacinamide, Vitamin C, Solanum Lycopersicum (Tomato) Fruit Extract, Punica Granatum Fruit Extract |
| ราคา | 139 บาท |
ข้อดี
- ช่วยฟื้นฟูผิวหมองคล้ำให้กลับมากระจ่างใส
- เนื้อเจลซึมเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ
- มี Dual UV Filter ปกป้องผิวจากแสงแดดและแสงสีฟ้า
ข้อควรพิจารณา
- อาจต้องใช้อย่างต่อเนื่องจึงจะเห็นผลเต็มที่
- ไม่เหมาะสำหรับผิวที่ต้องการความชุ่มชื้นอย่างเข้มข้น
Citra Hydro Collagen Tomato Body Lotion เป็นโลชั่นบำรุงผิวกายที่มีเนื้อเจลซึมซาบเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ มอบความรู้สึกเบาสบายผิวและกลิ่นหอมอ่อน ๆ จากธรรมชาติ สูตรนี้อุดมด้วยส่วนผสมสำคัญอย่างวิตามินบี 3 และวิตามินซี ที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระและฟื้นฟูผิวจากความหมองคล้ำ ทำให้สีผิวกลับมาสม่ำเสมอ นอกจากนี้ยังมีสารสกัดจากมะเขือเทศที่ช่วยเพิ่มความกระจ่างใสให้ผิวอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมด้วยคอลลาเจนและกลีเซอรีนที่ช่วยบำรุงให้ผิวเนียนนุ่ม ชุ่มชื้น และยืดหยุ่น โลชั่นนี้ยังมี Dual UV Filter ที่ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดและแสงสีฟ้า เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูสภาพผิวที่หมองคล้ำให้กลับมาสดใส ใช้ได้เป็นประจำทั้งเช้าและเย็นเพื่อผิวที่แลดูสดชื่น ขาวกระจ่างใสอย่างต่อเนื่อง
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?
Citra Hydro Collagen Tomato Body Lotion ช่วยให้ผิวหมองคล้ำกลับมาสดใสด้วยสารสกัดจากมะเขือเทศและคอลลาเจน เนื้อโลชั่นเป็นแบบเจลที่ซึมซาบเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ ช่วยบำรุงให้ผิวชุ่มชื้นและยืดหยุ่น มี Dual UV Filter ที่ปกป้องผิวจากแสงแดดและแสงสีฟ้า เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผิวกระจ่างใส
9. Boots Body Serum Niacinamide Pro-Retinol Smooth Radiance
Boots Body Serum Niacinamide Pro-Retinol ช่วยฟื้นฟูผิวหยาบกร้านและไม่สม่ำเสมอ ด้วย Niacinamide และ Pro-Retinol ที่ช่วยลดเลือนรอยดำและกระชับผิว เนื้อเซรั่มบางเบา เหมาะสำหรับการใช้ในตอนกลางคืน
| ปริมาณ | 200 มล. |
| รูปแบบบรรจุภัณฑ์ | หลอดบีบ |
| เนื้อสัมผัส | เนื้อเซรั่ม |
| เหมาะสำหรับสภาพผิว | ทุกสภาพผิว |
| ส่วนผสมหลัก | Niacinamide, Retinyl Palmitate, Glycerin |
| ราคา | 159 บาท |
ข้อดี
- ช่วยลดเลือนรอยดำและริ้วรอยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- มีส่วนผสมของ Niacinamide และ Pro-Retinol ที่ฟื้นฟูผิว
- เนื้อบางเบา ซึมซาบเร็ว เหมาะสำหรับการใช้กลางคืน
ข้อควรพิจารณา
- อาจทำให้ผิวไวต่อแสงแดด ต้องใช้คู่กับครีมกันแดด
- ต้องใช้เวลาเพื่อเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน
Boots Body Serum Niacinamide Pro-Retinol Smooth Radiance เป็นเซรั่มบำรุงผิวกายที่ผสานคุณสมบัติของวิตามินบี 3 หรือ Niacinamide และ Pro-Retinol ซึ่งช่วยฟื้นฟูผิวที่หยาบกร้านและไม่สม่ำเสมอ ให้ผิวดูเปล่งปลั่งและเรียบเนียนยิ่งขึ้น Niacinamide ช่วยลดเลือนรอยดำ รอยแดง และรอยหมองคล้ำ พร้อมป้องกันการอักเสบของผิว ทำให้สีผิวกลับมาสม่ำเสมออย่างเป็นธรรมชาติ ในขณะที่ Pro-Retinol ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิว ทำให้ผิวดูกระชับ ลดเลือนริ้วรอยร่องตื้น ผิวแลดูอ่อนเยาว์มากขึ้น เนื้อซีรั่มบางเบา ซึมซาบเข้าสู่ผิวได้รวดเร็ว และเหมาะสำหรับการใช้ทากลางคืน เนื่องจากมีส่วนผสมที่อาจทำให้ผิวไวต่อแสงแดด ควรใช้อย่างต่อเนื่องเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ผิวจะดูเรียบเนียนและกระจ่างใสขึ้นใน 7 วัน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวที่เสื่อมสภาพจากมลภาวะหรืออายุ
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?
Boots Body Serum Niacinamide Pro-Retinol Smooth Radiance ช่วยลดเลือนรอยดำและริ้วรอย ด้วย Niacinamide ที่ฟื้นฟูผิวให้สม่ำเสมอ และ Pro-Retinol ที่กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนทำให้ผิวดูกระชับ เซรั่มบางเบา ซึมซาบเร็ว เหมาะสำหรับการใช้ตอนกลางคืน ควรใช้อย่างต่อเนื่องเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
10. Smooth E Natural Firming Body Serum
Smooth E Natural Firming Body Serum ช่วยกระชับผิวและลดเลือนเซลลูไลท์ ด้วย Caffeine และ Carnitine ที่ช่วยสลายไขมันใต้ผิว พร้อมบำรุงผิวให้เนียนนุ่มด้วยวิตามินอีและน้ำมันมะพร้าว
| ปริมาณ | 200 มล. |
| รูปแบบบรรจุภัณฑ์ | ขวดฝาปั๊ม |
| เนื้อสัมผัส | เนื้อครีม 、เนื้อเซรั่ม |
| เหมาะสำหรับสภาพผิว | ทุกสภาพผิว |
| ส่วนผสมหลัก | Coconut Oil, Vitamin E, Caffeine, Carnitine, Bisabolol, Sodium Hyaluronate |
| ราคา | 405 บาท |
ข้อดี
- ช่วยกระชับผิวและลดเลือนเซลลูไลท์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- มีส่วนผสมของ Caffeine และ Carnitine ที่ช่วยสลายไขมันใต้ผิว
- มีส่วนผสมของ Caffeine และ Carnitine ที่ช่วยสลายไขมันใต้ผิว
ข้อควรพิจารณา
- อาจไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแห้งมาก
- ต้องใช้ต่อเนื่องสักระยะจึงจะเห็นผลชัดเจน
Smooth E Natural Firming Body Serum เป็นเซรั่มบำรุงผิวกายที่ช่วยฟื้นฟูผิวให้เฟิร์มกระชับและลดเลือนเซลลูไลท์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยส่วนผสมสำคัญอย่าง Caffeine และ Carnitine ที่ช่วยสลายเนื้อเยื่อไขมันและกระชับกล้ามเนื้อ ทำให้ผิวดูเรียบเนียนและกระชับมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีสารสกัดจากน้ำมันมะพร้าว วิตามินอี และ Sodium Hyaluronate ที่มีคุณสมบัติช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวเนียนนุ่ม และกักเก็บความชุ่มชื้นได้ยาวนานถึง 24 ชั่วโมง โดยไม่ทำให้ผิวหยาบกร้าน อีกทั้งยังมีสารสกัดจากคาโมมายล์ที่ช่วยลดอาการระคายเคืองและป้องกันการอักเสบของผิว เนื้อเซรั่มบางเบา ซึมเข้าสู่ผิวได้รวดเร็ว ทำให้ผิวรู้สึกสดชื่นและไม่เหนียวเหนอะหนะ เหมาะสำหรับใช้ทาบำรุงทั้งเช้าและเย็น เพื่อฟื้นฟูและกระชับผิวทั่วร่างกายอย่างต่อเนื่อง
ทำไมเราถึงชอบสินค้านี้?
Smooth E Natural Firming Body Serum ช่วยกระชับผิวและลดเลือนเซลลูไลท์ด้วย Caffeine และ Carnitine ที่สลายไขมันใต้ผิวหนัง พร้อมบำรุงให้ผิวเนียนนุ่มด้วยวิตามินอีและน้ำมันมะพร้าว เซรั่มนี้ยังช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นได้ยาวนานถึง 24 ชั่วโมง เนื้อบางเบา ซึมง่าย ไม่เหนียวเหนอะหนะ
การเลือกครีมทาผิวให้เหมาะกับสภาพผิว
การเลือกครีมสำหรับผิวแห้ง
- ส่วนประกอบที่เพิ่มความชุ่มชื้น: ครีมสำหรับผิวแห้งควรมีส่วนประกอบที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นอย่างเข้มข้น เช่น เชียบัตเตอร์ น้ำมันอัลมอนด์ และกรดไฮยาลูรอนิค เนื่องจากผิวแห้งมักสูญเสียน้ำได้ง่าย ครีมที่มีสารเหล่านี้จะช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นและบำรุงผิวให้นุ่มนวลขึ้น
- เนื้อครีมที่หนา: การใช้ครีมที่มีเนื้อหนาจะช่วยให้ผิวดูดซึมได้ช้าลง ช่วยป้องกันไม่ให้ผิวแห้งและแตก ครีมชนิดนี้เหมาะสำหรับการใช้หลังอาบน้ำหรือก่อนนอน
การเลือกครีมสำหรับผิวมัน
- ส่วนประกอบที่ช่วยควบคุมความมัน: ครีมสำหรับผิวมันควรมีส่วนประกอบที่ช่วยควบคุมความมัน เช่น ซาลิไซลิก แอซิด หรือไนอะซินาไมด์ ซึ่งช่วยลดการอุดตันของรูขุมขนและลดความมันส่วนเกินบนใบหน้า
- เนื้อครีมที่เบาและซึมซาบเร็ว: ครีมเนื้อเบาจะซึมซาบสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว ไม่ทำให้รู้สึกเหนียวเหนอะหนะ หรือเพิ่มความมันมากขึ้น ควรหลีกเลี่ยงครีมที่มีน้ำมันหรือเนื้อครีมที่หนามากเกินไป
การเลือกครีมสำหรับผิวแพ้ง่าย
- ส่วนประกอบที่อ่อนโยนและไม่มีสารระคายเคือง: สำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย ควรเลือกครีมที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม สี หรือสารกันเสีย เพราะสารเหล่านี้อาจทำให้เกิดการระคายเคืองหรืออาการแพ้ได้ ครีมที่มีส่วนผสมของว่านหางจระเข้หรืออัลลันโทอินจะช่วยปลอบประโลมผิวได้ดี
- ทดสอบก่อนใช้: ควรทดสอบผลิตภัณฑ์ก่อนใช้บนใบหน้า โดยลองทาที่หลังใบหูหรือด้านในแขนเพื่อดูว่ามีอาการแพ้หรือไม่ หากไม่มีอาการระคายเคืองจึงค่อยใช้ผลิตภัณฑ์นั้นในบริเวณอื่นของร่างกาย
การเลือกครีมสำหรับทุกสภาพผิว
- การใช้ครีมที่มี SPF: ไม่ว่าผิวของคุณจะเป็นประเภทไหน การเลือกครีมที่มี SPF ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดเป็นสิ่งจำเป็น SPF จะช่วยปกป้องผิวจากรังสี UV ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดจุดด่างดำและริ้วรอยก่อนวัย
สารสกัดสำคัญในครีมทาผิวที่ช่วยบำรุงและให้ความชุ่มชื้น
การเลือกครีมทาผิวที่มีสารสกัดที่เหมาะสมจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบำรุงและให้ความชุ่มชื้นกับผิวอย่างล้ำลึก สารสกัดจากธรรมชาติและสารสังเคราะห์ที่ปลอดภัยสามารถช่วยฟื้นฟูสภาพผิวที่แห้งเสีย ป้องกันการเกิดริ้วรอย และทำให้ผิวของคุณดูสดใสและเปล่งปลั่ง การทำความเข้าใจคุณสมบัติของสารสกัดในครีมแต่ละชนิดจะช่วยให้คุณสามารถเลือกผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับความต้องการของผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
วิตามิน E
- ป้องกันการเกิดริ้วรอยก่อนวัย: วิตามิน E เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องผิวจากความเสียหายที่เกิดจากแสงแดดและมลภาวะ โดยช่วยลดการเกิดริ้วรอยและจุดด่างดำ
- เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว: วิตามิน E มีคุณสมบัติในการเก็บกักความชุ่มชื้นในผิว ช่วยให้ผิวนุ่มนวลและเรียบเนียน โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาผิวแห้งและลอก วิตามิน E จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวอย่างมีประสิทธิภาพ
เชียบัตเตอร์
- สารสกัดธรรมชาติที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น: เชียบัตเตอร์เป็นสารสกัดจากธรรมชาติที่อุดมไปด้วยไขมันที่มีประโยชน์ ช่วยบำรุงผิวให้เนียนนุ่มและชุ่มชื้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแห้งและผิวที่ต้องการการบำรุงอย่างล้ำลึก
- ลดการอักเสบและระคายเคือง: นอกจากการเพิ่มความชุ่มชื้นแล้ว เชียบัตเตอร์ยังมีคุณสมบัติลดการอักเสบ ช่วยบรรเทาอาการระคายเคืองของผิวที่แห้งกร้านหรือมีอาการคัน ทำให้ผิวกลับมามีสุขภาพดี
กรดไฮยาลูรอนิค
- เพิ่มความชุ่มชื้นอย่างล้ำลึก: กรดไฮยาลูรอนิคเป็นสารที่สามารถดูดซับน้ำได้ดี ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวจากชั้นลึกสู่ชั้นนอก ทำให้ผิวดูอิ่มน้ำและเรียบเนียน
- ฟื้นฟูสภาพผิวที่แห้งเสีย: สำหรับผู้ที่มีผิวแห้งหรือขาดน้ำ กรดไฮยาลูรอนิคช่วยฟื้นฟูและปรับสภาพผิวให้ดูเปล่งปลั่ง โดยช่วยสร้างสมดุลความชุ่มชื้นในผิวอย่างมีประสิทธิภาพ
เซราไมด์
- เสริมความแข็งแรงให้เกราะป้องกันผิว: เซราไมด์ช่วยสร้างเกราะป้องกันผิวตามธรรมชาติ ป้องกันการสูญเสียความชุ่มชื้นและช่วยฟื้นฟูสภาพผิวที่ถูกทำลายจากมลภาวะหรือแสงแดด
- ลดการระคายเคืองสำหรับผิวแพ้ง่าย: เซราไมด์ยังช่วยบรรเทาอาการระคายเคืองของผิวแพ้ง่าย โดยช่วยให้ผิวกลับมาแข็งแรงและชุ่มชื้น
ประโยชน์ของการใช้ AHA ร่วมกับครีมทาผิว
AHA หรือกรดอัลฟาไฮดรอกซี (Alpha Hydroxy Acid) เป็นสารสกัดที่นิยมใช้ในผลิตภัณฑ์บำรุงผิว โดยเฉพาะครีมทาผิวที่มีจุดประสงค์ในการผลัดเซลล์ผิวเก่าและเผยผิวใหม่ที่กระจ่างใสกว่าเดิม AHA ช่วยในการขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ซึ่งเป็นสาเหตุให้ผิวดูหมองคล้ำและไม่สดใส การใช้ครีมทาผิวที่มีส่วนผสมของ AHA เป็นประจำจะช่วยให้ผิวเรียบเนียน ดูเปล่งปลั่ง และมีสุขภาพดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด การเลือกครีมทาผิวที่มี AHA เป็นส่วนผสมไม่เพียงแต่ช่วยผลัดเซลล์ผิว แต่ยังเสริมการบำรุงให้ผิวได้รับความชุ่มชื้นมากขึ้น การผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพช่วยให้สารบำรุงจากครีมซึมเข้าสู่ชั้นผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ AHA ยังช่วยปรับสภาพผิวที่มีปัญหาริ้วรอยหรือจุดด่างดำ ทำให้ผิวกระจ่างใสขึ้น การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มี AHA อย่างถูกต้องและสม่ำเสมอจะช่วยให้ผิวของคุณคงความชุ่มชื้นและสุขภาพดี สำหรับการเลือกซื้อครีม AHA ที่ดีที่สุด ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีความเข้มข้นเหมาะสมกับสภาพผิว เริ่มต้นด้วยความเข้มข้นต่ำหากเป็นมือใหม่ เลือก AHA ที่มีค่า pH ระหว่าง 3-4 เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ควรตรวจสอบว่าผลิตภัณฑ์ไม่มีส่วนผสมที่อาจทำให้ผิวระคายเคือง
การใช้ครีมทาผิวให้ได้ผลสูงสุด
ทาครีมหลังอาบน้ำ
- เก็บความชุ่มชื้นในผิว: การทาครีมหลังอาบน้ำเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด เพราะผิวยังชุ่มน้ำและรูขุมขนเปิด การทาครีมทันทีจะช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นในผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- เช็ดผิวเบาๆ ก่อนทา: ก่อนทาครีมควรเช็ดผิวให้แห้งหมาด เพื่อให้ครีมซึมเข้าสู่ผิวได้ดีขึ้น ควรหลีกเลี่ยงการถูผิวแรงๆ เพราะอาจทำให้ผิวระคายเคืองได้
ทาครีมให้เพียงพอและทั่วถึง
- ปริมาณที่เหมาะสม: ควรใช้ครีมในปริมาณที่เพียงพอ การทาครีมน้อยเกินไปอาจทำให้ผิวไม่ได้รับการบำรุงอย่างเต็มที่ ในขณะที่การใช้ครีมมากเกินไปอาจทำให้รู้สึกเหนอะหนะ
- กระจายครีมทั่วถึง: การทาครีมควรทำอย่างสม่ำเสมอและทั่วถึงทั้งตัว ไม่ควรมองข้ามบริเวณที่แห้งง่ายเช่น ข้อศอก เข่า หรือส้นเท้า เพราะบริเวณเหล่านี้ต้องการความชุ่มชื้นเป็นพิเศษ
การนวดเบาๆ เพื่อกระตุ้นการซึมซาบ
- นวดเบาๆ วนเป็นวงกลม: การนวดผิวเบาๆ ขณะทาครีมช่วยให้ครีมซึมซาบสู่ผิวได้ลึกขึ้น และยังช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดในชั้นผิว ทำให้ผิวดูเปล่งปลั่ง
- เน้นบริเวณที่แห้งง่าย: บริเวณที่แห้งง่าย เช่น ข้อศอกและเข่า ควรเน้นนวดครีมเบาๆ เพื่อให้ความชุ่มชื้นซึมลึกเข้าไปในผิว ช่วยลดความหยาบกร้าน
ทาครีมซ้ำในระหว่างวัน
- เติมความชุ่มชื้นให้ผิว: หากคุณมีผิวแห้งหรืออยู่ในสภาพอากาศที่แห้ง การทาครีมซ้ำในระหว่างวันจะช่วยให้ผิวไม่แห้งกร้านและคงความชุ่มชื้นได้ยาวนาน ควรพกครีมขนาดพกพาเพื่อทาเติมระหว่างวันโดยเฉพาะบริเวณมือและแขน
ทำไมครีมกันแดดถึงสำคัญเมื่อใช้ครีมทาผิว
ครีมกันแดดมีบทบาทสำคัญในการปกป้องผิวจากรังสียูวี (UV) ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ผิวเสียและเกิดริ้วรอยก่อนวัย การใช้ครีมทาผิวที่ดีจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและบำรุงผิว แต่หากขาดการป้องกันจากแสงแดด ผิวอาจยังคงเสี่ยงต่อการถูกทำลายจากรังสียูวีอยู่ การใช้ ครีมกันแดด ควบคู่กับครีมบำรุงผิวจึงเป็นวิธีที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพในการดูแลผิวได้อย่างสมบูรณ์ ครีมกันแดดช่วยป้องกันการเกิดจุดด่างดำ ฝ้า และริ้วรอยจากแสงแดด ทำให้ผิวที่ได้รับการบำรุงจากครีมทาผิวสามารถคงความกระจ่างใสและสุขภาพดีได้ยาวนาน การปกป้องผิวจากแสงแดดยังช่วยลดความเสี่ยงต่อมะเร็งผิวหนัง นอกจากนี้ การใช้ครีมบำรุงผิวร่วมกับครีมกันแดดจะทำให้ผิวดูอิ่มน้ำและชุ่มชื้น เพราะรังสียูวีสามารถทำให้ผิวแห้งเสียได้ สำหรับการเลือกซื้อ 10 ครีมกันแดดยี่ห้อไหนดี ควรพิจารณาค่า SPF ที่เหมาะสมกับสภาพผิวและกิจกรรมประจำวัน เลือกครีมกันแดดที่ป้องกันทั้งรังสี UVA และ UVB หากผิวแพ้ง่ายควรเลือกสูตรปราศจากน้ำหอมและสารเคมี ใช้ครีมกันแดดแบบกันน้ำเมื่อต้องทำกิจกรรมกลางแจ้งสรุปแล้ว ในบทความนี้เราก็แนะนำ 10 อันดับ ครีมทาผิว ยี่ห้อไหนดี ที่ได้รับความนิยมและมีคุณสมบัติในการบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นและกระจ่างใส แต่ละผลิตภัณฑ์ได้รับการคัดเลือกโดยพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น ปริมาณ รูปแบบบรรจุภัณฑ์ เนื้อสัมผัส และส่วนผสมหลักที่ช่วยในการบำรุงผิวอย่างล้ำลึก ไม่ว่าจะเป็น วิตามิน E เชียบัตเตอร์ และกรดไฮยาลูรอนิค นอกจากนี้เรายังได้ให้คำแนะนำในการเลือกครีมทาผิวให้เหมาะกับสภาพผิวของแต่ละคน ไม่ว่าจะเป็นผิวแห้ง ผิวมัน หรือผิวแพ้ง่าย ตลอดจนคำแนะนำเกี่ยวกับการใช้ครีมทาผิวอย่างถูกวิธีเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เพราะการดูแลผิวที่ถูกต้องไม่เพียงแค่ทำให้ผิวสวยงาม แต่ยังช่วยป้องกันปัญหาผิวต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
คำถามที่พบบ่อย
1. ครีมทาผิวควรทาบ่อยแค่ไหน?
ควรทาครีมทาผิววันละ 2 ครั้งเช้าและก่อนนอน หรือทาทุกครั้งหลังอาบน้ำเพื่อช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น
2. ผิวแพ้ง่ายควรเลือกครีมทาผิวแบบไหน?
ควรเลือกครีมทาผิวสูตรอ่อนโยน ปราศจากน้ำหอมและสารเคมีที่อาจทำให้ระคายเคือง
3. ควรใช้ครีมกันแดดร่วมกับครีมทาผิวหรือไม่?
ควรใช้ครีมกันแดดควบคู่กับครีมทาผิวเพื่อปกป้องผิวจากรังสียูวีและช่วยรักษาความชุ่มชื้น
4. ครีมที่มีส่วนผสมของ AHA เหมาะกับสภาพผิวใด?
ครีมที่มี AHA เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลัดเซลล์ผิวเก่า ทำให้ผิวกระจ่างใส แต่ควรเริ่มใช้ที่ความเข้มข้นต่ำเพื่อหลีกเลี่ยงการระคายเคือง
